ธนาคารพระพุทธศาสนา เพื่ออุปถัมภ์พุทธศาสนา

ในห้อง 'ข่าวพุทธศาสนา' ตั้งกระทู้โดย สังขารไม่เที่ยง, 11 กันยายน 2011.

  1. สังขารไม่เที่ยง

    สังขารไม่เที่ยง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    5,943
    ค่าพลัง:
    +24,697
    วันที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2554 ปีที่ 21 ฉบับที่ 7591 ข่าวสดรายวัน


    ธนาคารพระพุทธศาสนา เพื่ออุปถัมภ์พุทธศาสนา



    <TABLE border=0 cellSpacing=5 cellPadding=0 width=360 align=left><TBODY><TR><TD bgColor=#e0e0e0 vAlign=top align=middle>[​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>ตามที่คณะทำงานกองทุนพระพุทธศาสนาแห่งชาติ คณะกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร ได้ร่างพ.ร.บ.ธนาคารพระพุทธศาสนา พ.ศ. .... เพื่อให้เป็นแหล่งทุนในการอุปถัมภ์พระพุทธศาสนาเป็นหลัก

    โดยได้รับการสนับสนุนจากองค์กรทางพระพุทธศาสนาและพุทธศาสนิกชนทั่วไป

    อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากที่รัฐบาลชุดก่อน ได้ยุบสภาลง ทำให้ร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวต้องถูกพับเก็บไปก่อน แต่ขณะนี้ได้มีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่เรียบร้อยแล้ว จึงได้มีการเตรียมเสนอร่างพ.ร.บ.นี้อีกครั้ง โดยมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคเพื่อไทย จำนวน 20 คน ลงนามที่จะเสนอร่างพ.ร.บ.นี้แล้ว

    ทั้งนี้ การจัดตั้งธนาคารพระพุทธศาสนา มีวัตถุประสงค์เพื่อทำธุรกรรมทางการเงิน ระดมการออม ให้สินเชื่อ ตราสารทางการเงิน ให้ผลตอบแทนสงเคราะห์และให้บริการแก่ลูกค้า

    เพื่อให้เป็นแหล่งทุนในการอุปถัมภ์พระพุทธศาสนาเป็นหลัก ไม่มุ่งเน้นในเชิงธุรกิจเท่ากับธนาคารทั่วไป

    อีกทั้งยังจะมีการพิจารณาปล่อยเงินกู้ให้ผู้ที่มีคุณธรรม-ศีลธรรม ซึ่งจะมีการใช้ทุนประเดิมในการจัดตั้ง 2,000 ล้านบาท แยกเป็นทุนจากรัฐบาล 1,000 ล้านบาท ส่วนที่เหลืออีก 1,000 ล้านบาท จะมาจากการกระจายหุ้นของธนาคาร

    สำหรับร่างพระราชบัญญัติธนาคารพระพุทธศาสนามีทั้งหมด 10 หมวด 63 มาตรา สรุปสาระสำคัญในแต่ละหมวดดังนี้

    หมวดที่ 1 มาตรา 7 ให้กำหนดทุนเรือนหุ้นของธนาคารไว้ 2,000 ล้านบาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญ 200 ล้านหุ้น

    หมวดที่ 2 มาตรา 12 "ให้ธนาคารมีวัตถุ ประสงค์ในการดำเนินธุรกรรมทางการเงิน อันเป็น การพัฒนา ส่งเสริม อุปถัมภ์ สนับสนุน และคุ้มครองการดำเนินงานด้านพระพุทธศาสนา โดยมุ่งหมายเพื่อให้บริการแก่ประชาชนทั่วไป ตลอดจนองค์กรทางพระพุทธศาสนา" โดยวัตถุ ประสงค์กำหนดไว้ 17 ข้อ เช่นรับฝากเงิน จัดหาเงินทุน ประกอบธุรกิจการเงิน ให้สินเชื่อ ให้คำแนะนำด้านการเงิน เรียกเก็บดอกเบี้ย ส่วนลด ค่าธรรมเนียมและค่าบริการอื่นๆ เป็นต้น โดยมีบทสรุปสำคัญว่า "การดำเนินกิจการของธนาคารจะต้องสอดคล้องกับหลักการของพระพุทธศาสนา"

    หมวดที่ 3 กรรมการและการจัดการ กำหนดให้มีกรรมการ 3 ชุด คือ คณะกรรมการที่ปรึกษา คณะกรรมการธนาคารพระพุทธศาสนา และกรรมการบริหารและการจัดการ กรรมการทั้ง 3 ชุดมีคุณสมบัติสำคัญประการหนึ่งคือ "กรรมการทุกท่านต้องเป็นพุทธศาสนิกชน"

    หมวดที่ 4 ว่าด้วยคณะกรรมการบริหารและผู้จัดการ ว่าด้วยคุณสมบัติและหน้าที่ของกรรมการกำหนดไว้ 7 มาตรา

    หมวดที่ 5 ว่าด้วยที่ปรึกษาธนา คารพระพุทธศาสนา กำหนดไว้ 4 มาตรา

    หมวดที่ 6 ว่าด้วยการกำกับ การดำเนินงาน และการควบคุม กำหนดไว้ 4 มาตรา

    หมวดที่ 7 ว่าด้วยการสอบบัญชีรายงาน

    หมวดที่ 8 ว่าด้วยการตรวจสอบ

    หมวดที่ 9 บทกำหนดโทษและบทเฉพาะกาล ระบุว่า "ให้รัฐบาลดำเนินการจัดตั้งธนาคารพระพุทธศาสนาให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาหนึ่งร้อยแปดสิบวันนับแต่วันที่พระราชบัญญัติฉบับนี้ใช้บังคับ"

    ธนาคารส่วนใหญ่ จะดำเนินกิจการเพื่อหวังผลกำไร ในที่นี้พระสงฆ์ รวมไปถึงพุทธศาสนิกชน อาจจะสงสัยเกี่ยวกับการดำเนินงานของธนาคารพระพุทธศาสนา

    แต่ในมาตรา 3 แห่งร่างพระราชบัญญัติธนาคารพระพุทธศาสนา กล่าวถึง "บัญชีบริจาค" ไว้ความว่า "บัญชีบริจาค หมายความว่าบัญชีที่ธนาคารจัดตั้งขึ้นเพื่อรับเงินบริจาค รวบรวมจัดการผลประโยชน์นั้นเกิดจากหุ้นและรับดำเนินการตามประสงค์ของผู้บริจาค เพื่อใช้ในกิจกรรมการอุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนาตามที่คณะกรรมการฯ กำหนด"

    น.พ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ รมต.สำนักนายกรัฐมนตรี ใน ฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระ พุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวว่า สำหรับการจัดตั้งธนาคารพระพุทธศาสนา ทราบมาว่าขณะนี้ ร่างพ.ร.บ.ธนาคารพระพุทธศาสนา ได‰เสร็จเรียบร้อยแล้ว ดังนั้น จะให้สำนักพุทธฯ นำร่าง พ.ร.บ.นี้นำเสนอตน เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายและให้สามารถจัดตั้งธนาคารพระพุทธศาสนาได้สำเร็จ

    นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กล่าวว่า ร่างพ.ร.บ.ธนาคารพระพุทธศาสนา มีอยู่เพียง 1 ฉบับ โดยเป็นร่าง พ.ร.บ.ธนาคารพระพุทธศาสนา ที่ร่างโดยคณะกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎรในรัฐบาลชุดที่แล้ว อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนจำเป็นที่จะต้องนำร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมคณะกรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) ที่มีสมเด็จพระพุฒาจารย์ ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เป็นประธาน เพื่อขอความเห็นชอบ

    ธนาคารพระพุทธศาสนาจะได้ถือกำเนิดเมื่อใดนั้น คงต้องติดตามกัน

    [FONT=Tahoma,]หน้า 32[/FONT]

    ��Ҥ�þ�оط���ʹ� ������ػ������ط���ʹ� : ����ʴ�͹�Ź�==
     
  2. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,443
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,663
    ดีครับ....ทำให้เป็นรูปธรรม...
     
  3. charoen.b

    charoen.b เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    5,726
    ค่าพลัง:
    +15,488
    เห็นด้วยครับ น่าจะจัดให้มีขึ้น
     
  4. โชเต

    โชเต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    285
    ค่าพลัง:
    +331
    สมควรให้มี อย่างยิ่ง

    สนับสนุนและเห็นด้วยทุกๆ ประการครับ

    สาธุ สาธุ สาธุ!
     
  5. อคติ

    อคติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    331
    ค่าพลัง:
    +395
    เห็นด้วยครับ ยิ่งความชัดเจนมีมากเท่าไหร่ ก็รักษาศรัทธาไว้มากขึ้นเท่านั้น :cool:
     
  6. deelek

    deelek เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    6,696
    ค่าพลัง:
    +16,254
    อนุโมทนา สาธุ สาธุ สาธุ
    ในบุญกุศลทุกอย่างด้วยครับ
    นิพพานัง ปัจจโย โหตุ
    นิพพานัง ปรมัง สุขขัง
     
  7. ไข่หวานน้อย

    ไข่หวานน้อย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    15,322
    ค่าพลัง:
    +19,009
    ขอเรียนถามแบบผู้ไม่รู้นะคะว่า ถ้าเรามีธนาคารเพื่อพุทธศาสนาแล้ว ทางวัดสามารถกู้เงินเพื่อมาสร้างเสนาสนะสงฆ์ได้หรือไม่ และต้องใช้คืนอย่างไร จะเอาปัจจัยที่ไหนมาคืนเหรอคะ กว่าจะหามาคืนได้คงเป็นหนี้หัวโตอีกหลายปี เพราะบางวัดเช่น วัดร้าง สำนักสงฆ์ที่ต้องการจะสร้างเสนาสนะเพื่อดึงคนปลุกจิตศรัทธาให้คนหันเข้าหาวัดปฏิบัติธรรม ซึ่งต้องใช้เงินจำนวนมากในการสร้าง คงจะไม่มีปัจจัยที่จะมาสร้างวัดเลย และถ้าเราไม่บอกบุญ ใครที่ไหนจะทราบและจะมาทำบุญกันละคะ อีกอย่างจะพึ่งชาวบ้านละแวกนั้นก็ยากเพราะเขาก็ยากจน ข้อสำคัญถ้าได้กู้เงินมาแล้ว จะไปหาเงินที่ไหนมาคืนธนาคาร ตรงนี้เป็นห่วงอย่างยิ่ง ขอฝากให้พิจารณาด้วยค่ะ
     
  8. joni_buddhist

    joni_buddhist Legal returns ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2005
    โพสต์:
    13,552
    กระทู้เรื่องเด่น:
    203
    ค่าพลัง:
    +63,439
    ผมไม่เห็นด้วยเพราะที่จริงกฏหมายนี้ลอกแบบธนาคารอิสลาม พระจะไปยุ่งเกี่ยวเงินๆๆทองๆๆ มันดูไม่ดีเลย ทำไมคุณไม่เอางบการตั้งไปจัดตั้งสถาบันดูแลสอดส่องพระพุทธศาสนาดีกว่าครับหรือง่ายๆๆเอาพระพุทธศาสนาเข้าบรรจุในรัฐธรรมนูญก็พอ สำนักพุทธศาสนาบ้านเราอ่อนแอ ไม่เคยคิดดูแลพระพุทธศาสนาจริง สำนักงานเฝ้าระวังพุทธศาสนาก็ตั้งมาโก้ๆๆ เท่านั้น ผมถามจริง อย่าง พระเกษม นี่ใครจัดการได้บ้าง และพระการเมืองอย่างวุฒิชัยได้มีการปรามไหม ตัวพระเองยังไม่พัฒนามาเน้นการตั้งธนาคาร มันรไม่ตรงจุดเลย แล้วพระบางรูปบางองค์ อ้างตนเองเป็นคนนั้นคนนี้มาเกิดหาผลประโยชน์ บางวัดก็เอาแต่สร้างจนลืมหลักธรรม ควรไปพัฒนาส่วนนั้นมากกว่ามาตั้งธนาคารแข่งกับอีกศาสนา ไม่งั้นศาสนาพุทธเราจะกลายเป็นแบบศาสนาทุนแบบคาธอลิกครับ
     
  9. phak

    phak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    473
    ค่าพลัง:
    +458
    Anumo..tana..satu...GO..AHEAD...
     
  10. supphakrit

    supphakrit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2010
    โพสต์:
    138
    ค่าพลัง:
    +178
    กราบโมทนาสาธุด้วยครับ ผมว่าน่าจะตั้งซะนานแล้วครับ ผมเห็นมีธนาคารอิสลามก็ยังคิดว่าน่าจะมีธนาคารพุทธศาสนาบ้าง อันนี้สมปราถานแล้ว ดีจังครับ
     
  11. anisong

    anisong Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    54
    ค่าพลัง:
    +36
    เห็นด้วยทำไปเลย พอรัฐบาลโจรมาเป็นรัฐบาลไม่มีใครออกมาทักท้วงเลยนะ ( กลัวเขาไล่ฆ่า ) พอมีรัฐบาลที่ประชาชนเลือกมาออกมาพูดทักท้วงกันใหญ่เลยนะ ตลกจริงๆสังคมไทย
     
  12. หัถเดช

    หัถเดช สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +2
    ผมเกรงว่าจะมีปัญหาเรื่องเกี่ยวกับเงินๆทองๆภายหลังนะครับ เดี๋ยวก็จะกลายเป็นว่าพระไปเป็นหนี้เพื่อนำเงินไปสร้างโบสถ์ ศาลา อะไรพวกนี้ครับ แล้วต่อมาก็จะต้องหาเงินเข้าวัดเพื่อใช้หนี้แล้วอีกอย่างผมได้ฟังหลวงตามหาบัวท่านเคยพูดว่า ปัจจุบันนี้พระชอบหาเงินไปสร้างวัดเพื่อความสวยงามพอคนเห็นว่าสวยงามก็เข้ามาทำบุญกลายเป็นว่าเข้าวัดเพราะวัดสวย ไม่ได้เข้าเพราะศรัทธา กลายเป็นเรื่องของกิเลสไป น่าจะพิจารณาดูให้ดีก่อนนะครับ ด้วยความเป็นห่วงครับ
     
  13. สุปราณี (ปู)

    สุปราณี (ปู) เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    163
    ค่าพลัง:
    +1,296
    เรื่องก่อตั้งธนาคารพุทธศาสนา

    ถึงแม้จะฟังดูแล้วเหมือนจะง่ายดายแล้วก็น่าเชื่อถือ ดูเป็นกุศล แต่ความจริงในความรู้สึกของดิฉันเอง มันดูไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำให้โปร่งใส กลับยิ่งดูซับซ้อน แล้วส่วนที่บอกว่าปล่อยกู้คิดดอกเบี้ย ก็เป็นการบอกว่าเกงกำไร อย่างเห็นๆ แล้วอย่างนี้จะบอกว่า เป็นการทำเพื่อพระพุทธศาสนา หรอกหรือค้ะ ไม่สมเหตุผลเลย แล้วคนที่จะทำหน้าที่นายธนาคารก็ไม่ควรที่จะเป็นพระ ก็ผิดวินัยสงฆ์อยู่แล้ว และหากเป็นฆราวาส ก็ไม่แน่ว่าจะซื่อตรงกับหน้าที่ เงินย่อมไม่เข้าใครออกใคร ความโลภมักเกิดขึ้นได้กับคนทุกคน คิดหรือค้ะว่า จะไม่มีเหตุให้เกิด การเปิดธนาคารพุทธศาสนา มีใครรับรองได้บ้างว่า คนที่ทำหน้าที่ตรงนั้น จะทำหน้าที่บริสุทธิ์ใจได้จนถึงที่สุด แล้วอีกอย่าง ในพุทธตำนานก็ไม่เคยมีเรื่องธนาคารพุทธศาสนามาก่อน และไม่เคยต้องการให้เกิดขึ้นด้วยซ้ำไป เพราะไม่ต้องการให้เป็นพุทธพานิชย์ การก่อตั้งขึ้นก็ทำให้เจตนาของพระพุทธเจ้า และทั้งพระวินัยต่างๆที่ได้กำหนดไว้ในพระไตรปิฏก เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวง ขอให้พิจารณาด้วยเถอะค่ะ
     
  14. แอ๊บแบ้ว

    แอ๊บแบ้ว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,335
    ค่าพลัง:
    +2,544
    ในเบื้องต้น กระผมเห็นด้วยกับท่าน....ปูสุปราณี
    *กระผมเองได้ข่าวนี้แล้วรู้สึกเหมือนไม่สบายใจอะไรบางอย่าง...
    มองถึงความ
    ไม่สันโดษ๑
    ไม่สมถะ๑
    ฯลฯ..และอะไรอีกหลายอย่างที่จะก่อตัวตามมา....

    ไม่สันโดษ ไม่มักน้อยไม่พอเพียง อย่างไร?
    สันโดษ ความหมายโดยย่อคือให้รู้จักพอ รู้จักประมาณ
    แต่การตามตอบสนองความอยาก ฯลฯ ...ในการทำบุญ ...ด้วยการกู้
    .....เป็นความสันโดษหรือไม่?

    ไม่สมถะ อย่างไร?
    สมถะ แปลง่ายๆว่าความสงบ
    แต่เมื่อกู้ก็ต้องดิ้นรน หาหนทางนำเงินมาใช้คืนทั้งต้นและดอกเบี้ย ทำอย่างไร.....ฯลฯ เป็นความสมถะหรือไม่?
    ***********************
    ถ้ามองในแง่ความสะดวก การส่งเสริมการสร้างกุศลทั้งหลาย ด้วยเงิน กระผมก็ไม่ได้คัดค้าน แต่....ต้องตอบโจทย์ให้ได้ว่า
    เป็นไปเพื่อ....
    "ความมักน้อย,ความสันโดษ,ความสมถะ,ความปล่อย,ความสลัดคืน.."
    หรือไม่?
    ***********************
    แต่ถ้า
    ข้อว่า จะใช้ธนาคารพุทธใช้เป็นที่เก็บรวบรวมและกระจายไปสู่วัดที่ขาดแคลน...เพื่อบำรุงเสนาสนะและพุทธศาสนา....อย่างที่หลวงตามหาบัวท่านพาดำเนิน....ท่านทำโดยไม่มีและไม่หวังผลตอบแทนใดๆ....เพื่อให้หมู่คณะได้รับความสะดวกในการปฏิบัติธรรมตามสมควร...เพื่อบรรลุกิจสุงสุดในพุทธศาสนา
    ข้อนี้กระผมเห็นด้วย
    ***********************
    ขอให้พิจารณาด้วยเถอะครับ _/|\_
     
  15. สุปราณี (ปู)

    สุปราณี (ปู) เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    163
    ค่าพลัง:
    +1,296
    สาธุ สาธุ ค่ะในใจก็คิดว่าเป็นสิ่งที่จะช่วยเหลือวัดขาดแคลนได้เป็นอย่างดี แต่ทุกสิ่งย่อมมีปัญหาตามมาเสมอ ก็ได้แต่คาดหวังว่า ผู้มารับหน้าที่ดูแลการเงินของธนาคารพุทธศาสนาจะเป็นผู้ที่มีจิตใจใสสะอาด เท่านั้นแหละค่ะ คาดหวังได้เพียงเท่านี้
     
  16. วิญญูชนจอมปลอม

    วิญญูชนจอมปลอม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2008
    โพสต์:
    312
    ค่าพลัง:
    +1,124
    เป็นเรื่องละเอียดอ่อนมาก ถ้าจะสร้างธนาคาร

    ใครมากู้เงินแล้วไม่จ่ายต้นไม่จ่ายดอก จะทำยังไงครับ?
    ฟ้องเลยเปล่า ถ้าฟ้อง ธนาคารก็โดนด่าอีก

    จะบอกว่าพวกแกล้งไม่มีเงินนี่ มีเยอะนะครับ
    สมัยผมเรียนกองทุนกู้ยืมเงิน คนรวยกู้กันเยอะคนจนเฉยๆ

    ง่ายๆเลยวัดต่างจังหวัด จะไปสร้างของห้องน้ำ โรงครัว ให้วัด
    ผู้นำหมูบ้านขอเงินค่าต๋ง บอกงั้นไม่ให้สร้าง (ถ้าเราสร้าง มันไม่ได้ใต้โต๊ะ)
     
  17. ปุถุชน

    ปุถุชน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ธันวาคม 2004
    โพสต์:
    180
    ค่าพลัง:
    +715
    สาธุ สาธุ สาธุ

    ขอสนับสนุนอย่างเต็มที่ครับ

    อุบาสก อุบาสิกา ก็คือฆราวาส ที่ถึงพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง
    ในเมื่ออุบาสก อุบาสิกาทั้งหลาย ยังอยู่ในโลก
    ทำธุรกิจในโลก ที่ไม่ใช่อบายมุข ไม่ใช่มิจฉาอาชีโว
    ผมก็ยังไม่เคยได้ยินที่ไหน
    ว่า ฆราวาสที่เป็นพุทธ ทำธนาคารสนับสนุนพระศาสนาไม่ได้
    หรือ ไม่ควรทำ

    การทำธนาคาร ทำมูลนิธิ ก็ทำเพื่อระดมทุน ทำงานใหญ่
    ก็งานใหญ่ของอุบาสก อุบาสิกา จะมีอะไรยิ่งใหญ่ไปกว่า
    การสนองพระคุณ พุทฺโธ สุสุทฺโธ กรุณามหณฺนโว
    ด้วยปฏิบัติบูชา ถวายทาน รักษาศีล เจริญภาวนา ตามที่พระองค์ท่านสั่งสอนไว้
    การระดมทุน โดยทำธนาคาร ก็เพื่อระดมทุน
    สำหรับถวายทาน ทั้ง สาธารณประโยชน์ ศาสนประโยชน์
    ล้วนแล้วแต่เป็นรากฐานให้ชาติมีความมั่นคง ทรงพระศาสนาไว้ได้
    หากไม่ทำ
    เมื่อไรจะรักษาความเป็นปึกแผ่นของสุวรรณภูมิ แดนเดียวในชมพูทวีป
    ที่รองรับพระศาสนาจนครบห้าพันพระว้สสา

    ตรองดูกันเถิดท่านอุบาสก อุบาสิกา ทั้งหลาย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 กันยายน 2011

แชร์หน้านี้

Loading...