มาดูสมเด็จกัน

ในห้อง 'วิธีดูพระเครื่อง-เครื่องรางของขลัง' ตั้งกระทู้โดย wasabi san, 25 พฤศจิกายน 2009.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. ทรงกลด999

    ทรงกลด999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,284
    ค่าพลัง:
    +1,510
    ขอยกมืออภิปรายหน่อยนะครับท่านประธานยา

    พิมพ์ที่ปรากฏเส้นกรอบนี้มีทั้งที่เป็นพิมพ์จริงและถอดพิมพ์ครับเพราะที่ถอดพิมพ์ของพิมพ์นี้ก็มี ถอดพิมพ์พิมพ์อื่นที่ทำได้ไม่เนียนก็มี ส่วนพิมพ์นี้จริงๆก็มีครับ ผมได้พิสูจน์จาก
    1.นำไปเข้าร่วมสัมมนา ของคุณอัครเดชที่โรงแรมรัตนโกสิน ผ่านทั้งความเก่ามวลสาร ตามหลักโบราณคดี และมีการทดสอบพุทธคุณโดยกรรมการอีกหลายท่านรวมทั้งคุณเก่ง กำแพง ผ่านหมดทุกด่าน ทุกกรรมการ แถมกรรมการจับพระไม่วางจำนวนหลายครั้ง และบอกว่าไปเจอของที่สาบศูนย์ไปนานมาได้อย่างไร ซึ่งวันที่ไปมีพระคนอื่นอีกหลายๆองค์ไม่ผ่านครับ ที่ผมลงรูปนะผ่านหมดครับ ถ้าไม่ผ่านผมไม่ลงรูปเด็ดขาด กลังบาปถ้าใครเชื่อผมแล้วไปหามาแขวนแล้วโชคร้ายอันนี้ผมถือว่าเป็นความผิดของผมอย่างเต็มๆครับ
    2.เป็นพิมพ์เดียวกับที่เคยลงหนังสือพระเก่ามากๆเช่นของคุณประชุม กาญจนวัฒน์ตรงนี้น่าจะเกิดการทำปลอมขึ้นตั้งแต่ตอนนั้น
    3.มีการงอกของมวลสารบางอย่างขอเรียกมวลสารก่อนนะครับเพราะต้องพิสูจน์ซ้ำ ดูบริเวณแขนด้านซ้ายองค์พระสังเกตุเม็ดสีขาวขุ่นจำนวน4-5เม็ด ปัจจุบันเพิ่มขึ้นอีก1เท่า และมีการเพิ่มที่บริเวณอื่น ปล.ใครเจอพระลักษณะนี้ส่งรูปมาดูครับหรือส่งองค์จริงมาให้ผมก็ได้ผมน้อมรับด้วยความยินดีครับฟรีนะครับ
    4.ผมให้คนเล่นพระยุคก่อนหลายท่านตรวจสอบแล้วเป็นของจริงเป็นมีคนคนหนึ่งคนเดียวที่ผมเคยเล่าให้คุณยาฟังครับว่าเคยเหมาพระบางขุนพรมจำนวนหลายร้อยองค์ตั้งแต่สมัยกรุแตกครั้งแรกยืนยันว่ามีจริง ถามหลังไมค์ได้ครับ
    5.ผมเดินหาในหลายๆสนามแล้วโดยเฉพาะที่ท่าพระจันทร์แหล่งใหญ่ในการทำพระใหม่ ใช้เวลา 2 ชั่วโมงไม่เจอครับเนื้อหาอย่างนี้พิมพ์อย่างนี้เจอแต่ที่เรียกว่าขอบล่างฟันหนูเต็มไปหมด แต่ขอบสามชั้นเนื้อหาแบบนี้ไม่เจอครับหรือผมอาจตาถั่วก็ได้ครับใครเจอตรงไหนบอกด้วยครับ
    6.วิธีอืนในการตรวจสอบจะเรียนให้ทราบอีกครั้งเช่นนำพระไปผ่านเครื่อง CT Scan
    ผมพิจารณาบวกเหตุผลแล้วไม่อยากให้พระลักษณะนี้สูญหายไปจึงนำรูปมาให้ลงดูครับ
     
  2. yamie

    yamie เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    1,640
    ค่าพลัง:
    +1,520
    สวัสดีคะ คุณทรงกลด

    แม้เรียกว่าประธานซะงั้น ฟังแล้วดูแปลกๆ เหมือนประชดเลยนะคะ :':)'(
    เรื่องพระสมเด็จของคุณทรงกลดนั้น จากการวิเคราะห์ของยา ยายึดตามแบบของคุณวาซาบิ ที่สอนให้ดูพิมพ์ และ ความคิดเห็นตามตำราที่อ่านศึกษา แต่หากผิดพลาดต้อขออภัยด้วยนะคะ ( เดี๋ยวจะนำภาพมาอ้างอิง เหตุผลที่ยาได้วิเคราะห์ นะคะ )


    ### เรียน พี่วาซาบิ , พี่เอ๊กเมนคะ ### ตอนนี้ยากำลังเดือดร้อนนนช่วยด้วยยยยย :':)'( ฮือฮือฮือ เป็นไงเป็นกันหละนะคะ ยาจะพูดกับพี่ตรงๆเลยนะคะ ว่าตำราที่พี่สอนให้เพื่อนสมาชิกดูนั้น ถูกต้องหรือไม่ ลักษณะเส้นกรอบแม่พิมพ์เหล่านี้ที่เกิดสองสามเส้น นั้นเป็นการถอดพิมพ์ จากบล๊อกพระสมเด็จแท้มา จริงหรือไม่อย่างไร ช่วยอธิบายเหตุผล ได้ไหมคะ จะให้ยาไปค้นคว้า ทำยังไงยาจะรู้ว่าข้อมูลไหนถูกต้องคะ แล้ว ยาจะทราบได้อย่างไรคะ ว่าพี่ให้ข้อมูลยามานั้น ไม่ .---แม่นเท็จ----
    อย่างที่ยาบอกไว้ ในหัวข้อก่อนหน้านี้ ในที่สุด คุณทรงกลด ได้ช่วยกระชับความรู้สึกนึกคิด เข้ามาอีกคะ ตามที่คุณทรงกลดอ้างอิง จากตำราต่างๆ จากอาจารย์อัครเดช จาก ชื่อต่างๆ แล้วยาจะอ้างอิงชื่อ พี่วาซาบิ กับชื่อพี่เอ๊กเมนได้ไหมหละคะ ( แล้วพี่ทั้งสอง จะให้ยาแสดงความคิดเห็นเช่นไรคะ ไม่รู้ว่ายาอ้างอิงอาจารย์วาซาบิ กับอาจารย์เอ๊กเมน ดีไหม ง้าาา แล้วเขาจะเชื่อยาไหมคะ อืม ก็ไม่รู้เหมือนกัน เข้าใจคะว่าจำเป็นต้องปกปิดข้อมูล แล้วยาจะทำไงทีนี้ เกาหัวแง๊กๆ เลย สงสัยต้องค้นหาข้อมูล มาช่วยตัวเองก่อนเสียแล้วหละทีนี้ ว่าข้อมูลยาผิดพลาดหรือไม่ )

    ขอแสดงความคิดเห็นถึงพี่วาซาบิ และ พี่เอ๊กเมนผ่านตรงนี้ด้วยนะคะ ยาเองก็ไม่ได้มีชื่อเสียงพอจะอ้างอิง ว่าเป็นเซียน แม่นพระสมเด็จ ตำราถูกต้อง แล้วยาเองก็ยังเป็นเด็กตัวเล็กๆน่าร๊ากกก อีกต่างหาก หุหุหุหุ พูดไปก็ไม่มีใครเชื่อหรอกคะ เสียงยายังเบาเกินไป ตะโกนไม่ดัง แต่ถ้าพี่เอ๊กเมนและพี่วาซาบิ ไม่มาชี้แจงข้อเท็จจริง เหล่านี้ หรือ ให้เหตุผลและหลักการวิเคราะห์ที่ถูกต้อง สิ่งที่พี่ทำมาทั้งหมดตั้งแต่หน้า 1 ก็เท่ากับ 0 นะคะ เพราะ จะกลายเป็นข้อมูลที่ยังให้ความมั่นใจไม่ได้ ซึ่งหากพี่ๆทั้งสองปล่อยให้น้องๆและเพื่อนสมาชิก ค้นคว้ากันเอาเอง ต่อไปในแง่ของกรอบสามเส้นสี่เส้น ก็จะได้คำตอบแบบผิดๆ สิ่งที่เรียนรู้มา ทำให้เดินผิดทาง เสียเวลา และ หลงทาง อีกด้วย
    กลับมาเถิดคะพี่ ยาขอร้องแล้วอ้อนวอนแล้วนะคะ ฮือฮือฮือ :'( อย่าให้ยาต้องหลงทางอีกเลยคะ ยาทั้งอ่านและค้นคว้า จนหน้าตายิ่งเด็กขึ้นเรื่อยๆ หัวก็ฟู ขี้ตาก็เขรอะ แล้ว อะไรหละคะ คือ ข้อมูลที่ใช่ สงสารตัวเองจริงๆ ทำยังไงจะเข้าใจว่า อะไรกันคือสิ่งที่ถูกต้อง ถ้ายาหลงทาง ยาหลงทางหมดแน่เลยคะ สิ่งที่ยาค้นคว้าและเข้าใจ จะทำให้ยาหลงผิด กลายเป็น-- แม่นเท็จ-- แน่เลย
    ยาจะรอด้วยความหวังว่าพี่จะกลับมาให้คำตอบยาเร็วๆวันนะคะ ยาเชื่อมั่นพี่ทั้งสองว่าไม่ได้ทิ้งไปไหน และ จะไม่ทำให้เพื่อนสมาชิกเดินหลงทาง ถ้าพี่ๆเมตตากรุณาช่วยชี้แจงเหตุผลที่น่าจะเป็นจริง ให้ทุกคนได้เข้าใจ ยาจะอ้อนวอน ท่านสมเด็จโต ให้ประทานพระสมเด็จ สวยๆ ให้พี่ๆ คนละองค์เลยนะคะ เดี๋ยวยาสวดมนต์ขอท่านสมเด็จโตคะ
    --------- ยาไปหาข้อมูลมารอพี่วาซาบ กับพี่เอ๊กเมนก่อนหละ นะคะ----

     
  3. yamie

    yamie เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    1,640
    ค่าพลัง:
    +1,520
    ข้อมูลที่ติดตามอ่าน ร่ำเรียนศึกษา

    ( เหตุผลที่ยาได้ชี้แจงคุณทรงกลดไว้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า ข้อมูลใครถูกหรือผิดนะคะ ยานำข้อมูลมาลงย้อนดูสิ่งที่ได้วิเคราะห์ไปเช่นนั้น เพราะอะไร )

    ดูเส้นขอบพิมพ์ซ้ายมือเรา

     
  4. yamie

    yamie เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    1,640
    ค่าพลัง:
    +1,520
    นี่ก็อีกความเห็นหนึ่งเกี่ยวกับพระถอดพิมพ์

    ดูแต่รูปแรกนะคะ เกี่ยวกับที่พี่วาซาบิ วิเคราะห์ไว้ ถ้าเป็นถอดพิมพ์จะเป็นพระกรอบ ซ้อน ทำให้ยากแก่การพิจารณา

     
  5. yamie

    yamie เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    1,640
    ค่าพลัง:
    +1,520
    การพิจารณา(พระสมเด็จ)ทางพิมพ์

    ขอขอบพระคุณข้อมูล
    จากหนังสือ ตำรับพรหมรังสี โดยกรมท่า สำนักงานนิตยาสารอุณมิลิต

    การพิจารณา(พระสมเด็จ)ทางพิมพ์
    พิมพ์พระนั้นถือเป็นข้อยุติค่อนข้างลำบาก ทั้งนี้เพราะพิมพ์ต้นแบบที่เป็นไม้มะเกลือหรือหินก็ตามทีเมื่อกาลเวลาผ่านมาร้อยปีแล้วนั้น ย่อมชำรุดเสียหายไปสิ้นไม่อาจหามาสร้างได้อีก การปลอมพระจึงเริ่มขึ้นด้วยกรรมวิธีหลักสามอย่างด้วยกันคือ
    ๑.กดด้วยพิมพ์องค์พระแท้ๆที่ลึกๆแล้วถอดพิมพ์ออกมา
    ๒.แกะแม่พิมพ์ใหม่เลียนแบบของเดิม
    ๓.เอาเนื้อพระตระกูลสมเด็จที่จัดๆเช่นของหลวงปู่ปั้นพิมพ์ทรงกรวย พระสมเด็จ พระสมเด็จวัดสุทัศน์พิมพ์เจดีย์องค์หนาๆหรือแม้แต่หลวงปู่อ้น หรือพระหลวงปู่ภูมาแกะเป็นพระสมเด็จ
    การถอดพิมพ์ มีข้อเสียก็คือพิมพ์ที่ได้ออกมาจะมีความตื้นกว่าพิมพ์จริงและมีความหดเล็กน้อย
    เมื่อนำมาถอดออกมาเป็นแม่พิมพ์แล้วกดแม่พิมพ์ใหม่พิมพ์จะตื้นและหดฝ่อลงไป กรรมวิธีนี้เป็นกรรมวิธีการปลอมพระรุ่นครูปู่ ซึ่งพระสมเด็จปลอมยุคนั้นจะหดฝ่อและเล็กแม้แต่ของลุงจำรัส(ถึงแก่กรรมไปแล้ว)ที่ว่าถอดพิมพ์แน่ๆก็ยังหด แต่พูดถึงเนื้อแล้วมีความแห้งอยู่มากเพราะการปลอมมีนับถึงปัจจุบันได้๕๐กว่าปีแล้ว
    นักปลอมพระรุ่นต่อมาได้พัฒนาใช้พาราฟินในการถอดพิมพ์ไขพาราฟินนี้ เมื่อถูกความร้อนจะอ่อนนุ่ม แล้วเอาพระจริงๆกดลงไปพิมพ์จะพอดีกับองค์พระก็เกิดปัญหาอีก เพราะถ้าเอาไปพิมพ์ออกมาเป็นองค์พระ พระที่ได้ออกมาก็จะหดและเล็กไปอีก จึงนำไปผ่านกระบวนการทางเคมีให้พิมพ์ที่ได้บวมและขยายออกใหญ่กว่าของจริงเล็กน้อย ในปัจจุบันได้มียางถอดพิมพ์ที่มีคุณภาพดี สามารถถอดพิมพ์ได้เกือบมากกว่า๙๐เปอร์เซ็นต์ หากผู้ถอดมีฝีมือและผสมยางถอดพิมพ์ได้สัดส่วนเมื่อพิมพ์ได้แล้วปัญหาพิจารณาที่แท้จริงจึงเป็นเนื้อหาของพระนั่นเอง
    การพิจารณาบางประการในพระสมเด็จสำหรับผู้สนใจ(เบื้องต้น) พระพิมพ์ใช่ เนื้อใช่ อายุใช่ แต่ไม่ใช่ อาจพบในการวิเคราะห์ทางจิต
    หากจะสร้างพระพิมพ์สมเด็จขึ้นมาให้ถูกต้องทั้งทรงพิมพ์นิยม มวลสารเนื้ออายุของพระพิมพ์ที่นักเขียนบางท่านกล่าวว่าของจริงกับของปลอมจะไม่เหมือนกันมันก็พิจารณาง่ายมากๆ สำหรับฝีมือระดับอนุบาลแหละครับ พอมาถึงฝีมือระดับพระกาฬดูชักจะซึมๆกันไปเพพาระโดนแล้วร้องไม่ออก เป็นทำนอง๕๐-๕๐และมีการพลาดพลั้งอยู่ ส่วนหนึ่งเพราะตนเองไม่มีคุณสมบัติในการตรวจสอบทางปรจิตเป็นเครื่องประกอบพิจารณาการตัดสินชี้ขาดลงไป พอมาถึงระดับเหนือโลกีย์คือ เหมือนแท้ทั้งพิมพ์ทั้งเนื้อจะดูไม่ออกเด็ดขาด เจอมามากพอสมควรที่ว่าเนื้อใช่ทรงพิมพ์ใช่ แต่ไม่ได้บวชครับ(หมายความว่าอธิฐานจิต) พระใหม่ๆที่ออกขายตามศูนย์ที่มีดาษดื่นมีพิธีดีอย่างงั้นยังงี้ แต่ขายไม่หมดซักทีก็เข้าข่ายอาจเป็นไปได้ที่พระเข้าพิธีขายหมดหรือยังทำไม่ครบจำนวนแต่นำบางส่วนเข้าพิธีก่อนพอของเดินก็เสริมจากโรงงานเดิม ซึ่งยังสดอยู่รายการนี้ดูยังไงก็แท้ เรื่องพระสมเด็จก็เช่นกันแม้พระเข้าพิธีจะมีมาก แต่ของที่ไม่เข้าพิธีก็มี การตรวจสอบก็ทำได้ยากเพราะต้องหาผู้ที่เชื่อถือได้จริงๆ พระบางองค์ไม่มีอิทธิคุณเลยก็หลงใช้กันอยู่ และส่วนของจริง ถูกปฎิเสธผลักทิ้งไปก็มากทั้งนี้เนื่องจากของแท้บางประการมีอยู่มากขายไม่ได้ราคานั่นเอง การพิจารณาพระสมเด็จนอกเหนือจากที่วงการนิยมควรพิจารณาไปตามธรรมชาติ ไม่ต้องเล่นดนตรีตามโน้ตคือเล่นตามแบบที่ท่องจำว่าผิดจากนี้ไม่ใช่พระเนื้อผงอะไรจะปรากฏร่องรอยได้มากขนาดนั้น ขนาดเหรียญจากโรงงานกษาปณ์เองก็เหอะยังมีบางจุดที่ผิดกันบ้างเลย การดูพระให้เป็นคือต้องรู้ธรรมชาติที่แท้จริง แบบแผนมีพอยึดแต่ไม่ถึงตายตัว เอาความจริงเข้าว่าดีกว่า แบบนักดนตรีไทยก็สามารถเล่นเป็นเพลงได้ แบบเพลงไทยเดิมในสมัยโบราณ แบบต่อเพลงไม่มีโน้ต หากคิดจะดูพระสมเด็จเป็นดีที่สุดคือ ดูให้ครบถ้วนทุกคุณลักษณะ คือเนื้อหา พิมพ์ทรง(ดูว่าเป็นพิมพ์ที่แกะจากในยุคนั้นหรือพลังด้วยจะดีมากซึ่งไม่ใช่จะให้ไปนั่งเพ้อแบบสร้างวิมานขายฝันนะ ในปัจจุบันนี้ไม่ใช่เรื่องที่ถูกตำหนิว่าเพ้อฝันแต่ประการใดเพราะนักวิทยาศาสตร์ได้ค้นคว้าเรื่องพลังงานทางจิตก้าวหน้าไปมาก จนสามารถทำเครื่องมือตรวจวัดได้ถึงขั้นถ่ายภาพออกมาให้เห็นได้ที่เรียกว่าภาพเกอร์เลี่ยน พลังงานที่ห่อหุ้มองค์พระนี้เรียกว่าAura ซึ่งจะขยายความในบทความท้ายหนังสือฉบับนี้ถือว่าประกอบความรู้เพิ่มเติม
    เรื่องการพิจารณาทางจิตนี้ โบราณก็เคยได้ยินว่าอย่างท่าน พระอาจารย์ขวัญ(วิสิฎโฐ) วัดระฆังโฆสิตารามผู้เป็นศิษย์ของเจ้าคุณธรรมถาวรศิษย์ใกล้ชิดเจ้าประคุณสมเด็จ ได้กล่าวถึงเรื่องการพิจารณาพระสมเด็จตอนหนึ่งว่า เมื่อหยิบพระมาพินิจด้วยอาการสำรวมจิตจะเกิดญาณหยั่งรู้ว่าเป็นพระสมเด็จแท้ และท่านพระครูธรรมราช ฐานานุกรมในสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์(ม.ร.ว.เจริญ อิศรางกูร ณ.อยุธยา) เป็นนักสะสมพระเครื่องรางของขลังชนิดต่างๆผู้หนึ่ง โดยเฉพาะมีความชำนาญในการดูพระสมเด็จ
    ว่ากันว่า ไม่ต้องหยิบพระมาพิจารณา เพียงมองดูห่างๆก็สามารถบอกได้ถูกต้องว่าเป็นพระสมเด็จแท้หรือมิใช่เรื่องเช่นนี้เป็นไปได้๒นัยคือ
    *ญาณวิเศษ
    *การรู้ตามธรรมชาติ เห็นสิ่งนั้นที่เจนตาเรียกว่าชำนาญในการพิจารณา
    มีการวิเคราะห์ไปตามความเห็นของคนส่วนมากที่ยึดถือผู้นำในวงการพระเครื่องท่านใดท่านหนึ่งเป็นมาตรฐาน โดยที่ท่านผู้นั้นมักจะเป็นนักเขียนที่มีสำนวนน่าฟังให้เหตุผลโดยที่ในชีวิตไม่เคยคลุกคลีกับการใช้ยางรัก ไม่เคยสร้างพระ ไม่เคยลบผงวิเศษ ไม่เคยเป็นพิธีกรในการพุทธาภิเษกพระ และอะไรที่เกี่ยวกับการสร้างพระก็มักใช้ความคิดของตนเองเป็นเครื่องตัดสิน(เพราะไม่เคยไปลองทำดู)แต่มีภาษีกว่าชนชาวพระเครื่องอื่นๆอยู่บ้างเพราะอยู่ในสื่อมวลชนจึงเกิดการคล้อยตามโดยไม่หันมาพิจารณาในคัมภีร์กาลามสูตรข้อหนึ่ง ซึ่งพระพุทธองค์ทรงตรัสไว้แน่ชัดว่า
    “อย่าเชื่อโดยการบอกเล่า อย่าเชื่อว่ามีอยู่ในตำราอาจมีการผิดพลาดได้”
    ซึ่งว่าเขาเหล่านั้นมีเพียงสัญญาเท่านั้น (สัญญาในที่นี้เป็นศัพท์ทางธัมมะหมายถึงการหมายรู้ ดูจำมิใช่ข้อตกลงตามภาษากฎหมาย) พบบทความเรื่องพระสมเด็จในนิตยาสารเล่มหนึ่งนานมาแล้วผู้เขียนคงเป็นมือเก่ากำหนดระดับชั้นของเซียนพระ เล่าว่ามีพระสมเด็จองค์หนึ่งใครๆดูก็ว่าเป็นของแท้นำไปพิจารณาทางนามหรือทางใน๑๐อาจารย์ก็ว่าแท้แต่พอวันดีคืนดีพระว่าแท้ ตกหักจึงทราบว่าเป็นของเก๊ แล้วก็ไม่ได้เขียนวิเคราะห์ต่อไปว่าอะไรเป็นอะไรเป็นอะไร คนอ่านก็งงไม่ทราบจะยึดหลักอะไรตกลงอาศัยแว่นขยายเป็นปัจจัยพิจารณาความศักดิ์สิทธิ์ของพระกระมัง บางรายสงสัยว่าการพิจารณาทางนาม(พลังจิต)อาจเป็นสิ่งเหลวไหล ไม่ทราบว่าจะเขียนไปทำไมเพราะถ้าไม่เชื่อแล้วจะหาพระเครื่องมาห้อยคอทำพระแสงด้ามอะไร?
    ข้อพิจารณาตัดขอบพระสมเด็จ
    การตัดกรอบหรือขอบพระสมเด็จกล่าวกันมาว่า มักใช้ตัดด้วยไม้ไผ่ที่เหลาคมแทนมีดคล้ายจะเป็นเคล็ดเกี่ยวกับอาถรรพณ์เวทย์และกล่าวว่ารอยที่ถูกตัดนั้นมักจะมีวัสดุสีดำแกมเทาฝังอยู่อันเกิดจากไคลเสาตลุงช้างเผือกหรือไคลประตูวัง ซึ่งมวลสารเหล่านี้หากคุลีการเข้ากับเนื้อพระแล้วจะไม่ปรากฏในส่วนของขอบข้างจะต้องปรากฏอยู่ทั่ว ที่เกิดขึ้นนี้อาจเป็นการทาด้วยขี้ผึ้งดำและทิ้งไว้นานปีจนจับเนื้อพระและแห้งตัวประการหนึ่ง อีกประการหนึ่งคนสมัยก่อนชอบนำพระมาลูบตามใบหน้าเพื่อจะเกิดความมันแลดูสวย ได้เคยพบใช้ขี้ผึ้งดำทาพระสมเด็จเก็บไว้นานปีต้องนำมาล้างแทบแย่ก็เคยมีให้พบเห็น แต่เมื่อมาพบพระสมเด็จที่ไม่ผ่านการใช้คราบดำตามขอบจะไม่เกิดขึ้นเมื่อไปตั้งทฤษฎีเลื่อนลอยเข้าเช่นนี้ความสงสัยในการพิจารณาพระสมเด็จจะเกิดประสบความยุ่งยากขึ้นด้วย ไปยึดติดความรู้ความรู้ที่ไม่มีพื้นฐานข้อเท็จจริงรองรับและพระสมเด็จที่ถูกฝนขอบเพื่อสะดวกในการเข้าตลับของบุคคลที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็เคยพบ แต่เมื่อใช้แว่นขยายส่องูจะปรากฏเห็นมวลสารได้ชัดเจนในบางพิมพ์ สำหรับท่านผู้อ่านซึ่งไม่เคยสร้างพระพิมพ์อาจมองไม่เห็นภาพพจน์ที่ชัดแจ้งก็ไม่ต้องไปใส่ใจอะไร และก็ไม่เป็นการตายตัวที่ว่าพระพิมพ์สมเด็จที่มีการตัดขอบก็มีอยู่ให้พิจารณาเอกลักษณ์อื่นเป็นส่วนประกอบอย่าไปคิดว่าหากพระสมเด็จองค์ใดไม่มีการตัดขอบข้างและไม่มีวัสดุดำแกมเทาปรากฏด้านข้างจะเก๊ไปหมด แยกวัดแยกสกุลออกให้หมดซึ่งอาจต้องใช้ความชำนาญและเห็นมามากหนังสือฉบับนี้ไม่ได้สอนให้ดูพระแต่เสนอแง่คิดที่อาจสวนกระแสความเชื่อที่มีอยู่ โดยให้หันมาดูข้อเท็จจริงกันบ้างเท่านั้น เพื่อมิให้ด่วนปฏิเสธมรดกที่ท่านเจ้าประคุณสมเด็จได้สร้างไว้ให้อนุชนรุ่นหลัง
    ไม่นานมานี้เกิดมีผู้ไม่เคยสร้างพระพิมพ์ตั้งทฤษฎีขึ้นว่าพระพิมพ์สมเด็จมีการตัดขอบจากด้านหลังขึ้นสู่ด้านบน(หน้า)เช่นนี้ก็มีคนเชื่อและยกย่องให้เป็นผู้เชี่ยวชาญด้วยซ้ำไป เรื่องนี้ต้องพิจารณาจากข้อเท็จจริงกล่าวคือมวลสารของพระสมเด็จเมื่อโขลกจนได้ที่เป็นชั่วโมง จะจับตัวเป็นมาตรฐานลำบากถ้าเกิดความเปียกสูงเนื้อพระจะมีการหดตัวเมื่อถูกตากแห้งแล้ว ถ้ามวลสารนั้นได้สัดส่วนไม่เปียกและแห้งเกินไปเนื้อพระจะตึง หากนำมวลสารที่ผสมบดแล้วออกจากครกมีจำนวนมากเกินไป ก็จะโดนลมและเริ่มแข็งตัวซึ่ง ขืนชักช้าจะพิมพ์ไม่ทันเนื้อผงมวลสารประกอบด้วยผงปูนเป็นตัวเชื่อมหลักจะแห้งแล้วจะเกิดการแยกตัวแต่ไม่ใช่การแตกลายงาตามธรรมชาติ ดังจะเห็นจากพระชนิดอื่นซึ่งใช้กรรมวิธีแบบโบราณก็มีลักษณะเช่นกัน ทีนี้พระสมเด็จที่จะเกิดขอบนูนขึ้นมาน่าจะเป็นเทคนิคของผู้ตัดพิมพ์ท่านใดท่านหนึ่งไม่ใช่ฝีมือเจ้าประคุณสมเด็จแน่ เพราะท่านไม่ได้สร้างพระเพียงองค์เดียว มีผู้ร่วมสร้างไม่น้อยกว่า๑๔คณะตามที่กล่าวมานั้นในการตัดพิมพ์เป็นแน่นอนที่สุด คือต้องมีการผสมค่อนข้างเปียก เมื่อนำออกจากพิมพ์แล้วต้องรอไว้ชั่วระยะหนึ่ง ขืนรีบตัดพิมพ์พระที่เนื้อเปียกนั้นเป็นต้องเละแน่ อันนี้เป็นเทคนิคส่วนหนึ่งที่จะแนะนำเนื่องจากคนวิเคราะห์ตรงนี้ได้ต้องเป็นพระที่ไม่ใช่การซื้อขาย แต่หมายถึงต้องลองทำตามดูว่าที่เขา
     
  6. yamie

    yamie เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    1,640
    ค่าพลัง:
    +1,520
    ว่ากันนั้น มันจริงหรือไม่? ไม่ใช่นั่งเขียนตามๆกันไปซึ่งก็มีไม่มากที่พบว่าที่เขียนนั้นมันขัดกับหลักข้อเท็จจริงคือ การตัดปาดเฉียงลงประมาณ๑๕-๒๐ องศา แล้วปาดขึ้นแต่งเป็นขอบนูนเหนือกรอบกระจกตามเส้นกำหนดขอบในพิมพ์พระ จะแลดูคล้ายการตัดจากส่วนล่างขึ้นสู่ส่วนบน ตามธรรมดาพระพิมพ์ต้องวางลงบนพื้นราบหากหยิบขึ้นตัดขอบพระจะหักทุกองค์(เนื้อยังเปียกอยู่) ครั้นไม่หยิบยกขึ้นตัดขอบก็ต้องแทงทะลุพื้นกระดานที่หนาหรือพื้นกระจกขึ้นมาจะไม่เกินไปหรือ? และถ้าพบพระสมเด็จองค์ใดไม่มีลักษณะเช่นที่ว่าจะตีความอย่างไร? อันนี้ย่อมเป็นส่วนเฉพาะของคนตัดพิมพ์คนใดคนหนึ่งเท่านั้น ถ้าความนึกคิดเพี้ยนกันออกไปอีก การพิจารณาพระสมเด็จแทนที่จะรวบรัดดูกลับเกิดปัญหาไม่รู้จบสิ้นอย่างแน่นอน เพราะไม่มองข้อเท็จจริงว่าทำได้หรือไม่ไม่ได้
    การตัดขอบพระสมเด็จโดยการคว่ำหน้าพระนั้นใครจะเชื่อต่อไปก็ไม่ขัดใจแต่โดยธรรมชาติ การตัดต้องใช้แรงกดเอาคว่ำหน้าลงเนื้อพระยังเปียกก็เละตุ้มเปะเท่านั้นเอง ในการพิจารณาพระสมเด็จนั้น ยังมีเทคนิคเรื่องการตัดขอบและพิจารณาขอบอีกมากอย่างดูการยุบตัวที่ขอบว่าพระมีอายุหรือไม่ ที่นำมาประกอบในหนังสือเล่มนี้ก็พอเป็นกระสายเท่านั้น อย่างการพิจารณาการตัดขอบถ้ารู้ลึกก็สามารถพิจารณาได้ด้วยว่าพระสมเด็จองค์นั้นเจ้าประคุณสมเด็จ(โต)ได้ตัดขอบเองหรือไม่? อันนี้เป็นลักษณะเฉพาะที่น้ำหนักมือของใครของมันครับที่จะทิ้งร่องรอยให้ได้ศึกษาพิจารณา ในระดับอนุบาลก็ดูรอยปาดก่อนว่า เป็นรอยตัดภายนอกพิมพ์มิใช่การตัดแบบในพิมพ์เช่นการทำพระเครื่องปัจจุบัน
    *การตัดขอบเป็นสิ่งที่ต้องพิจารณาอีกประการหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นตัดจากหลังพระไปหน้าพระ หรือหน้าพระไปหลังพระ ด้านแรกที่มีดตัดหรือตอกกดลงจะเรียบเป็นเส้นแนวชัดเจนเพราะคมมีดหรือตอก จากนั้นระยะหนึ่งจึงจะเกิดรอยครูดที่อาจเห็นเป็นแนว รอยตัดข้างนี้ใช้พิจารณาได้ทั้งกรรมวิธีทำพระพิมพ์องค์นั้นรวมถึง ความเก่าที่รอยดังกล่าวไม่มีความคม และพิจารณาและพิจารณาการยุบตัวของพระบางส่วนได้จากรอยตัดนี้รวมถึงพิจารณามวลสารที่ปรากฏในองค์พระอื่นๆ
    ขอพิจารณาแป้งโรยพิมพ์
    เป็นที่ชื่นชมนักหนาของนักนิยมสมเด็จที่จะคุยฟุ้งน้ำลายแตกกระจายว่า พระสมเด็จองค์นั้นองค์นี้ยังปรากฏคราบแป้งโรยพิมพ์อยู่เลยวิเศษแท้ เป็นพระสภาพเดิมไม่ได้ใช้ สมบูรณ์อย่างนั้นอย่างนี้ อย่าว่าแต่แป้งโรยพิมพ์เลยครับ คนกดพิมพ์พระบางคนไปใช้น้ำมันตั้งอิ๊วทาแม่แบบแทนน้ำมันใส(แก้ว) ทีนี้แหละล้างเท่าไหร่ก็ไม่ออกแทบเสียพระไปเลย*ความจริงทางปฏิบัติโดยทั่วไปเขาใช้น้ำมันงาเสก(บางทีใช้น้ำมันแก้ว)ทาแม่พิมพ์ซึ่งเป็นน้ำมันชนิดใสเพื่อความหล่อลื่นและคล่องตัวในการถอดพระออกจากพิมพ์ แป้ง โรยพิมพ์นั้นบังคับใช้อย่างเดียวคือการปั้นขนม แม่แบบจะเป็นไม้แกะร่องตามความยาวของแม่แบบ แล้วใช้พิจารณาการกดพิมพ์พระมันก็ไม่ถูกเรื่อง ความลื่นจะกลายเป็นความหนืดความเหนอะ องค์พระจะไม่คมชัดเพราะแป้งยัดตามซอกและส่วนละเอียดของแม่แบบ และเมื่อแป้งโรยพิมพ์เกิดการเปียกขั้นจะติดองค์พระขึ้นมา เมื่อกดพระไม่ถึงส่วนสุดของแม่แบบ และคราบแป้งกั้นอยู่ เมื่อนำพระมาล้างจะเกิดรอยขรุขระ เว้าแหว่งแลไม่งามตาในด้านสุนทรียภาพเคยพบพระพิมพ์ หลวงปู่ภู วัดอิทรวิหารชนิดที่ใช้แป้งแทนน้ำมัน นานปีเข้าแป้งจะจับตัวแข็งและล้างออกอยาก เมื่อล้างออกจะปรากฏรอยขรุขระคล้ายแมลงแทะเล็ม และก็พบในพระสมเด็จวัดระฆังบางรุ่นเนกัน แป้งเกาะกันเป็นแผ่นเลยทีเดียว*ส่วนคราบแป้งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาตินับเป็นปฏิกิริยาทางเคมี จะปรากฏในพระพิมพ์สมเด็จที่แก่ปูนที่เนื้อหนึกแกร่งเนื้อหนึกนุ่มไม่ค่อยพบเป็นปฏิกิริยาระหว่างปูนกับน้ำมัน และการเก็บพระสมเด็จแบบคนรู้นก่อนๆเรื่องของคราบแป้งก็คิดทำคราบขึ้นโดยใช้แป้งโรยตัวเด็กโรยลงที่องค์พระ โดยทำให้องค์พระมีความเปียกชื้นก่อนเพื่อให้แป้งจับตัวและหากใช้ผ้าสักหลาดอ่อนๆเช็ดเบาๆจะเกิดเงาสว่างทำให้พระแลสวยเช่นนี้ก็มีอยู่ไม่น้อย นับเป็นคราบเทียม โปรดอย่าหลงใหลในเรื่องของคราบแป้งกันอีกเลย......
    ข้อพิจารณาน้ำหนักพระสมเด็จ
    เป็นที่เชื่อกันว่าพระพิมพ์ของเจ้าประคุณสมเด็จฯ จะต้องมีน้ำหนักพระ ต้องตึงมือ บางคนบอกเล่าต่อกันมาเท่านั้นเพราะต้องคำนึงความจริงประการหนึ่งว่าพระพิมพ์สมเด็จเป็นเนื้อผสมแต่ละครกแต่ละกลุ่มก็แตกต่างกันข้อพิจารณาตรงนี้คงใช้จำกัดได้ในส่วนพระวัดระฆังและวัดบางขุนพรหมตามที่วงการนักนิยมพระเครื่องเช่าหาด้วยราคาแพงเท่านั้น น้ำหนักพระสมเด็จนี้ไม่มีเหตุผลรับรองที่แท้จริงมีนักพระเครื่องพยายามหาเหตุผลเมื่อค้นหารเหตุผลไม่ได้ อ.ตรียัมปวายฯท่านจึงตั้งข้อสังเกตขึ้นว่า น่าจะเป็นเพราะพลังกฤตยาคมที่ท่านเจ้าประคุณสมเด็จท่านเสกไว้จนทำให้พระพิมพ์เกิดมีน้ำหนัก ความจริงพลังจิตเป็นนามไม่น่าจะเกิดน้ำหนักได้ ซึ่งค้านกับบันทึกของท่านอาจารย์ขวัญ วิสฎโฐ แห่งสำนักวัดระฆังฯ กล่าวตรงกันข้ามว่าพระสมเด็จมีน้ำหนักจะต้องเบาและเหตุที่พระสมเด็จเกิดมี
    ำหนักเป็นเหตุปัจจัยอื่นแอบแฝงอยู่ ลองคิดดูว่าการใช้พระสมเด็จในสมัยโบราณไม่มีการบรรจุตลับหรือปิดกั้นด้วยแผ่นพลาสติก พระสมเด็จสมเด็จเป็นพระดูด วับเหงื่อได้มากจึงทำให้เกิดน้ำหนักและ ลองนำพระสมเด็จที่ไม่ผ่านการใช้แช่ลงในน้ำจันทน์ จนอิ่มตัวแล้วนำมาชั่งน้ำหนักของพระจะเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัวและพระสมเด็จที่มีการเสริมสวยผ่านการแช่น้ำมันหอมก็มีอยู่มาก นี่คือน้ำหนักอันแท้จริงของพระสมเด็จจะว่าหนักก็ได้ จะว่าเบาก็ได้ อย่าไปตั้งทฤษฎีเข้าโดยไม่ยอมทดลองเลยครับ
    หากไม่เล่นตามกรอบของวงการ เนื้อพระก็มีหลายสูตร ก็ไม่จำเป็นเสมอไปเรื่องน้ำหนัก ที่เขาใช้นั้น ก็เป็นการวัดมาตรฐานสากลตามที่วงการเขาเล่นซื้อขายกันที่จำกัดแบบเพียงไม่กี่พิมพ์เท่านั้น

    --- อ้างอิงมาจากเวป pantown.com/board.php?id=39974&area=3&name=board1&topic=24&action=view---

    [ เอามาให้อ่านแล้วลองวิเคราะห์ตามเล่นๆนะคะ จริงหรือไม่นั้น สุดแล้วแต่วิจารณญาน แต่ละบุคคล นะคะ ]

    สรุป ข้อมูลทั้งของพี่วาซาบิ หรือ คุณเอ๊กเมน หรือ แม้แต่ยาเองนั้น ท่านต้องใช้วิจารญาน วิเคราะห์ ด้วยตัวท่านเองนะคะ ( เพราะยาเองก็ไม่ทราบข้อมูลไหนที่ถูกต้อง ยาไม่เคยเห็นการเปิดกรุ คะ เลยไม่ทราบสภาพกรุเป็นยังไง ก็ได้แต่อ่านและศึกษาเอาจากข้อมูลต่างๆเช่นกันคะ )
     
  7. daew9

    daew9 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +0
    พระ

    พระสมเด็จของผมเป็นไงบ้างครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • พระ.JPG
      พระ.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.2 MB
      เปิดดู:
      262
  8. daew9

    daew9 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +0
    พระสมเด็จของผมเป็นยังไงบ้างครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • พระ.JPG
      พระ.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.2 MB
      เปิดดู:
      173
  9. yamie

    yamie เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    1,640
    ค่าพลัง:
    +1,520
    ขอบคุณมากคะ คุณ Daew ที่นำภาพมาให้ยาชมลักษณะขอบหรือเส้นกรอบเป็นชั้น ที่เกิดจากการปาดหลัง แล้วมวลสารมารวมกันเป็นกำไรเนื้อ หรือ เนื้อเกินเป็นชั้น ๆมาข้างหน้า ยาไม่ขอแสดงความคิดว่าดีหรือไม่นะคะ ยาชอบตรงเนื้อปลิ้น ความคิดเห็นส่วนตัวคะ
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • พระ.JPG
      พระ.JPG
      ขนาดไฟล์:
      247.5 KB
      เปิดดู:
      2,206
  10. yamie

    yamie เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    1,640
    ค่าพลัง:
    +1,520
    ขอบคุณมากคะ คุณ Daew ที่นำภาพมาให้ยาชมลักษณะขอบหรือเส้นกรอบเป็นชั้น ที่เกิดจากการปาดหลัง แล้วมวลสารมารวมกันเป็นกำไรเนื้อ หรือ เนื้อเกินเป็นชั้น ๆมาข้างหน้า ยาไม่ขอแสดงความคิดว่าดีหรือไม่นะคะ ยาชอบตรงเนื้อปลิ้น ความคิดเห็นส่วนตัวคะ
    [​IMG]
     
  11. ATake

    ATake Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    105
    ค่าพลัง:
    +34
    พิมพ์แปลกดีนะครับ มีด้านหลังกับข้างไหมครับ
     
  12. ATake

    ATake Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    105
    ค่าพลัง:
    +34
    [​IMG][​IMG]

    องค์นี้ดูมีอายุพอสมควรนะครับ น่าจะแท้เกจิ
     
  13. ATake

    ATake Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    105
    ค่าพลัง:
    +34
    เคยได้ยินสมเด็จ 3 ขอบมาเหมือนกันครับ ไม่ได้ออกวัดระฆังแต่ถอดพิมพ์วัดระฆัง เค้าว่าปู่โตร่วมปลุกเสกด้วย ขอโทษที่ผมจำวัดไม่ได้ ข้อมูลนี้ไม่ยืนยันนะครับเป็นความเชื่อส่วนบุคคล
     
  14. ATake

    ATake Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    105
    ค่าพลัง:
    +34
    [​IMG][​IMG]

    ยุคหลังแน่นอน อาจจะเป็นเกจิไม่ทราบที่ครับ
     
  15. ไพรัฐลาภสุนทรพิทักษ์

    ไพรัฐลาภสุนทรพิทักษ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    276
    ค่าพลัง:
    +516
    พระสมเด็จพิมพ์6ชั้น ผู้เชี่ยวชาญช่วยหน่อยครับ<!-- google_ad_section_end -->
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_2759.jpg
      IMG_2759.jpg
      ขนาดไฟล์:
      124.6 KB
      เปิดดู:
      136
    • IMG_2757.jpg
      IMG_2757.jpg
      ขนาดไฟล์:
      138 KB
      เปิดดู:
      88
  16. bigkuma

    bigkuma เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    496
    ค่าพลัง:
    +1,961
    ส่งมาให้ดูบ้าง

    [​IMG][​IMG]
     
  17. bigkuma

    bigkuma เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    496
    ค่าพลัง:
    +1,961
    ส่งมาให้ดูบ้างครับ

    เพื่อจะดูดีครับ ขอบคุณครับ
     
  18. daew9

    daew9 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +0
    ขอบคุณยาที่แสดงความคิดเห็นครับ ผมจะลงด้านข้างกับหลังอีก ผมลองเปิดหน้าที่3ดูพระพิมพ์ ทรง คล้าย กับพระของคุณ a ho si รบกวนคุณยา คุณวาซาบิ ช่วยดูให้หน่อยนะครับ
     
  19. Tonypwm

    Tonypwm Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    148
    ค่าพลัง:
    +87
    1.เรื่องขนาดนี่ไม่มีการวัดกำหนดทรงเล็ก กลาง ใหญ่ จริงหรือครับผมหลงเข้าใจผิดมานาน แต่ที่สงสัยอย่างทำไมพระสมเด็จจึงมีขนาดไม่เท่ากันเลยบางองค์ก็ใหญ่เช่น 2.5 x 4.0 cm. พอบางองค์เล็กหน่อยขนาด 2.4 x 3.7 cm. อย่างนี้เป็นต้น.......ซึ่งผมก็ได้ลองวัดมาแล้วเป็นจริงครับแต่ที่ผมพบบ่อยคือขนาด 2.4 x 3.7 cm โดยประมาณครับ
    2.เรื่องรอยปูไต่ นี่ยังไม่เคลียร์เท่าไรเลย เป็นไปได้ผมขอรับคีย์เวริด์ หลังไมค์นะครับ ช่วยชี้แนะด้วยครับ
    3.ขอบคุณล่วงหน้าครับ
    ปล. ตอนนี้ผมได้ครอบครองพระสมเด็จเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับถึงจะเป็นพิมพ์ที่เซียนเมิน......แต่ผมไม่สนหรอกครับผมสนใจในพุทธคุณและมวลสารเป็นหลักครับ.... โดยเฉพาะมวลสารนี่ส่องแล้วเพลินดีจริงๆครับยิ่งตอนนี้ได้กล้องส่องขนาด 60x มาด้วยแล้วนี่โอ้โฮส่องทุกวันจนไม่อยากจะวางเลยครับมวลสารครบสูตร....เนื้อก็หนึก.....หนุ่ม....ใส....ตามแบบฉบับพระสมเด็จครับ... อิอิอิ
     
  20. Tonypwm

    Tonypwm Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    148
    ค่าพลัง:
    +87
    ถถถถถถถถถถถถถูก.......ต้องนะครับ แหมคุณ newnxt นี่รอบรู้ดีมากครับ
    ดีจริงๆครับกระทู้นี้จะได้มีผู้รู้ผู้เชียวชาญเยอะๆจะได้ปรึกษาหารือกันได้ไม่มีที่สิ้นสุดครับ
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...