ผมสับสนกับตัวเองไม่รู้ว่าจะเลือกทางไหน

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย pice94, 6 ตุลาคม 2011.

  1. pice94

    pice94 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2011
    โพสต์:
    116
    ค่าพลัง:
    +173
    สวัสดีทุกท่านครับ ผมเป็นคนหนึ่งที่กำลังสบสนกับชีวิตเพราะว่าในเวลาที่ผมเครียดๆนั้นผมก้จะหาทางออกโดยการคิดว่าจะไปกินเหล้า เที่ยวกลางคืนกับเพื่อน หรือไม่บางครั้งก็จะดูหนังอย่างว่า ผมรู้สึกว่าชีวิตมีอะไรให้สนุกกว่านี้อีกเยอะมาก และเมื่อเวลาผ่านไปซักพักผมก้รู้สึกว่าสิ่งเหล่านี้มันไม่ดี ไม่สมควรไปยุ่งกับมันแล้วก้จะหันหน้าเข้าสู่ธรรมะ โดยการสวดมนต์ เข้าวัดนั่งสมาธิเปนบางครั้ง แล้วผมก้ชอบทำบุญตักบาตรทุกครั้งที่มีโอกาส และเมื่อตัวเองเริ่มเครียดหรือเบื่อ หรือไปเที่ยวกับเพื่อนกลับมาแล้วก้จะกลับไปทำเหมือนเดิมคือเลิกสวดมนต์ ไม่สนใจในธรรมมะ(แต่ผมก้อยากสวดมนต์ นั่งสมาธินะครับแค่ขี้เกียจ)

    และผมเป็นคนที่ชอบศึกษาเรื่องบาป-บุญคุณโทษรู้ว่าการกินเหล้า ดูหนังอย่างว่าแล้วจะได้รับบทลงโทษอย่างไรเมื่อจากโลกนี้ไปแล้ว

    แต่ผมก็ยังคงห้ามตนเองไม่ได้

    ผมควรทำอย่างไรดีครับ? แล้วสิ่งที่ผมทำจะบาปมากไหมครับทั้งๆที่รู้แล้วยังทำอีก

    วอนผู้รู้ช่วยผมด้วยนะครับ
     
  2. bluebaby2

    bluebaby2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2010
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +4,287
    เริ่มจากการถามตัวเองว่าจริงๆ แล้วเราอยากทำอะไรกันแน่ คนเราเกิดมานับ
    ภพนับชาติไม่ถ้วนเพราะไม่มีทิศทาง บางชาติทำแต่ความดี บางชาติทำแต่
    ความชั่ว บางชาติทำทั้งความดีและความชั่ว วนเวียนอยู่แบบนี้ในภพภูมิทั้ง
    หลาย เพราะว่าไม่มีทิศทางไม่มีจุดหมาย พอเรารู้ว่าเรามีจุดหมายอะไรแล้วมัน
    ก็ง่ายขึ้น สมมติว่าเรามีจุดหมายคือความหลุดพ้น เราเริ่มจากละความชั่วก่อน
    แล้วทำความดี ทำจิตให้บริสุทธิ์ต่อไป ใช้ศีลในการจัดระเบียบกาย ใช้
    เนกขัมมะในการจัดระเบียบใจ
     
  3. paetrix

    paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,480
    ค่าพลัง:
    +1,880
    ..........คนทุกคนไม่ว่าหญิง ชาย ก็ ชอบ ความสุข สนุก ด้วยกันทั้งนั้น...จนกว่าจะพบว่า ความสุขอื่นใดเหนือความสงบไม่มีได้ จริงจริงด้วยตัวเองเท่านั้น ......คุณต้องมีสติ สังเกตุตัวเองดูนะครับ ที่ว่าเครียดนั้นเกิด จากอะไร? ร่างกายเราหรือ? หรือเกิดจากอารมณ์ อื่นใด เช่น โทสะ หรืออะไร?........ ไม่มีใครจะเปลี่ยนคุณได้ นอกจากตัวคุณเอง จะหาความสงบที่ ไม่ต้องใช้ปัจจัย ภายนอก เช่น สุรา หรือ สิ่งยั่วยุเช่นหนังโป๊...ผมขอรับรองว่าความเครียดไม่ได้เกิดจากคุณไม่ได้เสพอะไรหรอก...ความเครียดเกิดจากจิตคุณไม่ตั้งมั่นต่างหาก ขอแนะนำ อานาปานสติ ดูลมหายใจเข้าออก แล้วคุณจะรู้ว่า ปิติ สุข คืออะไร....ทีนี้ ทางกาย วาจา คุณก็ลองไปเที่ยวกับเพื่อนเหมือนเดิม แล้วลองกินแต่ น้ำ อัดลม หรือกินแต่กับแกล้มอย่างเดียวแล้วไม่แตะเหล้าเลย ผมรับรองว่าคุณจะไม่สนุก แต่คุณจะมีความสุขสงบ ทั้งวันที่ไปเที่ยว และหลังจากวันนั้นอีกวัน คุณก็จะไม่เพลียไม่แฮ้งค์ เหมือน ก่อนก่อน ทีนี้คุณเริ่มเห็น ว่า มันจำเป็นใหม ที่คุณต้องประพฤติตัวเหมือนเดิม ลองดู ครับ ผมเคยผ่านมันมาแล้วผมเข้าใจดีครับ:cool:
     
  4. พระยาเดโชชัยมือศึก

    พระยาเดโชชัยมือศึก สินธพอมรินทร์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2005
    โพสต์:
    2,742
    ค่าพลัง:
    +12,024
    ถ้าเรายังไม่สามารถตัดทางโลกเรื่องเหล้าเรื่องกามได้ เราก็อย่าทำให้คนอื่นเดือดร้อนแล้วกัน กินเหล้าแบบไม่เมา คือไม่ทำให้เราขาดสติ แล้วไปซ่าส์หาเรื่องคนอื่น ดูหนังโป๊แล้วไม่ไปผิดศีลข้อสาม ก็ยังถือว่า เป็นไปตามทางโลก แต่อย่างไรก็ตามในทางธรรมถือว่ายังเบียดเบียนตนเองอยู่มาก ต้องพยายามตั้งสัจจะนะครับ ว่าฉันจะไม่กินเหล้า ไม่กินช่วงวันพระ ไม่กินช่วงเข้าพรรษา ไม่กินตลอดไป ค่อยๆฝึก ทุกอย่าง ใจเป็นใหญ่ อิอิ
    เรื่องดูคลิปโป๊ ใครๆก็ดู มันมีเกลื่อนในเนต แต่ดูแล้วความกำหนัด มันลดน้อยลงบ้างไหม ธรรมชาติสร้างมา ความต้องการของร่างกาย ทำให้ความอยากเกิด แต่จะทำอย่างไรให้เราเห็นว่าน้ำกาม ก็คือธรรมชาติ มันก็มีตามธรรมชาติ เคลื่อนตามธรรมชาติของมัน แล้วเรารู้ว่าความต้องการเรื่องเพศนั้น มันเป็นไปตามธรรมชาติ แต่เราต้องอยู่ในขอบเขต ในกฎหมาย ในศีลธรรม บางทีหากบุญส่งผล ดูแล้วคิดได้ จริงๆเรื่องกามมันก็มีแค่นั้นจริงๆ ทำไมเราต้องไปหลงกันมันทั้งๆที่ กลิ่นก็เหม็น ทำไปพอสักพักก็เหนื่อย พอเสร็จภาระกิจแล้วมันก็ไม่เห็นจะสุขจริง อะไรคือสุขที่แท้จริงของมนุษย์เรา แล้วที่เราหลงเพลินกับมันเพราะอะไรเป็นเหตุ แล้วถ้าจะหาทางแก้ ก็ดูอสุภะก็ได้ ดูศพ ดูภาพคนแก่ และอีกวิธี เวลาเห็นเพศหญิง ให้นึกว่าเขาคือแม่คือน้องของเรา เรารักเขาแบบนั้น เรื่องกามมันจะลดลงได้เอง
    ส่วนเพื่อน เพื่อนดีๆมีให้คบทำไมไม่คบ คิดอย่างนั้นก็ได้นะครับ เลือกคอเดียวกัน กินน้ำหวาน อิอิ
     
  5. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    22,286
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,002
    อยากให้คุณ liver_hekeo download หนังสือ ชีวิตเป็นอย่างนี้ ใต้ comment ของผมไปอ่านให้จบครับ ลองตั้งใจอ่านให้จบดู เเล้วจะคิดอะไรได้มากขึ้นอย่างเเน่นอน รับประกันครับ ลองอ่านให้จบดูครับ อนุโมทนาครับ
     
  6. ...คนสู้กรรม...

    ...คนสู้กรรม... เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    360
    ค่าพลัง:
    +967
    ตอนนี้ท่านผู้ถามอายุเท่าไหร่เหรอครับ?? ถ้ายังน้อยๆอยู่ ก็ไม่แปลกอะไรหรอกครับ เพราะด้วยความที่เป็น วัยรุ่น สิ่งเหล่านี้ที่เข้ามามันก็เป็นธรรมดาชองชีวิต ความสับสนที่เข้ามา ก็เหมือนหนทางที่ทำให้ตัดสินใจเดิน อย่าเพิ่งไปเครียดกับมันตอนนี้เลยครับ มันจะเป็นไปตามวัย ไม่ต้องเคร่งอะไรมากนักหรอกครับ ถ้ายิ่งเคร่งแล้วยิ่งเครียดแบบนี้ ก็ลองหย่อนๆดูบ้าง เผื่อว่าอะไรๆจะดีขึ้น เอาไว้โตกว่านี้ (แก่ลง) เมื่อไหร่ ก็จะมีความเข้าใจในชีวิตมากขึ้นครับ เมื่อมีครอบครัว มีเมีย มีลูกแล้ว ก็จะปลง และยับยั้งสิ่งเหล่านี้ได้ด้วยใจตัวเองครับ ใจเย็นๆ สบายๆ การที่จะหล่อหลอมกับธรรมะได้ ก็ต้องเป็นผู้ที่เข้าใจธรรมชาติครับ ธรรมะ ก็หมายถึง ธรรมชาติ สิ่งที่บ่งบอกถึงสภาพความเป็นไปของธรรมชาติ กลไกที่ดำเนินไปตามสัจธรรม (ความแท้จริง) ไม่ได้หมายความว่าต้องไปอ่านหนังสือธรรมะเล่มโตๆ สำเนียงเข้าใจยาก แล้วมานั่งเคร่งไม่เอาอะไรแล้วในชีวิตนะครับ ธรรมชาติของวัยคุณ ถ้ามันจะหาแก่นสารอะไรไม่ได้ ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกหรอกครับ

    คนเราทุกคนนั้นไม่เหมือนกัน บางคนรวยตั้งแต่เด็ก ด้วยสมบัติของพ่อแม่ บางคนรวยตั้งแต่วัยรุ่น เพราะรู้จักทำมาหากิน ในขณะที่บางคน กว่าจะรวยก็ปาเข้าไปถึงวัยผู้ใหญ่แล้ว ธรรมะก็เช่นกันครับ บางคนเข้าใจตั้งแต่เด็ก บางคนเข้าใจตอนวัยรุ่น บางคนก็ยาวไปยันแก่ ธรรมะไม่ต้องการให้คุณยึดติด ยึดมั่นถือมั่นหรอกครับ แต่ธรรมะนั้น ต้องการให้คุณ "ปล่อยวาง" ต่างหากล่ะ ^^

    ตอนที่ผมยังอายุน้อยๆ (15 - 20) ก็เหมือนกับคุณนั่นแหละครับ ชอบเที่ยว ชอบดื่ม เจ้าชู้ เพราะทะนงในรูปร่างหน้าตาของตัวเอง จีบสาวแล้วฟันดะ ไม่สนใจว่าพวกเธอจะเสียใจแค่ไหน มาได้สติก็ตอนที่ได้พบกับท่านอาจารย์ (ซึ่งตอนนี้ท่านก็ลาโลกนี้ไปแล้วแหละครับ) ซึ่งท่านก็บอกว่า "รูปร่าง ผิวพรรณ หน้าตา นั่นคือผลกรรมดีจากอดีตชาติ หากชาตินี้เธอประมาท ชาติหน้าเธอจะไม่เหลืออะไรเลย" ...ท่านเน้นให้ปล่อยวาง สอนว่าคนเราทุกคน แยกแยะ ดี-ชั่ว ได้ด้วยตัวเอง ขึ้นอยู่กับว่าจะเลือกทำหรือไม่ แม้ศีล 5 จะถูกบัญญัติด้วยพุทธองค์ แต่ที่บ้านเมืองเราคนชั่วชุกชุม ก็เพราะเลือกที่จะฝ่าฝืนในศีลกันทั้งนั้น ไม่ใช่เหรอ? เพราะงั้นถ้าคนเรารู้จักแยะแยะดีชั่วได้ ทำไมไม่เลือกทำแต่สิ่งดีๆล่ะ ทีนี้... ต่อให้เป็นศีล 5 ศีล 8 ศีล 10 ...ก็ไม่มีความหมายแล้ว เพราะเรานั้นเลือกทำแต่สิ่งที่ดี ภพภูมิที่ดี ก็ย่อมเป็นที่ไปของเรา.............

    ทุกวันนี้ผมมีคนรักแค่คนเดียว (ภรรยาเดียว) มีความเบื่อหน่ายในรสสุรา ที่ขมๆฝาดๆเหม็นๆ มีความเบื่อหน่ายในกลิ่นของกาม มีความขี้เกลียดออกเที่ยว วันๆอยู่แต่ในบ้าน จะออกจากบ้านก็ต่อเมื่อ ออกไปทำงาน ออกไปซื้ออะไรมากิน พาแฟนไปเที่ยวโน่นเที่ยวนี่บ้าง (น้ำตก , ทะเล , วัด , ภูเขา , ป่า , ร้านอาหารอร่อยๆ ฯลฯ ไม่ใช่ผับ เธค หรือแหล่งอโคจรนะครับ) มันเป็นไปเองตามวัยแหละครับ พระพุทธเจ้าเอง ก็เริ่มเบื่อหน่ายสิ่งเหล่านี้ได้เองเช่นกัน เหมือนกับมนุษย์ทั่วๆไป ที่จะเบื่อสิ่งเหล่านี้ไปได้เอง เมื่อถึงเวลาครับ

    สรุป... ใจเย็นๆ ทำใจให้ผ่อนคลาย ทำทุกอย่างด้วยสติ เมื่อเห็นว่าสิ่งนี้ผิดนะ สิ่งนี้ไม่ดีนะ แต่ว่าเลิกแบบหักดิบไม่ได้ใช่ไหมครับ อ่ะ เราลองลดปริมาณดูซิ จากที่ไปดื่มเหล้ากับเพื่อนๆ ลองเปลี่ยนมากินหมูกะทะ หรือ สุกี้ไปด้วยดีไหม กินอะไรที่มันหนักๆท้อง จะได้กินเหล้าน้อยๆ เป็นการละสิ่งเหล่านี้ไปในตัว เพื่อนำไปสู่การเลิกในที่สุด แบบเบาๆ สบายๆ , ส่วนเรื่องหนัง XXX ก็ลองเปลี่ยนใหม่ จากที่ดูแบบโจ่งครึ้ม ลองเปลี่ยนมาดูหนังรักอีโรติกแบบเบาๆ เห็นวับๆแวมๆแทน เช่น น้ำตาลแดง , ชั่วฟ้าดินสลาย ฯลฯ ให้จิตใจค่อยๆเบาบางจากความต้องการเสพหนัง XXX ให้น้อยลง แล้วลองเปลี่ยนแนวหนังดู เช่น หนังผี หนังบู๊แอคชั่น หนังตลก เป็นต้น หรือถ้าไม่อย่างนั้น ก็หาแฟนสักคน (แต่ต้องรักให้จริงนะครับ) แล้วดูหนังสดกันไปเลย รับรอง จะเบื่อเร็วเข้าไปอีกแน่ อิอิ ขอเพียงแต่อย่าหลายใจก็พอครับ ~ อย่าลืมนะครับ สบายๆ ปล่อยวาง แต่ต้องมีสติเสมอนะครับ (^_^)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 ตุลาคม 2011
  7. เด็กอนุบาล

    เด็กอนุบาล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    689
    ค่าพลัง:
    +4,156
    เพราะเห็นทุกข์ยังไม่พอ ทุกข์ที่ว่าคือทุกข์จากการเวียนว่ายตายเกิดมาเป็นมนุษย์
    ขยันกำหนดรู้ให้เห็นทุกข์ให้พอจนจับใจเมื่อไหร่ ก็จะเลิกติดทางโลก ก็จะมุ่งทางธรรมเต็มตัว
     
  8. Ton_PB

    Ton_PB เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    4,464
    ค่าพลัง:
    +2,005
    สักวันคุณจะรู้เองว่าสิ่งที่จะเลือกและทางเดินที่แท้จริงคืออะไร
     
  9. nichaojung

    nichaojung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    392
    ค่าพลัง:
    +8,247
    คุณก็เป็นคล้ายๆผมครับ ถ้าวันไหนเราไปยุ่งกับอบายมุข แล้วจิตเราจะขี้เกียจ หลงกับสิ่งเหล่านั้น ยากที่จะออกมาได้ครับ แต่วันเวลาผ่านไป เราก็เบื่อ เพราะความหลง มีเกิด ก็มีดับ แล้วก็หลงไหม่ แต่เวลาที่เราไม่ไปยุ่งกับอบายมุขเราก็ศึกษาธรรมะ สวดมนต์ นั่งสมาธิได้ เอาเวลาที่จะหลงกับอบายมุข มาใช้สวดมนต์ นั่งสมาธิ ดีกว่าครับ ได้บุญด้วย ดีกว่าไปทำบาป ทุกสิ่งทุกอย่างมันอยู่ที่ใจเราน่ะครับ เอาชนะมันให้ได้
     
  10. nichaojung

    nichaojung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    392
    ค่าพลัง:
    +8,247
    ถ้าคุณยังวัยรุ่นอยู่ ก็เหมือนผม ผมก็ยังวัยรุ่น ถ้าเราไม่เห็นโทษของอบายมุข มัวลุ่มหลงอย่างงี้ ถ้าเผื่อวันนี้ วันพรุ่ง วันมะรืน เราตายหละ ในเมื่อเราไม่เคยทำความดีเลย เราก็ตกนรกเพราะทำบาป ยากมากที่จะได้เกิดมาเป็นคน เราเข้าใจตั้งแต่วัยรุ่นนี้ เราก็พยายามสะสมความดีไปเรื่อยๆ เราได้เปรียบนา ดีกว่าคนหลายๆคนไปศึกษาเอาตอนแก่ บางท่านก็มัวแต่ลุ่มหลงจนแก่ แล้วไม่ได้ศึกษาธรรมะ บางท่านลุ่มหลงจนอายุ จะเป็นผู้ใหญ่ ยังไม่ทันได้ศึกษาเลย ดันตายซะก่อน คิดดูครับ มันจะเป็นอย่างไร นรกมันไม่เลือกคนน่ะครับ ว่าวัยรุ่น วัยแก่ โทษมันจะต่างกัน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 ตุลาคม 2011
  11. พิชญากร

    พิชญากร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2010
    โพสต์:
    909
    ค่าพลัง:
    +5,260
    ..จิตของเราคบคิดกับกิเลสมานานหลายแสนชาิติ แน่นอนว่าจิตก็ต้องชอบสิ่งเหล่านี้เป็นทุนเดิม ดังนั้นจึงไม่แปลกหรอกค่ะ ค่อยๆพยายามลด พยายามละไปก่อน จะหักดิบเลย ถ้ากำลังใจไม่เข้มแข็งพอจะเครียดได้.
    ..ดังที่หลวงพ่อฤาษีลิงดำท่านเคยกล่าวไว้ว่า จะปฏิบัิติธรรมต้องทำแบบ "โลกไม่ช้ำ ธรรมไม่เสีย หรือเดินทางสายกลางนั้นเอง"
     

แชร์หน้านี้

Loading...