๙๙๙ อิทธิมงคล มหาบารมี วัตถุมงคล หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ ๙๙๙

หลวงพี่ ขอขอบคุณจากใจ...คุณวุฒ..ผู้ปิดทองหลังพระ

สาธุ.........
สาธ.....

​

 

ยืนยันเป็นใบลานทั้ง 5 ดอกค่ะ

 

ลำดับที่ ๒๙ ขอบูชาตะกรุดใบลานทั้ง ๕ ดอกครับผม โอนเงินเมื่อไรจะแจ้งให้ทราบอีกครั้งครับ​

 

ลำดับที่17=5ดอกเลือกใบลานครับ

 

มีให้เลือก 2 เนื้อ
แต่ยันต์และพุทธคุณดุจเดียวกัน

*ตะกรุดใบลาน
ขนาดความยาว5 ซม.

*ตะกรุดอลูมิเนียม
ขนาดความยาว 5.5 ซม.

ร่วมบูชาดอกละ 300 บาท

โอนเงินเข้าบัญชี
ชื่อบัญชีธนาคาร ว่าที่ ร.ต.วุฒิ ประภัสราภรณ์
บัญชี ธนาคารกรุงเทพ สาขาเอ็มโพเรี่ยม ออมทรัพย์
เลขที่บัญชี 0960187235
โทร 087-0267111
สำหรับท่านใดที่จองไว้ก่อนหน้านี้แล้ว รบกวนแจ้งให้ทราบด้วยครับว่าต้องการแบบไหนครับ อนุโมทนาครับ
สาธุ สาธุ สาธุ
สวัสดีครับไม่ทราบว่าพอจะจองตะกรุดทันไหมครับ ถ้าทันขอจอง ใบลาน2ดอก อลูมิเนียม1ดอกครับ โอนภายในวันที่เท่าไหร่ครับ ขอบคุณครับ

 

<TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>

"น้ำทะเลไม่แห้งใครก็ฆ่าศิษย์หลวงปู่ไม่ตาย แผ่นดินพลิกได้ศิษย์หลวงปู่ถึงรู้จักจน"
คำขอของหลวงปู่ต่อครูบาอาจารย์เสมอ..สาธุ

********************************************************************************​

</TD><TD class=thead width="14%"></TD></TR></TBODY></TABLE>

กราบนมัสการหลวงพี่หนึ่งครับ


fly_pigfly_pigfly_pig
สาธุ สาธุ สาธุ
<TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>

ศิษย์มีครู
นะเมติ นะเมติ นะเมติ






​

</TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[</TD></TR></TBODY></TABLE>​

 

งานเข้าแล้วล่ะซิ....ว่าจะอยู่เงียบ ๆ คนเดียวที่มุมห้อง อับ ๆ แล้วนะ .....เอ้า...ครับ

ผมรู้จักหลวงปู่จากนิตยสารฉบับหนึ่งครับ และพอดีเป็นช่วงที่ท่านออกวัตถุมงคลฉลองอายุครบ 80 ปีพอดี ตอนนั้นอยากได้พระกริ่งมาก แต่ไม่สะดวกเรื่องปัจจัย เลยบูชาได้แค่ พระบูชา 3 นิ้ว (เป็นวัตถุมงคลชิ้นแรกของหลวงปู่ที่ได้มา) หลังจากนั้น ประมาณ 5-6 เดือน นิตยสารดังกล่าวได้ลงบทความเกี่ยวกับคุณวิเศษของปากกาของหลวงปู่ ซึ่งอ่านแล้วอยากได้มาก ๆ มีแบบนี้ด้วยเหรอ คงเป็นวิชาเฉพาะตัวหลวงปู่จริง ๆ เลยไปซื้อปากกา และวันรุ่งขึ้นไปหาหลวงปู่ทันที (ใช้เวลาตัดสินใจประมาณ 20 นาที หลังจากตื่นนอนตอนตี 4 คิดอยู่นาน 2 นานว่าจะไปดีไม่ไปดี ทางก็ไม่รู้จัก จะไปยังไงดี ไปแล้วหลวงปู่จะอยู่หรือเปล่าก็ไม่รู้ ถ้าไม่อยู่ ก็ไปเสียเที่ยว คิดไปคิดมาสรุปว่า "ลองไปดู") ไปขึ้นรถทัวร์ที่หมอชิตตั้งแต่ ตี 5 ครึ่ง ไปคนเดียว นั่งไปกลัวไป เพราะไม่เคยออกต่างจังหวัดที่ไกลขนาดนี้เพียงลำพังคนเดียว ภาวณา "นะเมติ"ตลอดทาง ขอให้เจอหลวงปู่ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ (เรียนพึ่งจบ ยังเป็นละอ่อนอยู่มาก ๆ แล้วเป็นประเภท เหยียบขึ้ไก่ไม่ฝ่อด้วย เรื่องลำบาก ๆ ไม่ต้องพูดครับ เลี่ยงได้ก็เลี่ยง)
ไปถึงตัวอ.ปราสาทเวลาเกือบบ่ายโมง นั่งมอเตอร์ไซด์เข้าไปสุสานทุ่งมน เลยลองเรียบ ๆ เคียง ๆ กับคนขับว่ารู้จักหลวงปู่มากน้อยแค่ไหน แต่น่าแปลกใจมากครับ ลุงแกตอบว่าพึ่งจะรู้จักหลวงปู่เมื่ออาทิตย์ก่อนที่ผมจะมาเอง ลุงเองก็ยอมรับว่า ใกล้เกลือกินด่าง มีของดีอยู่ใกล้ ๆ ไม่สนใจ มีแต่คนไกลมาหาของดีที่นี่
พอถึงสุสาน ฯ หลวงปู่ยังจำวัตรอยู่ เลยนั่งคอยอยู่พักใหญ่ ๆ คนขายไอติมบอกว่าหลวงปู่น่ะ นอนเป็นเวลา ตื่นเป็นเวลา กว่าจะตื่นจำวัตรก็บ่าย 2 โน่นแน่ะ ผมก็ไม่ว่าอะไร นั่งคอยไปเรื่อย ๆ สักพักใหญ่ ๆ หลวงปู่ก็เปิดผ้าม่านขึ้น คนที่มาหาท่านก็กรูเข้าไป ผมมองนาฬิกาเวลาบ่าย 2 โมงตรงพอดี คนที่เข้าไปหาท่านส่วนใหญ่จะเป็นชาวบ้านถือกรวย 5 มาถวาย แล้วหลวงปู่ก็เอาเงินให้ มีบางคนเอาผักบุ้งที่ขายเหลือจากตลาดมาให้ท่าน ท่านก็ให้เงินไป ซึ่งผมเห็นแล้วงงมาก (ความคิดผมตอนนั้น หลวงปู่เป็นพระสายเขมร ต้องมีแต่คาถาอาคม เสกเป่า ปลุกเสก อย่างเดียว ไม่คิดว่าจะเมตตามากมายอย่างนี้ ประทับใจมากครับ ประทับใจตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา)
ระหว่างหลวงปู่รับญาติโยมอยู่ผมก็เข้าไปหาเด็กคนหนึ่ง นุ่งกางเกงขาสั้นลายดอก เหมือน "แว๋นบอย" ในสมัยนี้(หวังว่าน้องเสกคงจะจึงช็อตนี้ได้นะ คนใส่แว่นตาเบลอ ๆ เข้ามาถามเรื่องขันธ์ครูน่ะ) บอกว่าจะให้หลวงปู่จารปากกาให้ น้องคนนั้นถามว่า "พี่จะเอาไปทำอะไร" "ผมจะไปสอบเรียนต่อโท" น้องคนนั้นจึงจัดขันธ์ 5 ให้ ผมคอยจนกว่าคนจะหมด ค่อย ๆ เข้าหาและบอกหลวงปู่เรื่องจารปากกา หลวงปู่ถามว่าเอาไปทำอะไร ศีล 5 ถือได้หรือเปล่า มือก็ชี้ไปที่กระดาษเขียนศีล 5 ที่อยู่บนข้างฝา และบอกว่า ถ้าถือได้ค่อยมาว่ากัน ผมเจอคำนี้เงียบไปพัก ใหญ่ ๆ ถอยออกมา
สักพักใหญ่ ๆ ก็รวบรวมความกล้าเข้าไปและบอกท่านว่าถือได้ครับ เหล้าก็เลิกแล้ว ท่านมองหน้าแล้วก็รับขันธ์ครูและจารปากกาให้อย่างตั้งใจ
หลังจากนั้นผมก็ลาท่านกลับ ก่อนกลับท่านยังถามว่ามาจากไหน ผมตอบว่า "กรุงเทพ ฯ ครับ ขอให้หลวงปู่คุ้มครองให้เดินทางกลับปลอดภัยด้วยนะครับ" ท่านก็ไม่ว่าอะไร ผมก็เดินทางกลับทั้งที มาถึงกรุงเทพประมาณเกือบตี 3 ครั้งแรกที่ผมเจอหลวงปู่ก็ประทับใจท่านมาตลอดเลยครับผม

 

ของผมที่จองไว้ 3 ดอก ก่อนหน้านี้ ขอแก้ไขเป็น 4 ดอก แบบอลูมิเนียมครับ

 

ผมเองเติบโตมาและสัมผัสกับพระสายวัดป่าธรรมยุต มาตั้งแต่จำความได้จนโต ไม่ว่าจะไปวัดไหน พ่อผมจะพาด้วยแทบจะทุกอาทิตย์ก็ว่าได้ ส่วนใหญ่ก็จะไปวัดบวรนิเวศแทบจะทุกอาทิตย์ ไปปรนนิบัติรับใช้ และกินข้าวก้นบาตร จากเจ้าคุณธรรมดิลก (พี่ชายหลวงปู่วิเวียร เจ้าอาวาสวัดดวงแข)คณะเขียวรังษี ซึ่งปัจจุบันมรณภาพไปนานมากหลายปีแล้ว เนื่องด้วยผมไปแทบจะทุกอาทิตย์ผมได้มีโอกาสกราบไหว้และสัมผัส สมเด็จพระสังฆราชองค์ปัจจุบันอยู่มากพอสมควร ในขณะเดียวกันก็ไปวัดอโศการาม(ท่านพ่อลี) แทบจะทุกอาทิตย์เหมือนกันถ้ามีโอกาส ทำให้ได้สัมผัส พระอรหันต์สายวัดป่าอยู่มากมายพอสมควร อาทิ หลวงปู่สิม วัดถ้ำผาปล่อง หลวงปู่ขาว อนาลโย หลวงปู่ฝั้น จนกระทั่งเจ้าอาวาสวัดอโศการาม องค์ปัจจุบัน อาจารย์ทอง จันทสิริ ที่ค่อนข้างสนิทสนมกับคุณพ่ออยู่พอสมควร หรือแม้แต่พระเกจิในกรุงเทพ อย่างหลวงปู่โต๊ะวัดประดู่ ฉิมพลี ในสมัยเด็กๆนั้น ก็ไม่ค่อยเข้าใจว่า ทำไมคุณพ่อถึงต้องพาผมไปด้วย เวลาไปวัดคนก็เยอะ บางครั้งนั่งรอเป็นวันๆ ไม่เห็นจะทำอะไรเลย บอกตามตรงว่า มันน่าเบื่อจริงๆ แต่ผมเองค่อนข้างจะโชคดี เนื่องจากเป็นเด็ก คุณพ่อจะพาผมไปทุกครั้งที่ วัดทั้งสองวัดมีงานแทบจะเรียกได้ว่าทุกงานเลยทีเดียว เหตุนี้เองทำให้ผมเองได้มีโอกาสสัมผัส เข้าใกล้ ในหลวง พระราชินี และ พระบรมวงศานุวงศ์ ชนิดเรียกได้ว่าใกล้ขนาดได้สัมผัสพระบาทของพระองค์ก็ว่าได้

เรื่องลงกระหม่อมจากพระเกจิ พระเถระผู้ใหญ่ หรือแม้แต่องค์สมเด็จพระสังฆราชก็เมตตาลงกระหม่อมให้มากหลายครั้งอยู่พอสมควร ผมและคุณพ่อปฏิบัติเช่นนี้เสมอมาตลอดจนกระทั่งผมเติบโตขึ้นมา

จนกระทั่งเมื่อประมาณปี 254 กว่า จำไม่ได้ว่า ปีอะไร ผมได้รู้จักหลวงปู่หงษ์ จากการพิมพ์ใน google คำว่า พระเครื่อง นั่งอ่านไปเรื่อยๆๆๆๆ จนคลิกไปเจอหน้าพระเกจิ รูปหนึ่ง แต่ไม่รู้หรอกว่า นามของพระเกจิผู้นั้นเป็นใคร แต่ในแวปแรกที่เห็น บอกได้คำเดียว ว่า ชอบพระรูปนี้ ดูยิ้มมีเมตตา และ ดูใจดี น่ารักดี หลังจากนั้นก็ติดตามมาเรื่อยๆ จนไปเจอเวปไซค์ของอาจารย์ยุทธนันต์ ติดตามบทความรวมถึง สะสมวัตถุมงคลเรื่อยมา เท่าที่จะหาได้ แต่ไม่เคยไปเช่า หรือจองผ่านศูนย์พระเครื่อง แต่ละองค์จะได้มาต่อเมื่ออธิษฐานจิต ขอเอา แล้วจะมีโอกาสได้มาซึ่งพระองค์นั้นๆ เป็นอย่างนี้อยู่หลายปี จนมีอยู่มาวันหนึ่ง อยากได้ชานหมากของหลวงปู่ ท่านพี่ นายบางด้วน เลยแบ่งให้ โดยการนัดเจอกันที่ห้างสรรพสินค้า ผมเองได้สนทนากับพี่เขาอยู่นานพอสมควร ถึงประวัติ และ ปฏิปทาของหลวงปู่ ทำให้ทวีความเลื่อมใสมากขึ้นไปอีก แต่ก็ไม่มีโอกาสที่จะได้ไปกราบไหว้หลวงปู่ เนื่องจาก ไม่รู้จักใคร และ ไม่กล้าไป เพราะเข้าใจว่า อยู่ใกล้เขมร กลัวจะโดนพวกคุณไสย หรือไสยเวทย์มนต์ดำ จนผ่านไปหลายปี อยู่มาวันหนึ่ง โทรหา นายบางด้วน ว่าไม่รู้ทำไมถึงอยากไปหาหลวงปู่จัง เมื่อไหร่จะมีใครไปจะได้ติดรถไปด้วย

 

โอกาสทองมาถึงแล้ว พี่เขาบอกว่า พอดีเลยพรุ่งนี้พี่เขากับลูกศิษย์สายปากน้ำจะไปกราบหลวงปู่กัน แต่รถเต็มแล้ว ผมก็ขอร้องว่าขอไปด้วยคนไม่เปลืองที่หรอก จนสุดท้ายได้ไปด้วย โดยเดินทางนั่งหลังรถบรรทุก 6 ล้อ จากระยะทางกรุงเทพ -สุรินทร์ ทำให้ผมแก่ไปอีกหลายปี เนื่องจากนั่งอยู่หลังรถกะบะ 6 ล้อ ลมปะทะหน้า และ เศษฝุ่น เขม่าควันรถต่างๆ เข้าหน้าเต็มๆ ไปถึงสุสานทุ่งมน ดูใบหน้าตัวเอง ที่กระจก ถึงกับกลั้นหัวเราะไม่อยู่ ตีนกา หน้าผากย่น หน้าดำ ปากเจ่อ หัวฟู กว่าหน้าจะหายชา ปากจะหายบวม ก็วันรุ่งขึ้นเลยทีเดียว

กว่าจะไปถึงก็ ทันกราบหลวงปู่ตอนเย็นพอดี ผมได้สมหวังและดีใจอย่างบอกไม่ถูก แรกๆฟังหลวงปู่พูดไม่ออกภาษาไทยคำ เขมรคำ สักพักวงแตก มีชาวบ้้านหิ้วถุงใส่งูมาถวายหลวงปู่ เห็นชัดเจนเลยตอนอยู่หน้ากุฏิ งูดุมากฉกถุงแทบขาด แต่พอมาใกล้หลวงปู่ นิ่งและเชื่อง เหมือนงูเลี้ยงแสนเชื่องจริงๆ ทำให้แปลกไปใหญ่

ในคืนนั้นเอง ทำให้ผมเอง จำได้ติดตาติดใจไปตลอดชีวิต ในตอนนั้นรวมๆแล้วทั้งเด็กและผู้ใหญ่ไปกันรวมๆ 19 ชีวิต แต่มีประสพการณ์กันถึง 12 ชีวิต เตร่งๆๆๆๆ ฉิ่งฉับๆๆๆ อี๋ๆๆๆๆๆแอ๋ๆๆๆๆ ปี่พาทย์ทั้งคืน สุนัขอวยพรทั้งคืน (หอนแบบผีมานะครับ) กว่าจะหลับก็ดึกมากพอสมควร สะดุ้งตื่นอีกทีตอนประมาณตี 2 โดนดึงขาครับ ถอยร่นลงมาจากที่นอนประมาณ 1 ฟุตเห็นจะได้(ไม่รู้ว่าคิดมากไปหรือเปล่า) แต่หลายคนก็เป็นแบบเดียวกัน แต่ผมเห็นเด็ก 3 ขวบที่ไปด้วยกัน ลุกขึ้นมานั่งสลึมสลือ เหมือนมีคนดึงมือให้ลุกไปเล่นด้วย แต่เด็กคนนั้นบอกว่า ไม่เอาๆๆ หนูไม่เล่นๆ ผมก็นอนต่อแล้วครับ ไม่พูดกับใครเลย จำได้ว่าคืนนั้นค่อนข้างยาวนานสำหรับผม

เช้าวันรุ่งขึ้น เจออีกแล้วครับ แต่เป็นเหตุการณ์ทีี่ทำให้ผมรู้ว่า พระของหลวงปู่ทุกองค์ศักดิ์สิทธิ์จริง แท้แน่นอน และเริ่มเป็นปฐมบทแห่งความลี้ลับและประสพการณ์จากพระเครื่องของหลวงปู่อย่างแท้จริง

ดึกแล้วพรุ่งนี้มาเล่าต่อ

 

ท่านหัวหน้ามาแย้วว แถมมีต่อพรุ่งนี้อีกฮาาาา

ขอคั่นรายการบุญจองตะกรุด สีผึ้ง และพระกฐิน

และเกาะติดสถานะการณ์น้ำท่วม

ด้วย....

 

ขอสอบถามครับ แบบที่เป็นใบลานนี่คืออยู่ในท่อแก้วอีกทีใช่หรือไม่ครับ แล้วแบบแผ่นโลหะนี่ก็คือ หลอดแก้ว แผ่นโลหะครอบ แล้วก็ข้างในใบลานรึครับ

ขอโทษถ้าถามไม่เข้าทีนะครับ

 

นอนไม่หลับเป็นห่วงหลายๆท่าน นำข้อมูลดีๆมาให้รับทราบ

เตรียมพรัอมอุปกรณ์ฉุกเฉินรับมือสถานการณ์ภัยน้ำท่วม

<hr style="color:#FFFFFF; background-color:#FFFFFF" size="1">

ใน ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมานี้ โลกของเรามีภัยพิบัติเกิดขึ้นมาแล้วนับไม่ถ้วน ทั้งที่สร้างความเสียหายเพียงเล็กน้อยและมหาศาล ซึ่งดูเหมือนว่า ยิ่งนับวัน ภัยพิบัติต่าง ๆ ก็ยิ่งเกิดขึ้นบ่อยครั้งและรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ และที่น่ากลัวไปกว่านั้น คือ ภัยพิบัติต่าง ๆได้เกิดขึ้นจริงแล้วในหลายพื้นที่ที่ไม่เคยมีภัยพิบัติใดๆ เกิดขึ้นมาก่อนเลยในประวัติศาสตร์ สิ่งนี้จึงแสดงให้เห็นว่า ธรรมชาติไม่มีความปรานีให้กับหลายพื้นที่ทั่วโลกอย่างที่มันเคยเป็นอีกต่อไป ภัยพิบัติสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเวลา ทุกที่ แม้ในพื้นที่ที่เราไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้นได้เลยก็ตาม และเริ่มเกิดขึ้นไปเรื่อยๆไปสักระยะหนึ่ง สิ่งที่ไม่เคยเห็นก็จะได้เห็น แต่สิ่งที่ควรจะพิจารณาว่าธรรมชาติกำลังแสดงให้เราว่าเห็นสรรพสิ่งทั้งหลาย ล้วนไ่ม่เที่ยง เป็นทุกข์ และสลายตัวในที่สุด ซึ่งตั้งอยู่กฏแห่งพระไตรลักษณ์ ทุกอย่างล้วนเกิดขึ้นได้เสมอ และดับได้เสมอ และล้วนมีเหตุมีปัจจัย จะว่ากรรมก็คงเป็นเรื่องกรรม กรรมส่วนบุคคล หรือกรรมเผ่าพันธ์ กรรมส่วนรวม ก็คงไม่มีใครใหญ่เกินกรรม มีเหตุและมีผลของมันเอง จะไปยึดติดกับสิ่งสมมุติทำไม และเวลาก็คงเหลือน้อยลงทุกที ให้รีบหมั่นสร้างกุศลสร้างความดียังประโยชน์ส่วนตนและยังประโยชน์ส่วนรวม มีความกตัญญูต่อผู้มีพระคุณต่อชาติแผ่นดินบ้านเกิดเมืองนอนที่บรรพบุรุษยอม เสียสละเลือดเนื้อเพื่อธำรงรักษาเอาไว้มาได้จนถึงทุกวันนี้ ซึ่งชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ อย่าให้ผู้มาคิดทำลายให้สำเร็จเป็นเด็ดขาด เพราะมันไม่มีประโยชน์อะไร มีแต่โทษกับทุกข์ ไม่ใช่ของผู้ใดผู้หนึ่งและอย่ายึดติดกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งโดยลืมสิ่งดีงามและ ความถูกต้อง ให้มีพระรัตนตรัยเป็นสรณะ ตั้งใจทำทาน รักษาศิล เจริญภาวนา มีเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา และมีการให้อภัยต่อเพื่อนเกิดแก่เจ็บตายด้วยกัน ทำประโยชน์ให้ถึงตนและส่วนรวมให้ถึงพร้อมด้วยความไม่ประมาท ทำจิตให้บริสุทธิ์ ตามคำสั่งสอนของพระบรมศาสดาอรหันตสัมมาพุทธเจ้า...

ถ้าวันใดวันหนึ่งเราได้ประสบกับภัยน้ำท่วม แน่นอนมันอาจจะำทำให้เราและครอบครัวคนรักญาติพี่น้องหรือผู้ที่เกี่ยวข้อง ต้องอพยพหรืออยู่ที่ใดที่หนึ่งในระยะเวลานานเท่าไหร่ก็ไม่รู้ ซึ่งถึงแม้ว่าจะมีหน่วยฉุกเฉินเข้ามาให้ความช่วยเหลือในขณะนั้น แต่บางครั้ง กว่าที่การช่วยเหลือเหล่านั้นจะมาถึงคุณ ก็อาจต้องใช้เวลานานหลายชั่วโมงหรือหลายวันเลยทีเดียว การเตรียมชุดอุปกรณ์ฉุกเฉินไว้ ทั้งในบ้านและในรถของคุณเอง เพื่อใช้ในยามเกิดภัยพิบัติฉุกเฉิน โดยอุปกรณ์และสิ่งของที่ควรมีในชุดอุปกรณ์ฉุกเฉินแต่ละชุด ควรประกอบด้วยสิ่งของตามรายการต่อไปนี้ ซึ่งสามารถเพิ่มรายการสิ่งของอื่น ๆ ที่ต้องใช้ในยามฉุกเฉินได้ตามความเหมาะสมซึ่งข้อมูลส่วนหนึ่งได้คัดลอก ข้อมูลมาจาก องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ หรือ NASA อาจจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย



1.น้ำ

- น้ำคนละ 1 แกลลอนต่อ 1 วัน
(สำหรับดื่ม ประกอบอาหาร และชำระล้างร่างกาย)
- น้ำสำหรับสมาชิกในครอบครัวไว้บริโภคเป็นเวลา 3 วัน
- เครื่องกรองน้ำ

อาหาร

สมาชิก ทุกคนในบ้านควรเตรียมอาหารแห้งสำหรับบริโภคอย่างน้อย 3 วัน โดยเลือกอาหารที่เก็บไว้ได้นาน ไม่ต้องแช่เย็น และทานได้ง่าย ซึ่งต้องกะปริมาณอาหารไว้ให้เพียงพอ นอกจากนี้ อาหาร ที่แพ็คไว้ใช้ยามฉุกเฉินควรมีขนาดกะทัดรัดและมีน้ำหนักเบา และหากยังไม่มีเหตุฉุกเฉินเกิดขึ้นควรเปลี่ยนอาหารในชุดอุปกรณ์ฉุกเฉินทุก ๆ 6 เดือน


- อาหารกระป๋อง
- น้ำผลไม้กระป๋อง หรือผงชงน้ำผลไม้
- ซุปหมูหรือไก่ก้อน ผงปรุงรสอาหาร
- อาหารตากแห้ง เช่น ปลาหมึก เนื้อแดดเดียว
- นมกระป๋องหรือนมผง
- อาหารที่ให้พลังงานสูง เช่น โปรตีนบาร์

ชุดอุปกรณ์ปฐมพยาบาล

ควร เตรียมชุดอุปกรณ์ปฐมพยาบาลไว้ 2 ชุด คือ สำหรับในบ้าน 1 ชุด และในรถยนต์อีก 1 ชุดโดยในชุดอุปกรณ์ปฐมพยาบาลแต่ละชุด ประกอบไปด้วยสิ่งของดังต่อไปนี้

- ผ้าพันแผล
- สำลีปิดแผล
- พลาสเตอร์ปิดแผล ชนิดที่ไม่ก่อให้เกิดการแพ้
- ผ้ากอซแบบสามเหลี่ยม และแบบม้วน
- กรรไกร
- ปากคีบ
- เข็ม
- สบู่ก้อน
- ผ้าเช็ดทำความสะอาดแบบเปียก หรือผ้าเย็น
- สเปรย์ฆ่าเชื้อโรค
- เทอร์โมมิเตอร์แบบหลอดพลาสติก
- ไม้กดลิ้น
- ปิโตรเลียมเจลลี่ หรือเจลหล่อลื่น
- เข็มกลัด
- น้ำยาทำความสะอาด
- ถุงมือยาง


ยาสามัญประจำบ้าน

- ยาพาราเซตามอน หรือยาบรรเทาอาการปวดต่าง ๆ
- ยาแก้ท้องเสีย
- ยาลดกรดในกระเพาะอาหาร
- ยาขับเสมหะ
- วิตามินต่าง ๆ
- ยาระบาย
- น้ำยาล้างตา/ ยาหยอดตา
- แอลกอฮอล์
- ยาฆ่าเชื้อ

อุปกรณ์อำนวยความสะดวก

แก้ว ชาม ช้อน ที่เป็นกระดาษหรือพลาสติก
แผนการฉุกเฉินที่บันทึกไว้
วิทยุและแบตเตอรี่หรือถ่านสำหรับวิทยุ
ไฟฉายพร้อมถ่านไฟฉาย
มีดพับเอนกประสงค์
ที่เปิดขวดและกระป๋อง
แผนที่
อุปกรณ์ชาร์จแบตโทรศัพท์และเครื่องมือสื่อสารต่าง ๆ
อุปกรณ์ดับเพลิงขนาดพกพา
คีมคีบหรือคีมตัดลวด
เทปพันสายไฟ หรือเทปกาว
กระเป๋ากันน้ำ หรือกล่องพลาสติก
แผ่นฟอยล์
พลุสัญญาณขอความช่วยเหลือ
ดินสอและกระดาษ
อุปกรณ์เย็บผ้าแบบพกพา
หลอดหยดยา
ประแจสำหรับขันเกลียวและปลดล็อกอุปกรณ์ต่าง ๆ
นกหวีด
พลาสติกม้วน หรือถุงพลาสติก
หน้ากากป้องกันฝุ่นและถุงมือ


อุปกรณ์เพื่อสุขอนามัย

เสื้อผ้าและเครื่องนอน
ผ้าขนหนู
เสื้อผ้าและถุงเท้าอย่างน้อย 1 ชุด
รองเท้าที่แข็งแรง
เสื้อกันฝน
ผ้าห่ม หรือถุงนอน
หมวกและถุงมือ
ชุดชั้นใน
แว่นกันแดด
สบู่
ผ้าอนามัย
อุปกรณ์แต่งตัวต่าง ๆ
ถุงขยะและเชือก
พลั่วสำหรับขุดหลุมขนาดกะทัดรัด
ถังน้ำพร้อมฝาปิด
ยาฆ่าเชื้อโรคสำหรับพื้นและเครื่องสุขภัณฑ์
ผงซักฟอก หรือน้ำยาซักผ้า


สิ่งของจำเป็นอื่นๆ

สิ่งของจำเป็นสำหรับเด็ก
สิ่งของจำเป็นสำหรับผู้ใหญ่
สิ่งของจำเป็นสำหรับสัตว์เลี้ยง
นมผง อาหารผง
ผ้าอ้อม
ขวดนม
ยารักษาโรค

สิ่งของจำเป็นสำหรับผู้ใหญ่

ผ้าห่ม
ยารักษาโรค
ฟันปลอม กาวติดฟันปลอม
คอนแท็คท์เลนส์ และอุปกรณ์สำหรับล้างคอนแท็คส์เลนส์
แว่นตา
อุปกรณ์สำหรับฟัง
อุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็นอื่น ๆ

สิ่งของจำเป็นสำหรับสัตว์เลี้ยง

อาหารสัตว์
หีบ หรือลัง
น้ำ
ยารักษาโรค
เชือกจูงสุนัข/แมว
ถาดอาหารพับได้
เอกสารเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนของสัตว์
10

สิ่งของจิปาถะ
สิ่งของให้ความเพลินเพลิน

เกมส์สำหรับเด็กเล่น
หนังสือสำหรับผู้ใหญ่


เอกสารสำคัญ

ควรเคลือบเอกสารต่อไปนี้ หรือเก็บรักษาไว้ในซองกันน้ำ
เอกสารเกี่ยวกับการประกันชีวิต
พาสปอร์ต ใบขับขี่ ทะเบียนบ้าน และบัตรประชาชน
เลขบัญชีธนาคาร
บัตรเครดิต และบัตรประจำตัวพนักงานบริษัท
สูจิบัตร ทะเบียนสมรส เอกสารเกี่ยวกับโรคประจำตัว
เอกสารอื่น ๆ ที่จำเป็น

ข้อแนะนำ: ควร เก็บอุปกรณ์ที่จำเป็นทั้งหมดรวมกันไว้ในกระเป๋าหรือกล่องที่สะดวกต่อการ เคลื่อนย้าย เช่น กล่องพลาสติก เป็นต้น และพยายามเลือกสิ่งของทุกประเภทให้มีขนาดกะทัดรัดไว้ในรถอีกชุดหนึ่งเพื่อ สะดวกต่อการขนย้าย

สิ่งที่สำคัญไม่ว่าจะอยู่ในเหตุัการณ์ใดๆนั้นจะเลวร้ายสักแค่ใหน อย่าอยู่ด้วยความหวาดกลัว (ไม่มีอะไรน่ากลัวเท่ากับภัยการเกิด) แต่จงอยู่ด้วยความไม่ประมาทและมีสติมีอนุสสติอยู่เสมอ

 

ก็บเบอร์โทรเหล่านี้ไว้ในมือถือ จะดีมาก เพื่อไว้ใช้ยามฉุกเฉิน เวลาคิดอะไรไม่ออก จะได้โทรไปปรึกษาเขาได้ครับ

เบอร์ฉุกเฉินน้ำท่วม

1) หน่วยแพทย์เคลื่อนที่ช่วยผู้ประสบภัยสาธารณสุข โทร 1669

2) สายด่วนกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โทร 1784

3) สายด่วนกรมชลประทาน โทร 1460, 026692560

4) สายด่วนกรมทางหลวง โทร 1586

5) ศูนย์ปลอดภัยคมนาคม 1356

6)กรมทางหลวงชนบท 1146

7) การรถไฟฯ 1690

8) บขส. 1490

9) ตำรวจทางหลวง 1193 สอบถามเส้นทางน้ำท่วมได้ 24 ชม.

10) หน่วยแพทย์ฉุกเฉิน 1669 กู้ชีพฟรี

11)การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค 1129

 

รักษาสัตว์มีพิษกัดช่วงน้ำท่วมด้วยสมุนไพร

<hr style="color:#FFFFFF; background-color:#FFFFFF" size="1">

รักษาสัตว์มีพิษกัดช่วงน้ำท่วมด้วยสมุนไพร

​

(มันมากับน้ำท่วม) รักษาสัตว์มีพิษกัดสมุนไพร (ไทยโพสต์)

อีกหนึ่งภัยที่มาพร้อมกับน้ำท่วมเสมอ คือ อันตรายจากสัตว์มีพิษ อัน นี้น่ากลัวกว่าน้ำกัดเท้าเสียอีก แต่ที่น่ากลัวที่สุดก็เห็นจะเป็นจระเข้ เพราะยาตัวไหนคงใช้รักษาไม่ได้แล้ว นอกจากตัวใครตัวมัน อันนี้รัฐน่าจะต้องมีมาตรการในการทำฟาร์มจระเข้ที่เข้มขึ้นกว่านี้ ไม่เช่นนั้นน้ำท่วมทีไรคงประสาทผวากลัวจระเข้เป็นแน่แท้ คงกินไม่ได้นอนไม่หลับ เครียดหนักกว่าน้ำท่วมเสียอีก

ส่วนงูเงี่ยวเขี้ยวขอ ตะกาบ เรายังมีสมุนไพรรับมือได้ แถบภาคอีสานมีหมอพื้นบ้านที่เก่ง ๆ เรื่องการรักษาสัตว์มีพิษกัดต่อยเยอะ ถ้าใครหาเตรียมได้ก็เตรียมไว้ใช้ประโยชน์ปีนี้ไม่ทัน ปีหน้าต้องฉุกคิด หน้าน้ำท่วมอย่าลืมน้ำกัดเท้าและสมุนไพรรักษาสัตว์มีพิษกัด เช่น

หอมแดง

หาง่ายที่สุด ใช้แก้พิษแมงมุม อันนี้เป็นประสบการณ์บอกเล่าของคนที่เผชิญเสี้ยววินาทีชีวิตมาเอง แม้แต่โรงพยาบาลก็ยังสุดปัญญาที่จะช่วยเหลือได้ จึงไปหาหมอแผนโบราณ หมอให้เอาหัวหอมแดงทุบให้บุบ ผสมกับยาหม่องใช้ทาบริเวณที่โดนกัดและให้กิน ด้วย ทำทุก ๆ 5-10 นาที สัก 3-4 ครั้งอาการดีขึ้นอย่างน่าประหลาด ที่ต้องแก้ด้วยหอมแดง เพราะพิษแมงมุมเป็นพิษเย็นจึงต้องใช้ของร้อนอย่างหอมแดง และเร่งสรรพคุณด้วยยาหม่องช่วยขับพิษออกไปได้

เสลดพังพอน

จะเป็นตัวผู้หรือตัวเมียก็คือพญายอ ตัวไหนก็ได้ สมุนไพรทั้งสองนี้นิยมนำไปทำทิงเจอร์ คือเอาไปตำแล้วดองกับเหล้าขาวทิ้งไว้ 15 วัน จึงกรองเอาน้ำไว้ใช้ทากลากเกลื้อน เริม งูสวัด แมลงกัด ได้ผลดี จะทำในรูปขี้ผึ้งก็เอาเทียนไขหลอมละลาย แล้วเอาตัวยาที่สกัดได้ผสมลงไป แล้วบรรจุใส่ตลับไว้ใช้ก็สะดวก

มีเรื่องเล่าจากประสบการณ์ของผู้ใช้ได้ผลดี คือเอาไปใช้รักษาฝีหาย และใช้พอกแผลเป็นหนองไม่นานก็หาย และยังใช้แก้พิษงูต่าง ๆ ได้ โดยเอาเสลดพังพอนเคี้ยว หรือตำให้ละเอียดคั้นเอาแต่น้ำผสมกับน้ำซาวข้าว หรือเหล้าขาวประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ พอกไว้ที่ปากแผลนั้น หรือเอาเสลดพังพอนตำให้ละเอียดผสมกับดินประสิวสักนิด ใช้พอก นับว่าได้ผลดีเช่นกัน

โลดทะนงแดง

แถบสุรินทร์บุรีรัมย์ใช้กันบ่อย โดนงูพิษ ตะขาบ หรือแมงมุมพิษกันมา ใช้โลดทะนงแดงฝนเอาพอกที่ปากแผล และให้กินด้วยจะได้อาเจียนเอาพิษออก ไม่ช้าไม่นานคนที่ถูกงูกัดก็ลุกขึ้นนั่งได้แล้ว

นอกจากนี้ ยังมีสมุนไพรอีกหลายตัวที่รักษางูกัด เช่น กระเพราแดงทั้งต้น ผักเสี้ยนผี หญ้าลูกใต้ใบ ใช้ตัวใดตัวหนึ่งที่สามารถหาได้ง่ายและสะดวก นำสมุนไพรไปล้างให้สะอาดแล้วตำให้ละเอียด ผสมกับเหล้าขาวครั้นเอาแต่น้ำรับ ประทาน กากยาใช้พอกปากแผล รายไหนรายนั้นไม่ตายแน่

ส่วนใครที่โดนตะขาบ กัด มีประสบการณ์บอกเล่าการแก้พิษ โดยใช้คางคกซึ่งเป็นสัตว์มีพิษเหมือนกัน แบบนี้ใช้พิษตัดพิษ เมื่อก่อนมีพวกนิยมกินของแปลก จับเอาคางคกไปทำอาหารกินคงนึกว่าเหมือนกบ เอาหนังออกก็กินได้ แต่ชะรอยไม่เอาต่อมยางพิษคางคกออกสุดท้ายก็ตายแล

ยางคางคกแม้จะมีพิษ แต่ก็เอามาใช้ทำยาได้ ในตำราแผนไทยระบุว่า ยางคางคกมีรสหวานฝาด อุ่น มีสรรพคุณถอนพิษ แก้ปวดและทำให้ฟื้นคืนสติ จึงนำมาเข้ายาตำรับยาบำรุงหัวใจ แก้ปวด ใช้ผสมเป็นยาทาภายนอกแก้คัน แก้พิษฝีต่าง ๆ

ยางคางคกมีสีขาวได้จากต่อมบริเวณใต้คาง เอาไปผึ่งไว้ในที่ร่มให้แห้งจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลดำ เอาไปใช้ทำยา หมอไทยส่วนใหญ่จะเอาคางคกที่ตายแล้ว แบบที่แห้งไม่มีกลิ่นเหม็นเก็บเอามาสุมไฟทั้งตัวจนเป็นถ่าน แล้วบดให้ละเอียดผสมกับน้ำมันยางใช้ทาแผลโรคเรื้อน โรคมะเร็ง คุดทะราด มีสรรพคุณเป็นยาฆ่าเชื้อโรคที่ดี

แล้วจะใช้คางคกแก้พิษตะขาบอย่างไร ผู้ที่มีประสบการณ์ในเรื่องนี้ได้ถ่ายทอดไวว่า คนในหมู่บ้านถูกตะขาบกัดปวดทรมานมาก ไปหาหมอที่โรงพยาบาลก็ได้แต่ฉีดยา และให้รอดูอาการทำอะไรมากกว่านั้นไม่ได้ มีคนที่เห็นเหตุการณ์ก็เลยเข้ามาช่วย โดยไปหาคางคกมา 2-3 ตัว แล้วเอาไม้เคาะหัวคางคกอย่างแรงแต่ไม่ถึงตาย สักพักก็มียางเหนียว ๆ สีน้ำตาลไหลออกมา จึงเอาไม้ปาดเอายางนั้นไปพอกที่แผลที่โดนตะขาบกัด อาการปวดลดลงอย่างรวดเร็ว ทำแบบนี้ 3-4 ครั้ง อาการปวดก็หาย ประสบการณ์แบบนี้ต้องขอบคุณคางคกให้มาก ๆ ที่ช่วยให้รอดชีวิตมาได้ แต่คางคกคงคางเหลืองไปเหมือนกัน

พื้นที่ ไหนประสบอุทกภัยซ้ำซาก เตรียมข้าวปลาอาหารหยูกยารับมือน้ำท่วมไว้เลย สมุนไพรชนิดไหนที่ใช้ประโยชน์ได้กินได้ปลูกไว้ให้มาก ๆ ดีกว่าปลูกหน้าวัว โป๊ยเซียน ชวนชมเป็นไหน ๆ จะได้หยิบใช้ได้ทันท่วงที

 

ของหนูรายการที่ 15 (6 ดอก)

ขอเป็นแบบใบลาน 3 ดอก แบบอลูมิเนียม 3 ดอกค่ะ

 

ของผม ลำดับที่ 21 ขอเป็น ใบลาน 4 ดอก ตะกั่ว 2 ดอก ครับ

 

ลำดับที่ 33 ขอเปลี่ยน ครับ
เป็น ใบลาน 3 ดอก
อลูมิเนียม 4 ดอก
รวม 7 ดอก

 

ขอจองแบบตะกั่ว 3 ดอกครับ ขอบคุณครับ

 

<TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>

"น้ำทะเลไม่แห้งใครก็ฆ่าศิษย์หลวงปู่ไม่ตาย แผ่นดินพลิกได้ศิษย์หลวงปู่ถึงรู้จักจน"
คำขอของหลวงปู่ต่อครูบาอาจารย์เสมอ..สาธุ

********************************************************************************​

</TD><TD class=thead width="14%"></TD></TR></TBODY></TABLE>

มีให้เลือก 2 เนื้อ
แต่ยันต์และพุทธคุณดุจเดียวกัน

*ตะกรุดใบลาน ข้างในอุดด้วยผงพุทธคุณครับ
ขนาดความยาว5 ซม. เลี่ยมพร้อมหลอดแก้วครับ

*ตะกรุดอลูมิเนียม ข้างในอุดด้วยผงพุทธคุณครับ
ขนาดความยาว 5.5 ซม. เลี่ยมพร้อมหลอดแก้วครับ

<TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>

ศิษย์มีครู
นะเมติ นะเมติ นะเมติ






​

</TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[</TD></TR></TBODY></TABLE>​