ถามครับถาม เจริญอาปานุสติ มีใครเจอมั้ง และกสินไฟ แล้วเจอลูกแก้วใสๆ มีรูปด้วย

ตัวผมนั้นเจริญอาปานุสติ แล้วก็ ตัวผมมันสั่นไปเองกาย สั่นนี่คือ สิวผมขึ้นทันที จากหน้ากําลังมีความสุข มันทุกข์ทันที รู้สึกแบบว่าท้องผม ประมาณสะดือมันกระสับกระส่าย มันหนาว อ่าครับ แล้วผมก็ฝึกกสินไปด้วย กสินแสง กสินไฟ เลยอยากถามท่านว่า กิเลศ มารมันมาเลย ตอนนี้มันก็ยังอยู่ ผม ใช้ สมถะ แบบว่าสะกดมันอยู่ แล้ว ก็ เมื่อวารนี้ ผมมองไปที่ท้องฟ้า ผมเจอ ใสๆ ไม่ใช่พระอาทิตย์แน่นอน พระอาทิตย์สีแดง อ่อ รูป ดวงแก้งใส ผมมองไปที่บนฟ้านะครับ แล้วก็เห็น ลูกกลม ใหญ่ เหมือนกัน ในลิงค์ที่ผมให้ไป รูปที่หลวงพ่อถือ อันนั้นอะ ผมเห็นแต่ไม่ได้จับแบบหลวงพ่อ มีใครเป็นบ้างครับ

 

งดเล่นคอม แล้วก็ถือสันโดษ ปิดวาจาด้วย น่าจะช่วยได้มาก

 

ขอเล่านิดนึง เมื่อวาร ผมสู้กับนิวรณ์จน ผมหลับไปเลย ตอนแรกสบายๆ พอจิตเจอกับนิวรณ์ ตัวผม ที่เป็นสสติ ดันไป ยุ้ง เวงกรรมเลยตอนนั้น
ใจผมมันหดหู่ มันเบื่อ มันเซ็ง อยากตาย (เพราะว่าเบื่อ โลก ไม่อยากเป็นอะไร) แต่พอคิดอีกทีไม่เอากําลังใจมี นึกถึงคําที่พระพุทธเจ้า แล้วก็หลวงพ่อฤษีลิงดํา สอน ถ้าแพ้นิวรณ์ ไปตายซะดีกว่า ตอนนั้นกําลังใจมาทันที ผมท่องนะโม ภาวนาใหญ่ ถ้าชาตินี้ ตัวข้าพระพุทธเจ้าไม่ได้ช่วยผู้คนไม่ได้คุ้มครองผู้คน ขอให้ชีวิตที่เหลือนี้ ขอถวายเป็นพุทธบูชา
ผมเลยรู้เลยว่า ผมเกิดมาทําไม ผมไม่ได้เกิดมาชดใช้กรรมนะครับ ผมเกิดมา เพื่อ เผาผลาญเป็นสุขของชาวโลก ถ้าถามว่า เผาผลาญอะไร กิเลศ ทั้งหลาย ผมจะทําให้มันเบาๆบางลง
ตัวผมตอนนั้น เจริญอาปานุสติอยู่ด้วย ตัวผมจะตายอยู่แล้วตอนนั้นร่างกาย สิวขึ้น ผิวทรุดโทรม ทันที จะตายอยู่แล้วตอนนั้น แต่ก็ไม่สนใจ จะตายก็ช่าง ชีวิตนี้เราเกิดมาเพื่อช่วยเหลือเพื่อนร่วมโลก เกิดมายังไงก็ตายขอตาย มีประโยชน์ช่วยเหลือ คนบ้าง สักคนก็ยังดี

อ่อตอนนั้นผมเบื่อสุดภาวนาไปได้ จิตมันก็คิดไม่ได้ นิวรณ์ มารก็มาด้วย มันจะฆ่าเราด้วยซ้ำ ตอนนั้น ผมลองคิด ตัวผมไม่มีอะไรเป็นที่พึ่งเลยตอนนั้น เลยขอให้เข้าถึงพระพุทธ พระธรรมพระอริยะสงฆ์ ขอให้ผม ได้ช่วยเหลือผู้คน ถ้าตอนตายผมขอถวายชีีวิตเป็นพุทธบูชา

กลับเข้าเรื่อง เมื่อวาร ผมเห็นมองไปที่ท้องฟ้า เห็น ดวงดาว (ผมก็ไม่กล้าบอกว่าดวงดาวรึเปล่า แต่มันใหญ่ เหมือนจะจับได้แต่จับไม่ได้เพราะอยู่บนฟ้าผมจับไม่ได้ ตอนนั้นผมเพ่งมันทันที ฝึกกสินไปในตัว) ลูกกลมๆนั้นมัน ใสแต่ยังไม่บริสุทธิ ยังขาวๆเล็กๆ

 

..วิตกจริตกำลังเข้าครอบใจ..การทำสมาธิเพื่อให้จิตมีอารมณ์สงบและสบาย..หากล่วงเข้าไปสู่วิตกจริตให้แก้แนวทางใหม่ครับ..หยุดกับอารมณ์สมาธิเท่านั้นไม่ต้องสนใจความคิดใดๆครับ..ความคิดเบื่อๆอยากๆแทรกให้ปล่อยวางมันลง..อยากอยู่อยากตายเป็นเรื่องของจิตที่เข้าไปปรุงแต่งอย่าเข้าไปยุ่งครับปล่อยมันไปครับ..มีสติอยู่กับจิตและลมเท่านั้นก็พอไม่ต้องปรุงแต่งครับ..เรื่องดวงขาวๆนั้นอาจเป็นเม็ดฟอง..เศษผงที่มีอยู่ในดวงตาเราอันเป็นปรกติก็ได้ขอให้พิจารณาให้ดีครับ..

 

ฝึกกรรมฐานหลายกองมากๆ...คาดว่าคงศึกษามาพอสมควร...ไปจับหลักกรรมฐานให้ได้ก่อนนะครับ...ถ้าทำอย่างนี้....พัฒนายาก...

 

ดวงใสๆๆอาจเป็นกสิณนั่นเองถ้าตอนแรกๆๆเห้นเป้นก้อนแสงมาก่อน

เป็นกสิณแสงอย่าตกใจทำใจนิ่งๆๆพยายามนั่งดูจิตของเราให้มากๆจะได้รู้ว่าเกิดมามีจุดมุ่งหมายใด ถ้าจิตยังไม่นิ่งอีกให้ปล่อยจิตให้ว่างให้หมด คำตอบจะปรากฎในจิตเอง

 

อินทรีย์อ่อนอยู่ ดูตัวเราเหมือนกับดูทีวี ดูละครเรื่องนึงไปก่อน หากว่ามันแข็งแรงขึ้นมาบ้างจะโน้มใจให้เกิดกุศลได้ง่ายมากขึ้นเรื่อย ๆ

เห็นคุณถามเยอะมากนะครับ หลายกระทู้เลย ประเด็นตอนนี้คงพูดถึงเรื่องทำเรื่อย ๆ อย่าให้ขาด การงานก็ไปตามปรกติ แต่ใช้การสังเกตุตนเองให้มากขึ้น เมื่อสงสัยอย่างใดอย่าปล่อยใจกระวนกระวาย ดูเฉย ๆ สักแต่ว่ารู้ พอมีกำลังขึ้นมามันก็ควบคุมได้มาก มีกุศลจิตปรากฏบ่อยขึ้น

 

อย่าไปสนใจมัน-*- จะฝึกอะไรก็เลือกเอาซักอัน ปนกันมากจะเป็นฟุ้งซ่าน
เจออะไรก็เฉยๆ ยึดคำภาวนาไว้ อย่าให้เผลอก็พอ


ปล. จขกท คงไม่ได้กวนนะ
(เเอบคิดว่าตั้งกระทู้กวนถ้าไม่ใช่ก็ขออภัยด้วย)