เข้าสู่ระบบหรือลงทะเบียน

ถามมาสิจ๊ะ...แม่ชีณัฐทิพย์ ตนุพันธ์ ยินดีตอบจ้า...

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย DevilBitch, 14 สิงหาคม 2006.

แท็ก: เพิ่มแท็ก

หน้า 23 ของ 35

hongsanart เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

22 มิถุนายน 2005

โพสต์:

1,332

ค่าพลัง:

+10,468
Nu_Bombam said: ↑

กราบนมัสการแม่ชีครับ มีเรื่องขอปรึกษาหน่อยครับ
คือว่าผมได้พยายามฝึกนั่งสมาธิด่อนนอนทุกคืน แต่เหมือนมันจะไม่ก้าวหน้าไปไหนเลยครับ ผมนั่งได้เต็มที่ก็ประมาณ 25 นาทีหรือมากกว่านั้นหน่อย แต่ทำช่วงแรกๆก็รู้สึกจะกดกิเลสได้ชั่วคราว แต่หลังๆทำไม่ค่อยต่อเนื่องเลยครับ จิตมันก็กลับมาฟุ้งซ่านอย่างเก่า คิดนั่นคิดนี่ รู้ว่าคิดแล้วมันไม่ได้อะไรก็ยังไปคิด พยายามคุมตัวเองไม่ได้คิด มันก็คิด ผมล่ะเซ็ง
ผมกำหนดลมหายใจเข้าออก ภาวนา "พุทโธ" บางทีก็"นะมะพะธะ" แต่หลังๆลองเปลี่ยนมาจับภาพนิมิต มันก็เหมือนจะไม่ก้าวหน้าไปไหน ผมเลยสับสนว่าอย่างไหนจะเหมาะกับจริตเรา ช่วงหลังรู้สึกความขี้เกียจเริ่มครอบงำ แต่ผมก็พยายามสวดมนต์เช้า-เย็น เป็นกิจวัตร ถ้าไม่มีเวลา หรือรีบ ก็ขอให้ได้ อะระหังสัมมาฯ ก่อนออกจะบ้าน ชี้แนะด้วยครับ

ตะกรุดของแม่ชีกับเงินขวัญถุงผมจะขอมาบูชาซักหน่อย มีค่าบูชารึเปล่าครับ??
เห็นรูปเงินขวัญถุงแล้ว เก๋าดี อิอิ ขอได้ติดกระเป๋าตังซักใบ 2 หุหุ
กราบนมัสการขอบคุณล่วงหน้าครับผม
Click to expand...

เจริญธรรม...

เรื่องจริตหรือความชอบนั้น แต่ละคนย่อมไม่เหมือนกัน แต่ก็ไม่ต่างกันกับ
บุคคลทั้งโลกนะ

วิธีหรืออุบายที่จะทำให้จิตสงบชั่วขณะนั้นแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน

อย่างคุณโยมลองมาหลายวิธีแล้ว ก็ยังไม่สงบเท่าที่ควร เลยบอกว่าไม่ก้าวหน้าเพราะว่าสมองยังคิดอยู่ ...

ถ้าไม่คิดอะไรเลย โง่ตายนะ การคิดนั้นถ้าคิดอย่างมีเหตุมีผล มีระบบ มีระเบียบของการคิด

พิจารณา แยกแยะในสิ่งดี สิ่งชั่วได้ นั่นแหละที่เรียกว่า ก้าวหน้าแล้ว
เมื่อรู้สิ่งดี สิ่งชั่วเพราะแยกแยะได้ ใจก็จะสบายคลายกังวล จิตก็จะไม่ซวนเซ ซัดส่าย ความสุขเล็กๆและความสุขน้อยๆก็เกิดขึ้น

มีอีกวิธีที่จะแนะนำให้แล้วกัน คุณโยมเป็นคนอ่อนไหวง่าย แต่ขณะเดียวกันก็เป็นคนมุ่งมั่น (น้อยไปหน่อย)

ลองหาเพลงบรรเลงเย็นมาฟังขณะทำสมาธิสิ ไม่ต้องไปคิดอะไรให้มันวุ่นวาย
และไม่ต้องบริกรรมคำอะไรหรอก นั่งหลับตาฟังเพลงบรรเลงไปเรื่อยๆ

ทำจิตให้เคลิ้มเป็นภวังค์ แต่ไม่หลับนะ ลองทำดูสิแล้วจะรู้สึกว่า อารมณ์ของเราเริ่มผ่อนคลาย ใจก็จะสบายชั่วขณะ

ทำเรื่อยๆ ใจที่สบายก็จะสะสมไปเรื่อยๆ จนเกิดเป็นความปกติ

วิธีนี้เหมาะสำหรับบางคนและไม่เหมาะกับบางคน แต่จุดหมายหรือเป้าหมายนั้นเหมือนกัน คือสงบ...

ลองทำดูนะ ทำเป็นประจำและต้องสม่ำเสมอด้วย ไม่เช่นนั้นความขี้เกียจจะย่างกรายเข้ามาเยือน และครอบครองใจเรานาน จนทำให้เรารู้สึกรำคาญและเลิกทำไป จบเห่กันพอดี...

(bb-flower(bb-flower(bb-flower(bb-flower
ธรรมะสวสัดี สาธุ!!!
ขอเชิญร่วมบริจาคปัจจัยเพื่อตั้งกองทุนเพื่อผู้ป่วยโรคมะเร็ง บมจ.ธนาคารกรุงไทย สาขาถนนนครนอก บัญชีออมทรัพย์เลขที่ 381-0-08515-4 ชื่อบัญชี กองทุนฟ้าใหม่แห่งทิพยสถานธรรม

hongsanart, 12 กุมภาพันธ์ 2007

#441
- ถูกใจ x 5
- ดูรายการ
hongsanart เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

22 มิถุนายน 2005

โพสต์:

1,332

ค่าพลัง:

+10,468
Nu_Bombam said: ↑

กราบนมัสการแม่ชีครับ มีเรื่องขอปรึกษาหน่อยครับ
คือว่าผมได้พยายามฝึกนั่งสมาธิด่อนนอนทุกคืน แต่เหมือนมันจะไม่ก้าวหน้าไปไหนเลยครับ ผมนั่งได้เต็มที่ก็ประมาณ 25 นาทีหรือมากกว่านั้นหน่อย แต่ทำช่วงแรกๆก็รู้สึกจะกดกิเลสได้ชั่วคราว แต่หลังๆทำไม่ค่อยต่อเนื่องเลยครับ จิตมันก็กลับมาฟุ้งซ่านอย่างเก่า คิดนั่นคิดนี่ รู้ว่าคิดแล้วมันไม่ได้อะไรก็ยังไปคิด พยายามคุมตัวเองไม่ได้คิด มันก็คิด ผมล่ะเซ็ง
ผมกำหนดลมหายใจเข้าออก ภาวนา "พุทโธ" บางทีก็"นะมะพะธะ" แต่หลังๆลองเปลี่ยนมาจับภาพนิมิต มันก็เหมือนจะไม่ก้าวหน้าไปไหน ผมเลยสับสนว่าอย่างไหนจะเหมาะกับจริตเรา ช่วงหลังรู้สึกความขี้เกียจเริ่มครอบงำ แต่ผมก็พยายามสวดมนต์เช้า-เย็น เป็นกิจวัตร ถ้าไม่มีเวลา หรือรีบ ก็ขอให้ได้ อะระหังสัมมาฯ ก่อนออกจะบ้าน ชี้แนะด้วยครับ

ตะกรุดของแม่ชีกับเงินขวัญถุงผมจะขอมาบูชาซักหน่อย มีค่าบูชารึเปล่าครับ??
เห็นรูปเงินขวัญถุงแล้ว เก๋าดี อิอิ ขอได้ติดกระเป๋าตังซักใบ 2 หุหุ
กราบนมัสการขอบคุณล่วงหน้าครับผม
Click to expand...

เจริญธรรม...

เรื่องจริตหรือความชอบนั้น แต่ละคนย่อมไม่เหมือนกัน แต่ก็ไม่ต่างกันกับบุคคลทั้งโลกนะ

วิธีหรืออุบายที่จะทำให้จิตสงบชั่วขณะนั้นแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน

อย่างคุณโยมลองมาหลายวิธีแล้ว ก็ยังไม่สงบเท่าที่ควร เลยบอกว่าไม่ก้าวหน้า
เพราะว่าสมองยังคิดอยู่ ...

ถ้าไม่คิดอะไรเลย โง่ตายนะ การคิดนั้นถ้าคิดอย่างมีเหตุมีผล มีระบบ มีระเบียบของการคิด

พิจารณา แยกแยะในสิ่งดี สิ่งชั่วได้ นั่นแหละที่เรียกว่า ก้าวหน้าแล้ว

เมื่อรู้สิ่งดี สิ่งชั่วเพราะแยกแยะได้ ใจก็จะสบายคลายกังวล จิตก็จะไม่ซวนเซ ซัดส่าย ความสุขเล็กๆและความสุขน้อยๆก็เกิดขึ้น

มีอีกวิธีที่จะแนะนำให้แล้วกัน คุณโยมเป็นคนอ่อนไหวง่าย แต่ขณะเดียวกันก็เป็นคนมุ่งมั่น (น้อยไปหน่อย)

ลองหาเพลงบรรเลงเย็นมาฟังขณะทำสมาธิสิ ไม่ต้องไปคิดอะไรให้มันวุ่นวาย
และไม่ต้องบริกรรมคำอะไรหรอก นั่งหลับตาฟังเพลงบรรเลงไปเรื่อยๆ

ทำจิตให้เคลิ้มเป็นภวังค์ แต่ไม่หลับนะ ลองทำดูสิแล้วจะรู้สึกว่า อารมณ์ของเราเริ่มผ่อนคลาย ใจก็จะสบายชั่วขณะ

ทำเรื่อยๆ ใจที่สบายก็จะสะสมไปเรื่อยๆ จนเกิดเป็นความปกติ

วิธีนี้เหมาะสำหรับบางคนและไม่เหมาะกับบางคน แต่จุดหมายหรือเป้าหมายนั้นเหมือนกัน คือสงบ...

ลองทำดูนะ ทำเป็นประจำและต้องสม่ำเสมอด้วย ไม่เช่นนั้นความขี้เกียจจะย่างกรายเข้ามาเยือน และครอบครองใจเรานาน จนทำให้เรารู้สึกรำคาญและเลิกทำไป จบเห่กันพอดี...
(bb-flower(bb-flower(bb-flower(bb-flower

ธรรมะสวสัดี สาธุ!!!

ขอเชิญร่วมบริจาคปัจจัยเพื่อตั้งกองทุนเพื่อผู้ป่วยโรคมะเร็ง บมจ.ธนาคารกรุงไทย สาขาถนนนครนอก บัญชีออมทรัพย์เลขที่ 381-0-08515-4 ชื่อบัญชี กองทุนฟ้าใหม่แห่งทิพยสถานธรรม

hongsanart, 12 กุมภาพันธ์ 2007

#442
- ถูกใจ x 4
- ดูรายการ
Nu_Bombam เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

30 ธันวาคม 2006

โพสต์:

1,031

ค่าพลัง:

+4,916
แม่ชีณัฐทิพย์ said: ↑

เจริญธรรม...

เรื่องจริตหรือความชอบนั้น แต่ละคนย่อมไม่เหมือนกัน แต่ก็ไม่ต่างกันกับบุคคลทั้งโลกนะ

วิธีหรืออุบายที่จะทำให้จิตสงบชั่วขณะนั้นแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน

อย่างคุณโยมลองมาหลายวิธีแล้ว ก็ยังไม่สงบเท่าที่ควร เลยบอกว่าไม่ก้าวหน้า
เพราะว่าสมองยังคิดอยู่ ...

ถ้าไม่คิดอะไรเลย โง่ตายนะ การคิดนั้นถ้าคิดอย่างมีเหตุมีผล มีระบบ มีระเบียบของการคิด

พิจารณา แยกแยะในสิ่งดี สิ่งชั่วได้ นั่นแหละที่เรียกว่า ก้าวหน้าแล้ว

เมื่อรู้สิ่งดี สิ่งชั่วเพราะแยกแยะได้ ใจก็จะสบายคลายกังวล จิตก็จะไม่ซวนเซ ซัดส่าย ความสุขเล็กๆและความสุขน้อยๆก็เกิดขึ้น

มีอีกวิธีที่จะแนะนำให้แล้วกัน คุณโยมเป็นคนอ่อนไหวง่าย แต่ขณะเดียวกันก็เป็นคนมุ่งมั่น (น้อยไปหน่อย)

ลองหาเพลงบรรเลงเย็นมาฟังขณะทำสมาธิสิ ไม่ต้องไปคิดอะไรให้มันวุ่นวาย
และไม่ต้องบริกรรมคำอะไรหรอก นั่งหลับตาฟังเพลงบรรเลงไปเรื่อยๆ

ทำจิตให้เคลิ้มเป็นภวังค์ แต่ไม่หลับนะ ลองทำดูสิแล้วจะรู้สึกว่า อารมณ์ของเราเริ่มผ่อนคลาย ใจก็จะสบายชั่วขณะ

ทำเรื่อยๆ ใจที่สบายก็จะสะสมไปเรื่อยๆ จนเกิดเป็นความปกติ

วิธีนี้เหมาะสำหรับบางคนและไม่เหมาะกับบางคน แต่จุดหมายหรือเป้าหมายนั้นเหมือนกัน คือสงบ...

ลองทำดูนะ ทำเป็นประจำและต้องสม่ำเสมอด้วย ไม่เช่นนั้นความขี้เกียจจะย่างกรายเข้ามาเยือน และครอบครองใจเรานาน จนทำให้เรารู้สึกรำคาญและเลิกทำไป จบเห่กันพอดี...
(bb-flower(bb-flower(bb-flower(bb-flower

ธรรมะสวสัดี สาธุ!!!
Click to expand...

กราบ Thanks you แม่ชีมากๆครับ จะลองนำไปใช้ครับผม

Nu_Bombam, 12 กุมภาพันธ์ 2007

#443
- ถูกใจ x 2
- ดูรายการ
hongsanart เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

22 มิถุนายน 2005

โพสต์:

1,332

ค่าพลัง:

+10,468
rawiphan said: ↑

"สิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้เห็นวันโลกาวินาศ"
นักธรรมอาวุโสสนั่น ได้บรรยายให้ฟัง พระอาจารย์จี้กงได้เปิดเผยจะมีพระศรีอาริย์ตัวปลอมมากกว่า75องค์
องค์ไหนจริงหรือปลอมให้ดูที่ทศพลญาณ ญาณทั้งสิบเป็นเครื่องหมายของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์
ถึงจะมีอิทธิปาฏิหาริย์ ดำดินบินวนถ้าไม่มีญาณสิบประการก็ไม่เรียกผู้นี้ว่าพระพุทธเจ้า
เราหรือใครก็ตามถึงไม่มี อิทธิปาฏิหาริย์ไม่สามารถดำดินบินวนถ้ามีญาณทั้งสิบประการก็ให้เรียกว่าพระพุทธเจ้า
ไม่เช่นนั้นจะเกิดความเสียหายแก่โลกเกิดมีโยคีปฏิบัติธรรมนิดหน่อยแล้วได้ อิทธิปาฏิหาริย์จะไม่พากันประกาศตัว
เป็นพระพุทธเจ้ากันทั้งโลกเลยหรือ อ้างอิงพูดถึงอาการอาพาธของพระคริมานนทสูตร

จักรวาลย้อนหนึ่ง
บรรพชิต และ ฆารวาสบุคคลใดยึดพระบริยัติ เป็นครูเป็นอาจารย์จะไม่มีบรรพชิตอุบาสกอุบาสิกาสำเร็จเป็นพระอรหันต์
บรรพชิต อุบาสก อุบาสิกา ถือตนเป็นครูเป็นอาจารย์วางพระปริยัตให้เบาบางจนหมดจากสัญญาให้มากที่สุด บรรพชิต และ ฆารวาสก็จะบรรลุธรรม เป็นพระอรหันต์
ออกบวชได้ 7 วัน ในวันสำคัญทางพระศาสนาเป็นวันมาฆบูชาวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ ที่วัดวังชมพู จังหวัด เพชรบูรณ์โดยมีหลวงตามหาบัววัดป่าบ้านตาดหลวงปู่ท่อนวัดป่าศรีอภัยวัน หลวงปู่บุญเพ็งวัดถ้ำกลองเพลหลวงปู่จันทาวัดป่าเขาน้อยหลวงปู่เหรียญวัดอรัญญบรรพตมาแสดงธรรมอบรมกรรมฐานตลอดถึงการเจริญวิปัสสนากรรมฐาน รุ่งขึ้นวันใหม่ ภายในโบสถ์โดยมีหลวงปู่เหรียญ วรลาโภ มาร่วมในการแสดงพระปาฎิโมกข์พระกฤษฎาได้แสดงอาบัติและระลึกถึงนิมิตก่อนรุ่งอรุณ ที่เทวดาเต็มท้องฟ้ามาร้องรำดีดสีตีเป่าเครื่องดนตรี โปรยข้าวตอกดอกไม้ แสดงความดีใจ ก็ยิ่งทำให้พระกฤษฎาสุขใจ นึกอยู่ในใจว่าเราควรทำจิตให้ผ่องใสและเจริญพระกรรมฐาน วิปัสสนาดูลมหายใจเข้าออกอันธรรมดา คนที่ยังไม่เคยมองดูจิตของตัวเอง ไม่เคยฝึกฝน ขัดเกลารูปลักษณ์ เปรียบเหมือนกลุ่มดวงดาวที่กระจายอยู่ในห้วงจักรวาลนักปฏิบัติธรรมจะต้องรวบรวม จิตที่แตกกระจายอยู่รอบ ๆ ตัวของเรา ให้รวมเป็นจิตหนึ่งพระกฤษฎาก็เป็นนักปฏิบัติธรรมตามทฤษฎีธรรมชาติอันบริสุทธิ์ ด้วยการกำหนดรู้ดูเวทนาทางกายต่อเนื่องด้วยเวทนาในจิตพระกฤษฎาจับดูอาการที่เวทนาในกายแสดงตัวเดียวเจ็บเดียวปวดเดียวปวดแสบปวดร้อนและก็เฉย ๆ ผู้รู้พูดจาโต้ตอบในความคิดกับพระกฤษฎา ว่ากำหนดรู้ดูเวทนาในจิตยิ่งกำหนดรู้ทุกข์ก็ยิ่งแสดงตัวความเจ็บปวดยิ่งทวีคูณ เวทนาเพิ่มขึ้น ยิ่งอยากให้หายเจ็บหายปวดหายเมื่อยเท่าไรกับกายเป็นความร้อนที่ร้อนสูงขึ้น จนร่างที่นั่งพับเพียบของพระกฤษฎา สั่นสะท้านไปด้วยทุกข์ขเวทนา ราวกับกระดูกจะแยกชีกออกจากเนื้อ กระดูกถูกบด ร่างนั่งอยู่ในกองไฟ พระกฤษฎายังคงนั่งลืมตาดูทุกข์หูฟังเสียงพระสงฆ์แสดงพระปาฏิโมกข์ ใกล้จะจบลง มารในจิตท้าทายด่าว่าพระรูปนี้ชั่งโง่น่าสงสารมานั่งดูสิ่งไม่มีสาระ มารในจิตพยายามอ้อนว้อน ให้เลิกปฏิบัติวิปัสสนาและขู่ด้วยกริยาของคนถ่อยว่านั่งให้ตายนั่งทั้งวันท่านก็ไมทางตรัสรู้หรอก พระกฤษฎายอมหักไม่ยอมงอ ตามมารจิตกลับดุด่ามารว่าเจ้าซิตัวไร้สาระใช้การอะไรไม่ได้เลย และพระกฤษฎาก็รวบรวมความกล้าอธิษฐานเอาบารมีความเพียรแบบสู้ตาย หากแม้ว่าพระปาฏิโมกข์ยังไม่แสดงจบลง เราพระกฤษฎาจะไม่สับเปลี่ยนอริยาบถถ้าเปลี่ยนอริยบถขอให้ตกนรกหมกไหม้อย่าได้ผุดอย่าได้เกิดกันเลย 1 ช.ม. กว่า พระยังคงส่งกระแสจิตไปตามทำนองพระปาฏิโมกข์ ในอาการสำรวม แต่กำหนดรู้ว่าร่างกายนี้ไม่ใช่ตัวตนบุคลเขาเราเกิดขึ้นอยู่ตั้งอยู่ดับไป อนุโลมกลับไปกลับมา อยู่ ๆ จิตที่แสดงตัวว่าร้อนรุ่มวุ่นวายก็สงบตัวลงความร้อนในจิตใจ กลับกลายเป็นความเย็นที่ลดลง น้ำตาไหลรินอาบแก้มพระกฤษฎา เกิดสงสารคนไปทั้งโลกอยากให้เค้ามาเห็นทางพ้นทุกข์อย่างเรา บริเวณปริมณฑลนั้นมีละอองธรรมที่ตกกระทบกายแต่ไม่เปียกและเกิดพลังจากภายนอก พลังมหาศาลดึงจิตให้หลุดออกจากร่างกาย พ้นจากแรงดึงดูดของโลกเกิดรังสีแสงทิพย์สีขาว สว่างทลุขึ้นไปทุกชั้นฟ้า ที่สุดถึงพรหม และพระนิพพาน จิตพูดว่าจิตวิมุติแล้ว จิตวิมุติแล้ว จิตวิมุติแล้ว (จิตหลุดพ้นแล้ว จิตหลุดพ้นแล้ว จิตหลุดพ้นแล้ว ) รูปลักษณ์ภาพที่ปรากฎฉายอยู่ตรงหน้าพระกฤษฎา คือพระพุทธสมณะโคดมผู้ไปดีแล้วนั่งอยู่บนอาสนะดอกบัวทิพย์ พร้อมกับทรงยิ้ม และทรงตรัสธรรมจิตที่บริสุทธิ์ว่าพระพุทธเจ้า....พระธรรม...พระสงฆ์เกิดขึ้นมานานแล้ว...... อีกคุณบิดามารดา.....ถ้าใครให้เราสึกเรายอมตาย พระกฤษฎาเข้าใจในเวลานี้เองว่า อยู่ด้วยกันมากรูปก็เท่ากับอยู่รูปเดียว อาคารสิ่งก่อสร้างไม่ปรากฏรูปลักษณ์ รูปเรารูปเค้าไม่มีตัวตนอยู่จริง ดวงจิตบริสุทธิ์ลอยเด่นกลางจันทร์เพ็ญ สมจริงที่ว่าผู้ใดเห็นธรรมผู้นั้นเห็นเรา เมื่อธรรมได้เกิดขึ้นแล้วกับพระกฤษฎาก็บรรลุพระโสดาบัน อนาคามี อรหันตผล มีศีลอันสงบแล้วมีพุทธคุณอันแผ่ซ่าน มีพุทธะคุณว่า พระพุทธอริยเมตตัยยะ อันข้าพเจ้าได้มาตรัสรู้แล้วในยุคนี้ นับแต่ออกก้าวเดินก็ล้มลุกมาตลอด ค้นคว้าหาแนวทางตรัสรู้ใหม่ เดิมทีเกิดในสกุลฆราวาสธรรมดาตระกูล กองทรง รู้เห็นเรื่องราวพระพุทธประวัติ เกิดเลื่อมใสคิดตามเรียนแบบพระองค์ ทิ้งการเรียน ทิ้งครอบครัวพ่อแม่ ออกบวชหวังสำเร็จเป็นพระพุทธเจ้าอริยเมตตัยยะเมื่อตรัสรู้แจ้งแล้วก็รู้ว่าประเพณีวัฒนธรรม ยุคหนึ่งสมัยหนึ่งก็ใช้ได้ในยุคนั้นจะนำมาใช้หรือลอกเลียนแบบทั้งหมดไม่เกิดประโยชน์เสียเวลาตายทิ้งเสียเปล่า คำว่าพระไม่ได้มีแค่ผู้นุ่งห่มผ้าเหลืองเท่านั้นสกุลชาวบ้านธรรมดา ก็เป็นพระได้ พระเป็นที่จิต จิตที่เป็นหนึ่งเท่านั้น ผ้าเหลืองป็นเพียงแค่สัญลักษณ์บ่งบอกว่าเป็นนักบวชลัทธินั้น คณะนี้ สาวกพระศาสดาองค์นี้เท่านั้น เรื่องของจิตของใจคนทุกคนต้องปฏิบัติเองเป็นเรื่องรีบด่วนก่อนที่จะตาย จะให้พระศาสดาทำแทนกันไม่ได้ เมื่อรู้ความจริงที่เปิดออกก็ไม่ต้องแบกร่างและโครงกระดูก หัวสมองก็โปร่งใส ร่างกายก็มีสภาพไร้น้ำหนัก ด้วยสัญญา ตัณหาอุปทาน ก็เท่ากับได้ลาจากความโง่ ออกเที่ยวโปรดสัตว์ ในสกุลชาวบ้านธรรมดาไม่คิดสะสมพรรษา คำว่าตรัสรู้ก็คือการที่มารู้แจ้งเรื่องที่พ้นสมัยของ พระศาสดาในอดีตหรือพูดง่าย ๆ ก็คือมารู้เรื่องที่พระพุทธเจ้าและสาวกซ่อนเพชรซ่อนพลอยเอาไว้ หลังพุทธปรินิพพาน
หลังจากนั้นข้าพเจ้าได้เปลี่ยนชื่อแซ่เป็น นาย รวิพันธุ์ กองทรงวิศิษฐ์
การกินเจ...............การกินเนื้อ สังขารเป็นผู้กิน พระนิพพานไม่ได้มากินด้วย ความว่างไม่สามารถกลืนกินความว่างได้ต้องเป็นสิ่งเดียวกันเท่านั้น
รวิพันธุ์ กองทรงวิศิษฐ์ เป็นผู้แต่งจากชีวิตจริง ๆ

ไก่ทองขัน หมายถึงพระศรีอาริย์ทรงโปรดชัดเจน
ธรรมะสู่ครัวเรือน ในเพศฆารา
วาสผู้ครองเรือน มีจิตเป็นพุทธที่มีชีวิต

Click to expand...

ขอเชิญร่วมบริจาคปัจจัยเพื่อตั้งกองทุนเพื่อผู้ป่วยโรคมะเร็ง บมจ.ธนาคารกรุงไทย สาขาถนนนครนอก บัญชีออมทรัพย์เลขที่ 381-0-08515-4 ชื่อบัญชี กองทุนฟ้าใหม่แห่งทิพยสถานธรรม

hongsanart, 13 กุมภาพันธ์ 2007

#444
- ถูกใจ x 8
- ดูรายการ
สมบูรณ์ เกตุ สมาชิกใหม่

วันที่สมัครสมาชิก:

16 กุมภาพันธ์ 2007

โพสต์:

1

ค่าพลัง:

+3
ผมทำกรรมอะไรไว้

(f) ตอนนี้ผมเป็นทุกข์มากเพราะต้องพัวพันกับผู้หญิงคนหนึ่ง ทั้งๆที่
ผมเองก็มีภรรยาแล้ว ผมเป็นห่วงและสงสารเขามากเวลานี้ผมเป็นทุกข์เหลือเกินครับแม่ชีช่วยชี้ทางให้ผมหน่อยครับ.....

แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 กุมภาพันธ์ 2007

สมบูรณ์ เกตุ, 16 กุมภาพันธ์ 2007

#445
- ถูกใจ x 3
- ดูรายการ
nehan เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

5 กุมภาพันธ์ 2006

โพสต์:

99

ค่าพลัง:

+964
กราบขอบพระคุณเเม่ชีคับที่ตอบคำถาม ที่ถามไปทางข้อความส่วนตัว

อนุโมทนาสาธุ

พุทธังฤทธิ ธัมมังฤทธิ สังฆังฤทธิ ชยะมังคลัง
เอหิพุทธัง เอหิธัมมัง เอหิสังฆัง เอหิจิตตัง มะมะเอหิ

nehan, 16 กุมภาพันธ์ 2007

#446
- ถูกใจ x 3
- ดูรายการ
sacrifar เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

8 ตุลาคม 2006

โพสต์:

551

ค่าพลัง:

+3,221
คุณหงสนาถส่งตะกรุดมาหรือยังคับ อยากได้แล้วค๊าบ ใจจะขาดรอนๆ

แข็งนอกอ่อนใน วิสัยไพร่
อ่อนนอกแข็งใน วิสัยปราชญ์

sacrifar, 16 กุมภาพันธ์ 2007

#447
- ถูกใจ x 2
- ดูรายการ
MissyKelly เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

20 กันยายน 2004

โพสต์:

446

ค่าพลัง:

+1,190
พี่สมบูรณ์ เกตุคะ
ชมพูขอพูดนิดนึงในฐานะที่อกหักบ่อยๆ หุ หุ
ชมพูเคยคิดว่าทำไมเราซวยบรมเช่นนี้
แต่ว่าความเจ็บปวด ทำให้เข้าธรรมะ ให้มาสนใจปฎิบัติธรรมนะคะ

ย้อนไปที่เรื่องพี่นะคะ
พี่สวดมนต์ ภาวนา ให้ความดีดลใจให้เค้ามาเริ่มปฎิบัติธรรมสิคะ
มันยังเจ็บอยู่ก็จิง แต่ว่ามันเป็นผลดีกับเค้าไปนานๆเลย

แฮะๆ แนะนำให้เค้าคุยกับแม่ชีสิคะ ผู้หญิงด้วยกันคุยกันเข้าใจ
พี่คะ ชมพูไม่อยากให้พี่ไปปีนต้นงิ้วนะ จิงๆ กลัวๆๆๆๆๆๆ

ร่วมกันประกาศบุญ โมทนาบุญด้วยกันค่ะ http://www.palungjit.com/board/showthread.php?t=4019

MissyKelly, 17 กุมภาพันธ์ 2007

#448
- ถูกใจ x 1
- ดูรายการ
hongsanart เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

22 มิถุนายน 2005

โพสต์:

1,332

ค่าพลัง:

+10,468
สมบูรณ์ เกตุ said: ↑

(f) ตอนนี้ผมเป็นทุกข์มากเพราะต้องพัวพันกับผู้หญิงคนหนึ่ง ทั้งๆที่
ผมเองก็มีภรรยาแล้ว ผมเป็นห่วงและสงสารเขามากเวลานี้ผมเป็นทุกข์เหลือเกินครับแม่ชีช่วยชี้ทางให้ผมหน่อยครับ.....
Click to expand...

เจริญธรรม...

ทุกข์เกิด เพราะไม่ได้ใคร่ พอได้ใคร่ ทุกข์ยิ่งประดังเข้ามาใหญ่

ตกลงจะใคร่ต่อ หรือทิ้งใคร่ดีล่ะ?

หนุ่มเอ้ย...อย่าเป็นทุกข์ให้มากไปเลย ยอมรับความจริงที่เกิดขึ้น แล้วแก้ไขนั้นดี ในโลกนี้ไม่มีใครที่ไม่เคยผิดเลยสักคน...

นอกใจภรรยา ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุอะไรก็ตามที กลับไปปรึกษาภรรยาดีไหม?

อย่ากลัวในสิ่งที่ทำไปแล้วเลย ลูกผู้ชาย ทำผิดแล้วกล้ารับผิด แม่ชีว่า ภรรยาที่ดีคงจะมีเหตุผลและให้อภัยนะ

แต่ถ้าภรรยาใหญ่ให้เลือกหรือให้เลิกกับผู้หญิงคนใหม่ หนุ่มทำใจได้ไหม?

ถ้าทำใจไม่ได้เพราะสงสารผู้หญิงคนใหม่ แล้วเมียคนที่ร่วมทุกข์ ร่วมสุขมาตั้งแต่ต้น หนุ่มไม่สงสารบ้างหรือไง?

ได้อย่างก็ต้องเสียอย่างนะ...อย่าจับปลาสองมือเลย แม่ชีไม่เคยเห็นใครที่มีเมียหลายคน แล้วจะมีความสุขจริงๆเลย

ถ้าผู้หญิงคนใหม่ยังไม่มีลูกด้วยกัน จงอธิบายให้เขาฟังเถอะ แล้วหนุ่มหันกลับไปทำหน้าที่สามีที่ดีต่อภรรยาเดิมนะ

แต่ถ้าหมดรักภรรยาเดิมแล้ว อยากเลิกก็บอกเลิกลา อย่าร้างกันไป แม่ชีจะได้ชวนผู้หญิงที่ถูกสามีทิ้ง มาอยู่ชมรม

"ผสมสุข" ซะเลย สุขได้โดยไม่ต้องมีผู้ชายนิสัยเสียมาวอแวไง...

ผู้ชายที่เจ้าชู้มากๆระวังนะ ผลกรรมจะตามทัน คือ ลูกของตัวเองนั้นแหละ จะเป็นตุ๊ด เป็นเกย์ เป็นดี้ เป็นทอมกันหมด

ถึงตอนนั้นอย่าโทษใครเลย เพราะพ่อ ทำเหตุเอาไว้นั่นเอง และเมื่อตายไปจะไปเกิดเป็น หมา

และเมื่อกลับมาเกิดใหม่จะเป็น กระเทยนะตัวเอง...

เอ้า...อย่าปัดความรับผิดชอบเลย บอกกับภรรยาเถอะ ถ้าภรรยารับได้ ภรรยาใหม่ยินดี ก็แฮปปี้นะ

แต่แม่ชีก็ไม่เคยเห็นภรรยาคนไหนจะยอม ให้สามีของตัวเองไปไถนาใหม่ สลับกับนาเดิมสักคนจ้า

(verygood)(verygood)(verygood)
ธรรมะสวัสดี สาธุ!!!

ขอเชิญร่วมบริจาคปัจจัยเพื่อตั้งกองทุนเพื่อผู้ป่วยโรคมะเร็ง บมจ.ธนาคารกรุงไทย สาขาถนนนครนอก บัญชีออมทรัพย์เลขที่ 381-0-08515-4 ชื่อบัญชี กองทุนฟ้าใหม่แห่งทิพยสถานธรรม

hongsanart, 18 กุมภาพันธ์ 2007

#449
- ถูกใจ x 5
- ดูรายการ
hongsanart เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

22 มิถุนายน 2005

โพสต์:

1,332

ค่าพลัง:

+10,468
เจริญธรรม...

แหม...กำลังตอบเน็ตอยู่ลูกศิษย์จากปัตตานีโทรมาบอกว่า

"อาจารย์ระเบิดมันลงที่ปัตตานีแล้ว ไฟดับทั้งเมืองเลย หิวข้าวไม่มีอะไรกิน ไฟก็ดับ กลัวจนเลิกกลัวแล้ว ไม่เครียดนะอาจารย์"

หนูเอ้ย...ระวังตัวและหาอะไรกินประทังไปก่อนนะ แม่ชีอวยพรให้ปลอดภัยกันทุกคน

ธรรมะสวัสดี สาธุ!!!

ขอเชิญร่วมบริจาคปัจจัยเพื่อตั้งกองทุนเพื่อผู้ป่วยโรคมะเร็ง บมจ.ธนาคารกรุงไทย สาขาถนนนครนอก บัญชีออมทรัพย์เลขที่ 381-0-08515-4 ชื่อบัญชี กองทุนฟ้าใหม่แห่งทิพยสถานธรรม

hongsanart, 18 กุมภาพันธ์ 2007

#450
- ถูกใจ x 5
- ดูรายการ
pornsawang สมาชิก

วันที่สมัครสมาชิก:

18 กุมภาพันธ์ 2007

โพสต์:

9

ค่าพลัง:

+13
กราบเรียนแม่ชีคะ อยากรบกวนถามแม่ชีคะว่าทำไมเวลาหนูจะเขียนหนังสือหรือว่าพิมพ์ข้อความอยู่นี้นิ้วมือจะเกิดอาการเกร็งแบบฝืนคะและทำให้เมื่อยมือมากเลยคะ แบบนิ้วไม่ค่อยยอมไปต้องออกแรงบังคับคะ จะเป็นแบบมือสั่นทุกทีเวลาจะเขียนหรือพิมพ์คะ เป็นมาได้ประมาณอายุตั้งแต่ 30 จนป่านนี้ 40 แล้วก็ยังไม่หายเคยไปหาหมอเกี่ยวกับสุขภาพจิตเขาก็ให้ยามาทานคะแต่ก็ไม่หาย เหมือนคนชอบเป็นโรคตื่นเต้นตลอดเวลาจะเขียนหรือทำอะไรเวลาคนมาดู ทำให้มือสั่นคะเป็นทั้งเวลาหั่นของทำกับข้าวคะ แต่ก่อนอายุ 30 ไม่เคยเป็นเลยคะมีแต่เพื่อนชมว่าลายมือสวย แต่เดี่ยวนี้มีแต่เพื่อนบอกเลยมือเหมือนเจ้าเข้าคะ พยายามทำอย่างไรก็ไม่หายคะ และทำเส้นเลือดหลังมือเห็นเด่นชัดขึ้นมาทุกครั้งเลยคะ ขอทำชี้แนะด้วยนะคะ หาหมอก็หาแล้วกินยาก็กินแล้วคะแต่ก็เหมือนเดิมคะ เลยอยากทราบว่าเป็นกรรมอะไรที่ทำไว้ชาติก่อนหรือชาตินี้คะ และมีวิธีแก้ไขได้ไหมคะ และเป็นคนคิดมาก ขี้ใจน้อย ร้องไห้เก่งมากคะ มีคนบอกว่าอาจจะเป็นบ้าได้ในอนาคต (ไม่อยากเป็นคะ รบกวนขอทางสว่างชี้แนะด้วยนะคะแม่ชี)
กราบขอบพระคุณมากเลยคะ

pornsawang, 19 กุมภาพันธ์ 2007

#451
- ถูกใจ x 1
- ดูรายการ
MissyKelly เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

20 กันยายน 2004

โพสต์:

446

ค่าพลัง:

+1,190
แม่ชีคะ วันนี้ชมพูอ่านที่แม่ชีเขียนสอนมา ทำให้รู้สึกดีขึ้นมากๆค่ะ เข้าใจ และปล่อยวางได้มากขี้น

แม่ชีถามมา 2 คำถาม ที่ชมพูอยากร่วมตอบด้วยค่ะ

คำถามแรก ก็เกี่ยวกับว่าคนกลัวอะไรมากที่สุด

ชมพูคิดอยู่ ปรากฎว่าจะตอบว่า คนกลัว ธรรมชาติ ความเป็นจริงของโลก หรือป่าวคะ ความจิงของโลกก็คือ ทุกขัง อนิตจัง อนัตตา แล้วความรู้สึกต่างๆที่คนกลัวกัน ก็มาจากรากของ 3 สัจธรรมนี้

ส่วนการที่เทวดามีบริวาร 500
ชมพูจำได้ว่า หลวงพ่อฤาษีลิงดำท่านเคยบอกว่า บุคคลใด ที่ไม่ได้ทำบุญในวิหารทาน ก็จะไม่มีวิมานเป็นของตัวเอง ก็จะไปจุติอยู่กับเทวดาที่เคยรู้จักชอบพอกันที่มีวิมาน(ได้ทำบุญในวิหารทาน) แต่จิงๆก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นเทวดารับใช้ แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึง 500 ค่ะ หลวงพ่อบอกเป็น 1000 ก็มีใช่มั้ยคะ

ร่วมกันประกาศบุญ โมทนาบุญด้วยกันค่ะ http://www.palungjit.com/board/showthread.php?t=4019

MissyKelly, 19 กุมภาพันธ์ 2007

#452
- ถูกใจ x 1
- ดูรายการ
hongsanart เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

22 มิถุนายน 2005

โพสต์:

1,332

ค่าพลัง:

+10,468
pornsawang said: ↑

กราบเรียนแม่ชีคะ อยากรบกวนถามแม่ชีคะว่าทำไมเวลาหนูจะเขียนหนังสือหรือว่าพิมพ์ข้อความอยู่นี้นิ้วมือจะเกิดอาการเกร็งแบบฝืนคะและทำให้เมื่อยมือมากเลยคะ แบบนิ้วไม่ค่อยยอมไปต้องออกแรงบังคับคะ จะเป็นแบบมือสั่นทุกทีเวลาจะเขียนหรือพิมพ์คะ เป็นมาได้ประมาณอายุตั้งแต่ 30 จนป่านนี้ 40 แล้วก็ยังไม่หายเคยไปหาหมอเกี่ยวกับสุขภาพจิตเขาก็ให้ยามาทานคะแต่ก็ไม่หาย เหมือนคนชอบเป็นโรคตื่นเต้นตลอดเวลาจะเขียนหรือทำอะไรเวลาคนมาดู ทำให้มือสั่นคะเป็นทั้งเวลาหั่นของทำกับข้าวคะ แต่ก่อนอายุ 30 ไม่เคยเป็นเลยคะมีแต่เพื่อนชมว่าลายมือสวย แต่เดี่ยวนี้มีแต่เพื่อนบอกเลยมือเหมือนเจ้าเข้าคะ พยายามทำอย่างไรก็ไม่หายคะ และทำเส้นเลือดหลังมือเห็นเด่นชัดขึ้นมาทุกครั้งเลยคะ ขอทำชี้แนะด้วยนะคะ หาหมอก็หาแล้วกินยาก็กินแล้วคะแต่ก็เหมือนเดิมคะ เลยอยากทราบว่าเป็นกรรมอะไรที่ทำไว้ชาติก่อนหรือชาตินี้คะ และมีวิธีแก้ไขได้ไหมคะ และเป็นคนคิดมาก ขี้ใจน้อย ร้องไห้เก่งมากคะ มีคนบอกว่าอาจจะเป็นบ้าได้ในอนาคต (ไม่อยากเป็นคะ รบกวนขอทางสว่างชี้แนะด้วยนะคะแม่ชี)
กราบขอบพระคุณมากเลยคะ
Click to expand...

เจริญธรรม...

อาการอย่างนี้แก้ไม่ยากหรอก

เวลาจะเขียนหนังสือ ก็ให้เอามืออีกข้างมาจับไว้ แล้วค่อยๆเขียน

อย่ารีบเดี๋ยวก็ดีเอง อายุมากขึ้นอะไรมันก็เสื่อมถอยลงเป็นธรรมชาติและเป็นธรรมดา ร่างกายของเรามีปัญหา ก็แก้ไข

ถ้าแก้ไม่ได้ก็ต้องทำใจ หันกลับมาบริหารใจ พัฒนาใจอย่าหวั่นไหว
เมื่อโดนกระทบเลย

เรื่องพวกนี้มันเป็นเรื่องธรรมชาติ อย่าหวั่นวิตกให้มากเกินไป เดี๋ยวจะกลายเป็นคนวิตกจริต จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ก็จะมีโอกาสพูดกับผู้อื่นไม่รู้เรื่องได้

สวดมนต์ ทำสมาธิ และปล่อยวางอย่างผู้เข้าใจ รับรองสบายจ้า...

ธรรมะสวัสดี สาธุ!!!

ขอเชิญร่วมบริจาคปัจจัยเพื่อตั้งกองทุนเพื่อผู้ป่วยโรคมะเร็ง บมจ.ธนาคารกรุงไทย สาขาถนนนครนอก บัญชีออมทรัพย์เลขที่ 381-0-08515-4 ชื่อบัญชี กองทุนฟ้าใหม่แห่งทิพยสถานธรรม

hongsanart, 20 กุมภาพันธ์ 2007

#453
- ถูกใจ x 6
- ดูรายการ
hongsanart เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

22 มิถุนายน 2005

โพสต์:

1,332

ค่าพลัง:

+10,468
(b-glass) (b-glass) (b-glass)

!!!!!!..เจอแต่วัยรุ่นใจร้อน..!!!!!!

ใจเย็นๆหน่อยซิคะคุณพี่..... ของดีต้องใจเย็นๆ รอหน่อย

ตั้งแต่กลับมาจากเวียดนาม งานส่วนตัวก็ยังทำไม่เสร็จ งานที่ที่ทำงานก็ไหลมาเทมา แต่ก็จัดส่งให้แล้ว

ได้รับตะกรุดแล้ว แจ้งให้ทราบด้วยนะคะ

ขอเชิญร่วมบริจาคปัจจัยเพื่อตั้งกองทุนเพื่อผู้ป่วยโรคมะเร็ง บมจ.ธนาคารกรุงไทย สาขาถนนนครนอก บัญชีออมทรัพย์เลขที่ 381-0-08515-4 ชื่อบัญชี กองทุนฟ้าใหม่แห่งทิพยสถานธรรม

hongsanart, 21 กุมภาพันธ์ 2007

#454
- ถูกใจ x 3
- ดูรายการ
Enigma เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

21 กันยายน 2005

โพสต์:

118

ค่าพลัง:

+314
กราบนมัสการแม่ชีค่ะ
หนูนั่งสมาธิแล้วตัวจะโยก จะสั่นยังกะเจ้าเข้า หัวก็ปวด มึนตึ๊บเหมือนมีอะไรมากด ได้ยินเสียงขู่อาฆาต พูดไม่ดี บางทีก้ได้ยินเสียงคนร้องเพลง สาเหตุเกิดจากอะไรคะ แล้วควรจะแก้อย่างไรดีคะ
กราบขอบพระคุณมากค่ะ

Enigma, 21 กุมภาพันธ์ 2007

#455
- ถูกใจ x 4
- ดูรายการ
hongsanart เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

22 มิถุนายน 2005

โพสต์:

1,332

ค่าพลัง:

+10,468
Enigma said: ↑

กราบนมัสการแม่ชีค่ะ
หนูนั่งสมาธิแล้วตัวจะโยก จะสั่นยังกะเจ้าเข้า หัวก็ปวด มึนตึ๊บเหมือนมีอะไรมากด ได้ยินเสียงขู่อาฆาต พูดไม่ดี บางทีก้ได้ยินเสียงคนร้องเพลง สาเหตุเกิดจากอะไรคะ แล้วควรจะแก้อย่างไรดีคะ
กราบขอบพระคุณมากค่ะ
Click to expand...

เจริญธรรม...

นั่งสมาธิแล้วตัวโยกคลอน อาการนั้นเป็นผลข้างเคียงของการทำสมาธินั่นเอง
อย่าวิตกกังวลเลย จะทำให้ปวดหัวเปล่าๆ

นั่งแล้วได้ยินเสียงเพลง หรือเสียงอะไรก็ตามที ได้ยินก็รู้ว่าได้ยิน แต่อย่าไปยึดในสิ่งที่ได้ยิน

ทำจิตให้ดิ่งเป็นภวังค์ เคลิบเคลิ้มแต่ไม่หลับนะ ทำไปเรื่อยๆ อาการเหล่านั้นจะหายไปเอง

เสียงขู่เสียงอาฆาตนั้นเกิดมาจากจิตของเราเองนั่นแหละ เราเคยแค้นอาฆาตผู้อื่นเอาไว้ มันเลยติดอยู่ในจิต

และเมื่อจิตสงบบ้างพอสมควร สันดานนั้นมันก็กำเริบออกมา ปล่อยสันดานทั้งหมดให้ไหลออกมา แล้วนั่งดูมันเถอะ สักพักมันจะหายไปเองนะ

ในโลกนี้ยังมีอะไรอีกมากมายที่คนเราไม่รู้ ไม่เข้าใจ ถ้าว่างลองเปิดซีดีเสียง ที่แม่ชีสอนในเรื่อง ทำสมาธิกันดีกว่า หรือตามหาจริตเพื่อสถาปนาจิตสิ...

อยู่ในกระทู้นั่นแหละ จะได้เข้าใจมากขึ้น

อย่ากลัวไปเลย และอย่าเลิกกระทำไปนะ แม่ชีเอาใจช่วยจ้า...

ธรรมะสวัสดี สาธุ!!!

ขอเชิญร่วมบริจาคปัจจัยเพื่อตั้งกองทุนเพื่อผู้ป่วยโรคมะเร็ง บมจ.ธนาคารกรุงไทย สาขาถนนนครนอก บัญชีออมทรัพย์เลขที่ 381-0-08515-4 ชื่อบัญชี กองทุนฟ้าใหม่แห่งทิพยสถานธรรม

hongsanart, 22 กุมภาพันธ์ 2007

#456
- ถูกใจ x 6
- ดูรายการ
hongsanart เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

22 มิถุนายน 2005

โพสต์:

1,332

ค่าพลัง:

+10,468
Enigma said: ↑

กราบนมัสการแม่ชีค่ะ
หนูนั่งสมาธิแล้วตัวจะโยก จะสั่นยังกะเจ้าเข้า หัวก็ปวด มึนตึ๊บเหมือนมีอะไรมากด ได้ยินเสียงขู่อาฆาต พูดไม่ดี บางทีก้ได้ยินเสียงคนร้องเพลง สาเหตุเกิดจากอะไรคะ แล้วควรจะแก้อย่างไรดีคะ
กราบขอบพระคุณมากค่ะ
Click to expand...

เจริญธรรม...

นั่งสมาธิแล้วตัวโยกคลอน อาการนั้นเป็นผลข้างเคียงของการทำสมาธินั่นเอง
อย่าวิตกกังวลเลย จะทำให้ปวดหัวเปล่าๆ

นั่งแล้วได้ยินเสียงเพลง หรือเสียงอะไรก็ตามที ได้ยินก็รู้ว่าได้ยิน แต่อย่าไปยึดในสิ่งที่ได้ยิน

ทำจิตให้ดิ่งเป็นภวังค์ เคลิบเคลิ้มแต่ไม่หลับนะ ทำไปเรื่อยๆ อาการเหล่านั้นจะหายไปเอง

เสียงขู่เสียงอาฆาตนั้นเกิดมาจากจิตของเราเองนั่นแหละ เราเคยแค้นอาฆาตผู้อื่นเอาไว้ มันเลยติดอยู่ในจิต

และเมื่อจิตสงบบ้างพอสมควร สันดานนั้นมันก็กำเริบออกมา ปล่อยสันดานทั้งหมดให้ไหลออกมา แล้วนั่งดูมันเถอะ สักพักมันจะหายไปเองนะ

ในโลกนี้ยังมีอะไรอีกมากมายที่คนเราไม่รู้ ไม่เข้าใจ ถ้าว่างลองเปิดซีดีเสียง ที่แม่ชีสอนในเรื่อง

ทำสมาธิกันดีกว่า หรือตามหาจริตเพื่อสถาปนาจิตสิ...อยู่ในกระทู้นั่นแหละ จะได้เข้าใจมากขึ้น

อย่ากลัวไปเลย และอย่าเลิกกระทำไปนะ แม่ชีเอาใจช่วยจ้า...

ธรรมะสวัสดี สาธุ!!!

ขอเชิญร่วมบริจาคปัจจัยเพื่อตั้งกองทุนเพื่อผู้ป่วยโรคมะเร็ง บมจ.ธนาคารกรุงไทย สาขาถนนนครนอก บัญชีออมทรัพย์เลขที่ 381-0-08515-4 ชื่อบัญชี กองทุนฟ้าใหม่แห่งทิพยสถานธรรม

hongsanart, 22 กุมภาพันธ์ 2007

#457
- ถูกใจ x 5
- ดูรายการ
pornsawang สมาชิก

วันที่สมัครสมาชิก:

18 กุมภาพันธ์ 2007

โพสต์:

9

ค่าพลัง:

+13
กราบขอบพระคุณแม่ชีมากเลยนะคะที่ให้คำแนะนำดีดี

ขอบพระคุณอีกครั้งเจ้าคะ

pornsawang, 23 กุมภาพันธ์ 2007

#458
- ถูกใจ x 2
- ดูรายการ
Enigma เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

21 กันยายน 2005

โพสต์:

118

ค่าพลัง:

+314
แม่ชีณัฐทิพย์ said: ↑

เจริญธรรม...

นั่งสมาธิแล้วตัวโยกคลอน อาการนั้นเป็นผลข้างเคียงของการทำสมาธินั่นเอง
อย่าวิตกกังวลเลย จะทำให้ปวดหัวเปล่าๆ

นั่งแล้วได้ยินเสียงเพลง หรือเสียงอะไรก็ตามที ได้ยินก็รู้ว่าได้ยิน แต่อย่าไปยึดในสิ่งที่ได้ยิน

ทำจิตให้ดิ่งเป็นภวังค์ เคลิบเคลิ้มแต่ไม่หลับนะ ทำไปเรื่อยๆ อาการเหล่านั้นจะหายไปเอง

เสียงขู่เสียงอาฆาตนั้นเกิดมาจากจิตของเราเองนั่นแหละ เราเคยแค้นอาฆาตผู้อื่นเอาไว้ มันเลยติดอยู่ในจิต

และเมื่อจิตสงบบ้างพอสมควร สันดานนั้นมันก็กำเริบออกมา ปล่อยสันดานทั้งหมดให้ไหลออกมา แล้วนั่งดูมันเถอะ สักพักมันจะหายไปเองนะ

ในโลกนี้ยังมีอะไรอีกมากมายที่คนเราไม่รู้ ไม่เข้าใจ ถ้าว่างลองเปิดซีดีเสียง ที่แม่ชีสอนในเรื่อง

ทำสมาธิกันดีกว่า หรือตามหาจริตเพื่อสถาปนาจิตสิ...อยู่ในกระทู้นั่นแหละ จะได้เข้าใจมากขึ้น

อย่ากลัวไปเลย และอย่าเลิกกระทำไปนะ แม่ชีเอาใจช่วยจ้า...

ธรรมะสวัสดี สาธุ!!!
Click to expand...

กราบขอบพระคุณแม่ชีค่ะ ที่แม่ชีบอกว่า ในโลกนี้ยังมีอะไรอีกมากมายที่คนเราไม่รู้ ไม่เข้าใจ เหมือนพระรูปหนึ่งที่เคยบอก enigma เลยค่ะ เหมือนเป็นco-incident เลย(หรือว่าไม่บังเอิญนะ)

เมื่อวานenigma ลองทำตามที่แม่ชีบอกดูแล้ว คือทำจิตให้ดิ่งเป็นภวังค์ เคลิบเคลิ้มแต่ไม่หลับ ก็ได้ผลค่ะ คือช่วงแรกๆจะไม่มีอะไรเลยค่ะ แต่พอซักพัก ก็เห็นนิมิต ได้ยินเสียงอีก enigmaนั่งต่อไปเรื่อยๆ จนกระทั่งที่ศระษะเหมือนจะสว่างๆขึ้นทีละนิดจากท้ายทอยขึ้นข้างบน จนศรีษะสว่างทั้งหมด แล้วก็เหมือนมีพลังเดินตามกระดูกสันหลังจากคอลงไปถึงเอวเลยค่ะ

พอว่าศรีษะสว่างหมด เสียงก็ดับ นิมิตก็หายหมด เหมือนปิดสวิตซ์ แต่คราวนี้ enigmaเห็นนิมิตเป็นรูปของพระเยซู enigmaสะอึกสะอื้น จะร้องไห้ ตาก็ลืมเอง เลยจบการนั่งไว้เท่านั้น

มีอีกอย่างที่ enigma สงสัยนานแล้วก็คือ enigmaมักจะเห็นนิมิตรูปจักวาลเสมอ แล้วก็รู้สึกผูกพันมากโดยไม่รู้ว่าทำไม บางครั้งมองท้องฟ้าตอนกลางคืน มีดาวเยอะๆก็ร้องไห้ เหมือนจากมาที่นั่นไกลๆ

enigma อยากทราบว่ามันเกิดจากอะไรคะ enigma คิดเอาเองหรือป่าว

แล้วก็มีอักเรื่องหนึ่งคะ enigma อยู่เมืองนอก ไม่เคยมีครูสอนวิปัสสนากรรมฐานให้ enigma นั่งเอง จะอันตรายไหมคะ แล้วenigma จะมีโอกาสก้าวหน้าไหมคะ ถ้าไม่มีครู

กราบขอบพระคุณแม่ชีมากค่ะ

Enigma, 23 กุมภาพันธ์ 2007

#459
- ถูกใจ x 4
- ดูรายการ
นักรบโบราณ เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

13 พฤศจิกายน 2006

โพสต์:

310

ค่าพลัง:

+973
<TABLE id=HB_Mail_Container height="100%" cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0 UNSELECTABLE="on"><TBODY><TR height="100%" UNSELECTABLE="on" width="100%"><TD id=HB_Focus_Element vAlign=top width="100%" background="" height=250 UNSELECTABLE="off">อ่านในกระทู้ที่แม่ชีตอบเกี่ยวกับพระคาถาชินบัญชรก็เลยอยากทราบว่าคำแปลของคาถานี้เท่าที่อ่านพบ ทำไมไม่เคยมีท่านใดกล่าวถึง"องค์ท่านท้าวมหาพรหมชินนะปัญชระ"เลย ทั้งที่ในพระคาถาก็มีกล่าวถึง ตอนจบก็มีว่า ชินะปัญชะระ ปะริตตัง สงสัยอยู่นานแล้วต้องขอรบกวนแม่ชีด้วยครับ
</TD></TR><TR UNSELECTABLE="on" hb_tag="1"><TD style="FONT-SIZE: 1pt" height=1 UNSELECTABLE="on">
</TD></TR></TBODY></TABLE>
นักรบโบราณ, 28 กุมภาพันธ์ 2007

#460
- ถูกใจ x 2
- ดูรายการ

(คุณต้องเข้าสู่ระบบหรือลงทะเบียน เพื่อที่จะโพสต์)

หน้า 23 ของ 35

แชร์หน้านี้

Loading...