โง่...หัวไม่ดี... คิดไม่ทันคนอื่นเขา..จะมีโอกาสประสบความสำเร็จในชีวิตไหม ?

ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ตมิได้เกี่ยวข้องกับบุคลในเรื่องนี้​

มันเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตผม ทั้งที่ตอนเด็ก ๆ ผมก็เรียนเก่งนะ ได้ที่ 1 มาตลอด แต่รู้สึกว่่าตั้งแต่เข้าเรียนมหาลัยรู้สึกว่า สมองจะรับรู้อะไรได้ช้า ไม่เข้าใจ หรือจำอะไรก็ไม่ค่อยได้ ต้องอาศัยในการอ่านหนังสือหลาย ๆ รอบ ก่อนไปสอบ และก็ผ่านมาได้ด้วยดี จนปัจจุบันอายุ 29 ปี ยังทำอะไรไม่เป็นชิ้นเป็นอัน เป็นพนักงานต๊อกต๋อยคนหนึ่งที่เงินเดือนน้อยนิด ถ้าไม่ดิ้นรนอะไรชีวิตก็ไม่ลำบากเพียงแต่ว่าไม่มีเงินก็บ ผมต้องการที่จะสร้างอนาคตด้วยตนเองจากหนึ่งสมองสองมือที่ตนเองมีอยู่ .............และไม่อยากจะเป็นมนุษย์เงินเดือนไปตลอดชีวิต ความร่ำรวยของผม คือ ความเป็นอิสระทางด้านเวลาและการเงิน อยากไปไหนก็ไป อยากทำงานก็ทำ อยากทำด้วยใจรัก ไม่ใช่ทำงานเพราะแรงบังคับจากงานประจำ แต่.......................................................ปัญหาของผมก็ คือว่า

รู้สึกว่าตัวเองหัวไม่ดีซะแล้ว แค่ตัวเลขง่าย ๆ ผมยังคิดไม่ใจไม่ออก ยังงี้ผมจะไปทำมาค้าขายอะไรได้ล่ะ เลขง่าย ๆ คิดไม่ได้ซะงั้น และคิดอะไรตามคนอื่นเค้าไม่ค่อยทัน เค้าคิดไปถึงไหนต่อไหนแล้ว ผมก็ยังอยู่กับที่ เข้าใจช้า มันเกิดอะไรขึ้นกับสมองของผม ทั้ง ๆ ที่ผมก็พยายามนั่งสมาธิเพื่อให้สมองมันปลอดโปร่ง แต่มันเหมือนมีอะไรมาฉุดไว้ อายุจะ 30 แล้ว คิดเปลี่ยนงานจะดีไหม ถ้าเปลี่ยนงานก็คงเป็นมนุษย์เงินเดือน ชีวิตมันก็เหมือนเดิมครับ ที่บ้านผมมีที่อยู่พอควรประมาณ 7 ไร่ได้ คือทางบ้านทำอาชีพเกษตรอยู่แล้ว แต่ใจผมก็ยังครุมเครืออยู่ว่าตนเองรักอาชีพด้านการเกษตรไหม แต่คิดดูอีกทีทำเกษตรสวนผสมก็คงจะไปได้รุ่งเหรอเปล่า...สับสนชีวิตจังเลย ครับ

ประสบการณ์ผมที่ผ่านมา

1. เรียนจบคณะเกษตรศาสตร์ แต่ใจมันรักคอมพิวเตอร์ ได้ทำงานด้านคอมอย่างทุลักทะเล เป็นมนุษย์เงินเดือนต๊อกต๋อยคนหนึ่ง
2. ประสบการณ์ออกแบบป้ายโฆษณา สื่อสิ่งพิมพ์มาปีกว่า ๆ
3. ทำ adsense เสริม 2-3 เดือน ได้ครั้งหนึ่ง ลอง ebay มาพักหนึ่งแล้ว แต่ยังขายไม่ออก
4. เริ่ม ๆ เปลี่ยนแนวคิดจากที่ไม่ค่อยชอบเกษตร เพื่อที่จะมาพัฒนาที่ดินทำกินของที่บ้าน(ก็เรียนจบเกษตรมา)

ผมจะไปเดินทางไปไหนดี .....

 

ผมว่า ลองใช้วิชา ที่ได้เรียนมา + กับ แนวคิดแบบ เศรษฐกิจพอเพียงดูนะครับ
ไหนๆก็เรียนมาแล้วก็ต้องใช้ วิชา เผื่อการเกษตรเป็นอะไรที่มัน ไม่ใช่ไม่ชอบ แต่ ทำเป็น
ผมว่าการที่คนเราจะประสบความสำเร็จก็ไม่ได้หมายความว่าคุณต้องฉลาด หลักแหลม ทันคนนะครับ มหาเศรษฐี บางคนก็จบแค่ ป.4
จะประสบความสำเร็จหรือไม่นั่นขึ้นอยู่ว่า คุณมีความสุขกับชีวิตมากแค่ไหนต่างหาก
เงินเป็นสิ่งภายนอกจริงๆถ้าคุณเป็น คนรวยแล้วครอบครัวแตกแยก
คุณจะเลือกเงินที่ทำให้คุณสบายตัวไป แต่ลำบากใจ หรือ จะเลือกครอบครัวที่จะทำให้คุณสบายใจแต่ลำบากกายนิดหน่อย

ผมก็อายุไม่มากเท่าคุณแต่ผมก็ขอวิสาสะ บอกนะครับ
ถ้าไม่พอใจผมก็ ขอโทษด้วยนะครับ ผมแค่ต้องการแสดงความคิดเห็นเท่านั้นเอง

 

1.ลองทำสมาธิ หายใจเข้าพุท-หายใจออกโธ 5-15 นาทีต่อวัน

2.ไปซื้อ อาหารเสริม แบล๊คมอร์ ที่เกี่ยวกับ น้ำปลา

แล้วจะดีขึ้น(เรื่องความจำบำรุงสมองนะครับ)

ขออนุญาติถามคุณเกิดปีนักษัตอะไรหรอครับ

 

ดูแล้วยังลังเลหลายเรื่องนะครับ ไม่แน่ใจว่าทางไหนดีที่สุด ไม่แน่ใจว่าทางไหน
สบายที่สุด ไม่แน่ใจว่าทางที่เลือกจะนำมาซึ่งสิ่งที่เราต้องการ คุณอาจจะให้
ความสำคัญกับการทำอย่างไรมากเกินไป คุณน่าจะเริ่มจากจะทำอะไรเป็นอันดับ
แรกมากกว่า มันเหมือนขาดทิศทาง ลองเรียงลำดับดูว่าต้องการอะไรมากที่สุด
ตามลำดับ เงิน เวลา งานที่รัก มันน่าจะง่ายขึ้ืน

 

ผมกำลังศึกษาชีวิตของเศรษฐีในสมัยพุทธกาลจากพระไตรปิฏก และรวบรวมว่าท่านเหล่านั้นมีอะไรที่เหมือนกัน การดำเนินชีวิต กรรมที่ส่งผล แนวคิด และอื่นๆหากสนใจผมยินดีส่งรายละเอียดและให้คำปรึกษาเพราะผมก็กำลังปฏิบัติตามแนวนี้อยู่ ไม่รู้ว่าจะได้ผลอย่างไร อีเมลล์ rangchai@yahoo.com

 

ไม่เป็นไรครับ
ยังดีที่เรารู้ว่าเราช้า เมื่อเรารู้จุดอ่อนของตัวเอง เราก็พยายามปรับปรุงแก้ไข เรื่องใดที่ปรับได้ก็ปรับ เรื่องใดที่ปรับไม่ได้ก็ไม่ฝืน..

บางครั้งความช้าช่วยให้เราเป็นคนใจเย็น สุขุมรอบคอบ เรื่องสำคัญๆ ส่วนมากในชีวิตมักต้องใช้เวลาในการตัดสินใจ ก็เพียงเราใจเย็นๆ ค่อยๆคิด ปัญหาทุกอย่างก็จะค่อยๆ คลี่คลายไปเอง

ส่วนเรื่องที่ต้องใช้ปฏิภานไหวพริบเพื่อแก้ไขปัญหา อันนี้ผมขอแนะนำหนังวือชื่อ "กำลังความคิด" ของพลตรีหลวงวิจิตวาทการ หนังสือดีที่ช่วยให้เราได้ฝึกฝนวิธีการสร้างปฎิภาณตามวิธีการที่ถูกต้อง

ขอเป็นกำลังใจให้ครับ

 

มีโอกาสประสบความสำเร็จได้ค่ะ

ดูอย่างโนบิตะสิคะ เคล็ดลับคือ มีเพื่อนแบบโดเรมอนค่ะ


เอ่อ
พูดให้เข้าใจง่ายคือ เราต้องคบบัญฑิตไว้น่ะค่ะ
สุภาษิตที่ว่าคบคนพาลพาลพาไปหาผิดคบบัณฑิตบัณฑิตพาไปหาผลนั้นเรื่องจริงนะคะ

ใจกว้าง ซื่อสัตย์ ประหยัด อดทน นะคะ (พยายามอยู่เหมือนกัน)

โดยความปราถนาดีจาก
สมาคมคนไม่เอาถ่าน

 

คุณก็ทำเกษตรแหละครับ แต่เอาความชำนาญของคอมพิวเตอร์ของคุณเข้ามาประยุกต์ใช้กับงานครับ

ผมเองเรียนวิศวะ ไม่ได้เกี่ยวกับเกษตรเลยซักนิด แต่ก็ประยุกต์ความรู้ที่ได้เรียนมา
ไปจัดระบบอะไรๆหลายอย่างให้กับชาวบ้านได้

คุณยังโชคดี มีที่ดินตั้งเยอะแยะ ผมอยากมีที่ดินเกษตรใจจะขาด
แต่เกิดมาบ้านอยู่ในเมือง ไม่มีเงินแม้แต่จะไปซื้อที่ดิน

เรื่องโง่ ผมโง่กว่าคุณเยอะ ตั้งแต่สมัยอนุบาลแล้ว
สอบทีไรอยู่ในกลุ่ม top ten ตลอด แต่นับจากท้ายตารางขึ้นมานะ
ทุกวันนี้มาเรียนวิศวะได้ และใกล้จบและ ทั้งที่ก่อนเข้ามาเรียน
มีแต่คนสบประมาทและดูถูก

 

อัจฉริยะ ส่วนใหญ่ จะถูกสังคมและคนที่ทำตัวแบบตามๆกันไป ทำเรื่องเดิมๆ มองว่าโง่ ว่างี่เง่า หรือว่าบ้า และมีตัวอย่าง1คน เขาคนนั้นคือ อัลเบิร์ด ไอสไตล์ เราคิดว่าเราโง่เพราะ บรรทัดฐานของสังคมครับ เรากำลังพยายามทำตัวเราให้ต้องการเหมือนคนอื่น ที่คุณคิดแบบนั้น แสดงว่า ไม่ใช่ทางเรา ลองหาสิ่งที่ชอบและสิ่งที่ต้องการนะครับ แล้วใช้อิทธิบาท4แล้วลุยครับ สู้ๆนะครับ คุณอาจจะดีใจกับความผิดหวัในวันนี้ ก็ได้ เพราะทุกอย่างไม่แน่นอน ฮึด ฮึด ฮึดๆๆๆๆๆ นะครับ

 

ความสำเร็จที่ท่านต้องการคืออะไรล่ะ:

ความสำเร็จ หมายถึงการให้หัวใจแก่งานที่ท่านรัก มันหมายถึงการมีความรักในงาน ความสำเร็จ หมายถึงการใส่ใจอย่างมุ่งมั่นต่อเป้าหมายชีวิต มันหมายถึงการรวมพลังทั้งหมดของตนเองให้แก่สิ่งที่ต้องการ

ประมาณ ๙๙% ทีเดียวที่ความสำเร็จนั้นเป็นเรื่องของจิตใจ มันเป็นเรื่องของความรัก ความยินดี ความชื่นชมในโลกมนุษย์ ความเชื่อมั่น ความเยือกเย็น ความมั่นคง ความเลื่อมใส ความกล้าหาญ ความร่าเริง ความช่างฝัน ความคิดริเริ่ม ความอดทน ความซื่อตรง ความอ่อนน้อม ความอดกลั้น และความมีชีวิตชีวา

ความสำเร็จมิใช่การมาถึงจุดหมายปลายทางเช่นเดียวกับการปีนขึ้นไปถึงยอดเขา แต่มันจะหมายถึงความก้าวหน้าในแต่ละก้าวที่สูงขึ้นไปอย่างต่อเนื่อง มันเป็นความงอกงามอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

ความสำเร็จ หมายถึงการค้นพบความสามารถและผิดพลาด และความล้มเหลวโดยไม่รู้สึกพ่ายแพ้ มันเป็นการปฏิเสธไม่ให้ความสูญเสียที่เกิดขึ้นเฉพาะหน้านั้นทำลายชีวิตอันยาวนานลงไป

ความสำเร็จ หมายถึงการกล้าเผชิญกับความยากลำบาก ฟิลลิปส์ บรุ๊ค กล่าวคำบันดาลใจว่า "โปรดอย่าหวังให้ได้งานที่เท่าเทียมกับกำลังความสามารถของท่าน โปรดหวังให้ท่านมีกำลังความสามารถเท่าเทียมกับงานที่ท่านทำ เมื่อนั้นความมหัศจรรย์มิใช่จะอยู่ที่การทำงาน แต่จะอยู่ที่ตัวท่าน"

ความสำเร็จเป็นเรื่องของความต่อเนื่อง เป็นเรื่องเฉพาะบุคคล และเป็นเรื่องส่วนตัว มันเป็นคำตอบสำหรับการใช้เวลาทุกนาที ทุกชั่วโมง ทุกวัน ทุกสัปดาห์ และทุกปีให้มีประโยชน์สำหรับชีวิตอันเบิกบาน

จากหนังสือที่อาจารย์ท่านหนึ่งมอบให้ 17 ปีที่แล้ว
แต่ก็ใช่ว่าอ่านแล้วจะทำตามได้ทั้งหมด ก็เป็นอีกแง่มุมหนึ่งที่นำมาแบ่งปันกัน
ในความคิดเห็นส่วนตัว มันมีเหตุปัจจัยทั้งภายนอกและภายใน
ที่สำคัญคือความอดทนพยายาม คิดดีทำดี การจะละความยึดมั่นถือมั่น บางทีก็ต้องถือให้มันสุดๆ ทำให้เต็มที่ แล้วสุดท้ายจึงพบว่ามันก็แค่นั้น มันเป็นเช่นนั้นเอง สุดท้ายก็ต้องตายเหมือนกัน การที่เรามีลมหายใจ มีสุขภาพดี มีกำลังลุกขึ้นมาทำอะไรได้ มีอาหาร มีที่อยู่อาศัย ตอนนี้ก็ขอให้นึกว่าเป็นความโชคดีที่สุดแล้ว ล่ะ....

 

"เรามีได้เพราะเรามีความกตัญญูต่อ แม่ ทำให้เรามีเงินมีทองไม่ลำบากครับ"

...._/|\_....ขอยืนยันอีกหนึ่งเสียงครับ ...._/|\_....​

 

ผมจะไปเดินทางไปไหนดี .....
@เดินทางกราบ....ขอขมา......พระที่บ้าน(บิดามารดา)
ช่วยกิจบ้าง.......บำรุงให้.....สุขสดศรี
บุญต่อให้......ปฏิบัติธรรม....ใจชื่นดี
ดีอื่นมี..........คือน้ำใส.......เพียรใส่เติม
@พิจารณา.......มงคลทั้ง.......สามสิบแปด
ถือเป็นแบบ.......ดำเนินก้าว.....ทุกสถาน
จักพออยู่.........ทำพอกิน......บุญประสาน
กรรมฐาน.........กตัญญู........ส่งเสริมพลัน
@ถ้าไม่ได้.......งานที่ชอบ.....ก็จงชอบ
งานรับมอบ.......งานที่ทำ......นั่นแหละนา
หากเที่ยวหา......งานดีชอบ.....เปลืองเวลา
เกษตรมา.........คอมก็ได้......ประสานกัน

 

ขอเป็นกำลังใจให้ครับ และขอให้คุณอ่านข้อความของคุณ <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->starcom131045 นี่เป็นข้อพิสูจน์อย่างดีเลยครับ มีข้อให้คิดได้หลายอย่างเลยครับ คือ
1. ตามหาในสิ่งที่ตนเองชอบ งานที่ทำแล้วเรามีความสุข เหมือนอย่างที่คนๆหนึ่งเขาพูดไว้ว่า ข้าพเจ้าทำงานทุกวัน ไม่มีวันหยุด เพราะทุกวันเป็นเหมือนวันหยุดของข้าพเจ้า เพราะอะไรน่ะหรือ เพราะข้าพเจ้าทำงานที่ข้าพเจ้ารัก สนุก และมีความสุข เพราะฉะนั้น ข้าพเจ้าจึงไม่รู้สึกว่าข้าพเจ้ากำลังทำงานเลย
2. จงอย่าคิดว่าเมื่อตนเองเรียนมาอย่างไร ก็ต้องไปทำอย่างนั้นเด็ดขาด เพราะถ้าใจเราไม่ชอบ ไม่รักในสิ่งที่ทำเพราะคิดอยู่แต่กรอบเดิมๆเหมือนอย่างที่สังคมเขาทำตามกันมาว่า เรียนอย่างไรก็ต้องเป็นอย่างนั้น เพราะคุณจะไม่พบกับความสำเร็จเลยในชีวิตนี้ แต่ให้หาในสิ่งที่เรารัก และทำแล้วมีความสุข
3. ฝรั่งคนหนึ่งเขาค้นพบในสิ่งที่เขารัก ชอบ และมีความสุขอย่างแท้จริงและยั่งยืนเมื่อเขามีอายุปาเข้า 40 แล้ว เขาจึงเขียนหนังสือชื่อ ชีวิตเริ่มต้นเมื่อ 40
4. เกิดมาเป็นมนุษย์อย่าได้คิดละทิ้งศีลธรรม คุณธรรม และจริยธรรมเป็นอันขาด เพราะสิ่งนี้จะเป็นแสงสว่างนำทางคุณสู่จุดหมายอย่างราบรื่นและปลอดภัย

 

ถ้าคุณอยากประสบความสำเร็จจะทางโลกหรือทางธรรม คุณต้องมี

1.กัลยาณมิตร
2.โยโสมนสิการ(ความคิดที่แยบคาย ถูกหลัก มีเหตุ มีผล มีวิสัยทัสน์ ฯลฯ)

ป.ล โยโสมนสิการ ไม่ใช่ i.q เป็นสิ่งที่สามารถฝึกฝนพัฒนาได้ ไม่ได้มีมาแต่กำเนิด

ขอให้เจริญในธรรมครับ

 

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=IUpPuCT4rGg]สุนทรพจน์ สตีฟ จ๊อบ Steve Jobs ซับภาษาไทย - YouTube[/ame]

 

ลองดูครับ เผื่อได้ข้อคิดอะไรบ้าง

 

ไม่รู้จะแนะนำยังไงเพราะว่าทุกวันนี้ตัวเองยังโง่อยู่...โง่ตั้งแต่มาเกิดเป็นคนแล้ว...!!!

 

ผมสนใจครับและขอคำปรึกษาหน่อยครับ อีเมล์ผม mrxman_2549@hotmail.com ส่งรายละเอียดให้หน่อยนะครับ

 

สู้ๆครับ เป็นกำลังใจให้ ขอให้ประสบความสำเร็จนะครับ