คำทำนายภัยพิบัติที่แม่นยำ และการปกป้องภัยพิบัติ ของพระมหาโพธิสัตว์ยุคกึ่งพุทธกาล

ไปเรื่อยเปื่อยเนาะ คนเรา ...

 

ส่วนใหญ่ในหมู่ญาติธรรมของอาจารย์ทิพากร รินไธสงค์ ต่างก็รู้ดีว่าอาจารย์เป็นใคร อาจารย์ใช้หลักคำสอนตามแนวทางของพระพุทธองค์ อาจารย์ช่วยเหลือคนมากมาย

 

A=B และ B=C เพราะฉะนั้น C=A

ขออนุญาตครับ

ขออนุญาตขยายความหน่อยนะครับ

เมื่อสมัยที่ผมเรียน ม.ศ.1 นั้น ครูเรขาคณิตสอนว่า

เมื่อ A=B
และ B=C
เพราะฉะนั้น C=A ด้วย

ท่านผู้ใดต้องการพิสูจน์ก็ไปหาตำราเก่าๆมาอ่านดูเอาเอง

ทีนี้ผมก็จะขอแทนค่าดูนะครับ

เมื่อให้ A = ท่านอาจารย์ทิพากร รินไธสงค์
B = ช้างป่าปาลิไลยกะเมื่อสมัยพุทธกาล
C = พระพุทธเจ้าในอนาคต พระองค์ที่สิบ พระนาม "สุมังคละ"

ดังนั้น A = B ท่านอาจารย์ทิพากร รินไธสงค์ = ช้างป่าปาลิไลยกะเมื่อสมัยพุทธกาล

[อันนี้ท่านอาจารย์ทิพากร บอกเล่าออกมาเองเมื่อครั้ง พิธีบวงสรวงใหญ่
ที่เมือง เจริญปุระนคร เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2554 ต่อหน้าลูกศิษย์เป็นจำนวนมาก]

และ B = C ช้างปาลิไลยกะ จะได้ไปเกิดเป็น พระพุทธเจ้าในอนาคตกาล
พระองค์ที่สิบ พระนาม "สุมังคละ"

[อันนี้เป็นพุทธทำนายเอง]

เพราะฉะนั้น C = A พระพุทธเจ้าในอนาคตกาลพระองค์ที่สิบ พระนาม "สุมังคละ" ก็คือ ท่านอาจารย์ทิพากร ในชาติปัจจุบัน

[อันนี้ผมว่าเอง ก็เพราะมันเห็นอยู่โทนโท่ ผมก็เลยกล้าพูด]

ส่วนสาเหตุที่หลายๆท่านไม่เชื่อก็แล้วแต่ละบุคคล
ผมก็ได้ชี้แจงจนเมือยแล้ว

ขนาดมี คลิปวีดีโอ ให้ดู หลายๆท่านก็ยังไม่เข้าใจ
ก็ตัวใครตัวมันนะครับ รวมถึงท่านที่ก้าวร้าวล่วงเกินท่านด้วย

ส่วนใครจะไปพูดอะไรไว้ที่ไหน ที่ไม่ตรงตามนี้ก็รอให้กาลเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ก็แล้วกัน

อยากจะเขียนเรื่องน้ำท่วม ก็เกรงว่าจะเป็นการซ้ำเติมผู้คน ที่เขาลำบากอยู่แล้ว

ก็ขอนำคำเตือนของท่านอาจารย์ทิพากร ที่ท่านได้บอกว่า

"ภัยภิบัติต่างๆก็ใกล้เข้ามาแล้ว ต้องเร่งรีบสร้างพระใหญ่ให้ทันตามกำหนด"
"ถ้าสร้างพระใหญ่ไม่เสร็จ ก็ตัวใครตัวมัน ผมก็จะไปอยู่ที่ เจริญปุระนคร"
"ใครที่กลัวว่าภัยภิบัติจะมาถึงตัว ก็ให้เร่งรีบทำบุญกับพระใหญ่ไว้ก่อน"
"จะได้หลีกพ้นภัยภิบัติได้"

ส่วนเรื่อง ทำไมน้ำไม่ท่วม โคราช พิมาย หาดใหญ่ และภาคอิสานส่วนใหญ่ ทั้งๆที่ปีกลายก็ยังท่วมอยู่เลย

ก็ขอยกยอดไปกล่าวในวันข้างหน้า เอาไว้ให้สถานะการณ์เข้าภาวะปรกติก่อน

ส่วนท่านที่ปรามาศ พระใหญ่ชัยภูมิก็ดี ปรามาศท่านอาจารย์ทิพากรก็ดี
ก็ขอให้ระมัดระวังด้วย

ยิ่งบางท่านอาจถึงขั้นเข้าข่าย ชักชวนผู้อื่นด้วยให้มาร่วมด้วย
ถ้าท่านมั่นใจนักก็ขอให้กล้าทำกล้ารับ อย่าได้ชักชวนผู้อื่นมาร่วมหารด้วย

หลายท่านยังไม่รู้ยังไม่เข้าใจก็เกิด คิดไปเอาเองต่างๆนาๆ

ส่วนท่านที่ยังไม่หนักแน่นพอ ก็ขอให้สำรวมระวังยิ่งๆขึ้น ระมัดระวังมากขึ้น

อีกไม่นานความจริงก็จะปรากฏ ก็รอเอาหน่อย

พวกบุญมากเขามีศรัทธาเร็ว เขาก็พ้นความลำบากเร็วเป็นธรรมดา

ก็ขอให้ข้อคิดแค่ว่า

"พระโพธิสัตว์ที่มีตัวมีตนให้พิสูจน์ได้ กับคำพูดของ ..........."

ท่านสมควรเชื่อใคร

แล้วใครกันที่กล้าประกาศ กล้านำ กล้าทำ ว่าจะนำชาวพุทธให้พ้นภัยภิบัติทั้งหลาย

ขออนุโมทนาบุญร่วมกับญาติธรรมผู้มีจิตเป็นกุศลทุกๆท่าน

ขออนุโมทนา

ขอขอบพระคุณครับ

ลุงมหา

 

ทศพลญาณเป็นกำลังเฉพาะพระพุทธเจ้า ในพระโพธิสัตว์ไม่มี

ในกรณีที่อาจารย์คุณเป็นพระโพธิสัตว์จริง สิ่งที่ท่านมีคือญาณอันเกิดจากกำลังสมาบัติ หรือการเข้าถึงองค์ความรู้ที่มีอยู่ อันเกิดจากพื้นฐานเดิม

คำว่าทศพลญาณนั่นแหละ คือการตีเสมอพระพุทธเจ้าครับ

ตอบแบบนี้เข้าใจว่าไม่ได้ปรามาสใครนะครับ เพราะผมก้ไม่รู้จักท่านจริงๆนะครับ

 

ไม่ต้องเถียงกันแล้วคับ สรุปคับสรุป ท่วมคับท่วม ไปเก็บของกันเร็วrabbit_run_awayrabbit_run_awayrabbit_run_awayrabbit_run_awayrabbit_run_awayrabbit_run_away

 

ความสงสัย ของปุถุชน คนมีกิเลส แล้วจะถามใคร? เตือนแล้ว ละเลย จะไปโทษใคร?

ความสงสัย ของปุถุชน คนมีกิเลส แล้วจะถามใคร?
เตือนแล้ว ละเลย จะไปโทษใคร?

ขออนุญาตครับ

ขอให้อ่านข้างล่างให้เข้าใจก่อนนะครับ

ถ้าท่านไม่เชื่อว่า ท่านอาจารย์ทิพากร รินไธสงค์ รู้ “ทศพลญาณ”
พระพุทธองค์ ได้เคยทรงตรัสกับพระอานนท์ว่า

“ธรรมที่เราได้ตรัสรู้ เปรียบเหมือนใบไม้แห้งในป่าใหญ่”
“ธรรมที่เราแสดง เปรียบได้กับใบไม้ในกำมือเรานี้”

แล้วท่านที่ บอกว่าทศพลญาณ นั้น รู้ได้เฉพาะ พระพุทธองค์เท่านั้น
ก็คือ ความข้อนี้มาจากใบไม้ในกำมือของพระพุทธองค์
(ก็พระไตรปิฎกนั่นละครับ)

แล้วใบไม้ในป่าใหญ่ละครับ ความจริงเหล่านี้ยังมีอีกมาก

แล้วท่านจะถามใครได้

ถามพระพุธองค์?
ถามพระโพธิ์สัตว์?
ถามครูบาอาจารย์ที่ท่านบรรลุธรรมชั้นสูง?

ถ้าท่านเจอท่านผู้ใดก็ฝากถาม แล้วเอาคำตอบมาเผยแผ่หน่อยนะครับ

แต่ถ้าถามเพราะตัวท่านสงสัย ท่านก็ต้องช่วยตัวท่านเอง

แต่ถ้าถามเพราะอยากให้คนอื่นขาดความเช์่อถือ ในท่านอาจารย์ทิพากร ในการสร้างพระใหญ่

มันก็เป็นเรื่องของท่าน เมื่อท่านกล้าทำ ท่านก็ต้องรับผลของมันด้วย

ก็เพราะมีคนแบบคุณมากในเว็บนี้ การเผยแผ่ คำเตือนของท่านอาจารย์ทิพากร
เกี่ยวกับเรื่องน้ำท่วม เลยถูกละเลย ไม่เชื่อ ไม่สนใจ

ถ้าเราช่วยกันเตือนภัยตั้งแต่ที่ท่านอาจารย์เตือน เมื่อ 8 พ.ค 2554 ก็เกือบครบ 5 เดือนแล้ว

เราคงไม่ต้องมาลำบากยากแค้นแสนสาหัสอย่างตอนนี้

แล้วยังมาถาม ยังมาสงสัยอยู่อีกหรือ

ใช่พระโพธิสัตว์ไหม ?
รู้ทศพลญาณจริงหรือ ?

หรือจะรอ ภัยพิบัติรอบหน้าอีก ยังมีใครอยากจะรับ อยากจะผจญมันอีกบ้าง

หรือถ้ามีใครหน้าใหน พอจะช่วยได้อีกบ้างไหม

บอกมาเถอะครับ แสดงตัวออกมา คนไทยทั้งชาติรอท่านอยู่

คำเตือนแค่ 15 วินาที บอกล่วงหน้าอีก เกือบ 5 เดือน ยังไม่พอที่ท่านจะเชื่อถืออีกหรือ

"ปีนี้ฝนจะตกกว่าปีที่แล้วนะ"
"น้ำจะมากกว่าปีที่แล้ว...นะครับ"
"ทุกคนควรจะหาที่สูงๆอยู่นะครับ"
"ทุกคนควรจะหาที่สูงๆอยู่"
"ต่อไปควรจะหาที่สูงอยู่"

ขออนุโมทนาร่วมกับชาวพุทธ ผู้มีสติปัญญา ที่รู้จักคิดแต่เรื่องดีๆ เป็นบุญ เป็นกุศลทุกๆท่าน

ขอแสดงความเสียใจ ต่อท่านที่ผจญความสูญเสียจากน้ำท่วมครั้งนี้ทุกๆท่าน

ขอแสดงความเสียใจต่อสมาชิกในเว็บที่มัวแต่อวดเด่นอวดดี
แข่งกันเตือนภัยมากซะจน หาข้อสรุปไม่ได้

ขอบพระคุณครับ

ลุงมหา

 

ขออนุโมทนาค่ะลุงมหานู๋อ่านเรื่องของอาจารย์ทิพากรในหนังสือแล้ว
อาจารย์น่าเลื่อมใสมากค่ะ ต้องขออนุโมทนาบุญกับอาจารย์ทิพากรอย่างมาก
อาจารย์ท่านช่วยเหลือผู้คนมากมายค่ะอาจารย์ยังสอนแผ่เมตตาแบบง่ายๆ ด้วย
อาจารย์สอนเรื่องจิตด้วยค่ะดีค่ะ

 

ลุงมหาครับ ผมไม่ได้ปรามาสอาจารย์ของคุณเลยนะครับ

เป็นสิทธิของผมที่จะเชื่อหรือไม่ก็ได้ ว่าอาจารย์ของคุณจะใช่หรือไม่ใช่ ๑ใน๑๐ แล้วผมไม่คิดว่าจะต้องไปพิสูจน์เพื่ออะไร

ธรรมของพระพุทธเจ้าที่ท่านตรัสไว้มากพอ ที่จะทำให้ใครๆทุกๆคน เมื่อปฎิบัติตามแล้ว พ้นทุกข์ได้ ไม่จำเป็นต้องให้พระโพธิสัตว์องค์ไหนมาขยายความเพิ่มเติม

ทำจริง เห็นจริง รู้จริง

เพราะฉะนั้นแค่ใบไม้ในกำมือ ก็เพียงพอครับ อย่าไปขวนขวายหาอะไรนอกกำมือเลยครับ มันไม่มีอะไรยืนยันได้ ว่านอกกำมือนั้นถูกต้อง

 

8,4000 พระธรรมขันธ์ มีส่วนไหนบอกวิธีแก้ภัยพิบัติบ้างครับ

ขออนุญาตครับ

ผมเอาเรื่องส่วนที่เขียนไปแล้ว ย้อนมาให้ดูอีกที
เพื่อจะชี้แจงให้ท่านที่พอจะมีบุญบารมีในระดับที่พอจะเข้าใจได้พิจารนาว่า

พระอรหันต์นั้น ญาณยังไม่ถึงพอที่จะดูอนาคตให้แจ่มชัด หรือ ดูได้ก็ไม่รู้วิธีแก้ไข

เพราะเราเห็นกันอยู่ชัดๆว่า ภัยพิบัติ น้ำท่วมใหญ่ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่นี้
มีพระสงฆ์องค์ไหนออกมาเตือนบ้าง

หรือถ้าออกมาเตือน เตือนได้ชัดเจน ละเอียดละออ ขนาดไหน

แล้วคุณเอามาเปรียบเทียบกับ คำเตือน 15 วินาที ของท่านอาจารย์ทิพากรดู
ที่ท่านทั้งบอกว่าน้ำจะท่วมมาก และยังบอกว่า ให้หาที่สูงอยู่ ซ้ำเตือนถึง 3 ครั้ง

ก็น้ำท่วมใหญ่เห็นๆ นี่ถ้าเชื่อท่าน เราจะลำบากอย่างนี้หรือ

เมื่อครั้งสมัยพุทธกาล ขี่ม้านั่งเกวียน มันก็ไำม่มีภัยพิบัติ
บวกกับพระพุทธองค์ท่านมีเวลาน้อย ท่านเลยไม่ได้สอน เรื่องยากๆมากนัก
เอาแค่ 84000 พระธรรมขันธ์ก็พอ

มาสมัยนี้ ภัยพิบัติมีแต่จะมากขึ้นๆ แล้วจะเอาความรู้ที่ไหนมาแก้ภัยพิบัติ

เบื้องบนจึงประธานพระโพธิ์สัตว์มาให้ช่วยแก้ มาให้เป็นผู้นำ

เราเพียงแค่ ช่วยกันคนละเล็กคนละน้อยเท่านั้น

ถ้าคุณไม่เชื่อก็ไม่เห็นจะเป็นไร แค่คนเดียวเสียงเดียว

คุณไม่อยากช่วยเขาแก้ภัยพิบัติ มันก็เรื่องของคุณอีก

ยังมีชาวพุทธอีกมากที่เขาเดือดร้อนจากภัยพิบัติ เขาอยากแก้ไข

เมื่อคุณไม่เคยเห็นทุกข์ ไม่เคยเจอทุกข์ คุณก็ไม่อยากแก้ไข

แต่คนที่เขาเห็นทุกข์ เคยเจอทุกข์ เขาก็อยากแก้ไข

หรือท่านที่มีบุญบารมีมากกว่าคุณ อ่านแล้วเขาเข้าใจก็น่าจะมีอยู่บ้าง

เขาก็น่าอยากจะช่วยอยากจะแก้ไข

ส่วนคุณนั้นถ้าอยากอยู่แบบเดิมๆ คุณก็อยู่ของคุณไป

ผมก็ไม่รู้ว่าพระเจ้าพระสงฆ์ท่านจะอยู่ต่อไปอย่างไร

ถ้าเกิดมีคนพูดความจริงว่า

ภัยพิบัติจะเกิด บอกล่วงหน้าก็ไม่ได้ ช่วยแก้ไขยังไม่ได้

ก็เหลือแต่ "พุทธานุภาพ"
เท่านั้นละครับ จึงจะช่วยแก้ภัยพิบัติต่างๆได้

ก็ท่านอาจารย์ทิพากร ท่านบอกว่า

"สร้างพระใหญ่ชัยภูมิ ที่ตำแหน่งสะดือโลก
อันเป็นจุดศูนย์รวมธาตุดิน
เพื่อเหนี่ยวนำให้พุทธานุภาพของพระพุทธองค์
ควบคุมธาตุดิน ไม่ให้แผ่นดินไหว"
"เมื่อแผ่นดินไม่ไหว ภัยพิบัติก็เกิดขึ้นได้ยาก"
"นอกจากนี้ ธาตุดินยังสามารถควบคุมธาตุน้ำได้"
"เพราะสามารถกั้นกำหนด บังคับทิศทางน้ำได้"

ขออนุโมทนาร่วมกับญาติธรรมชาวพุทธทุกๆท่านที่เชื่อว่า

"พุทธานุภาพ สามารถป้องกันภัยพิบัติต่างๆได้"

ขออนุโมทนา

ขอขอบพระคุณครับ

ลุงมหา

 

เราคุยกันคนละเรื่องครับ ก็ขอตัวละกันครับ

 

ทุกอย่างอยู่ทีกรรมครับ ปู่เองก็ไม่ขอออกความคิดเห็นว่าใครจะเป็นอะไรก็ชั่ง ดีหมดเเล ะ
อนุโมทนาด้วยละกันครับ
เมื่อมันถึงเวลาทีต้องจบ เอาอะไรมาบังมาป้องมันก็ไม่อยู่หลอกงะ ถึงกล่าวบอกไป ชะตากรรมของคนเราเมื่อถึงเวลาตาย ก็ต้องตายไปตามกรรมอันนั้น นอกจากผู้จะตาย จะปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ เเล้วแต่เทวดาอินพรหม เขาเห็น ก็จะให้โอกาศสร้างบารมีต่อไปงะ สร้างพระองค์ก็ดีครับ อนุโมทนาด้วย

จะได้ช่วยโลกพ้นภ้ยกันไปครับ

 

สงสัยว่าจะไปกันใหญ่น๊ะ ที่บอกว่า
ท่านที่จะไปเกิดคือ
1.สมเด็จพระนเรศวรมหาราช
2.สมเด็จพระเอกาทศรถ
3.พระพี่นางสุพรรณกัลยา
4.พระเจ้าอู่ทอง
ผู้ที่จะเปิดภูมิให้ท่านไปเกิดคือ ท่านอาจารย์ทิพากร รินไธสงค์
แต่เนื่องจาก ญาติธรรมชาวอยุธยา ไม่มีศรัทธาพอ ก็เลยละเลย
ไม่มีการทำพิธีบวงสรวงและเปิดบุญให้
ทั้งๆที่ได้ทำติดต่อมาแล้ว สอง-สามครั้งแล้ว

>> ตามที่ผมเคยได้ยินจากพ่อแม่ครูอาจารย์ พระนามลำดับที่ ๑ ๒ ๓ ...ท่านกลับชาติมาเกิดแล้ว และเกิดในยุคปัจจุบันนี้ด้วย คนไทยทุกคนน่าจะรู้จักพระองค์ลำดับที่ ๑ และ ๓ เป็นอย่างดี ส่วนลำดับที่ ๒ นั้นก็มีอยู่ ^_^

 

เป็นพระคุณครับ ที่ท่าน เป็นตัวอย่างแกุ คนรุ่นหลัง

เป็นพระคุณครับ ที่ท่าน เป็นตัวอย่าง แก่ คนรุ่นหลัง

ขออนุญาตครับ

เป็นพระคุณอย่างยิ่งครับ

ที่ท่านได้เมตตา แสดงตน เป็นตัวอย่างแก่คนรุ่นหลัง

แค่คำว่า

อนุโมทนาด้วย



ของท่านนั้นมีคุณค่ามหาศาล

คนเข้าวัด เข้าวา นั้น สิ่งแรกที่พระดีๆท่านอบรมสั่งสอน ก่อนอย่างอื่น
ก็คือ การ โมทนาบุญ

ส่วนท่านที่เชื่อว่า การโมทนาบุญนั้น ถ้าเขาผิด เขาตกนรก เราก็จะตกนรกด้วย
ครูบาอาจารย์ท่านใดสอนเช่นนี้

ความจริงที่ท่านได้สอนผิดไป จะปรากฏชัดขึ้นเรื่อยๆ
เพราะเจตนาจึงสำคัญที่สุด

ส่วนท่านที่แม้แต่ การโมทนาบุญ การอนุโมทนาบุญ
ยังไม่ทำ ยังไม่รู้จัก ตักตวงเอาของดี ของฟรี

แล้วจะไปหาบุญ ไปเอาบุญจากที่ไหนกันละครับ

ขออนุโมทนาบุญร่วมกับท่านด้วยนะครับ

ขอบพระคุณครับ

ลุงมหา

 

แค่ที่เขียนไปแล้ว ก็ชัดเจนแล้วครับ

ขออนุญาตครับ ขอนำของเดิมมาให้ดูอีกทีนะครับ

ขออนุญาตขยายความ

คำพยากรณ์เหตุที่จะเกิดคือ

"ปีนี้ฝนจะตกกว่าปีที่แล้วนะ"
"น้ำจะมากกว่าปีที่แล้ว...นะครับ"

แปลว่า

น้ำจะท่วมใหญ่ ที่ๆเคยท่วมอยู่เดิม ก็จะท่วมมากกว่าเดิม
ที่ๆท่วมไม่เคยถึง ก็จะถูกท่วมถึง

"ทุกคนควรจะหาที่สูงๆอยู่นะครับ"
"ทุกคนควรจะหาที่สูงๆอยู่"
"ต่อไปควรจะหาที่สูงอยู่"

บอกวิธีแก้ไข

คำเตือนครบ 3 ครั้ง แปลว่า เกิดขึ้นแน่ๆ หลบไม่พ้น หลีกเลี่ยงไม่ได้
ต้องป้องกัน ต้องแก้ไข ผ่อนหนัก ให้เป็นเบา ได้อย่างเดียว
สรุปก็คือ ต้องอพยพ ยังไงละครับ

ขออนุญาตขยายความ

“ทศพลญาณ เป็นญาณหยั่งรู้ของพระพุทธเจ้า”

“และพระโพธิสัตว์ที่ได้รับพุทธพยากรณ์แล้ว และ บำเพ็ญ บารมีมาเต็มหรือเกือบจะเต็มแล้ว”

“ญาณของพระอรหันต์ยังไม่ถึง”

ก็ ญาณของพระอรหันต์ยังไม่ถึง สู้ ทศพลญาณ ไม่ได้

เมื่อท่านอาจารย์ทิพากร ท่านก็ได้บอกทั้ง

เหตุที่จะเกิด

พร้อมบอก

วิธีแก้ไข

แล้วคุณยังอยากจะให้ผมชี้แจงอะไรอีกละครับ


เรื่องที่คุณถาม ถ้าท่านไม่รู้ ท่านไม่บอกออกมาหรอกครับ

อย่าให้ผมถึงกับ หาคลิป หา เทป มายืนยันเลย นะครับ

ขออนุโมทนาร่วมกับญาติธรรมทุกๆท่านที่ได้ร่วมสายบุญกับพระมหาโพธิสัตว์แห่งยุคกึ่งพุทธกาลนี้

ขออนุโมทนาครับ

ลุงมหา

 

ทศพลญาณ

[323] ทศพลญาณ (บาลีเรียก ตถาคตพลญาณ 10 คือ พระญาณอันเป็นกำลังของพระตถาคต 10 ประการ ที่ทำให้พระองค์สามารถบันลือสีหนาท ประกาศพระศาสนาได้มั่นคง — the Ten Powers of the Perfect One)

1. ฐานาฐานญาณ (ปรีชาหยั่งรู้ฐานะและอฐานะ คือ รู้กฏธรรมชาติเกี่ยวกับขอบเขตและขีดขั้นของสิ่งทั้งหลายว่า อะไรเป็นไปได้ อะไรเป็นไปไม่ได้ และแค่ไหนเพียงไร โดยเฉพาะในแง่ความสัมพันธ์ระหว่างเหตุกับผล และกฎเกณฑ์ทางจริยธรรมเกี่ยวกับสมรรถวิสัยของบุคคล ซึ่งจะได้รับผลกรรมที่ดีและชั่วต่างๆ กัน — knowledge of instance and no instance; knowledge of possibilities and impossibilities)

2. กรรมวิปากญาณ (ปรีชาหยั่งรู้ผลของกรรม คือ สามารถกำหนดแยกการให้ผลอย่างสลับซับซ้อน ระหว่างกรรมดีกับกรรมชั่ว ที่สัมพันธ์กับปัจจัยแวดล้อมต่างๆ มองเห็นรายละเอียดและความสัมพันธ์ภายในกระบวนการก่อผลของกรรมอย่างชัดเจน — knowledge of ripening of action; knowledge of the results of karma)

3. สัพพัตถคามินีปฏิปทาญาณ (ปรีชาหยั่งรู้ข้อปฏิบัติที่จะนำไปสู่คติทั้งปวง คือ สุคติ ทุคติ หรือพ้นจากคติ หรือปรีชาหยั่งรู้ข้อปฏิบัติที่จะนำไปสู่อรรถประโยชน์ทั้งปวง กล่าวคือ ทิฏฐธัมมิกัตถะ สัมปรายิกัตถะ หรือ ปรมัตถะ คือรู้ว่าเมื่อปรารถนาจะเข้าถึงคติหรือประโยชน์ใด จะต้องทำอะไรบ้าง มีรายละเอียดวิธีปฏิบัติอย่างไร — knowledge of the way that leads anywhere; knowledge of the practice leading to all destinies and all goals)

4. นานาธาตุญาณ (ปรีชาหยั่งรู้สภาวะของโลกอันประกอบด้วยธาตุต่างๆ เป็นเอนก คือ รู้สภาวะของธรรมชาติ ทั้งฝ่ายอุปาทินนกสังขารและฝ่ายอนุปาทินนกสังขาร เช่น รู้จักส่วนประกอบต่างๆ ของชีวิต สภาวะของส่วนประกอบเหล่านั้น พร้อมทั้งลักษณะและหน้าที่ของมันแต่ละอย่าง อาทิการปฏิบัติหน้าที่ของขันธ์ อายตนะ และธาตุต่างๆ ในกระบวนการรับรู้ เป็นต้น และรู้เหตุแห่งความแตกต่างกันของสิ่งทั้งหลายเหล่านั้น — knowledge of the world with its many and different elements)

5. นานาธิมุตติกญาณ (ปรีชาหยั่งรู้อธิมุติ คือ รู้อัธยาศัย ความโน้มเอียง ความเชื่อถือ แนวความสนใจ เป็นต้น ของสัตว์ทั้งหลายที่เป็นไปต่างๆ กัน — knowledge of the different dispositions of beings)

6. อินทริยปโรปริยัตตญาณ (ปรีชาหยั่งรู้ความยิ่งและหย่อนแห่งอินทรีย์ของสัตว์ทั้งหลาย คือ รู้ว่าสัตว์นั้นๆ มีศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ ปัญญา แค่ไหน เพียงใด มีกิเลสมาก กิเลสน้อย มีอินทรีย์อ่อน หรือแก่กล้า สอนง่ายหรือสอนยาก มีความพร้อมที่จะตรัสรู้หรือไม่ — knowledge of the state of faculties of beings; knowledge of the inferiority and superiority of the controlling faculties of various beings; knowledge as regards maturity of persons)

7. ฌานาทิสังกิเลสาทิญาณ (ปรีชาหยั่งรู้ความเศร้าหมอง ความผ่องแผ่ว การออกแห่งฌาน วิโมกข์ สมาธิและสมาบัติทั้งหลาย — knowledge of defilement, cleansing and emergence in the cases of the meditations, liberations, concentrations and attainments)

8. ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ (ปรีชาหยั่งรู้อันทำให้ระลึกภพที่เคยอยู่ในหนหลังได้ — knowledge of the remembrance of former existences)

9. จุตูปปาตญาณ (ปรีชาหยั่งรู้จุติและอุบัติของสัตว์ทั้งหลายอันเป็นไปตามกรรม -- knowledge of the decease and rebirth of beings)

10. อาสวักขยญาณ (ปรีชาหยั่งรู้ความสิ้นไปแห่งอาสวะทั้งหลาย — knowledge of the exhaustion of mental intoxicants)

ที่มา พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต)

<O</O
<O....................................................................................................................

<Oทศพลญาณ เป็นญาณของพระพุทธเจ้าเท่านั้น ประกอบด้วยอะไรบ้าง ลองอ่านกันดูนะครับ...และที่สำคัญคือไม่ใช่ญาณของพระโพธิสัตว์......ชัดเจนแล้วนะครับ.</O

 

น่าสนใจ จะศึกษาเพิ่มเติมเรื่องของท่าน ทิพากร รินไธสง หวังว่าผมคงจะได้ไปทำบุญกับท่านสักครั้ง

 

กรุงเทพน้ำไม่ท่วมหรือครับ แต่วันนี้น้ำเริ่มเข้ามาแล้วครับ ตกลงว่าถ้าไม่ท่วมจะได้ไม่ต้องขนข้าวของ แต่ถ้าท่วมใครรับผิดชอบล่ะครับ คนที่เสียหายก็คือตัวเราเองใช่ไหม
กันไว้ดีกว่าแก้ วัวหายแล้วมาล้อมคอก ทางการเตือนก็แล้วคิดเอาเอง
ถ้ากทม.ไม่ท่วมอย่างที่ทำนายก็เป็นบทพิสูจน์ แต่ถ้าเกิดท่วมขึ้นมาก็เป็นบทพิสูจน์เหมือนกัน ลองดูกันต่อไป แต่ที่แน่ ๆผมขนของเตรียมไว้แล้ว ความประมาทเป็นหนทางแห่งความตาย(ฉิบหาย)

 

เอามาอวดอ้างเพื่ออะไรหรือ???

 

ถ้าทุกคนอยากร่วมทำบุญด้วยก็ลองดู Link นี้ครับ

http://palungjit.org/posts/5229655

อนุโมทนา ครับ

 

เห็นด้วยกับท่านตถาตา.. ผมก็จะคอยดูคำทำนายเหมือนกัน...

เพราะตอนนี้น้ำจ่อกรุงเทพแล้ว...(ปริมณฑลท่วมเกือบหมดแล้ว)