องค์กรชาวพุทธฯยืนยันตั้งธนาคารพระพุทธฯ

"กลุ่มต่าง ๆต่างจ้องเพื่อที่ล้มล้างรัฐบาลได้ตลอดเวลาอยู่แล้ว เช่น กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กลุ่มสสร.เก่าที่ร่างรัฐธรรมนูญไม่ให้มีพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ มีน.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง เป็นต้น มีการจัดตั้งกลุ่มเพื่อการคัดค้านไม่ให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ กลุ่มนักวิชาการในมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ที่ก่อหวอดหลายเรื่อง และอีกหลายกลุ่มที่จ้องหาหนทางเพื่อทำลายเสถียรภาพของรัฐบาลเพื่อให้มีอายุสั้นเข้า และถ้าผ่านรัฐบาลนี้ไปต่อรัฐบาลอื่นความหวังของชาวพุทธคิดหรือว่าจะมีหนทางในการสนับสนุนชาวพุทธ"

จากข้อความข้างบนนี้ ก็เป็นที่บ่งบอกได้ชัดเจน ไม่ต้องบรรยายใดๆ เลยว่า
บุคคล ทั้งสอง คนนี้ ไม่น่าจะใช่ ชาวพุทธ ทั้งกาย วาจา และใจ และ ทั้งใบสัมมโนครัว!

เท่าที่เคยได้ยินมา จากผู้หลัก ผู้ใหญ่ ที่ได้สนทนากับมาบ้าง

ก็พอจะทราบว่า นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง นับถือศาสนาคริตส์ หน่ะครับ
ส่วนอีกรายนึง นาวาตรี ประสงค์ สุ่นศิริ ไม่ได้นิยมชมชอบศาสนาใดๆ สักเท่าไรนะครับ
เรียกอีกอย่างนึง ก็จะรู้กันว่า พวกที่ไม่มีศาสนานี้ เขาเรียกว่าอะไร = ? แต่ผมคงไม่กล่าวหาเขา ทั้งๆ ที่ไม่มีหลักฐาน นะครับ

ผมเคยได้ยิน นาวาตรี ประสงค์ สุ่นศิริ เคยกล่าว เรื่องนี้ในสภา สสร. ณ รัฐสภาว่า
"ไม่เห็นจำเป็นจะต้อง ร่างกฏหมายในรัฐธรรมนูญ เลยว่า ศาสนาพุทธ
เป็นศาสนาประจำชาติ เพราะประชาชนชาวไทย เขาก็รู้อยู่แล้วว่า
นับถือศาสนาพุทธ มาตั้งนานแล้ว"

ซึ่งผมคิดว่า คนที่มีการศึกษา อย่างนาวาตรี ประสงค์ สุ่นศิริ ไม่น่าจะนำคำพูดนี้มา
พูดในรัฐสภา ออกสื่อ ต่อหน้าชาวพุทธ ทั้งประเทศไทย เลย
เพราะ ในส่วนตัวผมเองนั้น ไม่เห็นจะเสียหายอะไรเลย ที่จะเขียนกฏหมายในรัฐธรรมนูญ ว่า "ศาสนาพุทธ เป็นศาสนาประจำชาติไทย"

นี่แสดงว่า บุคคลทั้งสอง คน ที่ได้กล่าวมานี้ น่าจะไม่ใช่ชาวพุทธ
น่าจะเป็น คนที่น่าเสื่อมศรัทธา กับคนทั้งประเทศ จะมากกว่า

 

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมานั้น ภัยภายนอกของพระศาสนาในประเทศไทยเรานั้น....เจอมาอย่างต่อเนื่อง...

๑.ลดคาบเรียนพระพุทธศาสนา
๒.ลบคำว่าพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติออกจากกฏหมาย
๓.ลบจุดบอกศาสนาในบัตรประจำตัวประชาชน
๔.เรียกร้องให้ทำที่ละหมาดในโรงเรียนวัด (ผ่านไปแล้ว และมีสิทธิทำได้ทุกที่ทั่วไทย)
๕.เรียกร้องให้คลุมฮิญาบในโรงเรียนวัด(ถ้าทำได้ก็ต้องทำได้ทุกโรงเรียนวัดทั่วไทย)
๖.ใหม่ล่าสุด กฏหมายอิสลาม....

ช่วงหลังนี้ยิ่งมีข่าวทำลายชื่อเสียง บ่อยๆ เช่น กรณีดัดแปลงพระไตรปิฏกของวัดพระธรรมกาย และในกรณี แม่ชีเปิดกรรม ซึ่งเมื่อสอบถามไปทางต้นสังกัด ล้วนแต่เป็นข่าวโคมลอยทั้งนั้น.....ไม่เป็นความจริง....แต่ผลที่ได้รับคือ ชาวพุทธผู้บริโภคข่าว ด่ากันทั่วประเทศทั่วบ้านทั่วเมือง.....เพราะนิสัยปกติพื้นฐานของคนไทยที่ไม่ชอบช่วยกันสนับสนุนแต่ขอขัดขาขอติไว้ก่อนสุดท้ายไม่ทำอะไรเลย.....ไม่มีความสามัคคีกัน..เป็นเหตุให้เป็นประเทศกำลังพัฒนาจนถึงปัจจุบัน....บุคคลภายนอกจึงได้ช่องตักตวง...ได้คืบเอาซอก...

อย่างไรผมก็เห็นด้วยกับ พรบ. ชุดนี้....ก่อนที่จะเข้าถึงกลียุคแห่งพระพุทธศาสนาในไทย ล้างไปให้หมดเลยทั้งพระปลอมหรืออะไรก็ตาม และร่วมกันรักษาพระพุทธศาสนาโดยรวม...ให้สมกับประเทศไทยเป็นเมืองพุทธ...และเป็นศูนย์กลางของพระพุทธศาสนาโลก...

 

อนุโมทนาสาธุครับ
การดำเนินการอะไรก็ตาม ถ้ามีความตั้งใจมีเจตนาเพื่อที่จะเป็นประโยชน์และส่งเสริมความรุ่งเรืองแห่งบวรพุทธศาสนา ผมเห็นดีเห็นงามด้วยทั้งนั้นแหละครับ ไม่เห็นประโยชน์ที่จะคัดค้าน

พระพุทธศาสนาจะดำรงค์อยู่ได้ก็ต้องประกอบด้วยหลายภาคส่วน ทุกภาคส่วนย่อมเือื้ออำนวยส่งเสริมแก่กันและกันอยู่ในที เหมือนต้นไม้ที่ต้องมีเปลือกกระพี้และมีแก่นจึงดำรงค์อยู่ได้

ในสังคมพุทธศาสนา ผู้ปฏิบัติที่มุ่งหวังเอาแก่นธรรม ปฏิบัติเพื่อให้ถึงความวิมุติหลุดพ้นแต่เพียงอย่างเดียวโดยไม่สนใจไม่ยุ่งเกี่ยวกับความเป็นไปในทางโลกอย่างนั้นก็เป็นสิ่งที่จำเป็นที่ต้องมีและน่าอนุโมทนา แต่แม้อย่างนั้นการที่จะปฏิบัติได้โดยสะดวก ก็ย่อมต้องอาศัยปฏิบัติอยู่ในดินแดนแคว้นถิ่นที่เื้อื้ออำนวยแก่การปฏิบัิติถึงจะเป็นไปได้

ลองนึกภาพดู ถ้าคุณหวังตั้งใจที่จะปฏิบัติเพื่อให้ถึงความวิมุติหลุด แต่บังเอิญคุณไปเกิดอยู่ในประเทศแถบตะวันออกกลางที่สภาพแวดล้อมต่างๆ ไม่เือื้อแก่พระพุทธศาสนาเลย อย่างนั้นการปฏิบัติมันจะเป็นไปได้หรือไม่จะยากลำบากเพียงใดลองนึกดูเอาเถอะ เมื่อสภาพแวดล้อมต่าง ๆ มันไม่เอื้ออำนวยแก่มรรคผลนิพพานเลย

จึงต้องมีคนอีกประเภทหนึ่งหรืออีกกลุ่มหนึ่ง ที่ต่อสู้เรียกร้องผลักดันเรื่องต่าง ๆ เกี่ยวกับพระพุทธศาสนาอยู่นี้แหละ ถ้ามองให้ลึกก็จะเห็นประโยชน์ เป็นความพยามที่จะดำรงค์รักษาสภาพแวดล้อมอันเหมาะสมแก่การปฏิบัติเพื่อมรรคผลนิพพานนี้เอาไว้ให้นานที่สุด เป็นการเอื้อเฟื้อแก่สมณะชีพราห์มและผู้ปฏิบัติทั้งหลายที่มุ่งหวังความวิมุติหลุดพ้นซึ่งจะสามารถปฏิบัติได้โดยสะดวกใจไร้กังวล

บางคนอาจจะมองเป็นเรื่องไร้สาระ ไม่ช่วยให้เกิดมรรคผลนิพพานแต่อย่างใดเอาเวลาไปฏิบัติดีกว่านั้น ก็อยากให้เข้าใจอย่างนี้ ...แม้จะเป็นเพียงเปลือกแต่ก็ห่อหุ้มแก่นไว้อยู่

 

แผ่นดินไทยนี้ถูกถวายเป็นพุทธบูชาแล้วมิใช่หรือ

อันตัวพ่อ นี่ชื่อว่า พระยาตาก<O</O​

ทุกข์ทนยาก กอบกู้ชาติ พระศาสนา<O</O​

​

ถวายแผ่นดิน เป็น พุทธบูชา<O</O​

​

แด่พระศาสนา สมณะพระพุทธโคดม<O</O​

​

ให้ยืนยง คงถ้วน ห้าพันปี<O</O​

​

สมณะพราหมณ์ชีปฏิบัติให้พอสม<O</O​

​

เจริญสมถะวิปัสสนาพ่อชื่นชม<O</O​

​

ถวายบังคมรอยบาทพระศาสดา<O</O​

​

คิดถึงพ่อ พ่ออยู่ คู่กับเจ้า<O</O​

​

ชาติของเรา คงอยู่ คู่พระศาสนา<O</O​

​

พุทธศาสน์ อยู่ยง คู่องค์กษัตรา<O</O​

​

พระศาสดา ฝากไว้ ให้คู่กัน ​

​

 

กด like เลยครับ ประเทศไทยเป็นเมืองของศาสนาพุทธ ชนชาติอื่นศาสนาอื่นเข้ามาอาศัยก็ควรจะพอใจเท่านั้น ไม่ควรที่จะมายึดครอง บรรพบุรุษคุณยังอยู่กันได้ ทำไมมายุคคุณถึงคิดจะยึดครองประเทศเค้ายึดครองศาสนาเค้า ศาสนาไทยมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุค และมีพระพุทธศาสนาอยู่คู่บารมี ให้อยู่อย่างสงบ มาตลอด ที่เพิ่งมาปวนเพราะค่านิยมของตะวันตกก็ยุคไวรุ่นยุคหลังนี่แหละ รวมทั้งเศรษฐกิจต่าง เมื่ออ่อนแรงก็มีช่องให้ศาสนาอื่นเข้ามาแทรก เพราะชาวไทย ชาวพุทธยังไม่รักยังไม่ช่วยเหลือกัน เราชาวพุทธควรช่วยเหลือกัน ควรรักกัน

 

อนุโมทนากับทุกๆท่านที่มีใจคิดธำรงปกป้องพระพุทธศาสนาครับ ช่วยกันค้ำจุนให้ศาสนาพุทธของเราดำรงคงอยู่ ๕๐๐๐ ปี อย่างที่คนรุ่นก่อนๆได้ทำนุบำรุงกันมา
มิฉะนั้นแล้ววิญญาณบรรพบุรุษวีรชนของเราจะสาปแช่งได้ว่าเป็นลูกหลานจัญไร