ความว่างเปล่า

สาธุ

ไม่ได้ครับ ถ้าได้เมื่อไรแสดงว่าเราได้คิดรู้หรือกำหนดรู้ เมื่อมีความคิด มันก็ไม่ใช่ความว่างเปล่า

 

อีกคนที่ห้องส่งข่าว อาการนี้ล่ะ เดียวกันเลยในอนาคตแต่หนักกว่า

ขันธมาร..! เมื่อถูกครอบงำ ก็ช่วยไม่ได้

ให้เห็นธรรมสังเวชซะทั้งเราเขา ยากที่จะอธิบาย

 

ช่วงหลังๆนี่ วาจาคมจนดาบซามูไรเอาไม่อยู่จริงๆ

 

รู้แบบคิด กับ รู้แบบไม่คิด เข้าใจในความหมายไหมครับ

แม้ไม่คิดก็รับรู้ได้ครับ สิ่งที่กล่าวนี้มีอยู่แล้วในมนุษย์ทุกคนครับ

 

ขอบคุณครับ

 

พระวจนะ" ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้ เมื่อ พิจารณาสืบต่อไป ย่อมพิจารณาลึกลงไปอีกว่า อุปธิ นี้เล่า มีอะไรเป็นเหตุให้เกิด? มีอะไรเป็นเครื่องก่อให้เกิด? มีอะไรเป็นเครื่องกำเนิด? และมีอะไรเป็นแดนเกิด? เมื่ออะไรมีอยู่ อุปธิก็มีอยู่ เมื่อ อะไรไม่มี อุปธิก็ไม่มี?ดังนี้.....................ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุนั้น เมื่อ พิจารณาอยู่ ย่อมรู้ชัดได้อย่างนี้ว่า อุปธิ มีตัณหาเป็นเหตุให้เกิด มีตัณหาเป็นเป็นเครื่องก่อให้เกิด มีตัณหาเป็นเครื่องกำเนิด และมีตัณหาเป็นแดนเกิด เมื่อตัณหามีอยู่ อุปธิก็มีอยู่ เมื่อตัณหาไม่มี อุปธิก็ไม่มี ดังนี้แล.........................(อริยสัจจากพระโอษฐ์ ท่านพุทธทาส)

 

นี่ๆ พี่หม้อ พี่หม้อคงไม่ทราบว่า จขกท นี่เคยโพสถามหลวงพ่อราชรีนะ

หาคำค้น เรื่อง ดวงๆ หัวไม่ขีด บ้างสีขาว บ้างสีดำ อะไรนี่แหละ เป็นคำถาม
เดียวกันที่ถาม "ธรรมคูต"

หลวงพ่อตอบรู้สึกว่าจะไม่ยาก ถ้าจำไม่ผิด คือ "อนุบาล" ประมาณนั้น เพราะว่า
จิตส่งออกล้วนๆ แล้วยังไม่รู้เรื่องอะไรเลย

 

ขอเวลา 5 นาที นิดนุง กำลังยุ่งไม่ว่าง

ยังไม่ถึงขนาดพระอรหันต์ แค่จิตรู้ ก็ไม่ว่างแล้ว โห ร้ายเจงๆๆ

 

ใช่ครับครับ ผ่านมาแล้วก็ไปแบบ รถขับมาผ่านเราแล้วก็ไป

ถ้ามีอะไรเกิด สิ่งนั้จะเรียกความว่างเปล่าได้ไง เพราะมันเกิด เราแค่ไม่ได้คิด แค่ว่ามีคำเรามันก็ยังไม่ว่างเปล่าแล้ว มีแต่เพียงความเป็น 0 ที่ว่างเปล่า แล้วอะไรที่มาก่อน 0 ......... ความเป็น 0 ความว่างเปล่าเกิดมาได้ไง

 

และแล้วก็มาจนได้ ตื่นแล้วสิ

คุยกับซัวเจ๋งไปก่อนล่ะ กลัวเสลด ชะอุ้ย

ว่างๆจะไปค้น

 

.................รับแซบคับ!!........ผมนะหยุดคิดได้แล้ว!!! เอ้ย!!! ผมว่า มันเป็นเช่นนั้นเองครับ

 

ข่าวเด็กรถบัสข่มขื่นสาวบนรถบัส ไม่ผิดครับเพราะไม่มีเจตนาจะข่มขืน มีความรู้สึกจะระบายความใคร่เท่านั้น เห็นผู้หญิงเป็นที่ระบายความใคร่เท่านั้นเองครับ

พุทธทาส:-แมวเห็นหนูก็จะตะครุบกิน นี่พวกที่เถรตรงก็ว่าแมวบาป แม้แต่สัตว์เดรัจฉานก็บาป อย่างนี้ เราก็มีความเห็นด้วยไม่ได้ แมวไม่มีเจตนาฆ่าหนู มันจะกินเท่านั้น แต่พวกอาจารย์บางพวก บางกลุ่มเขาจัดให้แมวนี้เป็นบาป เป็นเวรตกนรก ผูกพันกันกับหนูกลับไปกลับมา เรียกว่า มันขาดศีล แต่อาตมาเห็นว่า แมวไม่มีเจตนาฆ่า มันมีความรู้สึกแต่จะกินเท่านั้นแหละ เห็นหนูก็คือเห็นอาหาร เป็นอาหารก็กินเท่านั้นแหละ

คัดบางตอนจากหนังสือดอกโมกข์ ฉบับพิเศษ พุทธทาสวจนา พิมพ์ครั้งแรก พ.ศ. ๒๕๓๙ หน้า ๑๗๘-๑๘๒

____________________
เชิญร่วมกันพัฒนาประเทศไทยให้สามารถอยู่ร่วมกันได้ทุกเชื้อชาติทุกศาสนาและทุกลัทธิการเมือง ตามพระเมตตาธรรมอันเป็นเครื่องค้ำจุนโลกของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙

 

ความว่างเปล่าที่ผมกล่าวถึงนี้ ว่างเปล่าจากอะไรครับ

เพราะที่คุณกำลังกล่าวอยู่นี้กำลังออกนอกแล้วครับ

พระธรรมคำสอนก็กล่าวไว้ ถึงการปฎิบัติ เป็นไปด้วยเหตุใด และ ได้ผลอย่างไร

ถึงแม้ผมจะไม่ได้เรียนพระอภิธรรมาก็ตามครับ

และที่ผมกล่าวอยู่นี้ มาจากการปฎิบัติเองอยู่กับบ้านครับ

 

อันความมืดมิดปิดบังทุกสิ่งลงโดยสิ้นเชิง ถึงจะมีตาก็เหมือนไม่เห็นอะไรได้ เพราะว่าไม่รู้ไม่เทียบเคียงกับพระพุทธดำรัส

อันความโง่เขลาปิดบังทุกสิ่งลงโดยสิ้นเชิง ถึงจะมีใจก็เหมือนไม่รู้อะไรได้ เพราะว่าไม่รู้ไม่เทียบเคียงกับพระพุทธดำรัส


อ้างอิง:
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-RIGHT: 1px inset" class=alt2>รับจ้างดับกิเลสให้ทั่วราชอาณาจักร ฟรี!

พุทธทาส:-กิเลสจะดับไปนี้ มันมีได้ทั้งสองอย่าง คือ (๑) มันดับของมันเองก็ได้, (๒) มีผู้ทำให้ดับก็ได้; คือว่า มีการประพฤติปฏิบัติทำให้กิเลสไม่เกิด หรือดับมันเสีย มันก็ดับเพราะมีผู้ทำให้ดับ, แต่ถึงอย่างไรมันก็ยังมีการดับของมันเอง เพราะมันหมดเหตุหมดปัจจัยของมันเอง ไม่ต้องมีใครมาทำให้ดับมันก็ดับ
พุทธทาส:-ทุกคนไม่ใช่ว่าจะมีกิเลสเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา มันมีเวลาที่กิเลสไม่เกิด หรือว่า กิเลสมันดับไปเองตามธรรมดา มันก็ต้องมีความเย็นในความหมายของนิพพาน ฉะนั้น จึงพูดได้เต็มปากว่า

นิพพานนั้นมีสำหรับทุกคน </TD></TR></TBODY></TABLE>

____________________
เชิญร่วมกันพัฒนาประเทศไทยให้สามารถอยู่ร่วมกันได้ทุกเชื้อชาติทุกศาสนาและทุกลัทธิการเมือง ตามพระเมตตาธรรมอันเป็นเครื่องค้ำจุนโลกของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙<!-- google_ad_section_end -->

 

คุณ Pukhaotong Brrpta ว่า พุทธวจนะนี้กล่าวไม่ถูกหรืออย่างไรครับ ชี้แนะด้วย

 

ของเขา มีสองคำถามนะ คำถามแรก ถามไปแล้ว หงายหมา คือ หลวงพ่อสั่งให้ทิ้ง

เพราะหากเข้าใจ จิตผิด ก็จะ ล่มจมไปเลย ประมาณ นั้น

พอหลวงพ่อตอบอย่างนั้น ก็เลยกลัวว่า ตัวเองจะไม่แน่จริง เขาเลยไปถามอีกข้อ

แล้วมั่นใจมากว่าอันนี้ ของจริง คนจริง หลวงพ่อต้องยอมรับแหงมๆว่า ไม่ใช่อนุบาล
แต่ต้องเป้นคนปฏิบัติมาอย่างเข้มเท่านั้นที่ทำได้ คำถามที่สองคือ ดับไฟในห้องได้
มั่นใจจนระบุชื่อจริงไปด้วย ก็ได้คะแนนเต็มๆ

หลวงพ่อก็ตอบเหมือนเดิม จิตส่งออก ส่งไปแล้วก็คว้าเอาสมุทัยเข้ามาอีก เป็น มิจฉาสติ
มิจฉาสมาธิ

สุดท้ายก็เลยไม่ถามแล้วมั้ง ร่ำ ว่างๆ นิพพานกันไปเลย ไม่เชื่อพระท่านแล้ว

 

ง่ายนิดเดียว งั้นต้องเปลี่ยนเป็นว่า ความสุขสงบที่แท้จริงจากการปฏิบัติเองอยู่กับบ้าน สินะครับ



โอม ศานติ ศานติ ศานติฮี

 

พุทธทาส:-ให้โกยอภิธรรมทิ้งไปให้หมด อภิธรรมตามที่รู้กันนั่นแหละ อภิธรรมปิฏก อภิธัมมัตถสังคหะ อภิธรรมอะไรก็ตาม ที่ระบุไปยังอภิธรรมเฟ้อนี้โกยทิ้งไปเสียให้หมด
บางสูตรก็ตัดออกไปหมดเลย บางสูตรก็ต้องตัดออกไปบางส่วน บางสูตรก็ตัดออกไปราว 40%

อภิธรรมคืออะไร?

ผู้คัดค้านพระอภิธรรมชื่อว่า ทำลายชินจักร

"บุคคลเมื่อคัดค้านพระอภิธรรม ชื่อว่า ย่อมให้การประหารในชินจักรนี้ ย่อมคัดค้านพระสัพพัญญุตญาณ ย่อมหมิ่นเวสารัชชญาณของพระศาสดา ย่อมขัดแย้งบริษัทผู้ต้องการฟังย่อมผูกเครื่องกั้นอริยมรรค จักปรากฏในเภทกรวัตถุ ๑๘ อย่าง อย่างใดอย่างหนึ่ง เป็นผู้ควรแก่อุกเขปนิยกรรม นิยสกรรม ตัชชนียกรรม เพราะทำกรรมนั้น จึงควรส่งเธอไปว่า เจ้าจงไป จงเป็นคนกินเดนเลี้ยงชีพเถิด ดังนี้ "

พระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล มหามกุฏราชวิทยาลัย
ในพระบรมราชูปถัมภ์ เล่มที่ 75 อภิธรรมปิฎก หน้า 60-63 อรรถกถาธรรมสังคณี

____________________
เชิญร่วมกันพัฒนาประเทศไทยให้สามารถอยู่ร่วมกันได้ทุกเชื้อชาติทุกศาสนาและทุกลัทธิการเมือง ตามพระเมตตาธรรมอันเป็นเครื่องค้ำจุนโลกของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙

 

ว่างแล้วกิเลสลดลงบ้างป่าว หรือว่าเพิ่มขึ้นกว่าตอนไม่ว่าง สงสัย
ไม่ว่ากันนะ หนูเมา.................

 

...........แหม โกเจ๋ง แกก็บ่นบ่น อะไร ของแกไป อย่าไปคิดตามสิครับ อย่าคิดครับ อย่าคิด!!!