การเดินลมปราณ???

เรียนถามเรื่องการเดินลมปราณ เช่น เสี่ยวโจวเทียน หรือ ต้าโจวเทียน ถือว่าไม่รวมอยู่ในกรรมฐาน 40กอง ใช้ไหมครับ??? แล้วอย่างนี้จะมีระดับสมาธิอย่างไร มีฌานเหมือนกันหรือไม่ครับ ขอบคุณครับผม

 

ต้องกลับกันครับ

ต้อง พูดว่า กรรมฐาน40 ถั๋วอู้ฟู้(คำไทยเล่นสำนวนจากคำว่า ครอบคลุม) ต้าฯ เสี่ยวฯ หรือเปล่า

ก็จะพบว่า เสี่ยวฯ เสี่ยวฯ ก็คือ กรรมฐานปฐวีกสิณ ใช้ กายเนื้อที่เป็นดินเป็นอารมณ์

ส่วน ต้าๆ ต้าๆ ห้ามท้าลม ก็คือ กรรมฐานกสิณลม ที่ห้ามกระทบลม เพราะต้องการ
ให้ยกนิมิตของลมเข้าไปเลย หากวางจิตระลึกการกระทบของลม ก็จะทำให้ไม่เข้าใจ
คำสอน แต่จริงๆ กสิณลม เอาการระลึกของการกระทบลมก็ได้ พอพิจารณาไปแล้ว
ก็เกิด นิมิตเห็นเกลียวลม เป็นภาพนิมิตเส้นขาวๆ พุ่งไปตามทิศทางแล้วแต่อารมณ์จะ
ไหวไม่ตั้งมั่น ถ้าตั้งมั่น ก็จะปรากฏเป็นเกลียวหมุนควงลงไปในกาย

สรุปก็คือ ไม่มีอะไร ไม่ใช่เรื่องลมปราณ เป็นเพียงกสิณ ซึ่งเป็นกสิณที่เดินไม่สุด
ของกสิณ มีแต่เรื่องโคจรนิมิต

ทีนี้จะเห็นว่า เมื่อเดินไม่ถึง ก็เอาเรื่องอื่นมาปะผุ เสริมเติม เช่น การกินอาหารต้อง
อย่างนั้นอย่างนี้ การเดินเหินออกนอกเคหะสถานก็ถูกห้ามผ่านการห้ามกระทบลม
บ้าง ห้ามกินมากบ้าง ร่างกายมันก็ซูบผอม ขาวๆ ใสๆ ไร้ฟ้าจากแสงแดดยูวี แต่
เนื่องจาก เป็นการนึกนิมิตในการออกกำลังกาย ( ทางวิทยาศาตร์เขาพิสูจน์แล้ว
ว่า ร่างกายของมนุษย์ค่อนข้างโง่ คือ เราแค่ทำอารมณ์ว่า วิ่งร้อยเมตร กล้ามเนื้อ
มันก็ทะลึ่งแข็งปั๋งเหมือนคนวิ่งร้อยเมตรจริงๆได้ โดน "นามรูป" หลอกให้สร้าง "รูป" )
ประกอบกับการไร้ฟ้า ไร้กระ จากแสงยูวี ก็อุปทานว่า หนุ่มฟ้อหล่อเฟี้ยว สาวรุ่น
แรกแย้ม ไปตามแต่จะปั้น

สู้มาฝึก กรรมฐาน40 ดีกว่าครับ มีส่วนต่อยอดที่มากกว่า หากไปได้ ก็ไม่ว่ากัน จะมี
เรื่อง อภิญญา เหาะเหินเดินอากาศ มุดฟ้าดำดิน กันไปเลย

ไม่ต้อง ปะผุ เอาเรื่อง อาหารการกิน การกักบริเวณ มาสับขาหลอก

จะอย่างไร ก็พึงไม่ประมาทไว้ด้วยว่า สิ่งที่ได้ยังไม่ใช่ความ สงบ ที่แท้

 

ถือว่าเป็นการฝึกรวมจิตอย่างหนึ่งครับ เมื่อจิตคนเรารวมกันได้จะมีพลังบางอย่างออกมา เช่น สามารถทำงานได้อย่างไม่เหน็ดเหนื่อย โดยดูจากพระธุดงค์สามารถเดินข้ามภูเขา โดยไม่หยุดพัก ฉันท์บ้างไม่ฉันท์บ้าง ส่วนจะเป็นฌานหรือสมาธิหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับคนฝึกครับ ว่าตั้งวัตถุประสงค์ไว้อย่างไรครับ

ขอให้เจริญในธรรม

 

ครับผม ขอบคุณครับ :d(rose)

 

คุณ <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->บุคคลทั่วไป 3 คน<!-- google_ad_section_end --> ( เอกวีร์ นิวรณ์ ฯลฯ)...ครับ คำว่า ต้า ที่กล่าว มาจากคำว่า "大" ที่แปลว่า ใหญ่ ส่วนคำว่าเสี่ยว นี่ มาจากคำว่า "小" ที่แปลว่า เล็ก ในเสียงของภาษาจีนกลาง ครับ.....ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ ปฐวีกสิณ หรือ วาโยกสิณ แต่อย่างใดเลยครับผม....


ต้าโจวเทียน เขียนเป็นภาษาจีนว่า "大周天"

เสี่ยวโจวเทียน เขียนเป็นภาษาจีนว่า "小周天"

ครับ....ทั้งสองอย่างเกี่ยวข้องกับการฝึกแบบเดินลมปราณของจีนในสมัยโบราณทั้งคู่เลยครับ....

 

​

จากการอ่านข้อมูลเบื้องต้นมาบ้าง จากในเว็บที่หาได้ ทราบมาว่า เป็นการปฏิบัติของลัทธิเต๋า และเป็นส่วนหนึ่งของการฝึก ชี่กง เพื่อการมีสุขภาพที่ดี....เป็นการดูแลร่างกายที่อยู่ในหมวดแพทย์แผนจีนอย่างหนึ่งด้วย.....

จากการศึกษาวิธีการฝึกแล้ว....มีลักษณะร่วมกันระหว่างอานาปานุสสติกรรมฐานและวิธีการปฏิบัติของสายยุบหนอพองหนอ เพราะมีการกำหนดฐานของลม...แต่ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เหมือนกับกรรมฐานในพระพุทธศาสนา....ผมว่าถ้าพวกที่ฝึก ชี่กงตัวนี้มาก่อนแล้วอย่างดี มาต่อยอดอานาปานุสสติกรรมฐาน ไม่ก็สายสติปัฏฐาน ๔ ยุบหนอพองหนอ...คงจะไปได้สวยมากครับ....


ที่มา สารานุกรมเสรี baidu ของ สาธารณรัฐประชาชนจีน .

http://baike.baidu.com/view/90514.htm

 

ก็นั่นน่าซี

อันหนึ่ง มันก็ เหมือนสายยุบหนอพองหนอ เพ่งที่ท้อง เพ่งเพดานปาก ....

อีกอันหนึ่ง คล้ายนะ คล้ายมาก หากไม่รู้เรื่อง ก็จะพูดว่า อานาปานสติ ยกให้
เป็น กรรมฐานของมหาบุรุษไปหมด แต่ถ้า มันจะไม่ใช่ อานาปานสติ ขึ้นมานะ
ไม่รู้กรรมฐานชาวบ้านๆ อะไรที่จะเป็น

 

อยากรู้จริง กรุณาหาเบอร์สำนักเส้าหลินที่เปิดสอนอยู่ในไทยแล้วโทไปถามป่ะ โทรไปถามพระเส้าหลินเลยดีกว่ามายังงี้ป่วยการ