ความว่างเปล่า

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย oatthidet, 7 ตุลาคม 2011.

  1. Pukhaotong Brrpta

    Pukhaotong Brrpta สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2011
    โพสต์:
    59
    ค่าพลัง:
    +1
    :cool: คุณยังไม่เข้าใจคำว่า"สังขาร คือ ความคิด" นะครับ จึงมีความคิดที่ผิดอยู่ คือคุณหยุดคิดอย่างหนึ่งแล้วไปคิดอีกอย่างหนึ่งเข้าใจไหมครับ
     
  2. <Q>

    <Q> Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2011
    โพสต์:
    1,907
    ค่าพลัง:
    +80
    หมายถึงคิด นั่งคิดเป็นเรื่องเป็นราว ว่านี่ไม่เที่ยง ที่เป็นทุกข์ พวดนี้คิดเอาเอง

    พอหยุดคิด หมายถึงรู้เรื่องราวกระบวนการเกิดขันธ์ ไปทีละขณะ ตามจริง

    แต่ต้องอาศัยคิด หมายถึง พิจารณาแล้วเข้าใจตามจริง เป็นสัมมาสังกัปปะ
     
  3. หม้อหุงข้าว..!

    หม้อหุงข้าว..! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,105
    ค่าพลัง:
    +1,073
    ไม่เห็นจะมีธรรมโฆษณ์เลย

    ขอตัวก่อนล่ะ
     
  4. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    งั้นคุณทำให้ว่างได้ตลอดไหมครับ หากคุณทำได้จะมีอะไรให้คุณทำต่อครับ
     
  5. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    ผมน่ะเข้าใจครับ นั่นคือการปรุงแต่งครับ

    การปฎิบัติเพื่อการปรุงแต่ง หรือ เพื่อไม่ให้ปรุงแต่งครับ
     
  6. Pukhaotong Brrpta

    Pukhaotong Brrpta สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2011
    โพสต์:
    59
    ค่าพลัง:
    +1
    :cool: ความว่างมันไม่เที่ยง สิ่งใดไม่เที่ยงพระพุทธเจ้าทรงตรัสว่าเป็นทุกข์ สิ่งใดเป็นทุกข์สิ่งนั้นเป็นอนัตตา

    ____________________
    เชิญร่วมกันพัฒนาประเทศไทยให้สามารถอยู่ร่วมกันได้ทุกเชื้อชาติทุกศาสนาและทุกลัทธิการเมือง ตามพระเมตตาธรรมอันเป็นเครื่องค้ำจุนโลกของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙
    <!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
     
  7. <Q>

    <Q> Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2011
    โพสต์:
    1,907
    ค่าพลัง:
    +80
    ไม่ใช่แฟน ขอตอบแทนได้ไหม

    ก็คงปั่นกระทู้ตัวเองไปเรื่อยๆ ( ว่างจัด ) ^^
     
  8. Pukhaotong Brrpta

    Pukhaotong Brrpta สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2011
    โพสต์:
    59
    ค่าพลัง:
    +1
    :cool: คุณยังไม่รู้ตัวว่าคุณกำลังหยุดปรุงแต่งอย่างหนึ่งแต่ไปปรุงแต่งอีกอย่างหนึ่ง

    ____________________
    เชิญร่วมกันพัฒนาประเทศไทยให้สามารถอยู่ร่วมกันได้ทุกเชื้อชาติทุกศาสนาและทุกลัทธิการเมือง ตามพระเมตตาธรรมอันเป็นเครื่องค้ำจุนโลกของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙
    <!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
     
  9. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    คุณรู้ได้อย่างไรว่าไม่เที่ยง ว่างเปล่าจากการยึดติด ผมก็เขียนบอกไปแล้วนะครับ
     
  10. Amoxcycol

    Amoxcycol Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    296
    ค่าพลัง:
    +65
    มันไม่ว่างหรอก ผัสสะมีอยู่ตลอดเวลา ไม่มีอะไรว่าง

    นิพพานไม่ได้แปลว่า ความว่าง เพราะไปตีความตามปุถุชนที่เข้าใจ

    คนที่โพส โพสนี้ก็ยังไม่เข้าใจนิพพานเลย


    ขนาดโพสนี้ยังขัดแย้งในใจตัวเองเลย เพราะเอาความคิดนำ

    การเห็นผัสสะ ก็เป็นสมถะอย่างหนึ่งที่ละเอียด แต่เราเห็นอาการมา

    อาการไปได้ด้วย แล้วความว่างอยู่ตรงไหน
     
  11. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    การกล่าวนี้ บ่งบอกว่าคุณไม่เคยจริงๆครับ เช่นนั้นผมไม่รู้จะบอกกล่าวอย่างไรครับ

    คนที่ไม่เคยกินพริกเผ็ด ถึงจะอธิบายมากแค่ไหน ก็ไม่เกิดประโยชน์อันใดครับ
     
  12. <Q>

    <Q> Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2011
    โพสต์:
    1,907
    ค่าพลัง:
    +80
    นี่ นี่ โบอ้วนเพื่อนผม :cool:

    รู้ไปโม๊ด นิพานต้องเป็นอย่างนี้วุ๊ย ^^
     
  13. หวันเที่ยง

    หวันเที่ยง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    123
    ค่าพลัง:
    +7
    ทำไม่ได้ครับ
    จะว่าง ก็ว่างเอง ดับไม่ว่างเอง
    นี่ก็ว่าง บ้างไม่ว่างบ้าง

    หากคุณทำได้
    ยังทำไม่ได้ เลยไม่รู้จะตอบยังไง
    ทำได้เมื่อไหร่จะรีบมาบอกครับ
    จะรอไหม

    ตอนนี้ปั่นกระทู้ต่อ แล้วจะอาบน้ำนอนล่ะ
     
  14. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    ผมได้บอกไปแล้ว ว่าไม่ขอกล่าวคำว่านิพพานครับ

    เพราะจะเป็นเหตุให้ถกเถียงกันครับ จึงใช้คำว่าว่างเปล่า

    ผมยังบอกถึงการหยุดคิดไว้ด้วยครับ ว่าเป็นอารมณ์แห่งนิพพานครับ

    แล้วคำว่าว่างเปล่า ว่างจากอะไรครับ หากนำกายมารวมด้วย

    จะเห็นอะไรครับ แล้วการแยกกาย แยกจิต เพื่อสิ่งใดครับ

    ที่ผมกล่าวนั้น ไม่ได้กล่าวถึงกายเลยครับ ลองอ่านทบทวนด้วยครับ
     
  15. Pukhaotong Brrpta

    Pukhaotong Brrpta สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2011
    โพสต์:
    59
    ค่าพลัง:
    +1
    ดูวิธีบรรลุธรรมความเห็นที่ ๕ ดูนะครับ ที่คุณว่างนั้นมันเป็นอากิญจัญญายตนฌาน พิจารณาว่าว่างเปล่าไม่มีอะไรๆ ทุกสิ่งเกิดขึ้นมาเท่าไหร่สลายหมด คือมันคล้ายพระนิพพานอ่ะครับแต่ไม่ใช่

    การบรรลุธรรมจากต่ำสุดถึงสูงสุดแบบละเอียด

    :cool:พุทธภูมิจะบรรลุธรรมตอนเป็นพระพุทธเจ้าเท่านั้น หรือลาพุทธภูมิแล้ว

    :cool:พระโสดาปฏิมรรค คือ เชื่อในอริยสัจจ์ ๔ ที่พระพุทธเจ้าทรงสอนแบบเต็มร้อยไม่มีความสงสัย ไม่แม้แต่จะคิดวิจารณ์พระพุทธดำรัสใดๆทั้งสิ้น ยังไม่รู้ตัวว่าบรรลุธรรม แค่เทียบเคียงได้บ้าง

    :cool:พระโสดาปฏิผลเริ่ม ถือศีล ๔ ข้อ คือ ปานา อทินา กาเม มุสาในสัมมาวาจา ละวิจิกิจฉาลงได้ คือ ไม่สงสัยในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ละสังโยชน์สักกายะทิฏฐิได้บางส่วน หรือเทียบที่มรณานุสสติดี มีพระนิพพานเป็นที่ไปเบื้องหน้า ยังไม่รู้ตัวว่าบรรลุธรรม แค่เทียบเคียงได้บ้าง

    :cool:พระสกิทาคามี เหมือนพระโสดาบันที่ต้องเกิดอีก ๑ ชาติ แต่เหมือนว่าจะละกามราคะ และปฏิฆะได้ ด้วยศีลอพรหมจาริยา ยังไม่ถึงขนาดใช้พรหมวิหาร ๔ กับอสุภะกรรมฐานเป็นตัวนำ คือก่ำกึ่งๆ ครึ่งๆกลางๆ ยังไม่รู้ตัวว่าบรรลุธรรม แค่เทียบเคียงได้บ้าง

    :cool:พระอานาคามีชั้นต่ำสุด คือ พรหมโลกชั้นที่ ๑๒ ข่มกามราคะ กับ ปฏิฆะ ด้วยพรหมวิหาร ๔ กับ อสุภะกรรมฐาน คือเปลี่ยนจากความโกรธเป็นความไม่โกรธได้ทันท่วงที กามราคะก็เหมือนกัน ยังไม่รู้ตัวว่าบรรลุธรรม แค่เทียบเคียงได้บ้าง

    :cool:พระอานาคามี พรหมโลกชั้นที่ ๑๓ ใช้ความเพียรกล้ามาก มักชอบนั่งสมาธิครั้งละนาน ทั้งวัน เคร่งในศีลพระวินัยมาก เรียบร้อย ยังคงใช้ พรหมวิหาร ๔ กับ อสุภะกรรมฐานอยู่ ยังไม่รู้ตัวว่าบรรลุธรรม แค่เทียบเคียงได้บ้าง

    :cool:พระอานาคามี พรหมโลกชั้นที่ ๑๔ เริ่มใช้สติปัฏฐาน ๔ นำแล้ว ตอนนี้เรื่มคลาย พรหมวิหาร ๔ กับ อสุภะลง คือ เหมือนไม่ได้ทำเพราะเคยชินไปแล้ว แต่ความจริงมีอยู่ตามปกติ แต่ใช้สตินำหน้าเท่านั้นเอง ยังไม่รู้ตัวว่าบรรลุธรรม แค่เทียบเคียงได้บ้าง

    :cool:พระอานาคามี พรหมโลกชั้นที่ ๑๕ ท่านใช้สมาธิฌาน ๔ นำหน้า เวลาเจริญสติปัฏฐาน ๔ จิตสามารถแยกออกจาก กาย เวทนา จิต ธรรม ด้วยสติในสมาธิฌานที่ ๔ ได้แล้ว ยังไม่รู้ตัวว่าบรรลุธรรม แค่เทียบเคียงได้บ้าง

    :cool:พระอานาคามี พรหมโลกชั้นที่ ๑๖ ชั้นสุดท้ายสูงสุดนี้ ท่านใช้ปัญญานำหน้า เพราะ สติผู้รู้ในองค์ฌานที่ ๔ ชำนาญดีแล้ว เริ่มพิจารณาไตรลักษณะได้เด็ดขาดขึ้นมากเกือบเทียบเท่าพระอรหันต์เลยทีเดียว คือสามารถเข้านิโรธสมาบัติเหมือนกับพระอรหันต์ได้ แต่ยังติดสติตัวรู้ในองค์ฌานที่ ๔ อยู่ ชั้นนี้ท่านไม่ใช้พรหมวิหาร ๔ ข่มกดความโกรธนำแล้ว แต่จะใช้สติระลึกรู้ในองค์ฌานที่ ๔ และปัญญาพิจารณาไตรลักษณ์ ละขันธ์ ๕ ส่วนอื่นๆได้หมดยกเว้น สติระลึกรู้ในองค์ฌานที่ ๔ และปัญญาพิจารณาไตรลักษณ์ คือไม่ข่มความโกรธ กับ กามราคะนำ แต่ท่านจะพิจารณาทั้ง ความโกรธ ไม่โกรธ ลงไปที่ไตรลักษณ์เลย กามราคะก็เหมือนกัน ส่วนใหญ่จะคิดว่าบรรลุอรหัตผลแล้ว

    :cool:พระอรหันต์สุขวิปัสสโก เหมือนพระอานาคามีชั้นที่ ๑๖ แต่จะละสติระลึกรู้ในองค์ฌานที่ ๔ และปัญญาพิจารณาไตรลักษณ์ลงได้ เป็นจิตหลุดพ้น พอจิตหลุดพ้นแล้วก็จบกิจ รู้ตัวว่าจบกิจแล้วไม่มีสิ่งใดจะต้องทำอีก ชาตินี้เป็นชาติสุดท้าย

    :cool:พระอรหันต์เตวิชโช วิชาสาม ก็เหมือนพระอรหันต์สุขวิปัสสโก แต่จะได้จุตูปปาตญาณ ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ และอาสวะขยญาณ รู้ตัวว่าจบกิจแล้วไม่มีสิ่งใดจะต้องทำอีก ชาตินี้เป็นชาติสุดท้าย

    :cool:พระอรหันต์ฉฬภิญโญ ก็เหมือนพระอรหันต์สุขวิปัสสโก แต่จะได้อภิญญา ๖ ด้วย รู้ตัวว่าจบกิจแล้วไม่มีสิ่งใดจะต้องทำอีก ชาตินี้เป็นชาติสุดท้าย

    :cool:พระอรหันต์ปฏิสัมภิทาญาณ ก็เหมือนพระอรหันต์สุขวิปัสสโก แต่ต้องได้สมาบัติ ๘ ด้วย รู้ตัวว่าจบกิจแล้วไม่มีสิ่งใดจะต้องทำอีก ชาตินี้เป็นชาติสุดท้าย

    :cool:พระพุทธเจ้า กับพระปัจเจกพระพุทธเจ้า ต้องได้วิชาสาม เตวิชโช ทุกพระองค์ รู้ตัวว่าจบกิจแล้วไม่มีสิ่งใดจะต้องทำอีก ชาตินี้เป็นชาติสุดท้าย

    พุทธดำรัส:-ดูก่อนวัจฉะ ชนที่กล่าวอย่างนี้ว่า พระสมณโคดมเป็นสัพพัญญู มีปกติเห็นธรรมทั้งปวง ทรงปฏิญาณญาณทัสสนะไม่มีส่วนเหลือว่า เมื่อเราเดินไปก็ดี หยุดอยู่ก็ดี หลับก็ดี ตื่นก็ดี ญาณทัสสนะปรากฏแล้วเสมอติดต่อกันไปดังนี้ ไม่เป็นอันกล่าวตามคำที่เรากล่าวแล้วและชื่อว่ากล่าวตู่เราด้วยคำที่ไม่มี ไม่เป็นจริง

    “ดูก่อนวัจฉะ เมื่อบุคคลพยากรณ์ว่า พระสมณโคดมเป็นเตวิชชะ (ผู้ได้วิชชา ๓ ) ดังนี้แล เป็นอันกล่าวตามคำที่เรากล่าวแล้ว ชื่อว่าไม่กล่าวตู่เราด้วยคำไม่เป็นจริง ชื่อว่าพยากรณ์ถูกสมควรแก่ธรรม....

    “ดูก่อนวัจฉะ ก็เราเพียงต้องการเท่านั้น ย่อมจะระลึกถึงชาติก่อนได้เป็นอันมาก คือระลึกได้ชาติหนึ่งบ้าง สองชาติบ้าง..... ตลอดสังวัฎวิวัฎกัปเป็นอันมาก ในภพโน้นเรามีชื่อย่างนั้น มีโคตรอย่างนั้น มีผิวพรรณอย่างนั้น ครั้นจุติจากภพนั้นแล้วได้ไปเกิดในภพโน้น... เราย่อมระลึกถึงชาติก่อนได้เป็นอันมาก พร้อมทั้งอาการ พร้อมทั้งอุเทศด้วยประการฉะนี้

    “ดูก่อนวัจฉะ ก็เราเพียงต้องการเท่านั้น ย่อมจะเห็นหมู่สัตว์ที่กำลังจุติกำลังอุบัติ เลว ประณีต มีผิวพรรณดี มีผิวพรรณทราม ได้ดีตกยาก ด้วยทิพยจักษุอันบริสุทธิ์ล่วงจักษุของมนุษย์ ย่อมรู้ชัดซึ่งหมู่สัตว์ซึ่งเป็นไปตามกรรมว่าสัตว์เหล่านี้ประกอบด้วยกายทุจริต วจีทุจริต มโนทุจริต ติเตียน พระอริยเจ้า เป็นมิจฉาทิฐิ ยึดถือการกระทำด้วยอำนาจมิฉาทิฐิ เขาเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก ส่วนสัตว์เหล่านี้ ประกอบด้วยกายสุจริต วจีสุจริต มโนสุจริต ไม่ติเตียนพระอริยเจ้า เป็นสัมมทิฐิ..... เบื้องหน้า แต่ตายเพราะกายแตก เข้าถึงสุคติ โลกสวรรค์

    “ดูก่อนวัจฉะ เมื่อบุคคลพยากรณ์ว่า พระสมณโคดมเป็นเตวิชชะ เป็นอันกล่าวตามคำที่เรากล่าวแล้ว ชื่อว่าไม่กล่าวตู่เราด้วยคำไม่เป็นจริง...”

    จูฬวัจฉโคคตสูตร


    ____________________
    เชิญร่วมกันพัฒนาประเทศไทยให้สามารถอยู่ร่วมกันได้ทุกเชื้อชาติทุกศาสนาและทุกลัทธิการเมือง ตามพระเมตตาธรรมอันเป็นเครื่องค้ำจุนโลกของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙
     
  16. Amoxcycol

    Amoxcycol Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    296
    ค่าพลัง:
    +65
    ขอนับถือเป็นผู้อาวุโสแล้วกัน คุณลุง
    ประโยคไหนที่บอกว่าเข้าใจนิพพาน เมาไวท์หรือเปล่าคะ

    ไปล่ะ สกั๊ด for You
     
  17. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    อนุโมทนาครับ หากทำได้เป็นสิ่งดีครับ

    เพราะที่ทุกข์ ก็ทุกข์ด้วยการนึกคิดครับ

    แม้นึกคิดเพียงเล็กน้อยก็เป็นทุกข์แล้วครับ
     
  18. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    ที่กล่าวอยู่นี้คุณนึกคิด หรือ ผมนึกคิดครับ

    หากคุณไม่นึกคิดเลย เรื่อง โกรธ กับ กาม จะยังเกิดอยู่ไหมครับ

    การติดในสิ่งที่มีรูป การติดในสิ่งที่ไม่มีรูป การมีมานะทิฎฐิ การฟุ้งซาน

    จะยังมีอยู่ไหมครับ มีแต่รู้ กับ ไม่รู้เท่านั้นใช่ไหมครับ

    ที่ผมกล่าวอยู่นี้ ไม่ได้กล่าวถึงกายแต่อย่างใดครับ กล่าวถึงแต่จิตเท่านั้นครับ

    เมื่อมัวแต่คิด จะเห็นเหตุแห่งการนึกคิดไหมครับ
     
  19. <Q>

    <Q> Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2011
    โพสต์:
    1,907
    ค่าพลัง:
    +80
    แซวเล่น ^^

    น้าปราบหายไปกับกระแสน้ำเลย
     
  20. Pukhaotong Brrpta

    Pukhaotong Brrpta สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2011
    โพสต์:
    59
    ค่าพลัง:
    +1
    :cool: ขอแนะนำให้ไปพิจารณาขันธ์ ๕ โดยเฉพาะหัวข้อ สังขาร ความคิดปรุงแต่ง เหตุแห่งการนึกคิด ก็คือ มันไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา แต่คุณจะไปบังคับให้มันหยุดคิด ซึ่งพระพุทธเจ้าทรงตรัสว่าบังคับบัญชาไม่ได้

    ____________________
    เชิญร่วมกันพัฒนาประเทศไทยให้สามารถอยู่ร่วมกันได้ทุกเชื้อชาติทุกศาสนาและทุกลัทธิการเมือง ตามพระเมตตาธรรมอันเป็นเครื่องค้ำจุนโลกของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙
     

แชร์หน้านี้

Loading...