อะไรคือแรงบันดาลใจที่ทำให้คุณฝึกกสิณ

อะไรคือแรงบันดาลใจที่ทำให้คุณฝึกกสิณ(good)

 

กิเลส ล้วนๆ

- -'

 

ตอบง่ายๆ "อยากเล่นอภิญญา "
จบ

 

ใช่เลย กิเลสล้วนๆเหอๆ

 

จากการที่นั่งสมาธิเป็นประจำ เป็นเวลานานทำให้กลายเป็นความเคยชิน เวลาอ่านหนังสือธรรมะก็ไม่ได้หนังสือ ไปได้อย่างอื่นแทน หมายถึงอ่านแล้วไม่เข้าใจใจความในหนังสือ ก็เลยจุดเทียนอ่านหนังสือ แล้วก็เพ่งมองเปลวเทียน อ่านหนังสือไปพร้อมๆ กับการเพ่งเทียน แล้วได้สมาธิดี เข้าใจธรรมะในหนังสือดี ไม่รู้ว่าสิ่งที่ทำอยู่ คือการฝึกกสิณไฟโดยไม่รู้ตัว พอหลับตาทำสมาธิก็เลยกำหนดเปลวเทียนเป็นอารมณ์ได้สมาธิเร็วมาก ดีมาก

อาโลกสิณไ้ด้เมื่อตอนไปบวช ปฏิบัติอย่างเดียวล้วนๆ ได้มาแต่ไม่รู้ว่าอะไร อันนี้ก็ไม่รู้ตัวอีกเช่นกัน ถือว่าเป็นผลพลอยได้

ต่อมานั่งสมาธิหลับตามานาน เบื่อ ก็เลยนั่งแบบลืมตาดูบ้าง แต่เพ่งดูพระพุทธรูป เพราะอยากรู้ว่าพระพุทธรูปมีอะไรมาสถิตย์อยู่ ได้สมาธิดีมาก เพราะตอนที่บวชเคยนั่งสมาธิแล้วมาดูพระแก้วมรกตที่บ้าน เห็นองค์พระเป็นแก้วใสพร้อมทั้งฉัพพรรณรังสีงดงามมาก ก็เลยอยากเห็นพระพุทธรูปองค์อื่นๆ บ้างว่าจะเหมือนกันไหม อันนี้เริ่มต้นผิดทางแต่ลงท้ายถูกทาง

กสิณอสุภะ ได้ตอนที่กำหนดจิตทำสมาธิพุทโธทุกลมหายใจเข้าออก ทุกอิริยาบถ เจริญวิปัสสนา ในระหว่างที่ไปงานศพคนรู้จัก จนสมาธิจิตแนบแน่น พิจารณาตั้งแต่ก่อนตาย จนตายกลายเป็นศพ และจากศพกลายเป็นเถ้าถ่าน จากเถ้าถ่านไม่เหลืออะไรไว้เชยชม คนตายคนนี้มีบุญมาก เพราะทำให้เราเห็นธรรม

วาโยกสิณ ก็เคยทำโดยไม่รู้ตัวเหมือนกัน ไม่รู้ว่าสิ่งที่ทำเป็นกสิณ เพราะชอบเพ่งมองท้องฟ้า แล้วเห็นโมเลกุลต่างๆ ปลิวลงมา บางครั้งก็เห็นเป็นอักขระเล็กๆ (อันนี้สงสัยใกล้บ้า) เรียกว่า "ปราณ" สามารถมองลมที่พัดมาแรงๆ ก่อนที่ฝนจะตก เพ่งมองไปที่กลุ่มลมนั้น แล้วบอกว่าให้พัดเลยไปที่อื่น รีบๆ ผ่านไปเลยนะ ปรากฎว่าพายุลูกนั้นพัดเลยไปจริงๆ ไปทั้งลมและฝน ไปหอบหลังคาบ้านของหมู่บ้านถัดไป ตรงที่เราอยู่ไม่เป็นอะไรเลย

อย่าเชื่อนะจนกว่าจะได้พิสูจน์ แต่ทั้งหมดที่เล่ามา เกิดขึ้นด้วยความไม่ตั้งใจ ไม่ได้คิดที่จะศึกษา สนใจแต่เรื่องธรรมะและการทำสมาธิเท่านั้นเอง เดี๋ยวนี้วางลงหมด รู้สึกว่าชอบก็หนัก ไม่ชอบก็หนัก ก็เลยวางดีกว่า

ผู้ที่ต้องการฝึกแล้วเห็นผลทันใจ ก็ต้องตั้งใจฝึกอย่างอุกฤษณ์ทีเดียว เพราะเวลาเรานั่งสมาธิ เราก็ต้องอธิษฐานบารมีทุกครั้ง ตั้งใจอย่างเด็ดเี่ดี่ยว อาโลกสิณไ้ด้ภายใน 7 วัน อสุภะได้ภายใน 3 วัน กสิณไฟฝึกอยู่ 1 ปีเต็ม วาโยเนี่ยฝึกมาตั้งแต่เด็ก เพราะชอบมองท้องฟ้าทั้งกลางวันและกลางคืน อาโปยังฝึกไม่ได้หรือไม่ค่อยได้ฝึกอย่างจริงจัง เพราะว่าอะไรที่รู้แล้วก็จะไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่ ชอบทางลัด

สรุปว่าแรงบันดาลใจ คือการปฏิบัติธรรมสมถกัมมัฏฐาน และทุกข์นั่นเอง

 

อยาก ตัดกิเลส ทั้งปวง

 

อภิญญา เป็นอุบายที่สามารถให้เราสามารถเผยแพร่พุทธศาสตร์ไปอย่างกว้างขวางและสามารถช่วยเหลือผู้คนได้ ซึ่งผู้ที่ทรงอภิญญาได้อย่างน้อยๆ ศีล5ก็มีอยู่แน่ๆแล้ว
ต่อไปก็ไม่เฉพราะพระที่จะมีอภิญญาได้ในสมัยพระพุทธเจ้าได้ห้ามภิกษุ แสดงฤทธิไว้
แต่คนธรรมดาก็ทำได้โดยสามารถแสดงและสอนให้ผู้อื่นได้กว้างขวางเกิดประโยชน์

อภิญญา | Facebook เข้าไปกด like กันนะครับ

 

เพราะเป็นพุทธดำรัส

ระวังจะไปปรามาสพุทธดำรัสเข้านะครับ
การรังเกียจอิทธิฤทธิ ต่อไปแม้จะบรรลุธรรมก็ไม่มีคุณวิเศษใดๆ
เหมือนอย่างกับคนที่มีฤทธิด้วยบรรลุธรรมด้วย​

พุทธดำรัส:-ภิกษุผู้เพ่งกสินเพียงแค่ลัดนิ้วมือเดียว เรากล่าวว่าไม่ฉันข้าวของชาวบ้านเสียเปล่าเลย

พุทธดำรัส:-ดูก่อนอุทายี อีกประการหนึ่ง เราได้บอกปฏิปทาแก่สาวกทั้งหลายแล้วสาวกทั้งหลายของเราปฏิบัติตามแล้ว ย่อมเจริญกสิณายตนะสิบประการ....... สาวกของเราเป็นอันมาก จึงได้บรรลุบารมีอันเป็นที่สุดแห่งอภิญญาอยู่

“ ดูก่อนอุทายี อีกประการหนึ่ง เราได้บอกปฏิปทาแก่สาวกทั้งหลายแล้วสาวกทั้งหลายของเราปฏิบัติตามแล้ว ย่อมเจริญฌานสี่....... สาวกของเราเป็นอันมาก จึงได้บรรลุบารมีอันเป็นที่สุดแห่งอภิญญาอยู่

“ ดูก่อนอุทายี อีกประการหนึ่ง เราได้บอกปฏิปทาแก่สาวกทั้งหลายแล้วสาวกทั้งหลายของเราปฏิบัติตามแล้ว ย่อมรู้ชัดอย่างนี้ว่า กายของเรานี้แลมีรูปประกอบด้วยมหาภูตสี่ เกิดแต่บิดามารดา...... มีอันทำลายและกระจัดกระจายเป็นธรรมดา และวิญญาณของเรานี้ก็อาศัยอยู่ในกายนี้ เนื่องอยู่ในกายนี้.... เปรียบเหมือนแก้วไพฑูรย์อันงาม...... มีด้ายเขียวเหลืองแดงขาวหรือนวล ร้อยอยู่ในนั้น..... สาวกของเราเป็นอันมาก จึงได้บรรลุบารมีอันเป็นที่สุดแห่งอภิญญา ......
“ ดูก่อนอุทายี อีกประการหนึ่ง เราได้บอกปฏิปทาแก่สาวกทั้งหลายแล้วสาวกทั้งหลายของเราปฏิบัติตามแล้ว ย่อมนิรมิตกายอื่นจากกายนี้ มีรูปเกิดแต่ใจ มีอวัยวะน้อยใหญ่ครบถ้วน มีอินทรีย์ไม่บกพร่อง..... เปรียบเหมือนบุรุษจะพึงชักไส้ออกจากหญ้าปล้อง ...... สาวกของเราเป็นอันมาก จึงได้บรรลุบารมีอันเป็นที่สุดแห่งอภิญญาอยู่

“ ดูก่อนอุทายี อีกประการหนึ่ง เราได้บอกปฏิปทาแก่สาวกทั้งหลายแล้วสาวกทั้งหลายของเราปฏิบัติตามแล้ว ย่อมได้บรรลุอิทธิวิธีหลายประการ....... สาวกของเราเป็นอันมาก จึงได้บรรลุบารมีอันเป็นที่สุดแห่งอภิญญาอยู่

“ ดูก่อนอุทายี อีกประการหนึ่ง เราได้บอกปฏิปทาแก่สาวกทั้งหลายแล้วสาวกทั้งหลายของเราปฏิบัติตามแล้ว ย่อมได้ยินเสียงสองชนิด คือเสียงทิพย์ และเสียงมนุษย์....... ย่อมกำหนดรู้ใจของสัตว์อื่น ของบุคคลอื่นด้วยใจ..... ย่อมระลึกชาติก่อนได้เป็นอันมาก....... ย่อมเห็นหมู่สัตว์ที่กำลังจุติ กำลังอุปบัติ..... ย่อมทำให้แจ้งซึ่งเจโตวิมุตติ ปัญญาวิมุตติอันหาอาสวะมิได้ เพราะอาสวะสิ้นไป ....... สาวกของเราเป็นอันมาก จึงได้บรรลุบารมีอันเป็นที่สุดแห่งอภิญญาอยู่

“ ดูก่อนอุทายี ธรรมห้าประการนี้แล เป็นเหตุให้สาวกทั้งหลายของเราสักการะ เคารพ นับถือ บูชาแล้วพึ่งเราอยู่”

มหาสกุลุทายิสูตร

___________________
เชิญร่วมกันพัฒนาประเทศไทยให้สามารถอยู่ร่วมกันได้ทุกเชื้อชาติทุกศาสนาและทุกลัทธิการเมือง ตามพระเมตตาธรรมอันเป็นเครื่องค้ำจุนโลกของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙​

 

choice น้อยจังเลยครับ T.T

 

อยากรู้ อยากเห็นมั้ง

 

ส่วนใหญ่จะเอากิเลสมากกว่า