ขอรบกวนวิธีการยกอายุขัยให้ผู้อื่นครับ.

คือผมมีความตั้งใจที่จะถวายอายุขัยของตนเองเท่าที่จะสามารถให้ได้ แด่ในหลวงครับ ปกติจะนั่งสมาธิและอธิฐานถวายอายุขัยใด่พระองค์ท่าน แต่อยากทราบว่ามีวิธีอื่นอีกหรือเปล่าครับ... ขอขอบพระคุณล่วงหน้าไว้ ณ โอกาสนี้ ....

 

เป็นเรื่องของกำลังใจล้วนๆ

ผมก็ไม่รู้วิธีการที่ถูกต้องแท้จริงเหมือนกัน รู้แค่ว่า วัฒนธรรมท้องถิ่นทำอย่างไรผมก็ทำอย่างนั้น เช่น เห็นคนเฒ่าคนแก่หรือพระสงฆ์ในท้องถิ่นพาแต่งพานธูปเทียน ผมก็ทำตาม ถ้ามีพวงมาลัยดอกไม้ด้วย ผมก็เพิ่มเข้าไปด้วย แต่เน้นความสำคัญที่จิตอธิษฐาน เช่นอาจจะอธิษฐานว่าขอถวายอายุของข้าพเจ้าหนึ่งปีต่อพระชนมายุหนึ่งนาที อะไรก็ว่ากันไป

ผมไม่แน่ใจนะว่าควรจะอธิษฐานอย่างไร คุณกล้ามั้ยถ้าคิดว่าให้อายุขัยทั้งหมดที่เหลือของคุณซึ่งหมายถึงคุณอาจจะต้องสิ้นอายุขัยในวัดรุ่งขึ้น

หรือบางท่านหลายๆท่านอาจจะบำเพ็ญภาวนาแล้วถวายเป็นพระราชกุศลก็ทำได้
แต่คุณกล้ามั้ยที่จะถวายบุญกุศลที่ทำมาแล้วทั้งหมดทุกภพทุกชาติแด่พระองค์ท่านเพื่อให้เจ้ากรรมนายเวรของพระองค์ท่านมาโมทนาเอาซะให้พอแบบไม่อั้นซึ่งหมายถึงเมื่อคุณตายไปคุณก็อาจจะต้องลงโลกันต์แน่นอนเพราะบุญที่สะสมมาทั้งหมดไม่เหลือแล้ว

ผมทำไปแล้วทั้งสองอย่าง รู้มั้ยว่าอะไรเกิดขึ้นกับผม ผมบอกได้เลยโดยไม่ต้องรอให้คุณถาม

วันรุ่งขึ้นผมมีอาการไข้ขึ้น ร่างกายทรุดแทบจะลุกไม่ไหว ใครพูดอะไรผิดหูหน่อยก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ คล้ายสัญญาณจะบ่งบอกว่าบุญบารมีที่สะสมไม่เหลือแล้ว เหลือแต่กิเลศล้วนๆ

สิ่งที่ผมคิดตอนนั้นคือหัวเราะสะใจอยู่ในใจอยู่คนเดียว ไม่ได้สะใจที่ตัวเองทำอะไรโง่ๆลงไป แต่สะใจที่ได้ตายแทนพระองค์ท่านต่างหาก

 

อายุขัยของใครของมัน เราจะยกอายุให้ใครต่อใครไม่ได้ดอก

 

ก็ไม่ทราบเหมือนกันครับว่าทำไง แต่ปู่ผมเคย ยกอายุไขให้ย่า เมื่อสมัยปู่ย่ายังมี ย่าผมเกือบจะจากไปแล้วเกิดอาการช็อก ค้าง เกร็ง ในตอนเย็น ใคร ๆ ก็ว่าไปแล้ว ผลสุดท้ายวันรุ่งขึ้นเดินสบายใจเฉ๊ย วันหลังมารู้จากคนทรงว่าปู่ยกอายุให้ย่า หลายปีต่อมาผลสุดท้ายปู่ไปก่อน ปู่ผมแกเป็นหมอประจำตำบล เป็นมัคทายก เป็นตำรวจ มีวิชา เห็นวิญญาณ มีอะไรหลายอย่าง คงเป็นวิชาโบราณหรืออะไรไม่ทราบ เล่าให้ฟังเล่น ๆ ครับ

 

ผมไม่รู้ว่าลัทธินับถือผีจะว่ายังไงครับ เรื่องต่ออายุ
แต่ตามกฎแห่งกรรม ของใครของมันหนีไม่พ้น อายุใครอายุมัน
เพียงแต่ถ้าบางครั้งอาจกรรมมาตัดรอน เราอาจจะทำความดีช่วยเขาหนีผลกรรมได้บ้าง
ถ้าหมดอายุจริงๆ จะต่อได้กรณีเดียวคือเป็นพระอรหันต์และเจริญอิทธิบาท4 เข้าช่วย
ส่วนการยกบุญให้คนอื่น แล้วบอกว่าบุญเราจะไม่เหลือเป็นความเชื่อที่ผิดจากพระพุทธศาสนาครับ
บุญไม่ใช่ข้าวไม่ใช่แกงที่ยกให้คนอื่นแล้วหมด แต่เป็นเหมือนไฟที่เราส่งต่อเปลวไฟไปยังไงไฟก็ไม่หมด หากแต่เป็นการเติมบุญเรา เพราะเรา"คิดดี" เป็นบุญอย่างนึง
ส่วนที่ว่างบางท่านใ้ห้บุญกับคนอื่นแล้วเกิดกิเลสมากมาย ต้องบอกว่าตราบใดที่เราไม่ใช่พระอรหันต์ กิเลสมันยังอยู่ครบ ไม่ใช่เรื่องแปลกขอรับ ถ้าเป็นพระอรหันต์แล้ว ให้บุญคนอื่นไปแล้วเกิดกิเลส ผมเองคงเชื่อสุดหัวใจได้

 

ทำบุญ ถวายเป็นพระราชกุศลให้พระองค์ ขอบุญที่ทำ ให้พระองค์ทรงพระเจริญ ก็ได้นี้ครับ

ผมขอหยาบนิดนึงครับ ช่วงนี้ พวกหมิ่นพ่อหลวงของกู เยอะเหลือเกิน พวกมันไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ มันจะทะเลาะอะไรกัน ก็ไม่น่าจะเอาพ่อหลวงอันเป็นที่รัก ไปร่วมด้วย

สุดท้ายนี้ ขอให้ พวกที่คิดคดทรยศชาติบ้านเมือง คิดกบฏต่อพ่อหลวง คิดไม่ดี ต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ขอให้มัน จงได้รับผลกรรมที่มันทำโดยเร็ววัน

ขอให้ในหลวงทรงพระเจริญ ทรงพระพลานัยแข็งแรงสมบูรณ์ ครับ

 

ยกให้คนอื่นได้จริงครับ แต่ลักษณะที่ยกให้เป็นเรื่องของการอธิษฐานให้กำลังบุญตัวเองไปต่ออายุคนอื่น โดยมีสัจจะในส่วนอายุขัยตัวเองเป็นสัญญาครับ คือถ้าตัวเราเองกำลังใจไม่สูงจริงๆ ก็ต้องใช้วิธีนี้ในการต่ออายุให้กับคนๆ นึง กฎของกรรมที่ทำให้เราอายุขัยสั้นลงนั้นก็มาจากบาปกรรมที่เราทำมาแหละครับ เกิดไม่รู้เท่าไหร่ทำไมจะไม่หลงเหลือกรรมที่ทำให้เราตายได้ มันมีกันทุกคนเพียงแต่จะตายแบบไหนและช้าหรือเร็วแค่นั้น เรื่องของพิธีไม่ต้องมีอะไรมากครับ ใช้กำลังใจล้วนๆ อธิษฐานต่อหน้าพระใหญ่(พระประธาน) หรือแม้ไม่มีพระพุทธรูปก็ได้(อธิษฐานขึ้นมาเลย) กฎเกณฑ์ก็มีอยู่ว่าถ้าเรากำลังน้อยกว่าผู้รับ ผลจะเกิดน้อย เพราะผู้รับมีกำลังมากกว่า อย่างเราจะต่ออายุให้ในหลวงก็ต้องเข้าใจนะครับว่าเราเสียไป 10 ปี ไม่ใช่ว่าจะสามารถต่ออายุให้ท่านได้ 10 ปีนะครับ อาจจะต่อได้สัก ชม. นึง เพียงแต่ถ้าคนช่วยกันเยอะๆ ก็สามารถจะอยู่ต่อได้เหมือนกัน อย่างพระอริยะเจ้าหลายๆ องค์ที่ดับขันธ์เข้านิพพานไปแล้ว ท่านก็อธิษฐานต่ออายุให้พวกเราทั้งโลกนะครับ ทำให้เรารอดพ้นภัยพิบัติต่างๆ มาได้ แต่ก็แค่ลดระดับและยืดระยะเวลามาอีกหน่อยนึง แต่มีหลายองค์ที่ทำแบบนี้ ภัยต่างๆ ที่ควรจะเกิดแบบหายนะสุดๆ มากว่านี้เป็นร้อยเท่าพันทวีก็เกิดเพียงเท่ากับอย่างปัจจุบัน

ที่รู้และกล้ายืนยัน เพราะเคยต่ออายุขัยให้คนอื่นครับ แล้วก็เป็นจริง คนที่ต่ออายุขัยให้เป็นคนดวงถึงฆาต ดูหมอที่ไหนเขาก็ต้องทักอยู่แล้ว เพราะดวงมันบังคับ แต่ผมก็ไปต่อให้เขาอยู่ต่อ กลายเป็นว่าผมเองก็อยู่อีกไม่ถึง 20 ปี และก็ได้ทราบจะคนมีญานว่าผมจะตายก่อนอายุขัยจริง เกณฑ์การต่ออายุให้มันมีอยู่ บางอย่างเราให้เขาไปแล้วก็จริง แต่ถ้าเราทำบุญใหญ่ได้อีก ก็สามารถยืดอายุเราไปได้อีกนะครับ กฎของธรรมชาติแม้จะดูตายตัวแต่ กำลังปัญญาของจิตที่เกิดจากบุญก็สามารถจะแก้ไขเรื่องพวกนี้ให้เป็นไปในแนวทางที่เราสามารถจะยอมรับได้เช่นกัน

 

ครับ ผมก็เชื่อคุณ พรพรพรพรพ และ คุณ GenerationXXX ว่ามันมีจริง และมีผลกระทบกันจริง คนที่อ่านจากตำราคิดเองเออเองกับคนที่มีประสบการณ์จริง มันต่างกันเยอะครับ
ทุกอย่างมันก็รวมเข้ากับในคำว่า...กฏแห่งกรรม...ทั้งนั้นล่ะครับ

พุทธัง สระณัง คัจฉามิ
ธัมมัง สระณัง คัจฉามิ
สังฆัง สระณัง คัจฉามิ

 

โดยส่วนตัวคิดว่ายังไงซะในหลวงก็อายุยืนอยู่แล้ว เพราะคิดว่าในหลวงท่านคงมีบารมีมาก และก็ไม่มีใครสามารถทำอันตรายใดๆแก่ในหลวงได้ คนที่คิดจะทำร้ายในหลวงหรือประเทศชาติก็ไม่สามารถทำได้ด้วย แต่พอสิ้นรัชกาลของในหลวงรัชกาลนี้ไปแล้วนั้นไม่แน่

 

ไปเจอมาครับผม...
ปกิณกธรรม
หลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีฯ วัดท่าซุง)

๑.หนี้กรรมการฆ่าสัตว์
ให้จำไว้ด้วยว่า สัตว์ทุกประเภท เนื้อแท้จริงๆเขาเป็นคน อาศัยคนที่ทำความชั่ว ทำตัวให้ตกในบาปอกุศล เมื่อตกอบายภูมิคือนรกมาแล้ว ผ่านนรก ผ่านเปรต ผ่านอสุรกายมาแล้ว ก็มาเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน เป็นการชำระกรรมหนักขั้นสุดท้าย แต่ว่าไม่ใช่ชีวิตเดียวนะ
ชำระกรรมหนัก ขั้นสุดท้ายนี้ ไม่ใช่ครั้งเดียว เคยฆ่าปลามากี่ตัว ต้องเกิดเป็นปลาให้เขาฆ่าเท่านั้นครั้ง หนักใจตรงเกิดเป็นยุงละซี่ จำไม่ได้ ถือว่าต้องใช้ชีวิตตามที่ฆ่าเขา พวกทำได้กำไรที่สุดคือพวกเรือตังเก โอ้โฮ วันหนึ่งแกล่อเป็นลำๆ เลย ไปเห็นใจหายวาบ ไอ้สัตว์ทุกประเภทก็คือคน ก็รวมความว่า เกิด แก่ เจ็บ ตาย เหมือนกันใช่ไหม ร่างกายเต็มไปด้วยความสกปรกโสโครก แล้วก็รักสุข เกลียดทุกข์เหมือนกัน
๒.อายุขัยและวิธีต่ออายุ
การต่ออายุก็ต้องทำให้มันถูก ถ้าทำไม่ถูกแล้วก็เสียเงินเปล่า ถ้าบังเอิญเป็นอายุขัยต่อเท่าไรก็ไม่สำเร็จผล เพราะเชื้อไฟเดิมดับ หมดบุญบารมีที่ทำมา การหมดบุญบารมีนั้นแม้อายุขัยก็ไม่แน่ บางคนเป็นเด็กก็หมดอายุขัย บางคนเป็นหนุ่มเป็นสาว บางคนวัยกลางคน บางคนก็ถึงวัยแก่ อายุขัยนี่ไม่แน่นอนนัก คำว่าอายุขัยนี่หมายความว่า ก่อนที่จะเกิดกฎของกรรมดีหรือกรรมชั่ว กำหนดชีวิตให้มาเท่าไร ถ้ากำหนดชีวิตมา ๒๐ ปี ก็ต้องแค่ ๒๐ ปี ๑๐ ปีก็ต้อง ๑๐ ปี ๓ วันก็ต้อง ๓ วัน นี่เป็นอายุขัย ต่อไม่ได้ ถ้าตายก่อนนั้นเขาเรียก อุปฆาตกรรม หรือว่า อกาลมรณะ อย่างนี้ต่อได้
และถ้าบรรดา ญาติโยม พุทธบริษัททั้งหลายจะต่ออายุแบบนี้ก็ต่อมันทุกวันก็หมดเรื่องกัน วิธีต่อทุกวันก็หมายความว่าให้ทุกท่านมีความเคารพในพระรัตนตรัย คือพระพุทธเจ้า พระธรรม และพระอริยสงฆ์อย่างจริงจัง และต้องเว้นจากกรรมที่เป็นปาณาติบาต ถ้ามีเวลาเดินผ่านไป มีใครเขาหาปลาหาเต่าที่เขาจะฆ่ามันให้ตาย ก็ซื้อพอกำลังที่เราจะซื้อได้ แล้วก็นำไปปล่อยในที่ปลอดภัย ไม่ใช่ปล่อยในหม้อข้าวหม้อแกงของเรานะ ไปปล่อยในสถานที่ที่เขาจะมีความสุข ในแม่น้ำก็ได้ในหนองคลองบึงก็ได้ ปล่อยให้เขารอดชีวิต
๓.วิธีต่ออายุป้องกันอุปฆาตกรรม
ตามวิธีโบราณจารย์ ท่านสอนไว้อย่างนี้นะว่า วิธีต่ออายุใหญ่ คือ ถึงปีหนึ่งถ้าเป็นวันเกิดหรือเป็นวันสำคัญของเรา วันไหนก็ได้ ทำกับข้าวทำอาหารพิเศษตามที่เราพอใจ เท่าที่ทุนจะพึงมี จัดการใส่บาตรแก่พระสงฆ์ในพระพุทธศาสนา แล้วก็ถ้าหากว่ามีเงิน ก็สร้างพระพุทธรูปสักองค์
พระพุทธรูปนี้ จะเป็นพระดินเหนียวก็ได้ พระปูนซิเมนต์ก็ได้ เป็นปูนพลาสเตอร์ก็ได้ หรือพระโลหะก็ได้ไม่จำกัด เพราะเป็นรูปพระแล้วมีอานิสงส์เสมอกัน แต่ต้องมีหน้าตักไม่น้อยกว่า ๔ นิ้ว ถวายไว้เป็นสมบัติของสงฆ์
หลังจากนั้นก็ เอาสัตว์ที่จะพึงถูกฆ่าตาย อย่างที่เขานำเอามาขายเพื่อแกงหรือที่เขาทอดแหสุ่มปลาได้ ถ้ามีสตางค์ก็ไปซื้อเขาสักตัวสองตัวตามกำลังแล้วปล่อยไป และก็อุทิศส่วนกุศลให้แก่เจ้ากรรมนายเวรและเทวดาที่ปกปักรักษาชีวิตเรา
ท่านบอกว่าถ้าทำอย่างนี้เป็นนิจ คำว่า อุปฆาตกรรม คือกรรมที่เข้ามาลิดรอนก่อนอายุขัยก็ดี และ อกาลมรณะ การที่จะตายก่อนอายุขัยก็ดี จะไม่มีสำหรับผู้ที่ทำแบบนี้ แต่ทว่าถ้ากรรมอย่างนี้เข้ามาถึง แค่ป่วยไม่มากก็เป็นของธรรมดา
๔.วิธีช่วยคนป่วยใกล้ตาย
การช่วยคนป่วยหนักจริง ๆ อย่าปล่อยให้หนักจนกระทั่งไม่มีความรู้สึก ตอนที่สติยังดีอยู่ ให้นิมนต์พระไปสวดสักครั้งหนึ่ง ไม่ใช่สวดพระอภิธรรม แต่เป็นการสวดพระปริตร วงสายสิญจน์ล้อมรอบ ถ้าผู้ป่วยจะต้องตายเพราะสิ้นอายุขัยก็ต้องตายแน่ สายสิญจน์ป้องกันไม่ได้ แต่ว่าถ้าท่านผู้นั้นจะตาย อย่าลืมว่าคนป่วยก็เหมือนคนที่ตกน้ำ ว่ายน้ำไม่เป็น เราส่งอะไรให้เกาะ เขาก็จะเกาะ ส่งไม้ให้เกาะเธอก็เกาะ ส่งสุนัขเน่าให้เกาะเธอก็เกาะ เพราะต้องการมีชีวิตอยู่
ก็เช่นกัน ถ้าคนป่วยเห็นพระสวดพระปริตร ก่อนสวดมีการสมาทานศีล จิตของคนป่วยในตอนนั้น ก็จะรับสมาทานศีลด้วยสติสัมปชัญญะที่สมบูรณ์ ทำให้เป็นคนที่มีศีล เวลาที่มีการสวดพระปริตร จิตก็จะฟังพระสวดด้วยความเคารพ จิตจะยึดอยู่กับพระ หลังจากพระกลับแล้ว จิตจะจับอารมณ์นั้นตลอด ในขณะป่วยไม่มีโอกาสทำลายศีล เพราะกำลังป่วยไม่สามารถจะไปฆ่าใครหรือไปลักขโมยใคร ถือว่าเป็นคนป่วยที่มีศีลบริสุทธิ์ ถ้ามีการถวายทานด้วย ไม่ว่าทานนั้นจะเป็นธูปเทียน ดอกไม้ ปัจจัยหรือโภชนาหารก็ตาม ถือว่าเป็นการถวายทานแก่พระสงฆ์ กำลังของทานจะช่วยคนป่วยได้อีกแรงหนึ่ง
อีกประการหนึ่ง ด้านอนุสสติ ถ้ามีพระพุทธรูปด้วย จิตของเธอจะจับพระพุทธรูปเป็น พุุทธานุสสติ จำเสียงสวดมนต์เป็น ธรรมานุสสติ การนึกถึงพระสงฆ์ที่สวดก็เป็น สังฆานุสสติ ถ้าเป็นอายุขัยที่จะพึงตาย บาปกรรมใดๆ ที่ทำมาแล้วในกาลก่อนจะไม่มีโอกาสให้ผลในเวลานั้นเหลือแต่บุญอย่างเดียว ที่จะประคับประคองคนนั้นให้ไปสวรรค์ ไปพรหมโลก หรือไปนิพพาน
..........................................................................................

 

ส่วนตัวผมคิดว่า คนเรายกอายุขัยให้กันไม่ได้หรอกครับ
ไม่งั้นคงจะมีคนอายุเป็นพันๆปี แล้ว เนื่องจากมีคนรักเคารพนับถือมาตั้งแต่สมัยกระโน้น
บางสิ่งบางอย่าง เกินความสามารถของมนุษย์จริงๆครับ