บารมีผมไม่ถึง จึงไม่ได้ไปอยู่กับพระอาจารย์อินทร์ถวาย สันตุสสโก

ในห้อง 'หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต' ตั้งกระทู้โดย khundech, 5 พฤศจิกายน 2011.

  1. khundech

    khundech Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    50
    ค่าพลัง:
    +54
    เรื่องมีอยู่ว่า หลวงลุงของผมบวชอยู่วัดป่านาคำน้อย ของพระอาจารย์อินทร์ถวาย สันตุสสโก แต่ผมก็ไม่มีโอกาศไปกราบท่านชักที พอดีทางวัดต้องการคนขับรถเพิ่ม น้าผมเลยติดต่อกับหลวงลุงว่าจะให้ผมไปขับ ผมดีใจมากที่จะได้รับใช้พระสุปฏิปันโน แต่พอถึงเวลาจริงๆ หลวงลุงบอกว่าทางวัดได้คนขับรถแล้ว
    ผมยังรู้สึกเสียใจจนทุกวันนี้ (ผ่านมาเกือบ 3 ปีแล้ว)

    ประวัติ

    พระอาจารย์อินทร์ถวาย สันตุสสโก เกิดเมื่อวันที่ 27 เมษายน 2488 ตรงกับปีระกา ที่บ้านหนองแวง ตำบลหนองสูงใต้ อำเภอหนองสูง จังหวัดมุกดาหาร (จังหวัดนครพรมในขณะนั้น) โยมบิดาชื่อ คุณพ่อแดง โยมมารดาชื่อ คุณแม่จอมแก้ว ผิวขำ เป็นบุตรคนที่ 6 ในจำนวนพี่น้อง
    7 คน เป็นหญิง 3 คน เป็นชาย 4 คน
    ท่านบรรพชาขณะมีอายุ 11 ปี ณ วัดกลางสนาม อำเภอหนองสูง จังหวัดมุกดาหาร เมื่อปี พ.ศ. 2500 โดยมี หลวงปู่กงแก้ว ขันติโก เป็นพระอุปัชฌาย์ บรรพชาแล้ว ได้อยู่ศึกษาปฏิบัติธรรมกับหลวงปู่หล้า เขมปัตโต วัดบรรพตคีรี (ภูจ้อก้อ) ตำบลหนองตูมใต้ อำเภอหนองสูง จังหวัดมุกดาหาร เป็นระยะเวลา 9 ปี และได้รับการญํตติเป็นพระภิกษุที่วัดศิลาวิเวก อำเภอเมือง จังหวัด
    มุกดาหาร เมื่อปี พ.ศ. 2508 โดยมีหลวงปู่คำ คัมภีรญาโณ เป็นพระอุปัชฌาย์ เมื่ออุปสมบทแล้ว ในพรรษาแรกได้อยู่จำพรรษากับหลวงปู่หล้า เขมปัตโต ที่วัดภูจ้อก้อ อีกหนึ่งพรรษา
    หลังจากนั้น ได้ไปจำพรรษากับหลวงปู่จาม มหาปุญโญ ที่วัดป่าวิเวกวัฒนาราม บ้านห้วยทราย อำเภอคำชะอี จังหวัดมุกดาหาร 1 พรรษา แล้วติดตามองค์หลวงปู่จาม ขึ้นไปจังหวัดเชียงใหม่ และไปจำพรรษากับหลวงปู่แหวน สุจิณโณ ณ วัดดอยแม่ปั๋ง อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่ เป็นเวลา 1 พรรษา แล้วกลับลงมาจำพรรษาอีกครั้งหนึ่งกับหลวงปู่จาม มหาปุญโญ ที่วัดป่าห้วยทราย อำเภอคำชะอี จังหวัดมุกดาหาร หลังจากนั้น ช่วงปี 2512-2525 ได้อยู่จำพรรษาที่วัดป่าบ้านตาด ตำบลบ้านตาด อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี กับองค์หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
    ช่วงออกพรรษา ได้ลงองค์หลวงตามาวิเวกในแถบจังหวัดเลย อุดรธานี หนองคาย ราว พ.ศ. 2523 เห็นว่าสถานที่ตั้งวัดป่านาคำน้อยในปัจจุบัน เป็นสถานที่สัปปายะเหมาะสำหรับการภาวนา จึงได้รวมกับคณะศรัทธาญาติโยม พุทธบริษัททุกหมู่เหล่าร่วมกัน จัดตั้งเป็นวัดปฏิบัติในพระพุทธศาสนา และได้พัฒนาให้มีความเจริญสืบเนื่องเป็นลำดับมา อำนวยประโยชน์สมตามปณิธานของท่านผู้ก่อตั้งวัด ที่จะให้สถานที่แห่งนี้เป็นสถานฝึกอบรมทั้งทางร่างกาย (ศีลธรรม) และจิตใจ (จริยธรรม) ให้เป็นผู้สมบูรณ์ทั้งทางด้านวิชชาและจรณะควบคู่กันไป สมตามพุทธภาษิตที่ว่า “อัตตานัง ทะมะยันติ ปัณฑิตา บัณฑิตย่อมฝึกซึ่งตน)

    งานสาธารณประโยชน์
    เมื่อวัดได้รับการพัฒนา ในขอบเขตที่พอเป็นไป ท่านพระอาจารย์อินทร์ถวาย สันตุสสโก ได้ให้ความสนใจงานสาธารณสุข และงานการศึกษาเป็นพิเศษ โดยได้ร่วมกับคณะศรัทธาญาติโยม พุทธบริษัททุกหมู่เหล่า เป็นสะพานบุญเชื่อมโยง ชักชวน ร่วมกันประกอบสาธารณกุศลในงานอันเป็นสาธารณประโยชน์ เช่น การก่อสร้าง อาคารพยาบาล จัดหาเครื่องมือและครุภัณฑ์ทางการแพทย์ แก่โรงพยาบาลหลายแห่ง ทั้งโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลจังหวัด โรงพยาบาลอำเภอ หอพยาบาลโรงเรียน อาคารเรียน ห้องสมุด ห้องคอมพิวเตอร์ ทั้งโรงเรียนมัธยม และประถมศึกษา อาคารหอประชุม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาอุดรธานี เขต 4 อาคารอเนกประสงค์ ร.ร.ตชด. อาคารศูนย์เด็กก่อนวัยเรียน มอบทุนการศึกษา ทุกอาหารกลางวัน สร้างรั้วโรงเรียน แก่สถานศึกษาหลายแห่ง สร้างหอประชุมตำรวจ ทางคอนกรีตภายในโรงพัก ที่พักสายตรวจ ศูนย์บริการประชาชนของตำรวจ ยานพาหนะตำรวจ เป็นต้น เป็นมูลค่ารวม 100 ล้านบาท โดยได้รับเข็มเสมาธรรมจักรทองคำ เชิดชูเกียรติจากกระทรวงศึกษาธิการ เมื่อปี พ.ศ. 2549 และได้รับโล่จากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อปี พ.ศ. 2550
    เมื่อปี พ.ศ. 2549 – 2550 ได้ร่วมกับคณะสงฆ์ ศรัทธาพุทธบริษัท และคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ร่วมกันจัดสร้าง หออภิบาลสงฆ์ หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ณ โรงพยาบาลศรีนครินทร์ จังหวัดขอนแก่น เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 ณ อาคาร “สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี” (อาคาร 19 ชั้น ) ขนาดพื้นที่ 1,750 ตร.ม.บนชั้นที่ 10 เพื่อรักษาพระสงฆ์สามเณรที่อาพาธ จากทั่วทุกภาคของประเทศและจากทุกมุมโลก ให้ได้รับการรักษาตามหลักพระธรรมวินัย และตามหลักการแพทย์สมัยใหม่อย่างสมบูรณ์
    นอกจากนี้ ได้ทำการจัดตั้งเป็นมูลนิธิและกองทุนเพื่อดูแลพระสงฆ์สามเณร แม่ชี อาพาธ และป่วย ให้ได้รับการดูแลอย่างต่อเนื่องและยั่งยืนสืบไป โดยศรัทธาทั้งพระสงฆ์และพุทธบริษัท
    ร่วมกันบำเพ็ญในครั้งนี้เป็นมูลค่า ทั้งโครงการ (การตกแต่งหอสงฆ์ การจัดหาเครื่องมือและครุภัณฑ์ทางการแพทย์ และการจัดตั้งเป็นมูลนิธิและกองทุน) รวม 50 ล้านบาท จนทางมหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้ประกาศเกียรติคุณ ให้เป็นบุคคลดีเด่นเพื่อเข้ารับพระราชทานถวายรางวัลพระธาตุพนมทองคำ ประจำปี พ.ศ. 2550 จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2550
    คติพจน์พระอาจารย์อินทร์ถวาย สันตุสสโก ปัจจุบันธรรม – ทำวันนี้ให้ดีที่สุด
    “ประดับชีวิตของเราให้มีค่า ทุกเวลาผ่านไปแล้วย่อมผ่านไปเลย พากันเร่งสร้างคุณธรรมประจำใจไว้ พร้อมสำนึกอยู่เสมอว่า ข้าพเจ้าเป็นคนหนึ่งที่จะทำวันนี้ให้ดีที่สุด เพราะกิตติศัพท์ ทรัพย์โภคา หาไปด้วย (ไม่ได้ไปด้วย) มีแต่บุญเข้าช่วยเมื่อม้วยมรณ์”
    จากหนังสือประทีปอริยธรรม หน้า 61

    งานเพื่อพระพุทธศาสนา
    พุทธปัจฉิมวาจา
    “ท่านทั้งหลายจงยังประโยชน์และประโยชน์ท่านให้ถึงพร้อมด้วยความไม่ประมาทเถิด”
    งานที่พระอาจารย์อินทร์ถวาย สันตุสสโก ให้ความสำคัญอย่างมากเป็นอันดับแรก ก็คืองานเพื่อฝึกตนให้ดีในด้านศีล สมาธิ ปัญญา แล้วจึงบำเพ็ญประโยชน์ท่าน ด้วยการทดแทนคุณถวายเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา โดยท่านได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับงานก่อสร้างพุทธเจดีย์ ธรรมเจดีย์ สังฆเจดีย์ เพื่อเป็นเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ หลักธรรมคำสอน และอัฐิธาตุ ถวายแด่พ่อแม่ครูอาจารย์ ท่านผู้มีพระคุณ ผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ดังนี้
    1. การสร้าง ปฐมรัตนบูรพาจารย์มหาเจดีย์ วัดป่าภูก้อน อำเภอนายูง จังหวัดอุดรธานี
    2. เจดีย์บรรจุอัธิธาตุ หลวงปู่เต็ม ขันติโก วัดป่าโคกสาคร อำเภอน้ำโสม จังหวัดอุดรธานี
    3. เขมปัตตเจดีย์ หลวงปู่หล้า เขมปัตโต เจดีย์พิพิธภัณฑ์หลวงปู่หล้า ณ วัดบรรพตคีรี (ภูจ้อก้อ) อำเภอหนองสูง จังหวัดมุกดาหาร บูรพาจารย์ของทานพระอาจารย์
    4. เจดีย์ศรีไตรรัตนานุสรณ์ คุณแม่ชีแก้ว เสียงล้ำ พิพิธภัณฑ์ อริยสาวิกา ณ สำนักแม่ชีแก้ว อำเภอคำชะอี จังหวัดมุกดาหาร
    และในปัจจุบัน (2551) ท่านได้ชักชวน และร่วมกับศรัทธาพุทธบริษัท พร้อมใจกันก่อสร้าง จดีย์มหามงคลบัว ณ จังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อเป็นมงคลเจดียสถาน อันเป็นอนุสรณ์รำลึกแสดงถึง ความกตัญญูกตเวทิตาธรรม ของเหล่าศิษย์ทั้งบรรพชิตและคฤหัสถ์ ถวายองค์หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ที่องค์ท่านได้ประกอบกรณียกิจ อันเป็นคุณทั้งน้อยใหญ่ สุดพรรณนา เป็นคุณานุคุณอำนวยประโยชน์แก่ประเทศชาติ พระพุทธศาสนา และพระมหากษัตริย์ เป็นอเนกอนันต์
    อวิชชาตัวเดียวนี่ คว่ำลงจากจิตกระเทือนทั่วแดนโลกธาตุ หลักธรรมชาติตัดสินเอง เป็นเองขึ้นมาเป็นลักษณะกลาง ๆ ขึ้นมา ผางทีเดียว เหมือนกับว่าโลกธาตุนี้คว่ำหมดเลย พรึบทีเดียวหมดเลย ทีนี้จ้าเลยที่นี้ อุ๋ย..อัศจรรย์จริง ๆ .....ธรรมอัศจรรย์เลิศเลอ”
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • images[1].jpg
      images[1].jpg
      ขนาดไฟล์:
      3.9 KB
      เปิดดู:
      824
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 พฤศจิกายน 2011
  2. ป่ากุง

    ป่ากุง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2010
    โพสต์:
    416
    ค่าพลัง:
    +784
    ....น้อมกราบองค์หลวงปู่องค์อรหันต์ด้วยเศียรเกล้า.........

    ....มีผุ้ใกล้ชิดองคืท่านได้เล่าให้ฟังว่า ก่อนวันที่ท่านจะบรรลุธรรมบริเวณเทือกเขาภูพาน มีเด็กหนุ่มคนหนึ่ง แกงหน่อไม้ส้มใส่ปลาเข็งน้อย ใส่บาตรให้องค์ท่าน ท่านว่าอาหารธรรมดาแต่รสชาดของอาหารปานอาหารทิพย์ หลังฉันจังหัน องค์หลวงปู่ได้พิจารณาธรรม อวิชชากระเด็นออกจากใจ ภูพานทั้งลูกกระด็นกระดอน ..... จิตท่านเป็นวิมุติจิตตั้งแต่นั้นมา.....

    .........ไผสิไปกราบพระอรหันต์ องค์ท่านนี้หละเด้อองค์หนึ่ง....... สาธุๆๆ ครับ

    ..การที่ผมกล่าวไป ถ้าเป็นการกระเทือนธรรมภายในองค์หลวงปู่ ขออโหสิให้ข้าน้อยแน่เด้อครับ พ่อแม่ครูอาจารย์......
     
  3. fullner

    fullner เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    287
    ค่าพลัง:
    +239
    เคยไปอยู่ที่ อ.นายูง และเคยได้ไปกราบและรับใช้(ไปถางป่าที่วัด)
    และฟังธรรมจากท่านอยูระยะหนึ่ง...ยอมรับว่านี่ละ อรหันต์อีกองค์
    ที่ก้มกราบได้หมดจิตหมดใจ...ตอนนี้ย้ายที่ทำงานเลยยังไม่มีโอกาส
    เป็นช่วงเวลาที่คิดว่าเป็นบุญของตัวเองที่สุด..ที่ได้พบได้เจอสิ่งดีดีๆหลายๆอย่างเมื่อตอนมาอยู่ที่นี่...:cool:
     
  4. niwanred

    niwanred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 เมษายน 2011
    โพสต์:
    285
    ค่าพลัง:
    +652
    เคยบวชอยู่วัดบวรฯแล้วไปจำวัดอยู่วัดป่านาคำน้อยของท่านพระอาจารย์ได้ซัก10วัน เป็นช่วงปลายปี อากาศหนาวมาก 1-2องศาได้ พักอยู่กุฏิเตาถ่านหลังเล็กกำลังดี บรรยากาศในวัดเงียบสงบดีมาก มีเรื่องประทับใจมากคือ เช้าวันนึงขณะนั่งจะฉันเช้าบนศาลา ท่านพระอาจารย์ได้ฝากขนมปังมาให้ผมกับพระใหม่ รูปละ1คู่ แล้วท่านก็ประกาศต้อนรับพระใหม่ที่เข้ามาจำวัด 2รูปคือผมกับพระอีกรูป อีกเหตุการณ์นึงได้มีโอกาสพบองค์หลวงตามหาบัวแบบใกล้ชิด ท่านมาเยี่ยมที่วัดบ่อยๆ วันที่พบวันนั้นไม่ได้ฟังธรรมครับเพราะผมเห็นองค์ท่านก็ตอนท่านนอนพักบนศาลา มีพระรูปอื่นๆกำลังบีบนวด ตัดเล็บกันอยู่ แต่ผมไม่กล้าบีบนวดองค์ท่าน ได้แต่นั่งมองอยู่ใกล้ๆ จะบอกว่าท่านผ่องจริงๆครับ แล้วก็ได้เศษเล็บจากพระที่นั่งตัดเล็บองค์หลวงตามา 3ชิ้น แล้วก็เรื่องการใช้ชีวิตอยู่ที่วัดก็เป็นประสบการณ์ที่ดีมากกับพระบวชใหม่อย่างผมในเวลานั้น
    หากการกระทำใดที่เป็นการล่วงเกินต่อท่านพระอาจารย์จะด้วยเจตนาหรือไม่มีเจตนา หรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ดี ขอท่านพระอาจารย์ได้โปรดอดโทษให้แก่กระผมด้วยตั้งแต่บัดนี้ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพานครับ
     
  5. khundech

    khundech Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    50
    ค่าพลัง:
    +54
    ขอให้ทุกท่านเจริญในธรรมครับ
     
  6. lopycam

    lopycam เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    433
    ค่าพลัง:
    +807
    ผมบวชที่วัดเทพศิรินทร์ และได้ไปจำวัดที่ วัดป่านาคำน้อย ประมาณ 14 วัน ได้พูดคุยกับพระอาจารย์อินทร์ถวาย ตลอด ท่านยังพาผมไปดูรอบวัด อธิบาย อะไรต่างๆมากมาย
    พอสึกมา ทุกปี ได้ไปปฏิบัติธรรม ที่นั่น และท่านจะให้ไปพักกุฏิของโยม และเป็นกุฏิเดิมทุกปี
    ท่านมีเมตตาเยอะมากครับ สีผิวกายและแววตา บ่งบอกความเป็นอริยะบุคคลครับ
    สาธุ
     

แชร์หน้านี้

Loading...