เว็บพลังจิต ประมวลภาพงานออกนิโรธครูบาวิฑูรย์ ชินวโร 25 ก.ย.54 P.10

ในห้อง 'ท่องเที่ยว - อาหารการกิน' ตั้งกระทู้โดย ญ.ผู้หญิง, 17 สิงหาคม 2011.

  1. ญ.ผู้หญิง

    ญ.ผู้หญิง ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,419
    ค่าพลัง:
    +26,932
    ขอบคุณกูรูตัวจริงเป็นอย่างสูง น้อมรับความผิดพลาด และทำให้รู้ว่าบางครั้งก็เชื่อข้อมูลจากคุณกูเกิ้ลไม่ได้เลยทีเดียว :'(
     
  2. ญ.ผู้หญิง

    ญ.ผู้หญิง ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,419
    ค่าพลัง:
    +26,932
    นับถอยหลังอีก ๑๖ วัน
    กับงานเข้านิโรธกรรมครูบาวิฑูรย์ ชินวโร-งานอายุวัฒนมงคล ๙๐ ปี หลวงปู่ครูบาอ่อน

     
  3. ญ.ผู้หญิง

    ญ.ผู้หญิง ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,419
    ค่าพลัง:
    +26,932
    อานิสงส์การทำบุญ

    [​IMG]

    ทำบุญต้องเลือกเนื้อนาบุญ


    พระพุทธองค์ทรงกล่าวว่าทำบุญให้ทานต้องเลือกเนื้อนาบุญ เหมือนทำนาปลูกข้าวในที่นาที่ดินดีอุดมสมบรูณ์ ก็ย่อมให้ผลผลิตข้าวมาก ชึ่งทรงกล่าวไว้ว่า การทำบุญที่จะได้บุญมากขึ้นอยู่กับ

    ๑. ผู้ให้มีเจตนาบริสุทธิที่จะตัดความตระหนี่ออกจากใจ
    การทำบุญที่หวังผลใน ลาภ ยศ สรรเสริญ ที่จะตามมา จะได้บุญน้อยและการทำบุญเพื่อหวังที่จะสั่งสมบุญติดตัวทุกภพชาติ ก็ถือว่าไม่ผิดแต่ประการใด แม้แต่พระพุทธองค์ก็บำเพ็ญบารมีสั่งสมบุญมาหลายล้านๆชาติจนบุญบารมีต็มเปี่ยม จึงตรัสรู้เข้าพระนิพพาน

    ๒. ของที่ให้ทานบริสุทธิ์
    ได้มาด้วยความบริสุทธิ์ ไม่ได้ลักขโมย โกง หรือปล้นเขามา

    ๓. ผู้รับทานของเราบริสุทธิ์
    ยี่งใจบริสุทธิ์มากเท่าไหร่เรายี่งได้บุญมากขึ้นตาม พระพุทธองค์ทรงกล่าวไว้ว่า

    ทำบุญกับสัตว์เดรฉาน ๑๐๐ ส่วนจะได้บุญ ๑,๐๐๐ เท่า
    ทำบุญกับคนทุศีลไม่มีศีล ๑๐๐ ส่วนจะได้บุญ ๑๐,๐๐๐ เท่า
    ทำบุญกับคนมีศีล ๑๐๐ ส่วนจะได้บุญ ๑๐๐,๐๐๐ เท่า
    ทำบุญกับพระศีล ๒๒๗ ข้อ ๑๐๐ ส่วนจะได้บุญ ๑๐๐,๐๐๐ เท่า
    ทำบุญกับอริยบุคคล ได้บุญมาก ไม่สามารถคำนวนได้
    ทำบุญกับพระอรหันต์ ยี่งได้บุญมากขึ้นไปอีกมาก ๆ
    ทำบุญกับพระพุทธเจ้า ยี่งได้บุญมาก ๆๆๆๆๆๆๆ คำนวณไม่ได้

    ฉะนั้นการทำบุญทำทาน เราจะได้บุญจากข้อ ๑และ ๒ แล้ว
    ผู้รับทานของเราไปแล้ว นั้นเป็นตัวแปรสำคัญที่จะทำให้ได้บุญมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับสภาวะของใจของผู้ที่มารับทานของเราด้วย เช่นใส่บาตรพระ ๒ องค์ องค์หนึ่งศีลไม่ครบ อีกองค์ศีลครบถ้วนสมบรูณ์ บุญที่เราจะได้ก็ไม่เท่ากันแล้ว ศีลครบย่อมมีใจที่บริสุทธิ์กว่า ได้บุญมากกว่า ชึ่งไม่มีใครมาเป็นผู้กำหนด เป็นไปเองด้วยอานุภาพของบุญ

    การทำบุญแบ่งได้เป็น
    ๑. ทำบุญสงเคราะห์โลก
    เช่น สร้างโรงเรียน โรงพยาบาล ให้ทุนการศึกษา ให้ขอทาน สงเคราะห์ญาติพี่น้องเป็นต้น ได้บุญ แต่ได้จากตัวเราเจตนาบริสุทธิ์ ๑ ส่วน ของที่ให้บริสุทธิ์ ๑ ส่วน และได้จากผู้มารับทานนั้น ๑ ส่วน เพราะจิตใจของเขายังไม่บริสุทธิ์ ยังมีกิเลสเต็มหัวใจอยู่ นอกจากว่าคนไหนมีศีล มีความบริสุทธิ์ของใจมากกว่าคนอื่นเราถึงจะได้รับบุญเพิ่มขึ้น

    ๒. การทำบุญทำทานในพระพุทธศาสนา
    ทำบุญกับพระ เช่น สร้างศาลา โบสถ์วิหาร ตักบาตร ถวายสังฆทาน ได้บุญมากกว่าและมากขึ้นตามส่วนของใจที่บริสุทธิ์ของผู้ที่มารับทานนั้น ๆ

    ที่กล่าวมานี้เป็นสี่งที่เราชาวพุทธควรจะรู้และเข้าใจ จะได้ทำบุญให้ได้บุญมาก สะสมติดตัวเราไปข้ามภพข้ามชาติ ชีวิตหลังความตายของเราขึ้นอยู่กับบุญเท่านั้น มีบุญมาก บุญก็จะพาเราไปเสวยสุขในสุคติโลกสวรรค์ไม่มีบุญหรือมีบุญน้อยก็ไปพบกับความทุกข์ในอบายภูมิ

    นี่เป็นหลักพื้นฐานในการทำบุญในศาสนาพุทธ ไม่เกี่ยวกับหลักของศาสนาอื่น ๆ ชึ่งไม่ต้องมาโต้แย้ง เพราะคำสอนความเชื่อไม่เหมือนกันอยู่แล้ว

    ขอบคุณที่มา : ทำบุญต้องเลือกเนื้อนาบุญ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 สิงหาคม 2011
  4. ญ.ผู้หญิง

    ญ.ผู้หญิง ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,419
    ค่าพลัง:
    +26,932
    [​IMG]
    <center> พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง)


    </center>
    การทำบุญใส่บาตร

    ผู้ถาม
    “การที่เราทำบุญใส่บาตรตามหน้าบ้านกับพระที่เรารู้จักตามวัด กับไปทำที่วัด อันไหนจะมีอานิสงส์มากกว่ากันเจ้าคะ”

    หลวงพ่อ “คือว่าการใส่บาตรตามหน้าบ้านไม่เฉพาะเจาะจง พระอะไรมาก็ใส่ อย่างนี้ก็เป็นสังฆทาน ทีนี้ไปใส่บาตรตามพระที่ชอบใช่ไหม”


    ผู้ถาม “ไม่ใช่ชอบค่ะ คือว่าศรัทธาค่ะ”
    หลวงพ่อ “ชอบกับศรัทธาก็ครือกันละ ถ้าศรัทธาฉันตั้งแต่ ๔ องค์ขึ้นไป เป็นสังฆทานมีอานิสงส์เหมือนกัน แต่ถ้าหากท่านฉันตั้งแต่ ๑ องค์ถึง ๓ องค์ อย่างนี้เป็น “ปาฏิปุคคลิกทาน”

    ผู้ถาม “มีอานิสงส์มากไหมคะ”
    หลวงพ่อ “มีโยม ถ้าเป็นปาฏิปุคคลิกทาน ถ้าวัดกันตามลำดับแย่นะ ไล่เบี้ยตั้งแต่ให้ทานกับคนไม่มีศีล จนถึงพระอรหันต์มีอานิสงส์ไม่เท่ากัน แต่จะพูดสรุปโดยย่อว่า

    ถวายทานกับพระอรหันต์ ๑๐๐ ครั้ง มีผลไม่เท่ากับถวายทานกับพระพุทธเจ้า ๑ ครั้ง

    ถวายทานกับพระพุทธเจ้า ๑๐๐ ครั้ง มีผลไม่เท่ากับถวายสังฆทาน ๑ ครั้ง

    และ ถ้าถวายสังฆทาน ๑๐๐ ครั้ง มีผลไม่เท่ากับถวายวิหารทาน ๑ ครั้ง คือสร้างวิหาร มีการก่อสร้าง เช่น สร้างส้วม ศาลาการเปรียญ กุฏิ โบสถ์ วิหาร เป็นต้น

    การถวายสังฆทาน ๑ ครั้งในชีวิต และถวายด้วยจิตที่บริสุทธิ์มีศรัทธาแท้ พระพุทธเจ้าทรงกล่าวว่า ผลของสังฆทานนี้จะดลบันดาลให้แก่บุคคลผู้ถวายเกิดไปทุกชาติ ขึ้นชื่อว่าความยากจนเข็ญใจไม่มี ในแดนใดที่เต็มไปด้วยความทุกข์ยากลำบากขัดสน คนที่ถวายสังฆทานแล้วจะไม่เกิดในที่นั้น ผลที่ให้ไปไกลมาก ท่านกล่าวว่า แม้แต่พระพุทธญาณเองก็ยังไม่เห็นผลที่สุดของการถวายสังฆทาน

    คำว่า “ไม่เห็นที่สุดของการถวายสังฆทาน” หมายความว่า แม้แต่บุคคลผู้เป็นเจ้าของสังฆทาน บำเพ็ญบารมีแล้ว แล้วเกิดไปอีกกี่แสนชาติก็ตาม จนกระทั่งเข้าพระนิพพาน อานิสงส์นั้นก็ยังไม่หมด นี่เป็นอำนาจของการถวายสังฆทาน

    ฉะนั้น การถวายทานเป็นส่วนบุคคล กับถวายเป็นสังฆทาน อานิสงส์มันต่างกันหลายแสนเท่า แล้วก็ยังมีอีกเวลาหนึ่ง ถ้าพระออกจากสมาบัติ นี่คูณหนักเข้าไปอีกไม่รู้เท่าไร

    ทีนี้การถวายสังฆทานแก่พระมีผลไม่เสมอกันอยู่อย่างหนึ่งคือ หมายความว่าถวายทานแก่พระที่มีจิตกำลังฟุ้งซ่านไปด้วยอำนาจนิวรณ์ 5 ประการ อย่างนี้เราถวายกี่หมื่นกี่แสน อานิสงส์มันก็ไม่มาก

    ถ้าหากว่าถวายแก่ท่านผู้ปฏิบัติกรรมฐาน ถ้าหากเข้าถึงจิตบริสุทธิ์ เรื่องบริสุทธิ์แค่ไหนก็ช่าง อย่างน้อยที่สุดก็มีขณิกสมาธิ อุปจารสมาธิ บางท่านก็เข้าถึงฌานสมาบัติ บางท่านที่เป็นพระอริยเจ้า ก็เข้าถึงผลสมาบัติ ถ้าถวายทานกับท่านที่ออกจากนิโรธสมาบัติ หมายความว่าให้คนเดียวนะ ก็ให้ผลปัจจุบันทันด่วน ได้ผลวันนั้นเลย”


    ผู้ถาม
    “แล้วอย่างการใส่บาตร โดยเราลงมือใส่เอง กับให้ลูกจ้างคือเด็กของเราใส่แทน อย่างไหนจะได้บุญมากกว่าคะ”

    หลวงพ่อ “เราไปไม่ได้แต่ให้คนอื่นไป ได้บุญเท่ากัน แต่เราใส่เอง เราเกิดความปลื้มใจ อันนี้ได้กำไรอีกนิด แต่ผลของทานมันเสมอกัน”


    ผู้ถาม “เวลาเราใส่บาตรไปแล้ว ถ้าหากว่าพระไม่ได้ฉันอาหารของเรา เราจะได้บุญไหมคะ”
    หลวงพ่อ “บุญมันเริ่มได้ตั้งแต่คิดว่าจะให้แล้วนะ พระจะฉันหรือไม่ฉันไม่ใช่ของแปลก คือการให้ทาน ตัวให้นี่มันตัดความโลภ และตัวให้นี่กันความจนในชาติหน้า อันดับรองลงมา “ทานัง สัคคโส ปานัง” ทานเป็นบันไดให้เกิดในสวรรค์

    ทีนี้พอเริ่มให้ปั๊บ มันเริ่มได้ตั้งแต่เราตั้งใจ การตั้งใจน่ะมันตัดสินใจเด็ดขาดแล้วนะ เช่น คิดว่าพรุ่งนี้จะใส่บาตร ข้าวขันนี้เราไม่กินแน่นอน คิดว่าเราจะไม่กินเอง ตั้งแต่วันนี้คิดว่าจะใส่บาตร นี่บุญมันเกิดตั้งแต่เวลานี้ แต่พอถึงพรุ่งนี้ต้องใส่จริง ๆ นะ อย่านึกโกหกพระไม่ได้นะ ไม่ใช่แกล้งนึกทุกวัน ๆ คิดว่านึกได้บุญ เลยไม่ได้ใส่บาตรสักที นี่ดีไม่ดีฉันพูดไปพูดมาเสียท่าเขานะ แต่คิดว่าจะทำจริง ๆ นะ คือพรุ่งนี้จะใส่บาตรแน่ ๆ แต่ว่าวันนี้เกิดตายก่อน นี่ได้รับ ๑๐๐ เปอร์เซนต์เลย ก็อย่างที่พระพุทธเจ้าบอกนั่นแหละ

    “เจตนาหัง ภิกขเว ปุญญัง วทามิ”

    “ดูก่อน ภิกษุทั้งหลาย เรากล่าวว่าตัวตั้งใจเป็นตัวบุญ”

    พระพุทธเจ้าบอกว่า มันมีผลตั้งแต่การตั้งใจเริ่มสละออก พอคิดว่าเริ่มจะทำ อารมณ์มันตัดตั้งแต่ตรงนั้นแล้ว ถือว่าไม่ได้เป็นของเราแล้ว มันได้ตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว”


    ผู้ถาม “หลวงพ่อคะ การใส่บาตรวิระทะโย มีอานิสงส์อย่างไรคะ”
    หลวงพ่อ “อานิสงส์เท่ากับถวายสังฆทานธรรมดาไม่ต่างกัน อานิสงส์เหมือนกันหมด แต่ว่าใช้วิระทะโย (คาถาภาวนากันจน) มันมีผลปัจจุบัน ชาตินี้ทำให้เงินไม่ขาดตัว ถ้าใส่บาตรทุกวัน สวดมนต์อยู่เสมอ ถ้าจะหมดก็มีมาต่อจนได้ ถ้าแบ่งเวลาทำสมาธิละก็ขลังมาก รวยมากหน่อย”

    ขอบคุณที่มา : หลวงพ่อตอบคำถาม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 สิงหาคม 2011
  5. ญ.ผู้หญิง

    ญ.ผู้หญิง ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,419
    ค่าพลัง:
    +26,932
    ทำบุญกับพระที่เข้านิโรธสมาบัติ

    ผู้ถาม : หลวงพ่อครับ อยากจะทราบว่าการเจ้านิโรธสมาบัตินี่ใครเป็นผู้ที่สามาถเข้าได้ครับ ?
    หลวงพ่อ : สามารถเข้าได้ทุกคน ถ้าคนนั้นเคยได้อรูปฌานมากก่อนและก็เป็นพระอริยเจ้าขั้นพระอรหันต์


    ผู้ถาม : ถ้าเป็นพวกสุกขวิปัสสโก เข้าได้ไหมครับ ?
    หลวงพ่อ : พวกสุกขวิปัสสโก เข้าไม่ได้เขาใช้ผลสมาบัติ สุกขวิปัสสโก เตวิชโช ฉฬภิญญโญ นี่เข้าผลสมาบัติ ถ้าหากว่าปฎิสัมภิทาญานจึงเป็นนิโรธสมาบัติ แต่มันมีความสำคัญว่า ท่านได้สมาบัติ ๘ มาก่อนหรือเปล่าถ้ามีพื้นฐานมาจากสมาบัติ๘ก็เข้าได้เหมือนกันหมด

    ผู้ถาม : แล้วอานิสงค์ของการถวายทานกับพระที่ออกนิโรธสมาบัติมีอานิสงค์มากไม่ครับ ?
    หลวงพ่อ : ถ้าเป็นคนจน ก็เป็นมหาเศรษฐีในวันนั้น


    ผู้ถาม : มีบุคคลตัวอย่างบ้างไหมครับ ?
    หลวงพ่อ : มีอย่างคนใช้ของนางวิสาขากำลังไถนาอยู่ พระที่ออกจากนิโรธสมาบัติท่านก็เดินไป พอดีภรรยาเอาข้าวมาส่งพอดีพอเห็นเข้าก็คิดว่า เราเป็นทาสเขานี่ ทรัพย์สินเราก็ไม่มี บุญอยากจะทำก็ทำไม่ได้ วันนี้พระมาบิณฑบาต ภรรยาก็เอาข้าวไปเผื่อคนเดียว แกก็ใส่บาตรหมด ความหิวมันก็เกิดขึ้นก็เพลีย เพลียมากท่านก็หลับไป พอตื่นขึ้นมาปรากฎว่าไถเป็นทองคำ ซวยเลย ซวย มหาศาล ก้อนดินที่ไถไว้ก็เป็นทองคำหมด ไปหยิบดูเป็นทองคำจริง ๆ เลยเรียกเจ้านายมาดู เจ้านายก็เห็นเป็นทองคำจริง ๆ เลยถามว่าเรื่องมันเป็นอย่างไร ท่านก็บอกว่าใส่บาตรพระ พระอะไรก็ไม่รู้แกไม่รู้จักนี่นะ แกก็ถามนายว่า จะทำยังไง นายก็บอกว่า ถ้าทรัพย์มันเกิดขึ้นกับแผ่นดินถือว่าเป็นของหลวง แกจึงไปกราบทูลพระราชาทรงทราบพระราชาก็ถามว่า ทองคำมีประมาณเท่าไร ควรจะเอาอะไรไปบรรทุกดี เขาก็บอกว่าเอาเกวียนสัก ๕oo เล่มพอ พระราชาก็ส่งเกวียนไป ๕oo เล่ม บรรทุกเอาทองคำมากองที่พระลานหลวงแล้วก็ป่าวประกาศใครมีทองคำเท่านี้บ้าง ปรากฎว่าหาคนมีทองคำเท่านั้นไม่ได้ เลยตั้งแกเป็นมหาเศรษฐี รวยใหญ่


    ผู้ถาม : คนใช้ชื่ออะไรครับ ?
    หลวงพ่อ : ชื่อนายบุญ ชื่อเขาก็แปลกเหมือนกัน ท่านอยู่กับนางวิสาขา เป็นมหารเศรษฐีแล้วก็ไม่ยอมออกจากเรือน อยู่ที่นั้นแหละ บ้านนั้นก็มีแต่เศรษฐี ท่านเมณฑก ปู่ของนางวิสาขาก็เป็นมหาเศรษฐี พ่อนางวิสาขา แม่นางวิสาขา นางวิสาขา แล้วก็นายบุญผู้เป็นทาส ห้าเศรษฐีในบ้านเดียวกัน เลยรวยใหญ่


    ผู้ถาม : อย่างนี้พระท่านเจาะจงหรือเปล่าครับ ?
    หลวงพ่อ : ท่านก็ต้องดูก่อนว่า วันนี้เราไปบิณฑบาต เราจะไปทางไหน จะมีใครให้อาหาร ท่านต้องดูก่อนนะ ถ้าพระที่ท่านออกจากนิโรธสมาบัติที่อยู่ในป่าลึก เมื่อรู้คนแล้วท่านก็เหาะไป ถ้าเหาะไปแล้วรู้ว่าคนจะเห็น ท่านก็ลง ลงแล้วก็เดิน จะไม่ยอมเหาะ ถ้าใครถวายอาหารวันนั้นก็เฮงที่สุด


    ผู้ถาม : ถ้าหากถวายทานกับพระที่ออกจากนิโรธสมาบัติ ถ้าต้องการจะปรารถนานิพพานได้ไหมครับ ?
    หลวงพ่อ : ถ้าเขาปรารถนานิพพานก็ได้ แต่ไม่ใช่ได้วันนั้น แต่โดยมากเขามีผล เพราะว่าเวลาเขาใส่บาตร เขามักจะอธิษฐานว่า ธรรมใดที่พระคุณเจ้าเห็นแล้ว ขอให้ข้าพพเจ้าเห็นธรรมนั้นด้วยเถิด แล้วพระท่านก็รับ เอวัง โหตุ มีความหมายว่า เจ้าปรารถนาสิ่งใดก็ขอให้ได้สิ่งนั้นสมความปรารถนา ถ้าปรารถนาโลกีย์ทรัพย์มันก็ได้ ปรารถนาโลกุตรรทรัพย์มันก็ได้ อันน้พระที่ท่านออกจากนิโรธสมาบัติคือพระอรหันต์ กำลังท่านเข้มมาก ฉะนั้นเขาต้องได้ แต่จะได้ชาตินั้นหรือชาติต่อมาก็อีกเรื่องหนึ่งนะ

    นิโรธ แปลว่า ดับ มันดับทุกขเวทนา เวลาเข้าก็ต้องยึดพื้นฐานของสมาบัติ ๘ ก่อน คือ รูปฌาน๔ และอรูปฌาน๔ แล้วต่อไปนั้นก็ตัด มันตัดทุกขเวทนาทั้งหมดจึงเรียกว่านิโรธ การเข้านิโรธสมาบัตินี่ไม่ใช่ ๗ วัน ๑๕ วันเสมอไปนะ ถ้าหากว่าเขาไม่ต้องการทำงานอีกต่อไป เขาจะอธิษฐานอย่างนั้นจนสิ้นชีวิตก็ได้ คำว่าสิ้นชีวิตไม่ใช่หมายความว่าหิวตาย ไม่ใข่อย่างนั้น ถ้าไม่หมดอายุขัยเขาห้ามไป เขาก็นั่งแบบเป็นสุข ถ้าหมดอายุขัยก็ตัดไปนิพพานได้เลย


    ผู้ถาม : ที่ต้องนั่ง ๗ วันบ้าง ๑๕ บ้าง เป็นกฎเกณฑ์ของพระที่เข้านิโรธสมาบัติใช่ไหมครับ ?
    หลวงพ่อ : ที่ว่านั่งอยู่แค่ ๗ วัน ๑๕ วัน เพราะว่าร่างกายท่านต้องทำงาน ถ้าเกิน ๑๕ วันไปร่างกายมันขาดอาหารใช้งานไม่ไหว พอถอนออกมาแล้วก็ต้องซ่อมกันนาน ส่วนใหญ่แล้วท่านใช้เวลา ๗ วัน มากกว่า ๑๕ วัน สบาย ๆ แต่ถ้าเป็นพระพุทธเจ้าแล้ว ส่วนใหญ่ท่านอยู่ ๑๕ วัน ที่เรียกว่า สุขวิหาร สุขวิหาร ก็คือ นิโรธสมาบัติ พระพุทธเจ้าทรงพักผ่อนร่างกาย ท่านก็มีเวลาพักผ่อนเหมือนกัน เวลาท่านเหนื่อยท่านก็พัก ๑๕ วัน ไม่พบใครเลยนะ.

    ขอบคุณที่มา :
    หนังสือ ธรรมปฎิบัติ ๒๗ รวมคำสอนของหลวงพ่อพระราชพรหมยาน(พระมหาวีระ ถาวโร)
     
  6. vena

    vena เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    165
    ค่าพลัง:
    +590
    คุณหญิงค่ะ วันนี้พี่แอ๋วได้โอนเงิน 1,300 บาท เป็นค่าทริปที่2 ค่ะ ตามfile ที่แนบมา
    น่ะค่ะ ขอบคุณอีกครั้งน่ะค่ะที่ทำให้พี่ได้มีโอกาส ร่วมทำบุญอีกครั้ง:cool:
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  7. toy384

    toy384 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    25
    ค่าพลัง:
    +38
    จองชุดที่3 อีกหนึ่งที่ค่ะ
     
  8. kuppa20

    kuppa20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    91
    ค่าพลัง:
    +312
    จองที่นั่ง group3 วันออกนิโรธธรรม 2 ที่ครับ
     
  9. เกสรมณีช์

    เกสรมณีช์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    88
    ค่าพลัง:
    +573
    ถึงพี่หญิงคะ

    เงินบุญเกสรมณีช์ขอแบ่งงานเข้า และ ออกนิโรธฯ อย่างละครึ่งนะคะ

    ขอบคุณคะ
     
  10. เกสรมณีช์

    เกสรมณีช์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    88
    ค่าพลัง:
    +573
    เกรส(เกสรมณีช์) ขอจองรถ ชุดที่ 2 และ ชุดที่ 3 ชุดละ 2 ที่

    ขอบคุณ+โมทนาพี่หญิงค่ะ
     
  11. หมี พลเสน

    หมี พลเสน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    620
    ค่าพลัง:
    +358
    ผมโมทนาบุญด้วยครับ ขอให้ผลบุญนี้ช่วยส่งผลให้ผมเข้าถึงซึ่งพระนิพพานในชาติปัจจุบันด้วยเถิด และถ้าหากว่าชาตินี้ผมไม่ถึงพระนิพพานเพียงไร เกิดใหม่ชาติใด ขอคำว่าไม่มีอย่าเกิดกับผมเลย สาธุ สาธุ สาธุ
     
  12. ญ.ผู้หญิง

    ญ.ผู้หญิง ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,419
    ค่าพลัง:
    +26,932
    [​IMG]

    รับทราบและปรับปรุงรายชื่อให้แล้วค่ะ
     
  13. upacnang

    upacnang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    116
    ค่าพลัง:
    +523
    ไปชุดที่ 3 ด้วยค่ะ จำนวน 3 ที่ค่ะ
    1.กุลฎา เดชระพีพงษ์
    2. น้องนา
    3. ปรียวัลย์ กุุลธนาภาคย์
     
  14. เป้19

    เป้19 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    47
    ค่าพลัง:
    +520
    ขอจอง 2 ที่นั่ง ชุดที่ ๓ วันออกนิโรธกรรมครับ วันอาทิตย์ที่ ๒๕ ก.ย. ๕๔<!-- google_ad_section_end -->
     
  15. ญ.ผู้หญิง

    ญ.ผู้หญิง ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,419
    ค่าพลัง:
    +26,932
    ภาพในอดีต

    [​IMG]
    ครูบาวิฑูรย์ ชินวโร อายุ ๑๒ ปี ขณะกำลังเข้าสมาธิเป็นเวลา ๗ วัน ณ สถานที่ ๅ หลวงปู่ครูบาชุ่ม โพธิโก เคยเข้านิโรธสมาบัติ



    [​IMG]
    ครูบาวิฑูรย์ ชินวโร วันเข้านิโรธกรรม



    [​IMG]
    พระครูธรรมธรเล็ก สุธฺมปฺญโญ (ซ้าย) หนึ่งในองค์ประธานรับการออกนิโรธ



    [​IMG]
    พระครูธรรมธรเล็ก สุธฺมปฺญโญ รับครูบาวิฑูรย์ ชินวโร ออกนิโรธกรรม

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กันยายน 2011
  16. สุคโต

    สุคโต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2008
    โพสต์:
    279
    ค่าพลัง:
    +987
    ขอจอง ๒ ที่ ชุดที่ ๓ วันออกนิโรธกรรม
    ขอบคุณค่ะ
     
  17. จุติญาณ

    จุติญาณ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    29
    ค่าพลัง:
    +91
    1/09/54 เวลา 17.46 ผมโอนเงินไปจำนวน 3,500 บาท

    โดยเป็นค่าเดินทาง ชุด 2 และ 3 จำนวน 1,900 บาท

    และมีผู้ร่วมทำบุญในการนี้ด้วย ดังนี้
    ๑.นางสมหมาย สายใยทอง ร่วมบุญจำนวน 1,000 บาท
    ๒.นายปิติณัช สายใยทอง ร่วมบุญจำนวน 500 บาท
    ๓.นางสุพิชชา สายใยทอง ร่วมบุญจำนวน 100 บาท
     
  18. ญ.ผู้หญิง

    ญ.ผู้หญิง ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,419
    ค่าพลัง:
    +26,932
    รับทราบและปรับปรุงรายชื่อให้แล้วค่ะ

    ไม่ได้ระบุมาว่าร่วมบุญของวันไหนบ้าง เพราะฉะนั้นพี่ขออนุญาตจัดสรรลงทั้ง ๒ ฃุด ในจำนวนที่เท่ากันนะคะ

    โมทนาค่ะ
     
  19. pracha r.

    pracha r. Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    20
    ค่าพลัง:
    +68
    ชุดที่ 3 โอนเงินแล้วครับ pracha r. 4 ที่ ครับ โอน 2800 บ. อีก 400 บ.ร่วมทำบุญวันเข้านิโรธ.ทุกกองบุญครับ.ส่วนวันออกนิโรธผมจะร่วมทำบุญ บนรถน่ะครับ.โอนวันที่ 02/ก.ย./54 เวลา 06.21น. ATM.ครับ.
    ขออนุโมทนาสาธุการ กับทุกท่าน พระนิพานจงบังเกิดแด่ทุกท่านเทอญ. สาธุอานุโมทนามิ ครับ.:cool::cool::cool:
     
  20. ปาริสุทธิ์

    ปาริสุทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    125
    ค่าพลัง:
    +817
    น้องหญิงคะ ชุดที่ 2 เพิ่มอีก 2 ที่ รวมทั้งหมดเป็น 4 ที่ ค่ะ
    ชุดที่ 3 เพิ่มอีก 5 ที่ เป็น 7 ที่ค่ะ ปวดหัวไหมคะ ขอให้น้องหญิงเป็นสะพานบุญที่แข็งแรงนะคะ ขอบคุณค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...