ข้อความจากต่างมิติ-ก้าวกระโดดทางวิวัฒนาการครั้งยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติ ไปสู่มิติที่ 5

เอ่อ..มีใครสนใจอยากฟังเรื่องจริงใน เหตุการณ์ 9/11 จากแมทธิวบ้างมัีย พอดีไปพบรายละเอียดเข้าน่ะครับ[/QUOTE]


ดิฉันนี่ล่ะค่ะ ที่อยากได้มากๆ เพราะว่าเดี๋ยวจะเอาไปให้พวกสนใจแต่ข่าวลวง (ไม่ใฝ่หาข่าวจริง)เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาก็เพิ่ง งัดข้อ ทางวาจา(อุปมาว่างัดข้อน่ะค่ะ)กับพี่เขย เขาจะเชื่อบุคคลที่ดูน่าเชื่อถือ แต่สำหรับดิฉันคงไม่กระมังเพราะดูไม่ค่อยน่าเชื่อถือสำหรับแก นอกจากนั้นยังมองเราว่าพิลึกกึกกืออีกตะหาก ขอบคุณนะคะ

 

อ้อ ลืมบอกไปว่าพี่เขยจบปริญญาเอก สาขาวิศวกรรมไฟฟ้า แกจะไม่ยอมเชื่ออะไรที่วิทยาศาสตร์พิสูจน์ไม่ได้เลยค่ะ ถ้าดิฉันกับพี่เขยเจอกันเมื่อไหร่ ถ้าไม่พูดเรื่องอื่น(นอกเหนือไปจากจิตวิญญาณ)ก็วงแตกทุกครั้งล่ะค่ะ เฮ้อ...คนเราหนอ คนเรา

 

มีบ้างเป็นบางตัวน่ะครับ
อย่างที่เจอบ่อยๆก็ 017
เช่นตอนอายุ 17 เข้ามหาลัย ได้รหัส 017
ป้ายทะเบียนรถก็ยังได้เลขท้าย 017
ไปนั่งฟังสัมนาด้านจิตวิญญาณบางครั้งได้เลข 17

ฝันคุณชยุตนี่เป็นฝันที่มีความหมายที่ดีนะครับ
เป็นเรื่องความเปลี่ยนแปลงทางกายภาพและพลังงานที่กำลังเป็นอยู่ด้วย
เหมือนกำลังเตรียมก้าวขึ้นบันไดคริสตัลที่เค้ากำลังก่อสร้างอยู่เลยนะครับ

ค่อยๆเดินและระมัดระวังนิดนึงนะครับ
บันไดอยู๋ระหว่างการก่อสร้าง Under Construction น่ะครับ

 

อาจจะเป็นรหัสแสง ส่วนบุคคลก็ได้นะครับ เพราะเคยฝันเห็นตัวเลขเป็นชุดๆ ชุดละ 6ตัว ลอยลงมาจากท้องฟ้า

มีครั้งหนึ่ง ก่อนนอนเคย ตั้งจิตถาม ท่านเมตตาตรอน ถึงรหัสของตัวเอง ก็ได้รับ คำตอบเหมือนกันครับ เป็นเลข 2ตัว และมีสัญลักษณ์มาให้เห็นด้วย

 

เรามักจะถูกมองแบบนี้แหละครับ
อะไรที่รู้มาและเรามั่นใจ แต่ยังไม่ถูกยอมรับในสังคมวงกว้าง
มันจะกระเด้งกระดอนไปตามระเบียบ
ตอนนี้ความจริงเรื่อง 9/11 นี้ก็ถือเป็นกระแสในวงกว้างแล้วนะครับ
รายการสารคดีของไทย PBS ก็เพิ่งเปิดโปงความจริงเรื่องนี้เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมาครับ
และผู้ทำสารคดีชุดนี้ก็ได้ขอโทษชาวมุสลิมแทนชาวอเมริกันมาด้วย

เพราะมีพยานหลายคนที่รู้เห็นเรื่องนี้ และตรวจสอบข้อเท็จจริงได้
แต่พอมาเปิดเผยก็ถูกเก็บหรือตายด้วยอุบัติเหตุอย่างมีเงื่อนงำหลายต่อหลายคน (ตาม VDO ข้างล่าง..)
มันก็อาจจะเป็นความจริง ที่โลกควรรับรู้นะครับ

ตอนนี้เห็นคนอเมริกันเริ่มชักชวนออกมาเรียกร้องรวมทั้งเปิดเผยความจริงกันมากขึ้น
และมีการนัดหมายผ่านสังคมออนไลน์ เพื่อรวมตัวกันขับไล่รัฐบาลกันอยู่ด้วยสิครับ
ประชาชนที่ตื่นขึ้นมา ก็กำลังจะนำความเปลี่ยนแปลงมาสู่โลกใบนี้กันแล้วนะครับ

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=bvay28lZiHU&feature=related"]Mysterious Deaths of 9/11 Witnesses (MUST SEE) - YouTube[/ame]

 

[QUOTE=สงบระงับ;5104306]"พวกคุณอาจจะเกิดประสบการณ์ของการจำความฝันได้
(lucid dreams)ในตอนกลางวัน
หรือพวกคุณอาจจะหลงลืม, หลงทิศหลงทาง หรือ มึนงง
ในขณะที่สมองของพวกคุณกำลังปรับเข้าสู่
"รูปแบบการเปลี่ยนแปลง"แบบใหม่ของมัน
ในอันที่จะทำให้พวกคุณเคลื่อนไปอยู่ระหว่างมิติต่างๆได้
และเพื่อที่จะจัดการรวบรวมข้อมูลทั้งหลายที่อยู่ในช่องว่างทั้งหมด
เพื่อที่พวกคุณจะได้มีการยึดเกาะที่มั่นคงในระนาบชั้นต่างๆของโลกแห่งความเป็นจริง
ใช่แล้ว, ที่รักทั้งหลาย โลกแห่งความเป็นจริง
กำลังจะกลายเป็นระนาบหลายๆชั้น
เหมือนกับ"ขนมปังแซนด์วิช"! "

ขออนุญาตค่ะคุณเดรด

อืม พักนี้ เป็นบ่อยค่ะและเป็นที่เดิมซ้ำๆหลายครั้งที่ถนนที่เรากำลังเดินทางอยู่นั้นเหมือนคนหลงทาง เหมือนข้อมูลเดิมๆที่เราคุ้นเคยหายไป ทั้งที่ผ่านอยู่ประจำ เหมือนเรามาที่นี่เป็นครั้งแรก ไม่มีข้อมูลอะไรเลย แม้แต่ทิศก็ไม่รู้เลย (เฉพาะช่วงขณะนั้น) จนต้องบอกให้คนที่นั่งอยู่ข้างๆบอกทางให้

อาการอย่างนี้เคยเป็นครั้งนึงในหลายปีก่อนช่วงมีอาการป่วยปะปนอยู่ด้วยแต่คุณหมอก็ไม่ได้บอกว่าเป็นอาการของคุณความจำเสื่อม เพี่ยงแต่ความทรงจำเกี่ยวกับสถานที่ตรงนั้นมันหายไปชัวขณะ ในวันนั้นยืนตั้งสติอยู่บนเกาะกลางถนนตั้งนานเพื่อหาทางเข้าบ้านตัวเอง

และเพิ่งรู้ตัวว่าอาการที่เคยเป็นนั้นกลับมาเป็นอีก ไม่แน่ใจว่าจะเกี่ยวกันไหม แล้วท่านอื่นๆจะเป็นกันบ้างหรือเปล่า
(แอบอ่านกันเงียบๆเยอะเชียว)(kiss)

และขอบคุณนักแปลทุกท่านด้วยค่ะ แต่ขอบอกนิดนึงว่าไม่ทราบว่าเป็นเพราะอะไร จะมีความรู้สึกพิเศษๆกับข้อความจากท่านเมตาตรอนอยู่ทุกครั้ง แต่ก็มีประโยชน์ทุกข้อความจากทุกๆท่านที่สื่อมาเลยค่ะ

ช่วงนี้โพสท์ข้อความไม่ค่อยผ่าน บางทีพิมพ์เสร็จแล้ว พอกดส่งข้อความหายหมดเลย ก็เลยคิดว่า อิอิ ช่างมันเถอะ......:boo:[/QUOTE]
เป็นเหมือนกันค่ะ เดินออกมาพอถึงทางแยก ก็นึกอะไรไม่ออก ไม่รู้ว่าแยกไหนไปไหน
ไม่รู้ว่าเรามาทำอะไร แล้วจะทำอะไรต่อ ตอนแรกคิดว่า
เราครุ่นคิดหรืออยู่ในกระแสข้อมูลเหมือนอยู่ในภวังค์จนขาดสติสัมปัชชัญญะ
แต่พอจับสังเกตุดู ก็คล้ายๆว่าจิตใจเราบางส่วนไปอยู่ในอีกมิตินึงแล้ว

เมื่อหลายปีก่อนเคยมีอาการแปลกๆ คือฝันในยามหลับตอนกลางคือชัดเจน
เหมือนอยู่ในเหตุการณ์ แต่พอตื่นใช้ชีวิตตอนกลางวันกลับเหมือนอยู่ในภวังค์
ฝันตลอดเวลาเหมือนไม่ค่อยแน่ใจว่านี่เราฝันอยู่หรือตื่นกันแน่ แต่ช่วงนั้น
สุขภาพไม่ค่อยดี เลยออกกำลังกายวิ่งบ้าง จำไม่ได้ว่าอาการนั้นหายตอนไหน

วันนี้รู้สึกเจ็บล้าจังเลยค่ะ ลองนั่งสมาธิสำรวจตามแนวสันหลังก็แปลกดีค่ะ
พอไล่ขึ้นถึงศีรษะเหมือนมีพลังดูดเราขึ้นไปจนไม่สิ้นสุด เลยปล่อยความเจ็บ
ล้าให้ออกไปกับพลังที่ดูดเราขึ้นไปด้วย จนรู้สึกเบาแล้วจึงนึกรับพลังแสงลงมา

คืนวันก่อนก็นั่งสมาธิแบบนี้ แต่ไล่จากด้านหลังกระโหลกศีรษะลงมาถึงก้นกบ
พอลงถึงแม่ธรณีเหมือนถูกดูดลงอย่าง แรงกระดูกสันหลังเหมือนถูกจัด มาตกใจ
ตอนที่กระดูกคอถูกพลิกเหวี่ยงอย่างแรงจนหันหน้าไปตาม วันนี้เลยระมัดระวังส่งพลังลง
แม่ธรณีอย่างช้าๆนุ่มนวล

 

ดิฉันนี่ล่ะค่ะ ที่อยากได้มากๆ เพราะว่าเดี๋ยวจะเอาไปให้พวกสนใจแต่ข่าวลวง (ไม่ใฝ่หาข่าวจริง)เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาก็เพิ่ง งัดข้อ ทางวาจา(อุปมาว่างัดข้อน่ะค่ะ)กับพี่เขย เขาจะเชื่อบุคคลที่ดูน่าเชื่อถือ แต่สำหรับดิฉันคงไม่กระมังเพราะดูไม่ค่อยน่าเชื่อถือสำหรับแก นอกจากนั้นยังมองเราว่าพิลึกกึกกืออีกตะหาก ขอบคุณนะคะ[/QUOTE]

เข้าใจค่ะ ตั้งแต่ตัวเองคิดว่าจะฝึกฝนทดลองแนวทางต่างๆเพียงลำพัง ไม่บอกไม่เล่า
ตัวเองก็สงบสุขขึ้นเยอะค่ะ แต่ก็มีเมื่อวานนี้แหละที่ได้คุยกับเพื่อนเรื่อง
สัพเพหระ มีเรื่องความฝัน ก็เลยเกี่ยวโยงเรื่องที่เราสนใจอยู่ในกระทู้นี้
เลยแบ่งปันข้อมูลบางส่วนไปให้เขา ก็วัดใจแล้วว่าเขาสนใจนะ แต่ข้อมูลนั้น
ถูกส่งต่อไปยังเพื่อนอีกคน ดูท่าว่าเราก็คงตกอยู่ในฐานะผู้เป็นมิจฉาทิษฐิต่อพระศาสนาอีกแล้ว
ก็เจ็บนิดๆเหมือนกัน แต่รีบแทนที่ด้วยพลังงานที่เข้ากันได้
กับความรัก มันก็ทำได้นะคะ แต่มันก็ไม่สนิทนักหรอก มันก็เผลอออกมาเป็น
ความครุ่นคิดเล็กๆ ว่า มันเป็นกระแสที่เราไม่อยากได้เลย เพราะเราได้ออก
จากตรงนั้นมาแล้ว จิตใจของเราตอนนี้มันมีสุขเสรีภาพ ขณะที่เรากราบพระพุทธเจ้า
เราก็รักพระเยซู เราก็ซาบซึ้งกับการยกระดับจิตใจให้เข้าสู่ความรัก ไม่ว่าขณะ
จิตไหนจะอยู่กับพระศาสดาองค์ใด คุรุท่านใดก็ถวายความเคารพอย่างสูงสุดได้
ทั้งสิ้น คำว่ากระแสที่ไม่อยากได้คือ ความรู้สึกไม่เคารพซึ่งกันและกัน
คุณธรรมอันหลากหลายเหมือนดอกไม้หลายๆชนิดที่สวยงามไม่แพ้กัน
กับคุณธรรมอันสูงต่ำ ดอกไม้เพียงดอกเดียวที่ควรค่า ดอกไม้ดอกอื่น
ไม่มีค่า ก็เป็นความคิดเล็กๆนะคะ ไม่ได้ตั้งใจจะเอ่ะอ่ะ ตอนนี้กำลัง
อยู่ในกระแสองค์ความรู้ของท่าน Michael ต้องรีบไปดื่มด่ำต่อค่ะ :z8
ขอบคุณ คุณkindred ค่ะ

 

"รหัสนี้มีความหมายอะไรกับใครบ้างหรือเปล่าครับ"

660127

แปลกจังค่ะ มีเลขที่บ้านของตัวเอง ถึง6ตัว แถมที่แปลกกว่านั้น (ขอโทษนะค่ะ) หมายเลขที่สุสานของเตี่ยก็ยังเป็นเลขเดียวกับเลขที่บ้าน กลับไปกลับมา ส่วน 27 ก็เป็นวันเกิดของตัวเอง
ส่วนลำพังเลข7ตัวเดียวนั้นเกี่ยวพันกับตัวเองหลายเรื่องมาก จนต้องจดใส่สมุดบันทึกไว้ว่ามีกี่อย่าง ตอนแรกก็ตกใจเพราะเพิ่งสังเกตุตัวเอง(จริงๆ)

ฝันของคุณชยุตมีข้อมูลที่แปลความหมายได้หลากหลาย
น่าสนใจมากๆ ตอนนี้ต้องพยายามตื่นมาจดความฝันของตัวเองแทบทุกวัน
เพราะมีรหัสที่หลากหลายปนมากับความฝันเสียจริงๆด้วย

ขอบคุณข้อมูล9/11 จากคุณ mead ค่ะ อืม..มันผิดสังเกตุอยู่จริงตามที่คาดไว้
อ่านทุกข้อความจากทุกท่านเช่นกันค่ะ จริงๆแล้วหลายเรื่องอยากโพสท์ให้อ่านกัน แต่เกรงว่า จะเป็นส่วนตัวเกินไป เลยโพสท์ แต่พองามค่ะ

แถมเมื่อคืนก็ได้รหัสมาเช่นกัน คุณฐนาอย่าลืมรออ่านนะค่ะ ช่วงนี้ยังพิมพ์อะไรมากไม่ได้ มีเลข6ของคุณชยุตด้วย
เดี๋ยวเข้ามาเล่าค่ะ

 

เมื่อสัปดาห์?๊๋ที่แล้วก็ฝันถึงเลขหกตัวแบบชัดแจ๋ว ตื่นมาตั้งนานยังจำาได้ ตอนแรกไม่ได้สนใจแต่มันไม่ลืมก็เลยจดไว้
เล่นๆ เป็นเลข 126589 แถมช่วงนี้ปํ้าๆเป๋อๆ ฉแค่ลุกขึ้นจากเก้าอี้ว่าจะไปทำอะไรก็ลืมแล้ว พอหลายๆครั้งเข้าก็ฉุกคิดว่า เราเป็นอาไรไปเนียะ ไมู่รู้จะทำไงก็เลยคิดว่า สงสัยความชรามาเยือน แต่ในใจก็ยังค้านเล็กๆว่าทำไมมาเป็นหนักเอาเมื่อสองสามสัปดาห์มานี่เอง พออ่านเจอท่านอื่นพูดถึงก็เลยมาเล่าบ้าง แหะๆ

 

เรื่อง Lucid Dream หรือการตื่นในฝัน ตอนแรกๆก็ไม่ค่อยเข้าใจว่าตื่นไงหว่า
ยามฝันเราไม่มีทางที่เราจะรู้เลยว่าเราฝัน แต่เราจะแปลกใจมากกว่า
ที่มีเรื่องราวประหลาดๆเกิดขึ้น

เช่นสองวันที่แล้วก็ฝันว่า อยู่ในห้องที่มีคนเต็มไปหมด
เราอยากหนี เลยเอาเบาะมารองเหมือนขี่พรม แล้วพุ่งออกทางหน้าต่าง
มันส์มากค่ะ เหาะเหมือนขี่พรมวิเศษ เร็วและแรง สนุกมากๆ
แล้วมันแบบว่า หมดแรงมั้ง หล่นตุ๊บลงแม่น้ำ ในใจคิดว่าจมแหงๆ
อ้าว!!! พอหล่นลงไป กลับยืนบนน้ำได้เฉยเลย อะไรแบบเนี้ย แต่เราก็ไม่รู้ว่าเราฝัน

จริงๆ Lucid dream ก็คือการจำความฝันได้ยามตื่นนั่นเองค่ะ
เพราะงั้น บางทีเราเลยเหมือนกับว่า เราเบลอๆ เอ๋อๆ
เพราะเราสลับไปมาระหว่างมิติอยู่ แล้วไม่ใช่มิติเดียว นับไม่ถ้วนค่ะ

ซึ่งปกติมันก็กระพริบสลับไปสลับมาตลอดอยู่แล้ว
แต่เราไม่มีสติไปตามมันทัน เราเลยไม่รู้


จะรู้ได้อีกทีก็เมื่อเกิดอาการฝันซ้อนฝัน นั่นแหล่ะค่ะ ตื่นในฝันของจริง
ยิ่งซ้อนมากเท่าไร ยิ่งมึนงง เคยเป็นไหมเอ่ย
เดรดเคยฝันซ้อน สามครั้ง ตื่นมาเอ๋อเลย ตกลง ตื่นยังหว่าเนี่ย...???


การจำความฝันได้ คือการที่เรามีสติจดจำได้มากขึ้น ไม่เว้นแม้ยามไม่มีสัมปชัญญะ(ยามหลับ)
จิตเราตื่นเสมอไม่เคยหลับ แต่มันจะจดจำเฉพาะสิ่งที่เราต้องการจดจ่อเท่านั้น

พอเราจำความฝันได้มากขึ้น ข้อมูลมันก็มากตาม
จะเกิดอาการที่เรียกว่า เดจาวู บ่อยขึ้น แต่ยังจำได้ไม่ชัด นัก
เพราะในโลก 3 มิติ เราจำเป็นต้องมีสติสัมปชัญญะที่จดจ่อกับโลกทางกายภาพ
เป็น Timeline ได้ทีละ1 เส้น ไป ไม่งั้นเราจะจัดการกับชีวิตลำบาก

ที่นี้เมื่อเราเกิดมีความทรงจำของ Timeline เพิ่มมากขึ้น เราก็เลยอาจสับสน
การกระทำของเราบางทีมันจึงกระโดด ไม่เรียงเป็นเส้นตรง
มันเลยเหมือน ความจำขาดช่วง ก็ไม่ต้องกังวลไปนะคะ
(อิชั้นเป็นมานานแล้ว...5555)
ระลึกรู้ตัวเมื่อไหร่ก็กลับมาจุดเดิม แถมมีสติเต็มเปี่ยมขึ้น มองอะไรชัดชึ้น

สิ่งต่างๆเหล่านี้ แค่มาพิสูจน์ให้เรารู้เท่านั้นว่า
เราไม่ได้มีชีวิตที่อยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงแบบนี้ๆ โลกเดียว


แต่ที่สำคัญ ก็คือจุด ณ ปัจจุบันขณะเท่านั้น ที่เราจะเนรมิต และเลือกได้ค่ะ

ท่องเที่ยวให้สนุกค่ะ(kiss)

ปล.พวกเราน่าจะอยู่ในวัยกระเตาะเดียวกันค่ะ
...เลยอาการคล้ายกัน...:d

 

เข้าห้องไม่ได้...ซะงั้น นึกว่าไม่ต้องเล่าเสียแล้วตกกะใจเมื่อกี้
ฝันว่า เห็น เลข6 กับเลข 9

แต่ก็มีคนมาวาดรูปให้ดูด้วยดินสอเส้นใหญ่ๆวาดให้ดูว่าเลข2ตัวนี้เมื่อเอามาเขียนประกบติดกัน

ก็จะกลายเป็นตัวอักษรภาษาอังกฤษตัวพิมพ์ใหญ่ B
ซึ่งอักษรตัวนี้เป็นชื่อของตัวเอง(แค่อ่านออกเสียงก็เรียกชื่อได้เลย)

ถัดมาบุคคลท่านนี้ก็ได้เอาเอาอักษร B หลายตัวมากมาเขย่าๆ รวมกัน แล้วกระจายออกมาเป็นรูปหัวใจขนาดใหญ่(อธิบายยังไงดีเนี่ย)คือเป็นรูปหัวใจแต่เต็มไปด้วยตัวB เสียดายวาดรูปไม่เก่งอย่างคุณmead เสียด้วย

วันนี้ก็เลยมาสังเกตุว่า เลข6กับเลข9 ซ้อนกันประกบกัน มันกลายเป็นตัว B ได้จริงๆด้วย
แปลกดี ...อาจจะเกี่ยวกับความเป็นหนึ่งเดียวของทุกสิ่งบนโลกนี้ก็เป็นได้

แต่เขาว่ากันว่า เลข6กับเลข9เป็นเลขเดียวกันเสียด้วยซิ

แม้แต่คุณLinda2009 เองยังได้เลข6มาเหมือนกัน

ตอนนี้หลายๆท่านก็ได้เล่าเกี่ยวกับความรู้สึกที่ความจำหายไปเป็นช่วงๆ มันก็ล้วนมีที่มาทั้งสิ้น ที่สำคัญมันมักมาพร้อมกับอาการป่วย และหลังจากอาการป่วยนั้นหายไป ก็กลับกลายเป็นคนแข็งแรงอย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งๆที่โรคเดียวกันบางคนเขาก็จากโลกนี้ไปแล้ว ประมาณนั้น...


คุณฐนาอย่าลืมจดความฝันเก็บไว้อ่านบ้างนะค่ะ

"เข้าใจค่ะ ตั้งแต่ตัวเองคิดว่าจะฝึกฝนทดลองแนวทางต่างๆเพียงลำพัง ไม่บอกไม่เล่า
ตัวเองก็สงบสุขขึ้นเยอะค่ะ แต่ก็มีเมื่อวานนี้แหละที่ได้คุยกับเพื่อนเรื่อง
สัพเพหระ มีเรื่องความฝัน ก็เลยเกี่ยวโยงเรื่องที่เราสนใจอยู่ในกระทู้นี้
เลยแบ่งปันข้อมูลบางส่วนไปให้เขา ก็วัดใจแล้วว่าเขาสนใจนะ แต่ข้อมูลนั้น
ถูกส่งต่อไปยังเพื่อนอีกคน ดูท่าว่าเราก็คงตกอยู่ในฐานะผู้เป็นมิจฉาทิษฐิต่อพระศาสนาอีกแล้ว
ก็เจ็บนิดๆเหมือนกัน แต่รีบแทนที่ด้วยพลังงานที่เข้ากันได้
กับความรัก มันก็ทำได้นะคะ แต่มันก็ไม่สนิทนักหรอก มันก็เผลอออกมาเป็น
ความครุ่นคิดเล็กๆ ว่า มันเป็นกระแสที่เราไม่อยากได้เลย เพราะเราได้ออก
จากตรงนั้นมาแล้ว จิตใจของเราตอนนี้มันมีสุขเสรีภาพ ขณะที่เรากราบพระพุทธเจ้า
เราก็รักพระเยซู เราก็ซาบซึ้งกับการยกระดับจิตใจให้เข้าสู่ความรัก ไม่ว่าขณะ
จิตไหนจะอยู่กับพระศาสดาองค์ใด คุรุท่านใดก็ถวายความเคารพอย่างสูงสุดได้
ทั้งสิ้น คำว่ากระแสที่ไม่อยากได้คือ ความรู้สึกไม่เคารพซึ่งกันและกัน
คุณธรรมอันหลากหลายเหมือนดอกไม้หลายๆชนิดที่สวยงามไม่แพ้กัน
กับคุณธรรมอันสูงต่ำ ดอกไม้เพียงดอกเดียวที่ควรค่า ดอกไม้ดอกอื่น
ไม่มีค่า ก็เป็นความคิดเล็กๆนะคะ ไม่ได้ตั้งใจจะเอ่ะอ่ะ "

ทุกศาสนาก็น่าจะเป็นหนึ่งเดียวกันนะคะคุณฐนา เดี๋ยวนี้มีความรู้สึกผ่อนคลายเกี่ยวกับศาสนามาก แต่ความศรัทธาก็ยังคงเหนี่ยวแน่นเหมือนเดิม โดยเฉพาะเวลามาอ่านข้อความต่างมิติ ก็รู้สึกอยู่ในใจลึกๆว่า ก็ยังเป็นหนึ่งเดียวกันอยู่นั่นแหละ ไม่ทราบว่าท่านอื่นๆรู้สึกอย่างนั้นไหม๊...

 

คุณเดรดมาให้ความกระจ่างแล้ว
อธิบายได้ชัดเจนมากเลยเจ้าค่ะ
ดีใจอยู่ลึกๆ(คุณเดรดก็ต้องเป็นอะไรต่อมิอะไรได้มากกว่าอยู่แล้ว)
จะเล่าหรือเปล่าแค่นั้นแหละ จกความรู้จากคุณเดรดมาได้พอสมควรอยู่นะ

"สิ่งต่างๆเหล่านี้ แค่มาพิสูจน์ให้เรารู้เท่านั้นว่า
เราไม่ได้มีชีวิตที่อยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงแบบนี้ๆ โลกเดียว


แต่ที่สำคัญ ก็คือจุด ณ ปัจจุบันขณะเท่านั้น ที่เราจะเนรมิต และเลือกได้ค่ะ

ท่องเที่ยวให้สนุกค่ะ(kiss)"
น่ารักอ่ะ แบ่งปันประสบการณ์ขั้นสุดยอด ....

 

<iframe width="560" height="345" src="http://www.youtube.com/embed/txTsbeuY5gM" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>



‎10 สัญญาณแห่งการตื่นขึ้นทางจิตวิญญาณ

1 รูปแบบของการนอนของคุณเปลี่ยนไป คุณจะรู้สึกพักผ่อนไม่เพียงพอในขณะที่คล้าย
มีพลังอะไรบางอย่างเพิ่ม อย่ากังวล..ร่างกายคุณจะปรับตัวได้

2 มีการสั่นเทา(เป็นบางส่วนของร่างกาย) ความรู้สึกอยู่ในภาวะล้มลุกคลุกคลาน(แปรปรวน)
เสียวแปลบตามหนังศีรษะ คล้ายมีแรงกดดันกลางกระหม่อมหน่วงๆ คล้ายใครบาง
คนกำลังกดลงมาด้วยนิ้วของเขา รู้สึกถึงความคิดสร้างสรรค์ แรงบันดาลใจที่เพิ่มมาก
ขึ้น บริเวณศีรษะและหูคล้ายมีการสั่นสะเทือน(จากคลื่นพลังงาน)
อย่ากังวล นี่เป็นการเปิดจักระมงกุฎ (crown chakra) และพลังงานสว่างกำลังไหลเข้ามา

3 บางครั้งคลื่นอารมณ์ ความเศร้า เหงา สุข โกรธขึ้งและอื่นๆ ปรากฎขึ้นโดยไร้เหตุผล
นี่เป็นขั้นตอนของการปลดปล่อยอารมณ์ที่ถูกปิดกั้นเอาไว้ ให้ปลดปล่อยออกมาจักระ
หัวใจ (heart chakra) พยายามอย่าแข็งขืนทำตัวให้ยากอะไรอย่างนั้น ปล่อยให้มันพร่าง
พรูออกมาตามสบาย แล้วถ่ายทอดความรักออกไป มันจะสลายไปเองในเวลาอันรวดเร็ว

4 ปัญหาในอดีตต่างๆ ในยามที่คุณเสียศูนย์ คล้ายจะประเดประดังเข้ามาให้คิดและ
วิตกอีกครั้ง แท้จริงแล้วคุณไม่ได้หลงทางหรือสูญเสียอะไรเลยแม้แต่น้อย ปล่อยให้มันผุด
ขึ้นมาตามสบาย เผชิญหน้ากับมัน นี่คือสิ่งจำเป็นสำหรับการชำระล้างในส่วนลึก

5 ร่างทางกายภาพของคุณสามารถเปลี่ยนแปลงได้ นิสัยการรับประทานอาหารของคุณ
จะเป็นไปเพื่อสุขภาพตัวเองมากขึ้น ร่างกายและจิตใจของคุณกำลังเปลี่ยนแปลง สิ่ง
เหล่านี้กำลังจะหยั่งรากลงเมื่อคุณสามารถจัดการกับปัญหาเก่าๆเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ระดับการสั่นของพลังงานของคุณจะเพิ่มมากขึ้น เมื่อคุณพลีจิตใจของคุณให้กับความ
รักที่สามารถมอบให้ผู้อื่นได้อย่างไม่มีข้อจำกัด


‎6 ประสาทสัมผัสของคุณชัดเจนมากขึ้น สัมผัสที่6 จะเปิดเผย คุณจะรู้สึกได้ถึง
พลังงานบางอย่างที่ซับซ่อนและมันเคยซ่อนตัวอยู่มานาน คุณอาจจะเริ่มมองเห็นการ
เคลื่อนไหวของประกายแสงสว่าง เงามืด พลังงานทรงกลม เส้นตารางของพลังงานแสง
จากบริเวณหางตาขอ...งคุณ บางทีคุณอาจจะได้ยินเสียงเรียกชื่อของคุณ หรือเสียงดัง
หึ่งๆ อยู่ในหู บางครั้งอาจได้กลิ่นอะไรบางอย่างแวบเข้ามาให้สัมผัส และรู้สึกคล้ายมีใคร
บางคนกำลังอยู่ข้างกายคุณ นี่คือสัญญาณแห่งดวงจิต(ผู้สูงกว่า)และผู้นำทาง(แห่ง
จิต)ของคุณ
ขออย่าได้กลัว! ให้จำไว้ว่าคุณเป็นผู้กำหนดและควบคุมสิ่งต่างๆและกฎเกณฑ์ด้วยตน
เอง คุณควรฝึกฝนสภาพจิตให้อยู่ในความสุขุมเมื่อกำลังเผชิญกับดวงจิต(ที่สูงกว่านั้น)

7 คุณเริ่มจะมองโลกด้วยดวงตาคู่ใหม่ คุณจะรู้สึกรักและเป็นหนึ่งเดียวกับทุกสิ่ง
ขอให้ดำเนินต่อไปตามทางนั้น! ขอให้มีความเมตตาและความรัก ให้ดีที่สุดเท่าที่จะ
สามารถ อย่าแข็งขืนดึงดันให้ตัวเองดูยุ่งยากในวันใดก็ตามที่คุณรู้สึกยุ่งเหยิงแปรปรวน
ขอให้สุภาพอ่อนน้อมกับตนเอง เมื่อความตระหนักรู้(จากทั้งดวงตาและดวงจิต)ของ
คุณกำลังแผ่ขยาย

8 คุณจะปรารถนาอิสรเสรี มีความต้องการมากขึ้น..มากขึ้น ในการที่จะฝ่าฟัน
พันธนาการอันมีข้อจำกัดภายใต้รูปแบบเก่าๆ และนิสัยเดิมๆที่คุณเคยมี แต่ในเวลานี้มัน
ไม่ใช่คุณอีกต่อไป .. ขอให้คุณมีความกล้าหาญที่จะกระทำมันเถิด ชำระล้างสิ่งเก่าๆ ออกไปเสีย เคลียร์พื้นที่ไว้รอสิ่งใหม่

9. คุณเริ่มที่จะ "เห็น" สัญญาณต่างๆ ที่กำลังสื่อสารกับคุณโดยตรง ในระดับลึก ทั้งหมดนั้นจะมีความหมายกับคุณอย่างมาก เมื่อจิตสำนึกของคุณผลิบานเต็มที่

10 ความสอดคล้อง(ในระดับของมิติ)หลั่งไหลเร็วมากขึ้น สถานการณ์อันวิเศษเช่นนี้จะปรากฎขึ้นเมื่อคุณเดินมาถูกทาง การพบปะ สังคมแวดล้อม หมายเลข(ชุดพิเศษเช่น 11:11) ภาพวาด (ที่เต็มไปด้วยรหัสแต่คุณสัมผัสมันได้) ล้วนไม่มีข้อจำกัดในการปรากฎตัวออกมาให้คุณเห็นอย่างซ้ำๆ .. ขอให้คุณ "รู้สึกสัมผัส"สิ่งที่ซ่อนอยู่ภายใต้ข้อความต่างๆ เหล่านั้นและเชื่อสัญชาติญาณตัวเอง และขอให้จำไว้ว่า คุณไม่ได้โดดเดี่ยว!

............Love and Light..............

 

โอ...เย็นไปหมดทั้งตัวเลย คุณหงบที่น่ารักนี่เอง
ขอบคุณที่ส่งความรักมาให้นะคะ ชัดมากค่ะ

จุ๊บๆ เช่นกันจ้าที่ร้ก ...(k)

 

ขอบคุณข้อมูลจากคุณ วิญญ์ ชวาทิต จ้า

 

ส่งกันไปส่งกันมาหลายปีแล้วเนี่ย ส่งจุ๊บก่อนนอนอีกรอบ(k)
จะไปนอนรอรับรหัสตัวต่อไป บายจ้า

 

โพสต์ที่แล้วของผม รู้สึกว่าจะขาดข้อความหนึ่งไป
มันเลยไม่ยอมหายไปไหนเลย คือวนเวียนอยู่ในหัวตลอด
ซึ่งอาการแบบนี้ ผมจะเดาได้ไม่ยากเลยว่า..
มันอาจจะสำคัญสำหรับผู้อื่นด้วย..และท่านก็อยากให้ผมนำมาโพสต์ด้วย

ก็เลยว่าจะขยายความเพิ่มซะหน่อยนะครับ..ว่า..

พวกคนที่มาเพื่อ "แผ่กระจายแสงสว่าง" หรือ "ความรัก" ให้แก่โลกนั้น
อย่าไปกังวลใจเรื่องที่ว่า "จะได้อะไรตอบแทนกลับมาหรือไม่" เลยนะครับ
ให้ทำไปเถอะ เพราะนั่นคือหน้าที่ที่คุณตั้งใจลงมาทำแล้วหละ

และ "ความรัก" ที่เกิดขึ้น หรือ "ความปราถนา" ที่จะสาดส่องแสงสว่างออกไปนั้น
ไม่ว่ามันจะเป็นความรักแบบไหนก็ตาม แบบรักเขาข้างเดียวแบบผมนี่
หรือแบบไหนก็ตาม ก็ให้ทำไปเถอะ

มันไม่มีหรอกนะความเหมาะสม หรือไม่เหมาะสมหนะ
มันไม่มีหรอกนะความถูกต้องหรือไม่ถูกต้องหนะ
มันไม่มีหรอกนะ ความคุ้มค่าหรือไม่คุ้มค่าหนะ

เพราะว่าสิ่งสำคัญก็คือ "ข้างบนนั่น" เขากำลังหาวิธีการใดก็ได้
ที่จะทำให้คุณ "สาดส่องความรัก" และ "แสงสว่าง" ออกมาอยู่
ไม่ว่าจะหลอกล่อคุณด้วยวิธีใดก็ตาม

เพราะว่า ในเวลานี้ โลกกำลังต้องการพลังงานด้านบวกเหล่านี้อยู่
ดังนั้น จงสาดส่องมันออกมาเถิด จงแผ่มันออกมาเถิด

ดังนั้น ผมเลยเดาว่า บางคน หรือ หลายคน
อาจจะกำลังตกอยู่ในสถานการณ์เหมือนผม หรือคล้ายๆกับผม
ที่บางเรื่องก็ไม่สะดวกที่จะเล่าให้ใครฟังในที่สาธารณะแบบนี้
แต่มันเป็นเรื่องแปลก..และไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นกับตัวเราได้
และมันก็เกี่ยวพันกับเรื่องความรักและแสงสว่างนี่แหละครับ

แต่โดยสรุปแล้วก็คือ เหมือนกับว่า "ท่าน" จะจัดฉากให้เรา
ได้มีสถานการณ์ที่จะต้องไปตกอยู่ท่ามกลาง "ความรู้สึกรัก"
เพื่อที่จะได้สาดส่องความรักออกมาให้มากที่สุด และตลอดเวลาได้
อะไรทำนองนั้น..

ซึ่งไม่ว่าความคิดนี้ของผมจะเป็นความจริงหรือไม่ก็ตาม
แต่ผมก็รู้สึกว่าอะไรๆมันง่ายขึ้นเยอะเลย และก็รู้สึกผ่อนคลายขึ้นเยอะเลย
เพราะว่าใจมันจะเปลี่ยนจุดจดจ่อ ไม่ได้อยู่ที่ความรักแบบมีเงื่อนไขมากเหมือนแต่ก่อนแล้ว
แต่มันจะไปอยู่ที่ รู้สึกอยู่ลึกๆว่า..

เออนะ..นี่เป็นแค่กุศโลบายให้เราได้เผื่อแผ่ความรักออกมาให้มากที่สุดเท่านั้นเอง
ไม่มีอะไรต้องไปใส่ใจมากกว่าสิ่งนี้อีกแล้ว..มันเป็นแค่เกมด้านพลังงานเท่านั้นเอง

ดังนั้น..จุดหมายปลายทางก็คือ "รักแบบไม่มีเงื่อนไข" ครับ

..จบข่าวครับ..


............................................................................

 

_ถึงที่รักคุณชยุต_ ความรักแบบหนุ่มสาว มาเพื่อท้าทายเราให้ก้าวข้ามความโรแมนติกแบบโลกๆ ที่จิตสำนึกมวลรวมสร้า้งขึ้นมา และแน่นอนมันซู่ซ่าดีพิลึก แต่มันก็แฝงดว้ยสุขเศ้รา_เหงา_และ_ทุกข์_ในโลกแ่งความเป็นจริงในมิติที่สาม_มันเป็นโลกที่เราเผชิญอยู่ในขณะนี้และทุกหว้งขณะ _แน่นอนมันเป็นมายาที่เราติดอยู่ในความเคยชินมานานและยากที่เราจะสลัดออกจากความโรแมนติกนั้น_ความรัก_ความผูกพันธ์_ความออ่นช้อย_มันเป็นเกลียวที่เราถักทอ และแน่นแฟ้นมากเกินกว่าที่เราจะแก้_แต่มันแก้ได้ดว้ยความมุ่งมั่น_และทางเลือก_ก็แค่เลือกเกลียวนั้นก็ผอ่นลง_แล้วเราก็ค่อยๆแก้เกลียวนั้นดว้ยหัวใจที่เราได้เลือกแล้วในจิตสำนึกของเรา_ซึ้งคุณได้ทำแล้วในระดับจิตใต้สำนึกนั้น__แต่ในมายาคุณตอ้งพยายามอีกนิดหนึ่ง เพราะมันเป็นเพียงสัญชาติญานในการดำรงอยู่ของเผ่าพันธ์_แต่แท้จริงแล้วคุณเป็นมากกว่านั้น_คุณคือผู้สอ่งแสง_คุณคือผู้ส่องแสงเหมือนพระอาทิตย์ ที่สอ่งแสงให้ทุกๆสิ่งเพื่อการดำรงค์อยู่ ไม่ว่าสรรพสิ่งนั้นจะดีหรือชั่วก็ตามคุณก็ส่องแสงให้ผ่านตัวหนังสือที่หลายคนได้ประจักษ์แล้ว โดยเฉพราะฉัน ซึ้งได้เข้ามาอ่านเว็บนี้ดว้ยความบังเอิจ ซึ้งจำไม่ได้แล้วว่าบังเอิจอยา่งไร คลิกเข้าโดยไม่รู้เนือ้รู้ตัว_และทำให้ฉันระลึกคุณเสมอ_น้ำทว่มเวีตนามก็กลัวคุณจะตาย(กลัวไม่มีใครมาโพสให้ความรู้_ซึ่งจริงๆแล้วคงเรียกว่าหว่งตัวเองมากกว่า) คุณคงเข้าใจมันสัญชาติณานของสัตว์โลกที่ยังต้องการแสงสว่าง_ชยุตที่รักคุณเปรียบสเมืิอนดวงอาทิตย์ที่ส่องแสงให้สรรพสิ่ง_คุณเป็นความรักที่ไม่มีเงือ่นไข_เธอได้เป็นแล้วเพียงแค่รอความสมบูนย์แบบ_ก็แค่เลือกกก และแค่ยอมรับ_ฉันซาบซึ้งในความใจดีของคุณเสมอมา_และขอฝากถึงคุณผู้อ่านทั้งหลาย_โปรดสังเกตุเมื่อบทความออกจากใจ_มันจะกระทบใจ_และมันจะเข้าใจ_มันก็คือใจกระทบใจ_

 

หง่ะ...:boo:
คุณชยุต เนื้อหานี้มันเป็นเนื้อหาเดียวกันกับสิ่งที่พระท่านแสดงธรรมเมื่อวันพระที่12/9/54 นี่นา
ความรักแบบไม่มีเงื่อนไข การทำความดีโดยไม่ต้องมีสิ่งตอบแทน
ทำไปเถอะ ทำไปเพื่อเอาชนะกิเลสของตน
เพราะเมื่อถึงเวลาที่ข้ามผ่านไปได้ แม้แต่คำชม...ก็ยังไม่ต้องการเลย

มันตรงกันทุกประการเลยจริงๆนะเนี่ย
นั่นล่ะ พระพุทธศาสนากับข้อความต่างมิติ ช่างเป็นหนึ่งเดียวกันจริงๆ
เอ.. ว่าแต่ว่า คุณชยุตแอบหลงรักใครข้างเดียวล่ะเนี่ย
เอาล่ะ..ทุกคนต่างก็ต้องเจอบททดสอบของตน สู้ๆจ้า

 

อ้างอิง
ข้อความดั้งเดิม โดยคุณ Chayutt
เพราะว่าสิ่งสำคัญก็คือ "ข้างบนนั่น" เขากำลังหาวิธีการใดก็ได้
ที่จะทำให้คุณ "สาดส่องความรัก" และ "แสงสว่าง" ออกมาอยู่
ไม่ว่าจะหลอกล่อคุณด้วยวิธีใดก็ตาม

เพราะว่า ในเวลานี้ โลกกำลังต้องการพลังงานด้านบวกเหล่านี้อยู่
ดังนั้น จงสาดส่องมันออกมาเถิด จงแผ่มันออกมาเถิด

ดังนั้น ผมเลยเดาว่า บางคน หรือ หลายคน
อาจจะกำลังตกอยู่ในสถานการณ์เหมือนผม หรือคล้ายๆกับผม
ที่บางเรื่องก็ไม่สะดวกที่จะเล่าให้ใครฟังในที่สาธารณะแบบนี้
แต่มันเป็นเรื่องแปลก..และไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นกับตัวเราได้
และมันก็เกี่ยวพันกับเรื่องความรักและแสงสว่างนี่แหละครับ

แต่โดยสรุปแล้วก็คือ เหมือนกับว่า "ท่าน" จะจัดฉากให้เรา
ได้มีสถานการณ์ที่จะต้องไปตกอยู่ท่ามกลาง "ความรู้สึกรัก"
เพื่อที่จะได้สาดส่องความรักออกมาให้มากที่สุด และตลอดเวลาได้
อะไรทำนองนั้น..

ซึ่งไม่ว่าความคิดนี้ของผมจะเป็นความจริงหรือไม่ก็ตาม
แต่ผมก็รู้สึกว่าอะไรๆมันง่ายขึ้นเยอะเลย และก็รู้สึกผ่อนคลายขึ้นเยอะเลย
เพราะว่าใจมันจะเปลี่ยนจุดจดจ่อ ไม่ได้อยู่ที่ความรักแบบมีเงื่อนไขมากเหมือนแต่ก่อนแล้ว
แต่มันจะไปอยู่ที่ รู้สึกอยู่ลึกๆว่า..

เออนะ..นี่เป็นแค่กุศโลบายให้เราได้เผื่อแผ่ความรักออกมาให้มากที่สุดเท่านั้นเอง
ไม่มีอะไรต้องไปใส่ใจมากกว่าสิ่งนี้อีกแล้ว..มันเป็นแค่เกมด้านพลังงานเท่านั้นเอง

ดังนั้น..จุดหมายปลายทางก็คือ "รักแบบไม่มีเงื่อนไข" ครับ



ขอบคุณค่ะ คุณชยุต ที่ช่วยตอกย้ำให้ความรู้สึกในใจมั่นใจยิ่งขึ้นค่ะ
ความรักแบบไม่มีเงื่อนไข เมื่อก่อนนี้ ไม่เคยคิดว่าจะรู้สึกได้เลย
แบบว่าฝันไปเถอะ อยากได้ความรักก็ต้องเอาความรักมาแลกสิถึง
จะยุติธรรม แต่ตอนนี้เปลี่ยนไปมาก สามารถรู้สึกรักได้แบบไม่รู้สึก
ลำบากอะไร ดีซะอีก มันเป็นความรู้สึกที่เบาสบายกว่า ที่เราได้
เป็นฝ่ายส่งความรักออกไป โดยมองข้ามผลที่จะส่งกลับมา
เพราะเราไม่ได้สนใจงัยคะ ว่าจะได้รับหรือไม่ เลยส่งไปเรื่อย ๆ อิอิ
ทุกอย่างคงไม่ใช่เหตุบังเอิญ การพบห้องนี้ก็ไม่บังเอิญ เริ่มจาก
ค้นหาเรื่องการเลื่อนมิติจาก google แล้วพบข้อความนี้ค่ะ เซฟไว้
แต่พออ่านไปอ่านมา เอ๊ะ ทำไมเรารู้สึกตามขนาดนี้ อ่านไปค่อนนึง
เริ่มรู้สึกอยากมีส่วนร่วมขึ้นมา จึงเข้าไปสมัครสมาชิกค่ะ ดีใจค่ะ
ที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของแสงสว่างในที่แห่งนี้ จะพยายามนะคะ จะทำให้ดีที่สุด
ขอบคุณทีมแปลทุกๆคน อีกครั้งค่ะ อยากทำให้มากกว่านี้ แต่ตอนนี้
ได้เพียงแค่ ขอบคุณ ขอบคุณ แล้วก็ขอบคุณจริงๆเลยค่ะ