ถามผู้รู้หน่อยครับอานาปานสติ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย pitipornsn, 8 กันยายน 2011.

  1. pitipornsn

    pitipornsn Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    137
    ค่าพลัง:
    +95
    คือเวลานังสมาธิจับลมหายใจ มันเหมือนบังคับลมหายใจเข้าออก ถูกไหมครับ
    เวลาตั้งนาฬิกาปลุกไว้ตอนทำสมาธิบางครั้งนาฬิกาดังก็ตกใจ บางครั้งก็ไม่รู้สึกตกใจ
    แบบไหนถูกครับ
     
  2. เหนือตน

    เหนือตน สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2011
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +9
    ถ้าจิตกำลังเคลิ้มๆ หรือกำลังจดจ่อสิ่งใดสิ่งหนึ่ง มันก็จะเป็นแบบนั้นแหละครับ
     
  3. แจ๊กซ์69

    แจ๊กซ์69 ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    3,145
    ค่าพลัง:
    +1,960
    ผมแค่อะไรนิดหน่อยก็ตกใจแล้วครับแมวกระโดดเล่นดังตุบตับตกใจประจำปล่อยวางไปดีกว่ากาลก่อนผมละลึกได้ผมทำให้คนอื่นตกใจและกลัวไม่แปลกเลยที่ผมละการตกใจนี้และการกลัวไปได้ยาก
     
  4. tOR_automotive

    tOR_automotive เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    582
    ค่าพลัง:
    +184
    ในวิสุทธิมรรคมีการแสดงกรรมฐานนี้ไว้ละเอียดดีครับ
    ผมย่อไว้สำหรับตัวเอง ๓ อย่าง
    ๑ รำงับกาย กายต้องนิ่ง
    ๒ รำงับจิต จิตเป็นสมาธิ แค่นี้ก็ไปได้ไกลล่ะครับ
    ๓ พิจารณาธรรม ยังไม่ถึง ทราบอยู่ในใจว่าออกจากจตุถฌาณก่อน แล้วค่อยพิจารณาไตรลักษณ์ แต่ผมยังไม่ถึงหรอกครับ

    หมายเหตุ : ควรสำรวมอินทรีย์ด้วยอย่างดี ยืน เดิน นั่ง นอน สติกำกับไว้ให้ดี
    ควรเลือกกรรมฐานที่เหมาะสมกับเราจริง ๆ ให้ได้ จะช่วยให้นิวรณ์อ่อนข้อลงเร็วมาก ๆ ผมเองลงตัวที่มรณะสติ ก่อนนั่นหลายกอง ไม่โดนเลย ถึงโอเคแต่ก็ช้าเกินไป คุณจะรู้ตัวคุณเองเลยว่ากองไหน

    สาธุ ขอบคุณพระพุทธโฆษะมหาเถระ ผู้รจนาคำภีร์วิสุทธิมรรค และผู้ที่เกียวข้องที่เปี่ยมด้วยพรหมวิหารธรรม
    http://nkgen.com/37.htm
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 กันยายน 2011
  5. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,443
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,663
    การฝึกอานาปานุสสติกรรมฐานเป็นถามผมว่าเราจำเป็นต้องบังคับลมหายใจหรือไม่ จะพูดว่าบังคับลมหายใจในตอนแรกก็อาจเป็นได้ คือการที่เราพยายามรวมจิตของเราให้มาอยู่ในจุดที่ตั้งของลมหายใจ (คือการที่เรานับสิบรอบลมหายใจเพื่อปรับกายและปรับจิต)....หลังจากที่จิตมีความสงบแล้ว จากการนับรอบหายใจ.....ต่อจากนี้ ไม่จำเป็นต้องไปบังคับลมนะครับ....หลังจากนี้เราจะไม่ใช้คำว่าบังคับลม ที่ว่าจะยาวหรือสั้น หรืออะไรก็ตาม ให้เป็นการหายใจโดยธรรมชาติ สติเรารู้อยู่ที่ลมหายใจโดยธรรมชาตินะครับ....จิตวางให้สบายๆ ไม่มีความตึงเครียด....อย่างนี้จึงจะถูกต้อง....

    อะไรก็ตามถ้าเราไปใช้วิธีบังคับ มันย่อมหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีอาการเครียดเกิดขึ้น เมื่อเครียดเกิดขึ้นจากที่ว่าจะดี ก็เป็นเสียไป....จิตที่เราใช้ในการปฏิบัติต้องเป็น เบา สบาย และผลแห่งการปฏิบัติที่ได้นั้น เช่นกัน ก็ต้องเป็นสภาวะที่เบาสบาย....

    ในการปฏิบัติ ผมจะไม่ใช้นาฬิกาปลุกนะครับ.....เพราะว่านาฬิกาปลุก จะเป็นตัวที่ทำให้ผมพะวงในการปฏิบัติ ไม่ว่าจะเรื่องตั้งนาฬิกา เรื่องปลุกนาฬิกา อะไรต่างๆ จากที่จะปฏิบัติได้ดี กลับไปเป็นภาระ ที่จิตจะต้องทำแทนกรรมฐานที่เราจะทำ....และที่สำคัญจุดที่เพียงพอต่อการปฏิบัติในแต่ละครั้งอาจไม่เท่ากัน บางครั้งนั่งนานสงบ ในขณะที่บางครั้งนั่งนาน ไม่สงบ อย่างนี้ก็มี พยายามทำอย่างไรก็ได้ครับ...ที่ไม่ต้องสร้างภาระ สร้างกังวล ให้กับตัวเอง....

    ตั้งใจปฏิบัตินะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 กันยายน 2011
  6. naroksong

    naroksong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    412
    ค่าพลัง:
    +1,135
    ลองเริ่มตั้งสติจากลมหายใจออกดูครับ และให้สนใจอยู่เฉพาะที่จมูกที่ลมหายใจกระทบอยู่เท่านั้น

    ...ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ภิกษุที่เจริญอานาปานสติแล้วอย่างไร ทำ
    ให้มากแล้วอย่างไร จึงบำเพ็ญสติปัฏฐาน ๔ ให้บริบูรณ์ได้ ดูกรภิกษุทั้งหลาย
    สมัยใด เมื่อภิกษุหายใจออกยาว ก็รู้ชัดว่า หายใจออกยาว หรือเมื่อหายใจเข้า
    ยาว ก็รู้ชัดว่า หายใจเข้ายาว เมื่อหายใจออกสั้น ก็รู้ชัดว่า หายใจออกสั้น
    หรือเมื่อหายใจเข้าสั้น ก็รู้ชัดว่า หายใจเข้าสั้น
    สำเหนียกอยู่ ว่าเราจักเป็นผู้
    กำหนดรู้กองลมทั้งปวง หายใจออก ว่าเราจักเป็นผู้กำหนดรู้กองลมทั้งปวง หายใจ
    เข้า สำเหนียกอยู่ ว่าเราจักระงับกายสังขาร หายใจออก ว่าเราจักระงับกายสังขาร
    หายใจเข้า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ในสมัยนั้น ภิกษุชื่อว่าพิจารณาเห็นกายในกาย
    มีความเพียร รู้สึกตัว มีสติ กำจัดอภิชฌาและโทมนัสในโลกเสียได้อยู่ ดูกร
    ภิกษุทั้งหลาย เรากล่าวลมหายใจออก ลมหายใจเข้านี้ ว่าเป็นกายชนิดหนึ่ง
    ในพวกกาย เพราะฉะนั้นแล ในสมัยนั้น ภิกษุจึงชื่อว่าพิจารณาเห็นกายในกาย
    มีความเพียร รู้สึกตัว มีสติ กำจัดอภิชฌาและโทมนัสในโลกเสียได้อยู่...

    ขอให้เจริญในธรรมครับ
     
  7. แปะแปะ

    แปะแปะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    780
    ค่าพลัง:
    +128
    ผมไม่ใช่ผู้รู้นะครับ เท่าที่ทราบอาการที่ว่าตกใจนั้น เคยเรียนถามอาจารย์ผู้รู้ไว้
    ท่านบอกว่าอาการของจิตยึดเกาะแนบแน่นหรือเคล้าคลึงกับในอารมณ์ใดอารมณ์หนึ่ง
    และเมื่อมีเสียงมากระทบกับหู จิตก็พรากจากอารมณ์เดิม (อารมณ์ใหม่มากระชากจิต)
    มารับอารมณ์ใหม่ที่หูอย่างกระทันหันคืออย่างเร็วอย่างแรง
    ที่เราเรียกว่าตกกะใจนั่นแหละครับ อาการอย่างนี้ไม่ต้องนั่งสมาธิก็มีได้เกิดได้
    รู้เท่านี้เลยมาเล่าต่อให้ฟังน่ะครับ............
     
  8. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    เท่าที่ผมรู้ การมีสมาธิคงมั่น จะไม่ตกใจง่าย เหตุเพราะจิตมีกำลัง

    หากตกใจง่าย ต้องดูว่าขณะนั้น จิตจดจ่ออยู่กับอะไร การรู้สึกตัวชัดเจนแค่ไหน

    หากสัมปชัญญะมากเกินพอดี ก็จะตกใจได้ง่าย

    หากสติมากเกินพอดี ก็จะรับรู้ได้ช้า ตกใตได้ยาก

    ที่ว่าเกินพอดี หมายถึง มีสติเพียงอย่างเดียว ไม่มีสัมปชัญญะเลย

    หรือ มีสัมปชัญญะเพียงอย่างเดียว ไม่มีสติเลย

    การปฎิบัติจะมีควบคู่กัน เพียงแต่จะมีสิ่งใดเป็นพื้น ในการปฎิบัติครับ
     
  9. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,805
    ค่าพลัง:
    +7,940
    ถูกทั้งคู่ เพราะ เราตามเห็น ธรรมชาติของจิตเขา เราไม่ได้ปฏิบัติเพื่อทำให้
    จิตผิดธรรมชาติ ผิดมนุษยษ์มนา

    คิดดูสิ หากฝึกจน นาฬิกาปลุก ปลุกแล้วไม่เอะใจ อีกหน่อย นอนหลับไม่รู้เรื่อง
    จะไปเรียนก็สาย จะเข้างานก็ไม่ตรงเวลา เป็น มนุษย์ไร้ค่า แหงมๆ

    ดังนั้น ดูไปว่า ทำไม บางครั้งตกใจ บางครั้งไม่ตกใจ

    มันจะต้องมีเหตุ ทีเป็นเบื้องหลัง ส่วนใหญ่จะมีสิ่งที่เรียกว่า วิตก3
    คือ กามวิตก พยาบาทวิตก และ วิหิงสาวิตก

    กามวิตก ก็เช่น แหม นัดสาวเอาไว้ หรือ ได้เวลาแม่เรียกกินข้าว เป็นต้น

    พยาบาทวิตก ก็เช่น ก่อนทำสมาธิตั้งนาฬิกา แอบกลัวว่า จะตกใจ เวลาได้
    ยินเสียงนาฬิกาปลุก แบบนี้ พอมันดังปั๊ป ก็ตกใจ แต่ไม่ใช่เพราะ นาฬิกานะ
    มันจะออกแนว มันไปเห็นว่า ตะกี้ตัวเองเผลอระวังเสียงนาฬิกา แล้วก็โทษตัว
    เอง โกรธตัวเอง แปล๊บ!!! สะดุ้งเลย สะดุ้งก่อนนาฬิกาดังด้วยซ้ำบางที

    วิหิงสาวิตก ก็เช่น ตอนทำสมาธิตั้งนาฬิกา นาฬิกาดังขึ้นมาแล้ว เราก็คว้ามือ
    ไปจับนาฬิกาแล้ว หมายเอาว่า จะกดให้มันหยุด แต่แล้วมันก็ไม่หยุดดัง เอามือ
    ไปกดอีกก็ไม่หยุดอีก คราวนี้ตกใจแล้ว เริ่มรู้สึกว่า คนอื่นจะเข้าใจผิดว่าเรา
    นั่งสมาธิไม่ตื่นเสียงกระมัง เสียคะแนนแย่เลย อับอายขายขี้หน้าได้ ทั้งๆที่
    จริงๆเรานั่งสมาธิดีจะตาย แบบนี้ก็จะ ตกใจแบบว่า นาฬิกาพังได้

    นี่ ลองดู วันไหน วิตก3 ไม่ค่อยมี ต่อให้เป็นเสียง ช้าง ก็ไม่ตกใจ ไม่หวั่นไหว
    แต่หากช้างจะเดินมาเหยียบ ก็ เดินหลีกมันได้นะ ไม่ใช่ ไม่ตกใจ ไม่หนี ขี้เร็ด
    อยู่ตรงนั้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 กันยายน 2011
  10. ปุณฑ์

    ปุณฑ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2008
    โพสต์:
    2,761
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,692
    ต้องขออภัยในการให้ข้อมูลด้วย
    หลายปีก่อนได้ไปสวนโมกข์ ซึ่งจะเน้นกรรมฐานอานาปานสติ
    อาจารย์ท่านนึงอธิบายว่า บทแปลบทนี้ ได้เปลี่ยนนานแล้วค่ะ
    เป็น..... เมื่อหายใจเข้ายาว(สั้น)ก็รู้ชัดว่าหายใจเข้ายาว(สั้น)...
    .....เมื่อหายใจออกยาว(สั้น)ก็รูชัดว่าหายใจออกยาว(สั้น)....

    คือเริ่มที่หายใจเข้า(อัสสาสะ)ก่อน แล้วจึงหายใจออก(ปัสสาสะ)
    ทั้งสี่ฐาน คือ กายลม เวทนา จิต ธรรม
    เพราะตอนแปลนั้น ได้มีการถกเถียงว่าเด็กแรกเกิดจะหายใจออกเข้า
    แต่เมื่อได้ทราบว่าเด็กแรกเกิด แท้จริงก็หายใจเข้าก่อน
    (ประมาณนี้ ขอโทษที่ให้ข้อมูลได้ไม่ชัดเจนนัก คือตอนนั้นก็ไม่ค่อยได้สนใจ)

    ส่วนที่เผยแพร่ไปโดยมากแล้ว ก็คงยากจะตามแก้ได้


     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 กันยายน 2011
  11. naroksong

    naroksong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    412
    ค่าพลัง:
    +1,135
    ผมไม่ได้ใช้ตำราของสวนโมกข์แต่อย่างใด

    พระไตรสำนักอื่นก็ ให้ตั้งลมหายใจออกก่อน อรรถกถา วิสุทธิมรรค วิมุตติมรรคก็ให้ตั้งลมหายใจออกก่อนครับ

    และจากประสบการณ์ส่วนตัวก็เห็นด้วยที่จะตั้งสติจากลมหายใจออก(ไม่ต้องไปฝืนระบายลมหายใจออก ให้ปล่อยลมออกตามธรรมดา) เพราะ เมื่อผมเริ่มตั้งสติจากลมหายใจเข้า จะรู้สึกว่าการหายใจไม่เป็นธรรมชาติ แต่เมื่อเริ่มตั้งสติจากลมหายใจออกจะรู้สึกเป็นธรรมชาติมากกว่า

    ขอให้เจริญในธรรมครับ
     
  12. pitipornsn

    pitipornsn Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    137
    ค่าพลัง:
    +95
    ขอบคุณครับเดียวลองตั้งอารมใหม่ดู เดียวมาถามต่อครับ
     
  13. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,622
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,194
    อานาปานสติ คือมีสติรู้อยู่ที่ลมหายใจเข้า-ออก ออก-เข้า

    ให้มีหน้าที่รู้อยู่ที่ลมหายใจ ไม่ใช่ไปบังคับลมหายตามชอบใจตนเอง

    ให้ลมหายใจสงบตัวลงไปเอง อย่าใจเร็วด่วนได้ไปบังคับให้ลมสงบดังใจ(เครียดได้ง่ายๆ)

    แต่เรา(จิต)มีหน้าที่ดูและรู้อยู่ที่ลมหายใจเข้า-ออกอย่างต่อเนื่องเนืองๆไม่ขาดสาย(เพ่ง)

    เข้า-ออกยาวก็รู้ เข้า-ออกสั้นก็รู้ หยาบก็รู้ ละเอียดก็รู้ฯลฯ

    อาการตกใจ เมื่อมีอะไรมารบกวนหรือกระทบก็จะหายไป

    ถ้ารู้แล้วขาดสายไป อาการตกใจย่อมปรากฏให้เห็นได้(เผลอ)
     
  14. ทศมาร

    ทศมาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2010
    โพสต์:
    166
    ค่าพลัง:
    +237
    ตกใจ ผิดนะครับ มากด้วย ไม่เอาเคลิ้ม

    ให้ระลึกรู้เป็นธาตุไหลเวียนผ่านเข้าออกสบายๆ ไม่เคร่งเครียด เพ่งจับลมหายใจไม่ให้เผลอเลย แต่ให้รู้ว่าจิตไหลออกจากลมไปคิดเรื่องนั้นเรื่องนี้ ให้รู้ทันบ่อยขึ้นเรื่อยๆ
     
  15. pitipornsn

    pitipornsn Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    137
    ค่าพลัง:
    +95
    มันคงงวงอะครับ บางที่ก็เพ่งลมมากไป แต่เริ่มไม่ตกใจละครับขอบคุณครับ
     
  16. pitipornsn

    pitipornsn Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    137
    ค่าพลัง:
    +95
    ตอนเคลิมๆแมวก็จะมาเลีย พอเลียก็รู้สึกตัว พอรู้สึกตัวมันก็ไม่กวน เหมือนมันรู็้้555ครับ
     
  17. pitipornsn

    pitipornsn Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    137
    ค่าพลัง:
    +95
    ทุกวันนี้อยู่บ้านกับแมวทุกวัน แมวคู่บารมีหรือเปล่า อิอิ
     
  18. Ongsathit

    Ongsathit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    626
    ค่าพลัง:
    +574
    -ท่านเอาอะไรมากล่าว หากมี สติ+สัมปชัญญะ จะไม่ตกใจเลย เพราะรู้ตามเป็นจริง ที่ยังตกใจนั้นคือไม่มีสติ อาการที่ตกใจนั้นวิณญาณขันธ์ได้สั้งให้รูปขันธ์แสดงอาการตกใจออกมาเพราะไม่มีสติสัมปชัญญะควบคุมขันธ์ 5 อาการที่แสดงออกมามากน้อยขึ้นอยู่กับเวทนาและสัญญาขันธ์
     
  19. นราสภา

    นราสภา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,964
    ค่าพลัง:
    +359
    ตกภวัง ไหมน๊าาาาาาาาาาาา
     

แชร์หน้านี้

Loading...