พระอาจารย์ มหาวุฒิชัย ว.ชิรเมธีท่านบอกว่า3ลัทธิกำลังครอบงำคนไทย

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย จับตา, 1 พฤษภาคม 2011.

  1. จับตา

    จับตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    432
    ค่าพลัง:
    +310
    1.ลัทธิกรรมเก่า 2.ลัทธิเทพเจ้าบันดาล 3.ลัทธิบังเอิญ ท่านอาจารย์ ว.วชิรเมธี ท่านว่าอย่างไรบ้างลอง อ่านดูครับ
    พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี หรือ ว.วชิรเมธี ผู้อำนวยการสถาบันวิมุตตยาลัย กล่าวถึงเรื่องนี้ โดยระบุว่า สาเหตุที่ผู้คนในปัจจุบันเชื่อผู้รู้เรื่องกรรม และหมอดูเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะสังคมขาดที่พึ่ง รัฐบาลพึ่งไม่ได้ และประเทศไทยกำลังตกอยู่ในสภาวะการเมืองวิกฤต เศรษฐกิจตกต่ำ คนไทยจึงต้องหาที่พึ่ง เกาะอะไรได้ก็ต้องเกาะ ดังนั้น พอมีผู้วิเศษซึ่งเสนอตนหรืออวดอ้างว่าแก้กรรมได้ มองเห็นอนาคต ทำให้คนต้องเลือกหมอดู และผู้วิเศษที่บอกว่าเป็นผู้รอบรู้เรื่องกรรมมาเป็นที่พึ่ง ขณะนี้คนไทยกำลังสับสน และไม่เข้าใจคำว่า "กรรม" อย่างแท้จริง รวมทั้ง ยังเข้าใจเรื่องกรรมคลาดเคลื่อนอยู่มาก

    พระ มหาวุฒิชัย ระบุอีกว่า หลักกรรมที่สอนอยู่ขณะนี้ไม่ใช่หลักกรรมเดียวกันของพระพุทธเจ้า เพราะพระพุทธเจ้าบอกไว้ว่า ลัทธิที่นอกคำสอนของพระองค์มีอยู่ 3 ลัทธิ ได้แก่...

    [​IMG]1. ลัทธิกรรมเก่า เป็นลัทธิที่เชื่อว่าความเป็นไปของชีวิตเป็นเรื่องของกรรมเก่า ชีวิตจะรุ่งโรจน์ และยากจนล้วนมาจากกรรมเก่า

    [​IMG]2. ลัทธิเทพเจ้าบันดาล เชื่อว่าทุกสิ่งทุกอย่างของชีวิตจะเป็นไปอย่างไร เทพเจ้าจะเป็นคนกำหนด และบันดาลไว้แล้ว

    [​IMG]3. ลัทธิบังเอิญ เชื่อว่าอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด เช่น คนจะโชคดีก็จะโชคดี ล้วนเกิดจากความบังเอิญ

    ดัง นั้น หากทำความเข้าใจทั้ง 3 ลัทธิดี ๆ จะรู้ว่าแม่ชีรายดังกล่าวสอนผิดหรือว่าสอนถูก และจะรู้ว่าการสอนเรื่องกรรมเก่าไม่ใช่หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่าเวลานี้ คนไทยกำลังถูก 3 ลัทธิครอบงำอย่างหนัก ปัจจุบันมีผู้ดูเรื่องกรรมเก่า และผู้วิเศษเกิดขึ้นมากมาย จึงอยากจะบอกว่าทุกสิ่งล้วนเป็นกฎแห่งกรรม ไม่ควรงมงาย หรือว่าหลงเชื่อ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 พฤษภาคม 2011
  2. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,275
    ค่าพลัง:
    +82,733
    ติงมีความเชื่ออย่างหนึ่งว่า ไม่มีความบังเอิญ
    เพราะเหตุมี ผลจึงมี
     
  3. จับตา

    จับตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    432
    ค่าพลัง:
    +310
    กาลามสูตร แปลว่า พระสูตรที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงแก่ชาวกาลามะ หมู่บ้านเกสปุตติยนิคม แคว้นโกศล เรียกว่า เกสปุตตสูตร ก็มี
    กาลามสูตรเป็นหลักแห่งความเชื่อ ไม่ให้เชื่องมงายโดยไม่ใช้ปัญญาพิจารณาให้เห็นจริงถึงคุณโทษหรือดีไม่ดี ก่อนเชื่อ มี ๑๐ ประการคือ
    ๑.มา อนุสสเวนะ อย่าเพิ่งเชื่อตามที่ฟังๆ กันมา
    ๒.มา ปรัมปายะ อย่าเพิ่งเชื่อตามที่ทำต่อๆ กันมา
    ๓.มา อิติกิรายะ อย่าเพิ่งเชื่อตามคำเล่าลือ
    ๔.มา ปิฏกสัมปทาเนนะ อย่าเพิ่งเชื่อโดยอ้างตำรา
    ๕.มา ตักกเหตุ อย่าเพิ่งเชื่อโดยนึกเดา
    ๖.มา นยเหตุ อย่าเพิ่งเชื่อโดยคาดคะเนเอา
    ๗.มา อาการปริวิตักเกนะ อย่าเพิ่งเชื่อโดยนึกคิดตามแนวเหตุผล
    ๘.มา ทิฏฐินิชฌานักขันติยา อย่าเพิ่งเชื่อเพราะถูกกับทฤษฎีของตน
    ๙.มา ภุพพรูปตายะ อย่าเพิ่งเชื่อเพราะมีรูปลักษณ์ที่ควรเชื่อได้
    ๑๐.มา สมโณ โน ครูติ อย่าเพิ่งเชื่อ เพียงเพราะผู้พูดเป็นครูบาอาจารย์ของตน
    เมื่อใด ท่านทั้งหลายพึงรู้ด้วยตนเองว่า ธรรมเหล่านี้เป็นกุศล ธรรมเหล่านี้ไม่มีโทษ ธรรมเหล่านี้ท่านผู้รู้สรรเสริญ
     
  4. อักขรสัญจร

    อักขรสัญจร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    4,516
    ค่าพลัง:
    +27,187
    พุทธศาสนิกชน พึงมีความเชื่อ ๔ ประการ

    ๑)กัมมสัทธา คือ เชื่อกฏแห่งกรรม
    ๒) วิปากสัทธา คือเชื่อว่าวิบากหรือผลของกรรมมีจริง
    ๓) กัมมัสสกตาสัทธา คือเชื่อว่าแต่ละชีวิตมีกรรมเป็นของตน

    ๔) ตถาคตโพธิสัทธา คือเชื่อมั่นว่าพระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้แจ้งจริง
     
  5. ลุงชาลี

    ลุงชาลี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    2,958
    ค่าพลัง:
    +4,763
    รายการคนอวดผีในทีวีนั่นแหละตัวดี งมงาย
     

แชร์หน้านี้

Loading...