รวมตัวกันไปฝึกการช่วยชีวิต CPR กันไหมครับ

รวมตัวกันไปฝึกการช่วยชีวิต CPR กันไหมครับ

<table width="100%" border="0" cellpadding="10" cellspacing="0"><tbody><tr valign="top"><td>มูลนิธิหัวใจแห่งประเทศ ไทยฯ เปิดฝึกอบรมการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน ( CPR ) สำหรับประชาชนทั่วไป 8,400 ราย เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

</td> </tr> <tr valign="top"><td>

มูลนิธิหัวใจแห่งประเทศไทยฯ เปิดฝึกอบรมการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน ( CPR )
สำหรับประชาชนทั่วไป 8,400 ราย
เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
มูลนิธิหัวใจแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดฝึกอบรมการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน ( CPR ) สำหรับประชาชนทั่วไป โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ใน “โครงการฝึกอบรมการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ครอบ 84 พรรษา 5 ธันวาคม 2554 “ ถวายเป็นพระราชกุศล โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อฝึกอบรมประชาชนทั่วไปให้มีความรู้ในการช่วยชีวิตขั้น พื้นฐาน จำนวน 8,400 คน ให้สามารถปฏิบัติการช่วยชีวิตผู้ประสบภัยเบื้องต้นได้อย่างถูกต้องและทัน ท่วงที เพราะอุบัติเหตุมักเกิดขึ้นที่บ้าน ที่ทำงาน สถานที่สาธารณะ ผู้ที่จะช่วยรอดชีวิตได้คือคนใกล้ตัว ที่สำคัญช่วยลดอัตราการเสียชีวิตของประชาชนไทยให้ลดน้อยลง สอบถามรายละเอียดได้ที่มูลนิธิหัวใจแห่งประเทศไทยฯ 02-7166658 , 02-7165661 หรือ www.thaiheartfound.org

</td></tr><tr valign="top"><td>

โครงการฝึกอบรมการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน
สำหรับประชาชนทั่วไป
เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช
เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 84 พรรษา
5 ธันวาคม 2554
เจ้าของโครงการ มูลนิธิหัวใจแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์
สมาคมแพทย์โรคหัวใจแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์
คณะอนุกรรมการมาตรฐานการช่วยชีวิต ภายใต้สมาคมแพทย์โรคหัวใจแห่งประเทศไทยหน่วยงานที่รับผิดชอบ มูลนิธิหัวใจ แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์
เริ่มโครงการ เดือนกุมภาพันธ์ 2554


หลักการและเหตุผล
การเสียชีวิตแบบปัจจุบันทันด่วนเกิดได้บ่อยด้วยสาเหตุต่างๆ เช่นโรคหัวใจ การแพ้ยา การแพ้พิษ แมลงกัดต่อย ถูกไฟฟ้าดูด สำลักควันไฟ หรือจมน้ำ ผู้ป่วยเหล่านี้จะหยุดหายใจ และหัวใจหยุดเต้นกะทันหัน ซึ่งถ้าปล่อยไว้นานเกิน 4 นาที แม้จะช่วยให้ฟื้นคืนชีพขึ้นมาได้ ก็จะเกิดสภาวะการตายของสมองอย่างถาวร ฉะนั้นปฏิบัติการช่วยชีวิตที่กระทำอย่างทันที และถูกต้อง จะช่วยให้สมอง ไม่ขาดเลือด และสามารถกลับมาฟื้นเป็นปกติได้

เนื่องจากอุบัติการณ์เหล่านี้ มักเกิดนอกโรงพยาบาล เช่นที่บ้าน หรือที่ทำงาน ฉะนั้นการช่วยชีวิตอย่างทันท่วงทีนั้น จึงต้องเป็นการช่วยจากญาติมิตร คนใกล้ชิด หรือผู้ร่วมงาน ประชาชนทั่วไปที่อยู่ในสถานการณ์ ซึ่งบุคคลเหล่านั้นจำเป็นที่จะต้องสามารถทำการปฏิบัติการช่วยชีวิตขั้นพื้น ฐานได้อย่างถูกต้อง

ปี 2554 นี้ เป็นปีมหามงคลเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 84 พรรษา เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติในโอกาสอันสำคัญยิ่งนี้ มูลนิธิหัวใจแห่ง ประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ซึ่งสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเป็นองค์ประธานร่วมมือกับ คณะอนุกรรมการโครงการมาตรฐานการช่วยชีวิต ภาย ใต้สมาคมแพทย์โรคหัวใจแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ จัดให้มี “โครงการ ฝึกอบรมการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ หัว ภูมิพลอดุลยเดช เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ครบ 84 พรรษา 5 ธันวาคม 2554 ” เพื่อประโยชน์ของประชาชนทั่วไป และถวายเป็นพระ ราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อฝึกอบรมประชาชนทั่วไป ที่ไม่มีความรู้เรื่องการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐานจำนวน 8,400 คน ให้สามารถปฏิบัติการช่วยชีวิตผู้ป่วย และผู้ประสบภัยเบื้องต้นได้ทันท่วงที และปลอดภัย
กิจกรรมดังกล่าวนับเป็นสิ่งดีงามที่ มูลนิธิหัวใจแห่งประเทศไทยฯ และสมาคมแพทย์โรคหัวใจแห่งประเทศไทยฯ เล็งเห็นว่าการช่วยชีวิตคนนั้นเป็นบุญกุศลอย่างสูงสุด หากผู้เข้าร่วมการฝึกอบรมได้นำความรู้ที่ได้รับไปช่วยชีวิตคนเพียง 1-2 คน ก็ถือได้ว่าเป็นการถวายพระราชกุศลอย่างล้ำเลิศทั้งเป็นความสำเร็จอย่างน่า ภาคภูมิใจของทุกท่านที่มีส่วนร่วมในโครงการ

วัตถุประสงค์
เผยแพร่ให้ประชาชนไทยได้รู้จักการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน ( CPR ) มากยิ่งขึ้น และสามารถทำการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐานอย่างมีทักษะที่ถูกต้องตามมาตรฐานของ สมาคมแพทย์โรคหัวใจแห่งประเทศไทยฯ และมีประสิทธิภาพในการช่วยชีวิตกับบุคคลที่เกิดภาวะหัวใจหยุดเต้นกะทันหัน

เป้าหมายที่ตั้งไว้
ฝึกอบรมประชาชนทั่วไป จำนวน 8,400 คนโดยให้มีความรู้ความสามารถดังนี้
1. สามารถฝึกอบรมปฏิบัติการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐานกับหุ่นได้ถูกต้องตามมาตรฐานสากล
2. ฝึกสอนขั้นตอนและวิธีการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐานได้ตามมาตรฐานสากล

ประโยชน์ที่จะได้รับ

1. กระตุ้นเตือนให้ประชาชนตระหนักรู้และเข้าใจ ในการมีส่วนร่วมในการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน
2. ร่วมใจสร้างกิจกรรมถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

คุณสมบัติและจำนวนผู้เข้าอบรม
นักเรียน นักศึกษา ประชาชนทั่วไปที่ให้ความสนใจในการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน จำนวน 8,400 คน

วิธีการฝึกอบรม
เป็นลักษณะการฝึกอบรมเป็นแบบหมู่คณะ ซึ่งการอบรมแบบหมู่คณะจะเหมาะสำหรับหน่วยงาน ( โรงเรียน โรงพยาบาล และองค์กรต่างๆ ) ที่ต้องการฝึกอบรมบุคลากร 50-60 คนขึ้นไป (อบรมได้รอบละ20-30 คน) ลักษณะการฝึกอบรม เป็นการบรรยาย และฝึกอบรมโดยฉายวีซีดี สาธิตขั้นตอนและวิธีการทำการปฏิบัติการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน ควบคู่กับฝึกหัดกับหุ่นโดยผู้ที่เข้ารับการฝึก 1 คน ต่อ หุ่น 1 ตัว ใช้เวลาในการฝึกอบรม 1-2 ชั่วโมง สามารถใช้ฝึกอบรม ได้ 5-6 รอบ/วัน (ผู้เข้ารับการฝึกอบรม 20-30 ท่าน/รอบ) ทางโครงการจะจัดแพทย์ และพยาบาลเข้าไปแนะนำการฝึก

ระยะเวลาในการฝึกอบรม
1 ชั่วโมง/ รอบๆละ 20 - 30 คน

สถานที่
ตามสถานที่ ที่กำหนด

จำนวนผู้รับการฝึกอบรม
50- 60 คนขึ้นไป

ค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรม
ไม่มีค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรม หรือถ้าต้องการทำบุญบริจาคในโครงการฯ
สามารถบริจาคได้ตามจิตศรัทธา

ผู้ที่ผ่านการฝึกอบรมได้รับ
1. คู่มือการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน สำหรับประชาชนทั่วไป
2. ประกาศนียบัตร จากสมาคมแพทย์โรคหัวใจแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์
</td></tr></tbody></table>

 

น่าสนใจดีคะไม่รู้ว่าที่ภูเก็ตมีไหม
สอบถามได้ที่ไหนช่วยบอกหน่อยคะ
ขอบคุณ

 

น่าจะต้องรวมตัวกัน ได้จำนวน แล้วจัดหาสถานที่ให้เขานะครับ

เป็นลักษณะของการเชิญวิทยากร จากมูลนิธิหัวใจ เพื่อไปอบรมให้เราครับ

 

มีสาวให้ฝึกผายปอดหรือเปล่าครับถ้ามีผมไปด้วย...ขออภัยหน้าหม้อไปหน่อย...555