ทำสมาธิเพราะอยากนอนหลับ แต่ผลกลับตรงกันข้าม

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย Klaiban, 16 ธันวาคม 2011.

  1. Klaiban

    Klaiban Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +33
    (เป็นเรื่องเล่าเคล้านิยายนิดนึงนะ)

    เราอยากลองนั่งสมาธิ เหตุเพราะนอนไม่ค่อยหลับ เหมือนจะหลับแต่รู้ตัวตลอด และมักจะมีสิ่งเร้นลับมารบกวนเสมอยามนอน เป็นมาเรื่อยตั้งแต่ช่วงออกพรรษาที่ผ่านมา มาให้เห็นจะ ๆ ทางตาเนื้อก็มี ได้ยินเสียงสวดอภิธรรมแว่วมาขณะตื่นอยู่ก็มี กลิ่นธูปลอยมาบ้างก็มี จนต้องแขวนพระติดตัวตลอด อุทิศบุญ แผ่เมตตาให้สิ่งที่พบเจอ จนพอนอนหลับได้บ้าง

    จนมาอาทิตย์นี้ มาอีกแล้ว มาให้เห็นในฝันในรูปพวกคนทรงเจ้า นุ่งดำขี่ควายบ้างล่ะ ศาตราวุธครบมือทีเดียว นุ่งขาวมาพร้อมกับงูใหญ่แผ่พังพานแยกเขี้ยวบ้างล่ะ แต่ล้วนแล้วมีลูกประคำคล้องคอ หยิบสร้อยพระในมือเราเขวี้ยงทิ้งจนขาดบ้างล่ะ หนักสุดก็เข้ามาแย่งและพยายามดึงสร้อยพระหลวงปู่ทวดที่แขวนออกจากคอเลย ประกาศก้องออกมาเลยว่าตัวเขาไม่กลัว เขาก็เป็นใหญ่ มีฤิทธิ์มากเหมือนกัน ทำไมไม่เคารพ ไม่กราบไหว้เขา เราก็ไม่กลัว เราก็ประกาศออกไปเหมือนกัน ว่าเมื่อก่อนที่ผ่านมาเป็นยังไงเราไม่รู้ แต่ให้รู้ไว้เลยนะว่านับแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป เรามีพระพุทธเจ้าเป็นที่สุด และจะยึดมั่นในพระธรรมและพระสงฆ์สาวกพระผู้มีพระภาคผู้ประพฤติดี ประพฤติชอบเท่านั้น ไม่เคารพบูชาสิ่งอื่นที่นอกเหนือจากนี้เด็ดขาด และท่าไม่ชอบก็ขอให้อยู่ทางใครทางมัน อย่าผูกเวร ผูกพยาบาท และอโหสิในเรื่องที่เราทำให้ขัดเคือง พอบอกจะแผ่เมตตาอุทิศบุญให้ เขาก็บอกไม่เอา ไม่รับ สวมมนต์ไม่ได้ ฟังไม่รู้เรื่อง เราก็บอกไม่เห็นยาก ก็แค่โมทนาก็ได้ เขาก็ยังรั้นไม่เอา ไม่รับ เราก็ไม่สนแล้ว

    ส่วนเรื่องที่เรายึดมั่นมากขนาดไหน เอาแบบว่าขนาดตอนที่เขาเข้ามาแย่งสร้อยคอหลวงปู่ทวดจากคอ จนพระเครื่องหลวงปู่แบ่งออกเป็น 2 องค์ให้เรากำทั้งมือซ้ายมือขวา (เพราะทุกครั้งที่สู้กำลังเขา เราจะสวดมนต์ อารธนาขอพรพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ให้แคล้วคลาด) จิตในตอนนั้นยังลังเลสงสัยเลย คิดว่าพระเครื่องอีกองค์ที่อยู่ในมือคือพระอะไร เพราะจิตบอกไม่ใช่หลวงปู่ทวด พอเขาไปแล้ว ตื่นมาจึงตั้งจิตถามหลวงปู่ แล้วภาพที่ปรากฎให้เห็นในฝันหลังถามหลวงปู่ คือ ภาพพระจีนลักษณะเหมือนพระสังกัจจายน์มาในรูปยืน อยู่ทางซ้ายมือ ภาพหลวงปู่ทวดนั่งขัดสมาธิ อยู่ทางขวา แล้วข้างหลังเต็มไปด้วยพระจีนที่เป็นบริวารแต่งกาย เหมือนพวกเซียนที่เห็นตามวัดจีน ขนาดเห็นอย่างนี้ เรายังไม่เชื่อว่าท่านจะมาช่วย เพราะเราไม่นิยมทางมหายาน แม้ทางเถรวาทท่านคือ พระมหากัจจายนเถระ สาวกเอตทัคคะของพระพุทธองค์ก็ตาม

    จนเมื่อผู้ปองร้ายเรามาอีกพร้อมบริวารงู ขณะสู้กำลังอยู่กับบริวารงูของเขา จู่ ๆ ก็มีภาพพระมหากัจจายนะทรงเครื่องแต่งตัวแบบจืน ลอยมาปะทะกับผู้ที่ปองร้ายเราจนเขาหงายหลัง เราก็เลยได้ทีกระทืบซ้ำทั้งเจ้านายและบริวารงูของเขา แล้วก็ตื่น จนตอนนี้ก็ยังคิดไม่ตกว่า กลับไทยคราวหน้าจะหาพระเครื่องท่านองค์เล็ก ๆ มาบูชาคู่หลวงปู่ทวดดีไหม เพราะครั้งหนึ่งนานมาแล้วเป็น 10 ปีได้ เคยมีหมอดูท่านหนึ่งบอกว่าพระประจำตัวที่คอยคุ้มครองเราคือ พระสังกัจจายน์ ให้เราหามาบูชาซะ

    นี่คือที่มาที่ไปของเหตุที่อยากลองฝึกสมาธิ เพราะจะได้ระงับความฟุ้งซ่านที่เล่ามาหมดข้างต้น จะได้หลับได้สักที จริง ๆ ทำมาได้ 3-4 วันแล้ว เรียกว่านอนสมาธิดีกว่า เพราะทำตอนเข้านอน และก่อนทำ ก็จะตั้งจิตรักษาศีล 5 ก่อน จากนั้นก็ฝึกแบบอานาปานสติ ตามที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ ไม่มีการท่องบริกรรม หรือ ภาวนาใด ๆ ทั้งสิ้น แค่กำหนดรู้ลมหายใจ เข้า-ออก ว่าสั้นก็รู้ ยาวก็รู้ จากที่สังเกต ระยะการหายใจเข้าออกของลมจะนานกว่าธรรมดา เพราะเทียบจากการฟังเสียงลมหายใจของสามี เราหายใจเข้าออกครั้งหนึ่ง ของเขาจะถี่และหลายครั้งมาก แต่ขณะรู้ลมหายใจ ก็จะสังเกตอาการของจิตไปด้วย ว่าเดี๋ยวมันดอดไปจับสังขารบ้างล่ะ จับสัญญาบ้างล่ะ แต่ก็แค่รู้ว่า อ๋อ มันเป็นอย่างนี้เอง ไม่ได้สนใจ แล้วก็กลับมารู้ลมหายใจต่อ เสียงไม่เป็นอุปสรรคในการจับลมหายใจ ทุกครั้งที่เลิกทำ ก็ไม่รู้หรอกว่าตัวเองได้สมาธิเหรอเปล่า แต่ก็ไม่สนใจมาก ขอแค่เลิกฟุ้งซ่าน นอนหลับได้เป็นพอ แต่ก็ยังไม่หลับ

    จนเมื่อคืน เขาว่ากันว่า ถ้าทำสมาธิไม่มีครูอาจารย์ มักจะไม่ดี เราไม่รู้จะทำอย่างไร ก็เลยกำหลวงปู่ทวดในมือ แล้วบอกท่านว่า หลวงปู่พาหนูเข้าสมาธิหน่อย ก็ทำเหมือนสองสามคืนที่ผ่านมา แต่คราวนี้รู้สึกว่าร่างกายหาย แต่ยังรู้ลมหายใจ แต่เบามากเหมือนไม่มีลมหายใจ แต่ก็ไม่ได้กลัว ก็ดูลมหายใจไปเรื่อย ๆ ก็ยังได้ยินเสียงสามีกรนเบา ๆ รู้อาการที่ร่างกายเขาพลิกมาโดนเรา รู้ตัวอยู่ทุกขณะ แค่เหมือนกับไม่มีร่างกายแค่นั้น

    แต่ปัญหาคือ กลับนอนไม่หลับซะงั้น เพราะมันเหมือนกับรู้ตัวอยู่ทุกขณะจิตแม้ในยามหลับ แต่ตื่นมาก็ไม่ได้เพลีย หรือ งัวเงียนะ ไม่ได้หงุดหงิด งุ่นง่าน แต่... เราอยากนอนหลับสนิท จะดื่มเครื่องดื่มผสมแอกกอฮอล์ก่อนนอนก็ไม่ได้ เพราะจะรักษาศีล 5 ตอนนอน แต่จะให้เปลี่ยนเวลาทำเป็นเวลาอื่นก็ไม่สะดวก จะออกกำลังกายก่อนนอนก็เกรงว่าจะหนักเข้าไปอีก หรือจะเลิกทำไปเลย ก็ไม่น่าจะใช่ทางออกที่ดี

    ใครมีวิธีแก้ไขอย่างไร ช่วยหน่อยเถิด และขอขอบคุณล่วงหน้า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 ธันวาคม 2011
  2. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,443
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,663
    ถ้าคุณเป็นลักษณะที่ภาวนาแล้วนอนไม่หลับ...ให้เลิกภาวนาเลยนะครับ...แต่ทำใจสบายแค่นั้นพอ....

    คือเราจะใช้เวลาภาวนาก่อนนอนนะครับ...เราเอาเวลานั้นเพื่อที่จะเคลียร์จิต อาจสักครึ่งชั่วโมงก่อนนอนก็ได้ครับ...เราให้เวลาตรงนั้นนะ...แต่ตอนนอนเราจะวางกำลังใจสบายๆเท่านั้นก็พอ....คือหมายเอาเวลาพักผ่อน คือ ให้กายและจิตได้พักผ่อนอย่างเต็มที่เพื่อเช้าวันใหม่ที่สดใส....

    แต่ก่อนผมก็มีลักษณะเช่นนี้หละครับ...ภาวนาตอนนอน(จริงๆแล้วไม่ใช่ภาวนาแต่ตอนนอน คือช่วงระหว่างวันภาวนามาแล้วทั้งวัน เมื่อมีเวลาจับภาวนาได้)....เป็นเหตุให้นอนไม่หลับครับ...จิตมันรู้ตัวอยู่เสมอนะ ตื่นมาตาคล้ำเลย ไม่สดใส อย่างที่คุณเป็น....กัลญาณมิตรท่านบอกให้เลิกเลยครับ....ดีขึ้นมากเลยนะ....เขาบอกว่าเป็นอาการฌานค้าง วิริยะมากเกินไป....
     
  3. บุคคลทั่วไป 3 คน

    บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,942
    ค่าพลัง:
    +1,253
    มาดูกันก่อนว่า สิ่งที่คุณอยากได้ คืออะไร

    สิ่งที่คุณอยากได้กลับคืนมา ก็คือ ภพชาติ เรียกตาม เทคนิคนิดหน่อยก็ ภวังค์

    ภวังค์ ตัวนี้ไม่ใช่หลับ เพราะ หลับนั้น คุณได้รับมันเพียงพอแล้ว ให้สังเกตจากร่าง
    กายที่ไม่ล้า ไม่เพลีย ไม่พาพาลหงุดหงิด นั่นแปลว่า ร่างกายได้รับการผักผ่อนเพียง
    พอแก่ธาตุขันธ์แล้ว

    ส่วนตัวจิตนี้ ก็มีความต้องการผักผ่อนเหมือนกัน ซึ่ง ผักผ่อนได้สองวิธี วิธีแรกคือ
    หลับไปพร้อมกับกาย คือ เข้าภวังค์ กับอีกวิธีหนึ่ง คือ ขึ้นวิถีแต่ไม่เข้า ซึ่งก็คือการ
    ทำสมาธิ

    ดังนั้น ร่างกายคุณผักผ่อนเรียบร้อย แต่ คุณไม่ทราบว่า จิต กับ กาย นั้นคนละส่วน
    กัน ก็เลยคิดว่า ร่างกายผักผ่อนไม่พอ

    แล้วเอาเข้าจริงๆ จิต คุณก็ผักผ่อนเรียบร้อยแล้ว แต่ ไม่ได้พักแบบปุถุชนผู้ไม่เคยสดับอีก

    พูดให้ตรงๆ คือ คุณไปหิวอารมณ์แบบปุถุชนคนหนา เพราะ ผูกความพอใจไว้ว่า การนอน
    มันเป็นของดี

    ขอให้คุณปรับทิฏฐิใหม่ว่า การนอน(กาย+จิต) มันเป็นเรื่องของการผักผ่อนของคนปุถุชน

    ส่วนคนที่อบรมจิตดีแล้ว จิต จะไม่เสพภวังค์อีก อย่าง อรหันต์ ท่านว่า พระอรหันต์
    ท่านไม่มี ภวังคจิต อีก หมดภพ หมดชาติ สิ้นภพ สิ้นชาติ ก็เลยวัดว่าปุถุชนหรือ
    ผู้อบรมดีแล้วกัน ตรงความหิว อาลัยอาวรณ์อารมณเก่าๆ อาลัยอาวรณ์การมีภพชาติ

    * * *

    ที่นี้ มันก็มีสาเหตุ ประกอบ ในกรณีของคุณ มันมีเหตุประกอบ โดยเหตุประกอบนั้น
    เป็นการเล่นละครตบตาของขันธ์มาร

    ขันธ์มาร หรือ สังขารขันธ์ มันปรุง เทพ พระ อิน พรหม ยม ยักษ์ มาเต้นแร้งเต้นกา
    เพราะมันแอบรู้ว่า เมื่อคุณเจอแล้ว จะมีจิตไปทางปฏิฆะ คือ ไม่ชอบ

    เมื่อไม่ชอบการพบ การเจอ โทมนัสก็กรุ้มรุมจิต แล้วพอได้ที่ มันก็เอา ภวังค์ มา
    อ่อยเหยื่อ

    พอจิตคุณเข้าภวังค์ปั๊ป มันเป็นธรรมชาติเลยที่ ในภวังค์นั้น ผี หรือ เทพ หรือ สังขาร
    ใดๆก็เกิดขึ้นไม่ได้อีก เรียกอาการนั้นว่า หลับไหลสนิท

    พอหลับไหลสนิท ได้ที่ มันก็หลอกถามว่า "ชอบม๊า ชอบม๊า" ซึ่งคุณก็เผลอชอบเข้า

    เรียบร้อยโรงเรียนจีน ปฏิบัติดีแล้วแต่ถูกมันหลอก จะให้เลิก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 ธันวาคม 2011
  4. Klaiban

    Klaiban Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +33
    แต่คุณ Phanudet จะเรียกว่าวิริยะเกินไป ก็ไม่น่าจะใช่ เพราะเวลาเราทำไม่น่าจะเกิน 10 นาที ส่วนที่บอกว่า เป็นอาการฌานค้าง ยิ่งไม่น่าใช่ เราเพิ่งทำได้แค่ 3-4 วันเอง ไม่น่าจะเรียกว่าฌานได้ขนาดนั้น คิดว่าเราอาจจะมีสมาธิขั้นต้นนิดหน่อยเท่านั้น แต่เราจะปฏิบัติตามคำแนะนำ จะไม่ทำก่อนนอนแล้วนอนเลย แต่จะทำก่อนนอนซัก 1/2 ชม. ขอบคุณมากสำหรับคำแนะนำ

    ***
    ขอบคุณมาก คุณ บุคคลทั่วไป 3 คน เราไม่เคยปฏิบัติสมาธิอะไรกับเขามาก่อน แค่เพียงอยากลองทำดู เพราะเป็นหนทางสุดท้ายแล้ว เพราะเราไม่ได้อยู่ที่ไทย จะได้ไปขอคำปรึกษาใครได้ เราไม่ได้เป็นนักปฏิบัติ เลยไม่ค่อยเข้าใจเรื่องขันธ์มาร หรือ สังขารขันธ์ปรุงแต่งเท่าไหร่ แต่อย่างที่คุณบอก ถูกแล้ว เราแค่อยากกลับมาปกติเหมือนเดิม เพราะคิดว่าจิตมันปรุงแต่งเหลือเกินหมู่นี้ ทุกครั้งที่ตื่นจากเหตุการณ์แปลก ๆ ที่เข้ามาให้เห็นในฝัน จะตื่นแบบเหมือนจิตสะดุ้ง บางทีในฝันจิตรู้แม้กระทั่งว่าสิ่งที่เห็นคืออะไร เป็นใคร สื่อได้แม้กระทั่งเจ้าที่ที่บ้านเก่าที่เมืองไทยทั้งที่ตัวอยู่ต่างประเทศ เล่าให้คนอื่นฟัง ก็หาว่าบ้าบ้าง คิดมากบ้าง กินมากบ้าง ธาตุกำเริบบ้าง หนักกว่านั้น บางคนก็หาว่าไปรับขันธ์มาหรือเปล่า ถูกเปิดมโนวิญญาณ ไปหลบลู่อะไรหรือเปล่า บ้างก็ว่าจิตอ่อน ก็ว่ากันไป จะว่าทุกข์หรือกลัวกับสิ่งที่เห็นก็ไม่ใช่ แต่ว่ารบกวนใจมากกว่า

    ฉะนั้น เราจะพยายามปรับทิฏฐิใหม่ตามที่คุณบอกว่า ''การนอน(กาย+จิต) มันเป็นเรื่องของการผักผ่อนของคนปุถุชน''
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 ธันวาคม 2011
  5. wainkam

    wainkam เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2011
    โพสต์:
    757
    ค่าพลัง:
    +881
    "เรามีพระพุทธเจ้าเป็นที่สุด และจะยึดมั่นในพระธรรมและพระสงฆ์สาวกพระผู้มีพระภาคผู้ประพฤติดี ประพฤติชอบเท่านั้น" อนุโมทนาสาธุครับ ^^

    ผมก็เคยเป็นเหมือนท่าน จขท. ครับ หลับปุ๊บเข้าโหมด auto เลย คิดทั้งคืนเป็นอยู่จะอาทิตย์เลยไม่ไหวละ ขอท่าน..ว่าช่วยผ่อนให้พอ..เลิกคิดหน่อย ^^'
    แต่อารมณ์ตอนนั้น จิตก็ไม่ได้วุ้นวายมากนะครับ เพียงแต่นำเอาเหตุการณ์ตอนกลางวัน มาคิดทาน หาเหตแล ผล

    สาธุท่าน บุคคลทั่วไป 3 คน ด้วยครับที่ช่วยให้ความกระจ่าง
     
  6. bluebaby2

    bluebaby2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2010
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +4,287
    เป็นคล้ายๆ ผมนะครับ ผมนอนไม่หลับมา 10 กว่าปีคือจิตมันฟุ้งซ่าน แต่ตอนนี้ดี
    ขึ้นมาก ที่นอนไม่หลับเพราะมันคลายไม่เป็น ลองไม่กำหนดดูครับ ทำใจสบายๆ
     
  7. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,443
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,663
    ครับผม...ของคุณกับของผมอาจไม่เหมือนกัน...

    แต่อย่างไรแนะนำตามที่บอกไปครับ....ทำก่อนนอน จะนอนให้ทำใจสบาย แล้วหลับไปเลยครับ....
     
  8. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,428
    ค่าพลัง:
    +35,035
    กรณีฝันแบบนี้..ต้องไม่เก็บมาคิดเลย..เพราะเก็บมาคิดจะเป็นการเพิ่มกำลังให้เค้าโดยที่เราไม่รู้ตัว..การที่คุณทันในฝันได้.แสดงว่ากำลังสติ(ทางธรรม)พอมีกำลังอยู่บ้าง ถ้าทันตั้งแต่ต้นเรื่องแสดงว่ามีมาก ทันกลางๆ และทันตอนที่เรื่องเริ่มต้นไปพอสมควรก็ถือว่ามี...แต่ถ้าไม่คิดอะไรเลยหลังจากตื่น..เค้าอาจจะเปลี่ยนรูปแบบของเรื่องที่จะเข้ามา..ถ้าทันตั้งแต่ต้นเรื่อง เรื่องนั้นก็จะไม่มีอีก..ฝันทำนองนี้ผมคาดว่าเกิดจาก ขันธ์ห้าส่วนนามธรรม..เหตุเพราะเค้าเล่นงานเราขณะลืมตาไม่ได้เพราะกำลังสติเราพอมี..เลยมาเล่นตอนหลับ..
    วิธีแก้ จะนอนหลับ..ให้ทำใจสบายๆ ไม่ต้องคิดอะไร ส่วนฝันก็ไม่ต้องมาคิดอะไรเลย..ประมาณนี้ครับ...
    อนุโมทนาสาธุครับ...
     
  9. Klaiban

    Klaiban Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +33
    *** คุณ nopphakan ทันตั้งแต่ต้นยันจบเลยค่ะ แล้วเป็นอย่างที่คุณบอกเลย เรื่องเปลี่ยนรูปแบบของเรื่องที่จะเข้ามา เพราะเราไม่กลัว และตลอดเวลาที่เผชิญหน้ากัน เราจะขอพรพระช่วยคุ้มครองตลอด บางทีต้องสวดบทสรรเสริญพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆาคุณจนจบบ้างก็มี ตื่นมาเราก็คิดแค่ว่า มันก็แค่ฝันเท่านั้น แต่ที่แปลกก็คือ ก่อนนอนเราก็ทำใจให้สบาย สวดมนต์ไหว้พระ ขอพรพระรัตนตรัยให้คุ้มครอง แต่พอหลับได้สักพัก เขาก็มักจะเข้ามาในฝันเสมอ

    แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นตามที่คุณบอก แสดงว่าเรายังยึดในขันธ์ 5 ถูกไหมคะ เขาเลยเล่นงานเราได้
     
  10. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,428
    ค่าพลัง:
    +35,035
    ไม่ใช่ว่าเรายังยึดในขันธ์ 5 ซะทีเดียวนะครับ..เพียงแต่เรามีโอกาสที่จะ.ไม่ยึดติดในขันธ์ต่างหาก มีโอกาสคลายใจออกจากความคิดจากขันธ์ 5 ได้สูงและเร็ว(ส่วนมากคนไม่มีขันธ์ส่วนนามธรรม อายุจะมากๆแล้วคับและต้องเป็นคนผ่านประสบการณ์ในชีวิตมาพอสมควร ชนิดฟ้าถล่มก็ไม่สน นอนปุบหลับปั๊บ)..ขันธ์ส่วนนามธรรม..เค้าเป็นวิบากกรรมเก่าทั้งนั้น..เค้าไม่ยอมปล่อยเราง่ายๆคับ..ในฝันเค้าจะเล่นเรื่องที่เป็นจุดอ่อนของเราในทางโลก.เพื่อทดสอบระดับจิตเรา..ในทางภพภูมิถ้าสมมุติเรา..ส่งจิตออกไปไหนก็ตาม..เค้าก็ตามเพื่อให้เราเกิดนิวรณ์.แล้วทำให้สมาธิเราตกและกลับมา..ในกรณีของขันธ์ 5 นามธรรมนี้ ขอให้พระรัตน์ไตร หรือขอบารมีต่างๆ ไม่มีผลครับ.เพราะยังไงเค้าก็เค้าถึงเราได้..เนื่องจากเป็นวิบากกรรมเก่าของเราเองตั้งแต่อดีตชาติ.และในปัจจุบันนี้ครับ เทพหรืออะไรก็แล้วแต่จะไม่ยุ่งครับ....การจะต่อสู้ได้คือ กำลังสติอย่างเดียวเท่านั้น..ที่จะต้องเด็ดขาดไปเลย ว่าเรื่องนี้ไม่ถูกต้องนะ ไม่ควรนะ เป็นอกุศลนะ และต้องมั่นคงด้วยครับ...บอกใบ้ให้ก็ได้ว่า เค้าอยู่ข้างๆจิตเรานั่นหละครับและจะตามเราไปทุกภพทุกชาติถ้าเราตัดเค้าไม่ได้ ประมาณนี้ครับ
    ขอบคุณครับ..
     
  11. คุรุวาโร

    คุรุวาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    3,465
    ค่าพลัง:
    +13,430
    นิมิตเป็นเรื่องเป็นราวมากเลยครับ เวลาผมนอนไม่หลับ ผมจะสวดมนต์ในใจไปเรื่อยๆ จนกระทั่งหลับไป เช่น บทถวายพรพระ คาถาโพธิบาท
    คาถาพระธาณารปริตร เป็นต้น ส่วนใหญ่ไม่เกิน 3 รอบก็หลับครับ ส่วนกรณีของคุณน่าจะยากอยู่ครับ ดูเหมือนคล้ายๆ เจ้ากรรมนายเวร ในอดีตมารบกวนคุณนะครับ น่าจะไปบวชชี พรามณ์สักสามวัน อยู่ต่างประเทศก็ทำได้ครับ

    ขอให้เจริญในธรรม
     
  12. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,916
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,494
  13. paetrix

    paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,480
    ค่าพลัง:
    +1,880
    ........................... เนื้อหาของพี่ ตรงนี้ น่าสนใจมากครับ?...:cool:
     
  14. Klaiban

    Klaiban Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +33
    หลังจากได้รับคำแนะนำต่าง ๆ ในกระทู้ จขกท ก็เปลี่ยนจากนอนสมาธิ มาเป็นนั่งสมาธิแทน และสามารถนั่งได้นาน โดยไม่มีเวทนาทางกาย แต่ติดปัญหาคือ

    1.ขณะนั่งสมาธิ แม้รู้สึกกายเบา ใจเบา มือเท้าหาย รู้ลมหายใจแผ่ว ๆ แต่พอมีเสียงตกกระทบฉับพลัน เช่น เสียงโทรศัพท์ เกิดอาการสะดุ้ง หัวใจเต้นแรง ทั้งที่เสียงรอบข้างอย่างอื่นไม่เป็นอุปสรรค เลยคิดว่า สติเราคงตามไม่ทัน จึงเป็นอย่างนี้ จขกท เข้าใจถูกไหม

    2. นั่งสมาธิจนกายเบา ใจเบา จนได้ยินเสียงหัวใจเต้น หรือ รู้ได้ถึงอาการที่เส้นเอ็นตามร่างกายกระตุก หรือ รู้ได้ถึงไอร้อนที่ออกจากตัว และยังรู้ลมหายใจเข้า-ออกอยู่ตลอด อย่างนี้ปฏิบัติถูกทางหรือไม่

    แต่ทั้งนี้ จขกท ได้ยินเสียงลอยตามลม ท่านบอกว่า *ให้แก้* เราปัญญาน้อย ไม่ใช่นักปฏิบัติ เลยไม่รู้ว่าไอ้ที่ท่านบอกให้แก้นั้น ต้องแก้ยังไง ใครรู้ช่วยบอกที ขอบคุณ
     
  15. ไม่ใช่ใคร

    ไม่ใช่ใคร สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    94
    ค่าพลัง:
    +21
    คุณทำสมาธิตามอาณาปาณสติสูตรแป๊ะ ไม่มีอันตรายแน่นอนครับ พระพุทธองค์ ท่านรับรองไว้เองเลย

    แต่มันมีปัญหา คือ วิธีนี้จะไม่มีคำบริกรรม ภาวนา ซึ่งก็คือ คุณต้องใช้จิตจับลมหายใจโดยตรง ซึ่งเป็นรูปธรรมอย่างละเอียด

    ซึ่งเป็นการยากสำหรับผู้เริ่มฝึกใหม่ ได้ผลน้อยในระยะแรก แต่ถ้าคล่องแล้ว จะมีผลมหาศาลมาก ขนาดพระพุทธองค์ ท่านตรัสชื่นชมไว้เองเลยครับ

    ผมก็ฝึกวิธีนี้ครับ ตอนแรกๆ จิตมันจะพยศมากๆ วิ่งวุ่นวายไปหมด จับตัวก็ยากมาก เดี๋ยวหลุดๆ

    วิธีแก้คือ จับลมหายใจไปตลอดสายเลยครับ ถึกท้องเลย พอคล่องแล้ว ค่อยมาจับที่ปลายจมูก

    ขอให้กำลังใจครับ อิอิ
     
  16. ไม่ใช่ใคร

    ไม่ใช่ใคร สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    94
    ค่าพลัง:
    +21
    เมื่อนั่งสมาธิแล้วเริ่มมีผล กายกับจิตจะแยกออกจากกันมากขึ้นเรื่อยๆ นั่งๆไป ร่างกายจะค่อยๆหายไป จนในที่สุด จะเหลือแต่หัว เหลือแต่จมูก ในที่สุด ก็จะหายไปหมด เหลือแต่ความรู้สึกหน่วงๆ ที่ปลายจมูกครับ เป็นเรื่องปรกติครับ

    ส่วนเรื่องเสียงได้ยินบ้าง ไม่ได้ยินบ้าง แต่ถ้าเสียงดังมาก จะสะดุ้งครับ เพราะจิตถอยออกจากสมาธิเร็วเกินไป ความรู้สึกเหมือนตกจากที่สูงน่ะครับ เป็นเรื่องปรกติครับ
     
  17. dutchanee

    dutchanee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    1,127
    ค่าพลัง:
    +12,745
    ของเราทำสมาธิก่อนนอน แล้วก็หลับแต่เป็นหลับแบบสนิทแต่หากมีเสียงเช่นเปิดประตูก็จะตื่นแบบอัตโนมัติตื่นแบบตื่นเลยรู้ทุกอย่างถามคนเปิดประตูได้อีกแล้วก็ตั้งใจหลับก็หลับแบบสนิทอีก สุดท้ายเหมือนแบตชาร์ทเต็มนอนแค่ สองหรือสามชั่วโมง แล้วอะไรล่ะทีนี้ไม่หลับแล้ว แต่วันไหนเพลียมากตื่นเองไม่ได้ก็มีอะไรมาปลุกเช่นเสียงระฆังในหู เสียงเรียกในหู อืม จะให้นอนกันแค่นั้นจริงๆละนะ ยังไงก็ขออนุโมทนาสาธุกับเจ้าของกระทู้ในการปฎิบัตินะจ๊ะ เจริญในธรรม
     
  18. Soundless

    Soundless สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    15
    ค่าพลัง:
    +15
    อะไรก็ไม่น่าจะหลุดออกจาก "ธรรมะ"
    ขอให้เข้าใจว่าสิ่งที่เห็นนั้นเป็น "ธรรมะ" คือวิสัยปกติที่พบกับตัวคุณเอง
    แล้วต่อด้วยสมถะสมาธิ คือตามดู ดูอย่างเดียวไม่ไปตามสิ่งเร้าใด ๆ
    น่ากลัวก็ไม่กลัว น่าชมก็ไม่ชม วางเฉย ตามดู วางเฉย ตามดู
    ไอ้ที่พบเห็นนั้นก็จะกลายเป็นกระทู้ธรรมในใจคุณเอง ใช้สำหรับทำสมาธิดีนักแล
     
  19. LoveViolet

    LoveViolet สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    27
    ค่าพลัง:
    +10
    ปัญหาของเราตรงกันข้ามกันเลย นั่งสมาธิไม่ชอบ ชอนนอนสมาธิแล้วก็ชอบง่วงนอน แต่ละคนก็มีปัญหาแตกต่างกันออกไปล่ะนะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...