ความว่างเปล่า

พระวจนะ" ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ อะไรเป็นเหตุปัจจัย เพื่อการบัญญัติรูปขันธ์ เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ สังขารขันธ์ และ วิญญานขันธ์ เล่าพระเจ้าข้า ..................................ภิกษุทั้งหลาย มหาภูติสี่อย่าง เป็นเหตุปัจจัย เพื่อการบัญญัติรูป ขันธ์...ภิกษุ ผัสสะ เป็นเหตุปัจจัย เพื่อการบัญญัติ เวทนาขันธ์....ภิกษุผัสสะ เป็นเหตุปัจจัย เพื่อการบัญญัติ สัญญาขันธ์....ภิกษุ ผัสสะ เป็นเหตุปัจจัย เพื่อการบัญญัติ สังขารขันธ์......ภิกษุ นาม-รูป แล เป็นเหตุปัจจัย เพื่อการ บัญญัติ วิญญานขันธ์ .............................(อริยสัจจากพระโอษฐ์ ท่านพุทธทาส)

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-RIGHT: 1px inset" class=alt2>พุทธทาส:-พระสูตรทั้งหมดที่เกี่ยวกับเรื่องโอปาติกะ เป็นเรื่องโกหกทั้งหมด เมื่อพระพุทธเจ้าท่านสอนเกี่ยวกับเรื่องโอปาติกะนั้น ท่านก็โกหกประชาชนและภิกษุสงฆ์ทั้งหลาย เพราะท่านจำเป็นต้อง "เอออวย"...เรื่อง ทาน ศีล สมาธิ ฤทธิ์ อภิญญา ชาตินี้ ชาติหน้า ภพต่างๆ ภูมิต่างๆ และทางที่กระทำแล้วให้ผลไปสู่ภพภูมิต่างๆ เทวดา พรหม สัตว์นรก เปรต อสุรกาย โลกนี้ โลกอื่น ผลของกรรมที่ไม่ให้ผลในชาตินี้ etc...เป็นเรื่องที่พระพุทธเจ้า ท่านโกหกโลก โกหกประชาชน เพราะต้อง "เอออวย" ไปตามสังคมทั้งนั้น ถ้าใครจะเชื่อพระพุทธเจ้า ใครจะเชื่อพระไตรปิฏก ต้องคิดแบบท่านซะก่อน ถึงจะฉลาด....เพราะคำสอนทั้งหมดของพระพุทธเจ้านั้น ....เชื่อไม่ได้

หนังสือ ธรรมานุกรมธรรมโฆษณ์

พุทธทาส:-สำหรับสัตว์เดียรฉาน ก็คือสัตว์เดียรฉานที่ไม่มีความร้อน ความร้อนของสัตว์เดียรฉานก็คือความร้ายกาจที่เป็นอันตรายแก่มนุษย์ นี่เรียกว่าความร้อน ถ้าสัตว์เดียรฉานนั้นได้รับการฝึกดี จนเป็นสัตว์ที่ดีไม่มีอันตรายอีกต่อไป หมดพยศร้ายแล้ว เช่น ช้างป่า วัวป่า ที่เอามาฝึกจนหมดพยศร้ายแล้ว ก็เรียกว่ามัน นิพพาน

นิพพานในชีวิตประจำวัน

พุทธทาส:-สัตว์ป่าจับมาจากในป่า เช่นควายป่า ช้างป่า อะไรป่านี่ มันดุร้ายเหลือประมาณ อันตรายเหลือประมาณ; เขาเอามาเข้าคอกเข้าที่ บังคับฝึกหัดไปจนสัตว์เหล่านั้นเชื่องเหมือนกับแมว จนช้างป่านั้นเชื่องเหมือนกับแมว ทำอะไรก็ได้; อย่างนี้ก็เรียกว่า มันนิพพาน

นิพพานสำหรับทุกคน

บรรลุอรหันต์โดยไม่รู้สึกตัว

พุทธทาส:-แม้คนโง่ไม่รู้จักพระนิพพานเอาเสียเลย เขาก็ยังลงไปกินไปอาบในสระแห่งนิพพานนั้นได้โดยไม่รู้สึกตัว ข้อนี้ก็เพราะว่า พระนิพพานเป็นธรรมชาติที่มีอยู่ในที่ทั่วไป

นิพพานสำหรับทุกคน

</TD></TR></TBODY></TABLE>

____________________
เชิญร่วมกันพัฒนาประเทศไทยให้สามารถอยู่ร่วมกันได้ทุกเชื้อชาติทุกศาสนาและทุกลัทธิการเมือง ตามพระเมตตาธรรมอันเป็นเครื่องค้ำจุนโลกของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙

 

มาอีกนิดนุง โมโหซัวเจ๋ง ขนาดกลั้นลมหายใจ ก็ยังมีผัสสะเลย

พระอรหันต์ท่านก็ยังมีผัสสะเลย ว่างตรงไหนเหรอ คุณอ๊อด(own)

"มีแสดงไว้หลายตอนในพระไตรปิกฏ"

 

เมื่อบังคับบัญชาไม่ได้ ก็ยังให้ความสำคัญอยู่อีกหรือครับ

หากไม่บังคับบัญชาใดๆเลยล่ะครับ จะเป็นเช่นไรครับ

ว่างเปล่าจากการนึกคิด เพิกเฉยต่อการนึกคิด ไม่ให้ความสนใจในการนึกคิด

จะมีผลเป็นเช่นไรครับ

 

ที่กล่าวมานั้น กล่าวถึงพระอรหันต์ที่มีกาย หรือ ไม่มีครับ

เมื่อมีผัสสะแล้ว ท่านปรุงแต่งไหมครับ แล้วเป็นทุกข์ไหมครับ

 

ที่คุณบังคับอยู่นั้น คือ คุณไม่สามารถบังคับบัญชานั่นเองครับ

คือยังมีวิจิกิจฉาอยู่แบบนี้

พุทธทาส:-พระสูตรทั้งหมดที่เกี่ยวกับเรื่องโอปาติกะ เป็นเรื่องโกหกทั้งหมด เมื่อพระพุทธเจ้าท่านสอนเกี่ยวกับเรื่องโอปาติกะนั้น ท่านก็โกหกประชาชนและภิกษุสงฆ์ทั้งหลาย เพราะท่านจำเป็นต้อง "เอออวย"...เรื่อง ทาน ศีล สมาธิ ฤทธิ์ อภิญญา ชาตินี้ ชาติหน้า ภพต่างๆ ภูมิต่างๆ และทางที่กระทำแล้วให้ผลไปสู่ภพภูมิต่างๆ เทวดา พรหม สัตว์นรก เปรต อสุรกาย โลกนี้ โลกอื่น ผลของกรรมที่ไม่ให้ผลในชาตินี้ etc...เป็นเรื่องที่พระพุทธเจ้า ท่านโกหกโลก โกหกประชาชน เพราะต้อง "เอออวย" ไปตามสังคมทั้งนั้น ถ้าใครจะเชื่อพระพุทธเจ้า ใครจะเชื่อพระไตรปิฏก ต้องคิดแบบท่านซะก่อน ถึงจะฉลาด....เพราะคำสอนทั้งหมดของพระพุทธเจ้านั้น ....เชื่อไม่ได้

หนังสือ ธรรมานุกรมธรรมโฆษณ์


____________________
เชิญร่วมกันพัฒนาประเทศไทยให้สามารถอยู่ร่วมกันได้ทุกเชื้อชาติทุกศาสนาและทุกลัทธิการเมือง ตามพระเมตตาธรรมอันเป็นเครื่องค้ำจุนโลกของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙

 

เอาใหญ่!!แล้วๆ อาการนี้น่ากลัวจริงๆ ลุกลามไปทั่วทุกแห่งหน

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม

พี่paetrix เอ้ย..!

 

คุณอ๊อด คุณห็นความว่าง ด้วยตัวเองแล้วหรา

 

ใครบอกคุณว่าผมบังคับหรือครับ ผมไม่ได้บังคับ

เพราะจิตเดิมแท้นั้น ไม่มีการปรุงแต่งอยู่แล้วครับ

และเพราะการปรุงแต่งนั้นเป็นเหตุนำให้ไปเกิดอยู่นั่นเอง

และ ขอเป็นถาม-ตอบ ด้วยนะครับ จะได้เป็นประโยชน์แก่ผู้อื่นด้วยครับ

 

คุณลองหยุดคิดดูสิครับ ว่าเกิดความว่างไหมครับ

เห็นด้วยตนเองจะเข้าใจได้ง่ายกว่าผมตอบครับ ในคำถามนี้

 

ถามคุณละกัน แล้ว เมื่อ รูปปรากฎแก่คุณ สัญญาปรากฎแก่คุณ เวทนาปรากฎแก่คุณ.....แสดงว่า คุณ ไม่ยึดติดแล้วเหรอ? สามารถ ทำให้ไม่เกิด ตัณหา และอุปาทาน และไม่กลายเป็นภพ และ ชาติ ได้ด้วยอะไร ครับ?คุณ เอาจิต คุณไปใว้ตรงใหนครับ

 

คำว่า สัตว์โลกเป็นไปตามกรรม

ยอมรับเรื่องปัจจัยไหมเล่า

สิ่งหนึ่งดับ เป็นปัจจัยให้ สิ่งหนึ่งเกิด

 

นี่ครับคุณสามารถหยุดคิดได้ คือ บังคับบัญชาได้

____________________
เชิญร่วมกันพัฒนาประเทศไทยให้สามารถอยู่ร่วมกันได้ทุกเชื้อชาติทุกศาสนาและทุกลัทธิการเมือง ตามพระเมตตาธรรมอันเป็นเครื่องค้ำจุนโลกของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙

 

โอม...

ความว่างเปล่า ไร้ทิวาราตี ปราศจากผืนธรณีและท้องฟ้า ไม่มีความสูงไม่มีความต่ำ

ไม่มีสุรยะและจันทรา ไม่มีแสง ไม่มีสีสัน ไม่มีเสียง ไม่มีภาษา ไม่มีรูป ไม่มีความคิด


ถ้ามีอะไรอยู่อย่างนึงก็คงไม่ใช่ความว่างเปล่า

 

การหยุดคิดต้องบังคับหรือครับ แล้วการคิดนี่ต้องบังคับไหมครับ

คุณอธิบายถึงการนึกคิดสิครับ จะได้เข้าใจไปในทางเดียวกัน

 

คุณสายแก้ว มาคราวนี้ พูดจารู้เรื่องหน่อยแหะ so cool

 

จริงครับ แต่ความว่างเปล่า รับรู้ได้ไหมครับ

อนุโมทนาครับ กับข้อความที่นำมากล่าวครับ

 

ช่วยเตือนความจำ ได้ข่าวว่ามาต่อนิดนึงนี่

 

...............น่าน นะ สิครับ ผมละไม่เข้าใจ จริงจริง มันมีประโยชน์ กับใคร ตรงใหน?:'@

 

ไปที่ความคิดเห็นที่ ๕๓#

หมายความว่าให้ไปเทียบเคียงกับพระพุทธดำรัสจะถูกต้องนะครับคุณครับ

____________________
เชิญร่วมกันพัฒนาประเทศไทยให้สามารถอยู่ร่วมกันได้ทุกเชื้อชาติทุกศาสนาและทุกลัทธิการเมือง ตามพระเมตตาธรรมอันเป็นเครื่องค้ำจุนโลกของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙