รักษาศีลแปดแต่เป็นโรคกระเพาะ ควรทำอย่างไรดี ?

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย tamsak, 2 กันยายน 2011.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. tamsak

    tamsak ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2004
    โพสต์:
    7,857
    กระทู้เรื่องเด่น:
    22
    ค่าพลัง:
    +161,173
    [​IMG]



    ถาม : ศีลข้อวิกาละโภชะนา ถ้าตัวเองเป็นโรคกระเพาะต้องทำอย่างไร ?

    ตอบ : ของที่กินแทนข้าวได้มีเป็นร้อยเป็นพัน จำเป็นต้องกินข้าวอย่างเดียวหรือถึงอยู่ได้ ? จะกินนมก็ได้ โอวัลตินก็ได้ น้ำผึ้งก็ได้ น้ำอ้อยก็ได้ น้ำตาลก็ได้ กินไปสัก ๕ - ๑๐ ถ้วย อิ่มกว่าข้าวอีก

    ถาม : กินอย่างนี้แล้วไม่ผิดหรือคะ ?

    ตอบ : ก็พระยังฉันได้เลย โยมกินจะผิดตรงไหนวะ ?

    ถาม : หมอบอกว่า ให้เลิกศีลแปดได้แล้ว เพราะเป็นโรคกระเพาะ

    ตอบ : ก็บอกหมอไปสิว่า "อาจารย์สอนให้ ตัวตายดีกว่าศีลขาด เพราะฉะนั้นหมอบอกได้ ฉันรับฟังแต่ไม่รับปฏิบัติ"

    ถาม : หมอบอกว่าวันธรรมดากินข้าว แต่พอวันพระไม่กินแล้วจะทำให้ปวดท้องค่ะ

    ตอบ : เหตุผลเดียวกัน ของที่กินแทนได้มีตั้งเยอะ ของบางอย่าง เช่น น้ำผึ้งนั้นดีต่อสุขภาพร่างกาย คนที่เป็นเบาหวานแล้วอยากของหวาน ถ้ากินน้ำตาลเข้าไปจะเดือดร้อน ให้กินน้ำผึ้งแทน น้ำผึ้งสักหนึ่งช้อนโต๊ะ ละลายน้ำร้อนแก้วหนึ่ง กินลงไปแทน ร่างกายสามารถดึงไปใช้ได้เลย เพราะว่าโมเลกุลของน้ำผึ้งร่างกายไม่ต้องเสียเวลามาย่อยสลาย

    ถาม : อานิสงส์ถือศีลห้ากับศีลแปดต่างกันมากไหมคะ ?

    ตอบ : อานิสงส์ของศีลห้าเต็มที่ก็พระสกิทาคามี แต่ถ้าถือศีลแปดได้จะเป็นพื้นฐานของพระอนาคามีเลย ต่างกันมากไหม ? ก็เหมือนปริญญาตรีต่างกับปริญญาโท

    ถาม : ตั้งใจไว้แน่ว่าวันพระจะถือศีลแปดตลอดไปค่ะ

    ตอบ : ทำไปเถอะจ้ะ ถึงเวลาก็ตุนพวกไมโล โอวัลตินเอาไว้ด้วย


    สนทนากับพระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
    เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนกรกฎาคม ๒๕๕๔


    ที่มา : http://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=2786&page=2



    .
     
  2. P.S._FabriNET

    P.S._FabriNET เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2010
    โพสต์:
    366
    ค่าพลัง:
    +803
    ขอบพระคุณเป็นอย่างสูงครับ ผมมีปัญหาโรคกระเพาะเหมือนกัน ตอนนี้ได้คำตอบแล้วครับว่าต้องทำยังไง อนุโมทนาสาธุครับ
     
  3. tharushnu

    tharushnu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    897
    ค่าพลัง:
    +1,276
    อนุโมทนาบุญทุกประการครับ...สาธุ
    _____________________________________________

    <iframe src="http://www.facebook.com/plugins/likebox.php?href=http%3A%2F%2Fwww.facebook.com%2FBuddhaPhothiyan&amp;width=500&amp;colorscheme=light&amp;show_faces=true&amp;border_color&amp;stream=true&amp;header=true&amp;height=427" scrolling="no" frameborder="0" style="border:none; overflow:hidden; width:500px; height:427px;" allowTransparency="true"></iframe>
     
  4. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,646
    กราบนมัสการธรรมหลวงพี่ครับ....เอาว่าแนะนำเป็นความรู้เพิ่มเติม....เรื่องของน้ำปานะ ที่หลายคนมักสงสัย ว่า นม หรือ นมถั่วเหลือง อะไรต่างๆ กินได้หรือไม่ได้กันแน่....

    ______________________________________________


    [​IMG]




    เรื่องของน้ำปานะ



    น้ำปานะ คือ เครื่องดื่ม ที่คั้นจากลูกไม้ หรือ น้ำคั้นผลไม้ ท่านจัดเป็น "ยามกาลิก" คือ ของที่ร้บประเคนไว้แล้ว ฉันได้วันหนึ่งกับคืนหนึ่ง ถือเอาใจความง่าย ๆ ก็คือ ของที่ฉันได้หลังเที่ยงไปแล้วนั่นเอง หรือ ฉันได้ทั้งวันทั้งคืนก่อนรุ่งอรุณ



    ในปัจจุบัน ปัญหาเรื่องน้ำปานะ ก่อความกังวลใจให้แก่ชาวพุทธพอสมควร เพราะมีเครื่องดื่มเกิดขึ้นมากมายล้วนแต่ไม่มีในสมัยพุทธกาล แต่เราก็อาศัยเปรียบเทียบเอาจากมหาปเทศฝ่ายพระวินัยได้
    แต่ถึงอย่างนั้น ในวงพระเองก็ยังมีการตีความไม่ตรงกัน เช่น นมสด พระฝ่ายมหานิกายก็ว่าฉันได้ แต่พระฝ่ายธรรมยุตว่าฉันไม่ได้ แต่ก็ฉันเนยแข็งที่ทำจากนมสดได้มันก็ชอบกลอยู่


    ผู้ที่เป็นต้นบัญญัติ ให้เกิดมีการดื่มน้ำปานะขึ้นเป็นท่านแรก ก็คือ เกณยชฎิล ปรากฏหลักฐานอยู่ในพระไตรปิฎก พระวินัย เล่มที่ 5 ข้อที่ 86 ในที่นั้นพระพุทธองค์ทรงแสดงน้ำปานะ หรือน้ำอัฏฐบานไว้ 8 อย่าง ดังนั้น



    <TABLE style="MARGIN: auto auto auto 19.5pt; WIDTH: 51.64%; BACKGROUND: white; -moz-background-clip: border; -moz-background-origin: padding; -moz-background-inline-policy: continuous" border=0 cellPadding=0 width="51%"><TBODY><TR style="HEIGHT: 18.05pt"><TD style="BORDER-BOTTOM-COLOR: rgb(236,233,216); PADDING-BOTTOM: 0cm; BACKGROUND-COLOR: transparent; BORDER-TOP-COLOR: rgb(236,233,216); PADDING-LEFT: 0cm; WIDTH: 44.76%; PADDING-RIGHT: 0cm; HEIGHT: 18.05pt; BORDER-RIGHT-COLOR: rgb(236,233,216); BORDER-LEFT-COLOR: rgb(236,233,216); PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top width="44%">1. น้ำมะม่วง


    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM-COLOR: rgb(236,233,216); PADDING-BOTTOM: 0cm; BACKGROUND-COLOR: transparent; BORDER-TOP-COLOR: rgb(236,233,216); PADDING-LEFT: 0cm; WIDTH: 53.14%; PADDING-RIGHT: 0cm; HEIGHT: 18.05pt; BORDER-RIGHT-COLOR: rgb(236,233,216); BORDER-LEFT-COLOR: rgb(236,233,216); PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top width="53%">2. น้ำลูกหว้า</B>


    </TD></TR><TR style="HEIGHT: 18.05pt"><TD style="BORDER-BOTTOM-COLOR: rgb(236,233,216); PADDING-BOTTOM: 0cm; BACKGROUND-COLOR: transparent; BORDER-TOP-COLOR: rgb(236,233,216); PADDING-LEFT: 0cm; WIDTH: 44.76%; PADDING-RIGHT: 0cm; HEIGHT: 18.05pt; BORDER-RIGHT-COLOR: rgb(236,233,216); BORDER-LEFT-COLOR: rgb(236,233,216); PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top width="44%">3. น้ำกล้วยมีเมล็ด</B>


    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM-COLOR: rgb(236,233,216); PADDING-BOTTOM: 0cm; BACKGROUND-COLOR: transparent; BORDER-TOP-COLOR: rgb(236,233,216); PADDING-LEFT: 0cm; WIDTH: 53.14%; PADDING-RIGHT: 0cm; HEIGHT: 18.05pt; BORDER-RIGHT-COLOR: rgb(236,233,216); BORDER-LEFT-COLOR: rgb(236,233,216); PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top width="53%">4. น้ำกล้วยไม่มีเมล็ด</B>


    </TD></TR><TR style="HEIGHT: 18.05pt"><TD style="BORDER-BOTTOM-COLOR: rgb(236,233,216); PADDING-BOTTOM: 0cm; BACKGROUND-COLOR: transparent; BORDER-TOP-COLOR: rgb(236,233,216); PADDING-LEFT: 0cm; WIDTH: 44.76%; PADDING-RIGHT: 0cm; HEIGHT: 18.05pt; BORDER-RIGHT-COLOR: rgb(236,233,216); BORDER-LEFT-COLOR: rgb(236,233,216); PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top width="44%">5. น้ำมะทราง</B>


    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM-COLOR: rgb(236,233,216); PADDING-BOTTOM: 0cm; BACKGROUND-COLOR: transparent; BORDER-TOP-COLOR: rgb(236,233,216); PADDING-LEFT: 0cm; WIDTH: 53.14%; PADDING-RIGHT: 0cm; HEIGHT: 18.05pt; BORDER-RIGHT-COLOR: rgb(236,233,216); BORDER-LEFT-COLOR: rgb(236,233,216); PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top width="53%">6. น้ำลูกจันทน์หรือน้ำองุ่น</B>


    </TD></TR><TR style="HEIGHT: 18.05pt"><TD style="BORDER-BOTTOM-COLOR: rgb(236,233,216); PADDING-BOTTOM: 0cm; BACKGROUND-COLOR: transparent; BORDER-TOP-COLOR: rgb(236,233,216); PADDING-LEFT: 0cm; WIDTH: 44.76%; PADDING-RIGHT: 0cm; HEIGHT: 18.05pt; BORDER-RIGHT-COLOR: rgb(236,233,216); BORDER-LEFT-COLOR: rgb(236,233,216); PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top width="44%">7. น้ำเง่าบัว</B>


    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM-COLOR: rgb(236,233,216); PADDING-BOTTOM: 0cm; BACKGROUND-COLOR: transparent; BORDER-TOP-COLOR: rgb(236,233,216); PADDING-LEFT: 0cm; WIDTH: 53.14%; PADDING-RIGHT: 0cm; HEIGHT: 18.05pt; BORDER-RIGHT-COLOR: rgb(236,233,216); BORDER-LEFT-COLOR: rgb(236,233,216); PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top width="53%">8. น้ำมะปรางหรือน้ำลิ้นจี่</B>


    </TD></TR></TBODY></TABLE>​
    </B>


    ถ้านับเรียงชนิดก็เป็น 10 ชนิด แต่จริง ๆ แล้วมีมากกว่านี้แยะ เพราะทรงอนุญาตเพิ่มเติมไว้อีก ดังนี้
    ทรงอนุญาตน้ำผลไม้ทุกชนิด เว้นน้ำต้มเมล็ดข้าวเปลือก
    ทรงอนุญาตน้ำดอกไม้ทุกชนิด เว้นน้ำดอกมะทราง
    ทรงอนุญาตน้ำอ้อยสด


    ถ้าจะพิจารณากันตามพระพุธานุญาตในตอนท้ายนี้แล้ว ก็น่าจะตีความได้กว้างขวางมาก กล่าวคือ ถ้าเว้นน้ำต้มเมล็ดข้าวเปลือกและน้ำดอกมะทรางแล้ว อย่างอื่น ๆ ก็น่าจะฉันได้หมด


    ที่มีปัญหามากก็เรื่องนมสดและน้ำเต้าหู้ ที่ทำจากเมล็ดถั่วเหลือง น้ำถั่วเหลืองนี้ แม้ในฝ่ายพระมหานิกายบางพวกก็ไม่ฉัน และผู้ที่ตีความค่อนข้างเคร่งก็เป็นพระฝ่ายปฏิบัติ หรือพระกรรมฐาน ส่วนพระตามวัดทั่วไป ท่านก็ฉันได้ทุกอย่าง ขอให้โยมเอามาประเคนเถอะ แม้แต่นมข้น (มีแป้งผสมอยู่ด้วย) ชงโอวัลตินหรือไมโล ท่านก็ไม่รังเกียจ


    ก่อนที่จะคุยกันเกี่ยวกับน้ำปานะต่อไป ควรจะมาดูหลักฐานกันก่อน ว่าเรื่องน้ำปานะนี้ มีหลักฐานในที่ใดบ้าง ? ที่ยกมาข้างต้นนี้ เป็นพระพุทธบัญญัติจากพระวินัย แต่ยังมีหลักฐานในพระสูตรอีกแห่งหนึ่ง คือเล่มที่ 29 ข้อ 7 ดังนี้



    <TABLE style="MARGIN: auto auto auto 19.5pt; WIDTH: 64.02%; BACKGROUND: white; -moz-background-clip: border; -moz-background-origin: padding; -moz-background-inline-policy: continuous" border=0 cellPadding=0 width="64%"><TBODY><TR style="HEIGHT: 18.05pt"><TD style="BORDER-BOTTOM-COLOR: rgb(236,233,216); PADDING-BOTTOM: 0cm; BACKGROUND-COLOR: transparent; BORDER-TOP-COLOR: rgb(236,233,216); PADDING-LEFT: 0cm; WIDTH: 36.1%; PADDING-RIGHT: 0cm; HEIGHT: 18.05pt; BORDER-RIGHT-COLOR: rgb(236,233,216); BORDER-LEFT-COLOR: rgb(236,233,216); PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top width="36%">1. น้ำผลสะคร้อ


    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM-COLOR: rgb(236,233,216); PADDING-BOTTOM: 0cm; BACKGROUND-COLOR: transparent; BORDER-TOP-COLOR: rgb(236,233,216); PADDING-LEFT: 0cm; WIDTH: 62.22%; PADDING-RIGHT: 0cm; HEIGHT: 18.05pt; BORDER-RIGHT-COLOR: rgb(236,233,216); BORDER-LEFT-COLOR: rgb(236,233,216); PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top width="62%">2. น้ำผลเล็บเหยี่ยว</B>


    </TD></TR><TR style="HEIGHT: 18.05pt"><TD style="BORDER-BOTTOM-COLOR: rgb(236,233,216); PADDING-BOTTOM: 0cm; BACKGROUND-COLOR: transparent; BORDER-TOP-COLOR: rgb(236,233,216); PADDING-LEFT: 0cm; WIDTH: 36.1%; PADDING-RIGHT: 0cm; HEIGHT: 18.05pt; BORDER-RIGHT-COLOR: rgb(236,233,216); BORDER-LEFT-COLOR: rgb(236,233,216); PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top width="36%">3. น้ำผลพุทรา</B>


    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM-COLOR: rgb(236,233,216); PADDING-BOTTOM: 0cm; BACKGROUND-COLOR: transparent; BORDER-TOP-COLOR: rgb(236,233,216); PADDING-LEFT: 0cm; WIDTH: 62.22%; PADDING-RIGHT: 0cm; HEIGHT: 18.05pt; BORDER-RIGHT-COLOR: rgb(236,233,216); BORDER-LEFT-COLOR: rgb(236,233,216); PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top width="62%">4. น้ำมัน (งา)</B>


    </TD></TR><TR style="HEIGHT: 18.05pt"><TD style="BORDER-BOTTOM-COLOR: rgb(236,233,216); PADDING-BOTTOM: 0cm; BACKGROUND-COLOR: transparent; BORDER-TOP-COLOR: rgb(236,233,216); PADDING-LEFT: 0cm; WIDTH: 36.1%; PADDING-RIGHT: 0cm; HEIGHT: 18.05pt; BORDER-RIGHT-COLOR: rgb(236,233,216); BORDER-LEFT-COLOR: rgb(236,233,216); PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top width="36%">5. น้ำเปรียง</B>


    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM-COLOR: rgb(236,233,216); PADDING-BOTTOM: 0cm; BACKGROUND-COLOR: transparent; BORDER-TOP-COLOR: rgb(236,233,216); PADDING-LEFT: 0cm; WIDTH: 62.22%; PADDING-RIGHT: 0cm; HEIGHT: 18.05pt; BORDER-RIGHT-COLOR: rgb(236,233,216); BORDER-LEFT-COLOR: rgb(236,233,216); PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top width="62%">6. น้ำข้าวยาคู (รสเปรี้ยว)</B>


    </TD></TR><TR style="HEIGHT: 18.05pt"><TD style="BORDER-BOTTOM-COLOR: rgb(236,233,216); PADDING-BOTTOM: 0cm; BACKGROUND-COLOR: transparent; BORDER-TOP-COLOR: rgb(236,233,216); PADDING-LEFT: 0cm; WIDTH: 36.1%; PADDING-RIGHT: 0cm; HEIGHT: 18.05pt; BORDER-RIGHT-COLOR: rgb(236,233,216); BORDER-LEFT-COLOR: rgb(236,233,216); PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top width="36%">7. น้ำนม</B>


    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM-COLOR: rgb(236,233,216); PADDING-BOTTOM: 0cm; BACKGROUND-COLOR: transparent; BORDER-TOP-COLOR: rgb(236,233,216); PADDING-LEFT: 0cm; WIDTH: 62.22%; PADDING-RIGHT: 0cm; HEIGHT: 18.05pt; BORDER-RIGHT-COLOR: rgb(236,233,216); BORDER-LEFT-COLOR: rgb(236,233,216); PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top width="62%">8. น้ำปานะที่ทำด้วยรส (ผักหรือผักดอง)</B>


    </TD></TR></TBODY></TABLE>​
    </B>



    จากมังคลัตถทีปนี (แปล) เล่ม 3 ข้อ 8 ดังนี้



    <TABLE style="MARGIN: auto auto auto 19.5pt; WIDTH: 64.02%; BACKGROUND: white; -moz-background-clip: border; -moz-background-origin: padding; -moz-background-inline-policy: continuous" border=0 cellPadding=0 width="64%"><TBODY><TR style="HEIGHT: 18.05pt"><TD style="BORDER-BOTTOM-COLOR: rgb(236,233,216); PADDING-BOTTOM: 0cm; BACKGROUND-COLOR: transparent; BORDER-TOP-COLOR: rgb(236,233,216); PADDING-LEFT: 0cm; WIDTH: 36.1%; PADDING-RIGHT: 0cm; HEIGHT: 18.05pt; BORDER-RIGHT-COLOR: rgb(236,233,216); BORDER-LEFT-COLOR: rgb(236,233,216); PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top width="36%">1. น้ำผลเล็บเหยี่ยว


    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM-COLOR: rgb(236,233,216); PADDING-BOTTOM: 0cm; BACKGROUND-COLOR: transparent; BORDER-TOP-COLOR: rgb(236,233,216); PADDING-LEFT: 0cm; WIDTH: 62.22%; PADDING-RIGHT: 0cm; HEIGHT: 18.05pt; BORDER-RIGHT-COLOR: rgb(236,233,216); BORDER-LEFT-COLOR: rgb(236,233,216); PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top width="62%">2. น้ำผลพุทราเล็ก</B>


    </TD></TR><TR style="HEIGHT: 18.05pt"><TD style="BORDER-BOTTOM-COLOR: rgb(236,233,216); PADDING-BOTTOM: 0cm; BACKGROUND-COLOR: transparent; BORDER-TOP-COLOR: rgb(236,233,216); PADDING-LEFT: 0cm; WIDTH: 36.1%; PADDING-RIGHT: 0cm; HEIGHT: 18.05pt; BORDER-RIGHT-COLOR: rgb(236,233,216); BORDER-LEFT-COLOR: rgb(236,233,216); PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top width="36%">3. น้ำผลพุทราใหญ่</B>


    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM-COLOR: rgb(236,233,216); PADDING-BOTTOM: 0cm; BACKGROUND-COLOR: transparent; BORDER-TOP-COLOR: rgb(236,233,216); PADDING-LEFT: 0cm; WIDTH: 62.22%; PADDING-RIGHT: 0cm; HEIGHT: 18.05pt; BORDER-RIGHT-COLOR: rgb(236,233,216); BORDER-LEFT-COLOR: rgb(236,233,216); PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top width="62%">4. น้ำเปรียง</B>


    </TD></TR><TR style="HEIGHT: 18.05pt"><TD style="BORDER-BOTTOM-COLOR: rgb(236,233,216); PADDING-BOTTOM: 0cm; BACKGROUND-COLOR: transparent; BORDER-TOP-COLOR: rgb(236,233,216); PADDING-LEFT: 0cm; WIDTH: 36.1%; PADDING-RIGHT: 0cm; HEIGHT: 18.05pt; BORDER-RIGHT-COLOR: rgb(236,233,216); BORDER-LEFT-COLOR: rgb(236,233,216); PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top width="36%">5. น้ำมัน</B>


    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM-COLOR: rgb(236,233,216); PADDING-BOTTOM: 0cm; BACKGROUND-COLOR: transparent; BORDER-TOP-COLOR: rgb(236,233,216); PADDING-LEFT: 0cm; WIDTH: 62.22%; PADDING-RIGHT: 0cm; HEIGHT: 18.05pt; BORDER-RIGHT-COLOR: rgb(236,233,216); BORDER-LEFT-COLOR: rgb(236,233,216); PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top width="62%">6. น้ำนม</B>


    </TD></TR><TR style="HEIGHT: 18.05pt"><TD style="BORDER-BOTTOM-COLOR: rgb(236,233,216); PADDING-BOTTOM: 0cm; BACKGROUND-COLOR: transparent; BORDER-TOP-COLOR: rgb(236,233,216); PADDING-LEFT: 0cm; WIDTH: 36.1%; PADDING-RIGHT: 0cm; HEIGHT: 18.05pt; BORDER-RIGHT-COLOR: rgb(236,233,216); BORDER-LEFT-COLOR: rgb(236,233,216); PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top width="36%">7. น้ำยาคู</B>


    </TD><TD style="BORDER-BOTTOM-COLOR: rgb(236,233,216); PADDING-BOTTOM: 0cm; BACKGROUND-COLOR: transparent; BORDER-TOP-COLOR: rgb(236,233,216); PADDING-LEFT: 0cm; WIDTH: 62.22%; PADDING-RIGHT: 0cm; HEIGHT: 18.05pt; BORDER-RIGHT-COLOR: rgb(236,233,216); BORDER-LEFT-COLOR: rgb(236,233,216); PADDING-TOP: 0cm" vAlign=top width="62%">8. น้ำรส </B>


    </TD></TR></TBODY></TABLE>​
    </B>

    ข้อที่ควรคิด ก็คือ คำว่า น้ำนม หรือ นมสด จะเป็นนมสดจากเต้า หรือจากกล่องก็ตาม พระเณรหรือผู้ถืออุโบสถ ฉันหรือดื่มหลังเที่ยงได้หรือไม่ ?


    ผู้เขียนเคยถามอาจารย์เสฐียรพงษ์ วรรณปก และอาจารย์จำนงค์ ทองประเสริฐ ท่านว่าฉันได้ ถ้าใครว่าฉันไม่ได้ ให้ลองถามท่านผู้รู้ดูทีหรือว่า คำว่า ปโยปานัง แปลว่าอะไร ?
    ศัพท์ที่ว่า ปย หรือ ปโยปานํ ท่านแปลว่า น้ำนม ถ้าไม่ใช่นมสดแล้วจะเป็นนมอะไร ? ที่ควรพิจารณาก็คือมีหลักฐานในที่ 2 แห่ง คือ ทั้งในพระไตรปิฎก และในมงคลทีปนี ดังที่บอกไว้แล้ว


    เดิมที่ผู้เขียนก็ไม่ฉันนมสด เพราะเหตุว่าไม่พบหลักฐาน แต่เมื่อเห็นว่ามีหลักฐานบ่งไว้ชัด ๆ ก็เลยฉันมาตลอด แต่ ที่น่ารังเกียจก็คือ นมข้นหรือหางน้ำนม ซึ่งมีแป้งผสมอยู่ด้วย และไมโลหรือโอวัลติน ซึ่งมีไข่ผสมอยู่ด้วยกับน้ำเต้าหู้ ซึ่งบางท่านว่าฉันไม่ได้


    ในปัจจุบันนี้ มีเครื่องดื่มออกมาใหม่ ๆ แปลก ๆ แยะ ถ้าเราไม่รู้จริงในส่วนผสม หรือในพระวินัย ก็ไม่ควรจะดื่ม ถ้าเกิดมีการหิวกระหาย ก็ยังมีทางบรรเทาได้ เช่น น้ำตาล เป็นต้น แก้หิวได้ดีนัก การอ้างเพียงแต่ว่า องค์โน้นท่านยังฉันได้ สำนักนี้ก็ฉันได้ ไม่ควรนำมาใช้ เพราะจะเกิดค่านิยมทำตาม ๆ กันไป แล้วแก้ภายหลังยาก เพราะความเคยชิน ควรจะคำนึงถึงพุทธบัญญัติเป็นหลัก


    พระพุทธองค์ทรงทราบดี ว่าการทรมานร่างกายเกินไปหรือการบำรุงจนเกินไป จะเป็นผลเสียทั้งสุขภาพกาย และสุขภาพจิต การเดินสายกลาง คือไม่ตึงนักและไม่หย่อนนักย่อมจะสำเร็จประโยชน์ได้เร็วกว่า
    ถ้าเกิดว่า มีความสงสัยในข้อใดหรืออะไร ? เราควรจะศึกษา หรือสอบถามท่านผู้รู้ก่อน ยึดหลักฐานจากพระไตรปิฎกไว้ก่อนเป็นดีที่สุด จะได้ไม่ก่อปัญหา หรือความขัดแย้งตามมาในภายหลัง


    ข้อน่าสังเกต ก่อนจบบทความนี้ ผู้เขียนใคร่ขอฝากความเห็นเกี่ยวกับพระวินัย และการตีความไว้สักเล็กน้อยว่า เป้าหมายหลักในการบัญญัติพระวินัยของพระพุทธองค์นั้น ผู้เขียนจับพระพุทธประสงค์ได้ว่า ทรงมุ่งเป้าไว้ 3 จุดใหญ่ คือ


    1. เพื่อมิให้ชาวบ้านรังเกียจ หรือติเตียนพระเป็นใหญ่
    2. เพื่อให้พระเป็นที่เลื่อมใสของชาวบ้าน
    3. เพื่อมิให้เกิดการขัดแย้งกันเองภายในหมู่สงฆ์



    ในข้อหนึ่ง เราจะเห็นตัวอย่างในสมัยพุทธกาลมากมาย ที่พระทำอะไรแล้วชาวบ้านไม่รังเกียจ พระพุทธเจ้าก็ไม่ทรงบัญญัติเป็นข้อห้าม แต่ถ้าสิ่งใดชาวบ้านตำหนิแล้วก็จะทรงบัญญัติห้ามในทันที


    ในข้อสอง พระต้องพึ่งชาวบ้าน ต้องฝากปากท้องเขาอยู่ ถ้าเขาไม่เลื่อมใสในสิ่งใด ? พระไปทำเข้าก็เกิดปัญหา เขาไม่ศรัทธา พระก็อดตายแน่


    ในข้อสาม ความสามัคคีในหมู่สงฆ์ เป็นสิ่งที่พระพุทธองค์ทรงปรารถนายิ่งนัก เพราะถ้าภายในสงฆ์แตกกันเสียแล้ว ศาสนาก็อยู่ไม่ได้


    ในอดีตที่ผ่านมา ความแตกสามัคคีในหมู่สงฆ์ ส่วนมากจะเป็นเรื่องเล็ก ๆ แล้วกลายมาเป็นการแยกพวกแยกหมู่กัน เป็นเรื่องที่ไม่ควรให้เป็นประวัติศาสตร์ซ้ำรอยอีก ทางที่ดีและถูกต้องนั้น ถ้าเรายังไม่แน่ใจว่า สิ่งที่เราทำแล้วหรือยังไม่ทำก็ตาม ถ้าไม่แน่ใจ่ว่าจะถูก ก็ควรค้นดูหลักฐานพระพุทธบัญญัติก่อน ถ้าหาไม่พบหรือไม่แน่ใจ ก็ควรที่จะสอบถามท่านผู้รู้


    การที่เราไม่รู้ และขืนทำไปก่อนนั้น ย่อมจะเกิดผลเสียอย่างน้อย 2 ประการ คือ


    1. ทำให้ท่านผู้รู้รังเกียจ และดูหมิ่นเอาได้ ว่าเราไม่มีความรู้ เมื่อไม่รู้แล้ว ก็ไม่ยอมศึกษาหรือสอบถามอีกด้วย เป็นเหตุให้บัณฑิตไม่อยากคบหาเรา


    2. มักจะเกิดการเคยตัว และเคยชินจนติดเป็นนิสัย แม้จะรู้ว่าผิดในภายหลังก็แก้ยาก เพราะการตามใจกิเลสตัณหานั้น มีแต่จะพอกพูนยิ่งขึ้น ได้ที่จะเบาบาง หรือหมดไปนั้น อย่าคิดเลย


    ดังนั้น ทางที่ดีและถูกต้องในการบวช ควรจะตั้งเป้าไว้ที่การศึกษาก่อนอื่นใด คือก่อนที่จะลงมือปฏิบัติทางจิต เพราะถ้าบวชแล้วไปปฏิบัติในทันที มันจะเบื่อการเรียนหรือบางทีก็นึกรังเกียจพวกที่เรียนปริยัติ หาว่าเป็นพวกในลานเปล่า



    แน่นอน, ถ้าเรียนรู้แล้วไม่ปฏิบัติ มันก็เป็นพวกใบลานเปล่าแน่ และในทำนองเดียวกัน การปฏิบัติโดยไม่เรียน มันก็มีผลเสียอย่างน้อย 2 อย่าง คือ อาจทำให้หลงผิด หรือปฏิบัติผิด เมื่อปฏิบัติผิดมรรคผลก็ไม่เกิด และอาจทำให้ล่าช้า หรือติดอาจารย์ได้ง่าย คือติดในทางผิดๆ แต่ถ้าเรายึดพระพุทธพจน์ พระไตรปิฎกไว้ก่อน โอกาสที่จะเสี่ยงหรือผิด ก็เป็นไปได้ยาก หรือไม่มีเลย เพราะพระไตรปิฎกผ่านการกลั่นกรองมามาก และเป็นที่รับรองกันทั่วโลก.



    ข้อมูล: หนังสือ "พระไตรปิฎก ฉบับเก็บตก" จัดทำโดย ธรรมรักษา


     
  5. SleepingWakeup

    SleepingWakeup สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    20
    ค่าพลัง:
    +14
    ถือศิลด้วยปัญญา อย่าถือศิลด้วยความงมงาย (ping-love
     
  6. GhostHead

    GhostHead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    1,010
    ค่าพลัง:
    +1,878
    กินก็ตาย ไม่กินก็ตาย กินไปเหอะ เพราะยังไงมันก็ต้องตาย
     
  7. Down6month8

    Down6month8 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    85
    ค่าพลัง:
    +258
    อนุโมทนาค่ะ สงสัยมานานแล้วเหมือนกันค่ะ ครั้งนี้กระจ่างเลย
     
  8. ธรรมภัฎ

    ธรรมภัฎ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2009
    โพสต์:
    463
    ค่าพลัง:
    +734
    สีเล นะ สุคะติง ยันติ สีเล นะ โภคะ สัมปะทา

    เจริญธรรมครับ
     
  9. deneta

    deneta เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    2,711
    ค่าพลัง:
    +5,720
    เปิดหงายของที่คว้ำ ฉายที่มืดให้สว่างอนุโมทนาสาธุครับ
     
  10. sirinun18@gmail.com

    sirinun18@gmail.com สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    60
    ค่าพลัง:
    +8
    อนุโมทนา สาธุค่ะ ขอบคุณที่ให้ความรู้ (เริ่มปฏิบัติอยู่ค่ะ)
     
  11. noppp

    noppp สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +9
    ผมอ่านดูแล้ว รู้สึกว่าไม่เห็นมี ไมโล กับโอวัลติน ในข้อบัญญัติเลยคับ
    พระองค์ทรงมิให้กินข้าว แต่ไมโล กับโอวัลติน เดียวนี้เค้าทำจากข้าวมอล์ คับ
    และก่ทรงห้ามทำน้ำปานะที่ผ่านความร้อน ให้ทานกันสดๆเลยนะคับ แต่ไมโล กับโอวัลติน มันต้องชงกับน้ำร้อนอะ


    ผมเลยสงสัยว่า พูดออกมาได้ไงอะคับ อายเด็กบ้างนะลุง เหอๆๆ:boo:
     
  12. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,646
    อ่าวเหรอครับ...คุณ <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->nui588<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_5076227", true); </SCRIPT> ทราบแต่ว่าไมโล หรือ โอวัลติน เขาทำจาก มอลต์ ก็จริงอยู่....แต่มันไม่ได้เป็นกาก อย่างกับเนสวีต้านะ เขาทำจากมอล์ จริง แต่เป็น มอลต์ ที่สกัดมา นะครับ...

    เรื่องน้ำปานะอย่างอื่นนั้น ข้อมูลจากพระไตรเป็น ของท่าน ธรรมรักษา ได้ศึกษาค้นคว้าจากพระไตรปิฏกมาอย่างดีแล้ว และได้กล่าวไว้หมดอย่างละเอียด และมีที่มาอย่างถูกต้องจากพระไตรปิฏก ไม่น่าจะมีอะไรที่น่าสงสัย ไม่ว่าเรื่องของน้ำเต้าหู่หรืออะไรก็ตาม นะครับ....

    ส่วนเรื่องการผ่านความร้อนนั้น ผมไม่ทราบ แต่ที่เห็นปัจจุบัน ไม่มีอะไรที่ไม่ผ่านความร้อน แม้แต่พระป่าที่ถือวินัยเคร่งครัด ท่านชงน้ำตาล ท่านก็ใช้น้ำร้อนนะ....เรื่องความร้อนนี้ไม่ทราบว่าเอามาจากส่วนใหนของพระไตรปิฏกครับ.....ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง ตอนนี้ไม่มีพระท่านใหนเลยที่ไม่ผิดวินัย....นะครับ....
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กันยายน 2011
  13. นทีบุญ

    นทีบุญ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    939
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +795
    กระทู้นี้ดีมากๆเลย เพราะข้าพเจ้าก็เป็นกระเพาะเหมือนกัน ศีลแปดทุกวันพระ ก็ต้องอดๆทนๆเอาบางวันก็ปวดบางวันโชคดีก็ไม่ปวด
     
  14. เฮียปอ ตำมะลัง

    เฮียปอ ตำมะลัง ทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยความตาย วุ่นวายทำไม ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    24,969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +91,129
    <TABLE class=tborder id=post5076227 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">วันนี้, 12:50 PM </TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right>#20 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->nui588<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_5076227", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    วันที่สมัคร: Aug 2011
    ข้อความ: 8
    พลังการให้คะแนน: 0 [​IMG]




    </TD><TD class=alt1 id=td_post_5076227 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- google_ad_section_start -->ผมอ่านดูแล้ว รู้สึกว่าไม่เห็นมี ไมโล กับโอวัลติน ในข้อบัญญัติเลยคับ
    พระองค์ทรงมิให้กินข้าว แต่ไมโล กับโอวัลติน เดียวนี้เค้าทำจากข้าวมอล์ คับ

    ไมโล+โอวัลติน จะใส่ มอลต์สกัด



    มอลต์สกัด คือ สารที่สกัดจากยอดอ่อนข้าวบาร์เล่ต์

    ผมไม่แน่ใจว่ามอลต์สกัดทำมาจากข้าวฯหรือ ยอดอ่อนของต้นข้าว ฯ


    ถือศีล ๘ ถ้าไม่มั่นใจก็อย่าไปดื่มครับ

    แต่หลวงพี่เล็ก ท่านการันตี ... ผมว่าไม่มีปัญหาครับ



    และก่ทรงห้ามทำน้ำปานะที่ผ่านความร้อน ให้ทานกันสดๆเลยนะคับ แต่ไมโล กับโอวัลติน มันต้องชงกับน้ำร้อนอะ


    ไมโลโอวัลติน ไม่ผ่านน้ำร้อน ก็กินได้


    พระพุทธองค์ ทรงห้ามทำน้ำปานะผ่านน้ำร้อนเพราะอะไร ?

    ในความคิดเห็นของผม

    เพราะเกรงว่าจะทำให้น้ำปานะนั้นสุก เกิดเนื้อที่อร่อย ทานแล้วอิ่มสบาย ไม่สนใจในการปฏิบัติธรรม


    ผมเลยสงสัยว่า พูดออกมาได้ไงอะคับ อายเด็กบ้างนะลุง เหอๆๆ:boo:<!-- google_ad_section_end -->




    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  15. หาธรรม

    หาธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,164
    ค่าพลัง:
    +3,739
    ตามข้อพูดคุยดังข้างบน

    malt ทำจากข้าวบาเลย์งอก ถือว่าทำจากแป้งข้าวบาเลย์ จัดเป็นโภชนะ ไม่ควรดื่มยามวิกาลนะครับ

    ส่วนเรื่องผ่านความร้อน ในพระวินัยปิฎกหมายถึงน้ำปานะที่ทำจากผลไม้จะต้องไม่ผ่านความร้อนหรือหุงต้ม คือ เมื่อคั้นแล้วกรองด้วยผ้าหลาย ๆ ชั้นไม่ให้มีเนื้อแล้วฉันได้เลย

    ส่วนพวกชากาแฟ(ที่ไม่ใส่นม)ชงด้วยน้ำร้อนฉัน อันนี้ไม่ใช่โภชนะ ฉันได้ครับ

    ....................

    เป็นโครกระเพาะก็ทานยาเคลือบกระเพาะ หรือน้ำปานะที่เคลือบกระเพาะได้ดี

    นอกจากนี้ก็กินน้ำอ้อย น้ำผึ้ง เนยแข็ง เนยเหลว (ท่านบัญญัติอนุญาติไว้โดยถือเป็นเภสัช) ได้ ยิ่งสองอย่างหลังนี้เคลือบกระเพาะได้ดี เป็นทั้งยาเป็นทั้งแหล่งพลังงานระงับความหิวได้ดีอีกด้วย

    ถ้าจะรักษาศีล ๘ ควรงดเว้นสิ่งที่จัดเป็นโภชนะ ที่ทำจากข้าว แป้ง นม ถั่ว ฯลฯ

    ..........
    ถ้าไม่อดก็ไม่รู้จักความหิว ความหิวเป็นทั้งกิเลสและทำให้เกิดตัณหา ได้รู้จักแล้วจะได้หาทางละ ถ้าไม่รู้ก็แสวงหาตามความอยาก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 กันยายน 2011
  16. guuuruuu

    guuuruuu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    35
    ค่าพลัง:
    +158
    หากสงสัยอย่าทานเลย แค่ครึ่งวัน

    หากสงสัยอย่าทานเลย แค่ครึ่งวัน

    - หากต้องตายเพราะไม่ได้กิน เป็น ปรมัตถทานบารมี
    - หากทนไม่กินได้ครึ่งวัน เป็น ศีลบารมี
    - หากอยากกินแต่ก็ไม่กิน เป็น เนกขัมมะบารมี
    - หากหาวิธีทำอย่างไรให้ไม่หิวได้เช่นก่อนเพลก็กินเผื่อหน่อย เป็น ปัญญาบารมี
    - แม้หิวก็ไม่เลิกที่จะถือศึล เป็น วิริยะบารมี
    - หากต้องทนหิว เป็น ขันติบารมี
    - หากอย่างไรก็จะไม่กินก็ต้องถือศีลให้สำเร็จ เป็น สัจจะบารมี
    - หากตั้งใจว่าจะไม่กินแน่วแน่ เป็น อฐิษฐานบารมี
    - หากรู้สึกหิวแล้วคิดถึงความทุกของตัวเองและสัตว์โลก เป็น เมตตาบารมี
    - หากทนหิวแล้วข่มใจ เป็น อุเบกขาบารมี

    ขออนุโมทนากับท่านผู้มีบุญที่อยู่ที่นี้ และไม่ได้อยู่ที่นี้ทุกท่าน กับบุญที่ทุกท่านได้มีบุญมากในกาลก่อนจนได้รู้จักศีลอุโบสถ

    อนุโมทนากับอุโบสถที่ท่านได้ถือได้สำเร็จมาแล้วและในปัจจุบัน

    อนุโมทนากับอุโบสถที่ทุกท่านกำลังจะได้ถือในอนาคต.
     
  17. Ayukawa

    Ayukawa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    256
    ค่าพลัง:
    +573
    ขอร่วมอนุโมทนากับผู้ที่ถือศิลแปดทุกๆท่านด้วยครับ การสร้างบารมีย่อมต้องมีอุปสรรคขัดขวางเป็นธรรมดา

    ขอให้พยายามกันต่อไปครับเพราะสิ่งที่ได้จะดีมากๆเกินกว่าจะบรรยายได้(ความรู้ไม่ถึงครับเลยบรรยายไม่ถูก5555)

    และขอขอบคุณท่าน guuuruuu ที่ได้นำความรู้ดีๆมาเผยแพร่
     
  18. หมีน้อย

    หมีน้อย สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2005
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +21
    สรุปว่า ศีลแปดดื่มนม หรือ น้ำเต้าหู้ (นมถั่วเหลือง ไวตามิล แลคตาซอย) ไม่ได้ใช่หรือไม่

    ถ้าน้ำใบเตยหล่ะ ได้หรือไม่

    ผมอ่านจากคุณ panudet แล้วยังงงๆ บางสำนักก็ได้ บางสำนักก็ไม่ได้ รบกวนช่วยตอบทีนะครับ ขอบคุณครับ
     
  19. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,646
    จัดไป................อ่านข้อมูลหลักอีกสักรอบนะครับ...

    ท่านไม่ได้ห้ามอะไร....แต้ถ้าคุณรังเกียจก็ไม่ต้อง เพื่อความสบายใจ...แต่นมนี่ได้แน่นอนครับ...

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 กันยายน 2011
  20. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,646
    ตอบปัญหาธรรม น้ำปานะ.

    ถาม. ต่อจากครั้งที่แล้วเรื่องน้ำปานะที่ส่งให้พระอาจารย์ไป....
    เขาบอกว่าน้ำปานะต้องไม่ผ่านการต้ม อย่างนี้ กาแฟดำ น้ำเก็กฮวย หรืออะไรที่ผ่านการต้มนี้ ไม่ได้เลยใช่ไมครับ

    ตอบ. น้ำปานะ คือน้ำผลไม้ผลไม่ใหญ่ (คงทราบขนาด) แล้วเอามาบดเอามากลองผ่านผ้าแปดครั้ง ผลไม้บางชนิด ต้นไม้ รากไม้ บางชนิด จัดเป็นยาก็ต้องต้มก่อน (เรียกอีกอย่าง น้ำอัฐะ) กาแฟดำ น้ำเก็กฮวย หรืออะไรที่ผ่านการต้มนั้นเมื่อผสมน้ำตาลอายุของสิ่งนั้นมีเท่าน้ำตาล คือ ๗ วัน (เว้นน้ำผลไม้เมื่อเก็บพ้นวันพ้นคืนมันจะกลายเป็นเมรัย+ทุกวันนี้มีตู้เย็นเก็บ บางที่บอกว่าใช้ต่อได้ บางที่บอกว่าไม่ได้)

    ตอบปัญหาธรรมโดย พระอาจารย์ สมาน ปัญกาโม
    ประธานสงฆ์ วัดป่าวังอวน(ธ) ต.สันมะค่า อ.ป่าแดด จ.เชียงราย

    เมื่อวันที่ ๕ กันยายน ๒๕๕๔
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 กันยายน 2011
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...