ฉันไม่รู้จะตั้งชื่ออะไรดี ช่วยอ่านทีค่ะ

สวัสดีค่ะ
ฉันสามารถมองเห็ญวิญญาณได้ตั้งแต่เล็ก ๆตอนฉันไม่กี่ขวบ
พอฉันโตมาเวลาบอกแม่ แม่ก็ว่า ฉันเพ้อเจ้า แต่ตอนนี้ไม่แล้ว
เพราะว่ามันเป็นความจริง ฉันมีเซ้นที่สามารถรับรู้ถึงความรู้สึกของคนอื่นและคนใกล้ตัวได้ ทุกสิ่งทุกอย่างที่ฉันมีมา...
ทำให้ฉันได้รู้ว่า มนุษย์นั้น น่ารังเกียจเหนือกว่าสิ่งอื่นได
มนุษย์ในความคิดของพวกคุณคือสัตว์ประเสริฐจริงหรือ
มนุษย์ฆ่ากันเอง
มนุษย์เก่งแย่งชิงดีชิงเด่น
มนุษย์สวมหน้ากากเข้าหากันไม่มีความจริงใจต่อกัน
พูดโกหก
บางครั้งฆ่าได้แม้แต่ผู้ให้กำเนิดหรือผู้มีพระคุณของตนเอง
ฆ่าได้แม้แต่ลูกของตน
ทิ้งได้แม้แต่ลูกของตน

ทุกๆวันนี้เวลาที่อยู่ในห้องเรียนหรือสังคม
พูดได้เลยว่าไม่ใชมีใครที่เป็นเพื่อนแท้หรือจริงใจต่อกันเลย....

ฉันเคยคิดว่า ถ้าพลังของฉันมันเหนือกว่ามนุษย์ฉันก็ขอยึดตัวเองว่า
ไม่ใช่มนุษย์ดีกว่า

ครั้งนึงหากเราบอกเราเตือนเรื่องการถึงจุดวิบัติของโลกให้แก่พวกเขาด้วยความหวังดี
หากมันไม่เกินขึ้นเขาก็มาด่าว่าพวกเรา
เขาเองก็น่าจะรู้ว่าอนาคตเปลี่ยนแปลงได้ตลอด

ในอดีตกาล ฝรั่งเศษ อังกฤษ
ผู้ที่มีผลังพวกนี้เหนือกว่าคนทั่วไปจะถูกจัดว่าเป็นแม่มด พ่อมด ทั้งสิ้น
หากมีคนตายปริศนา
หรือการทำนายดวงชะตา โลก หรือมนุษย์ผิดพลาด คนพวกนี้ต้องรับผิดชอบโดยการเผาทั้งเป็น ไม่ว่าจะแม่มดขาว หรือ แม่มดดำก็ตาม

ร่างทรงเขาเคยบอกฉันว่า อดีตชาติ ฉันเคยตายอย่างทุกทรมาณ
และผู้มีพลังจิตบางอย่าง บอกฉันว่า ฉันมีพระแม่มาลีคอยช่วยเหลืออยู่
สันนิฐานได้ ว่า ชาติก่อน ฉันเคยเป็นคนนับถือศาสนาคริสต์
เขาบอกฉันอีกว่า พลังของฉันมีมาแต่อดีตชาติ

ฉันชอบคิดเอาเรื่องราวมาประติดประต่อเสมอว่า อดีตชาตินั้น ฉันอาจจะเป็นพวกแม่มดขาว

และฉันก็คิดมาตลอดว่า มนุษย์มีค่าอะไร ให้ผู้มีสิ่งที่เหนือกว่าอย่างพวกเราปกป้องพวกมนุษย์ ยามชีวิตพวกมนุษย์นั้นใกล้จะถึงจุดจบหรือความหายนะ เขาจะตะเกียกตะกากหาทางให้พวกเรา หรือทุกสิ่งทุกอย่างที่ช่วยพวกเขาได้ เขาจะวิงวอน หรือขอร้อง แต่พอพวกเราช่วยพวกเขาแล้ว
บางครั้ง....
เขาไม่ใยดีพวกเราเลย เพราะอะไร
ฉันเหมือนปีศาจหรือ...
ฉันก็มีจิตใจนะ.........

คุณช่วยบอกทีได้ไหมว่ามนุษย์มีค่าอะไรให้ พวกเรา ปกป้อง ????

 

วะว้าวๆๆๆ สมาชิกใหม่หรอครับ
อืมมแล้วเอาอะไรเป็นเกณท์มาวัดค่า ว่ามนุษย์คนนั้นคนนี้มีค่าควรปกป้องอะครับ วัดค่าของมนุษย์จากไรหรอ จาก ความรวย ? หน้าตาดี ? นิสัยดี ? ความฉลาด ?

 

ออกแนว...

 

เวลา เราให้สิ่งใดที่เราเห็นว่าดี โดยอาศัยเพราะเขาอยาก หรือ กำลังร้องขอ

เมื่อให้สิ่งนั้นไปแล้ว แล้วเขาไม่ใยดี ก็แปลว่า เราลืมดูบางอย่างไป

คือ ลืมดูคุณค่าของสิ่งที่ให้ ว่ามันเที่ยงแท้ ดีจริงไหม

มันเป็น ธรรมดาอยู่เองหาก เราให้ของนั้นไป หากมันไม่เที่ยง ไม่จริง
รักษาให้คงทนตลอดกาลไม่ได้ ใช้แล้วก็หมดไป เขาย่อมมองเห็นได้ว่า

สิ่งที่เราให้ไปนั้น ไม่จริงพอ ไม่ดีพอ

เมื่อเราไม่สามารถให้ของที่จริง ของที่ดีพอ มันก็ไม่แปลก ที่เขาจะไม่
ใยดีต่อผู้ให้

ดังนั้น เราต้องมองใหม่ มองให้ดีๆ ก่อนให้สิ่งนั้นๆไป ว่า เขาขอ
สิ่งที่เราสามารถประกอบให้เกิดความจริงแท้ ไม่เสื่อม เป็นสมบัติติด
ตัวเขาได้จริงตลอดกาลหรือไม่ หากเรา ประกอบสิ่งที่ให้นั้นได้ จึง
ค่อยให้ ต้องเลือกเฝ้นสิ่งที่ให้ ต้องพิจารณาสิ่งที่เขาขอ

เมื่อเขาขอสิ่งที่เป็นจริงได้ เราก็ค่อยๆประกอบ แล้วให้เขาไป หาก
ให้เขาไม่ได้เพราะเขาอยู่ในฐานไม่พร้อม ก็ให้ ประกอบที่ตน เป็น
ตัวอย่างไว้ก่อน

พอเขาหันมาเห็น เขารู้ว่า เอ้ยสิ่งที่เราประกอบอยู่นั่นดี เขาก็จะเข้า
มาขออีกที

ยกตัวอย่างเช่น

มีคนร้องว่า หนูไม่อยากทำบาป แบบนี้เราก็ให้เลย ให้ ศีล

ศีลนี่เมื่อเขารับไปแล้ว แน่นอนเลยว่า ไม่เสื่อม ไม่หาย ย่อมมีเป็นสมบัติ
ติดตัวไปได้เสมอ ไม่จำกัดกาล เป็นต้น

ที่เหลือ ไปลองค้นคว้าเอา ว่าในโลกนี้ มีสิ่งใดที่ดี ที่เลิศ ที่จริงแท้
ไม่เสื่อม อีกบ้าง แล้วลองนำมาปฏิบัติเป็นตัวอย่างให้ผู้อื่นเขาค่อยๆ
แลเห็น แล้วค่อยขอจากเราอีกที

 

ร่างทรงแถวไหน ทำไมเชื่อคนง่ายจัง

 

คุณคงเป็นนางฟ้า...

ขอประทานอภัยนะครับ... แบบว่า ขี้ยังเหม็นอยู่ป่าว ถ้าไม่เหม็นแสดงว่า นางฟ้าชัวร์



ตั้งชื่อกระทู้ว่า "ดิฉันไม่ใช่คน" สิจ๊ะ ดูเร้าใจ น่าสนใจ ชวนแปลกใจดี


ทำใจให้สบายๆนะ โลกมนุษย์ มันก็อย่างนี้แหละ เพิ่งมาไม่นานล่ะสิ
อยู่ๆไปเดี๋ยวก็ชินน่า

ถ้าโลกมนุษย์และหรือมนุษย์ มันไม่มีอะไรดีเอาซะเลย นางฟ้าก็คงไม่มาที่นี่หรอก

แบบว่า อย่าหาว่าสอนนางฟ้าเลยนะ... ยังไงเราก็คงอยู่บนโลกมาก่อนนางฟ้า
บนโลกมันเป็นโลกของความสมดุลย์ มันจึงต้องเป็นคู่ เป็นสองฝั่ง ดีและชั่ว ขาวและดำ สูงและต่ำ ควรและมิควร

ถ้านางฟ้ารู้สึกเหมือนอยู่ในที่มืดมัว แสงสว่างจะเป็นสิ่งที่ต้องใจนางฟ้ามากๆ
ถ้านางฟ้ารุ้สึกว่ามันสว่างมากเกินไป มุมเล็กๆที่ให้ร่มเงาพักพิงก็แสนล้ำค่า

นางฟ้าก็เรียนรู้สิ่งต่างๆไปเรื่อยๆ เพื่อหาสมดุลย์ของชีวิต
ไม่ยากหรอก ต้องอดทนหน่อยนะจ๊ะ

สู้ต่อไปนะจ๊ะนางฟ้า...

 

ขอเสนอไอเดีย ส่วนตัวนะคะ คุณ อาคาเดเมีย ถ้าคุณมีพลังวิเศษติดตัวมา คุณต้องปล่อยวางค่ะ เพราะในสังคมปัจจุบัน คนต่างจิตต่างใจ ต่างชั่วต่างดี การจะคุยกับคนต้องคุยให้ถูกกลุ่ม เกมว่าคุณน่าจะลองหันมาปฎิบัติธรรม และกรรมฐานอย่างจริงจังจะดีมาก เพราะคุณจะไปเร็ว อีกอย่าง เท่าที่อ่านที่คุณเขียน ดูคุณจริงจังเกินไป ในความหวังดี พอผลออกมาเป็นแบบลบ มันก็กระทบจิตใจ ทำให้ความรู้สึกคุณติดลบมากกว่า ปล่อยวางค่ะ postive thinking จะดีกว่า มนุษย์ติดกรรม และกรรมกำลังตามติด

 

ถูกต้องนะครับ เรารู้จักคนแบบนี้เยอะส่วนมากจะโอดครวญทุกคนนะมันเป็นกรรม
มันไม่ปกติสุข คนพวกนี้ส่วนมากมัก เปิดแผงเช่าพระ หรือรับเลี่ยมกรอบ
เพราะเวลานำพวกพรายวาวางขาย ต้องคุมได้คือว่าต้องเห็น ไม่งั้นเสร็จพราย

 

ธรรมดาของโลก......
ผู้เห็นธรรมย่อมไม่หวั่นไหวในโลกธรรม๘

 

ขออนุญาตครับ
บางส่วนจาก
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๓ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๕
อังคุตตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต

ดูกรภิกษุทั้งหลาย มนุษย์ชาวชมพูทวีป ประเสริฐกว่าพวกมนุษย์ชาว
อุตรกุรุทวีปและเทวดาชั้นดาวดึงส์ ด้วยฐานะ ๓ ประการ ๓ ประการเป็นไฉน
คือเป็นผู้กล้า ๑ เป็นผู้มีสติ ๑ เป็นผู้อยู่ประพฤติพรหมจรรย์อันเยี่ยม ๑ ดูกร
ภิกษุทั้งหลาย มนุษย์ชาวชมพูทวีปประเสริฐกว่าพวกมนุษย์ชาวอุตรกุรุทวีปและพวกเทวดาชั้นดาวดึงส์ ด้วยฐานะ ๓ ประการนี้แล ฯ

�����ûԮ�������� �� - ����ص�ѹ��Ԯ�������� ��

บางส่วนจาก
อรรถกถา อังคุตตรนิกาย นวกนิบาต ปัณณาสก์ สัตตาวาสวรรคที่ ๓
๑. ฐานสูตร

--- บทว่า สติมนฺโต ความว่า ก็พวกเทวดาย่อมมีสติไม่แน่นอน เพราะมีความสุขโดยส่วนเดียว. พวกสัตว์นรกก็ไม่แน่นอน เพราะมีความทุกข์โดยส่วนเดียว. ส่วนคนเหล่านี้ชื่อว่ามีสติมั่นคง เพราะมีทั้งสุขทั้งทุกข์ปนกันแล้ว.

��ö��� �ѧ�ص�ùԡ�� �ǡ�Ժҵ �ѳ��ʡ� �ѵ�������ä��� � �. �ҹ�ٵ� ˹�ҵ�ҧ��� � �� �

ขออนุญาตครับ
บางส่วนจาก
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๖ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๘
สังยุตตนิกาย นิทานวรรค

๕. ปิตุสูตร
[๔๕๑] พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของท่านอนาถ-
*บิณฑิกเศรษฐี เขตพระนครสาวัตถี ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระภาคตรัสเรียกภิกษุ
ทั้งหลาย ... แล้วได้ตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย สงสารนี้กำหนดที่สุดเบื้องต้น
เบื้องปลายไม่ได้ ฯลฯ สัตว์ที่ไม่เคยเป็นบิดา โดยกาลนานนี้ มิใช่หาได้ง่ายเลย
ดังนี้ ฯ
จบสูตรที่ ๕
๖. ภาตุสูตร
[๔๕๒] พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของท่านอนาถ-
*บิณฑิกเศรษฐี เขตพระนครสาวัตถี ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระภาคตรัสเรียกภิกษุ
ทั้งหลาย ... แล้วได้ตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย สงสารนี้กำหนดที่สุดเบื้องต้น
เบื้องปลายไม่ได้ ฯลฯ สัตว์ที่ไม่เคยเป็นพี่ชายน้องชาย โดยกาลนานนี้ มิใช่หา
ได้ง่ายเลย ดังนี้ ฯ
จบสูตรที่ ๖
๗. ภคินีสูตร
[๔๕๓] พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของท่านอนาถ
บิณฑิกเศรษฐี เขตพระนครสาวัตถี ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระภาคตรัสเรียกภิกษุ
ทั้งหลาย ... แล้วได้ตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย สงสารนี้กำหนดที่สุดเบื้องต้นเบื้อง
ปลายไม่ได้ ฯลฯ สัตว์ที่ไม่เคยเป็นพี่หญิงน้องหญิง โดยกาลนานนี้ มิใช่หาได้
ง่ายเลย ดังนี้ ฯ
จบสูตรที่ ๗
๘. ปุตตสูตร
[๔๕๔] พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของท่านอนาถ-
*บิณฑิกเศรษฐี เขตพระนครสาวัตถี ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระภาคตรัสเรียกภิกษุ
ทั้งหลาย ... แล้วได้ตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย สงสารนี้กำหนดที่สุดเบื้องต้น
เบื้องปลายไม่ได้ ฯลฯ สัตว์ที่ไม่เคยเป็นบุตร โดยกาลนานนี้ มิใช่หาได้ง่ายเลย
ดังนี้ ฯ
จบสูตรที่ ๘
๙. ธีตุสูตร
[๔๕๕] พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของท่านอนาถ-
*บิณฑิกเศรษฐี เขตพระนครสาวัตถี ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระภาคตรัสเรียกภิกษุ
ทั้งหลาย ... แล้วได้ตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย สงสารนี้กำหนดที่สุดเบื้องต้น
เบื้องปลายไม่ได้ เมื่อเหล่าสัตว์ผู้มีอวิชชาเป็นที่กางกั้น มีตัณหาเป็นเครื่องประกอบ
ไว้ ท่องเที่ยวไปมาอยู่ ที่สุดเบื้องต้นย่อมไม่ปรากฏ สัตว์ที่ไม่เคยเป็นธิดาโดย
กาลนานนี้ มิใช่หาได้ง่ายเลย ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะว่าสงสารนี้กำหนดที่สุด
เบื้องต้นเบื้องปลายไม่ได้ เมื่อเหล่าสัตว์ผู้มีอวิชชาเป็นที่กางกั้น มีตัณหาเป็นเครื่อง
ประกอบไว้ ท่องเที่ยวไปมาอยู่ ที่สุดเบื้องต้นย่อมไม่ปรากฏ ภิกษุทั้งหลาย
พวกเธอได้เสวยทุกข์ ความเผ็ดร้อน ความพินาศ ได้เพิ่มพูนปฐพีที่เป็นป่าช้า
ตลอดกาลนาน ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็เหตุเพียงเท่านี้ พอทีเดียวเพื่อจะเบื่อหน่าย
ในสังขารทั้งปวง พอเพื่อจะคลายกำหนัด พอเพื่อจะหลุดพ้น ดังนี้ ฯ
จบสูตรที่ ๙

�����ûԮ�������� �� - ����ص�ѹ��Ԯ�������� �

 

อ่านแล้วไม่เชื่ออ่ะ --'

คนที่มี sense คนที่มองเห็นวิญญาณได้ แต่ยังไปให้ผู้มีพลังจิตดูอดีตชาติให้(และยังยึดติดกับอดีตชาติอยู่)

เรามองไม่เห็นเลยว่า.. คุณจะวิเศษกว่ามนุษย์เลวๆคนหนึ่ง ตรงไหน?? ><

 

เหยดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

 

^___________^

เพราะคนเป็นสิ่งไม่สมบูรณ์

อย่าลืมสิครับ เราทุกคนล้วนเคยเป็นเด็กเกียจคร้านกันมาก่อนทั้งนั้น

 

ถ้าคุณคิดว่าคุณทำดีแล้ว จะไปหวังอารายกะคนอื่น เขาจะคิดยังไงก็ช่างเขา
คุณน่าจะฝึกตัวและหัดปล่อยวางบ้าง หากคุณรังเกียจมนุษย์ คุณก็เกียจตัวเองสิ
เพราะคุณก็ยังอาศัยร่างอันเน่าเหม็นอยู่เหมือนมนุษย์ทั่วไป
คนเราทำดีก็ไม่ควรหวังสิ่งตอบแทน แต่ถ้าคุณยังหวังอะไรจากคนอื่น
คุณก็คือมนุษย์ธรรมดานี่เอง จิตใจคุณก็ไม่ต่างจากคนอื่น เมื่อไม่ได้สิ่งที่หวัง
คุณก็พาลรังเกียจคนอื่น ถ้าเป็นแบบนี้ มนุษย์ทั่วไปก็คือกระจกสะท้อนตัวคุณนี่เอง

 

เรื่องคำทำนายรึคำเตือนต่างๆแบบลางบอกเหตุ คนที่เค้ารู้เค้าก็เตือนด้วยความหวังดี
มันก็เป็นการเตือนเราให้ไม่ประมาทในการดำเนินชีวิตนิค่ะ
การจะทำอะไรสักอย่างเราต้องรับได้ทั้งผลตอบกลับที่บวกและลบ
แต่ถ้าเรารู้ว่าเราทำด้วยความหวังดี เราก็ไม่เห็นต้องเก็บมาคิดเลยนิค่ะ

 

มนุษย์ ต่างกับ คน นะท่าน .....

 

อนุโมทนาสาธุกับพลังที่คุณมีติดตัวมา หากฉันมีพลังเหมือนคุณฉันจะให้ ให้ ให้ ช่วย ช่วย ช่วย ฉันจะไม่สนใจว่าเขาจะให้อะไรตอบกลับ ยังมีมนุษย์อีกมากมายที่ต้องการความช่วยเหลือ ทั้งทางร่างกายและจิตใจ ทั้งทางโลกและทางธรรม มนุษย์จะเป็นสัตว์ประเสิรฐหรือไม่ประเสริฐ มนุษย์ก็ยังเป็นสัตว์โลกที่น่าสงสารอยู่ดี รวมทั้งตัวคุณและตัวฉันด้วย ใช้พลังของคุณให้เป็นประโยชน์กับสัตว์โลกสิคะ อนุโมทนาสาธุอีกครั้งค่ะ

 

แล้วไม่เคยเจอมนุษย์ดีๆบ้างหรือครับ
ก่อนอื่น มนุษย์นั้นเป็นสัตว์จริงๆครับ ที่จริงเป็นได้ทุกอย่าง ทั้งเดรัชฉาน สัตว์นรก เปรต อสูรกาย
มนุษย์ฆ่ากันเอง
มนุษย์เก่งแย่งชิงดีชิงเด่น
มนุษย์สวมหน้ากากเข้าหากันไม่มีความจริงใจต่อกัน
พูดโกหก
บางครั้งฆ่าได้แม้แต่ผู้ให้กำเนิดหรือผู้มีพระคุณของตนเอง
ฆ่าได้แม้แต่ลูกของตน
ทิ้งได้แม้แต่ลูกของตน พวกนี้เรียกว่ามนุษย์เสมอด้วยสัตว์ ไม่มีคำว่าประเสริฐต่อท้าย

มนุษย์เป็นสัตว์ที่ฝึกได้ และต้องฝึกครับ

มนุษย์ที่ฝึกตนดีแล้วเท่านั้นถึงจะเรียกว่าสัตว์ประเสริฐ

ถ้าเราจะเรียกตนเองว่าเหนือมนุษย์ เพราะความสามารถพิเศษที่มีก็บอกเลยว่ายังเรียกว่าเหนือมนุษย์ไม่ได้ เพราะในสมัยพุทธกาล มีมนุษย์ที่ทำได้มากกว่าคุณหลายเท่า เรียกว่าอภิญญา แต่ตอนนี้หลายคนอยู่ในอเวจีมหานรก เรียกว่าเป็นสัตว์นรก

มนุษย์มีค่าอะไรให้คุณปกป้อง
ต้องถามกลับว่า ถ้าคุณคิดว่าตนเองเหนือมนุษย์ดีกว่ามนุษย์แล้ว คุณมีจิตใจที่มีเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขาที่เหนือมนุษย์กว่าด้วยหรือไม่

หากคุณมีพรมสีเหนือกว่ามนุษย์ มนุษย์ก็มีค่าให้คุณปกป้อง และก็เรียกได้ว่าคุณเหนือกว่ามนุษย์ คือเป็นมนุษย์ที่มีจิตใจเสมอด้วยเทวดา พระพรม..

แต่หากคุณไม่มีพรมวิหาร คุณก็ไม่ต่างอะไรกับมนุษย์ที่มีใจเสมอด้วยสัตว์ทั่วๆไป

 

คุณเจ้าของกระทู้ คุณมีเพื่อนหรือเปล่าครับ หรือถามง่ายๆ มีคนคบหรือเปล่า คุณอาจมีอัตตามากเกินไปจนไม่มีใครคบก็ได้ แล้วก็เลยมารังเกียจมนุษย์ แล้วคุณเกิดมาจากอะไรเหรอครับ ก็คุณพ่อคุณแม่ ซึ่งก็เป็นมนุษย์ ไม่ใช่เหรอครับ

 

ความไม่รู้.....................