ภัยหนาว ใครรู้ตอบหน่อยคะ

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย tenis, 13 ธันวาคม 2011.

  1. tenis

    tenis เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    343
    ค่าพลัง:
    +1,228
    สงสัยจริง ๆ คะ

    แต่ละปี ตั้งแต่เด็ก ๆ สามสิบกว่าปี เวลาหน้าหนาว เราก็บริจาคผ้าห่ม เครื่องหนาว

    เห็นปีก่อนเบียรช้างก็บริจากหลายแสนผืน

    ช่วง 10 ปีมานี้เราเลิกบริจาคแล้ว + สงสัยว่า เค้าไม่เก็บเครื่องกันหนาวไว้บ้างหรือ
    ของเราเองแต่ละชิ้นใช้หลายปี ตอนเด็ก ๆ เสื้อหนาวตัวหนึ่งใช้อย่างน้อย 5 ปี จนกว่าเราใส่ไม่ได้ ก็บริจาคไปต่อ

    ทุกวันนี้ งงจริง ๆ ขอบริจาคทุกปี
    ของเก่าไปไหนกันคะ
     
  2. Premsuda (May)

    Premsuda (May) เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    181
    ค่าพลัง:
    +646
    บางคนได้ของไปแล้ว ก็อยากได้ของใหม่เพิ่มอีกน่ะค่ะ ^_^
     
  3. Andromeda Galaxy

    Andromeda Galaxy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2011
    โพสต์:
    277
    ค่าพลัง:
    +314
    อืมม์..ไม่อยากจะพูดต่อเล๊ย
    แต่อดแจมต่อด้วยไม่ได้
    ก็มีประเด็นชวนให้คิด...นิ๊ดนึง
    จากการเป็นคนช่างสงสัย(เหมือน จขกท.)

    - พวกฝรั่งตะวันตก
    โดยเฉพาะพื้นที่ที่เขารู้ดีว่ามีอากาศหนาว(มาก)
    ต่อให้หนาวมากแค่ไหน
    ก็ไม่เคยเห็นข่าว ได้ยินข่าวว่า
    มีการยกขบวนไปแจกผ้าห่มกันหนาว
    หรือแม้แต่แจกเสื้อกันหนาว
    แปลกมั้ย ?

    ในขณะที่ของเมืองไทย
    แจกผ้าห่ม เสื้อกันหนาวกันทุกปี ย้ำว่าทุกปี
    เลยแอบสงสัยว่า
    เอ๊ แล้วชาวบ้านที่เคยได้รับของแจกไปก่อนแล้วนั้น
    เขาไม่คิดจะเก็บผ้าห่ม เสื้อหนาว
    ไว้ใส่ปีหน้า ปีต่อๆไปบ้างเหรอ ?

    ปัจจัยที่พยายามหามาประกอบการคิดวิเคราะห์
    - เมืองไทยไม่มีคอนเซป
    ในเรื่องการช่วยคนที่ถูกต้องหรือเปล่า
    help them to help themselve
    นี่คือหลักสากลในการช่วยคน

    ถ้าจะช่วยใคร
    ควรสอนให้เขารู้วิธีหาปลาด้วยตัวเขาเอง
    ไม่ใช่เอาปลาสุกแล้วไปแจกใส่มือเขา
    พอกินปลาหมดก็จบเห่
    หาปลาเองไม่เป็น ไม่รู้วิธีหาปลา
    (เป็นการอุปมา อุปมัยน่ะ)

    - เมืองไทยน่ะติดนิสัยสปอยล์คน สปอยล์ชาวบ้าน
    โอ๋ประชาชน จนเกินเหตุ
    เผลอๆ ลึกๆแล้วอาจจะไม่อยากให้ประชาชน
    คิดที่จะช่วยตัวเอง-ด้วยซ้ำ
    เพราะคิดว่าการเอาของ
    ไปแจกคนอื่นนั้นเป็นการทำบุญ
    (และได้เป็นเรื่องบุญคุณติดนวมมาด้วย)
    เลยเกิดกรณี win-win
    ระหว่างคนรอของแจก กับ คนอยากจะแจกของ
    (ไม่ได้จะเลี้ยวเข้าเรื่องการเมือง
    นักการเมืองแจกผ้าห่มชาวบ้านหรอกนะ)

    - เคยมีคนมาเปิดโปงนานแล้วว่า
    ผ้าห่มที่ชาวบ้านได้รับมานั้น
    พอหมดหน้าหนาว ก็จะเอามาใช้เป็นที่ตากพืชพันธุ์
    เช่น เอามาตากพริก ตากผัก ฯลฯ

    เขาเคยชินที่ทำอย่างนั้น(มาเรื่อยๆจากรุ่นสู่รุ่น)
    เพราะได้เกิดการเรียนรู้แล้วว่า
    ........เดี๋ยวก็มีคนเอาผ้าห่ม เสื้อหนาวมาแจก...
    ชาวบ้าน(ที่คิดแบบนี้)เลยไม่คิดจะดิ้นรน
    ขนขวายอย่างที่ควรจะเป็นในการไปซื้อผ้าห่ม
    ซื้อเสื้อหนาวมาเก็บไว้ใช้ในหนาวคราวหน้า

    วัฏจักรระหว่างคนแจกของ กับ คนรอของแจก
    ก็วนเวียนไปมาแบบนี้ซ้ำๆซากๆอย่างไม่มีตอนจบ

    ปล.ที่วิเคราะห์มานั้น
    ไม่ได้ต้องการจะเหมารวมว่าชาวบ้านทุกคนนะ
    ต้องการจะพูดถึง
    เฉพาะ case ที่ตั้งใจรอของแจก
    แต่ไม่คิดจะช่วยตัวเองบ้างเลย

    ส่วนชาวบ้านที่มีศักดิ์ศรี
    ไม่คิดจะรอความช่วยเหลือจากใคร
    ดิ้นรน ขนขวายหาทางช่วยเหลือตัวเอง
    ก่อนที่จะมีใครจะยื่นมือเข้าไปช่วย
    นั่นควรจะต้องยกย่องคนเหล่านั้นเสียด้วยซ้ำไป
    "ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน" ตามหลักพุทธภาษิต
    ถ้าเหลือบากกว่าแรง
    แล้วจะมีคนอื่นยืนมือมาช่วย
    ถือว่าเป็นเรื่องของน้ำใจ

    แต่ที่พูดนี่หมายถึง
    case ที่ไม่คิดจะยอม
    ช่วยเหลือตัวเองก่อน
    เอะอะก็จะเป็นฝ่ายรอรับความช่วยเหลือ
    นี่ต่างหากที่กำลังพูดถึง

    ทำให้คนเราเคยชินที่จะ
    ไม่ช่วยตัวเองก่อน
    ทำให้เคยชินกับการแบมือ
    รอความช่วยเหลือจากคนอื่น
    โดยที่ตัวเองไม่คิดจะช่วยตัวเอง
    เป็นอันดับแรกก่อน
    ที่พูดคือประเด็นนี้

    ไม่ใช่ไม่เห็นด้วยกับการ
    ให้ความช่วยเหลือคนที่เดือดร้อน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 ธันวาคม 2011
  4. GUYTHUM

    GUYTHUM เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2008
    โพสต์:
    1,356
    ค่าพลัง:
    +1,088
    ขอตอบว่า....มากับแม่คนิ้ง....4444
     
  5. จอมพล GAY

    จอมพล GAY เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    244
    ค่าพลัง:
    +219
    ผ้าห่มมันบางไปป่ะครับ
     
  6. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,275
    ค่าพลัง:
    +82,733
    ต้องยอมรับความจริงอย่างหนึ่งว่าผ้าห่มที่เราไปแจกนั้น เป็นผ้าห่มผืนบางๆ บางทีราคาไม่เกิน ๒๐๐ บาทเท่านั้น ซึ่งหากจะห่มให้อุ่น น่าจะต้องใช้ซ้อนกันไม่ต่ำกว่า ๕ผืน และชาวบ้านไม่ได้มีที่นอนหนาๆนุ่มๆนอน เขานอนบนเสื่อ
    ติงไปแจกผ้าห่มมา ๘ ปีแล้ว ก็เป็นแบบนี้ แล้วไม่ใช่ว่าจะได้ทุกครอบครัว ในแต่ละหมู่บ้าน ผู้ใหญ่บ้านจะคัดเลือกครอบครัวที่ยากจนมารับ แล้วแต่ละครอบครัวก็มีสมาชิกหลายคน อันนี้เป็นข้อมูลที่ติงไปแจกนะคะ

    ทีนี้ติงเกิดที่จังหวัดสกลนคร ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีความหนาวพอสมควร ผ้าห่มที่เราใช้ต้องเป็นผ้าห่มที่ชาวบ้านเรียกผ้าห่มนวม คือผ้าทำด้วยฝ้าย ด้านในบุด้วยฝ้ายหนาๆประมาณ ๑.๕- ๒ นิ้ว จึงห่มได้อุ่นค่ะ ซึ่งแตกต่างจากผ้าห่มที่นำไปแจกมาก

    ถามว่าแล้วทำไมผ้าห่มที่แจกจึงไม่แจกแบบหนาๆ คำตอบก็คือแบบหนาๆนั้นราคาแพงมากๆ หากจะแจกแบบนี้ สัก ๒,๐๐๐ ผืน ก็ใช้เงินนับล้าน ซึ่งเป็นเงินจำนวนมาก และจะเอาเงินที่ไหนมาแจกทุกๆปี
    แม้หน่วยงานราชการที่แจก ติงก็เห็นคุณภาพผ้าห่มว่าเป็นแบบบางๆเช่นกัน ไม่ได้ช่วยกันหนาวได้มากมายเลย
    คนที่อยู่บ้านปูน พอเข้าไปในบ้าน ก็แทบจะไม่หนาวแล้ว
    แต่บ้านไม้ หลังคาสังกะสี
    หรือฝาบ้านทำด้วยใบไม้ หรือไม้ไผ่สาน หลังคามุงหญ้า ลมพัดเข้าไปได้ จะหนาวมากๆค่ะ

    การแจกเป็นการให้ที่ผู้ให้มีความสุข ผู้รับมีความสุข
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 ธันวาคม 2011
  7. ดูงาน

    ดูงาน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    569
    ค่าพลัง:
    +2,670
    นี้คิดผิดคิดใหม่ได้นะ ชาวบ้านเข้าเก็บใส่ตู้ไว้อย่างดี มีแต่คนที่มาแจกนั้นแหละ

    อยากแสดงความเอืออาทร คิดว่าตนเองดีกว่า มีมากกว่า เขาเลยเอามาแจก

    ส่วนความคิด ที่ว่าเขาไม่เห็นคุณค่า ลืมไปเลยแล้วไปดูให้ดีๆก่อนที่จะพิมพิ์ ซีซั่ว
     
  8. จอมพล GAY

    จอมพล GAY เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    244
    ค่าพลัง:
    +219

    โอ้ว นึกว่าผมคิดไปคนเดียว
     
  9. tenis

    tenis เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    343
    ค่าพลัง:
    +1,228
    กำลังจะบอกว่า
    สามสิบปี
    ภัยหนาว น้ำท่วม ไม่เคยมีส่วนไหนที่จะคิดแก้ปัญหาอย่างจริงจัง

    พอถึงฤดูแจก ก็ไปแจก เพราะ....
    สารพัดเหตุผล

    เลยอยากรู้จริง ๆ ว่า คนในพื้นที่ แต่ละพื้นที่
    เค้าคิดจะแก้ปัญหาอย่างไร จัดการทรัพยากรในแต่ละครั้งอย่างไร
    นอกจากรอคนนอกพื้นที่ ที่อยากได้บุญ ได้ทานไปให้

    ขอบคุณคุณติงติง ที่ให้ข้อมูล
    เคยทำทานเป็นประจำ แต่ปีนี้ ตอนนี้ ไม่อยู่ในฐานะที่จะให้แล้วคะ เอาตัวไม่รอดแล้ว

    ส่วนตัวปีนี้เป็นปีที่หนักหนามากเหมือนกัน
    แต่เป็นคนชั้นกลาง เสียภาษีตลอด

    ไม่เคยได้รับสิทธิ์พิเศษ ค้าขายเสียหายแต่ละครั้ง หนักหนา
    เอาตัวไม่รอด อะไรที่เกิดขึ้นก็ก้มหน้าต้องยอมรับไป

    ยุคนี้ ตอนนี้อิจฉารากหญ้าจริง ๆ
    ใคร ๆ ก็รักกกกกกกก
     
  10. blackangel

    blackangel เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    1,751
    ค่าพลัง:
    +1,919
    ผมว่าของเก่าๆเขาก็คงเก็บๆไว้อยู่หละครับ แต่ถ้ามีคนแจกเป็นใครๆก็อยากได้ ถึงแม้ตัวเดิมอาจจะมีขาดชำรุดเล็กน้อยมั้งอะไรมั้ง

    ไม่เขาก็คงจะไปแจกในหลายๆที่มั้งครับ ปีนี้ไปแจกที่แถวนี้ ปีัต่อไปแจกแถวนู้น

    ก็ในเมื่อ
    1 พวกบริษัทต่างๆทำ CSR ประมาณว่าทำให้ดูเหมือนทำเพื่อสังคม ช่วยเหลือนั้นนี่แจกนั้นนี่ แต่ก็็ดีแล้วแหละ
    2 คนไทยมีน้ำใจเอื้อเฟื้อร่วมกันบริจาคๆๆกันทุกปี
    และยังเป็นของฟรีก็ต้องเอาไว้ก่อนแหละครับ
     
  11. aeyjoy

    aeyjoy Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    150
    ค่าพลัง:
    +78
    มีคนบอกว่าเอาไปแลกไข่ไก่
     
  12. Nirvana

    Nirvana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    8,189
    ค่าพลัง:
    +20,861
    เรื่องความหนาวนี่แก้ปัญหากันไม่ถูกจุด ครับ

    ผ้าห่มที่แจกกันหนาวไม่ได้จริงๆ
    แล้วที่แจก 1 ผืน แต่บ้านหนึ่งมีหลายคนจะแบ่งกันอย่างไร

    การที่ออกมานอกบ้านก่อกองไฟ ผิงไฟ แก้หนาวได้เฉพาะอุณหภูมิหนึ่ง
    แต่ถ้าหนาวจัดการผิงไฟเกือบจะไม่ช่วยอะไร

    ทำไมไม่มีมีการแนะนำให้ชาวบ้านสร้างบ้านดินด้วยตัวเอง
    แล้วสร้างเตาผิงไว้ข้างในด้วย จะทำให้อบอุ่นอย่างทั่วถึงถาวร
    แถมบ้านดินยังคงทนใช้อยู่อาศัยได้นานหลายชั่วอายุคนอีกด้วย

    มัวแต่แจกผ้าห่มกันแบบนี้ แจกกันไปชั่วลูกชั่วหลานก็ไม่หายหนาว
     
  13. เวียงละกอน

    เวียงละกอน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    285
    ค่าพลัง:
    +391
    เรื่องอย่างนี้มันมีหลากหลายมุมมองแต่ถ้าย้อนไปดูสถิติการแจกมันก็เยอะเกินไปจริงๆแจกตะพืดโดยไม่ดูว่าของดีไม่ดีเหมาะกับที่นั้นๆหรือปล่าวสักแต่ว่าให้ได้ออกทีวีเป็นพอซึ่งผมอยากจะให้ทุกคนเอะใจคิดสักนิดว่าการมีจิตเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์อย่างกรณีนี้มันจะเสียมากกว่าดีอย่างกรณีคุณติงติงที่ลงพื้นที่จริงและเป็นคนในพื้นที่เองด้วยย่อมบอกเล่าเหตุการณ์ได้แม่นยำกว่า แต่สิ่งนี้มันกำลังไปบิดเบี้ยวสังคมและวัฒนธรรมของเขาเหล่าน้ันความหนาวเย็นไม่ใช่พึ่งมีหรือไม่เคยปรากฏมาก่อนแต่มันมีมานานแล้วและก็หนาวกว่าก็ยังมีทำไมเขาถึงอยู่กันได้อย่างตัวผมเองเป็นคนชายขอบของจ.ลำปางฉนั้นความหนาวเย็นจึงรู้ซึ้งเป็นอย่างดีที่น่าสังเกตุคือผู้คนเหล่านี้ทุกบ้านทุกหลังคาเรือนจะมีของสะสมและเป็นงานทำมือด้วยนั่นคือสลีที่นอนหมอนผ้าห่ม(นวม)มีกันเป็นตู้ๆเลยครับพวกเราจึงไม่อนาทรร้อนทุกข์กับเรื่องความหนาว(แถมยังมีความสุขซะอีก)นั่นแสดงให้เห็นว่าชาวบ้านเขามีระบบตอบรับกับธรรมชาติที่สอดคล้องและเหมาะสมแต่เดี๋ยวนี้เป็นอย่างไรก็คงเห็นๆกันอยู่เอาอีกสักตัวอย่างผมมีโอกาสขึ้นดอยสูงหลายๆดอยทางภาคเหนือทั้งแบบทางการและไม่ทางการสิ่งที่ผมเห็นคือการอยู่กันแบบถ้อยทีถ้อยอาศัยกับธรรมชาติทั้งการทำสิ่งปลูกสร้างก็สุดยอดคือหน้าร้อนก็อยู่สบายหน้าหนาวก็อบอุ่นดีว่าก็ว่าเถอะผมยังไม่เคยเห็นชาวป่าชาวเขาเผ่าต่างๆใช้ผ้าห่มของเบียร์ช้างสักคนก็ผ้ามันหนากว่ากระดาษเอสี่นิดนึ่งเอาไม่อยู่หรอกครับฉนั้นจึงไม่แปลกที่แจกทุกปีๆก็ไม่พอเพราะเขาเอาไปทำอย่างอื่นไม่ได้เอาไว้กันหนาวลองตรวจสอบย้อนหลังก็ได้ว่ามีใครตายเพราะหนาวบ้างไม่มีหรอกครับยกเว้นพวกกินเหล้าแล้วหลับลืมหรือพวกที่มีโรคประจำตัวลองคิดดูนะครับบ้านเราอยู่แถบศูนย์สูตรพม่ากับจีนอยู่สูงกว่าเราไปอีกก็ไม่เห็นมีใครตายนี่ครับเอาไว้ถ้าหิมะตกค่อยว่ากันครับ
     
  14. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,275
    ค่าพลัง:
    +82,733
    มาพิมพ์ต่อนะคะ(...แว้บไปทำงานมาค่ะ ^-^)

    ที่สกลนคร..ความหนาวที่นั่นชาวบ้านเรียกว่าหนาวหมอก คือไม่มีลม ความหนาวแบบนี้ทรมานมากๆ ช่วงบ่ายๆ ติงต้องเอาผ้าห่มไปผึ่งแดดให้อุ่นและรีบเก็บพับขณะที่ผ้าห่มยังไม่คายความร้อน เวลาเอามาห่มก็จะอุ่นค่ะ หนาวแบบนี้(หนาวฟ้า)ต้องผิงไฟ แต่เวลาผิงไฟ เราหันหน้าไปหาไฟ หน้าก็จะร้อน ส่วนหลังก็จะหนาวค่ะ แต่ก็ยังดีที่ไม่หนาวทั้งด้านหน้าและด้านหลัง เวลาผิงไฟ ผิวก็จะแตกค่ะ ^^ เหมือนผืนนาหน้าแล้งที่ดินแตกระแหง.....

    แต่ที่ยโสธร(จังหวัดที่ติงมาทำงาน) จะหนาวลม (ต้องห่มผ้า) ติงอยู่บ้านปูนก็จะกันลมได้ อุณหภูมิในบ้านกับนอกบ้านต่างกันถึง ๕ องศาเซลเซียส(วัดจริงๆค่ะ อย่างเมื่อเช้าด้านนอก ๑๔ องศา ในบ้านก็ ๑๙ องศา ถือว่าไม่หนาว แต่นอกบ้านจะลมแรงมาก หนาวจนสั่นค่ะ
     
  15. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,275
    ค่าพลัง:
    +82,733
    จริงๆแล้วความหนาว ทำให้ครอบครัวอบอุ่นมากนะคะ
    จำได้ว่าประมาณตี ๔ คุณพ่อจะรีบลุกจากที่นอนก่อนใครในบ้าน
    ท่านจะไปก่อไฟไว้ให้ลูกๆ
    พอพวกเราได้ยินเสียงแตกเปรี๊ยะๆของลูกไฟ เราก็จะรีบลุกไปผิงไฟ
    (มีความสุขมากๆๆๆ...)

    ช่วงเวลากลางคืนยิ่งมีความสุข เราเด็กๆจะนั่งบนเสื่อ ปากเคี้ยวข้าวจี่ด้วยความเอร็ดอร่อย(อาหารว่างของคนจน) บางทีก็มีมันเทศที่หมกในขี้เถ้า อร่อยหวานอย่าบอกใคร(คุณแม่จะเก็บมันเทศไว้ให้เหี่ยว เพื่อที่เวลาหมกจะมีรสหวาน แต่มันเทศสดๆก็อร่อยไปอีกแบบนะคะ) บางทีก็เผือกบ้าง มันสำปะหลังบ้าง มันสุดๆคือเม็ดมะขามที่หมกในขี้เถ้า ^^ คิดแล้วก็อยากเป็นเด็กอีกครั้ง ^-^
     
  16. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,275
    ค่าพลัง:
    +82,733
    ผ้าห่มที่เบียร์ช้างแจก มีประโยชน์คือใช้คลุมกันหนาวเวลาผิงไฟได้ค่ะ ติงเห็นชาวบ้านใช้ประโยชน์ในลักษณะนี้ และเด็กๆเอาไปโรงเรียนด้วย ใช้คลุมตัวเองเวลาเรียน เพราะที่เลิงนกทา.... ครูไม่สามารถนำนักเรียนไปสอนนอกห้องให้เด็กๆผิงแดดได้ เพราะนอกห้องเรียนลมแรง หนาวกว่าอยู่ในห้องเรียน แถมไม่มีแดดด้วยสิคะ
    พรุ่งนี้ ติงกะว่าจะหิ้วฮีตเตอร์ไปโรงเรียนด้วย เปิดให้เด็กๆอุ่น สงสารเด็กๆค่ะ
    (จริงๆ อยากจะใช้เตาถ่าน เพราะใช้ทำข้าวจี่ และทำอาหารอื่นๆได้ด้วย เช่น นัดเด็กๆเอามันมาเผา แต่เกรงว่าเด็กๆจะไม่เป็นอันเรียน และครูก็ไม่คิดจะสอน กลายเป็นล้อมวงรับประทานอาหารค่ะ ^^)
     
  17. adieu

    adieu Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    138
    ค่าพลัง:
    +29
    สมัยที่ข้าพเจ้าเรียนภาษี อาจารย์เคยถามว่า "มีรายได้มากก็จ่ายภาษีมาก แต่ถ้ามีรายได้น้อยก็จะจ่ายภาษีแค่น้อยเดียว พวกคุณอยากจะจ่ายภาษีมากหรือน้อยถ้าเลือกได้??"

    ข้าพเจ้าถือว่ามันเป็นบุญเก่าบารมีแก่ของท่านแล้วที่เกิดมามีโอกาสได้เสียภาษีบำรุงประเทศชาติ ถ้าชะตาของท่านต้องเกิดมาเป็นรากหญ้าจริง ท่านจะไม่พึงยินดีในความเป็นอยู่และศักดิ์ศรีในสังคมเหมือนที่ท่านกำลังอิจฉาอยู่ในขณะนี้สักเท่าไรหรอก

    พึงพิจารณาจิต แลเมตตาบารมีของท่านให้จงมากเถิด
    เจริญธรรม ขออนุโมทนา
     
  18. gun2555

    gun2555 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    701
    ค่าพลัง:
    +1,205
    ที่จริงก็เป็นคนบ้านนอกอยู่ในถิ่นที่หนาวจัดเหมือนกัน ไม่เห็นจะมีใครมาแจกอะไร หรือมีก็ไม่ค่อยได้รับกะเขาหรอกเพราะเขาไม่ให้และไม่ไปขอรับ เสื้อกันหนาวและผ้าห่มกันหนาวเต็มบ้านตัวหนึ่งใช้ได้หลายปี เห็นผ้าห่มที่เขาเอามาแจกนะยังนั่งหัวเราะเพราะเป็นผ้าห่ม เขาเรียกว่าผ้าห่มขี้งานะไม่รู้จะอธิบายอย่างไรไม่ทน บาง ให้ความอบอุ่นไม่ค่อยได้ ชักน้ำทีขาดไปก็มี พอขาดเขาก็เอาไปใช้ประโยชน์อย่างอื่น(ไม่บอก) เคยไปทำงานที่เขตหนาวมากๆก็มีคนเอาผ้าห่มและเสื้อกันหนาวไปแจกก็เคยดูเขา บางคนก็ได้เสื้อกันหนาวจริงก็มีเพราะเขาจัดใส่ถุงไว้ไม่ให้ผู้รับแจกเลือก บางคนได้กระโปรงสั้น บางคนได้ชุดราตรี บางคนได้เสื้อแขนกุดแขนสั้นกางเกงขาสั้น(สาระพัดแบบ) เห็นเด็กใส่ชุดราตรีไปโรงเรียนบางคนใส่ชุดราตรีไปไร่ก็มีนะ(ได้แต่นั่งหัวเราะ)แต่ก็มีของแจกที่ตรงที่สุดใช้ได้เหมาะก็เป็นผ้าห่มที่ อบต.อบจ.เขาซื้อมาแจก เคยเข้าป่าหน้าหนาวอุณหภูมิ ตั้งแต่5-12 องศา แล้วแต่อยู่ที่สูงที่ต่ำ ไม่ได้เอาผ้าห่มและถุงนอนไป ก็ช่วยเหลือตนเองโดยการก่อกองไฟก็อบอุ่นและอยู่ได้ และขอแนะนำถ้าเราไปอยู่ในที่หนาวมากๆ ไม่มีเสื้อกันหนาวก็ให้ชื้อถุงพลาสติดเอามาตัดเป็นเสื้อกั๊กสวมทับเสื้อบางๆที่เราใส่จะทำให้อบอุ่นทันที ไปเห็นคน จ.เลย เขาทำผ้าห่มจากฝ้ายที่เขาปลูกไว้แต่ละบ้านมีเป็น 10-15 ผืน ที่จริงในเขตหนาว เกษตรอำเภอควรส่งเสริมให้ชาวบ้านปลูกฝ้ายสักบ้านละ ครึ่งงาน(50ตารางวา) ก็สามารถทำผ้าห่มได้เยอะโดยต้องสอนวิธีการทำผ้าห่มให้ด้วย และเกษตรอำเภอควรหาพันธ์ฝ้ายที่เหมาะกับแต่ละ จว.ที่หนาว
     
  19. vorapoap

    vorapoap เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2010
    โพสต์:
    70
    ค่าพลัง:
    +250
    เคยคิดว่าของที่บริจาคไป จะกลายเป็นของมือสองขายตามตลาดนัดครับ ผมเข้าใจว่าคงมีส่วนหนึ่งเป็นไปตามที่ว่านี้ในกรณีของการบริจาคเสื้อหนาว แต่ถ้าผ้าห่มคงไม่ใช่ครับ
     
  20. marine24

    marine24 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    2,224
    ค่าพลัง:
    +15,636
    ควรจะสอนให้ผลิตเป็นงานโอทอปไปเลย ทั้งผ้าห่ม เสื้อกันหนาว ผ้าฝ้ายจะดี กันหนาวดี ผมเคยเห็นเขาผลิตเป็นแบบเสื้อกันหนาวแบบแจ็คเกต สวยดี เสื้อ-กางเกงนักเรียนระดับประถม มัธยม ใช้ผ้าม่อฮ่อม ผลิต รัฐรับซื้อเอาไปแจกที่กันดาร หรือขายไปประเทศเพื่อนบ้าน ถ้ารัฐขาดแคลนงบประมาณ มิต้องหนาวตายเกลื่อนพอๆกับน้ำท่วม และคาดว่าอาจจะมีหิมะตกในประเทศไทยในอนาคต และคาดจะมีคนตายจำนวนมาก
     

แชร์หน้านี้

Loading...