WarRoom - อาสาสมัครเตรียมการเฝ้าระวังประสานงานเตรียมพร้อมเพื่อรองรับสถานการณ์ปี 2013

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย Falkman, 24 เมษายน 2011.

  1. raphiphan

    raphiphan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    511
    ค่าพลัง:
    +425
    อืม...ไวนะ เรื่องพลาดแล้วซ้ำเนี่ย มันใช่เวลามั๊ย
    พูดแบบนี้แทนที่จะได้ร่วมมือกันแก้ไข กลายเป็นต้องมาระวังศึกภายในกันอีก คนที่ซวยจะเป็นประชาชนนะสิ
     
  2. fonbao

    fonbao สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 เมษายน 2011
    โพสต์:
    593
    ค่าพลัง:
    +22
    ลาดกระบังพร้อมเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่


    13 ตุลาคม 2554 เวลา 21:36 น.

    เขตลาดกระบังเชื่อรับมือปริมาณน้ำได้ ระบุขณะนี้สถานการณ์ปกติยัคงระบายน้ำตามแผน พร้อมสั่งเจ้าหน้าที่เฝ้าระวัง 24ชม.

    นายเชาวฤทธิ์ ทรงนวรัตน์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขตลาดกระบังเปิดเผยว่า พร้อมเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ โดยอาศัยการประเมินสถานการณ์เป็นหลัก ซึ่งขณะนี้ ยังคงใช้แผนระบายน้ำตามแผนการระบายน้ำในสถานการณ์ปกติ คือ ระบายเข้าสู่คลองประเวศบุรีรมย์ คลองจระเข้ใหญ่ ก่อนมาสู่คลองลาดกระบัง และคลองจระเข้ใหญ่

    ทั้งนี้ มวลน้ำทั้งหมดจากคลองดังกล่าว จะไหลต่อไปผ่านประตูระบายน้ำไป ยังคลองสำโรง สู่คลองสุวรรณภูมิในระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร โดยมีเครื่องสูบ ขนาด 25 ลูกบาศก์เมตร/วินาที จำนวน 4 เครื่อง เพื่อระบายออกสู่อ่าวไทย

    นายเชาวฤทธิ์ กล่าวว่า เขตลาดกระบังต้องรับน้ำมาจากเขตอื่น จากคลองสามวา มีนบุรี หนองจอก ก่อนมาถึงลาดกระบังซึ่งเป็นพื้นที่สุดท้าย ขณะนี้ จึงบอกไม่ได้ว่าปริมาณน้ำที่จะมามายังพื้นที่ลาดกระบังเป็นปริมาณเท่าใด อย่างไรก็ตามเชื่อว่าแต่ละพื้นที่ จะไม่ปล่อยน้ำมาอย่างรวดเร็วในคราเดียว หรือเป็นปริมาณมาก จนจัดการไม่ได้

    “ตอนนี้ ที่เร่งด่วนคือ สั่งการให้ฝ่ายโยธาเร่งบล็อกพื้นผิวจราจรของถนนอ่อนนุช หัวตะเข้ให้รถสามารถสัญจรไปมาได้ อย่างไรก็ดี ทางเขตไม่ได้ประมาท ให้เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังสถานการณ์ 24 ชั่วโมง และเตือนประชาชนเมื่อมีสถานการณ์ที่ต้องระวังเป็นระยะๆ”นายเชาวฤทธิ์ กล่าว

    นางอาภรณ์ สมปาน ครูโรงเรียนอนุบาลยุพลพัฒน์วัฒนา ชุมชนบึงบัว กล่าวว่า ยังไม่เคยได้ข่าวคราวอะไรจากทางการ กทม.เรื่องการเตรียมการรับมือน้ำท่วมติดตามข่าวคราวจากโทรทัศน์และสื่อต่างๆ ตลอดเวลา

    นายดำรงค์ ม่วงรอด เจ้าหน้าที่ฝ่ายดูแลสถานที่ของวิทยาลัยช่างศิลป์ ใกล้กับสถานีรถไฟหัวตะเข้ กล่าวว่า พื้นที่ลาดกระบังเคยถูกน้ำท่วมมาแล้วหลายครั้งแต่ครั้งนี้ น่าจะรุนแรงที่สุดในรอบ 50 ปี และหากจะมีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นอีกก็ ครั้งนี้ก็น่าจะเป็นครั้งที่รุนแรงที่สุด

    [​IMG] เกาะทุกประเด็นร้อนกับ โพสต์ทูเดย์ดอทคอม คลิก!
     
  3. fonbao

    fonbao สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 เมษายน 2011
    โพสต์:
    593
    ค่าพลัง:
    +22
    กปน.เตือนคนกรุงอย่าตื่นน้ำคลองประปาสีดำ


    13 ตุลาคม 2554 เวลา 16:51 น.

    <!-- end articleDetailPanel -->
    กปน.เตือนคนกรุงอย่าตื่น น้ำในคลองประปาสีดำคล้ำ เหตุเติมผงถ่านซับกลิ่น

    การประปานครหลวง (กปน.) แจ้งว่า เนื่องจากสถานการณ์น้ำท่วมในขณะนี้ ทำให้น้ำดิบด้อยคุณภาพ กปน.จึงได้เพิ่มการใช้ผงถ่านกัมมันต์ หรือ Activated Carbon เพื่อดูดซับกลิ่น สี และโลหะหนักในน้ำดิบ ซึ่งจะทำให้น้ำในคลองประปามีสีคล้ำลง แต่สามารถกำจัดได้หมดในระบบการผลิตน้ำ ขอให้ประชาชนอย่าได้กังวลใจ และ กปน. ยืนยันว่าสามารถผลิตน้ำประปาได้มาตรฐานองค์การอนามัยโลก และมีกำลังการผลิตที่เพียงพอต่อความต้องการและจ่ายน้ำได้เป็นปกติ ไม่จำเป็นต้องกักตุนน้ำดื่มบรรจุขวดมาตามข่าวลือ หากมีปัญหาสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร.1125 ตลอด 24 ชั่วโมง


    [​IMG] เกาะทุกประเด็นร้อนกับ โพสต์ทูเดย์ดอทคอม คลิก!
     
  4. fonbao

    fonbao สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 เมษายน 2011
    โพสต์:
    593
    ค่าพลัง:
    +22
    ศปภ.มั่นใจคุมน้ำทะลักท่วมกทม.ได้

    ข่าวการเมือง วันพฤหัสบดีที่ 13 เดือนตุลาคม พ.ศ.2554 21:47 น.

    [​IMG]

    ศปภ. แถลง มั่นใจยังคุมน้ำ ไม่ทะลักเข้ากรุงได้ วอน ประชาชน อย่าวิตก

    พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย หรือ ศปภ. แถลงยืนยัน ขอให้ประชาชนมั่นใจในการทำงานของ ศปภ. ในการเฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำ และให้ความช่วยเหลือประชาชนนั้นว่า จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด และจากการประเมินสถานการณ์ล่าสุด ยืนยันว่ายังสามารถรับสถานการณ์ได้อยู่จึงอยากให้คนกรุงเทพฯ ไม่ต้องกังวลแต่ประการใด แต่ขอให้ติดตามอย่างใกล้ชิด หากเปลี่ยนแปลงจะแจ้งให้ทราบอีกครั้งหนึ่ง

    อย่างไรก็ตาม อยากให้ประชาชนเตรียมการป้องกัน แต่ยังคงไม่มีคำสั่งอพยพ ณ นาทีนี้ยังถือว่าปกติ ไม่ต้องกังวล เรายังคงรักษาการได้อยู่ แต่ประชาชนที่อาศัยอยู่ตามปริมณฑล อาจจะเดือดร้อนบ้าง


    Link : http://www.innnews.co.th/ศปภ-มั่นใจคุมน้ำทะลักท่วมกทม-ได้--314340_01.html
     
  5. fonbao

    fonbao สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 เมษายน 2011
    โพสต์:
    593
    ค่าพลัง:
    +22
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>“ไอ้เข้” ลุ่มน้ำสะแกกรังหลุดฟาร์มนับร้อยหลังน้ำท่วมหนัก</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>13 ตุลาคม 2554 17:52 น.</TD><TD vAlign=center align=left><SCRIPT src="https://ssl.gstatic.com/webclient/js/gc/24479126-6666cb8c/googleapis.client__plusone.js"></SCRIPT><SCRIPT type=text/javascript src="http://platform.twitter.com/widgets.js"></SCRIPT>


    <SCRIPT type=text/javascript src="https://apis.google.com/js/plusone.js"> {lang: 'th'}</SCRIPT>


    <TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><IFRAME style="BORDER-BOTTOM: medium none; BORDER-LEFT: medium none; WIDTH: 450px; HEIGHT: 35px; OVERFLOW: hidden; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none" src="http://www.facebook.com/plugins/like.php?href=http://www.manager.co.th/asp-bin/mgrshort.aspx?NewsID=9540000130809&layout=standard&show_faces=false&width=450&action=like&colorscheme=light&height=35" frameBorder=0 allowTransparency scrolling=no></IFRAME></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=12 vAlign=bottom align=left>[​IMG]</TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE border=0 cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top width=160 align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=1 vAlign=center width=165 align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD background=/images/linedot_vert3.gif width=4>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=7 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>พิษณุโลก - รองผู้บัญชาการตำรวจภาค 6 นำทีมตำรวจช่วยเหยื่อน้ำท่วมถึงอุทัยธานี พบ “ไอ้เข้” ฟาร์มใหญ่ ลุ่มน้ำสะแกกรัง หลุดหลายร้อยตัว เจ้าของฟาร์ม รับสุดวิสัย เสริมรั้วแล้วยังเอาไม่อยู่ แต่ยืนยันจระเข้กินอิ่ม ไม่ดุร้าย แต่อย่าไปทำร้ายมันก่อน

    พล.ต.ต.ทวีชัย วิริยะโกศล รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 พร้อมคณะ ได้ออกสำรวจพื้นที่น้ำท่วมและช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ 9 จังหวัดภาคเหนือตอนล่าง ล่าสุด วันนี้ (13 ต.ค.) ได้รับรายงานว่า ประชาชนที่บริเวณ ต.หนองไผ่แบน อ.เมือง จ.อุทัยธานี กว่า 100 ครอบครัว ติดเกาะ ถูกน้ำท่วมสูงกว่า 2-3 เมตร จนเกือบถึงชั้น 2 ของบ้าน

    ทั้งระดับน้ำยังไม่มีแนวโน้มลดลง ไม่สามารถออกไปไหนได้ บางแห่งน้ำท่วมมิดหลังคา จึงได้นำเครื่องอุปโภคบริโภคไปแจกจ่าย ล่าสุดระดับน้ำไม่มีแนวโน้มลดลง

    จากนั้นได้รับรายงานจาก นายอมร จิตตาพินิจมาศ เจ้าของฟาร์มจระเข้อุทัยธานี เลขที่ 2 หมู่ 1 ต.สะแกกรัง อ.เมือง จ.อุทัยธานี บอกว่า ขอให้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจภาค 6 ช่วยจับจระเข้ที่หลุดออกมาจากฟาร์ม เนื่องจากน้ำจากแม่น้ำ 3 สาย คือ แม่น้ำสะแกกรัง แม่น้ำแควตากแดด และแม่น้ำเจ้าพระยา ไหลแรง ทำให้กำแพงฟาร์มจระเข้แตกพังเป็นแนวยาวกว่า 10 เมตร

    เจ้าของฟาร์มจระเข้อุทัยธานี ยังบอกอีกว่า เมื่อกำแพงรั้วพัง ทำให้มีจระเข้ที่เลี้ยงไว้กว่า 3,000 ตัว หลุดหายไปหลายร้อยตัว อาจถึงพันตัวก็ได้ ตอนนี้ยังไม่สามารถระบุจำนวนได้แน่ชัด โดยเป็นจระเข้รุ่นๆ กับจระเข้ขุน ขนาด 50 เซนติเมตร - 2 เมตร

    “แม้จะยกกำแพงรั้วจาก 2 เมตร เป็น 3 เมตร ป้องกันจระเข้หลุดแล้ว ก็ยังเอาไม่อยู่” นายอมร กล่าว และบอกอีกว่า

    ทั้งนี้ หากคิดเป็นมูลค่าก็ตกร่วม 10 ล้านบาท โดยเจ้าของฟาร์มจระเข้แห่งนี้ ยืนยันว่า ไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์จระเข้หลุด แต่กรณีที่เกิดขึ้นเป็นเหตุสุดวิสัย น้ำแรงมาก กอไผ่ใหญ่ยังล้ม ดังนั้น กำแพงรั้วคอนกรีตจึงพัง

    “ต้องขอขอบคุณที่ตำรวจภาค 6 มาช่วยซ่อมแซมรั้วฟาร์มให้ แต่ไม่รู้ว่าจระเข้หลุดไปกี่ตัว เบื้องต้นคิดว่าอยู่ในระดับหลายร้อยตัวแน่นอน ก็ขอให้ประชาชนไม่ต้องตกใจ ธรรมชาติจระเข้จะไม่ทำร้ายคน ถ้าเราไม่ทำร้ายมัน จระเข้ฟาร์มผมกินอาหารอิ่ม จึงไม่ดุร้าย”

    เจ้าของฟาร์มจระเข้อุทัยธานี ย้ำอีกว่า ปีนี้รู้ว่าน้ำมากก็เตรียมการล่วงหน้าแล้ว คือ ย้ายพ่อ-แม่พันธุ์จระเข้ตัวใหญ่ขนาด 4 เมตรไปแล้ว โดยใช้ไฟฟ้าช็อตก่อนจับ ซึ่งก็ทำให้จระเข้พ่อแม่พันธุ์ตายไปกว่า 100 ตัวแล้วเหมือนกัน

    “ยอมรับว่า น้ำท่วมครั้งนี้เสียหายไปมาก”

    สำหรับฟาร์มจระเข้อุทัยธานีแห่งนี้ เป็นฟาร์มจระเข้เพื่อแปรรูปส่งออกเนื้อ-หนัง ไปประเทศจีน ที่ทำมานานกว่า 30 ปีแล้ว


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  6. ZZ

    ZZ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2005
    โพสต์:
    5,375
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +34,652
    คืนนี้...แม่ทัพภาคที่ 3 แจ้งว่า...น้ำจะท่วมถนนสายเอเซีย....ทั้งหมด

    .
     
  7. eve1

    eve1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    243
    ค่าพลัง:
    +682
    สู้ สู้ กันนะพี่น้องชาวไทย เป็นกำลังใจให้อะคับ

    ^-^
     
  8. taonoy

    taonoy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    179
    ค่าพลัง:
    +215
    หลักการ/แนวทางการป้องกันน้ำท่วมรถยกเว้นกรณีน้ำหลาก
    (ควรใช้ในกรณีสุดวิสัยที่ไม่สามารถนำรถไปไว้ที่สูงได้และไม่สามารถหาซื้อผ้าใบกันน้ำที่ใหญ่พอห่อรถได้)


    อุปกรณ์
    1. ผ้าคลุมรถกันน้ำหรือผ้าใบกันน้ำ 2 ผืน
    2. ฟิล์ม pallet stretch และเทปกาว
    3.ของหนัก

    หลักการทางวิทยาศาสตร์และการทดสอบ
    1. กระป๋อง = ผ้าคลุมรถกันน้ำหรือผ้าใบกันน้ำที่ห่อจากด้านใต้รถ
    [​IMG]
    2. ถุงพลาสติกใส = ผ้าคลุมรถกันน้ำหรือผ้าใบกันน้ำที่คลุมทับให้ชายผ้าลงมาอยู่ใต้ขอบผ้าชั้นล่าง
    [​IMG]
    3. หิน/ทราย = รถที่ไม่ต้องการให้เปียกและของหนักที่ควรนำมาใส่ห้องโดยสารรถให้มากที่สุดและวางทับผ้าผืนล่างแนบกับพื้น
    4. สก็อตเทป = ฟิล์ม pallet stretch
    ที่ต้องมัดให้ผ้าด้านบนเรียบไล่อากาศออก
    และมัดวนบนล่างป้องกันไม่ให้ชายผ้าและผ้าด้านบนหลุดขึ้นไปจากตำแหน่ง
    ในการทดสอบตั้งใจให้มีช่องว่าง/รูรั่วในการมัดระหว่างถุงด้านบนและกระป๋องอยู่มาก
    [​IMG]

    หลักการ : ขอบผ้าด้านบนที่ทับลงมาต่ำกว่าขอบผ้าด้านล่างทำให้เกิดการกักเก็บอากาศ อากาศไม่สามารถออกไปจากระบบได้
    เมื่ออากาศออกไปไม่ได้ ถึงแม้จะมีช่องว่างระหว่างผ้าทั้งสองน้ำก็จะเข้ามาได้เพียงเล็กน้อยเท่ากับการขยายตัวตึงขึ้นได้อีกของผ้าทั้งสองผืน

    การทดสอบ : นำรถไปจมอยู่ใต้น้ำ 1 ชั่วโมง
    [​IMG]
    ผล : เนื่องจากได้มัดถุงไว้ไม่ให้พองขยายตัวได้ ภายในกระป๋องแทบจะไม่มีน้ำเข้าแม้ว่าจะมีช่องว่างระหว่างถุงกับกระป๋อง
    [​IMG]

    สิ่งสำคัญ
    - ผ้าทั้งสองผืนต้องกันน้ำและไม่มีรูรั่ว
    - พยายามมัดผ้าด้วยฟิล์มให้แนบชิดรถมากที่สุดและมัดให้แข็งแรงไม่ให้ผ้าพองออกจากแรงดันอากาศ ปลายสุดการพันฟิล์มให้ใช้เทปติดไม่ให้หลุดออก
    - ควรมัดลักษณะวนบนล่างป้องกันอย่างแน่นหนาไม่ให้ชายผ้าและผ้าด้านบนหลุดขึ้นไปจากตำแหน่ง
    - ใส่ของหนักไปในห้องโดยสารและพื้นด้านล่างให้มากที่สุดกันรถลอย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 14 ตุลาคม 2011
  9. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,729
    ค่าพลัง:
    +77,793
    ตำบลที่น้ำท่วมอยู่ในปัจจุบัน [​IMG] และตำบลที่คาดการณ์ว่าน้ำจะเริ่มท่วมในช่วงวันที่ 6 - 10 ต.ค. 54 [​IMG]

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 13 Oct 11.jpg
      13 Oct 11.jpg
      ขนาดไฟล์:
      206.2 KB
      เปิดดู:
      2,605
  10. patratyon

    patratyon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    10,434
    ค่าพลัง:
    +6,293
     ชาวไวท์เฮ้าส์ขอสู้กับน้ำ
      


    14 ตค. 2554 05:31 น.

    เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 14 ต.ค.54 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่หมู่บ้านไวท์เฮ้าส์ หมู่ 16 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เพื่อตรวจสอบหลังจากที่มีชาวบ้านขนของออกจากหมู่บ้านเป็นจำนวนมาก หลังจากที่รัฐบาลแถลงให้อพยพเนื่องจากเกรงว่าน้ำจะเข้ามาท่วม พบว่าชาวบ้านได้จับกลุ่มคุยกันรวมไปถึงเดินไปดูคูคลองที่อยู่ด้านหลังหมู่บ้านไวท์เฮ้าท์ว่ามีระดับน้ำขึ้นสูงอย่างไร บางส่วนก็นั่งเฝ้าหน้าบ้านเพื่อคอยดูน้ำจะเข้าบ้าน และบางส่วนก็ขนของย้ายหนีน้ำไปอยู่ที่อื่น
    นายพิเชษฐ์ หาญจางสิทธิ์ สจ.อ.คลองหลวง กล่าวว่า เรื่องความปลอดภัยเขื่อนรอบๆหมู่บ้านนั้นได้เสริมคั้นกันน้ำขึ้นมา 1 เมตรทางทิศเหนือ ส่วนที่รับน้ำเราทำไว้นานแล้วแข็งแรงดี ส่วนเรื่องอยพยชาวบ้านนั้นตนไม่ทราบซึ่งคงได้รับทราบจากข่าวก็อพยพไป แต่บางส่วนก็อยู่ซึ่งส่วนใหญ่คิดว่าช่วยกันเสริมการกั้นน้ำเชื่อว่าน่าจะเอาอยู่และคงไม่ท่วมถึงขนาดปี 2538แน่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้มีการมาเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยมีการวางเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยร่วมกับชาวบ้านตลอด 24 ชม.
    นางมธุตฤณ น้องอภัย อายุ 24 ปี หญิงตั้งครรภ์ 8 เดือน อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 32/58 ม.16 ต.คลองหลวง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี กล่าวว่า วันนี้ทราบข่าวว่ามีการประกาศฉุกเฉิน ให้ชาวไวท์เฮ้าท์อพยพไปอยู่ที่อื่น ก็รู้สึกตกใจ ตนกับยายพ่อแม่ก็ได้ช่วยกันขนย้ายข้าวของที่อยู่บริเวณชั้นล่างซึ่งเป็นบ้านชั้นเดียวแต่ต่อเติมให้ยกสูงขึ้นอีก หลังจากที่น้ำได้ท่วมเมื่อปี 2538 ส่วนปีนี้ก็ไม่รู้ว่าจะไปไหนก็คงสู้อยู่ที่นี่เพราะอยู่มานานหลายปีแล้ว และก็คิดว่าน้ำคงไม่ขึ้นไปข้างบน
    ขณะที่นางนงคราญ วิไลเลิศ ประธานชุมชนไวท์เฮ้าท์ กล่าวว่า ชาวบ้านที่ทราบข่าวจากทางการบางส่วนได้อพยพขนของหนีไปจำนวนหลายราย เรียกว่าเป็น 100 ก็ว่าได้ โดยเฉพาะซอย 2 ขนของไปเกือบหมด ซึ่งตนและกลุ่มอปพร. ของหมู่บ้านและเจ้าหน้าที่ก็ได้ไปดูน้ำบริเวณด้านหลังและจากที่ได้ฟังข่าวก็ทราบว่าน้ำยังไม่มา ตอนนี้ได้ร่วมมือกันช่วยกันเฝ้าระวังหากมีน้ำไหลเข้ามาก็จะช่วยกันป้องกันให้ได้มากที่สุด



    << back  next >>
     
  11. patratyon

    patratyon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    10,434
    ค่าพลัง:
    +6,293
    '17 มาตรการ' ป้องกันอันตรายจากภัยน้ำท่วม

    [​IMG]


    กรมควบคุมโรคแนะ "17 มาตรการ" ป้องกันอันตรายจากภัยน้ำท่วม ระบุสาเหตุส่วนใหญ่ของการจมน้ำเกิดจากการหมดแรงหรือการได้รับอุบัติเหตุชนกระทบกระแทกกับวัตถุ...

    เมื่อวันที่ 13 ต.ค. เภสัชกรเชิดเกียรติ แกล้วกสิกิจ หัวหน้ากลุ่มสื่อสารความเสี่ยง และพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 พิษณุโลก กรมควบคุมโรค กล่าวว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมที่วิกฤติหลายจังหวัดของประเทศไทยในขณะนี้ ส่งผลให้ประชาชนประสบความเดือดร้อนในหลายด้านไม่ว่าจะเป็นด้านที่อยู่อาศัย อาหารการกิน เครื่องนุ่งห่ม และความเจ็บป่วยด้วยโรคต่างๆ ที่มากับน้ำท่วม เช่น น้ำกัดเท้า อุจจาระร่วง ไข้ฉี่หนู ตาแดง ไข้หวัดใหญ่ ไข้เลือดออก รวมทั้งอันตรายจากภัยสุขภาพจากน้ำ เช่น การตกจมน้ำ ไฟฟ้าช๊อต สัตว์มีพิษอันตราย ฯลฯ ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่ของการจมน้ำเกิดจากการหมดแรงหรือการได้รับอุบัติเหตุชนกระทบกระแทกกับวัตถุ

    [​IMG]


    ขณะที่มีการจมน้ำระยะแรกผู้จมน้ำจะพยายามหายใจเอาอากาศเข้าไปให้มากที่สุด แต่ส่วนใหญ่จะเกิดอาการสำลักน้ำเข้าไปในปอด หลังจากนั้นเกิดอาการหมดสติ ชักเกร็ง และหัวใจหยุดเต้นในเวลาต่อมา ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการเสียชีวิตผู้ประสบภัยช่วงนี้จำนวนมาก นอกจากนี้ สิ่งที่ควรระมัดระวังที่สำคัญช่วงน้ำท่วมที่พบการเสียชีวิตและบาดเจ็บของประชาชนจำนวนมากเช่นกัน คือ อันตรายจากกระแสไฟฟ้าดูด หรืออาจจะถูกเรียกอีกอย่างว่าไฟช๊อต ที่เป็นภาวะที่กระแสไฟฟ้าไหลผ่านร่างกายมีผลทำให้กล้ามเนื้อเกิดการเกร็ง จนไม่สามารถสะบัดให้หลุดได้ ปริมาณของกระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่านร่างกายส่งผลทำให้เสียชีวิต หรือพิการ การดำเนินชีวิตในช่วงน้ำท่วมจึง มีความเสี่ยงหลายประการจากจากภัยอันตรายต่างๆ ดังนั้น เพื่อให้การดำเนินชีวิตในช่วงน้ำท่วมของผู้ประสบภัยเป็นไปด้วยความปลอดภัย จึงขอแนะนำให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอ


    เภสัชกรเชิดเกียรติ เผยคำแนะนำมาตรการจำเป็น 17 ประการเพื่อการป้องกันโรคและภัยจากน้ำท่วม ดังนี้

    1) หากจำเป็นต้องเดินทางหรือทำกิจกรรมทางน้ำควรเตรียมตัวอุปกรณ์ชูชีพให้พร้อม หรือนำอุปกรณ์ประยุกต์ที่หาง่ายติดตัวไปด้วยเสมอ เช่น ถังแกลลอนเปล่าปิดฝา ขวดน้ำพลาสติกเปล่าปิดฝา

    2) ให้ระวังเด็ก ผู้สูงอายุ ผู้พิการ หรือผู้ที่มีโรคประจำตัวจากกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยว เพราะอาจถูกกระแสน้ำพัดพาหรือตกลงในบ่อน้ำลึกได้

    3) อย่าพยามยามวิ่งหรือขับรถผ่านในที่มีน้ำไหลเชี่ยว

    4) ควรงดการดื่มสุรา เนื่องจากทำให้ทรงตัวไม่ดีเพิ่มโอกาสลื่นล้ม พลัดตกจมน้ำ หรือ งดตัดสินใจทำกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการเสี่ยงต่อการเสียชีวิต เช่น กระโดดจากสะพานลงเล่นน้ำ

    5) ให้ตัดสวิทซ์กระแสไฟฟ้าเพื่อป้องกันไฟฟ้าดูดหรือช็อต ขณะเกิดน้ำท่วมขัง

    6) เก็บของมีค่าและจำเป็นขึ้นที่สูงเพื่อป้องกันน้ำท่วม

    7) จัดเตรียมของใช้ที่จำเป็นในการดำรงชีวิต เช่น น้ำดื่ม ไฟฉาย ยารักษาโรคพื้นฐาน ยาโรคประจำตัว และสิ่งของที่มีความจำเป็นในการดำรงชีวิตอื่นๆ

    8) อาหารกล่องที่ได้รับแจก ควรรับประทานทันทีอย่าเก็บไว้ เพราะจะทำให้อาหารบูด เน่าเสีย อาหารเป็นพิษได้ หากมีเหลือควรทิ้งใส่ถุงพลาสติกแล้วมัดปากถุง

    9) ล้างมือก่อนรับประทานอาหารหรือหลังออกจากห้องน้ำ ห้องส้วมทุกครั้ง

    10) ไม่ควรใช้มือขยี้ตาอาจทำให้ตาติดเชื้อ และอาจเสี่ยงเป็นโรคตาแดงได้

    11) ในกรณีที่มีบาดแผล ไม่ควรเดินลุยย่ำน้ำ ย่ำโคลน ควรใส่รองเท้าบูทหรือถุงพลาสติกยาวป้องกันเท้าและสวมทับด้วยถุงเท้าและ รองเท้า แต่หากจำเป็นต้องเดินลุยน้ำ ย่ำน้ำเสร็จแล้วควรทำความสะอาดเท้าและแผลแล้วเช็ดให้แห้ง

    12) กรณีมีสัตว์ป่วยตาย ให้ใส่ถุงพลาสติกแล้วผูกให้มิดชิด หรือนำไปฝัง เผา ไม่ควรนำทิ้งลงน้ำอาจทำให้แพร่เชื้อในกระแสน้ำเกิดโรคระบาดได้

    13) ไม่ควรนำสัตว์เลี้ยงมาอยู่ใกล้ชิดเพราะอาจติดเชื้อโรคจากสัตว์ได้

    14) สำรวจภาชนะที่มีน้ำขังให้คว่ำไว้ เพื่อป้องกันเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลายพาหนะโรคไข้เลือดออก

    15) ควรรับประทานอาหารที่ปรุงสุกเสมอ และดื่มน้ำสะอาด

    16) ทิ้งขยะและเศษอาหารในถุงพลาสติก มัดปากถุงให้มิดชิดห้ามทิ้งลงน้ำ และสุดท้าย

    17) ให้ระมัดระวังสัตว์มีพิษ กัด ต่อย พร้อมทั้งหมั่นสำรวจตรวจตราบ้าน กองผ้า ถุงใส่ของ เพื่อป้องกันสัตว์มีพิษหลบเข้าไปอยู่อาศัยใกล้ตัว.


    ไทยรัฐออนไลน์
    โดย ทีมข่าวการศึกษา
    14 ตุลาคม 2554, 05:00 น.
     
  12. patratyon

    patratyon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    10,434
    ค่าพลัง:
    +6,293
    '17 มาตรการ' ป้องกันอันตรายจากภัยน้ำท่วม

    [​IMG]


    กรมควบคุมโรคแนะ "17 มาตรการ" ป้องกันอันตรายจากภัยน้ำท่วม ระบุสาเหตุส่วนใหญ่ของการจมน้ำเกิดจากการหมดแรงหรือการได้รับอุบัติเหตุชนกระทบกระแทกกับวัตถุ...

    เมื่อวันที่ 13 ต.ค. เภสัชกรเชิดเกียรติ แกล้วกสิกิจ หัวหน้ากลุ่มสื่อสารความเสี่ยง และพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 พิษณุโลก กรมควบคุมโรค กล่าวว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมที่วิกฤติหลายจังหวัดของประเทศไทยในขณะนี้ ส่งผลให้ประชาชนประสบความเดือดร้อนในหลายด้านไม่ว่าจะเป็นด้านที่อยู่อาศัย อาหารการกิน เครื่องนุ่งห่ม และความเจ็บป่วยด้วยโรคต่างๆ ที่มากับน้ำท่วม เช่น น้ำกัดเท้า อุจจาระร่วง ไข้ฉี่หนู ตาแดง ไข้หวัดใหญ่ ไข้เลือดออก รวมทั้งอันตรายจากภัยสุขภาพจากน้ำ เช่น การตกจมน้ำ ไฟฟ้าช๊อต สัตว์มีพิษอันตราย ฯลฯ ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่ของการจมน้ำเกิดจากการหมดแรงหรือการได้รับอุบัติเหตุชนกระทบกระแทกกับวัตถุ

    [​IMG]


    ขณะที่มีการจมน้ำระยะแรกผู้จมน้ำจะพยายามหายใจเอาอากาศเข้าไปให้มากที่สุด แต่ส่วนใหญ่จะเกิดอาการสำลักน้ำเข้าไปในปอด หลังจากนั้นเกิดอาการหมดสติ ชักเกร็ง และหัวใจหยุดเต้นในเวลาต่อมา ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการเสียชีวิตผู้ประสบภัยช่วงนี้จำนวนมาก นอกจากนี้ สิ่งที่ควรระมัดระวังที่สำคัญช่วงน้ำท่วมที่พบการเสียชีวิตและบาดเจ็บของประชาชนจำนวนมากเช่นกัน คือ อันตรายจากกระแสไฟฟ้าดูด หรืออาจจะถูกเรียกอีกอย่างว่าไฟช๊อต ที่เป็นภาวะที่กระแสไฟฟ้าไหลผ่านร่างกายมีผลทำให้กล้ามเนื้อเกิดการเกร็ง จนไม่สามารถสะบัดให้หลุดได้ ปริมาณของกระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่านร่างกายส่งผลทำให้เสียชีวิต หรือพิการ การดำเนินชีวิตในช่วงน้ำท่วมจึง มีความเสี่ยงหลายประการจากจากภัยอันตรายต่างๆ ดังนั้น เพื่อให้การดำเนินชีวิตในช่วงน้ำท่วมของผู้ประสบภัยเป็นไปด้วยความปลอดภัย จึงขอแนะนำให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอ


    เภสัชกรเชิดเกียรติ เผยคำแนะนำมาตรการจำเป็น 17 ประการเพื่อการป้องกันโรคและภัยจากน้ำท่วม ดังนี้

    1) หากจำเป็นต้องเดินทางหรือทำกิจกรรมทางน้ำควรเตรียมตัวอุปกรณ์ชูชีพให้พร้อม หรือนำอุปกรณ์ประยุกต์ที่หาง่ายติดตัวไปด้วยเสมอ เช่น ถังแกลลอนเปล่าปิดฝา ขวดน้ำพลาสติกเปล่าปิดฝา

    2) ให้ระวังเด็ก ผู้สูงอายุ ผู้พิการ หรือผู้ที่มีโรคประจำตัวจากกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยว เพราะอาจถูกกระแสน้ำพัดพาหรือตกลงในบ่อน้ำลึกได้

    3) อย่าพยามยามวิ่งหรือขับรถผ่านในที่มีน้ำไหลเชี่ยว

    4) ควรงดการดื่มสุรา เนื่องจากทำให้ทรงตัวไม่ดีเพิ่มโอกาสลื่นล้ม พลัดตกจมน้ำ หรือ งดตัดสินใจทำกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการเสี่ยงต่อการเสียชีวิต เช่น กระโดดจากสะพานลงเล่นน้ำ

    5) ให้ตัดสวิทซ์กระแสไฟฟ้าเพื่อป้องกันไฟฟ้าดูดหรือช็อต ขณะเกิดน้ำท่วมขัง

    6) เก็บของมีค่าและจำเป็นขึ้นที่สูงเพื่อป้องกันน้ำท่วม

    7) จัดเตรียมของใช้ที่จำเป็นในการดำรงชีวิต เช่น น้ำดื่ม ไฟฉาย ยารักษาโรคพื้นฐาน ยาโรคประจำตัว และสิ่งของที่มีความจำเป็นในการดำรงชีวิตอื่นๆ

    8) อาหารกล่องที่ได้รับแจก ควรรับประทานทันทีอย่าเก็บไว้ เพราะจะทำให้อาหารบูด เน่าเสีย อาหารเป็นพิษได้ หากมีเหลือควรทิ้งใส่ถุงพลาสติกแล้วมัดปากถุง

    9) ล้างมือก่อนรับประทานอาหารหรือหลังออกจากห้องน้ำ ห้องส้วมทุกครั้ง

    10) ไม่ควรใช้มือขยี้ตาอาจทำให้ตาติดเชื้อ และอาจเสี่ยงเป็นโรคตาแดงได้

    11) ในกรณีที่มีบาดแผล ไม่ควรเดินลุยย่ำน้ำ ย่ำโคลน ควรใส่รองเท้าบูทหรือถุงพลาสติกยาวป้องกันเท้าและสวมทับด้วยถุงเท้าและ รองเท้า แต่หากจำเป็นต้องเดินลุยน้ำ ย่ำน้ำเสร็จแล้วควรทำความสะอาดเท้าและแผลแล้วเช็ดให้แห้ง

    12) กรณีมีสัตว์ป่วยตาย ให้ใส่ถุงพลาสติกแล้วผูกให้มิดชิด หรือนำไปฝัง เผา ไม่ควรนำทิ้งลงน้ำอาจทำให้แพร่เชื้อในกระแสน้ำเกิดโรคระบาดได้

    13) ไม่ควรนำสัตว์เลี้ยงมาอยู่ใกล้ชิดเพราะอาจติดเชื้อโรคจากสัตว์ได้

    14) สำรวจภาชนะที่มีน้ำขังให้คว่ำไว้ เพื่อป้องกันเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลายพาหนะโรคไข้เลือดออก

    15) ควรรับประทานอาหารที่ปรุงสุกเสมอ และดื่มน้ำสะอาด

    16) ทิ้งขยะและเศษอาหารในถุงพลาสติก มัดปากถุงให้มิดชิดห้ามทิ้งลงน้ำ และสุดท้าย

    17) ให้ระมัดระวังสัตว์มีพิษ กัด ต่อย พร้อมทั้งหมั่นสำรวจตรวจตราบ้าน กองผ้า ถุงใส่ของ เพื่อป้องกันสัตว์มีพิษหลบเข้าไปอยู่อาศัยใกล้ตัว.


    ไทยรัฐออนไลน์
    โดย ทีมข่าวการศึกษา
    14 ตุลาคม 2554, 05:00 น.
     
  13. Be Cool

    Be Cool เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    98
    ค่าพลัง:
    +185
    งงค่ะ ท่านผู้ว่าซ้ำใครตรงไหนหรือ ท่านก็พูดถูกแล้วนี่กทม.เป็นความรับผิดชอบของท่าน ท่านก็ควรเป็นคนบอกประชาชนเองถ้าจะต้องอพยพ คุณอคติและคิดไปเองมากกว่า เวลานี้ไม่น่าใช่เวลาจับผิดกัน ตัวประชาชนนั่นแหละที่จะสร้างความขัดแย้ง :(
     
  14. FALCON1

    FALCON1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    3,522
    ค่าพลัง:
    +4,863
  15. fonbao

    fonbao สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 เมษายน 2011
    โพสต์:
    593
    ค่าพลัง:
    +22
    ไทยยังมีฝนตกในระยะนี้


    14 ตุลาคม 2554 เวลา 06:00 น.

    <!-- end articleDetailPanel -->
    ไทยตอนบน มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป กลาง-อีสาน-ตะวันออกฝนตกหนักบางแห่ง

    กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศประจำวันศุกร์ที่ 14 ตุลาคม 2554 ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น. ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนาม ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย

    ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบน มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป และมีฝนตกหนักได้บางแห่งบริเวณภาคกลาง ตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออกในระยะนี้

    พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

    ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดอุตรดิตถ์ สุโขทัย กำแพงเพชร พิษณุโลก พิจิตร แพร่ และน่าน อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศา ลมเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดชัยภูมิ นครราชสีมา สกลนคร กาฬสินธ์ ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญและอุบลราชธานี อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 31-32 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

    ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดอุทัยธานี สิงห์บุรี อ่างทอง ลพบุรี สระบุรี และพระนครศรีอยุธยา อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศา ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

    ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดนครนายก สระแก้ว จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศา ลมตะวันตก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

    ภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศา ลมตะวันตก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

    ภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศา อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1- 2 เมตร บริเวณฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

    กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 31-32 องศา ลมตะวันตก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.


    [​IMG] เกาะทุกประเด็นร้อนกับ โพสต์ทูเดย์ดอทคอม คลิก!
     
  16. FALCON1

    FALCON1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    3,522
    ค่าพลัง:
    +4,863
    [​IMG] <TABLE cellSpacing=1 cellPadding=1 width=500 border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD></TD><TD></TD></TR><TR vAlign=center bgColor=#eeeeee><TD width=94>
    กลุ่มเมฆที่ 1 :
    </TD><TD>กลุ่มเมฆฝนปกคลุมภาคเหนือ โดยมีฝนบางแห่งปกคลุมทางตอนล่างของภาค </TD></TR><TR vAlign=center bgColor=#eeeeee><TD width=94>
    กลุ่มเมฆที่ 2 :
    </TD><TD>กลุ่มเมฆฝนปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือโดยมีฝนปกคลุมทางตอนล่างของภาค </TD></TR><TR vAlign=center bgColor=#eeeeee><TD width=94>
    กลุ่มเมฆที่ 3 :
    </TD><TD>กลุ่มเมฆฝนปกคลุมภาคกลางโดยมีฝนปกคลุมทางตอนล่างของภาค </TD></TR><TR vAlign=center bgColor=#eeeeee><TD width=94>
    กลุ่มเมฆที่ 4 :
    </TD><TD>กลุ่มเมฆฝนปกคลุมภาคตะวันออกโดยมีฝนปกคลุมทางตอนล่างของภาคและบริเวณชายฝั่ง</TD></TR><TR vAlign=center bgColor=#eeeeee><TD width=94>
    กลุ่มเมฆที่ 5 :
    </TD><TD>กลุ่มเมฆฝนปกคลุมภาคใต้โดยมีฝนฟ้าคะนองปกคลุมทางตอนล่างของภาคและตามบริเวณชายฝั่งทะเลอันดามันและชายฝั่งอ่าวไทย</TD></TR></TBODY></TABLE>

    C5
     
  17. fonbao

    fonbao สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 เมษายน 2011
    โพสต์:
    593
    ค่าพลัง:
    +22
    ประเด็นร้อน14ต.ค.


    14 ตุลาคม 2554 เวลา 06:10 น.

    <!-- end articleDetailPanel -->
    วาระแห่งชาติเรื่องวิกฤตน้ำท่วมกำลังขยายวงความเสียหายมายัง กทม.เมืองหลวงของประเทศ โดยน้ำเริ่มไหลลงมาหลังจากถล่มพื้นที่หลายจังหวัด จนล่าสุดรัฐบาลได้ประกาศให้พื้นที่ จ.ปทุมธานี เป็นเขตประสบภัยพิบัติและสั่งอพยพคนด่วน

    [​IMG]
    นาทีนี้ความสนใจของประชาชนโดยเฉพาะคน กทม. หันมาจับตาว่ารัฐบาลจะรักษา กทม. ซึ่งเป็นพื้นที่สำคัญที่สุดในการกระจายความช่วยเหลือไปทั่วประเทศได้หรือไม่

    1.เป็นห้วงเวลาลุ้นระทึกจริงๆสำหรับคน กทม. เพราะวันนี้เป็นวันที่สำนักการระบายน้ำ กทม. คาดว่าจะมีมวลน้ำก้อนใหญ่และน้ำทะเลหนุนสูงระหว่างวันที่ 14-18 ต.ค. ขณะที่กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์ว่าจะมีฝนตก 70%ของพื้นที่ โดยพื้นที่เสี่ยงที่จะต้องรับอิทธิพลในครั้งนี้ คือ พื้นที่ชั้นนอกของกทม. อาทิ หนองจอก คลองสามวา มีนบุรี ลาดกระบัง รวมไปถึงเส้นทางผันน้ำออกสู่ทะเลในพื้นที่สมุทรปราการและฉะเชิงเทรา

    2.หลังจากที่ประตูระบายน้ำคลองบ้านพร้าว อ.สามโคก จ.ปทุมธานีแตกในช่วงเย็นวานนี้ ทำให้น้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาไหลมาสู่ กทม.ตอนเหนือกระทบหลายพื้นที่ เช่น มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต รังสิตตอนบนลำลูกกา สายไหม และตอนเหนือถนนรังสิต-ปทุมธานี จับตาปริมาณน้ำในพื้นที่เสี่ยงว่าจะสูงจนน่าเป็นห่วงหรือไม่

    3.ต้องติดตามการสำรวจความเสียหายเพิ่มเติมของนิคมอุตสาหกรรมบ้านหว้า (ไฮเทค) อ.บางปะอินจ.พระนครศรีอยุธยา หลังจากคันกั้นน้ำได้รับความเสียหายจนมีปริมาณน้ำเข้าท่วมในพื้นที่จำนวนมากสร้างความเสียหายเศรษฐกิจรุนแรง ซึ่ง นพ.วรรณรัตน์ชาญนุกูล รมว.อุตสาหกรรม ได้ประเมินเบื้องต้นว่าน้ำได้สร้างความเสียหายให้กับพื้นที่ไปแล้ว 50% จากพื้นที่รวม4,858 ไร่

    4.สุขภาพ (สสส.) ได้ร่วมกับภาคีกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมเครือข่าย เพื่อวางแผนการดำเนินการช่วยเหลือเพื่อนภาคี สสส. และประชาชนทั่วไปที่ประสบภัยน้ำท่วม ขอเปิดใช้อาคารบรรษัทบริหารสินทรัพย์(บบส.) ปากซอยพหลโยธิน 3 (สามารถลงบีทีเอสสนามเป้าประตูทางออก 3)เป็น "บ้านอาสาใจดี" (ศูนย์อาสาสมัครเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย) ทำหน้าที่เชื่อมโยงอาสาสมัคร ระดมทุนและความช่วยเหลือ โดยจะเริ่มเปิดดำเนินการตั้งแต่วันที่ 14 ต.ค. เวลา 10.00-20.00 น.ทั้งนี้จะใช้ศูนย์นี้เป็นจุดรับบริจาคสิ่งของที่จำเป็น

    5.ดำเนินการเติมเงินและขยายระยะฝ่ายประชาสัมพันธ์เอไอเอส ได้เวลาใช้งานให้กับลูกค้าพรีเพดผู้ประสบภัยน้ำท่วมใน 3 จังหวัด คือ พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี และนครสวรรค์ ด้วยวงเงินรวม 30 ล้านบาท โดยเติมเงินให้รายละ 30 บาท พร้อมเติมวัน รวมจำนวนลูกค้ากว่า 1 ล้านราย โดยเร่งเติมเงินให้ลูกค้าตั้งแต่วันที่ 13 ต.ค. และจะแล้วเสร็จภายในวันที่ 14 ต.ค. รวมถึงได้ระงับการตัดสัญญาณลูกค้าโพสต์เพดในช่วงนี้ จนกว่าสถานการณ์จะปกติ

    6.สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยนายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธาน(ส.อ.ท.) เตรียมหารือร่วมกับนายเซ็ทซึโอะ อิอุจิ ประธานองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (เจโทร) และนายเคียวอิจิ ทานะดะ ประธานหอการค้าญี่ปุ่น-กรุงเทพฯ (เจซีซี) เพื่อสอบถามถึงผลกระทบที่เกิดจากสถานการณ์น้ำท่วมมาตรการป้องกัน รวมถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนญี่ปุ่นในไทย ซึ่งต้องติดตามว่าหลังจากที่โรงงานผลิตสินค้าของญี่ปุ่นหลายรายต่างต้องปิดการผลิตในช่วงที่ผ่านมา หลังน้ำท่วมเข้าสู่นิคมอุตสาหกรรมต่างๆ จะทำให้ผู้ประกอบการแต่ละกลุ่มมีการปรับตัวอย่างไรหรือไม่

    7.บอร์ดการบินไทยนัดประชุมบอร์ดโดยจะต้องติดตามความคืบหน้าของสถานการณ์น้ำท่วมที่เข้าสู่พื้นที่ กทม.มากทุกขณะ ว่าจะส่งผลกระทบต่อการเดินทางของประชาชนทั่วไปหรือไม่ และจะต้องมีการปรับตัวเพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างไร

    8.เนื่องในโอกาสครบรอบ 38 ปี เหตุการณ์ 14 ต.ค. 2516 ซึ่งจะมีกิจกรรมขึ้นที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลาบริเวณสี่แยกคอกวัว ถนนราชดำเนินกทม. เพื่อเป็นการไว้อาลัยกับผู้เสียชีวิตและระลึกถึงบาดแผลทางการเมืองจากเหตุการณ์ดังกล่าว ทั้งนี้มูลนิธิ 14 ตุลาในฐานะเจ้าภาพหลักในการจัดงานจะจัดพิธีทางศาสนาและปาฐกถา 14 ตุลาประจำปี 2554 เรื่อง "คืนอำนาจประชาธิปไตยทางเศรษฐกิจให้ประชาชน :ศึกษากรณีฐานทรัพยากรพลังงาน" โดยน.ส.รสนา โตสิตระกูล สว.กทม.


    [​IMG] เกาะทุกประเด็นร้อนกับ โพสต์ทูเดย์ด
     
  18. fonbao

    fonbao สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 เมษายน 2011
    โพสต์:
    593
    ค่าพลัง:
    +22
    แม่ฮ่องสอนอากาศเริ่มเย็น-ยอดดอย20องศา

    ข่าวภูมิภาค วันศุกร์ที่ 14 เดือนตุลาคม พ.ศ.2554 08:16 น.

    <!--[​IMG]
    --><!--[​IMG]
    --><?xml:namespace prefix = fb ns = "http://www.facebook.com/2008/fbml" /><fb:like class=" fb_edge_widget_with_comment fb_iframe_widget" href="http://www.innnews.co.th/แม่ฮ่องสอนอากาศเริ่มเย็น-ยอดดอย20องศา--314369_06.html" layout="button_count" action="like" send="true" colorscheme="light" show_faces="true" font="arial"></fb:like>
    [​IMG]
    อุตุนิยมวิทยา เผย หลายพื้นที่ใน จังหวัดแม่ฮ่องสอน สภาพอากาศเริ่มเย็นลง โดยเฉพาะช่วงเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศาฯ ส่วนยอดดอยประมาณ 20 องศาฯ

    นายพีรัตน์ เรืองสุกใส ผู้อำนวยการสถานีอุตุนิยมวิทยาแม่ฮ่องสอน กล่าวว่า ร่องมรสุมพาดผ่านภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนาม ประกอบกับลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังค่อนข้างแรง ทำให้ภาคเหนือมีฝนกระจายในระยะนี้ส่วนมากทางตอนล่างของภาค

    สำหรับ จ.แม่ฮ่องสอน สภาพอากาศเช้าวันที่ 13 ต.ค. อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศาเซลเซียส ส่วนยอดดอยประมาณ 20 องศาเซลเซียส ปริมาณฝนในพื้นที่ จ.แม่ฮ่องสอน เฉลี่ย 30 % ของพื้นที่ อย่างไรก็ตามคาดว่า ปลายเดือนตุลาคม 2554 อากาศจะเริ่มลดลงและหนาวเย็นอย่างแน่นอน อากาศจะหนาวเย็นในช่วงเดือนธันวาคม 2554 - มกราคม 2555 โดยเดือนมกราคม 2554 ที่ผ่านมาอุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ย 11.9 องศาเซลเซียส ที่สถานีอุตุนิยมวิทยาแม่ฮ่องสอน สำหรับยอดดอยประมาณ 8 - 9 องศาเซลเซียส

    นายวิศณุ อรุณบำรุงวงศ์ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นหลายในพื้นที่ อาจส่งผลกระทบทำให้นักท่องเที่ยวชาวไทยที่จะเดินทางมาท่องเที่ยว จ.แม่ฮ่องสอน ลดลงร้อยละ 5 - 10 แม้ว่าอากาศจะหนาวเย็นลงก็ตาม ส่วนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติคงไม่มีผลกระทบในการเดินทางเข้ามาเที่ยวแน่นอน


    Link : http://www.innnews.co.th/แม่ฮ่องสอนอากาศเริ่มเย็น-ยอดดอย20องศา--314369_06.html
     
  19. fonbao

    fonbao สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 เมษายน 2011
    โพสต์:
    593
    ค่าพลัง:
    +22
    น้ำประตูน้ำจุฬาฯสูงกว่าคลองรังสิต 4เมตร

    ข่าวสังคม วันศุกร์ที่ 14 เดือนตุลาคม พ.ศ.2554 08:26 น.

    [​IMG]

    ระดับน้ำประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ สูงกว่าคลองรังสิต 4 เมตร ฝนตกตลอดทั้งคืน เจ้าหน้าที่ เร่งเสริมกระสอบทรายป้องกันเต็มที่

    ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ขณะนี้ ระดับน้ำยังคงสูงกว่าระดับน้ำในคลองรังสิตถึง 4 เมตร ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ของเทศบาลรังสิต ก็ได้มีการเร่งเสริมกระสอบทรายเพิ่มขึ้นอีก ซึ่งจากเดิมมีความสูง 1 เมตร เพื่อเตรียมรับมือ หากระดับน้ำสูงขึ้น ขณะที่ ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา มีฝนตกอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ไม่ได้ส่งผลให้ระดับน้ำเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ ยังมีเจ้าหน้าที่คอยเฝ้าระวังตลอด 24 ช.ม. ด้วย

    Link : http://www.innnews.co.th/น้ำประตูน้ำจุฬาฯสูงกว่าคลองรังสิต-4เมตร--314371_03.html
     
  20. fonbao

    fonbao สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 เมษายน 2011
    โพสต์:
    593
    ค่าพลัง:
    +22
    ปทุมฯจนท.เร่งกู้ประตูน้ำคลองบ้านพร้าว

    ข่าวภูมิภาค วันศุกร์ที่ 14 เดือนตุลาคม พ.ศ.2554 07:00 น.
    <!--[​IMG]
    --><!--[​IMG]
    --><?xml:namespace prefix = fb ns = "http://www.facebook.com/2008/fbml" /><fb:like class=" fb_edge_widget_with_comment fb_iframe_widget" href="http://www.innnews.co.th/ปทุมฯเร่งกู้ประตูน้ำคลองบ้านพร้าว-นิคมไฮเทควิกฤติ--314346_06.html" layout="button_count" action="like" send="true" colorscheme="light" show_faces="true" font="arial"></fb:like>

    [​IMG]
    นายก อบจ.ปทุมฯ เผย จนท.เร่งซ่อมประตูระบายน้ำคลองบ้านพร้าวทั้งคืน คืบแล้วร้อยละ 60 คาดพรุ่งนี้ใกล้เสร็จสมบูรณ์

    นายชาญ พวงเพชร นายก อบจ.ปทุมธานี เปิดเผย ความคืบหน้าการซ่อมประตูระบายน้ำคลองพร้าว อ.สามโคก จ.ปทุมธานี ว่าขณะนี้เจ้าหน้าที่ทหาร อบจ. อบต. จนท. อาสาสมัคร และวิศวะอิตัลไทย ระดมเครื่องจักร อุปกรณ์ เร่งดำเนินการบล๊อคประตูระบายน้ำคลองบ้านพร้าวกันอย่างต่อเนื่อง โดยสามารถดำเนินการซ่อมไปได้แล้วกว่าร้อยละ 60 โดยตลอดทั้งคืนเจ้าหน้าที่จำดำเนินการต่อไปจนถึงช่วงเช้าซึ่งน่าจะใกล้เสร็จสมบูรณ์ ขณะเดียวกันในวันนี้ทางกรมชลประทาน จะนำเครื่องมือและเจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยอีกแรงหนึ่งด้วย แต่การทำงานน่าจะเป็นไปด้วยความยากลำบากมากขึ้น เนื่องจากน้ำที่ไหลจะมีความแรงมากขึ้น เพระพื้นที่แคบลง ส่วนอุปกรณ์ที่ยังขาดแคลนและต้องการอยู่ตอนนี้ คือ แผ่นซิปฮาย

    แต่อย่างไรก็ตาม การทำงานในตอนนี้ไม่มีอะไรหนักใจเพราะยังสามารถเดินหน้าทำงานต่อไปได้เร็วมาก ยืนยันว่าจะพยายามแก้ไขปัญหาอย่างสุดความสามารถ เพราะจุดนี้ถือเป็นจุดใหญ่และหากซ่อมไม่ได้ก็จะส่งผลกระทบเป็นบริเวณกว้าง


    ขณะที่บรรยากาศที่ หมู่บ้านรัตนโกสินทร์ 200 ปี ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ได้เกิดความโกลาหลขึ้น เมื่อมีประกาศจาก ศปภ. ว่าจะมีน้ำท่วมในพื้นที่ อ.คลองหลวง ทั้ง นวนคร หมู่บ้านไวท์เฮาส์ รวมทั้ง หมู่บ้านรัตนโกสินทร์ 200 ปี ในเขต อ.ธัญบุรี ซึ่งหลังจากมีการประกาศดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัว ต่างพากันเก็บข้าวของกันอย่างจ้าละหวั่น แต่พอเวลาผ่านไปก็มีการออกประกาศใหม่ว่า ไม่มีน้ำท่วมและระดับน้ำยังอยู่ในการควบคุมได้ ทำให้ชาวบ้านไม่พอใจที่มีการออกประมั่ว ๆ โดยไม่มีข้อมูลที่ดีพอ

    โดย น.ส.วิชชุดา ธงจรเข้ ชาวบ้านไวท์เฮาส์ เทศบาลนครรังสิต เปิดเผยว่า หลังจากที่ ทราบการแถลงตอนแรก คนในหมู่บ้านมีการตื่นตัวกันมากขึ้น และเตรียมขนอพยพก็มี แต่ครอบครัวของตนนั้นที่บ้านได้เตรียมมาเป็นอาทิตย์ โดยพายายออกไปอาศัยที่อื่น และคนในหมู่บ้านส่วนใหญ่อพยพออกไปแล้วก็มี ส่วนใหญ่เป็นคนแก่และเด็ก บางคนที่มีญาติก็ออกไปอยู่บ้านญาติ ส่วนคนที่มีรถ ก็จะนำไปจอดไว้ในที่ปลอดภัย ตามที่มีการจัดสถานที่ไว้ให้

    เช่นเดียวกับ นายจตุภูมิ บุญเกิด ชาวบ้าน ม.รัตนโกสินทร์ กล่าวว่า หลังจากที่ได้ฟังแถลงคนในหมู่บ้าน ก็การมีกระตือรือร้นมากขึ้น คนในหมู่บ้านก็ยกของหนีน้ำ หลังจากที่ได้ฟังการแถลง แต่ก่อนหน้านี้ ก็ได้มีการเตรียมตัวไว้ก่อนอยู่แล้ว


    ด้านนายพีรศักดิ์ หินเมืองเก่า ผู้ว่าราชการจังวัดปทุมธานี เผยความคืบหน้าการซ่อมประตูระบายน้ำคลองบ้านพร้าว ว่า จนถึงขณะนี้ สถานการณ์ไม่น่าเป็นห่วงและจะดำเนินการซ่อมให้เสร็จสิ้นภายในวันนี้ ซึ่งจะช่วยป้องกันไม่ให้น้ำไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือประชาชนได้มาก ส่วนกรณีที่ ศปภ. ออกมาแถลงให้ประชาชน อพยพคนออกจากพื้นที่ แต่ภายหลังได้ออกมาแถลงแก้ไข จนสร้างความสับสนให้กับประชาชนเป็นอย่างมาก โดยเรื่องดังกล่าวนั้น ผู้ว่าราชการจังวัดปทุมธานี กล่าวว่า ทาง ศปภ. ไม่ได้มีการสอบถามข้อมูลจากทางจังหวัดแต่อย่างใด และไม่ทราบว่าเอาข้อมูลมาจากไหน ซึ่งสื่อมวลชนต้องไปถามว่า ศปภ. เอาข้อมูลมาจากทีใด เพราะตนคงไม่มีอำนาจ หรือ มีสิทธิ์ไปบอก ขณะเดียวกัน ได้ขอให้ประชาชนในพื้นที่ ติดตามสถานการณ์และฟังคำเตือนจากทางจังหวัดและทางเทศบาล ที่ได้มีระบบเตือนภัยของทางจังหวัดอยู่แล้ว รวมถึง ตรวจสอบด้วยตนเอง เนื่องจากเป็นคนในพื้นที่ ย่อมรู้ข้อมูลและประเมินเองได้ว่า ควรย้ายออกจากพื้นที่หรือไม่

    อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลา 01.30 น. ที่ผ่านมา ชุดปฏิบัติการอุดช่องขาด บริเวณประตูระบายน้ำบางโฉมศรี ต.ชีน้ำร้าย อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี ของกรมชลประทาน ได้เดินทางมาถึงแล้วและเตรียมพร้อมปฏิบัติการซ่อมประตูระบายน้ำคลองบ้านพร้าว และจุดอื่น ๆ ที่มีปัญหาแล้ว

    นิคมไฮเทควิกฤติ!ยังอุดรอยรั่วไม่ได้

    ผู้สื่อข่าวรายงาน สถานการณ์ล่าสุด ที่บริเวณนิคมอุตสาหกรรมไฮเทค ต.บ้านหว้า อ.บางประอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ในช่วงเช้าของวันนี้ โดยระบุว่า ระดับน้ำยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยระดับสูงมากกว่า 60 ซม.แล้ว ทั้งนี้ เนื่องจากความพยายามอุดรอยรั่วยังไม่สำเร็จ ขณะที่พนักงาน ที่ที่ต้องอยู่เฝ้านิคมอุตสาหกรรมไฮเทคนั้น ยังคงมีอยู่จำนวนหนึ่ง เนื่องจากจำเป็นต้องเฝ้าทรัพย์สินและป้องกันการเข้าไปโจรกรรม แต่ทางผู้ประกอบการเองก็มีแผนในการอพยพพนักงานไว้แล้วเช่นกัน หากเกิดเหตุฉุกเฉินหรือไม่สามารถอยู่ได้ก็จำเป็นต้องอพยพทันที ขณะที่นิคมอุตสาหกรรมบางประอินนั้น ทางเจ้าหน้าที่ได้พยายามทำคันดินล้อมรอบไว้ และเสริมให้สูงขึ้นอีกจำนวน 50 ซม.เพื่อป้องกันน้ำไหลทะลักเข้าท่วม

    อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องติดตามปฏิบัติการอุดรอยรั่วบริเวณนิคมอุตสาหกรรมนิคมไฮเทค ต่อในวันนี้ หลังจากเมื่อวานที่ผ่านมา การมีแผนว่าจะนำเฮลิคอปเตอร์ชีนุก ขนาด 2 ใบพัด ยกตู้คอนเทนเนอร์ ไปอุดเป็นแนวคันกั้นน้ำ แต่ภารกิจดังกล่าว ก็จะต้องชะงัก เนื่องจากไม่มีไฟส่องสว่าง และในนิคมอุตสาหกรรมไฮเทค ตัดกระแสไฟฟ้า ไม่สามารถประสานรถไฟฟ้าส่องสว่างเข้ามาได้

    มทภ.3เตือนให้ปชช.อพยพ-น้ำสูงต่อเนื่อง

    สำหรับสถานการณ์น้ำท่วม จังหวัดนครสวรรค์ ล่าสุด พล.ท.วรรณทิพย์ ว่องไว แม่ทัพภาคที่ 3 ได้แจ้งเตือนไปยังประชาชนชาวจังหวัดนครสวรรค์ ฝั่งตะวันตก ซึ่งเป็นพื้นที่ประสบปัญหาอุทกภัย โดยเฉพาะในเขตเทศบาลเมืองให้เก็บสิ่งของขึ้นที่สูงและบ้านชั้นเดียวให้อพยพออกจากพื้นที่ หลังจาก เจ้าหน้าที่ ยังไม่สามารถซ่อมและปิดกั้นพนังกั้นน้ำที่ชำรุดได้ ทั้งนี้ สถานการณ์นั้นถือว่า ยังอยู่ในขั้นวิกฤติ เพราะน้ำจากเจ้าพระยา ได้ไหลทะลักจากสะพานเดชาติวงศ์ สูงกว่า 50 ซ.ม. ส่งผลให้พื้นที่โดยรอบ มีระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ตอนนี้ น้ำไหลเข้าบริเวณ 4 แยกสะพานเดชาติวงศ์ ถนนเอเชีย สถานีขนส่งผู้โดยสาร สถานที่ราชการหน่วยงานสำคัญเกือบทั้งหมด นอกจากนี้ หลังจากที่มีการประกาศ ได้มีประชาชนแจ้งขออพยพออกจากพื้นที่จำนวนมาก ล่าสุด บริเวณ ซ.บ้านสวนรีสอร์ท เจ้าหน้าที่ทหารจาก กองทัพภาคที่ 3 ได้เข้าไปช่วยเหลือแล้ว เนื่องจาก น้ำได้ไหลท่วมจนเกือบมิดชั้น 2 ของบ้าน และน้ำไหลเชี่ยวอย่างรุนแรง

    อย่างไรก็ตาม สำหรับความเป็นอยู่ในศูนย์อพยพ พบว่า เต็มเกือบทุกศูนย์ โดยมียอดผู้อพยพรวม ๆ กว่า 10,000 คน และคาดว่าตลอดทั้งคืน ก็มีการแจ้งขออพยพกันเพิ่มมากขึ้นอีก ขณะที่ น้ำดื่มยังขาดแคลนอย่างมาก เนื่องจาก ระบบประปาของทางจังหวัดเสียหายทั้งหมดและไม่สามารถผลิตน้ำได้ แม้ในวันนี้ เทศบาลนครสวรรค์ จะเร่งกู้โรงผลิตน้ำ แต่น้ำก็ไหลทะลักเข้าโรงงานไม่สามารถใช้การได้เลย

    ส่วนแผนการสำหรับเช้าวันนี้ เจ้าหน้าที่ อยู่ระหว่างการประชุมร่วมกันเพื่อวางแผนการทำงาน โดยเบื่องต้นจะต้องมีการตรวจสอบ ดูคนที่ติดอยู่ภายในบ้าน เพื่ออพยพมาอยู่ในที่ปลอดภัย



    Link : http://www.innnews.co.th/ปทุมฯจนท-เร่งกู้ประตูน้ำคลองบ้านพร้าว--314346_06.html
     

แชร์หน้านี้

Loading...