ขออนุญาติแนะนำ"พระอริยเจ้า" อีกรูปให้ไปกราบนะครับ "หลวงปู่คำสุข" จ.เพรชบูรณ์

ในห้อง 'หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต' ตั้งกระทู้โดย แดนโลกธาตุ, 9 สิงหาคม 2007.

  1. แดนโลกธาตุ

    แดนโลกธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2006
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +23,976
    <TABLE cellSpacing=1 cellPadding=5 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD>วัดป่าซับคำกอง ต.เพชรละคร อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์
    "หลวงปู่คำสุข ญาณสุโข" ศิษย์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต อายุ 83 ปี 53 พรรษา

    <HR width="100%" color=#dddddd SIZE=1>

    </TD></TR><TR><TD bgColor=#ffffff>
    <TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR><TD>
    ที่จริงยังไม่ถึงตัวจังหวัด มองดูว่าเหมือนไกลมาก ออกจากกรุงเทพไปถนน 4 เลนดีมากวิ่งรถสะดวกสะบายไปที่วิเชียรบุรี ตรงขึ้นไปเป็น บึงสามพัน เลี้ยวขวาไปทางชัยภูมิแล้วเลี้ยวซ้ายอีกทีตรงขึ้นไป 9 ก.ม.เท่านั้นด้านซ้ายก็มีป้ายบอกชื่อวัดด้วยตัวหนังสือเขียนเบ้อเร้อ....
    ..แต่บอกก่อนว่าใครที่ชอบความสะดวกสบายมากๆที่นี่คงไม่เหมาะนักหรอกค่ะ เพราะที่นี่เป็นวัดป่า เจ้าอาวาส อายุ 83 ปี 53 พรรษา คือ "หลวงปู่คำสุข ญาณสุโข" เป็นลูกศิษย์พระอาจารย์ใหญ่มั่น ภูริทัตโต และลูกศิษย์หลวงปู่ขาว อนาลโย รุ่นพระอาจารย์จวน หลวงปู่จันทา ถาวโร ,หลวงปู่หล้า,หลวงปู่เจี๊ยะ ภูจ้อก้อ ฯลฯ ท่านไม่ค่อยเปิดองค์นักแต่ก็พอเป็นที่รู้จักในกลุ่มนักปฏิบัติธรรมจริงๆอยู่ ท่านจะสอยแบบพระปฏิบัติสมัยเก่าจริงๆ ถ้าคาดหวังว่าจะเข้าไปอบรมกัมมัฏฐานแบบเป็นคอสก็ยากหน่อยไม่มีค่ะ แต่ไปถือศีล ตอนเย็นท่านจะเทศน์ขระนั้นใครสงสัยหรืออยากทราบอะไรก็ถามได้ หลังจากนั้นก็ให้แยกย้ายกันปฏิบัติของใครของมันเพื่อหาดูจริตตนเองให้เจอ และทำเองเอาคำสอนท่านมาพิจารณา เน้นการลงมือปฏิบัติเองดดยไม่มีคนคอยกำกับขณะนั่ง ยืน นอน เดิน แต่เมื่อสงสัยประการใด วันรุ่งขึ้นถามได้ หรือบางครั้งไม่ทันถามท่านจะนำมาเทศน์เลยเพราะท่านทราบว่าใครคิดอะไรและใครติดอะไรอยู่
    มีที่พักผู้ปฏิบัติ หญิง และชายแยกกัน สถานที่เงียบสงบไม่พลุ่กพล่าน ปฏิบัติแบบดั้งเดิมๆจริงๆ ข้อวัตรปฏิบัติเชี๊ยะมากๆ ใครที่เคยปฏิบัติแบบสบาย หรือมีพี่เลี้ยงกำกับก็คงงงๆอยุ่เพราะที่นี่ไม่มีเช่นนั้น ฉันอาหารมื้อเดียวเป็นนิจ ถือธุดงควัตร 13 ตามพระธรรมวินัยทุกอย่าง....แต่หลวงปู่ส่วนใหญ่ท่านถนัดพูดภาษาอีสาน มีบ้างถ้าคนทางกรุงเทพไปบอกท่านว่าให้พุดกลางท่านจึงจะพูด...ลองไปดูนะคะกราบพระอริยะเจ้าอีกองค์ข้อวัตรท่านงดงามมากค่ะ...โอกาสหน้าจะเรปท่านมาลงไว้บ้าง (ถ้าทำเป็นนะคะ อิอิ)
    หากท่านใดสนใจก็เรียนเชิญแวะเวียนไปสัมผัสได้นะคะ


    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <HR width="100%" color=#dddddd SIZE=1></TD></TR><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD align=right>totawan [​IMG] [DT03797] [ วันพุธ ที่ 6 มิถุนายน 2550 เวลา 16:09 น. ]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 สิงหาคม 2007
  2. แดนโลกธาตุ

    แดนโลกธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2006
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +23,976
    เดี๋ยวจะพยายามหาภาพท่านมาให้ดู..
    หรือว่าท่านใดเคยเห็นภาพท่าน...หรือเคยไปกราบหลวงปู่ช่วยมาเล่าด้วยนะครับ ..เพราะผมแดนโลกธาตุก็เพิ่งทราบเหมือนกันครับ...
    และถ้าไปไปกราบหลวงปู่อย่าลืมขอภาพท่านมาลงด้วยนะครับ

    อนุโมทนาบุญครับ
     
  3. แดนโลกธาตุ

    แดนโลกธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2006
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +23,976
    ขอนำท่านผู้อ่านอ่าน "พระธรรมเทศนา หลวงปู่คำสุข ญาณสุโข"
    ครับ และได้นำภาพท่านมาลงด้วยครับ รู้สึกว่าท่านจะเป็นพระปฏิบัติ ที่เงียบมากเลยครับ
    ขอเชิญไปกราบหลวงปู่ได้นะครับ



    <TABLE cellPadding=2 align=left border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD>

    </TD></TR></TBODY></TABLE>เมื่อรักษาศีลความทุกข์ก็จะหมดไป

    สาธุชนทั้งหลายเราจะเห็นได้ว่าสิ่งที่มันสกปรกนั้นก็คือจิตของเราถ้าหากว่าเราทำความถูกต้องดีแล้ว ของที่สะอาดมันก็ยังมีอยู่เหมือนพื้นศาลามันสกปรก หรืออะไรต่างๆ ที่มันได้สกปรกนั้นเมื่อมาเช็ดมาล้างสิ่งที่มันสกปรกนั้นออก ความสะอาดมันก็พ้นขึ้นมาอยู่ที่นั้น ที่ของสกปรกมันปกปิดอยู่นั่นเอง+ ความชั่วและความดีของเราทั้งหลายก็เหมือนกันฉันนั้นความชั่วทั้งหลายความดีของเราทั้งหลายก็เหมือนกันฉันนั้น +ความชั่วอยู่ตรงไหนความดีก็อยู่ตรงนั้นความผิดอยู่ตรงไหนความถูกก็อยู่ตรงนั้น ความสกปรกอยู่ที่ไหนความสะอาดก็อยู่ที่นั้นจิตใจเรานี้ก็เหมือนกันฉันนั้น

    ธรรมชาติจิตของเราจริงๆ นั้นนะ+มันเป็นจิตที่สม่ำเสมอเป็นจิตที่ไม่เศร้าหมองเป็นจิตที่ผ่องใสขาวสะอาดอยู่อย่างนั้น+ ที่เศร้าหมองนั้นเพราะมันไปพบกับอารมณ์ พบกับธรรมารมณ์ที่ไม่ชอบของเรานั่นแหละก็ทำ ใจของเราให้ขุ่นมัวทำใจของเราให้เศร้าหมอง ทำใจของเราให้ไม่สะอาด ทำใจของเราให้สกปรกนี่เพราะอะไร ไม่ใช่จิตของเรามันสกปรกเพราะจิตของเรายังไม่แน่นอนไม่เชื่อมั่นในธรรมทั้งหลายนั่นเองเมื่อประสบกับอารมณ์ที่ไม่ ่ชอบใจใจเราก็เศร้าหมองได้อารมณ์ที่ชอบใจใจเราก็ผ่องใสมันก็เป็นอย่างนั้น

    ฉะนั้นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเราท่านจึงได้ปฏิบัติไม่ให้พูดเฉยๆ ให้ปฏิบัติก็คือให้ทำความเป็นจริงเช่นว่าเราสมาทานซึ่งศีลอย่างนี้เป็นต้น+ก็ว่า ปาณา...อทินนา....กาเม....มุสา....สุรา+นี่เรียกว่าศีลแต่เป็นเพียงคำพูดถึงศีลไม่ใช่ตัวของศีลสภาวะของศีลนั้นไม่ใช่ว่าการพูดมันเป็นการกระทำจริงๆ เช่นว่าไม่ฆ่าสัตว์อย่างนี้ เราก็ไม่ฆ่าสัตว์จริงๆ ไม่กินสุราเราก็ไม่กินจริงๆ ไม่พูดโกหกเราก็ไม่โกหกจริงๆ เราไม่ขโมยของๆ คนอื่นเราก็ไม่ขโมยจริงๆ ไม่ใช่ดีแต่พูดเฉยๆ ศีลมันอยู่ที่ตรงนั้น อยู่ที่ตรงนี้ อยู่ที่ตรงการกระทำ ไม่อยู่ตรงที่คำพูด ที่พูดขึ้นเพื่อชี้ให้เห็นว่า อันนั้นเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ เมื่อเราตกลงใจว่าเป็นเช่นนั้นแล้วก็ลงมือกระทำได้เลย ลงมือปฏิบัติเลยก็จะเกิดเป็นผลขึ้นมาอันนั้นท่านเรียกว่าก้อนศีล

    ที่เราพูดตามภาษาของเรานี้มันก็ลำบากถึงวันพระไปรักษาศีลความเป็นจริงนั้นมันเป็นคำพูดที่ต่อกันมาเรื่อยๆ เป็นประเพณีเมื่อเราเพ่งความหมายแล้ว+ศีลนะเห็นว่าโง่กว่าเราเสียแล้วละมังถึงไปรักษามันศีลคงจะไม่ดีขนาดเราเราถึงไปรักษามัน+ถ้าพูดตามความเป็นจริงแล้วศีลนะไม่ต้องไปรักษาท่านหรอกท่านดีอยู่แล้วมารักษาตัวเรานี้เอง รักษากาย วา ใจ ของเรานี้ให้ดีศีลมันก็เกิดขึ้นมาเราไม่ต้องไปรักษาศีลแต่รักษาตัวเรานี้คำพูดอันนี้มันพูดสูงเกินตัวไปเสียแล้วละมังว่าเราไปรักษาศีลบางคนไม่รู้จักศีลเลยก็เข้าวัดมา+ถามไปไหนไปรักษาศีลก็คิดว่าศีลนะมันเป็นของยาก มันเป็นของลำบาก+ความเป็นจริงมันสะท้อนกลับมารและก็มารักษาตัวเรานี้เอง เมื่อรักษาตัวดีไม่มีโทษศีลก็เกิดขึ้นมาที่ตรงนั้นฉะนั้นศีลนี้ไม่อยู่กับคำพูด แต่อยู่กับการกระทำองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านสอนให้ฟังอย่างนี้ ให้ความดีเข้าไปฝังในใจถ้าความดีเข้าไปฝังในใจแล้วความทุกข์มันก็หมดไป ห่างออกไปอย่างนี้เป็นต้น.

    หลวงปู่คำสุข ญาณสุโข
    วัดป่าซับคำกอง อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์
     
  4. พระ เอกพล อาทโร

    พระ เอกพล อาทโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    186
    ค่าพลัง:
    +304
    ของใช้ทุกอย่าง มันมีคู่มือ ก็ต้องศึกษาก่อนใช้ จึงจะได้ประโยชน์สูงสุด..
    ใจก็เช่นกัน มันมีคู่มือเรียกธรรมปฏิบัติ ( คู่ใจ ) ก็ต้องศึกษาก่อนใช้ใจ จะได้ประโยชน์สูงสุด..
    ไปพระนิพพานไม่ศึกษาอริยมรรคจะไปถึงได้อย่างไร?
    ขอเชิญเพื่อนสหธรรมมิกร่วมสร้างพระมหาเจดีย์กับหลวงปู่จันทาด้วยกันนะ อนุโมทนา สาธุ...
     
  5. angeltk229

    angeltk229 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กันยายน 2008
    โพสต์:
    1,584
    ค่าพลัง:
    +6,912
    เคยมีโอกาสได้ไปกราบท่านมา 2-3 ครั้ง ท่านมีเมตตามากๆเลยค่ะ เวลาท่านเทศน์ เหมือนจี้ลงไปกลางใจ(รู้สึกอย่างนั้นจริงๆนะ) แม้บางคำจะฟังไม่รู้เรื่องแต่ทุกครั้งที่ฟังท่านเหมือนตอบข้อสงสัยและยืนยันสิ่งที่เราไม่มั่นใจ ครั้งหนึ่งที่ได้ฟังแล้วยังจำได้ท่านเทศน์ว่า"คนเราทุกคนกลัวตายกันทั้งนั้น เพราะอะไร เพราะมันเห็นว่าเป็นเรา ยึดว่าเป็นเรา ดูมันลงไปตรงๆที่กายที่ใจนี่แหละ ไม่ต้องไปสนใจอย่างอื่นให้มันมาก สนใจที่กายกับใจเอาไว้ให้มาก อย่างอื่นสนใจให้น้อย"
     
  6. อิทธิปาฏิหาริย์

    อิทธิปาฏิหาริย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    1,834
    ค่าพลัง:
    +1,472
  7. เอ๋ สระเกษ

    เอ๋ สระเกษ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +0
    อนุโมทนาด้วยคนครับ

    บ้านผมก็อยู่แถวนั้น ผมเคยไปปฏิบัติอยู่ 3 คืนก็รู้สึกว่า ที่นี่ของจริง ไม่ใช่พุทธพานิชย์ ยิ่งตอนนี้ทางวัดก็มีการบูรณะกันเยอะ ลูกศิษย์ลูกหาก็เยอะก็อยากชวนกันมาปฏิบัติกันเยอะๆนะครับ ซัก 2-3 วันก็ยังดี เราทำ เราได้ ขอให้มาด้วยใจ
     
  8. glory01

    glory01 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มกราคม 2010
    โพสต์:
    48
    ค่าพลัง:
    +50
    มีเบอร์โทรสอบถามหรือกำหนดเวลาคร่าวๆไหมครับ เพื่อถ้ามีโอกาสได้ไปจะได้ไปถูกเวลา
    จะได้ไม่รบกวนทางวัดด้วยครับ
     
  9. canopus

    canopus เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กันยายน 2009
    โพสต์:
    86
    ค่าพลัง:
    +531
    ไปมาแล้วครับ เพิ่งกลับมา
    ขอบคุณมาก ๆ กระทู้ของคุณเป็นจุดเริ่มต้น ที่ทำให้ได้รู้จักได้ยินชื่อของหลวงปู่ จนนำพาไปสู่การดั้นด้นไปกราบหลวงปู่มาในคราวนี้

    หลวงปู่มีเมตตามาก ๆ ครับ ตอนนี้ท่านอายุ 87 ปี นับว่าชราภาพมากแล้ว แต่สุขภาพยังแข็งแรง ฟันของท่านที่ถอนออกมาเป็นพระธาตุ ตรงส่วนรากฟันมีสีออกสีเขียวเหมือนหยกเลย

    หลวงปู่จะนั่งรถออกตรวจตราดูวัดและออกไปสำรวจดูการสร้างกระต๊อบที่พักภาวนาแถว ๆ บริเวณภูเขาใกล้วัดในตอนเย็นทุกวัน บางวันก็จะให้พระเณรคอยประคองเดินดูในบริเวณวัด รอบ ๆ

    วันนี้เสียงของท่านยังคงดังกังวาน แจ่มใส ชัดเจนมาก แบบไม่ต้องใช้ไมค์ ในบางโอกาศจังหวะดี ๆ ท่านจะออกมานำพระเณรสวดมนตร์เย็นนานนับชั่วโมงเลยทีเดียว

    ประวัติและเรื่องราวของท่านแทบไม่มีออกมาสู่โลก ท่านใช้ชีวิตอย่างสมถะจริง ๆ ไม่รับยศตำแหน่งใด ๆ แม้แต่ตำแหน่งเจ้าอาวาสก็ให้ลูกศิษย์รับเป็นแทน

    ผมเห็นภาพถ่ายกุฏิหลังเก่าของหลวงปู่ แทบไม่น่าเชื่อเลยว่า หลวงปู่ผู้ชราภาพอายุพรรษามากขนาดนี้ เป็นศิษย์ระดับอาวุโสของหลวงปู่ขาว อนาลโย ร่วมรุ่นเป็นสหธรรมมิกกับหลวงปู่จันทรา ถาวโร หลวงปู่บุญเพ็ง เขมาภิรโต หลวงปู่บุญพิณ กตปุญโญ แต่ท่านยังคงพักอยู่เพียงกุฏหลังเล็กๆ ที่ปิดหุ้มสังกะสี มุกด้วยจากเท่านั้น เพิ่งจะเปลี่ยนเป็นกุฏิหลังใหม่ในปัจจุบันเมื่อไม่นานนี้เอง หลังจากที่่ท่านเิริ่มเป็นที่รู้่จักแล้ว

    รู้สึกปลื้มปีติใจมาก ๆ ที่อย่างน้อยครั้งหนึ่งก็ยังพอมีบุญได้กราบพระอริยเจ้า ก่อนที่ท่านจะสิ้นไป

    หากใครมีเวลาโอกาศอำนวยก็น่าลองหาโอกาศไปกราบท่านซักครั้งนะครับ ไม่ไกลจาก กทม.มากเกินไปนัก นั่งรถ 4-5 ชม.เอง ไม่ยากเลยสำหรับคนที่มีรถส่วนตัว

    แต่หากใครที่ไม่มีรถส่วนตัว แต่มีศรัทธาอยากไปกราบหรือพักภาวนากับหลวงปู่ ก็ส่งข้อความมาสอบถามถึงวิธีการเดินทางได้ครับ ยินดีแนะนำให้

    เพราะผมเองก็นั่งรถทัวร์ไป งมทางไปตามชื่อที่อยู่ที่เจ้าของกระทู้โพสไว้นี้ ต้องต่อรถ โบกรถ กว่าจะถึงวัดก็แทบแย่เหมือนกัน ดังนั้นไม่ยากแล้วสำหรับการเดินทางคราวต่อไป คิดว่าพอแนะนำได้บ้าง

    ถ้าไปถือศีล 8 นุ่งขาวห่มขาวอยู่วัดท่านซัก 3 วัน 5 วันได้ก็จะดีมาก ๆ เลย แต่วัดของท่านเคร่งครัดในระเบียบข้อวัตรตามแนวทางของวัดป่าสายหลวงปู่มั่นนะครับ ควรต้องสำรวมระวังให้ดี ๆ อย่างเรื่องอาหารการกินก็ให้จบแค่มื้อเดียวเท่านั้น ห้ามเก็บตุนอาหารไว้ทานอีก พวกนมกล่องอะไรก็ตาม แม้จะเก็บไว้ทานก่อนเที่ยงก็ไม่ได้ ผมเองโดนพระท่านเตือนมาแล้วเพราะความไม่รู้ และสำคัญคิดว่าสามารถจะตุนไว้ทานเมื่อไรก็ได้ถ้าก่อนเที่ยง แต่ที่นี่ไม่ได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 ธันวาคม 2010
  10. ป่ากุง

    ป่ากุง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2010
    โพสต์:
    416
    ค่าพลัง:
    +784
    สาธุๆๆ เมื่อใดที่เดินทางตามอริยมรรค 8 โลกย่อมไม่เว้นว่างจากพระอรหันต์หนอ...กราบองค์ พระพุทธ พระธรรม พระอิยสงฆ์ด้วยเศียรเกล้า ขอยึดเป็นสรณะอันประเสริฐจนกว่าข้าน้อยเข้าสู่อนุปาทิเสสนิพพานเทอญ.............
     
  11. อัสติสะ

    อัสติสะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    184
    ค่าพลัง:
    +392
    หลวงปู่ท่านละสังขารแล้ว วันที่ 27 ตุลาคม 2554
    มีพิธีพระราชทานเพลิงไปเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2554 ครับ

    ขอแจ้งปรับปรุงข้อมูล
     

แชร์หน้านี้

Loading...