เครียด "ลูกยังไม่ยอมพูด" เป็นเพราะผลกรรมหรือไม่ครับ

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย กังฟูน้อย, 28 สิงหาคม 2011.

  1. kjt

    kjt Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    73
    ค่าพลัง:
    +79
    มีหลานพูดช้าเหมือนกันค่ะ แต่พ่อแม่ น้าอา
    เค้าเลยใช้ช่วงเวลาที่น้องยังไม่พูด ดูแล สอน อ่าน ก ไก่ ภาษาอังกฤษ ไทย หนังสือพิมพ์ ทุกอย่าง อ่านหนังสือพิมพ์โดยชี้ให้เด็กดูเป็นคำๆ ไป แล้วก็อ่านให้ฟัง พอเด็กเริ่มพูด ประมาณ 4 ขวบกว่า กลายเป็นเด็กไฮเปอร์ มีความคิดโตกว่าเด็กรุ่นเดียวกันมาก พอเข้าโรงเรียนแม่น้อง ก็ไปขอให้ลูกได้เรียนโรงเรียนเด็กปกติ คือ ไม่อยากให้ไปอยู่กับเด็กพิเศษ เพราะเชื่อว่าลูกจะปรับตัวหายได้เป็นปกติ ตอนนี้อยู่ ป.1 แก สามารถอ่านหนังสือพิมพ์ หนังสือทุกอย่าง อ่านได้หมด อ่านถูก อ่านได้คล่องกว่าเด็ก ม 1 อีก ตอนแรกก็ไม่เชื่อว่าจะอ่านหนังสือพิมพ์ได้หมด เลยไปทดสอบให้น้องอ่านดู เกี่ยวกับพระราชกรณียกิจในหลวง น้องอ่านได้ทุกตัวเลย เดี๋ยวนี้พูดเก่งมากเลย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 สิงหาคม 2011
  2. กังฟูน้อย

    กังฟูน้อย สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    26
    ค่าพลัง:
    +0
    ขอบคุณมากๆครับ..สำหรับแนวทางในการต่อสู้ต่อไปครับ..
     
  3. pump - อภิเตโช

    pump - อภิเตโช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,202
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +6,803
    คุณพ่อและคนในบ้าน ต้องพูดจาให้ไพเราะ นะครับ พยายามหลีกเลี่ยง คำพูดไม่ดี ที่อาจจะที่ร้ายจิตใจกัน เด็กเค้าสามารถรับรู้ความรู้สึก ดีและไม่ดีได้ตั้งแต่อยู่ในท้องแม่เลยนะครับ ความรู้สึกที่ส่งผ่านนี้ อาจจะเป็นผลกระทบให้น้องเค้าไม่พูดได้ เวลาสอนให้น้องเค้าพูดก็อย่าใจร้อน นะครับ

    ขอแนะนำให้พาน้องไปขอพรกับหลวงปู่บุญฤทธิ์ ที่ สวนทิพย์ ปากเกร็ดนะครับ หลวงปู่เมตตาให้กราบเวลา 11.30-12.00 ทุกวันครับ

    [​IMG]
     
  4. pump - อภิเตโช

    pump - อภิเตโช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,202
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +6,803
    การช่วยเหลือเด็กที่มีปัญหาพูดได้แต่ไม่ยอมพูด

    แนวทางการดูแลของผู้ปกครอง
    บ้านและครอบครัวเป็นสถานที่พิเศษสุดของเด็กทุกคน เป็นสถานที่ที่เด็กเรียนรู้เกี่ยวกับการมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคม และระเบียบกฎเกณฑ์ทางด้านพฤติกรรม ดังนั้นแล้วครอบครัว ควรจะดูแลช่วยเหลือเด็กโดย
    • ทำบ้านให้เป็นสถานที่มั่นคงปลอดภัย และแวดล้อมด้วยความรักสำหรับเด็ก
    • ยอมรับและให้ความเข้าใจกับเด็ก ตามสภาวะที่เขาเป็นอยู่
    • อย่าใช้การข่มขู่ หรือลงโทษเพื่อจะให้เด็กพูด
    • สื่อแสดงความหวัง ให้ความมั่นใจกับเด็กว่าพ่อแม่ยินดีช่วยเหลือ และเขาจะสามารถเอาชนะปัญหานี้ได้
    • ให้โอกาสเด็กได้มีประสบการณ์ในกิจกรรมอื่น ที่นอกเหนือจากการเรียน เช่น ว่ายน้ำ กีฬา ศิลปะ นาฎศิลป์ เต้นรำ กิจกรรมเหล่านี้ช่วยให้เด็กได้มองเห็นความสนุกสนาน ฝึกหัดใช้ศักยภาพที่ตนมี และสร้างเสริมความภาคภูมิใจในตนเองขึ้นมา
    • เปิดโอกาสให้เด็กได้เล่นกับเพื่อนหลังเวลาเรียน อาจเชื้อเชิญเพื่อนให้มาเล่นกับเด็กที่บ้าน เพื่อให้เด็กมีโอกาสเล่น และแสดงออกกับเพื่อน เมื่อเด็กเริ่มพูดกับเพื่อนแล้ว ก็อาจขยายพื้นที่ด้วยการพาเด็กๆ ออกไปเล่นกันที่สวนสาธารณะ หรือสถานที่นอกบ้านแหล่งอื่นๆ เพื่อให้เด็กๆ ได้สื่อสารกันภายนอกบ้านด้วย
    • ผลัดเปลี่ยนให้มีเพื่อนใหม่ๆ มาที่บ้านบ้าง ครั้งละหนึ่งหรือสองคน และใช้แนวทางการแผ่ขยายพฤติกรรมการคุยกับคนอื่นๆ ไปยังสถานทื่อื่นภายนอกบ้าน และไปยังบุคคลอื่นๆ เมื่อเด็กเริ่มมีกลุ่มเพื่อนแล้ว ก็อาจจัดกลุ่มเพื่อน เล่นกันที่บ้านเด็กคนอื่นๆ บ้าง
    • เมื่อต้องนำเด็กไปร่วมงานสังคมนอกบ้าน หรือสถานที่แห่งใหม่ที่ ไม่คุ้นเคย ควรจะไปถึงสถานที่ ให้เร็วสักหน่อย ให้เด็กมีโอกาสสำรวจตรวจตราสิ่งแวดล้อม สร้างความคุ้นเคย และไม่ควรบังคับให้เด็ก โต้ตอบกับคนอื่น หรือบังคับให้เล่น
    • สิ่งที่ท้าทายสำหรับพ่อแม่ที่สุด คือ การที่ต้องรู้จังหวะว่า เมื่อใดที่ควรช่วยผลักดันเด็กอยู่ด้านหลัง และเมื่อไรที่ควรปล่อยเขาเดินหน้าไปเอง สิ่งที่พ่อแม่ควรทำ คือ สร้างโอกาสให้เด็กเกิดสัมพันธ์ทางสังคมกับคนอื่น แต่ไม่ใช่สนับสนุนหรือให้รางวัลการแยกตนเองหรือมีพฤติกรรมถอยหนี สิ่งเหล่านี้ พ่อแม่ต้องทำอย่างค่อยเป็นค่อยไปด้วยท่าทีที่ใส่ใจ แต่ไม่กังวล
    • ช่วยเด็กให้รู้จักฝึกผ่อนคลาย สร้างจินตภาพทางบวก และใช้กิจกรรมที่ให้เด็กได้ขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวตนเองในชีวิตประจำกัน วิธีการเหล่านี้ช่วยเด็กลดความกังวลได้
    • ฝึก”ซ้อม บทบาท” ที่เด็กรู้สึกกังวลใจที่บ้านเสียก่อน วิธีการนี้ทำให้พ่อแม่มองเห็น และเข้าใจ ถึงความยากลำบากที่เด็กมี พร้อมกับช่วยสอนทักษะทางสังคมที่จำเป็นในสถานการณ์นั้น
    • ให้คำชม และรางวัล เมื่อเด็กพยายามสื่อสาร
    • ถ้าในครอบครัวมีปัญหา หรือมีความขัดแย้งกัน พ่อแม่ควรขอรับบริการปรึกษาปัญหาครอบครัว
    • มองหาเครือข่ายในการช่วยเหลือสำหรับตัวผู้ปกครองเอง เพราะถ้า ผู้ปกครองวิตกกังวลหรือคับข้องใจ เด็กมักจะรับรู้ได้ ดังนั้นผู้ปกครองต้องดูแลตนเองได้เสียก่อน จึงจะดูและเด็กได้
    เอกสารอ้างอิง
    1. สุวัฒนา ศรีพื้นผล เด็กที่พูดได้แต่ไม่พูดที่โรงเรียน วารสารศูนย์สุขวิทยาจิต มกราคม – ธันวาคม 2540
    2. Sandra Coifman-Yohros Helping A Child with Selective Mutism selective Mutism Foundation Inc.
    โดย : นายแพทย์ อุดม เพชรสังหาร​
     
  5. pump - อภิเตโช

    pump - อภิเตโช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,202
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +6,803
    ขออวยพรให้คุณ และครอบครัวมีความสุขมากๆนะครับ
     
  6. กังฟูน้อย

    กังฟูน้อย สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    26
    ค่าพลัง:
    +0
    ขอบพระคุณมากครับ ..
    สำหรับแนวทางที่ได้เสนอแนะ .. ผมจะนำกลับไปใช้ประโยชน์ครับ ..
     
  7. สังขารไม่เที่ยง

    สังขารไม่เที่ยง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    5,943
    ค่าพลัง:
    +24,697
    เด็กแต่ละคนไม่เหมือนกันค่ะ...เพราะพื้นฐานการเลี้ยงดู ของแต่ละครอบครัวแตกต่างกันค่ะ

    1.ควรปรึกษากุมารแพทย์ก่อนเป็นอันดับแรกค่ะ

    2.ใครเป็นคนเลี้ยงลูกให้คุณ ถ้าหากจ้างพี่เลี้ยงอินเตอร์เลี้ยง เด็กค่อนข้างจะพูดช้า เพราะว่าภาษาและสำเนียงของพี่เลี้ยง อาจจะทำให้ลูกสับสนในการใช้ภาษาได้ค่ะ

    3.สภาพแวดล้อม บรรยากาศในครอบครัว เช่น อาจจะเป็นครอบครัวที่พูดน้อย หรืออาจจะมีปัญหาทะเลาะกันภายในครอบครัวบ่อย ๆ อาจจะทำให้เด็กไม่กล้าพูดก็ได้ค่ะ

    4.ส่วนเรื่องกรรมนั้น ก็อาจจะมีส่วนอยู่บ้าง เพราะพื้นฐานนิสัยของเด็กแต่ละคนที่เกิดมาแตกต่างกัน เช่นว่า บางคนขี้หวง หวงของ หวงพ่อหวงแม่ บางคนชอบรังแกสัตว์ บางคนอารมณ์ดี บางคนโมโหง่าย ทางธรรมเค้าว่ากันว่า นั่นเป็นนิสัยที่ติดตัวมาตั้งแต่ชาติก่อน ๆ

    5.การทำบุญ เป็นการสะสมบุญบารมีให้กับลูกได้ค่ะ ทำไปเถอะไม่มีอะไรเสียหาย ถึงแม้ว่าลูกจะปกติดี ก็ควรต้องทำบุญสะสมให้ลูกอยู่ตลอดค่ะ เพราะเค้ายังทำบุญไม่เป็น ก็มีแต่คนที่เป็นพ่อแม่ หรือญาติผู้ใหญ่ที่ต้องทำให้ลูก กรวดน้ำให้เจ้ากรรมนายเวรของลูก ขอให้ลูกมีความสุข การกรวดน้ำไม่ใช่ว่าจะกรวดให้กับคนตายเท่านั้น คนที่ยังมีชีวิตอยู่ก็กรวดน้ำให้ได้ค่ะ

    6.การขอพรพระ ก็อาจจะทำให้สิ่งที่กีดขวางอยู่หรืออุปสรรคต่าง ๆ คลี่คลายไปในทางที่ดีได้ค่ะ


    วิธีการเลี้ยงลูกของเรา
    ตอนนี้ลูกของเราตอนนี้ อายุ 1 ขวบ 1 เดือนค่ะ เดินได้แค่ 4-5 ก้าวก็ล้ม แต่ว่าลูกของคนอื่น ๆ เค้าเดินกันตั้งแต่ยังไม่ได้ขวบ การพูดของเค้า เค้าพูดได้บ้าง เช่นคำว่า แม่ Daddy พี่โชน(ชื่อพ่อเค้าเรียกตามแม่) ตา ยาย ชื่อหมาที่บ้าน เหลือ ถี ตัง น้ำ น้ำ ที่พูดได้เป็นประโยคติดต่อกัน อยากกินน้ำ ไม่ดี ไม่ทำ แต่ว่าเค้า ไม่ได้พูดได้ทุกวันนะคะ บางวันเค้าก็ไม่พูด

    เราส่งเสริมพัฒนาการพูดของลูกด้วยการ
    1.พูดกับเค้าให้ได้มากที่สุด ทำอะไรก็พูด แม่ไปเข้าห้องน้ำแปปนะ แม่กินข้าวก่อนนะ โห อร่อยจังเลย เรียกชื่อเค้าบ่อย ๆ จะทำอะไรก็ต้องบอกลูก เช่นว่า หอมแก้มหน่อย แม่กอดนู๋นะ แม่รักลูกนะ จะให้เค้าถือขวดนมเองก็ต้องบอกว่าถือขวดนมเอง

    2.เล่นกับลูกบ่อยๆ หยิบลูกบอลสี ๆ แล้วบอกว่าสีอะไร เล่นรถ คือต้องเป็นเพื่อนกับลูก เราเคยอ่านหนังสือ เค้าบอกว่า ลูกจะมีพัฒนาการที่ดีและสมวัยเมื่อเค้ามีเพื่อนเล่นในวัยใกล้เคียงกัน

    3.สื่อ เราให้ลูกเราดูพวกสื่อการ์ตูน ABC การออกเสียง ก.-ฮ. เราให้ลูกดูทั้ง 2 ภาษาค่ะ ดูพูดสัตว์ชนิดต่าง ๆ ด้วย แต่จริง ๆ แล้วกุมารแพทย์ บางท่านจะห้ามไม่ให้เด็ก ๆ ดู ทีวี หรือการ์ตูน แต่แพทย์บางท่านบอกว่าดูได้ค่ะ

    แต่น้องฮาร์ทยังเดินไม่ได้ หรือยังเดินไม่แข็ง อาจจะเป็นเพราะการเลี้ยงดูที่พ่อเค้าทะนุถนอมเกินไป อะไร ๆ ก็กลัวลูกเจ็บ แล้วน้องฮาร์ทก็ป่วยค่อนข้างป่วยบ่อย เดี๋ยวก็เป็นหวัด เดี๋ยวก็ท้องเสีย นี่ก็อาจจะเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้แคลเซี่ยมของน้องฮาร์ทไม่เพียงพอในการเสริมสร้างกระดูก พัฒนาการทางด้านการเคลื่อนไหว ของลูกอาจจะช้าไปบ้าง ก็ต้องพยายามกันต่อไปค่ะ

    เห็นไหมคะว่า เด็ก ๆ แต่ละบ้าน ก็จะมีปัญหาแตกต่างกันออกไปค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 สิงหาคม 2011
  8. กังฟูน้อย

    กังฟูน้อย สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    26
    ค่าพลัง:
    +0
    ขอบคุณมากครับ..คุณ <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->สังขารไม่เที่ยง<!-- google_ad_section_end -->
    ผมจะนำแนวทางนี้ไปลองปฏิบัติดูครับ..
     
  9. peerawat

    peerawat สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2007
    โพสต์:
    16
    ค่าพลัง:
    +4
    อ่านข้อมูลของคุณ nut1663แล้วทำให้มองอีกแง่มุมหนึ่งได้ดีมาก ทำให้คลายความกังวลไปได้มากเลย ขอบคุณมาก
     
  10. onglee

    onglee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    193
    ค่าพลัง:
    +187
    หลานก็เคยเป็นค่ะ เพราะที่บ้านพูดภาษาเหนือ และเวลาคุยกับเค้าจะพูดภาคกลาง เค้าเลยไม่พูดเลย 2 คนเลยนะค่ะ หมอบอกว่าน้องเค้าสับสนเลยไม่ยอมพูด พอโตมาก็พูดปกติ
    เอาใจช่วยค่ะ และพยายามอย่าให้น้องดูทีวีเยอะนะค่ะ

    ส่วนลูกเราเมื่อก่อนไม่สบายบ่อย(ตอนเข้า ร.รแรกๆ) เราเลยปลุกลูกใส่บาตรทุกเช้า วันพระถ้าตรงกับวันหยุดก็จะพาเค้าไปด้วย แล้วกรวดน้ำให้เจ้ากรรมนายเวร เทวดาที่ดูแลกายสังขารของเรา ของลูกและทุกคนในครอบครัว เราว่าลูกดีขึ้นเยอะเลยค่ะ
     
  11. gluay

    gluay เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2011
    โพสต์:
    29
    ค่าพลัง:
    +181
    ใจเย็นๆค่ะ ดิฉันเองตอนเข้าโรงเรียนใหม่ๆ3 ขวบ ดิฉันยังพูดไม่ได้เลยคะ แต่แปลกที่ร้องเพลงได้ และท่องก.ไก่ได้ก่อนเข้าโรงเรียน แต่ถ้าเรื่องการสื่อสาร ใครถามมาดิฉันตอนนั้นจะไม่ยอมตอบ ดิฉันพูดได้ตอน 4ขวบค่ะ เป็นเด็กที่ค่อยข้างผิดปกติไปจากเด็กทั่วไป ชอบกลัวอะไรแปลกๆด้วย เช่น กลัวกระทะ กลัวพัดลมส่ายยังเคยค่ะ ช่วง 4-5ขวบ ไม่รุเป็นเพราะอะไร แม่คิดว่าดิฉันจะเป็นคนไม่ปกติไปซะเเล้ว แต่มาตอนปัจจุบันนี้ เป็นคนชอบพูดชอบคุยไปเลยค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...