ถามเรื่องจิตครับ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ลูกคนกลาง, 15 ตุลาคม 2011.

  1. ลูกคนกลาง

    ลูกคนกลาง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    72
    ค่าพลัง:
    +22
    คือผมเป็นอะไรไม่รู้จิตชอบวิ่งพล่านแบบ เวลา มีคนพูดมาอย่างหนึ่งจิตก็จะตอบทันทีเลยแบบดีบ้างไม่ดีบ้าง แต่เวลามันเริ่มวิ่ง ผมก็จะภาวนา พุทโธ ถึงสงบ
     
  2. ลูกคนกลาง

    ลูกคนกลาง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    72
    ค่าพลัง:
    +22
    ลืมถามเลยว่าควรจะทำอย่างไรดีครับ
     
  3. Pukhaotong Brrpta

    Pukhaotong Brrpta สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2011
    โพสต์:
    59
    ค่าพลัง:
    +1
    อ้างอิง:
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-RIGHT: 1px inset" class=alt2>ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ ลูกคนกลาง [​IMG]
    คือผมเป็นอะไรไม่รู้จิตชอบวิ่งพล่านแบบ เวลา มีคนพูดมาอย่างหนึ่งจิตก็จะตอบทันทีเลยแบบดีบ้างไม่ดีบ้าง แต่เวลามันเริ่มวิ่ง ผมก็จะภาวนา พุทโธ ถึงสงบ
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    :cool: ขันธ์ ๕ บังคับบัญชาไม่ได้หรอกครับ ทุกคนเป็นเหมือนคุณ ลองดูวิธีที่เคยทำเมื่อตอนเริ่มฝึกแรกๆในชีวิต

    วันหนึ่งผมไปถวายสังฆทานที่วัดสร้อยทองเพราะได้ข่าวว่าดังมีแมวตาเพชรด้วย พอถวายสังฆทานกับหลวงพ่อพระครูปัญญาโสภิตเสร็จ หลวงพ่อก็บอกว่าโยมอุปัฏฐากวนิดา พี่นิจ เคยเป็นพี่สาวผมสมัยชาติหนึ่งที่เป็นลูกท่าน ท่านก็รับผมเป็นลูกด้วย ก่อนกลับท่านบอกว่าอีก ๒ อาทิตย์ผมจะถอดจิตได้

    แต่ก็ลืมไปแล้วไม่ได้ติดใจอะไรเป็นพิเศษ สองอาทิตย์พอดีเป๊ะ! วันนั้นผมไปค้างแรมที่โรงแรมในทับสะแก เป็นโรงแรมครึ่งไม้ครึ่งตึก แต่นอนไม่หลับเพราะมีเสียงรอดมาจากข้างห้องและหน้าห้องเลยนอนภาวนาแบบนี้.......

    ผมนอนปล่อยตัวตามสบายไม่บังคับส่วนหนึ่งส่วนใดทั้งสิ้น เหมือนเรานอนดูซากศพตัวเองอย่างนั้น เราจะรู้สึกว่าจิตกับร่างกายมันแยกออกจากกันเหมือนน้ำกับน้ำมันที่อยู่ในแก้วเดียวกัน ดูให้ดีนะครับ จิตไม่ได้ออกไปข้างนอกร่างกาย แต่เหมือนอยู่ในสมองดูร่างกายตัวเองอยู่ แต่มันแยกออกจากกัน ต้องให้รู้สึกเข้าใจว่าเราไม่ได้บังคับส่วนหนึ่งส่วนใดของร่างกายจะเข้าใจง่าย เมื่อเข้าใจแล้วต่อไปแม้ว่าจะบังคับร่างกายให้เดิน ยืน นั่น นอน จิตก็จะแยกออกจากกายโดยอัตโนมัติ เพราะเข้าใจด้วยปัญญานั่นเอง เช่นว่ามันปวดเมื่อยตัว ปวดเมื่อยก็ตัวหนึ่ง จิตตัวรู้ก็ตัวหนึ่ง ไม่ใช่ที่เขาสอนกันว่าให้รู้อยู่ๆนะครับ อย่างนี้เรียกว่าฌาน ๔ สุขวิปัสโก ไม่มีฤทธิ์ไม่มีเดช ใช้สำหรับเจริญสติปัฎฐาน ๔ ถ้ายังไม่เข้าใจฌาน ๔ ใช้งานตัวนี้ก็จะเจริญสติปัฎฐาน ๔ ยังไม่ได้ เพราะตัวรู้ยังไม่ถึงฌาน ๔ หยาบใช้งาน ดั่งที่วัดต่างๆเขาสอนกันนั่นแหละครับยังใช้ไม่ได้ บางทีตัวรู้ก็อยู่ในกณิกสมาธิบ้าง อุปจารสมาธิบ้าง ฌาน ๑ บ้าง ฌาน ๒ บ้าง ฌาน ๓ บ้าง ไม่แน่บางครั้งจิตตัวรู้ของเขาอาจจะไปอยู่ในสมาธิฌาน ๔ ก็ได้แต่เขาไม่รู้

    พร้อมกับหายใจเข้าพุท หายใจออกโธ คิดว่าลมหายใจออกทางผิวหนังทั่วสรรพกายทำอยู่อย่างนี้จนกระทั่งกายเบา ใจเบา ผมก็ลุกขึ้นไปนั่ง หันมาดูเห็นตัวเองนอนอยู่ที่เดิม คือลุกขึ้นไปนั่งแค่ครึ่งตัว ตกใจวูปกลับเข้าร่างกายเลย

    โอ้โฮ! เหลือเชื่อไหมครับที่หลวงพ่อพระครูปัญญาโสภิตบอกว่าอีก ๒ อาทิตย์ผมจะถอดจิตได้ ตรงเป๊ะ!เลยครับ



    ____________________
    เชิญร่วมกันพัฒนาประเทศไทยให้สามารถอยู่ร่วมกันได้ทุกเชื้อชาติทุกศาสนาและทุกลัทธิการเมือง ตามพระเมตตาธรรมอันเป็นเครื่องค้ำจุนโลกของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙<!-- google_ad_section_end -->
     
  4. ลูกคนกลาง

    ลูกคนกลาง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    72
    ค่าพลัง:
    +22
    ผมขอบคุณพี่มากเลยครับผมก็เพิ่งฝึกด้วยครับแล้วอีกอย่างยังเด็กอยู่มากขอขอบคุณครับ
     
  5. paetrix

    paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,480
    ค่าพลัง:
    +1,880
    คุณมีสติ เห็น สภาวะธรรม(จิตรับรู้อารมณ์)ของตัวเองแล้วนี่ครับ ว่า พอกระทบอะไรแล้วเป็นอย่างไร.....แล้วภาวนาแล้วสงบ คุณสมบัติมันเป็นอย่างนั้นแหละครับ...ทีนี้ สติระลึกให้ได้ว่า กุศล และอกุศล เป็นเบื้องต้น..แล้วศึกษาต่อไปนะครับ:cool:
     
  6. paetrix

    paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,480
    ค่าพลัง:
    +1,880
    แล้วลองหวนไปคิดถึงคำว่า อริยสัจสี่ ดู บ้าง ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค ศึกษา และ เทียบ เคียงดูว่า อริยสัจ ใหนเป็นอย่างไรนะครับ:cool:
     
  7. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,805
    ค่าพลัง:
    +7,940
    ลืมถามเลยเนาะ

    ดีนะ ที่กล่าวออกมาว่า จะถามอย่างไรดี เพราะผมไม่รู้จะตอบยังไง
    แต่ถ้ามาถามว่า จะถามยังไง เอ่อ อันนี้ พอช่วยได้

    ก่อนจะถาม ก็ต้องมาดูกันก่อนว่า คุณรู้อะไรบ้างแล้ว การภาวนาเขา
    ก็พูดกันเสียเหลือเกินว่า ต้องดู "ธรรมคู่" ทีนี้ ธรรมคู่ คุณก็มีอยู่แล้ว
    เห็นแล้ว คือ มี "ฝุ้งกระจายไป จิตออกจากฐาน" กับ "จิตที่ไม่ฝุ้งกระ
    จายไป จิตกลับสู่ฐาน"

    พูดตามท้องเรื่องคือ เห็น "จิตไหลไปคิด" กับ "จิตกลับมาบริกรรม" เป็น
    ธรรมคู่ปรากฏ ก็เลย มีของที่เขาเอาไว้พิจารณาความเกิดดับ เป็นที่เรียบ
    ร้อย เลยไม่ต้องถาม หรือ นึกคำถามไม่ออก ก็เป็นธรรมดา

    คราวนี้ มันเป็น "ธรรมคู่" บทที่ว่า ด้วยธรรมคู่ เขาก็พูดเต็มๆกันว่า

    "เรียนธรรมคู่ เพื่อรู้ธรรมหนึ่ง" เอ่อ ได้เค้าคำถามแล้วหละ ธรรมคู่
    นี่เห็นแล้ว แต่ ธรรมหนึ่ง ที่ได้จากการเห็น ธรรมคู่ อยู่ตรงไหน

    ดังนั้น คำถามที่คุณควรจะถามคือ

    จากธรรมคู่ทั้งสองตัว มันเป็นคู่กัน หากมี ความสงบจากบริกรรม
    ก็ต้องมี ความฝุ้งซ่านปรากฏ ตามมาให้เห็น ดั่งเงาของกันและกัน

    ด้วยเหตุนี้ การยึดความสงบจากบริกรรม มันก็เท่ากับ ยึดการปฏิเสธ
    การฝุ้งซ่าน ซึ่ง การยึด และ การปฏิเสธ คือ ตัณหา กับ วิภวตัณหา
    หรือมันคือ ตัณหา ทั้งคู่ แล้ว ธรรมหนึ่ง ที่สิ้นตัณหา อยู่ตรงไหน

    "ธรรมหนึ่ง ที่เรียกว่า รู้อยู่ที่ฐานของจิต จริงๆ อยู่ตรงไหน ครับ ?"

    นี่เลย ลองเอาไปถามดู ไม่แน่ อาจจะได้คำตอบก่อนจะถาม ก็เป็นได้
     
  8. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,199
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    ธรรมดาของจิตวิ่งพล่าน เป็นกันทุกคนครับ

    การภาวนาเป็นการข่มให้สงบชั่วขณะ มันไม่รู้อะไรเกี่ยวกับธรรชาติจิตเลย

    ลองค่อยๆระลึกรู้ลักษณะจิตวิ่งพล่าน ซัดซ่ายของจิตในขณะปัจจุบันที่ปรากฏดูครับ
     
  9. นราสภา

    นราสภา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,964
    ค่าพลัง:
    +359
    จิตวิ่งพล่านก็ ปกติดีอยู่เเล้วนี่จ๊ะ
     
  10. ทศมาร

    ทศมาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2010
    โพสต์:
    166
    ค่าพลัง:
    +237
    จิตมันเป็นธรรมชาติอย่างนี้แหล่ะครับ ฝึกสติไปเรื่อยมันจะระลึกได้เองเป็นธรรมชาติ ฝึกเก่งๆจะเห็นเดี๋ยวก็แว๊บ เดี๋ยวก็แว๊บ ไปทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ นี่คือธรรมชาติของจิตย่อมส่งออกนอก
     

แชร์หน้านี้

Loading...