ถึงคุณ brushed ผมอเตือนว่า

ด้วยความเคารพ สวัสดีปัญญาชนทุกท่านครับ ผมขอนำเสนอผลงานตัวอย่างง่ายๆที่ผมได้ทำขึ้น เพื่อใครที่อยากจะเข้าใจบุช จะได้เข้าใจบุชมากขึ้น ไม่มากก็น้อย
ดูรูปภาพประกอบอารมณ์ และ อ่านบทความไปพร้อมกัน มันคือศิลปะ
ขออุทิศให้แก่ บุช ผู้เป็นแรงบันดาลใจ



เมื่อข้าได้เห็น สัตว์ที่หมดทางสู้ ถูกหมู่สัตว์ชั่วร้ายเลวทรามทำร้ายรุมทึ้งด้วยคมเขี้ยวของพวกมัน ข้าก็มองด้วยความสลด เวทนาและสยดสยอง...แต่เหนือสิ่งอื่นใด เมตตาความสงสาร...



สันดาน วีรบุษของข้าก็ฟุ้งขึ้นเป็นเม็ดเหงื่อแตกปริระเห็ดออกตาม รูขุมขน ร่างกาย
แม้ข้าจะไม่เกี่ยว ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ แต่เพื่อ ความยุติธรรม เพื่อสันติสุข
ข้าจำต้องเข้าไปโอบอุ้มผู้ถูกกระทำชำเรา และ ย่ำยีหมู่คนชั่ว



"ไอ้เฮงซวยเอ้ยยยย" เสียงเดียวกันกับที่ก้องกังวานในหัวของข้า ข้าอยากจะทุบใบหน้าของ ทรชนผู้เลวทรามให้แหลกละเอียด และนำพาผู้ถูกทรมานให้ออกจากหมู่ชนผู้กระหายการประนาม
คล้ายกับว่าเมื่อ1900กว่าปีก่อนข้าได้เห็นชายผู้หนึ่งแบกไม้กางเขนไปลานตรึงประหาร ระหว่างทางเขาถูกประชาชนถ่มน้ำลายเขวี้ยงปาหินใส่....

เมื่อเขาถูกตรึงกางเขนเขารวบรวมพละกำลังทั้งหมดที่มีเพื่ออดทนกับความเจ็บปวดที่เป็นหน้ากากแห่งความตาย...
เมื่อเขาถูกอัปเปหิออกจาก พวกยิว เพียงเพราะเหตุผลว่า เขาได้ทำสิ่งที่ไม่เหมือนพวกยิวทำ และ ทำให้ พวกยิวเก่าได้รับความเดือดร้อน...
ข้ากำลังเห็นภาพต่างยุคที่ซ้อนกันเข้าพอดี....




ชาวยิวส่วนที่ชั่วร้าย ชาวเว็ปพลังจิตส่วนที่ชั่วร้าย....กำลังรุมโทรมคนๆหนึ่งไม่ว่า เขาจะเป็นคนดีหรือเลวก็ตาม...มันได้กลายเป็นตราบาปแก่เขาผู้นั้น "สมาชิกถูกแบน"
โอ....อามิทอฝอ....
ข้าได้เห็น ภาพซ้อนอีกแล้ววว ข้าเห็นผู้ถูกมัดมือชก ผู้ถูกมัดมือรุมโทรม เช่นเดียว กับ หมอเผ่า....เหยื่อไม่มีโอกาสร้องขอชีวิต เหยื่อมีชีวิตที่มีตราบาปแปะกลางหน้าผาก แล ถูก หาว่า บ้า! โดยผู้ที่ ไม่บอริสุทธิ์



โลกนี้ต้องการวีรบุรุษ ไม่ใช่อัทธพาล ที่มัดมือชกผู้อื่น ปล่อย บุช....คำสั่งของข้า ประกาศิตของข้า....
โอ....ภาพศิลป์ที่ข้าสร้างสรรค์ขึ้น
ข้าได้สร้างกระจกสะท้อนโลกอีกครั้งเพื่อความถูกต้อง......

ข้าแต่มารดาแห่งความยุติธรรม บทเพลงนี้ ข้าขออุทิศให้แก่ท่านมารดา

บุชไม่ว่าท่านจะเป็นใครก็ตามข้าจะรักท่าน สุดหัวใจที่ข้ามี สุดหัวใจ เพื่อนมนุษย์ เพื่อนสรรพสัตว์ ที่ข้ามี เสมอเหมือนคนในครอบครัวเดียวกันที่อบอุ่น....
(bb-flower แด่บุช
..............................................................................................................................................

ประกาศ ด้วยสัจจะและความความบริสุทธิ์
ผมไม่ได้ฮั่วกับบุชล่วงหน้าในเรื่องนี้
และ ผมไม่ใช่บุช......แต่เป็นสมาชิกเก่าผู้หนึ่งที่ใส่หน้ากากอีกทบหนึ่งลงร่ายบทกวี (เพราะหากผมใช้นามแฝงเก่าหลายคนคงรู้จักตัวจริงของผมด้วย ผมคนๆหนึ่งในบัตรประชาชนไทยใบหนึ่ง อาจถูกประนาม...ไม่ว่าเหตุผลหรือไม่มีก็ตาม)


ที่ผมสังเกตุ บุชไม่ใช่คนที่ชอบพูดมากพร่ำเพื่อมากนัก
แต่เน้นการกระทำ การแสดงออก ดังเช่น ภาษิตจีนบอกว่า "การกระทำมีคุณค่ามากกว่าคำพูด เป็นร้อยเท่าพันเท่า" บุชอาจทำเช่นนั้น โดยแสดงออกมาด้วยรูปภาพ สื่ออารมณ์ ให้เราเห็น ให้เราเกิดประสปการณ์ตรงเอง อาจเปรียบเช่นเดียวกันกับปริศนาเซน...ที่ทำให้เกิดปัญญาญาณ ไม่ใช่การบอกจำเป็นปรีชาญาณ นี่เป็นทรรศนคติของผมต่อบุช


ขอให้พวกคุณดูการกระทำของเขาที่เขาตั้งใจสื่ออกมา คุณจะรู้จักกับบุช ถ้าคุณมองด้านลบ ด้านลบของเขาก็จะบังตาของคุณให้พ้นจากความจริงที่มี
ผมมิได้เข้าข้างบุช แต่ผม คิดว่ามันเป็นเรื่องไม่ถูกต้องที่เราจะมาประนามใครซักคน โดยที่ ไม่เคย นั่งทานข้าว พูดคุย ดื่มน้ำชากัน

เซราฟเคยบอกผมในดิเมทริก ริโหลดเดทว่า "you are not truely know someone until you fight them "

 

มวลสมาชิกเป็นผองเพื่อนพี่น้องกัน

ฝากชีวิตให้เธอเก็บไว้
ฝากดวงใจให้นอนแนบรัง
ฝากดวงตาและความมุ่งหวัง
อย่าชิงชังฉันเลยยอดรัก
จากเพลงคืนรัง คาราวาน

 

*** หลักสัจจะธรรม ****

เราทุกคนอยู่บน "หลักสัจจะธรรม"
คือ ...ตัวกระทำมีจริง ตัวกระทำไม่ตาย ตัวกระทำมีผลตอบแทน

ทุกการกระทำของเรา
ไม่ว่าจะตั้งใจ หรือไม่ตั้งใจ...จะเจตนา หรือไม่เจตนา....ก็ตาม
เราก็จะต้องรับผลในสิ่งที่เราทำเอาไว้....ต่อไป
นี่แหละ...คือ สัจจะธรรม

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

ดึงความเมตตา ที่อยู่ในส่วนลึกที่สุดออกมา
นึกถึงใจเขาใจเรา...เห็นใจเขาบ้าง เข้าใจเขาบ้าง
ที่สุดของเครื่องมือ.......คือ ความเมตตา

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

กรณีของบุช (Brushed)

ผมจะขอพูดเรื่องมุมมองที่สมาชิกเว็ปหลายคนมองต่อสมาชิกเว็ปด้วยกัน
โดยขอยกเรื่องระบบนิเวศวิทยามาเปรียบเทียบ

ในชุมชนที่อาศัยซึ่งกันและกัน ชุมชนหนึ่ง แบ่งประเภท ตามหลักนิเวศวิทยามีอยู่สามประเภท
They are 3 type of symbotic


1.Parasitism: one organism(parasite) liveing on (or) in another organism(host)
สรุป Parasite benefits,host no benefit but harmed
2type of parasite
1) ecotoprarsites (External parasite)arasite live on the surface of there host EX.fleas,lice and some molds and mildews
2) Endopaarasites (Internal parasite)parasite live on side the bodies of their host EX.tape worn

สรุป ปรสิต พวกนี้ สูบเลือดสูบเนื้อ เหยื่อที่อาศัยอย่างเดียว โดยไม่ก่อเกิดประโยชน์อะไร

2 Commensalisms : one organism benefit,other organism no effect,non harm EX.Orchid in trees,remoras on shark

พวกนี้เป็นประเภทที่ว่า ฝ่ายหนึ่งได้ผลประโยชน์ อีกฝ่ายไม่ได้ แต่ก็ไม่เสียหายอะไร เช่นเหาฉลาม เป็นต้น หรือดอกกล้วยไม้(ครูในโรงเรียนมักสอนเด็กผิดๆว่า กล้วยไม้ แย่งสารอาหารต้นไม้ที่เกาะ)

3 Mutualism : Both organism benefit (share benefit)
EX.1) yucca mouth and yucca plant
2) Legumes and bacterria in dodules
พวกสุดท้ายนี้ต่างฝ่ายต่างได้คือแชร์กัน เช่นถั่วงอกกับแบคทีเรียในดินจะนำไนโตรเจนมาให้ถั่วงอก

ประเด็น
ผู้ที่ประนามบุช มองว่าบุชว่าเป็นพวกแรกคือ สมาชิกปรสิต ผู้เสหมือนมะเร็งหรือไวรัสแห่งเว็ปพลังจิตที่ก่อความวุ่นวาย ไม่ก่อประโยชน์ทำตัวหนักธรณีแผ่นดิน(เซอเวอร์)
โดยการโพสรูปจากเครื่อง มากมายไม่หยุดหย่อน และภาพเหล่านั้น เราก็ไม่เข้าใจที่เขาตั้งใจจะสื่อ จึงประนามเขา และ แบนเขา! ถูกหรือ?

การจะลงโทษใคร และ โทษทัณที่ควรได้รับ สิ่งสำคัญแรกสุดที่ต้องดูคือ
เจตนา ของ ผู้ต้องหา
- เขาตั้งใจหรือไม่ในการก่ออาชญากรรมให้คนในแผ่นดินได้รับความวุ่นวาย
- เขาตั้งใจเห็นแก่ตัวในการโพสรูปเยอะๆโดยตั้งใจไม่คำนึงถึงผลเสีย
- หรือเขา ตั้งใจนำเสนอสื่อสาระเรื่องราวต่างๆ โดยประมาทมองข้ามผลเสียที่จะพึงมีต่อระบบ

ตามที่ผมเห็นผมมองว่าบุชเป็นพวกที่สามคือ Mutualism อย่างเราๆท่านๆ ซึ่งสร้าประโยชน์บ้าง ทำถูกบ้างทำผิดบ้าง ออกความเห็นดีบ้างไม่ดีบ้าง วางเฉยบ้าง
บุช ได้นำเสนอสาระประโยชน์ในรูปแบบหนึ่งซึ่งอาจจะเกิดประโยชน์น้อย เพราะ พวกเราไม่เข้าใจถึงเจตนาดีหรือประโยชน์ที่เขานำเสนอ
และเห็นว่าเขามีโทษมากกว่า จึงประนาม

- ถ้าถามว่าถ้าหากสมมุติว่าเซอร์เวอร์รับข้อมูลได้ไม่มีจำกัด ทุกคนยังจะประนามเขาใหม?
- ทำไมถึงไม่ตักเตือน เขาก่อนด้วยวาจาของสุภาพชน ผมเห็นหลายคนในกระทู้โพสด้วยความก้าวร้าว ดั่งซาตานกับพรรคพวกของมัน หรือ ถ้าเห็นว่าสิ่งที่เขาทำมันรกมากก็ขออนุญาติเขา แล้วผู้ปกครองก็มอบไม้ถูพื้นใครซักคนลบของพวกนั้นออกไป เขากลายเป็นสมาชิกถูกแบน ด้วย วิธีของศาลเตี้ย...

ด้วยความเคารพ นี่ไม่ใช่ครั้งแรก ท่านบิดาแห่งเวปพลังจิต
ขอโทษหากการออกมาพูดของผมจะก็ทบกระทั่งอารมณืกับท่านทั้งหลาย ผมก็ขอ อโหสิกรรมท่านด้วย

ด้วยเจตนาที่เป็นธรรม

 

ก็เท่าที่ดูๆแล้วก็ไม่มีใครไปว่าคุณbrushซักหน่อย แค่จะเตือนแกว่า ใส่รูปภาพเข้าไปเยอะๆทำให้เว๊ปมันช้า ทำให้เว๊ป มันล่ม คิดว่าคุณbrushแกก็คงไม่ได้ตั้งใจให้เว๊ปมันล่มหรอก ดีเสียอีกที่บอกให้แกเข้าใจว่า ใส่รูปเยอะๆแล้วเว๊ปมันจะล่ม (เพราะแกไม่รู้ บอกให้รู้แกจะได้รู้ไง) นี่แหล่ะคือประเด็น ที่ควรทำความเข้าใจ ชาวสมาชิกพลังจิต.ดอท ย่อมต้องอยู่กันแบบเมตตาอยู่แล้วจ้า...(f)

 

เอ? หน่อยเห็นเขาบอกว่า เขาจะลบให้นะ ให้บอกเขามาว่าอันไหน
***แล้วเขาก็ลบของเขาออกไป หลังจากให้ดูในระยะเวลาหนึ่ง***


แต่เรามีจิต "จ้องจับผิด" เพราะยึดกฎหมู่ และอัตตาว่าเว็บ
เป็นของเราหรือไม่ค่ะ? หรือยึดว่ากฎระเบียบดีที่สุด?


(เสียดาย หน่อยดูไม่ทันค่ะ เพราะไม่ค่อยได้เข้าเว็บนักในช่วงนั้น)


ขอโทษด้วยจริงๆ ค่ะ อาจกระทบความรู้สึกทุกท่าน
ที่คิดต่างออกไป หากพูดไม่ดีไปก็ลบออกได้เลยค่ะ

 

พระมหาโพธิสัตว์บางพระองค์ บรรลุอนาคามีแล้ว
สามารถสอนคนได้มากกว่าพระอรหันต์ธรรมดา
แต่ตราบใดที่ยังไม่สามารถระลึก "ความปรารถนา"
ของตนที่เคยมีมาได้ทั้งหมด

จะคิดว่าตนหลุดพ้นแล้ว เพราะพระอนาคามีก็หมดกิเลสแล้ว
จึงเหมือนสุขแท้แล้ว เพียงแต่ยังไม่แจ้งในปณิธานตนเองเท่านั้น
ลักษณะของพระอนาคามีแบบนี้คือ มีการจับผิด "ของแปลก"
เพราะพระอรหันต์จะดูแปลกสำหรับพระอนาคามี จนทำให้ท่าน
ต้องค้นหาว่ามันมีอะไรแปลกๆ แล้วมักคิดว่าเขาผิด และตนถูก
เป็นอาการ "ก่อนเข้าสู่อรหันตมรรค" เมื่อได้สติว่าตนยังไม่แจ้ง
จะค้นหาปณิธาน ฯลฯ ส่วนตนต่อไปจนครบแล้ววางลงก็จะแจ้งเองค่ะ


อาจารย์ฝากมาบอกแค่นี้ หากผิดพลาดไปต้องขออภัยจริงๆ ค่ะ

 

อีกประการ พระมหาโพธิสัตว์ย่อมรู้กันเองว่า "ถึงแล้ว"
ไม่ว่าพระองค์อื่นๆ จะแสดงธรรมประหลาดขนาดไหนก็ตาม
จะสามารถรู้ได้หมด

พระอาจารย์ฝากมาบอกอีกว่า "ท่านพุทธทาส" เป็นพระมหาโพธิสัตว์
หากพระมหาโพธิสัตว์ที่ยังไม่บรรลุ จ้องจับผิดท่าน แสดงว่าพระมหาโพธิสัตว์
องค์นั้น บรรลุ "อนาคามี" แต่ยังไม่เข้าสู่อรหันตมรรค ตราบจนได้สติรู้ตัว
ว่าตนยังไม่ถึงที่สุด เดินหน้าต่อจนบรรลุ

เช่นนี้ พระอาจารย์จึงรู้ได้ว่า "พระมหาโพธิสัตว์" พระองค์นั้น ยังไม่บรรลุธรรม


จำต้องเขียนจริงๆ ค่ะ ขออภัยด้วยหากไม่ตรงกับความรู้สึกทุกท่าน
พระอาจารย์บังคับให้มาเขียน ไม่จำเป็นต้องเชื่อและขอโทษอย่างยิ่งจริงๆ ค่ะ

 

คนที่สอนลบหลู่ดูถูกดูหมิ่นปรามาสพระพุทธเจ้า ขอฟันธงว่าลงนรกลูกเดียวเท่านั้นครับ

 

หลักฐาน

เชิญร่วมร้องเรียนเรื่องพุทธทาสสอนบิดเบือนพุทธดำรัสลบหลู่ดูถูกดูหมิ่นปรามาสพระพุทธเจ้า
​

คำสอนของพุทธทาสเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ คือพระพุทธศาสนา

กล่าวหาว่าคำสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหมดนั้นเชื่อไม่ได้

พุทธทาส:-พระสูตรทั้งหมดที่เกี่ยวกับเรื่องโอปาติกะ เป็นเรื่องโกหกทั้งหมด เมื่อพระพุทธเจ้าท่านสอนเกี่ยวกับเรื่องโอปาติกะนั้น ท่านก็โกหกประชาชนและภิกษุสงฆ์ทั้งหลาย เพราะท่านจำเป็นต้อง "เอออวย"...เรื่อง ทาน ศีล สมาธิ ฤทธิ์ อภิญญา ชาตินี้ ชาติหน้า ภพต่างๆ ภูมิต่างๆ และทางที่กระทำแล้วให้ผลไปสู่ภพภูมิต่างๆ เทวดา พรหม สัตว์นรก เปรต อสุรกาย โลกนี้ โลกอื่น ผลของกรรมที่ไม่ให้ผลในชาตินี้...เป็นเรื่องที่พระพุทธเจ้า ท่านโกหกโลก โกหกประชาชน เพราะต้อง "เอออวย" ไปตามสังคมทั้งนั้น ถ้าใครจะเชื่อพระพุทธเจ้า ใครจะเชื่อพระไตรปิฏก ต้องคิดแบบท่านซะก่อน ถึงจะฉลาด เพราะคำสอนทั้งหมดของพระพุทธเจ้านั้น เชื่อไม่ได้

หนังสือ ธรรมานุกรมธรรมโฆษณ์

สอนสัตว์เดียรฉานให้เป็นพระอรหันต์หน้าตาเฉย

พุทธทาส:-สำหรับสัตว์เดียรฉาน ก็คือสัตว์เดียรฉานที่ไม่มีความร้อน ความร้อนของสัตว์เดียรฉานก็คือความร้ายกาจที่เป็นอันตรายแก่มนุษย์ นี่เรียกว่าความร้อน ถ้าสัตว์เดียรฉานนั้นได้รับการฝึกดี จนเป็นสัตว์ที่ดีไม่มีอันตรายอีกต่อไป หมดพยศร้ายแล้ว เช่น ช้างป่า วัวป่า ที่เอามาฝึกจนหมดพยศร้ายแล้ว ก็เรียกว่ามัน นิพพาน

นิพพานในชีวิตประจำวัน

พุทธทาส:-สัตว์ป่าจับมาจากในป่า เช่น ป่า ช้างป่า อะไรป่านี่ มันดุร้ายเหลือประมาณ อันตรายเหลือประมาณ; เขาเอามาเข้าคอกเข้าที่ บังคับฝึกหัดไปจนสัตว์เหล่านั้นเชื่องเหมือนกับแมว จนช้างป่านั้นเชื่องเหมือนกับแมว ทำอะไรก็ได้; อย่างนี้ก็เรียกว่า มันนิพพาน

นิพพานสำหรับทุกคน

พุทธทาส:-แมวเห็นหนูก็จะตะครุบกิน นี่พวกที่เถรตรงก็ว่าแมวบาป แม้แต่สัตว์เดรัจฉานก็บาป อย่างนี้ เราก็มีความเห็นด้วยไม่ได้ แมวไม่มีเจตนาฆ่าหนู มันจะกินเท่านั้น แต่พวกอาจารย์บางพวก บางกลุ่มเขาจัดให้แมวนี้เป็นบาป เป็นเวรตกนรก ผูกพันกันกับหนูกลับไปกลับมา เรียกว่า มันขาดศีล แต่อาตมาเห็นว่า แมวไม่มีเจตนาฆ่า มันมีความรู้สึกแต่จะกินเท่านั้นแหละ เห็นหนูก็คือเห็นอาหาร เป็นอาหารก็กินเท่านั้นแหละ

หนังสือดอกโมกข์ ฉบับพิเศษ พุทธทาสวจนา

พุทธทาส:-แม้คนโง่ไม่รู้จักพระนิพพานเอาเสียเลย เขาก็ยังลงไปกินไปอาบในสระแห่งนิพพานนั้นได้โดยไม่รู้สึกตัว ข้อนี้ก็เพราะว่า พระนิพพานเป็นธรรมชาติที่มีอยู่ในที่ทั่วไป เมื่อบุคคลไม่มีความร้อนใดๆ ก็หมายความว่า กำลังดื่มกินพระนิพพาน

นิพพานสำหรับทุกคน

พุทธทาส:-พวกที่ถือศาสนาอื่น บางศาสนา เขาบัญญัติว่า ไม่บาป ฆ่าสัตว์ไม่บาป ไม่ได้บัญญัติว่าบาป เช่น คริสเตียนที่ไม่ได้บัญญัติว่าฆ่าสัตว์บาป บัญญัติแต่ฆ่าคน แม้แต่พระในศาสนาโรมันคาธอลิคนี้ก็ยังยิงปืน เป็นบาทหลวงนี่แหละก็ยิงนกอยู่ เพราะว่า ศาสนาของเขาไม่ได้บัญญัติว่าบาป และบางศาสนาอย่าออกชื่อ เขาว่าจะได้บุญเสียอีก การฆ่าสัตว์ตัวนั้นตายเอาเนื้อมาแจกจ่ายเลี้ยงคนก็ได้บุญ แล้วเขามีพิธี มีความหมายที่ว่า จะส่งสัตว์ที่ถูกฆ่านี้ไปสู่สวรรค์โดยเร็ว ดีกว่าที่จะให้มันมารอเวลาอยู่เสียเวลาเปล่าๆ ช่วยให้มันไปสู่สวรรค์เร็วๆ ฉะนั้นการฆ่าสัตว์ก็ได้บุญไม่ใช่บาป

ฉะนั้น เราถือศาสนาไหน พระศาสดาแห่งศาสนานั้นได้บัญญัติว่าอย่างไร เราก็เชื่อตามนั้น เพราะเรานับถือ เมื่อเชื่อตามนั้น จิตก็เป็นไปตามนั้น เรารู้สึกว่าบาปก็บาป เรารู้สึกว่าไม่บาปก็ไม่บาป แล้วแต่บทบัญญัติ ผู้ถือศาสนาอื่น จะไปพลอยมีบุญมีบาป ด้วยศาสนาอื่นอีกศาสนาหนึ่งนั้น เป็นไปไม่ได้ เพราะว่าบัญญัติไว้ต่างกัน

พุทธทาสได้แสดงธรรมในช่วงบ่ายของวันที่ ๒๗ พฤษภาคม ๒๕๒๔


สอนทำลายพระอภิธรรม และพระสูตรต่างๆมากมาย

พุทธทาส:-ให้โกยอภิธรรมทิ้งไปให้หมด อภิธรรมตามที่รู้กันนั่นแหละ อภิธรรมปิฏก อภิธัมมัตถสังคหะ อภิธรรมอะไรก็ตาม ที่ระบุไปยังอภิธรรมเฟ้อนี้โกยทิ้งไปเสียให้หมด

บางสูตรก็ตัดออกไปหมดเลย บางสูตรก็ต้องตัดออกไปบางส่วน บางสูตรก็ตัดออกไปราว 40%

ผู้คัดค้านพระอภิธรรมชื่อว่า ทำลายชินจักร

"บุคคลเมื่อคัดค้านพระอภิธรรม ชื่อว่า ย่อมให้การประหารในชินจักรนี้ ย่อมคัดค้านพระสัพพัญญุตญาณ ย่อมหมิ่นเวสารัชชญาณของพระศาสดา ย่อมขัดแย้งบริษัทผู้ต้องการฟังย่อมผูกเครื่องกั้นอริยมรรค จักปรากฏในเภทกรวัตถุ ๑๘ อย่าง อย่างใดอย่างหนึ่ง เป็นผู้ควรแก่อุกเขปนิยกรรม นิยสกรรม ตัชชนียกรรม เพราะทำกรรมนั้น จึงควรส่งเธอไปว่า เจ้าจงไป จงเป็นคนกินเดนเลี้ยงชีพเถิด ดังนี้ "

พระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล มหามกุฏราชวิทยาลัย
ในพระบรมราชูปถัมภ์ เล่มที่ 75 อภิธรรมปิฎก หน้า 60-63 อรรถกถาธรรมสังคณี

กรรมอันเนื่องมาจากการสอนบิดเบือนพระพุทธดำรัส สอนย่ำยีลบหลู่ดูถูดูหมิ่นปรามาสพระพุทธเจ้าอย่างร้ายแรงนี้ ตามหลักของกรรมแล้วย่อมมีโทษหนักถึงโลกันตนรก​

 

*** คน ๔ เหล่า ****

๑. คนฉลาดมาก...

 

ผู้ที่สำเร็จ...คือ ผู้ที่มุ่งศึกษา "หลักสัจจะธรรม"...เข้าใจ "หลักสัจจะธรรม"....และ ปฏิบัติตนตาม "หลักสัจจะธรรม"

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

*** ความจริง ... ในพุทธศาสนา ****

การปฏิบัติธรรม... มีมากมายหลากหลายวิธี หลายอาจารย์
แต่สุดท้ายจะจบลงที่.......จิตใจตนเอง

เพราะ...หลักของศาสนาพุทธ....ที่พระพุทธเจ้านำมา มี ๓ ประการ คือ
๑.ไม่ใช้วัตถุ (รวมถึงพิธีการ)
๒.ไม่ใช้ความเห็น (ใช้ความจริง สัจจะธรรม)
๓.ปฏิบัติด้านจิตวิญญาณ

ดังนั้น สถานที่ จึงไม่ใช่สิ่งสำคัญ
พิธีการก็เช่นเดียวกัน ความสำคัญจึงอยู่ที่ "ใจตนเอง"
ว่าจะตั้งใจทำสิ่งที่ดีอะไรบ้าง ให้กับตนเอง ในแต่ละวัน
ซึ่งก็คือ "สัจจะ" สัญญากับใจตนเอง

เมื่อเกิดการกระทำขึ้นมา สิ่งที่เกิดขึ้นพร้อมกัน คือ "ตัวกระทำ" เป็นเหมือนถ่ายรูป ถ่ายภาพยนตร์ไว้ และเก็บในกระเป๋าใบหนึ่งของตนเองที่เราจะต้องแบกติดตัวไปตลอดชั่วกัปชั่วกัลป์ และผลของตัวกระทำนี้ก็จะต้องตอบแทนตัวเราในอนาคต
สิ่งนี้ก็คือ "หลักสัจจะธรรม" ที่พระพุทธเจ้าค้นคว้าจนพบ และนำมาสอนถ่ายทอดให้กับสาวกที่เชื่อและศรัทธา
จึงสรุป....หลักสัจจะธรรม....เป็นประโยชน์สั้นๆ ว่า....
"ตัวกระทำมีจริง ตัวกระทำไม่ตาย ตัวกระทำมีผลตอบแทน"
จึงเป็นคำตอบของกฎแห่งกรรม ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว
พระองค์ท่านจึงมุ่งสอนให้ทุกคนเกิด "การกระทำใหม่" หมายถึง การกระทำที่เกิดจากการตั้งใจหยุดนิสัยที่ไม่ดีของตนเอง
โดยตั้งใจทำให้ได้จริงในช่วงเวลากำหนดที่ชัดเจน
เพราะจะเกิด "ตัวกระทำ" ขึ้นมา ซึ่งจะเกิดผลตอบแทนที่ดีอย่างแน่นอนในอนาคต

ทั้งหมดนี้พระไตรปิฎกได้ "ย่อการปฏิบัติ" จนเหลือเพียง ......."สัจจะ"

 

อย่าถกเถียงกันอีกเลย ผมสามารถรู้ว่าใครทำ เพียงแต่ผมต้องติดต่อกับหน่วยข่าวกรองของสหรัฐโดยตรง เกี่ยวกับการโจรกรรม และสร้างความเสียหายบนโลกไซเบอร์ ซึ่งมันมีผลต่อความมั่นคงของเว็บบอร์ดมาก แต่เพื่อรักษาไว้อันซึ่งความเป็นอธิปไตยของเว็บบอร์ด ผมจะส่งเรื่องให้กับคณะมนตรีความมั่นของของ และกระทรวงกลาโหม ของอเมริกา ได้ทราบและดำเนินการเรื่อนี้อย่างเร่งด่วนที่สุ อย่างไรก็แล้วแต่ นายโคฟี อานัน ได้กล่าวว่า การโจมตี อ่าวเพิร์ล ในครั้งนั้น เป็นสิ่งที่ชาวอเมริกันชนยอมรับไม่ได้ !!

 

ถึงอานนท์...
---------------------------------------------------------

อย่าให้ความศรัทธาที่เธอมีต่อพระพุทธองค์บดบัง "ปัญญา" ที่เธอมี



วิสัยของพระวัชรปาณีเป็นอย่างไร? เธอลืมไปแล้วหรือ?
การเทศนาของท่านไม่คำนึงถึงว่าอะไรคือสรรเสริญนินทา
ท่านสนใจแต่จะให้คนละความยึดมั่นถือมั่นเท่านั้น


คนปัจจุบันยึด "พระพุทธเจ้า" ท่านก็สอนสัตว์ที่ดื้อด้านให้ละฑิฐิ
โดยไม่สนคำครหานินทา ขึ้นชื่อว่า "พระมหาโพธสัตว์" แล้ว
ย่อมไม่ยึดติดแม้นสรรเสริญ นินทา ดี-เลว จริง-เท็จ ไม่ยึดติด
พิธีการและขั้นตอนวิธี มุ่งผลลัพธ์คือความหลุดพ้นเป็นสำคัญ

เธอดูไม่ออกเลยหรือ?


เธออรหันต์ช้าเพราะศรัทธามากเกินจนลืมใช้ปัญญา


พิจารณาดูให้ดีเถิด...

 

คนที่ยึดพระพุทธเจ้าย่อมไม่มีวันอรหันต์ได้
ต้องละการยึดมั่นในทุกๆ สิ่ง ความศรัทธาหาใช่การยึดมั่น

"ตนเป็นที่พึ่งแห่งตนเท่านั้นจึงบรรลุธรรม"

อานนท์ เธอรับกิจมามากมาย อดีตชาติเธอทิ้งกิจหมด จนพระศาสนา
แตกแยกล่มจมจนถึงทุกวันนี้ เพราะเธอไม่ทำกิจของเธอ เธอรับใช้ใกล้
ชิดพระพุทธองค์ แต่ฉันอยู่ไกลมาก

เธอมีโอกาสดีกว่าฉันมากมาย แต่เธอไม่สังเกตุถึงความต้องการของ
พระพุทธองค์เลย ว่าทรงต้องการอะไร แม้นแต่เรื่องการทูลขอให้พระองค์
โปรดสัตว์ต่อก็ตาม พระศาสนาจะเสื่อมเพราะเธอทิ้งกิจที่พระพุทธองค์ฝากไว้

นี่หรือความ "จงรักภักดี" ของเธอที่มีต่อพระพุทธองค์?


เธอสำนึกผิดบ้างหรือไม่?


ชาตินี้ ถ้าเธอไม่อรหันต์เธอจะสานกิจนี้ได้อย่างไร?
ละการยึดมั่นถือมั่นให้หมด ตอนตายก็ไปพร้อม "สัญญา"
ไม่ต้องละ "สัญญาขันธ์" เธอย่อมสานกิจได้แน่นอน...

 

อย่าหนีตัวเอง อย่ากลัวตัวเองค่ะ อย่าเพ่งจิตออกนอก
อย่าจับผิดผู้อื่น ดูจิตตัวเอง ดิ่งลงในความรู้สึกที่ลึกที่สุด
อาจเจ็บปวด แต่จะระลึกชาติได้ ระลึกปณิธานได้

หากไม่ยกก่อน จะไม่รู้จักว่าวางคืออะไร
หากไม่เจ็บก่อน ย่อมไม่จำ และไม่เห็นโทษของมัน
สู้มันตรงๆ จิตท่านมีกำลังกล้าแข็งอยู่แล้ว
แม้นไม่นั่งเข้าสมาธิ แม้นเดิน ยืน ขยับ
จิตที่นิ่งมีสมาธินั้น ก็สามารถเข้าวิปัสสนาได้ทันที


หากจิตตกมาก ให้ฟังบทสวดทิเบตช่วย
เมื่อระลึกชาติได้จนถึงที่สุดแล้ว
คนเคยวาง ย่อมวางเป็นเองค่ะ


รอฟังธรรมพิสดารจากท่านอยู่นะคะ
ธรรมที่ท่านเทศนามาไม่ต่างจากพระอรหันต์ทั่วไป
นั่นย่อมยังไม่ใช่ที่สุดในความสามารถของท่านค่ะ

 

ไว้รอให้บรรลุธรรมก่อนดีไหม แล้วค่อยมาแสดงควาทเห็นเรื่องบรรลุธรรม อายเขานะครับ

 

ละเหตุเกิดอันเกิดจากความไม่รู้
อาศัย "ความรู้" เป็นเหตุเกิด



ภาวนามยปัญญา...