<VSN><<<มาใหม่ สายเขาอ้อ อ.ชุม,อ.ปาล,อ.คง, สรุปรายการหน้า๑๐๓>>><NSV>

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย momotaro67, 25 ธันวาคม 2010.

  1. momotaro67

    momotaro67 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    7,026
    ค่าพลัง:
    +5,457
    <CENTER>[​IMG]</CENTER>



    <CENTER></CENTER>พระเครื่อง ๒๕ พุทธศตวรรษ ประวัติพิธีการสร้างและปลุกเสก ครั้งยิ่งใหญ่


    พระ เครื่องที่มีพิธีกรรมปลุกเสกครั้งยิ่งใหญ่ในเมืองไทย วงการพระจักต้องจารึกพระราชพิธีที่สำคัญยิ่งไว้ในครั้งนั้น ได้แก่ พิธีพุทธาภิเษก หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า 25 พุทธศตวรรษ ซึ่งพิธีนี้ปลุกเสกที่พระอุโบสถวัดสุทัศนเทพวรารามวรมหาวิหาร กรุงเทพมหานครนี่เอง และนับเป็นพิธีมหาพุทธาภิเษกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในสมัยรัตนโกสินทร์ เป็นพระเครื่องที่ทางการได้จัดสร้างขึ้นเพื่อนำเงินรายได้จัดสร้างพุทธมณฑล ที่ตำบลศาลายา และบูรณปฏิสังขรณ์ปูชนียสถานที่สำคัญๆ ในทางพุทธศาสนาของเรา นับเป็นการสร้างที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และถูกต้องครบถ้วนตามพิธีทางศาสนา ทำการปลุกเสกโดยพระคณาจารย์ที่มีชื่อ 108 องค์ ซึ่งทางการได้คัดเลือกมาจาก ทั่วราชอาณาจักร เป็นพระเครื่องที่มีพุทธานุภาพและปาฏิหาริย์หลายอย่างแก่ผู้มีไว้ในครอบครอง

    พระเครื่อง 25 พุทธศตวรรษ มีด้วยกัน 3 ชนิด คือ

    1.พระเครื่องเนื้อทองคำแท้ สร้างเพียง 2,500 องค์
    2.พระเครื่องเนื้อชิน สร้างเพียง 2,421,250 องค์
    3.พระเครื่องเนื้อดิน สร้างเพียง 2,421,250 องค์
    4.พระเครื่องชนิดเหรียญนิกเกิล สร้างเพียง 2,000,000 เหรียญ

    อนึ่ง นอกจากนี้ก็มีพิมพ์พิเศษ ซึ่ง พล.ต.ต.เนื่อง อาขุบุตร หนึ่งในกรรมการดำเนินงานได้สร้างขึ้นเป็นพิมพ์สี่เหลี่ยม พระชุดนี้ พล.ต.ต.เนื่อง อาขุบุตร ได้นำเข้าพิธีพร้อมกับพระเนื้อชินและเนื้อดิน เมื่อเสร็จพิธีแล้วได้แจกให้กับกรรมการที่มีส่วนในการจัดงานให้ลุล่วงไปด้วย ดีคนละหนึ่งองค์ หากผู้ใดจะเช่าบูชานั้นจะสมนาคุณรายที่เช่าบูชาพระเนื้อดินหรือชินพร้อมกัน ครั้งละ 100 องค์

    สำหรับ พระเนื้อชินและเนื้อดินนั้นมีส่วนผสมที่น่าสนใจมาก คือ พระเนื้อชิน ที่ประกอบด้วยมวลสารของโลหะหลายอย่างเช่น พลวง, ดีบุก, ตะกั่วดำ และ แผ่นเงิน, ทองแดง ที่พระคณาจารย์ผู้ทรงวิทยาคุณทั่วประเทศทำการลงอักขระยันต์มาแล้ว ยังมีชนวน หล่อพระในพิธีอื่นๆ พร้อมผงตะไบ “พระกริ่งนวโลหะ” ทั้งของ สมเด็จพระสังฆราชแพ และ ท่านเจ้าคุณศรี (สนธิ์) วัดสุทัศน์ มาเป็นชนวนในการสร้างที่มากถึง 2,421,250 องค์

    ส่วน พระเนื้อดินผสมผงเกสร ก็มีมวลสารที่ประกอบด้วยดินจาก ทะเลสาบสงขลาเกาะยอ อ.เมือง จ.สงขลา เป็นส่วนผสมหลัก เนื่องจากดินที่เกาะยอเนื้อละเอียดมีลายเป็นพรายน้ำในตัวและมีสีเหลืองนวล คล้าย พระซุ้มกอ, พระลีลาเม็ดขนุน โดยนำมาผสมกับผงเกสรดอกไม้ 108 ชนิด แล้วยังมีว่านต่างๆ พร้อมดินหน้าพระอุโบสถ, ดินหน้าพระอารามสำคัญของแต่ละจังหวัด และดินจากบริเวณที่ประดิษฐานพระประธานพุทธมณฑล รวมทั้งดินจากสังเวชนียสถาน 4 ตำบล (ประสูติ-ตรัสรู้-ปฐมเทศนา-ปรินิพพาน) จากประเทศอินเดีย โดยมีผงพุทธคุณจากพระคณาจารย์ 108 รูป ผงพระเครื่องที่ชำรุด เช่น พระสมเด็จวัดระฆัง, พระรอด, นางพญา, ผงสุพรรณ, ซุ้มกอ, กำแพงลีลาเม็ดขนุน, ขุนแผนบ้านกร่าง ฯลฯ รวมทั้ง ผงตะไบพระกริ่งนวโลหะ ของ สมเด็จพระสังฆราชแพ, เจ้าคุณศรี (สนธิ์) วัดสุทัศน์ ดังกล่าวข้างต้น

    เนื่อง จากการสร้างพระ 25 พุทธศตวรรษ เนื้อดินผสมผง ตั้งโรงงานสร้างขึ้นในบริเวณวัดสุทัศน์ พระเนื้อดินผสมผงก็สร้างด้วยจำนวนมากเท่ากับเนื้อชิน คือ 2,421,250 องค์ ซึ่งพอสร้างเสร็จและนำเข้าเตาเผาก็จะปรากฏเป็นสีที่แตกต่างกัน เช่น ดำ, น้ำตาลไหม้, เทา, เขียว, ขาวนวล, พิกุลแห้ง, หม้อใหม่, ครีม, ชมพู รวมทั้ง เนื้อสองสี (ที่เรียกว่า เนื้อผ่าน) และหากตั้งข้อสังเกตจะเห็นได้ว่าสีขององค์พระจะคล้ายกับพระที่สร้างในยุค โบราณ ทั้ง พระรอด, พระคง, พระเปิม และ พระบาง รวมทั้งพระเนื้อดินเผาสกุล นางกำแพง, ผงสุพรรณ และพระกรุของเมือง อยุธยา เป็นต้น

    ประธาน ฝ่ายสงฆ์ของพิธีกรรม คือ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ วัดบวรนิเวศมหาวิหาร ประธานฝ่ายฆราวาส จอมพล ป. พิบูลสงคราม อดีตนายกรัฐมนตรีสมัยนั้น พลตำรวจเอก เผ่า ศรียานนท์ ประธานฝ่ายจัดสร้างพระพิมพ์ รองประธานฝ่ายจัดสร้างได้แก่ พลตำรวจตรี เนื่อง อาขุบุตร ท่านได้เป็นกรรมการจัดจำหน่ายให้สาธุชนและผู้มีเกียรติทั้งหลายเช่าบูชาไป สักการะ หรือนำติดตัวเพื่อป้องกันอุบัติเหตุร้ายได้อีกด้วย

    พิธีกรรม การทำพิธีพุทธาภิเษกปลุกเสกพระเครื่อง ได้นิมนต์พระคณาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิมาทำพิธีถึง 2 ครั้ง ครั้งแรกนำสิ่งของที่จะสร้างมาทำพิธีพุทธาภิเษกปลุกเสกเสียก่อนครั้งหนึ่ง เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2500 ณ พระอุโบสถวัดสุทัศน์ มีพระคณาจารย์มาทำพิธีครบ 108 องค์ ต่อมาเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2500 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลปัจจุบัน ได้ทรงพระกรุณาเททอง หล่อพระทองคำ แล้วทรงพิมพ์พระเนื้อดินและชนิดเนื้อชินเป็นปฐมฤกษ์ แต่วันนั้นได้สร้างในบริเวณวัดสุทัศน์เป็นเวลาถึง 3 เดือนเศษจึงแล้วเสร็จ ต่อมาเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2500 ได้ทำพระเครื่องทั้ง 3 ชนิดดังกล่าวแล้ว เข้าพิธีพุทธาภิเษกอีกครั้งเป็นระยะเวลา 3 วัน 3 คืน รวมเวลาทำพิธีพุทธาภิเษก 2 ครั้ง 6 วัน 6 คืน มีพระเกจิอาจารย์ที่ทางการ ร่วมอาราธนามาปลุกเสก 108 องค์

    ราย นามพระอาจารย์ปลุกเสกพระเครื่องในงานฉลอง 25 พุทธศตวรรษ ซึ่งได้สร้างเสร็จสิ้นแล้ว ณ พระอุโบสถ วัดสุทัศนเทพวรารามมหาวิหาร เมื่อวันที่ 2-3 และ 4 พฤษภาคม 2500 รวม 3 วัน มีดังนี้คือ

    1. พระครูอาคมสุนทร วัดสุทัศน์ กทม.
    2. พระครูสุนทรสมาธิวัตร วัดสุทัศน์ กทม.
    3. พระครูญาณาภิรัต วัดสุทัศน์ กทม.
    4. พระครูพิบูลย์บรรณวัตร วัดสุทัศน์ กทม.
    5. พระครูสุนทรศีลาจารย์ วัดสุทัศน์ กทม.
    6. พระครูพิศาลสรกิจ วัดสุทัศน์ กทม.
    7. พระมหาสวน วัดสุทัศน์ กทม.
    8. พระมหาอำนวย วัดสุทัศน์ กทม.
    9. พระปลัดสุพจน์ วัดสุทัศน์ กทม.
    10. พระครูวิสิษฐ์วิหารการ วัดชนะสงคราม กทม.
    11. พระสุธรรมธีรคุณ (วงษ์) วัดสระเกศ กทม.
    12. พระอาจารย์สา วัดราชนัดดาราม กทม.
    13. พระปลัดแพง วัดมหาธาตุ กทม.
    15. พระวรเวทย์คุณาจารย์ วัดพระเชตุพน กทม.
    16. พระครูฐาปนกิจประสาท วัดพระเชตุพน กทม.
    17. พระอินทรสมาจารย์ วัดพระเชตุพน กทม.
    18. พระครูวินัยธร (เฟื่อง) วัดสัมพันธวงศ์ กทม.
    19. พระครูภักดิ์ วัดบึงทองหลาง กทม.
    20. พระครูกัลญาณวิสุทธิ วัดดอนหวาย กทม.
    21. พระอาจารย์มี วัดสวนพลู กทม.
    22. พระอาจารย์เหมือน วัดโรงหีบ กทม.
    23. พระหลวงวิจิตร วัดสะพานสูง กทม.
    24. พระอาจารย์หุ่น วัดบางขวด กทม.
    25. พระราชโมลี วัดระฆัง กทม.
    26. หลวงวิชิตชโสธร วัดสันติธรรมาราม กทม.
    27. พระครูโสภณกัลญานุวัตร (เส่ง) วัดกัลญาณมิตร กทม.
    28. พระครูภาวนาภิรัต (ผล) วัดหนัง กทม.
    29. พระครูทิวากรคุณ (กลีบ) วัดตลิ่งชัน กทม.
    30. พระครูไพโรจน์วุฒิคุณ (ไพฑูรย์) วัดโพธินิมิตร กทม.
    31. พระครูญาณสิทธิ์ วัดราชสิทธาราม กทม.
    32. พระอาจารย์มา วัดราชสิทธาราม กทม.
    33. พระอาจารย์หวน วัดพิกุล กทม.
    34. พระมหาธีรวัฒน์ วัดปากน้ำ กทม.
    35. พระอาจารย์จ้าย วัดปากน้ำ กทม.
    36. พระอาจารย์อินทร์ วัดปากน้ำ กทม.
    37. พระครูกิจจาภิรมย์ วัดอรุณราชวราราม กทม.
    38. พระครูวินัยสังวร วัดประยุรวงศาวาส กทม.
    39. พระสุขุมธรรมาจารย์ วัดหงษ์รัตนาราม กทม.
    40. พระครูพรหมวินิต วัดหงษ์รัตนาราม กทม.
    41. พระอาจารย์อิน วัดสุวรรณอุบาสิการ กทม.
    42. พระครูวิริยกิจ (โต๊ะ) วัดประดู่ฉิมพลี กทม.
    43. พระปรีชานนทมุนี (ช่วง) วัดโมลี นนทบุรี
    44. พระครูปลัดแฉ่ง (หลวงพ่อแฉ่ง) วัดศรีรัตนาราม นนทบุรี
    45. พระปลัดยัง (หลวงพ่อยัง) วัดบางจาก นนทบุรี
    46. พระอาจารย์สมจิต วัดป่ากะเหรี่ยง ราชบุรี
    47. พระอาจารย์แทน วัดธรรมเสน ราชบุรี,
    48. พระครูบิน วัดแก้ว ราชบุรี
    49. พระอินท์เขมาจารย์ วัดช่องลม ราชบุรี
    50. พระธรรมวาทีคณาจารย์ (เงิน) วัดดอนยายหอม นครปฐม
    51. พระครูสังฆวิชัย วัดพระปฐมเจดีย์ นครปฐม
    52. พระอาจารย์สำเนียง วัดเวฬุวัน นครปฐม
    53. พระอาจารย์เต๋ วัดสามง่าม นครปฐม
    54. พระอาจารย์แปลก วัดสระบัว ปทุมธานี
    55. พระครูปลัดทุ่ง วัดเทียนถวาย ปทุมธานี
    56. พระครูบวรธรรมกิจ (เทียน) วัดโบสถ์ ปทุมธานี
    57. พระครูโสภณสมาจารย์ (เหรียญ) วัดหนองบัว กาญจนบุรี
    58. พระครูวิสุทธิรังษี วัดเหนือ กาญจนบุรี
    59. พระมุจลินท์โมฬี (ดำ) วัดมุจลินท์ ปัตตานี
    60. พระครูรอด วัดประดู่ นครศรีธรรมราช
    61. พระครูวิศิษฐ์อรรถการ (คล้าย) วัดสวนขัน นครศรีธรรมราช
    62. พระครูสิทธิธรรมาจารย์ (พระอาจารย์ลี) วัดอโศการาม สมุทรปราการ
    63. พระอาจารย์บุตร วัดใหม่บางปลากด สมุทรปราการ
    64. พระอาจารย์แสวง วัดกลางสวน สมุทรปราการ
    65. พระครูศิริสรคุณ (แดง) วัดท้ายหาด สมุทรสงคราม
    66. พระครูสมุทรสุนทร วัดพวงมาลัย สมุทรสงคราม
    67. พระสุทธิสารวุฒาจารย์ (ใจ) วัดเสด็จ สมุทรสงคราม
    68. พระอาจารย์อ๊วง วัดบางคณที สมุทรสงคราม
    69. พระครูไพโรจน์วุฒาจารย์ (รุ่ง) วัดท่ากระบือ สมุทรสาคร
    70. พระครูวิเศษสมุทรคุณ (ฮะ) วัดดอนไก่ดี สมุทรสาคร
    71. พระครูลักขิตวันมุนี (ถิร) วัดป่าเลไลยก์ สุพรรณบุรี
    72. พระอาจารย์แต้ม วัดพระลอย สุพรรณบุรี
    73. พระครูโฆษิตธรรมสาร (ครื้น) วัดสังโฆ สุพรรณบุรี
    74. พระครูวรกิจวินิจฉัย (พริ้ง) วัดวรจันทร์ สุพรรณบุรี
    75. พระครูสัมฤทธิ์ วัดอู่ทอง สุพรรณบุรี
    76. พระวรพจน์ปัญญาจารย์ (เฮี้ยง) วัดอรัญญิการาม ชลบุรี
    77. พระครูธรรมาวุฒิคุณ วัดเสม็ด ชลบุรี
    78. พระครูธรรมธร (หลาย) วัดราษฎร์บำรุง ชลบุรี
    79. พระอาจารย์บุญมี วัดโพธิ์สัมพันธ์ ชลบุรี
    80. พระพรหมนคราจารย์ วัดแจ้งพรหมนคร สิงห์บุรี
    81. พระครูศรีพรหมโศภิต (แพ) วัดพิกุลทอง สิงห์บุรี
    82. พระชัยนาทมุนี วัดบรมธาตุ ชัยนาท
    83. พระอาจารย์หอม (หลวงพ่อหอม) วัดชากหมาก ระยอง
    84. พระอาจารย์เมือง วัดท่าแพ ลำปาง
    85. พระครูอุทัยธรรมธารี วัดท้าวอู่ทอง ปราจีนบุรี
    86. พระครูวิมลศีลาจารย์ วัดศรีประจันตคาม ปราจีนบุรี
    87. พระครูสุนทรธรรมประกาศ วัดโพธิ์ปากพลี นครนายก
    88. พระครูบาวัง วัดบ้านเด่น ตาก
    89. พระครูสวรรควิริยกิจ วัดสวรรคนิเวศ แพร่
    90. พระครูจันทร์ (หลวงพ่อจันทร์) วัดคลองระนง นครสวรรค์
    91. พระครูศีลกิติคุณ (อั้น) วัดพระญาติการาม อยุธยา
    92. พระอาจารย์แจ่ม วัดวังแดงเหนือ อยุธยา
    93. พระครูเล็ก วัดบางนมโค อยุธยา
    94. พระอาจารย์มี วัดอินทราราม อยุธยา
    95. พระอาจารย์หวาน วัดดอกไม้ อยุธยา
    96. พระอาจารย์หน่าย วัดบ้านแจ้ง อยุธยา
    97. พระครูประสาทวิทยาคม (นอ) วัดกลางท่าเรือ อยุธยา
    98. พระอาจารย์จง (หลวงพ่อจง) วัดหน้าต่างนอก อยุธยา
    99. พระอธิการเจาะ วัดประตูโลกเชษฐ์ อยุธยา
    100. พระอาจารย์ศรี วัดสระแก อยุธยา
    101. พระสุวรรณมุนี วัดมหาธาตุ เพชรบุรี
    102. พระครูสุข วัดโตนดหลวง เพชรบุรี
    103. พระครูพิบูลย์ศีลาจารย์ วัดโพธิ์กรุ เพชรบุรี
    104. พระครูทม (หลวงพ่อทม) วัดสว่างอรุณ เพชรบูรณ์
    105. พระสวรรควรนายก วัดสวรรคาราม สุโขทัย
    106. พระโบราณวัตถาจารย์ วัดราชธานี สุโขทัย
    107. พระครูบี้ วัดกิ่งลานหอย สุโขทัย
    108. พระครูวิบูลย์สมุทรกิจ วัดเสด็จ สมุทรสงคราม

    [​IMG]



    อภินิหารพระเครื่อง 25 พุทธศตวรรษ ปืนเอ็ม16 กระหน่ำยิง ไม่ระคายผิว

    พระ เครื่องราคาสูงหลัก “แสน” หรือหลัก “ล้าน” ก็ไม่แน่เสมอไปว่าจะ “เข้มขลังตามมูลค่า” ขณะที่ราคาพระเครื่องหลัก “ร้อย” หรือหลัก “พัน” อาจมีพุทธานุภาพสูงส่งก็ได้เพราะไม่มีอะไรเป็นเครื่องวัดได้ ซึ่งผิดกับความร้อน-หนาวที่วัดได้ด้วย “เทอร์โมมิเตอร์” แต่สิ่งเดียวที่พอจะวัดได้ก็คือ “ประสบการณ์” เพราะเป็น “ปรากฏการณ์” ให้พบเห็นทั้งในอดีตและปัจจุบันอยู่เสมอ “เหนือลิขิต ประกาศิตฟ้าดิน” ฉบับนี้จึงขอนำท่านผู้ อ่าน “อ่านความจริง...อ่านเดลินิวส์” ย้อนกลับไปพบกับข่าวหนึ่งบนหน้าหนังสือพิมพ์ “เดลินิวส์” ที่ได้บันทึกเหตุการณ์เป็นข่าวที่สุดตื่นเต้นเป็นการพิสูจน์ถึงอภินิหารของ “พระเครื่อง ๒๕ พุทธศตวรรษ” ที่ปัจจุบันยังมีให้บูชาในราคาไม่สูงเกินไปนัก
    โดย หนังสือพิมพ์ “เดลินิวส์ ฉบับที่ ๙,๔๗๐ ประจำวันศุกร์ที่ ๘ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๑๘” ได้เสนอข่าวถึงเรื่องราวปาฏิหาริย์ของ “พระเครื่อง ๒๕ พุทธศตวรรษ” ที่มีรายงานข่าวจาก จังหวัดพัทลุง ว่าเมื่อวันที่ ๖ สิงหาคม ๒๕๑๘ เวลา ๐๔.๓๐ น. นายสืบศักดิ์ แกล้วทนง อายุ ๒๓ ปี บ้านอยู่หมู่ที่ ๒ ต.ป่าพยอม อ.ควนขนุน จ.พัทลุง ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์กลับจากดูโขนสดและภาพยนตร์ที่ วัดป่าพยอม เพื่อกลับบ้าน ขณะขับขี่ไปถึง ตลาดป่าพยอม เกิดไปเฉี่ยวเอาราษฎรหน่วยปฏิบัติการพิเศษ “ชุดล่าสังหาร” ผู้หนึ่งที่ทาง “ทหาร ผส.๕ ค่ายเสนาณรงค์ อ.หาดใหญ่” มาจัดตั้งหน่วยขึ้นที่ ต.ป่าพยอม อ.ควนขนุน
    เพื่อทำ หน้าที่ปราบปรามผู้ก่อการร้ายในพื้นที่ใกล้เคียงซึ่งกำลังเดินกลับ เข้าค่าย จำนวน ๔ คน ราษฎรหน่วยปฏิบัติการพิเศษ “ชุดล่าสังหาร” ผู้ที่ถูก “นายสืบศักดิ์” ขับรถเฉี่ยวจึงตะโกนบอกให้ “นายสืบศักดิ์” หยุดรถแต่ “นายสืบศักดิ์” เป็น “คนหูหนวก” จึงไม่ได้ยินเลยไม่หยุดรถ “หน่วยล่าสังหาร” ผู้นั้นจึงรัว “ปืนเอ็ม ๑๖” เข้าใส่ “นายสืบศักดิ์” ที่ยังขับรถทั้งหมด ๓๐ นัด กระสุนปืนพุ่งเข้าหา “นายสืบศักดิ์” เต็มแผ่นหลังจนตกลงจากรถจักรยานยนต์ หน่วยล่าสังหารทั้ง ๔ นายจึงกรูเข้าไปดูกลับเห็น “นายสืบศักดิ์” ปราศจากบาดแผลเนื่องจาก “กระสุนปืนเอ็ม ๑๖” ที่ยิงใส่นายสืบศักดิ์ไม่ระคายผิวเลย “หน่วยล่าสังหาร” ทั้ง ๔ นายจึงช่วยกันหักคอ “นายสืบศักดิ์” จนตายคามือแล้วพากันหลบหนีไป

    ต่อ มาเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการชันสูตรศพ จึงพบว่าแผ่นหลังของ “นายสืบศักดิ์” ถูกกระสุนปืนเอ็ม ๑๖ หลายนัดแต่กระสุนไม่ทะลุ มีเพียง “รอยไหม้เกรียม” ที่เกิดจากพิษกระสุนปรากฏเป็นจุด ๆ เท่านั้น ส่วนเหตุที่เสียชีวิตก็เพราะกระดูกบริเวณแผ่นหลังและที่ลำคอของ “นายสืบศักดิ์” หักหลายชิ้นเจ้าหน้าที่ค้นในตัวศพจึงพบว่าหนุ่มใบ้ผู้เสียชีวิตมีเพียง “พระเครื่อง ๒๕ พุทธศตวรรษ ๑ องค์” เท่านั้นซึ่งเป็นพระเครื่องที่จัดสร้างขึ้นเมื่อคราวมีงานฉลอง “๒๕ พุทธศตวรรษ” ในปี พ.ศ. ๒๕๐๐ ซึ่งครั้งนั้นรัฐบาลได้จัดตั้งกรรมการขึ้นคณะหนึ่ง เพื่อดำเนินงานเกี่ยวกับการสร้างพระเครื่อง ๒๕ พุทธศตวรรษ สำหรับเป็นที่ระลึกและแจกจ่ายสมนาคุณให้แก่ประชาชน ผู้ที่มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคเงินสมทบทุนในการสร้าง “พุทธมณฑล” โดย “พระเครื่อง ๒๕ พุทธศตวรรษ” ที่จัดสร้างขึ้นในครั้งนั้นมีรายการและรายละเอียดดังนี้

    ๑. เนื้อชิน พุทธลักษณะเป็นรูปองค์พระปฏิมากรแบบนูน เป็นพระที่สร้างขึ้นด้วยเครื่องปั๊มขนาดความกว้าง ๑.๘ ซม. สูง ๔.๗ ซม. หนา ๒ มม. วัสดุที่สร้างมีส่วนผสมต่าง ๆ ดังนี้ “พลวง, ดีบุก, ตะกั่วดำ, เนื้อนวโลหะ” และ “แผ่นทองแดง, แผ่นตะกั่ว, แผ่นเงิน” ที่พระอาจารย์ต่าง ๆ ทั่วราชอาณาจักรทำการลงอักขระเลขยันต์ และคาถาต่าง ๆ แล้วนำมาผสมหล่อหลอมเข้าด้วยกันโดยมีจำนวนสร้าง ๒,๔๒๑,๒๕๐ องค์

    ๒. เนื้อดิน พุทธลักษณะเป็นรูปองค์พระปฏิมากรแบบนูน สร้างขึ้นด้วยเครื่องปั๊มมีด้วยกัน ๒ พิมพ์คือ “พิมพ์เขื่อง” มีขนาดกว้าง ๑.๖ ซม. สูง ๔.๒ ซม. หนา ๖ มม. “พิมพ์ย่อม” มีขนาดกว้าง ๑.๔ ซม. สูง ๓.๙ ซม. หนา ๔ มม. วัสดุที่ใช้สร้างเป็น “เนื้อดิน” ทั้ง ๒ พิมพ์โดยนำดินที่ขุดจาก ทะเลสาบจังหวัดสงขลา ผสมกับ เกสรดอกไม้ ๑๐๘ ชนิด ตลอดทั้งว่านและใบไม้ต่าง ๆ พร้อม ดินจากหน้าพระอุโบสถ ที่มีความสำคัญจากจังหวัดต่าง ๆ อีกทั้งดินที่นำมาจากสังเวชนียสถาน ๔ แห่ง ใน ประเทศอินเดีย นอกจากนี้ยังใช้ผงวิเศษจากพระอาจารย์ต่าง ๆ และพระเครื่องโบราณที่ชำรุดเช่น “พระสมเด็จฯ, พระขุนแผน, พระนางพญา, พระรอด” มาผสมเข้าด้วยกัน จำนวนที่สร้าง ๒,๔๒๑,๒๕๐ องค์ เช่นกันกับเนื้อชินโดยพระเครื่องเนื้อดินเผามีด้วยกันหลายสี อาทิ สีดำ, สีเทา, สีขาวนวล, สีพิกุลแห้ง, สีหม้อใหม่, สีครีม, สีชมพู, สีน้ำตาลไหม้ ฯลฯ เป็นต้น

    ๓. เนื้อทองคำ พุทธลักษณะเป็นรูปองค์พระพุทธปฏิมากรแบบนูน สร้างด้วยเครื่องปั๊มมีขนาดกว้าง ๑.๘ ซม. สูง ๔.๗ ซม. หนา ๒ มม. ด้านหน้าและด้านหลังพุทธลักษณะโดยทั่วไปเป็นแบบเดียวกันกับพระ “เนื้อชิน” และจำนวนสร้างเท่ากับ พ.ศ. ที่สร้างคือ ๒,๕๐๐ องค์ โดยน้ำหนักทองคำองค์ละ ๖ สลึง ทางด้านพิธีกรรมการ ปลุกเสกครั้งแรกทำการปลุกเสกสรรพวัตถุและมวลสารต่าง ๆ ก่อนที่จะได้นำมาสร้างเป็นพระโดยประกอบพิธีปลุกเสก ณ พระอุโบสถวัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร เป็นเวลา ๓ วัน ๓ คืนด้วยกัน โดยในวันที่ ๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๐๐ เวลา ๑๖.๓๐ น. ฯพณฯ จอมพล ป.พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีในขณะนั้นเป็นประธานพิธี สมเด็จพระวันรัต (ปลด กิตฺติโสภโณ) สังฆนายก วัดเบญจมบพิตรฯ จุดเทียนชัยและมีพระเกจิอาจารย์ ๑๐๘ รูป นั่งปรกปลุกเสก บรรจุพุทธาคมลงในสรรพวัตถุและมวลสารต่าง ๆ จนตลอดคืน จากนั้นวันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๐๐ เวลา ๑๖.๓๐ น. พลตำรวจเอกเผ่า ศรียานนท์ ประธานคณะกรรมการฯเป็นประธานพิธี และพระราชาคณะ ๒๕ รูป เจริญพระพุทธมนต์ พระเกจิอาจารย์ ๑๐๘ รูปนั่งปรกปลุกเสกบรรจุ พุทธาคมลงในสรรพวัตถุ และมวลสารต่าง ๆ ตลอดคืน

    วัน ที่ ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๐๐ เวลา ๑๖.๓๐ น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินมายังพระวิหารหลวง วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหา วิหาร ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชา พระศรีศากยมุนีเสร็จแล้ว เสด็จพระราชดำเนินไปยังมณฑลพิธีหน้าพระอุโบสถ ทรงเททองหล่อ “พระพุทธรูปทองคำ” จำนวน ๔ องค์ และทรงกดพิมพ์พระเครื่องฯ “๒๕ พุทธศตวรรษ” เนื้อดินจำนวน ๓๐ องค์ เป็นปฐมฤกษ์แล้วเสด็จพระราชดำเนินกลับเข้าสู่พระอุโบสถ สมเด็จพระราชาคณะ และพระราชาคณะ ถวายอดิเรกจบแล้วเสด็จพระราชดำเนินกลับ ส่วนพระเกจิอาจารย์ในจำนวน ๑๐๘ รูป เข้าสู่มณฑลพิธีนั่งปรกปลุกบรรจุพุทธาคมลงในสรรพวัตถุและมวลสารต่อไปจนตลอด คืน

    พิธีปลุกเสก ครั้งที่สองได้ทำพิธี ณ วัดสุทัศนเทพวรารามฯ หลังจากพระเครื่องทั้งหมดได้สร้างเสร็จสมบูรณ์แล้ว เมื่อวันที่ ๒, ๓, ๔ พฤษภาคม ๒๕๐๐ เป็นเวลา ๓ วัน ๓ คืน ประกอบด้วยเกจิอาจารย์ชั้นนำในยุคนั้นอีก ๑๐๘ องค์ เช่น “หลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบือ หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม หลวงพ่อคล้าย วัดสวนขัน หลวงพ่อเทียน วัดโบสถ์ หลวงพ่อครื้น วัดสังโฆ หลวงพ่อนาค วัดระฆัง หลวงพ่อดี วัดเหนือ หลวงพ่อใจ วัดเสด็จ หลวงพ่อแฉ่ง วัดบางพัง หลวงพ่อแทน วัดธรรมเสน หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม” เป็นต้น

    ด้วย เหตุนี้ “พระเครื่อง ๒๕ พุทธศตวรรษ” จึงจัดเป็นพระเครื่องที่ดีเยี่ยมแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ปัจจุบันยังพอแสวงหาได้ในราคาไม่สูงมากนัก เป็นสิริมงคลล้ำค่าที่จะอาราธนาขึ้นแขวนคอได้อย่างสบายใจ (ขอบคุณข้อมูลรายนามเกจิอาจารย์จากนิตยสารลานโพธิ์).


    เหรียญเสมา 25 พุทธศตวรรษ เนื้ออัลปาก้า สวยๆ

    [​IMG]





    [FONT=&quot]ให้บูชา 550บ. ครับ มีพี่นอกเว็ปจองแล้วครับ[/FONT]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • fg1-horz.jpg
      fg1-horz.jpg
      ขนาดไฟล์:
      567.4 KB
      เปิดดู:
      1,951
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 ธันวาคม 2011
  2. momotaro67

    momotaro67 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    7,026
    ค่าพลัง:
    +5,457
    [​IMG]
    หลวงปู่ชื่น ติคญาโณ วัดตาอี อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์

    “เทพเจ้า แห่งความเมตตา และโชคลาภยอดพระเกจิอาจารย์นามกระเดื่อง เฟื่องฟุ้งไปทั่วทั้งแผ่นดินสยาม สุดยอดวิชาอาถรรพณ์ ผันแปรโลกธาตุ ให้สะท้านสะเทือนด้วยอำนาจของพระเวทย์อันสูงส่ง เข้มขลังสุดวิเศษยากที่จะเสมอเหมือน ขจัดสรรพทุกข์โศกโรคภัย ล้างเสนียดคุณไสย์ ทั้งมหาเสน่ห์ เมตตามหานิยม มหาโชค มหาลาภ ค้าขาย เจริญรุ่งเรือง คุ้มครองป้องกันภัย ขอน้อมเผยแพร่คุณครูอาจารย์ ให้แผ่ไพศาล ตลอดกาลเทอญ...”


    อัตตชีวประวัติพระเดชพระคุณหลวงปู่ชื่น ติคญาโณ วัดตาอี จ.บุรีรัมย์
    สงครามโลกครั้งที่ 2 ทำให้เกิดกลียุคทั่วโลก ยิ่งประเทศเล็กประเทศน้อยได้รับผลกระทบมากที่สุด นอกจากข้าวยากหมากแพงแล้ว ประชาชนยังต้องรับกรรมหนักเพราะครอบครัวแตกสลายเนื่องจากความแร้นแค้นยากจน เป็นสาเหตุใหญ่

    ครอบครัวของหลวงปู่ชื่น ติคญาโณ ซึ่งเป็นชาวกัมพูชาก็ได้รับความรุนแรงของไฟสงครามเช่นเดียวกัน ทำให้ญาติพี่น้องของหลวงปู่ชื่นลับหายตายจากไปหลายคน ซึ่งประเทศกัมพูชาขณะนั้นร้อนระอุสุด ๆ จนดูโหดร้ายไปทุกอย่าง ทำให้หลวงปู่ชื่นเกิดความเบื่อหน่ายจึงเดินธุดงค์เข้ามายังแผ่นดินไทยที่มี แต่ความสงบร่มเย็น

    “หลวงปู่ชื่น นามเดิมชื่อ ชื่น นามสกุล ศรีโสด เกิดเมื่อวันศุกร์ เดือน 11 ปีมะเมีย ตรงกับปี พ.ศ. 2461 เกิดที่บ้านหินกอง อำเภอหินกอง จังหวัดสวายศรีโสพล ประเทศกัมพูชา โยมบิดาชื่อ นายชุบ โยมมารดาชื่อ พิม ศรีโสด มีพี่น้องร่วมท้องเดียวกัน 7 คน คือ นายเรียว, นายโพธิ์, นายบุญ, นายเกิด, หลวงปู่ชื่น, นางยอด และนางยาว ครอบครัวมีอาชีพทำนาทำไร่ตามประสาชาวบ้านในชนบททั่วไปของชาวเขมร

    ชีวิตในวัยเยาว์ของหลวงปู่ชื่น นิสัยท่านเป็นคนใจบุญ มีความสุขุมลุ่มลึก และมีใจโอบอ้อมอารีชอบเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อเพื่อนฝูง ญาติพี่น้อง ทั้งยังมีจิตใจเลื่อมใสในพระพุทธศาสนามาตั้งแต่เด็ก ๆ พออายุได้ 15 ปี ได้ขอบิดามารดาบรรพชาเป็นสามเณร ซึ่งพ่อแม่ไม่ขัดข้อง ท่านจึงได้บวชเป็นสามเณร ณ วัดในหมู่บ้านเกิดของท่าน

    หลังจากบวชเณรได้ระยะหนึ่งพอถึงอายุ 20 ปี หลวงปู่ชื่นก็ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนาโดยได้รับฉายาว่า “ติคญาโณ” เมื่ออุปสมบทเป็นพระภิกษุโดยสมบูรณ์แล้ว หลวงปู่ชื่นได้ศึกษาบทสวดมนต์และบทสวดปาติโมกข์ ซึ่งใช้เวลาเพียงหนึ่งพรรษาก็สวดพระปาติโมกข์ได้แล้ว นับว่าหาพระที่เก่งเช่นนี้น้อยมาก เพราะการท่องบทพระปาติโมกข์พระบางรูปต้องใช้เวลานานนับ 5 ปี 10 ปี เนื่องจากเป็นบทสวดที่ยาวและยากที่สุดนั่นเอง

    “หลวงปู่ชื่นสอบนักธรรมชั้นตรีได้ในพรรษาที่ 3 หลังจากนั้นท่านจึงออกเดินธุดงค์ปลงสังขารลัดเลาะไปตามป่าดงพงพี ข้ามเขาลงห้วยในดินแดนประเทศกัมพูชา ทำให้ท่านได้พบกับครูบาอาจารย์ที่เก่ง ๆ อยู่หลายรูป ซึ่งแต่ละอาจารย์ก็ได้ถ่ายทอดวิชาอาคมที่ตนมีอยู่ให้หลวงปู่ชื่นจนหมดสิ้น โดยเฉพาะฤๅษีที่บำเพ็ญพรตอยู่กลางป่าดงดิบได้ถ่ายทอดวิชาขั้นสุดยอดให้หลวง ปู่ชื่น เพื่อให้นำไปช่วยเหลือศิษย์ต่อไปอีก”

    หลวงปู่ชื่นเป็นพระเถระที่มีความเป็นอยู่อย่างเรียบง่าย มีศีลจารวัตรที่งดงาม ชอบบำเพ็ญกุศลเพื่อเสริมสร้างบารมีให้แก่กล้าขึ้น ท่านจะตื่นตั้งแต่ตีสามทำวัตรสวดมนต์ และช่วงค่ำก็เช่นกันท่านจะสวดมนต์มิได้ขาด (นอกจากจะมีกิจนิมนต์และป่วยเท่านั้น)

    “หลวงปู่ชื่นชอบทำประโยชน์ให้แก่ส่วนรวมเป็นที่สุด และให้ความเป็นธรรมแก่ศิษยานุศิษย์เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีของศิษย์ทั้งหลาย อีกด้วย ท่านจึงเป็นที่รักเคารพของศิษย์และประชาชนทั่วไปเป็นจำนวนมากในขณะนี้”

    ได้อาจารย์เก่งวิชาทุกด้าน
    [​IMG]
    หลวงปู่ชื่น ติคญาโณ เป็นศิษย์สาย “เขากุเลน” ซึ่งเป็นศูนย์รวมเวทวิทยาอาคมชั้นสูง ที่เป็นฉบับแท้ดั้งเดิมของเขมรโบราณ อาจารย์องค์แรกของท่านคือ “หลวงปู่เอื้อย และหลวงปู่ดี สุวรรณดี” สองปรมาจารย์ผู้มีพลังจิตอันลึกล้ำ ทั้งยังมีอิทธิฤทธิ์-ปาฏิหาริย์มากมายเป็นที่เลื่องลือกันมากในประเทศ กัมพูชา

    หลวงปู่ชื่นได้มองเห็นกาลไกลไปข้างหน้าว่า “พรเวทวิทยาคม” ที่ท่านกำลังศึกษาอยู่นี้จะเป็นประโยชน์มากแก่การทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ทั้งยังได้ช่วยเหลือสงเคราะห์ญาติโยมและผู้เดือดร้อนต่าง ๆ ในอนาคตภายหน้าแน่นอน ท่านจึงมุมานะพยายามขยันศึกษาเล่าเรียนวิชาอาคมจนสุดความสามารถ ตลอดจนศึกษาการเจริญวิปัสสนากรรมฐานนั่งสมาธิควบคู่ไปด้วย เพื่อเพิ่มพูนพลังจิตให้แก่กล้าขึ้น

    “หลวงปู่ชื่นท่านเรียนกรรมฐานควบคู่ไปกับวิชาอาคมจนท่านเรียนรู้ได้อย่าง แม่นยำและรวดเร็ว โดยมีการทดสอบจากผู้เป็นอาจารย์จนเป็นที่พอใจ โดยเฉพาะหลวงปู่เอื้อยท่านมีเมตตาถ่ายทอดวิชาและเคล็ดลับต่าง ๆ ให้หลวงปู่ชื่นจนหมดสิ้น หลวงปู่เอื้อยท่านเป็นพระที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากในเขมร ดังชนิดผู้หลักผู้ใหญ่ในเขมรขณะนั้นยังมอบตัวเป็นศิษย์หลายคน” ในเวลาต่อมาเมื่อหลวงปู่เอื้อยมรณภาพลง หลวงปู่ชื่นจึงออกเดินธุดงค์บุกป่าฝ่าดงดิบในดินแดนเขมรเพื่อแสวงหาครูบา อาจารย์อีกมากมาย จนกระทั่งท่านได้พบกับหลวงปู่ดี สุวรรณดี บน “เขากุเลน” ซึ่งท่านเป็นพระผู้มากด้วยอภิญญาญาณชั้นสูง และเป็นผู้มีพลังจิตอันลึกล้ำมหัศจรรย์เหนือโลกโดยแท้

    ด้วยบุญญาบารมีของหลวงปู่ชื่น ติคญาโณ ทำให้หลวงปู่ดีรับหลวงปู่ชื่นเป็นศิษย์แล้วจึงพากันออกเดินธุดงค์ไปด้วยกัน ตามสถานที่ต่าง ๆ “หลวงปู่ชื่นได้ศึกษากรรมฐานและเวทวิทยาคมกับธาตุทั้ง 4 ตลอดจนเกร็ดเคล็ดลับการสร้าง-การปลุกเสกวัตถุมงคล เครื่องรางต่าง ๆ มากมายจากหลวงปู่ดี ทำให้ท่านมีวิชาติดตัวมาจนกระทั่งปัจจุบันนี้”

    หลวงปู่ชื่นได้เมตตาเล่าเรื่องราวและประสบการณ์ในการเดินธุดงค์ของท่านให้ ฟังว่า “หลวงปู่ดีท่านนี้เก่งมาก ท่านเชี่ยวชาญพระเวทแทบทุกชนิด ท่านเคยเสกผ้าให้เป็นนกกระยางได้ และเสกใบไม้ให้เป็นต่อเป็นแตนได้ ทั้งยังรู้ภาษาสัตว์แทบทุกชนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่านสามารถล่องหนหายตัวและย่นระยะทางได้ ตลอดจนท่านเดินบนผิวน้ำได้อย่างน่าอัศจรรย์อีกด้วย” หลวงปู่ชื่นเล่าว่า หลวงปู่ดีท่านเคยแสดงให้ดูมาแล้ว ท่านเห็นกับตามาแล้วจึงกล้ามาเล่าให้ฟัง ท่านแสดงให้ดูก็เพื่อให้เป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติธรรมสืบต่อกันไปนั่น เอง “การเรียนวิชาอาคมจะมีฤทธิ์เข้มขลังได้ ต้องประกอบไปด้วยพลังจิตอันเป็นสมาธิแก่กล้าควบคู่กันไปด้วย” หลวงปู่ชื่นกล่าว

    หลวงปู่ชื่นเป็นพระที่คงแก่เรียนคือท่านชอบศึกษาค้นคว้าตำรับตำราและวิชาการ ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นอักขระเลขยันต์ หรือวิชาอาคมอะไรท่านจะทดลองสร้างทดลองปลุกเสกอยู่เสมอ เมื่อท่านลองแล้วเห็นว่าดีจริงและใช้ได้ผลดีจริงตามตำรา ท่านก็คัดวิชาวิเศษเหล่านั้นมาสร้างมาปลุกวัตถุมงคลให้บรรดาลูกศิษย์ และลูกหลานท่านให้ได้รับแต่สิ่งที่เป็นมงคลเป็นของวิเศษไว้บูชากัน จากการคัดเลือกพิจารณาตรวจจากหลวงปู่ชื่นแล้วว่า “ดีจริง-เห็นผลจริง” จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่วัตถุมงคลของท่านมีประสบการณ์ต่อเนื่องเรื่อยมา จนเป็นที่กล่าวขานร่ำลือจากปากของผู้ที่บูชาวัตถุมงคลของหลวงปู่ชื่นว่ายอด เยี่ยมอยู่ในชณะนี้

    ด้วยเหตุนี้ ผู้เขียนจึงขอนำท่านทั้งหลายได้รู้จักหลวงปู่ชื่น เพื่อให้ท่านผู้อ่านได้มีโอกาสรู้จักหลวงปู่ชื่นอย่างแจ่มแจ้งชัดเจน และใกล้ชิดหลวงปู่มากขึ้น เพราะลูกศิษย์บางคนอยู่ห่างไกลซึ่งยังไม่มีโอกาสเดินทางมากราบไหว้หลวงปู่ จะด้วยสาเหตุและปัจจัยใด ๆ ก็ตาม ผู้เขียนขอเป็นสื่อ ทั้งนี้ทั้งนั้นเพื่อเป็นการหยั่งความสามัคคีให้เกิดขึ้นในหมู่ลูกศิษย์ที่ มีความเคารพนับถือหลวงปู่ หรือท่านที่มีวัตถุมงคลของหลวงปู่ชื่นไว้แล้ว ขอให้รู้ว่าเราทั้งหลายก็เป็นลูกศิษย์ของอาจารย์องค์เดียวกัน เพราะมีวัตถุมงคลที่มาจากการปลุกเสกจากหลวงปู่ด้วยกันทั้งนั้น ทั้งนี้เพื่อช่วยจรรโลงเกียรติคุณของหลวงปู่ชื่นให้แพร่หลายขจรไป ตลอดยั่งยืนนานต่อไปในภายภาคหน้านั่นเอง

    พบสหธรรมิกเก่า

    หลังจากหลวงปู่ชื่นธุดงค์ไปในที่ต่าง ๆ มากมาย จนกระทั่งท่านเดินทางไปจำพรรษาอยู่ที่วัดนาราก อำเภอครบุรี จังหวัดนครราชสีมา ท่านอยู่ได้ 5 พรรษาจึงได้เดินธุดงค์ต่อเรื่อยไปจวบจนอายุท่านมากขึ้น กำลังวังชาถดถอย ท่านจึงอยู่กับที่ระยะหนึ่ง ต่อมาประมาณปี พ.ศ. 2524 หลวงปู่ชื่นได้รับนิมนต์เดินทางไปปลุกเสกวัตถุมงคลที่วัดแห่งหนึ่งใน เขตจังหวัดบุรีรัมย์ งานนั้นหลวงปู่นิล อนุตโร เจ้าอาวาสวัดตาอีรูปปัจจุบันซึ่งเคยเป็น “สหธรรมิก” (เพื่อน) เก่าก่อนกันมาก็ได้รับนิมนต์จากทางเจ้าภาพให้เป็นพระคู่สวดเช่นกัน

    หลังจากพระทุกองค์เสด็จจากกิจนิมนต์แล้ว ทางเจ้าภาพได้จัดถวายอาหารเพลให้ฉัน หลวงปู่นิลกับหลวงปู่ชื่นนั่งฉันในวงเดียวกัน หลวงปู่นิลหันมองพระที่นั่งอยู่ข้างตัว ท่านคิดในใจว่าคล้ายเคยเห็นกันมาก่อน แต่ท่านยังจำไม่ได้ว่าเคยเห็นกันที่ไหน เพราะความที่จากกันมานานหลายสิบปีทำให้ท่านทั้งสองแทบจำกันไม่ได้ หลวงปู่นิลได้แต่คิดในใจว่าพระองค์นี้ทำไมช่างเหมือนหลวงปู่ชื่นเสียเหลือ เกิน จนอดใจไม่ไหวจึงเอ่ยถามไปว่า

    “หลวงพ่อท่านอยู่วัดไหน ชื่ออะไร”

    หลวงปู่ชื่นตอบกลับไปทันที

    “อาตมาชื่อชื่น เป็นพระธุดงค์ยังไม่มีวัดจำพรรษา”

    หลวงปู่นิลนั่งคิดตั้งนานที่แท้ก็ใช่หลวงปู่ชื่นจริง ๆ ด้วย เมื่อท่านทั้งสองได้นั่งสนทนากันแล้วหลวงปู่นิลจึงได้ออกปากนิมนต์หลวงปู่ ชื่นให้มาจำพรรษาอยู่ด้วยกันที่วัดตาอี ประกอบกับช่วงนั้นหลวงปู่ชื่นมีอายุมากแล้วและชาวบ้านตาอีก็ได้นิมนต์ท่าน ไว้ไม่ให้เดินธุดงค์อีก นับตั้งแต่นั้นมาหลวงปู่ชื่นจึงได้อยู่จำพรรษาที่วัดตาอีเรื่อยมาจนกระทั่ง ปัจจุบันนี้



    [​IMG]
    ภาพหลวงปู่ชื่นและหลวงปู่ธรรมรังสี

    เพชรเริ่มทอแสง

    หลังจากหลวงปู่ชื่นมาอยู่วัดตาอีแล้วท่านได้เก็บตัวเงียบอยู่แต่ภายในกุฏิ หลังเล็ก ๆ เหมือนพระหลวงตาแก่ ๆ ธรรมดา แทบไม่มีใครรู้เลยว่าท่านเป็นพระที่มี “พลังจิต” และมีอาคมเข้มขลังมาก จนกระทั่งกลางปี พ.ศ. 2542 หลวงปู่ชื่นได้สร้างวัตถุมงคลออกมา 2-3 รุ่น ผลปรากฏว่าผู้ที่นำวัตถุมงคลของท่านไปบูชาต่างมีประสบการณ์ต่าง ๆ นานามากมาย จากปากต่อปากทำให้วัตถุมงคลที่ท่านบรรจุพลังจิตเวทวิทยาคมที่มี “พลังมหัศจรรย์” ความวิเศษขลัง ยับยั้งภัยพาล อาถรรพณ์จัญไร ขจัดสรรพทุกข์ สรรพโรค สรรพภัยที่มีอานุภาพ ทั้งเมตตามหานิยม มหาโชค มหาลาภ ค้าขายดีเยี่ยม คุ้มครองป้องกัน ทำให้ชื่อเสียงหลวงปู่ชื่นดังขึ้นมาเป็นที่รู้จักของผู้คนทั่วไปมากขึ้นเป็น ลำดับ จากปากผู้ที่ได้บูชาวัตถุมงคลของท่านไปบูชาส่วนใหญ่ยอมรับว่าวัตถุมงคลของ ท่านดีเยี่ยมจริง ๆ ใช้แล้วได้ผลดีเกินคาด ส่วนสาเหตุที่ท่านยอมเปิดตัวและจัดสร้างวัตถุมงคลออกมาเป็นทางการเนื่องจาก ท่านกำลังก่อสร้างอุโบสถซึ่งขาดปัจจัยอยู่อีกมาก อีกประการหนึ่งหลวงปู่เคยบอกไว้ว่า

    “ถึงเวลาที่ครูบาอาจารย์ท่านให้เปิดตัวแล้ว เพื่อนำความรู้เวทวิทยาคมที่ได้ร่ำเรียนมาสงเคราะห์พุทธศาสนิกชน และจัดสร้างถาวรวัตถุเพื่อการพระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองสืบต่อไป”



    เสกหินลงสระกลายเป็นงูยักษ์

    เมื่อครั้งที่หลวงปู่ชื่นมาอยู่ที่วัดตาอีใหม่ ๆ นั้น ท่านได้เร่งทำความเพียรปฏิบัติธรรมจนพลังจิตแก่กล้า ด้วยท่านเป็นพระที่รักสันโดษชอบเก็บตัวเงียบ ๆ อยู่แต่ภายในกุฏิ ชาวบ้านจึงคิดว่าท่านเป็นหลวงตาแก่ ๆ ไม่มีอะไร เป็นพระธรรมดาไม่มีวิชาอาคมอันใด

    ต่อมาทางวัดได้ขุดสระใหม่ ทางเจ้าอาวาสจึงประกาศบอกชาวบ้านว่า “ห้ามลงอาบน้ำในสระ” เพราะสระน้ำแห่งนี้พระเณรต้องใช้ดื่มกิน แต่ชาวบ้านขาดความเกรงใจท่าน ตกเย็นทั้งหนุ่มสาวพากันลงว่ายน้ำเล่นในสระอย่างสนุกสนาน บ้างก็นำผ้ามาซักทำให้ฟองแฟ๊บที่ซักลอยเต็มคุ้งสระ บอกแล้วก็เฉย เตือนแล้วก็ไม่หยุด

    หลวงปู่ชื่นจึงใช้ไม้ตายเพื่อให้รู้จักที่ต่ำที่สูง และที่ควรมิควรกันบ้าง ท่านจึงนำก้อนหินมาสองก้อน แล้วเสกด้วยคาถาอาคมจากนั้นท่านโยนลงไปในสระน้ำ

    “สามวันต่อมาพวกที่ชอบลงเล่นน้ำในสระภายในวัดต่างก็ตกใจแตกตื่นขึ้นตลิ่งกัน แทบไม่ทัน เพราะเห็นพญางูยักษ์สองตัวว่ายน้ำไปมาในสระให้เห็นกับตากันจะจะ ชาวบ้านตาอีเห็นกันทั้งหมู่บ้าน”

    เรื่องนี้เป็นที่เลื่องลือกันมากในอำเภอบ้านกรวด ถ้าหากใครมีโอกาสได้ไปที่วัดตาอีลองสอบถามชาวบ้านดูก็ได้ และจากวันนั้นเป็นต้นมาจนกระทั่งถึงวันนี้ก็ไม่มีใครกล้าลงไปเล่นน้ำในสระ ที่วัดตาอีกันอีกเลย...

    หลวงปู่ผู้เมตตา
    หลวง ปู่ชื่นท่านมีเมตตาต่อศิษย์ทุกคน ท่านให้ความช่วยเหลือลูกศิษย์ไม่เลือกหน้าไม่ว่าจะยากดีมีจนเดือดร้อนมาหา ท่านๆก็ช่วยหมด นิมนต์ท่านไปทำอะไรที่ไหนท่านก็เมตตาไปโปรดทุกคน ถึงแม้แต่ท่านมรณภาพ(มรณภาพ ปี พ.ศ.2547) ไปแล้วท่านก็ยังมาโปรดลูกศิษย์ทุกคน ใครมีวัตถุมงคลของหลวงปู่ไว้หากบูชาด้วยความเคารพศรัทธาหลวงปู่ แล้วเป็นอยู่ในศีลธรรมแล้วจะไม่มีคำว่ายากจน ขัดสน หรืออดอยากเด็ดขาด จะมีแต่ความเจริญรุ่งเรืองดียิ่งๆขึ้นไป ถึงขนาดปรารถนาสิ่งใดหากอธิษฐานขอแล้วและไม่เกินวิสัยแล้วละก็จะได้ดังใจ ปรารถนาทุกประการเลยทีเดียว

    พระผงอาถรรพ์ธม หลวงปู่ชื่น วัดตาอี

    วัตถุมงคลที่ระลึกครบรอบ 5 ปี วันมรณภาพ หลวงปู่ชื่น ติคญาโณ (19 มิ.ย. 2552) พระผงอาถรรพณ์ธม เป็นพระผงรูปเหมือนหลวงปู่ชื่น ติคญาโณ รอบล้อมด้วยพระคาถาอาถรรพณ์ธม และพระยันต์กลับดวง กลับร้ายเป็นดี ฯลฯ ส่วนด้านหลังประทับด้วยยันต์ครูของหลวงปู่ชื่น มวลสารที่นำมาจัดสร้างประกอบด้วย อัฐิธาตุและผงบุโลเถ้าถ่านของหลวงปู่ชื่น, ผงพรายทองคำ, ผงพระขุนแผนแขนอ่อน, ผงพระขุนแผนมะรุมมะตุ้ม, ผงพระขุนแผนนาคเกี้ยว, ผงพระขุนแผนสะกดทัพ, ผงพระขุนแผนชมตลาด, ผงพระแตกหักทุกรุ่นของหลวงปู่ชื่น และที่สำคัญยังมีส่วนผสมของทันตธาตุของหลวงปู่ชื่นอีกด้วย พระเดชพระคุณหลวงปู่ชื่น ติคญาโณ ยอดพระเกจิแห่งอีสานตอนใต้ผู้สำเร็จวิชาอาถรรพณ์เวท, มนตรามหาเสน่ห์, สรรพเวทพิสดารท่านยังเจนจบวิชาการทำผงต่าง ๆ มากมาย และผงที่สร้างชื่อเสียงให้แก่ท่านก็คือผงมหาภูติพรายทองคำ ซึ่งถือเป็นผงวิเศษอาถรรพณ์ ที่มีคุณวิเศษมากมายโดยเฉพาะในเรื่องโชคลาภและเมตตา หลวงปู่ชื่นท่านยังสำเร็จวิชาการทำสีผึ้งมหานิยมได้หลายอย่างหลายชนิด และที่สำคัญท่านยังสร้างพระขุนแผนที่ทรงไว้ซึ่งเมตตามหานิยมเสริมโชคเสริม ลาภเสริมดวงเสริมยศ ฯลฯ ด้วยความยิ่งใหญ่ในกฤษดาภินิหาร อันเกรียงไกรทุกวันนี้ วัตถุมงคลที่พระเดชพระคุณท่านหลวงปู่ชื่นท่านอธิษฐานจิตบรรจุพลังเวทจึงเป็น พระยอดนิยมที่มีผู้เสาะแสวงหามากที่สุด จากคำร่ำลือจากปากของผู้ครอบครองบูชาวัตถุมงคลของท่านว่าพระของหลวงปู่ชื่น “ท่านมีอภินิหารบารมีศักดิ์สิทธิ์เหลือเกิน” และหลาย ๆ ท่านที่บูชาวัตถุมงคลของหลวงปู่ก็มีโชคมีลาภมีฐานะการเงินคล่องตัว เพื่อนร่วมงานรักใคร่เจ้านายเมตตาและที่แปลกพิสดารอีกอย่าง พระของหลวงปู่ชื่นอธิษฐานขอเงินใช้แก้ขัดสนได้ และความลับอีกอย่างที่อยากจะบอกพระของท่านผู้บูชาด้วยใจรักศรัทธาขยัน บอกกล่าว หมั่นบูชา “หลาย ๆ ท่านได้เป็นใหญ่เป็นโตเป็นหัวหน้าคน” จะเป็นด้วย “มนต์อาถรรพณ์พระเจ้าแผ่นดิน” หรือเปล่าไม่ทราบแน่ชัดหลายคนอาจจะยังไม่เข้าใจและสับสนกับคำว่า “อาถรรพณ์” หลวงปู่เคยบอกเล่าถึงความหมายของคำว่าอาถรรพณ์ ก็คือคุณสมบัติคุณวิเศษเฉพาะตัวอธิบายให้เข้าใจง่าย ๆ เช่น พระสิวลีท่านทรงมีคุณทางลาภมาก ทางสายวิชาอาถรรพณ์เวทก็จะดึงคุณสมบัติทางโชคลาภมาผูกขึ้นเป็นวิชาอาถรรพณ์ พระสิวลีหรืออาถรรพณ์โชคลาภ หรือพระโมคคัลลานะท่านมีคุณทางฤทธิ์ก็ดึงบารมีทางฤทธิ์มาผูกเป็นคาถา อาถรรพณ์ฤทธิ์ แต่อาถรรพณ์ก็ยังแยกออกไปอีก คืออาถรรพณ์ในทางที่ดีและอาถรรพณ์ในทางไม่ดี สำหรับของหลวงปู่ชื่นเป็นวิชาอาถรรพณ์เวชทางที่ดี เช่น “มนต์อาถรรพณ์พระเจ้าแผ่นดิน” ของหลวงปู่ชื่นท่านจะขอบารมีพระมหากษัตริย์ พระเจ้าแผ่นดิน พระราชามหาจักรพรรดิ์ พระธรรมราชา ทุก ๆ พระองค์ที่ทรงคุณมาผนวกกัน บารมีพระพุทธเจ้าเมื่อครั้งทรงเนรมิตพระวรกายเป็น “พระสมเด็จราชาธิราช” พระเครื่องทุกชนิดของหลวงปู่ชื่นท่านจะลงมนต์บทนี้ไว้ ท่านเป็นห่วงลูกศิษย์ว่าจะสู้เขาไม่ได้ บารมีพระเจ้าแผ่นดิน, พระมหาจักรพรรดิ์, พระธรรมราชา ดีอย่างไร? ล่วงเกินได้มั้ย? แม่ทัพนายกองสู้ได้มั้ย? ฯลฯ จะดีอย่างไรผู้มีปัญญาพิจารณาดูเทอญ! ในวันที่ 19 มิถุนายน 2552 ถือว่าเป็นวันครบรอบการละสังขารปีที่ 5 ของหลวงปู่ชื่น ติคญาโณ พระผงรูปเหมือนหลวงปู่ชื่นรอบล้อมด้วยพระยันต์อาถรรพณ์เวท และพระยันต์อาถรรพณ์เทพกลับดวง กลับร้ายกลายเป็นดี ดีแล้วขอให้ดียิ่ง ๆ ขึ้นไป ด้านหลังประทับด้วยยันต์ครูของหลวงปู่ชื่น พระผงรูปเหมือนอาถรรพณ์ธมนี้ได้นำไปขอบารมีหลวงปู่ผาด วัดบ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ อธิษฐานจิตปลุกเสกให้อีกวาระหนึ่งเพื่อเพิ่มความศักดิ์สิทธิ์เข้มขลัง พระผงรูปเหมือนอาถรรพณ์ธมนี้ เป็นสุดยอดวัตถุมงคลที่หาสิ่งใดเสมอเหมือนมิได้ในยุคนี้ เป็นเหมือนองค์แทนของหลวงปู่ใครมีไว้บูชาเท่านกับมีหลวงปู่ปกปักรักษาคุ้ม ครองให้ความช่วยเหลืออยู่ด้วยตลอดเวลา สรรพวิชาอาถรรพณ์เวทย์วิทยาคมของหลวงปู่ได้บรรจุลงไปในพระทั้งหมดแล้วอย่าง เข้มขลังศักดิ์สิทธิ์ อิทธิคุณพลังอำนาจนั้นตามที่ได้สัมผัสพลังดูแล้วสุด ๆ จริง พลังเวทย์อาถรรพณ์เวทย์สูงส่งรุนแรงแทบจะบอกได้เลยว่าดีเท่ากับวัตถุมงคล รุ่นแรกๆของหลวงปู่เลยทีเดียว หากไม่เชื่อท่านก็ลองเอาไปให้ผู้ที่จับพลังได้หรือเอาไปใช้ครูบาอาจารย์ที่ ท่านเคารพศรัทธาที่สัมผัสพลังจิตได้ลองพิสูจน์ดูเองก็แล้วกัน จำนวนจัดสร้าง
    1. เนื้อกรรมการตะกรุดทองคำ 9 ดอก 12 องค์
    2. เนื้อพิเศษมวลสารล้วน 227 องค์
    3. เนื้อแก่ผงอังคารธาตุ 999 องค์


    พระผงอาถรรพ์ธม เนื้อพิเศษมวลสารล้วนๆ
    องค์นี้สภาพสวยครับ
    เนื้อมวลสาร พระแตกหัก และวัตถุมงคล ต่างๆของหลวงปู่ชื่น จะมีความเข้มข้นสูง และเป็นรุ่นที่เจอประสบการณ์ กัน เนื้อมวลสารจะเน้นเถ้าอังคาร อัฐิธาตุ หลวงปู่ชื่น เป็นหลัก และยังมีมวลเก่า มวลสารผงพระทุกรุ่นของหลวงปู่ชื่น อันศักดิ์ต่างๆ มารวมเป็น อาถรรพ์ธม หากนึกถึงหลวงปู่ชื่นอธิฐานกับองค์อาถรรพ์ธมได้เลย เหมือนมีหลวงปู่ชื่นมาอยู่ใกล้ๆ

    การอารธนาให้ขอกับองค์อาถรรพ์ธม จิตนิ่งๆ
    แล้วว่า คาถา ตั้งนะโม 3
    ตามด้วย อิติ ฤทธิ ชื่น 3-5-9 ขอ พอจิตเรานิ่งดีแล้ว ทำการอารธณาขอ .....

    [​IMG]



    [FONT=&quot]*ปิดรายการนี้ครับ[/FONT]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • AT1-horz.jpg
      AT1-horz.jpg
      ขนาดไฟล์:
      687.1 KB
      เปิดดู:
      5,458
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 พฤศจิกายน 2013
  3. momotaro67

    momotaro67 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    7,026
    ค่าพลัง:
    +5,457
    พระผงอาถรรพ์ธม เนื้อเถ้าอังคาร
    องค์นี้สภาพสวยครับ เนื้อมวลสารจะเน้นเถ้าอังคาร อัฐิธาตุ หลวงปู่ชื่น เป็นหลัก และยังมีมวลเก่า มวลสารผงพระทุกรุ่นของหลวงปู่ชื่น อันศักดิ์ต่างๆ มารวมเป็น อาถรรพ์ธม หากนึกถึงหลวงปู่ชื่นอธิฐานกับองค์อาถรรพ์ธมได้เลย เหมือนมีหลวงปู่ชื่นมาอยู่ใกล้ๆ

    การอารธนาให้ขอกับองค์อาถรรพ์ธม จิตนิ่งๆ
    แล้วว่า คาถา ตั้งนะโม 3
    ตามด้วย อิติ ฤทธิ ชื่น 3-5-9 ขอ พอจิตเรานิ่งดีแล้ว ทำการอารธณาขอ .....

    [​IMG]




    [FONT=&quot]*ปิดรายการนี้ครับ[/FONT]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • AT3-horz.jpg
      AT3-horz.jpg
      ขนาดไฟล์:
      486.7 KB
      เปิดดู:
      1,239
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 ธันวาคม 2011
  4. momotaro67

    momotaro67 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    7,026
    ค่าพลัง:
    +5,457
    ประสบการณ์พลังอำนาจพระรูปเหมือนอาถรรพณ์ธม หลวงปู่ชื่น ติคญาโณ

    "แรงเหลือเกิน" ผมไม่คิดไม่ฝันว่า จะมีสิ่งนี้ในโลกนี้ แบบนี้อีกแล้ว วันนี้ผมได้รับพระ เป็นพระผงอาถรรพณ์ธม องค์จริงจากคุณภาณีวรรณ (คุณจ้อ) ซึ่งได้คิดแต่แรกแล้วว่า พระผงนี้ต้องแรงเหมือนกับยุคสมัยที่ท่านมีชีวิตอยู่ และไม่น่าจะแรงไปกว่านั้น และก็คงไม่มีอะไรพิเศษไปกว่านั้น เนื่องจากท่านได้ละสังขารไปแล้ว และผงที่นำมาสร้างใหม่ก็คือผงเดิมๆของท่าน โดยผ่านการรวมจิตรวมธาตุต่างๆของท่านเข้าเป็นหนึ่งเดียว จากหลวงปู่ผาด วัดบ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ผมได้ส่งเงินไปทำบุญเพื่อสร้างรูปหล่อยืน ของหลวงปู่ชื่น โดยไม่ได้คิดอะไร ว่าคุณจ้อจะส่งพระแบบไหนมาให้ผม ผมก็ยินดีทุกอย่าง เมื่อผมได้พระมาในวันนี้ ผมก็โทรไปหาอาจารย์ทันที กะว่าจะออกไปหาอาจารย์เลย แต่อาจารย์บอกว่าต้องตอนเย็นๆ เพราะอาจารย์ไปต่างจังหวัดในเรื่องงาน จะกลับมาถึงตอนบ่ายๆ ผมก็เลยนัดอาจารย์ตอนเย็น เพื่อนั่งสมาธิ สัมผัสพลังจิตกับองค์พระที่ได้รับมาในวันนี้ เชื่อไม่ว่า ผมยื่นพระให้อาจารย์ อาจารย์ผมสดุ้งทันที แล้วเกิดอาการอึดอัดทันที แล้วอาจารย์ก็เริ่มโดยขออนุญาต และเข้าสมาธิญาณ ใช้เวลาตรวจสอบนานประมาณ 15 นาที ผมเห็นอาจารย์นั่งมือสั่นตัวเกร็งอยู่ตลอดเวลา ผมก็ได้แต่นั่งมองอยู่ จนอาจารย์ออกจากสภาวะจิต แล้วอาจารย์ก็ก้มกราบไหว้ 3 ครั้ง ตรงหน้าอาจารย์ แล้วผมก็ถามอาจารย์ว่ากรมไหว้ใคร อาจารย์ก็บอกไหว้หลวงปู่ชื่น ท่านนั่งอยู่ตรงหน้านี่เอง ผิวพรรณเปล่งปลั่ง ขาว สมบูรณ์มาก และมีพรายและกุมารนั่งรอบล้อมอยู่ด้านข้างท่านเต็มไปหมด เรียกว่าบ้านอาจารย์ผมมีแต่พรายและกุมารเต็มไปหมดเลยครับ หมาหน้าบ้านของอาจารย์ก็เห่าหอนกันเหลือเกิน แล้วจึงซักถามอาจารย์ อาจารย์บอกว่า ไม่มีรุ่นไหนของหลวงปู่ชื่น ที่แรงเท่ารุ่นนี้อีกแล้ว แรงมากๆ แรงจนอาจารย์แทบจะต้านไม่ไหว อาจารย์ต้องคอยสะกดตัวเองอยู่ตลอดเวลา ถึงว่าทำอาจารย์ถึงเกร็งตลอดเวลา เพราะทุกครั้งที่อาจารย์ได้สัมผัสพระของหลวงปู่ชื่น อาจารย์จะไม่เหนื่อยหรือเกร็งขนาดนี้ อาจารย์บอกว่าต่อไปจะหาไม่ได้อีกแล้ว และหลวงปู่ชื่นก็บอกว่า ต่อไปจะมีราคาแพง เพราะมีแต่คนต้องการกันมาก และของก็มีน้อย จะหากันไว้ไม่พอ อาจารย์บอกมีพรายเยอะที่สุด มีกุมารเยอะที่สุดในองค์รุ่นนี้ พรายในแต่ล่ะองค์ไม่ต่ำกว่า 59 ตน และกุมารก็ไม่ต่ำกว่า 59 ตน เช่นกัน เต็มไปหมด และแรงกว่าพระของหลวงปู่ชื่นที่สร้างมาทั้งหมด แม้แต่หลวงปู่ชื่นก็พูดเช่นนั้นครับ อาจารย์ได้สนทนาธรรมกับหลวงปู่ชื่น เกี่ยวกับพระผงอาถรรพณ์ธม นี้ประมาณ 10 กว่านาที หลวงปู่ชื่น ได้บอกว่า ผงที่คุณศรายุทธ งามชื่น เอามาทำนี่ เป็นผงวิเศษ ผงอาถรรพณ์ทั้งหมดที่หลวงปู่มีอยู่ในขณะนั้น หลวงปู่บอกมีผงพรายทองคำผสมมากที่สุด ซึ่งหลวงปู่บอกเป็นผงที่ทำยากและหวงที่สุด และมีผงแร่อาถรรพณ์บนเขาพระวิหารของพระเจ้าชัยวรมันด้วย มีผงพรายกุมารของหลวงปู่ทิมด้วย ที่ปนอยู่ในเนื้อพระที่แตกหัก มีผงอาถรรพณ์จากพระขุนแผนรุ่นแรกๆ ขุนแผนมะรุมมะตุ้มก็เยอะที่แตกหักการแช่น้ำมนต์ และผงต่างๆที่คุณศรายุทธเก็บไว้ เมื่อยามหลวงปู่มีชีวิตและได้มอบไว้ให้ผสมลงไปทั้งหมด ผงพรายกุมารก็เยอะมากๆ คิดเอาก็แล้วกัน พระ 1 องค์ มีทั้งพรายและกุมาร เป็นตัวเป็นตน เต็มไปหมด มีที่ไหนอีก ผมดีใจมากที่ได้ของดีๆของหลวงปู่ชื่น ที่หาไม่ได้อีกแล้วในชาตินี้ แบบนี้ ใครพกพระองค์นี้ไปไหนก็เหมือนพกกุมารติดตัวไปตลอดเวลาเลยครับ และเกือบลืม อาจารย์บอกว่า ก่อนเข้าบ้าน ถ้าใครได้ทำบุญและรับพระมา ให้จุดธูปนอกบ้านก่อน อย่างน้อย 7 ดอก และในบ้านอีก 3 ดอก ขออนุญาตเจ้าที่เจ้าทาง ผีบ้านผีเรือน และพระพุทธพระธรรม พระสงฆ์ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในบ้านด้วย เมื่อก่อนผมคิดว่าขุนแผนพรายทองคำกับขุนแผนแขนอ่อน แรงที่สุดแล้ว แต่เมื่อมาเจอพระชุดนี้ ยิ่งแรงกว่าอีก ใครไม่เชื่อ ลองให้อาจารย์ท่านหรือผู้ที่สัมผัสได้ หรือญาติพี่น้องของท่านที่สัมผัสได้ลองสัมผัสดู ว่าเหมือนกับที่ผมพูดหรือไม่ ผมกล้าพูดได้เต็มปาก เพราะสัมผัสกับตัวเองและอาจารย์สัมผัสทางใน และได้พูดคุยกับหลวงปู่ชื่นด้วย หาไม่มีอีกแล้วครับท่าน ที่จะมีการสร้างแบบนี้อีก ผมว่าคุณศรายุทธ ก็คงไม่มีผงมากมายขนาดนี้อีกแน่นอน เพราะครั้งนี้ได้ทุ่มเทจิตใจ ความตั้งใจที่จะสร้างรูปเหมือนยืนของท่านให้เป็นผลสำเร็จ ผมบอกได้คำเดียว ใครช้าอดแน่นอน เพราะสร้างจำนวนจำกัด ตามที่ผงของท่านเท่านั้น ส่วนผสมอย่างอื่นหรือใหม่ๆไม่มีเลย นอกเสียจากตัวประสาน พวกน้ำมัน เพื่อให้พระยึดติดกันเป็นรูปร่าง ไม่หลุดหรุ่ย และใครได้ไปขอให้ระวังสักนิด เพราะเนื้อพระอาจเปราะแตกหักได้ง่าย เนื่องจากเป็นผงล้วนๆ ไม่มีปูนหรือส่วนผสมอื่น ขอให้นำไปใส่กรอบหรือเลี่ยม หรือเก็บไว้ที่ที่มีความนุ่นนวลหน่อย เพื่อรักษาเนื้อพระครับ ใครยังไม่ได้ทำบุญ รีบเสียก่อนของจะหมดน่ะครับ พลังพุทธานุภาพ พลังพุทธคุณ แรงแบบสุดๆ ไปในทางเมตตา มหานิยม โชคลาภ ค้าขาย หน้าที่การงาน แคล้วคลาด คงกระพัน


    ประสบการณ์จากเวปบอร์ดหมู่บ้านคาถาอาคม เล่าโดยคุณ tiger-k หนึ่งในศิษย์ที่ศรัทธาหลวงปู่ชื่น
     
  5. ongvip

    ongvip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,511
    ค่าพลัง:
    +2,216

    ขอรับรายการนี้ 4 ชุด

    ขอราคาพิเศษด้วยได้ไหมครับ
    รบกวนยืนยันทาง pm ด้วยครับ


    ด้วยความเคารพ
    อ๋อง
     
  6. momotaro67

    momotaro67 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    7,026
    ค่าพลัง:
    +5,457

    ตอบให้ทาง pm แล้วนะครับ
     
  7. ongvip

    ongvip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,511
    ค่าพลัง:
    +2,216

    ขอรับรายการนี้เพิ่มอีก 1 องค์ครับ
     
  8. momotaro67

    momotaro67 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    7,026
    ค่าพลัง:
    +5,457

    ตอบให้ทาง pm แล้วนะครับ
     
  9. ongvip

    ongvip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,511
    ค่าพลัง:
    +2,216

    โอนเรียบร้อยแล้วครับที่อยู่ทาง pm ครับ
     
  10. thavornsiripat

    thavornsiripat สิ่งใดไม่เปลี่ยนแปลง ไม่มี เป็นธรรมดา เช่นนั้นเอง

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    2,087
    ค่าพลัง:
    +13,923
    ถ้าทันครับ

    มีกี่องค์ครับ ถ้าทันขอรับองค์นึงครับ
     
  11. momotaro67

    momotaro67 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    7,026
    ค่าพลัง:
    +5,457

    มีองค์เดียวครับท่าน เหลือแต่องค์มวลสารล้วนที่ลงไว้ องค์เดียวครับ
     
  12. arthitjo

    arthitjo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2009
    โพสต์:
    671
    ค่าพลัง:
    +1,271
    ติดต่อ[FONT=&quot]ได้ที่ นายโมลีพุฒิ ปฐมโพธิ์ [FONT=&quot]มือถือ [FONT=&quot]086-567-7054[/FONT][/FONT]
    [FONT=&quot]ธนาคารกรุงไทย สาขาอนุสาวรีย์ชัยฯ บัญชี สะสมทรัพย์[/FONT]
    [FONT=&quot]ชื่อบัญชี นายโมลีพุฒิ ปฐมโพธิ์[FONT=&quot] เลขที่บัญชี [/FONT][FONT=&quot]007-0-081425[/FONT][/FONT]
    [FONT=&quot]หลังโอนเงินแล้ว รบกวนโทรแจ้งให้ทราบด้วยเพื่อจะได้จัดส่งวัตถุมงคลได้ถูกต้อง[FONT=&quot]หรือเมล์แจ้งได้ที่[/FONT][FONT=&quot] email : momotaro67@hotmail.com[/FONT][/FONT]
    [FONT=&quot]ทุกรายการค่าจัดส่งรายการละ 50บ.ทั่วประเทศ โดยจัดส่งแบบEMS[/FONT]<!-- google_ad_section_end -->
    __________________
    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->
    [/FONT]

    รายการที่37.>>>ชุดสุดคุ้ม สุดยอดวัตถุมงคลของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ พระคำข้าว พระหางหมาก แหนบหลวงพ่อ มาเป็นชุด อยากให้มีไว้บูชา ประสบการณ์มากมาย>>> [FONT=&quot]ให้บูชา[/FONT][FONT=&quot]ชุด[/FONT][FONT=&quot]ละ 1,050 บ.[/FONT][FONT=&quot][FONT=&quot][FONT=&quot][FONT=&quot] / หน้า13.[/FONT][/FONT][/FONT][/FONT]
    [​IMG] [​IMG]
    รายการที่49.>>>พระร่วงรางปืน อ.ชุม ไชยคีรี ปลุกเศกพิเศษ แจกเฉพาะคณะศิษย์ 2517>>> ให้บูชาองค์ละ 750 บ. / หน้า17.
    [​IMG] [​IMG]


    รายการที่87.>>>พระผงอายุยืน หลวงปู่สี ปี17 เนื้อพิเศษชานหมาก เกศา ปิดทอง ครับ>>>[FONT=&quot]ให้บูชาองค์[FONT=&quot]ละ[/FONT][FONT=&quot] 1,050[FONT=&quot]บ.[/FONT][/FONT] / หน้า33.
    [​IMG] [​IMG]
    [/FONT]สนใจ 3 ชุดนี้ ถ้ายังไงจะติดต่ออีกที arthit388@hotmail.com
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 ธันวาคม 2011
  13. momotaro67

    momotaro67 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    7,026
    ค่าพลัง:
    +5,457
    รับทราบครับท่าน....................
     
  14. momotaro67

    momotaro67 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    7,026
    ค่าพลัง:
    +5,457

    ผมจัดส่งให้แล้วนะครับเช้านี้ 20/11/11 เลขที่ EI642284565TH

    ขอให้ทางพี่และครอบครัวมีความสุขทั้งทางกาย และใจ สุขภาพแข็งแรงไม่เจ็บไม่จน ร่ำรวยเงินทอง มั่งมีศรีสุขเจริญด้วยทรัพย์สมบัติตลอดปีใหม่'55 ที่จะถึงนี้นะครับ ขอบคุณครับ<!-- google_ad_section_end -->
     
  15. momotaro67

    momotaro67 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    7,026
    ค่าพลัง:
    +5,457
    พระผงอาถรรพ์ธม เนื้อเถ้าอังคาร
    องค์นี้สภาพสวยครับ
    เนื้อมวลสารจะเน้นเถ้าอังคาร อัฐิธาตุ หลวงปู่ชื่น เป็นหลัก และยังมีมวลเก่า มวลสารผงพระทุกรุ่นของหลวงปู่ชื่น อันศักดิ์ต่างๆ มารวมเป็น อาถรรพ์ธม หากนึกถึงหลวงปู่ชื่นอธิฐานกับองค์อาถรรพ์ธมได้เลย เหมือนมีหลวงปู่ชื่นมาอยู่ใกล้ๆ

    การอารธนาให้ขอกับองค์อาถรรพ์ธม จิตนิ่งๆ
    แล้วว่า คาถา ตั้งนะโม 3
    ตามด้วย อิติ ฤทธิ ชื่น 3-5-9 พอจิตเรานิ่งดีแล้ว ทำการอาราธณาขอ .....

    [​IMG]



    [FONT=&quot]องค์ที่2 *ปิดรายการนี้ครับ[/FONT]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • att1-horz.jpg
      att1-horz.jpg
      ขนาดไฟล์:
      521.4 KB
      เปิดดู:
      1,085
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 ธันวาคม 2011
  16. thavornsiripat

    thavornsiripat สิ่งใดไม่เปลี่ยนแปลง ไม่มี เป็นธรรมดา เช่นนั้นเอง

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    2,087
    ค่าพลัง:
    +13,923
    รับครับ


    รับครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 ธันวาคม 2011
  17. momotaro67

    momotaro67 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    7,026
    ค่าพลัง:
    +5,457

    รับทราบครับท่าน....................<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --> <!-- / message --><!-- sig -->
     
  18. cmdeveloper

    cmdeveloper Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    61
    ค่าพลัง:
    +61
    น่าสนใจครับ แต่ขอรอดูองค์ที่ถูกใจที่สุดนะครับท่าน
     
  19. momotaro67

    momotaro67 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    7,026
    ค่าพลัง:
    +5,457
    ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมชมคร้าบบบ
    <!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
     
  20. momotaro67

    momotaro67 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    7,026
    ค่าพลัง:
    +5,457
    รายการที่55.>>>เหรียญ เสริมเนื้อทองแดงรุ่น 1 นี้ทางลูกศิษย์ได้ขออนุญาตหลวงปู่สร้างขึ้นเมื่อปี 28 (เหรียญรุ่น 1 สร้างปี 13)โดยได้ใช้บล็อกของเหรียญรุ่น 1 และที่พิเศษก็คือรุ่นนี้ได้ผสมชนวน "เนื้อลูกแก้ว" ของหลวงปู่ด้วยเหรียญนี้สวยมากจมูกคมกริบ พระสวยหายากครับ>>>ให้บูชาองค์ละ 1,150 บ. / หน้า23.
    [​IMG]

    รายการที่69.>>>พระไตรรัตนจักร หลวงปู่ชื้น พุทธสโร วัดญาณเสน เนื้อดิน หลังจารเปียก ยุคต้น พระสวยสมบูรณ์มากครับ>>>[FONT=&quot]ให้บูชา[/FONT]องค์[FONT=&quot]ละ 6[FONT=&quot]50 [/FONT][FONT=&quot]บ.[/FONT][/FONT] / หน้า28.
    [​IMG] [​IMG]

    สองรายการนี้ พี่นอกเว็ปจองครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...