ทำอย่างไรกับการดับสังขารอันปรุงแต่งจิต...

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย อมิตพระ, 15 สิงหาคม 2011.

  1. อมิตพระ

    อมิตพระ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    86
    ค่าพลัง:
    +44
    สมมุติว่าเรารู้เห็นแล้วว่าเราหรือสังขารของเราไปปรุงแต่งจิตให้เข้าไปยึดถือ..เราจะทำยังไงกับสังขารที่ว่า
    สังขารกับความคิดเป็นอันเดียวกันหรือไม่..
    เราจะหยุดคิดหยุดสังขารหรือทำลายลงได้หรือ..
    ทำยังไงมิให้สังขารปรุงแต่งจิต..หรือเราไม่ได้หยุดหรือทำลายแต่เราจะรู้เท่าทันแล้วคลายหรือปล่อยมันอย่างนั้นหรือ..ขอความอนุเคราะห์ท่านผู้รู้ให้ความกระจ่างเป็นวิทยาทานด้วย
     
  2. สับสน!

    สับสน! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2010
    โพสต์:
    31
    ค่าพลัง:
    +4,062
    สังขารคือความคิดที่ปรุงแต่งแล้ว..ผัสสะเกิด(ความคิดเกิด) วิญญาณรับรู้ ปรุงแต่งโดยสังขาร..เร็วประดุจฟ้าแล็บครับ ..สติ สมาธิ เท่านั้นจะกั้นสังขารการปรุงแต่งได้
    จุดเริ่มต้น..ในการฝึกแบบไม่ข้ามขั้นแล้ววกกลับมาที่เดิมอีก..ท่านต้อง ดู "กาย" ให้แจ้งครับ
    กาย คือสังขารขันธ์ แจ้งตัวนี้ตัวเดียว ความคิด อารมณ์ ..ฯลฯ จะหายหมดทันที อนุโมทนาครับ
     
  3. Ongsathit

    Ongsathit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    626
    ค่าพลัง:
    +574
    .สังขารกับความคิดเป็นอันเดียวกันหรือไม่..

    -อันเดียวกันครับ คือ สิ่งเดียวกัน

    .เราจะหยุดคิดหยุดสังขารหรือทำลายลงได้หรือ..

    -ได้ การทำลายสังขาร คือ การดับ อายตนะภายใน ไม่ให้คิดปรุง (รู้เท่าทัน)
     
  4. บดินทร์จ้า

    บดินทร์จ้า เจโตวิมุตติ-ปัญญาวิมุตติ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    493
    ค่าพลัง:
    +749
    การดับจิตตสังขาร ดับที่ เวทนา และ สัญญา

    เวทนารับรู้อะไร สัญญาก็จำสิ่งนั้น สัญญาจำสิ่งใด วิญญานก็รู้แจ้งสิ่งนั้น
     
  5. Ongsathit

    Ongsathit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    626
    ค่าพลัง:
    +574
    -นี่ก็เป็นการดับเหมือนกันแต่เป็นการดับที่ปลายเหตุ

    -หลวงปู่เทสก์ กล่าวว่าหากจะดับไฟฟ้าตามบ้านไม่ให้มีแสง ต้องดับที่โรงงานผลิตไฟ้ฟ้า ซึ่งเป็นต้นแห่งไฟฟ้าทั้งหลาย การดับที่บ้านคือการดับที่ปลายทาง
     
  6. บดินทร์จ้า

    บดินทร์จ้า เจโตวิมุตติ-ปัญญาวิมุตติ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    493
    ค่าพลัง:
    +749
    ขอบคุณครับท่าน แล้วเวทนา สัญญา จะดับได้ ก็ต่อเมื่อ ผัสสะดับ มิใช่หรือ
    เมื่อผัสสะจะดับได้ ก็ต่อเมื่อ สฬายตนะ ดับไม่ใช่หรือ ลองสาวให้ลึกลงไปให้ถึง ต้นเง่าของเถาวัลย์ จับจากปลายไปหาต้น มันก็ถึงอวิชชา เหมือนกันล่ะท่าน อย่ายึดติดบัญญัติ มากเกินมันไม่ดีนะท่าน
     
  7. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    เห็นการทำงานของ จิต เมื่อไหร่ก็เข้าใจเองครับ

    มุ่งมั่นปฎิบัติให้ถึงพร้อม เมื่อถึงพร้อมความสงสัยก็ไม่เกิด

    เมื่อความสงสัยไม่เกิด ก็เจริญมรรค ตามบุรุษทั้ง 8 ไป

    ขอให้เจริญในธรรมครับ
     
  8. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,801
    ค่าพลัง:
    +7,939
    สังขาร มี 3 อย่างขอรับ วจีสังขาร กายสังขาร มโนสังขาร

    หากเราแม่นปริยัติ คำถามว่า ความคิดเป็นสังขาร หรือเปล่า เราจะตอบ
    ของเราได้ เราจะอาศัยประโยชน์จาก สติ ที่ไประลึกได้ เมื่อนั้น ความ
    สงสัยว่า ความคิดเป็นสังขาร ไหม ขาดกรเด็นไปทันที โดยที่เป็นลักษณะ
    ของ เราพึ่งพิงตัวเราเอง

    ทีนี้ ท่านก็ลองพิจารณาว่า อย่างกายสังขาร ท่านทราบแล้วว่า
    สังขารนี้มันก็มี กายสังขาร อีกอย่างหนึ่ง คราวนี้ลองเอามาดูกับ
    คำถามที่ถามว่า

    คำถามนี้ ตั้งถามถูกต้อง เป็นลักษณะของผู้ใฝ่ศึกษา จะถามออกมา

    คำถามนี้ ก็ยังตั้งถูกอยู่ แล้วแผ่ออกได้มากขึ้น

    อันนี้ ดูเผินๆ เหมือนเป็นคำถาม แต่ ไม่ใช่ ท่านกำลังตอบ
    หรือไม่ กำลังบอกคนอื่น

    ปัญหาจึงควรตัดสินที่ว่า ตกลงว ท่าน ถาม หรือ ท่านมาบอกคนอื่น

    ต้องเอาตรงนี้ให้ชัดๆ ก่อน หาก ตรงนี้ไม่ชัด ป่่วยการพูดในเรื่องอื่น

    และ การภาวนาก็จะพลอยป่วยการไปด้วย

    ทำไมจึงพลอยป่วยการไป หาก การกระทำไม่ตรงกับ วาระของสังขาร

    ก็ประโยคบนนี้ จะถูกปรักปรำได้ว่า กล่าวเท็จ เพราะว่า ท่านรู้ของท่าน
    อยู่แล้ว สังขารนั้นไม่มีใครเล็งเห็นแล้วจะอาศัย ทิฏฐิ นำ แล้วพาไปพิจารณา
    ทำลายสังขาร เป็นแน่ เพราะ กายเนื้อของเรามันก็สังขาร ใครที่ไหนจะประหลาด
    พิลึกพิลั่น อาศัยคิด ไปทำลายสังขาร มันก็เท่ากับ อัตวินิบาต
    เท่านั้นเอง ซึ่งมันจะชี้กลับมาทันทีว่า สังขารนั้น เขาไม่ได้ให้มุ่งทำลาย
    หรือ หยุดการปรุง ถ้ามุ่งทำลายก็แปลว่า ใช้ "ทิฏฐิ" นำหน้า หาก
    มุ่งหยุดการปรุง ก็แปลว่าใช้ "มานะ" นำหน้า ข้างหนึ่งอุทเฉท อีกข้าง
    เห็นสัสสติ
     
  9. หลบภัย

    หลบภัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,209
    ค่าพลัง:
    +3,129
    ถ้าไปเรียนสายกรรมฐานจริงจัง ยังไม่ได้เริ่มลงมือ และภาวนาจริงจัง
    หากไปถามครูบาอาจารย์ ท่านไม่ตอบเราหรอก
    แต่ท่านจะใช้ กุสโลบายให้เรา ภาวนาเป็น เช่นกวาดลานวัด ตักน้ำ
    หรือนั่งดูลมหายใจไปเรื่อยๆ เมื่อถึงเวลาท่านจะมาตอบเอง เมื่อถึงกาล ที่พร้อมจะรู้
    เมื่อสติได้รอบ จะได้ต่อยอดไปเรื่อยๆ ยังไม่ลงมือทำ แต่สงสัยไปเรื่อย ๆ
    ท่านก็จะปฏิบัติไปเรื่อยๆ แบบ ปัญญาทางโลก
     
  10. สับสน!

    สับสน! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2010
    โพสต์:
    31
    ค่าพลัง:
    +4,062
    มาคนเดียวรึจ๊ะ..ระวังคนแก่ คนหนุ่ม เดินตามนะ..! ส่วนคนข้างบนนั่น ยาววววววววววมาเชียว...ยาวเกินตัดซะบ้างซี่ น้ำท่วมหมด:'(
     
  11. albertalos

    albertalos เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2006
    โพสต์:
    2,462
    ค่าพลัง:
    +1,137
    เมื่อเรารู้แล้วเราย่อมควรรู้ด้วยว่าสังขารเหนือบันชาของเรา เราบังคับสังขารไม่ได้ เอาว่ารู้ไว้ก่อนว่ามันเป็นธรรมดาอย่างนั้น

    ความคิดและจิตสังขารเป็นสิ่งเดียวกัน เมื่อความคิดเกิดสังขารก้เกิด จิต และกาย ผัวพันอยู่กับกิเลส ร้อยรัดติดแน่นกันแสนนาน และไม่อาจแยกออกได้ ผู้ที่สามารถแยกทั้งสองสิ่งออกได้ก้เพราะมีความรู้แจ้งแล้วซึ่งอวิชา หากแต่สิ่งที่เห็นในปัจจุบันนี้ยังไม่ใช่

    เราหยุดคิดหลายๆเรื่องได้ โดยการใช้สติควบคุม ให้เกิดการปรุงไปในทางเดียวกันเรื่องเดียวกัน ด้วยการทำสมถะ และ เราใช้สติในการพิจารนา ความคิดได้ เราเข้าไปรับรู้ได้และควบคุมได้ด้วยสติ แต่สังขารไม่ใช่เรา เราไม่อาจบังคับหรือกำจัดว่าจงเป็นอย่างนั้นจงเป็นอย่างนี้ได้ เพียงแต่บังคับไปในทิศทางที่เราต้องการได้ด้วยสติในยามที่เราต้องการเพียงครั้งคราว

    อวิชาและตัณหา ยังคนให้เกิด แก่ เจ็บ และตาย หากไม่ต้องการให้เกิดการปรุงแต่งอีกก้ต้อง กำจัดที่ต้นตอ

    หากเรารู้เท่าทัน เราก้ไม่ต้องดิ้นรนเพื่อสิ่งใด หากเรารู้จริงก้จะเห็นเองว่า สิ่งใดควรยึดสิ่งใดไม่ควรยึด สิ่งใดเป็นเราเป็นของเราจริงหรือไม่ งั้นการรู้เท่าทันที่แท้จริงนั้นแหละสำคัน แต่จะติดอยู่ตรงที่ว่ายังรู้ไม่จริง นี่แหละ

    อนุโมทนาธรรมครับ
     
  12. bluebaby2

    bluebaby2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2010
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +4,287
    การกระทำอะไรเนื่องด้วยอะไรก็เป็นสังขาร เช่นเราพยายามดับสังขารมันก็เป็น
    สังขาร ความคิดที่เกี่ยวกับเรื่องใดๆ ก็เป็นสังขาร เช่นเรารู้ว่ามันมีสังขาร
    การคิดจะหยุดมันก็เป็นสังขาร หรือถ้ามันมีสังขารหรือการปรุงแต่งอยู่เราไปปรุง
    แต่งต่อหรือตอบสนองต่อมันอย่างนี้ก็เป็นสังขาร ที่ถามว่าเราจะหยุดสังขารหรือ
    ทำลายสังขารลงได้หรือไม่ ก็ตอบว่าไม่ได้เพราะการจะไปหยุดอะไร ทำลาย
    อะไรมันก็เป็นสังขาร ทำอย่างไรจะไม่ให้สังขารปรุงแต่งต่อเราก็ต้องรู้ทันมัน
    ก่อนว่ามันเป็นสังขาร พอรู้ทันแล้วมันปรุงต่อเราก็รู้ มันหยุดเราก็เราก็รู้เป็นผู้ดู
    อยู่เฉยๆ การพยายามกำหนดรู้มันก็เป็นสังขารเหมือนกันแต่มันเป็นเครื่องมือ
    อย่างหนึ่ง เหมือนเราถูกหนามตำแล้วเราเอาอีกอันมาแกะมันออก เมื่อเราแกะ
    หนามที่ตำออกแล้วเราก็ไม่เอาอีกอันมาปักแทน สุดท้ายก็ทิ้งหมด การกำหนด
    นี่เป็นเครื่องมือปลุกตัวรู้ ปลุกตัวพุทธะของเรา
     
  13. คุรุวาโร

    คุรุวาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    3,465
    ค่าพลัง:
    +13,430
    ขอเสนอทางเลือกแล้วกันครับ การเจริญสมาธิให้ได้ถึงอรูปฌานครับ โดยพิจารณาด้วยกำลังของสมาธิครับ จะต้องมองเห็นกาย เนื้อ กระดูกได้ด้วยกำลังของสมาธิ คือผู้ปฏิบัตินั้นมองเห็นไม่ใช่มองเห็นแบบเห็นนิมิตรนะครับ นั้นคือจุดเริ่มต้นของการไปสู่เส้นทางของนิพพานครับ
     
  14. albertalos

    albertalos เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2006
    โพสต์:
    2,462
    ค่าพลัง:
    +1,137
    ตรัสถามความเห็นของพระปัญจวัคคีย์
    [๒๑] พระผู้มีพระภาคตรัสถามว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย พวกเธอสำคัญความนั้นเป็นไฉน รูปเที่ยงหรือไม่เที่ยง?
    พระปัญจวัคคีย์ทูลว่า ไม่เที่ยง พระพุทธเจ้าข้า.
    . ก็สิ่งใดไม่เที่ยง สิ่งนั้นเป็นทุกข์หรือเป็นสุขเล่า?
    . เป็นทุกข์ พระพุทธเจ้าข้า.
    (โยนิโสมนสิการจากปฎิจจสมุปบาท และพระไตรลักษณ์ จะพบความจริงได้ด้วยตนเองในที่สุดว่า สุขทุกข์เพราะความไม่เที่ยง ย่อมเป็นทุกข์ในที่สุดทั้งสิ้น)
    ภ. ก็สิ่งใดไม่เที่ยง เป็นทุกข์ มีความแปรปรวนเป็นธรรมดา ควรหรือจะตามเห็นสิ่งนั้นว่า นั่นของเรา นั่นเป็นเรา นั่นเป็นตัวตน(อัตตา)ของเรา?
    ป. ข้อนั้น ไม่ควรเลย พระพุทธเจ้าข้า.
    (ในเมื่อรู้แล้วว่า มันเป็นตัวทุกข์ แล้วไปเก็บไปเอามันว่า เป็นของตัวของตนทำไมให้เป็นทุกข์)
    ภ. เวทนาเที่ยงหรือไม่เที่ยง?
    ป. ไม่เที่ยง พระพุทธเจ้าข้า.
    ภ. ก็สิ่งใดไม่เที่ยง สิ่งนั้นเป็นทุกข์หรือเป็นสุขเล่า?
    ป. เป็นทุกข์ พระพุทธเจ้าข้า.
    ภ. ก็สิ่งใดไม่เที่ยง เป็นทุกข์ มีความแปรปรวนเป็นธรรมดา ควรหรือจะตามเห็นสิ่งนั้นว่า นั่นของเรา นั่นเป็นเรา นั่นเป็นตัวตน(อัตตา)ของเรา?
    ป. ข้อนั้นไม่ควรเลย พระพุทธเจ้าข้า.
    ภ. สัญญาเที่ยงหรือไม่เที่ยง?
    ป. ไม่เที่ยง พระพุทธเจ้าข้า.
    ภ. ก็สิ่งใดไม่เที่ยง สิ่งนั้นเป็นทุกข์หรือเป็นสุขเล่า?
    ป. เป็นทุกข์ พระพุทธเจ้าข้า.
    ภ. ก็สิ่งใดไม่เที่ยง เป็นทุกข์ มีความแปรปรวนเป็นธรรมดา ควรหรือจะตามเห็นสิ่งนั้นว่า นั่นของเรา นั่นเป็นเรา นั่นเป็นตัวตน(อัตตา)ของเรา?
    ป. ข้อนั้นไม่ควรเลย พระพุทธเจ้าข้า.
    ภ. สังขารทั้งหลายเที่ยงหรือไม่เที่ยง?
    ป. ไม่เที่ยง พระพุทธเจ้าข้า.
    ภ. ก็สิ่งใดไม่เที่ยง สิ่งนั้นเป็นทุกข์หรือเป็นสุขเล่า?
    ป. เป็นทุกข์ พระพุทธเจ้าข้า.
    ภ. ก็สิ่งใดไม่เที่ยง เป็นทุกข์ มีความแปรปรวนเป็นธรรมดา ควรหรือจะตามเห็นสิ่งนั้นว่า นั่นของเรา นั่นเป็นเรา นั่นเป็นตัวตน(อัตตา)ของเรา?
    ป. ข้อนั้นไม่ควรเลย พระพุทธเจ้าข้า.
    ภ. วิญญาณเที่ยงหรือไม่เที่ยง?
    ป. ไม่เที่ยง พระพุทธเจ้าข้า.
    ภ. ก็สิ่งใดไม่เที่ยง เป็นทุกข์หรือเป็นสุขเล่า?
    ป. เป็นทุกข์ พระพุทธเจ้าข้า.
    ภ. ก็สิ่งใดไม่เที่ยง เป็นทุกข์ มีความแปรปรวนเป็นธรรมดา ควรหรือจะตามเห็นสิ่งนั้นว่า นั่นของเรา นั่นเป็นเรา นั่นเป็นตัวตน(อัตตา)ของเรา?
    ป. ข้อนั้นไม่ควรเลย พระพุทธเจ้าข้า.
     
  15. Ongsathit

    Ongsathit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    626
    ค่าพลัง:
    +574
    -แล้วจะดับ รูป เวทนา สัญญา สังขาร หรือ ผัสสะ ได้อย่างไร ครับ
     
  16. jinny95

    jinny95 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    6,075
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +9,666
    ทำให้มันเป็น "วิสังขาร" ซะมันก็จบ ดูให้ดี ขันธ์ก็ส่วน อุปทานขันธ์ก็ส่วน กิเลสก็ส่วน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 สิงหาคม 2011
  17. paetrix

    paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,480
    ค่าพลัง:
    +1,880
    คุณ เคยนำมา บอกเองไม่ใช่หรือ สิ่งนี้ มี สิ่งนี้ จึงมี สิ่งนั้นดับ สิ่ง นั้น จึงดับ.
     
  18. paetrix

    paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,480
    ค่าพลัง:
    +1,880
    ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา...
     
  19. paetrix

    paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,480
    ค่าพลัง:
    +1,880
    ตรงนี้ น่าจะเป็นคำสอน ของพระองค์ ให้เข้าใจ ปรมัตถ์ธรรม ว่ามันเป็นเช่นนั้นเอง..
     
  20. Ongsathit

    Ongsathit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    626
    ค่าพลัง:
    +574
    -ผมต้องการให้ผู้ใคร่ธรรมได้พิจารณาตามด้วยว่าผิดถูกเป็นอย่างไร วิธีการดับขันธ์ 5 ทำอย่างไร
     

แชร์หน้านี้

Loading...