คนบ้ากามครับ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย wechza, 4 มกราคม 2012.

  1. คนไม่รุ้

    คนไม่รุ้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    175
    ค่าพลัง:
    +116
    [SIZE="20:boo:"]อ้าว เหมือนผมเลยอ่ะ[/SIZE]
     
  2. wechza

    wechza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    181
    ค่าพลัง:
    +246
    ขอบคุณทุกกระทู้มากครับที่เข้ามาตอบและให้กำลังใจมีประโยชน์กับผมมากครับ
     
  3. wechza

    wechza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    181
    ค่าพลัง:
    +246
    อ่านแล้วโดนใจมากครับขอบคุณครับ
     
  4. wechza

    wechza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    181
    ค่าพลัง:
    +246
    นี่ก็โดนใจครับ
     
  5. blackangel

    blackangel เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    1,751
    ค่าพลัง:
    +1,919
    "ดูกรภิกษุทั้งหลาย อายตนะภายในหกคือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจ อายตนะภายนอกหก คือ รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะและธัมมารมณ์ เป็นของร้อน ร้อนเพราะไฟ คือ ราคะบ้าง โทสะบ้าง โมหะบ้าง ภิกษุทั้งหลาย เราตถาคตไม่พิจารณาเห็นรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะใดๆ ที่จะครอบงำรัดตรึงใจของบุรุษได้มากเท่ารูป เสียง กลิ่น รส และโผฏฐัพพะแห่งสตรี ภิกษุทั้งหลาย เราไม่พิจารณาเห็นรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะใดๆ ที่สามารถครอบงำรัดตรึงใจของสตรี ได้มากเท่ารูปเสียง กลิ่น รส และ โผฏฐัพพะแห่งบุรุษ"

    "ดูกรภิกษุทั้งหลาย กามคุณนี้เรากล่าวว่าเป็นเหยื่อแห่งมารเป็นพวงดอกไม้แห่งมาร เป็นกำลังพลแห่งมาร ภิกษุผู้ปรารถนาจะประหารมาร พึงสลัดเหยื่อแห่งมาร ขยี้พวงดอกไม้แห่งมารและทำลายกำลังพลแห่งมารเสีย ภิกษุทั้งหลาย เราเคยเยาะเย้ยกามคุณ ณ โพธิมณฑลในวันที่เราตรัสรู้นั้นเองว่า ดูก่อนกาม เราได้เห็นต้นเค้าของเจ้าแล้ว เจ้าเกิดความดำริคำนึงถึงนั้นเอง เราจักไม่ดำริถึงเจ้าอีก ด้วยประการฉะนี้ กามเอ๋ย เจ้าจะเกิดขึ้นอีกไม่ได้"

    "ดูกรภิกษุทั้งหลาย จิตนี้เป็นสิ่งที่ดิ้นรนกวัดแกว่ง รักษายาก ห้ามได้ยาก ผู้มีปัญญาพึงพยายามทำจิตนี้ให้หายดิ้นรน ให้เป็นจิตตรงเหมือนช่างศรดัดลูกศรให้ตรงฉะนั้น ภิกษุทั้งหลาย จิตนี้คอยแต่จะกลิ้งเกลือกลงไปคลุกเคล้ากับกามคุณ เหมือนปลาซึ่งเกิดในน้ำถูกนายพรานเบ็ดยกขึ้นจากน้ำแล้ว คอยแต่จะดิ้นรนไปในน้ำอยู่เสมอ ผู้มีปัญญาพึงพยายามยกจิตขึ้นจากการอาลัยในกามคุณให้ละบ่วงมารเสีย"

    "ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรมชาติของจิตเป็นสิ่งดิ้นรนกลับกลอกง่าย บางคราวปรากฏเหมือนช้างตกมัน ภิกษุทั้งหลาย พวกเธอจงเอาสติเป็นขอสำหรับเหนี่ยวรั้งช้าง คือจิตที่ดิ้นรนนี้ให้อยู่ในอำนาจ บุคคลผู้มีอำนาจมากที่สุดและควรแก่การสรรเสริญนั้น คือผู้ที่สามารถเอาตนของตนเองไว้ในอำนาจได้ สามารถชนะตนเองได้ ผู้ชนะตนได้ชื่อว่าเป็นยอดนักรบในสงคราม เธอทั้งหลายจงเป็นยอดนักรบในสงครามเถิด อย่าเป็นผู้แพ้เลย"
     
  6. wechza

    wechza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    181
    ค่าพลัง:
    +246
    กำลังพยายามอยู่ครับ ลบทิ้งหมดละในคอม จะไม่ดู พยายามไม่คุยเรื่องกาม จะตั้งสติ ครับ ขอบคุณมากครับ กามเป็นเหตุแห่งทุกข์ทั้งมวล
     
  7. (JD)

    (JD) เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 เมษายน 2007
    โพสต์:
    92
    ค่าพลัง:
    +270
    กามเป็นเหตุแห่งทุกข์ทั้งมวล จริง ๆ ด้วยครับ
    ผมก็ยังทุกข์ทั้งมวลอยู่เหมือนกัน ละยาก แต่ลดได้ หนังโป๊ไม่ดี หนังผีดีกว่าครับ
     
  8. คุรุวาโร

    คุรุวาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    3,465
    ค่าพลัง:
    +13,430
    การละกามดีที่สุด ก็คือ "ใจ" ของเรานั่นเองแหละครับ

    ลองเจริญกรรมฐานดูครับ ถ้าคุณเข้าปฐมฌานได้ ซึ่งมันจะมี "สุข" เกิดขึ้นครับ "สุข" ของปฐมฌานนั่น ลองเทียบดูกับสุข ทางกามอารมณ์ดูครับ ว่าคุณจะเลือกทางเดินทางไหนครับ

    ส่วนทางกายนั้น ผมใช้วิธีดื่มน้ำเข้าไปมากๆเข้าไว้ครับ สารเคมีที่ร่างกายหลั่งออกมาก็จะไหลออกมาด้วยครับ ทำให้ไม่รู้สึกทางกายหรือไม่ก็รู้สึกน้อยลงครับ และที่สำคัญที่สุด คือ อารมณ์ของตัวเราเอง อย่าระบายอารมณ์หรือชดเชยความรู้สึกที่ไม่ดี หรือดี ด้วย กามอารมณ์ครับ เพราะบางคนเมื่อรู้สึกถูกกดดันจากการเรียน กิจการงานต่างๆ ไม่เป็นไปตามที่คาดหวังก็ชดเชยด้วยกามอารมณ์ ซึ่งในโลกภายนอกนั้นจะเห็นว่า พวกผับ บาร์ เบียร์ต่างๆ ยังมีคนเข้าไปใช้กันอย่างหนาแน่นครับ

    ถ้าไม่ไหวจริงๆ และคิดว่า จะเจริญทางนี้ ผัก ผลไม้บางอย่างสามารถลดความกำหนัดลงได้ครับ เช่น เชื่อกันว่า วัดนั้นปลูกต้นลีลาวดีไว้มากๆ เพื่อจะให้กลิ่นของดอกไม้นั้นลดความกำหนัดของพระ เณรในวัดนั้นได้ น้ำปานะบางอย่างก็ช่วยลดความรู้สึกเรื่องนี้ได้เหมือนกันครับ


    ขอให้เจริญในธรรม


    ขอให้เจริญในธรรม
     
  9. boatsa2538

    boatsa2538 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    55
    ค่าพลัง:
    +90
    ถ้าพูดถึงอาหารการกิน
    ให้งดของที่มีกลิ่นฉุนๆ เช่น กระเทียม เป็นต้น
    ผักบางอย่างก็ลดเรื่องการสร้างฮอร์โมนไม่ให้มากเกินไปเช่น ลูกฟัก .
    ต้องพิจารณาดีๆในทุกๆเรื่องแหละผู้ปฏิบัติ .
     
  10. bambamm

    bambamm เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    121
    ค่าพลัง:
    +134
    ลอกหนังพวกเธอออกซะให้เป็นหนังแดง ๆคิดว่า ถ้าไม่มีหนังที่ห่อหุ้มร่างจะทำให้เราเกิด

    อารมณ์ได้อีกหรือเปล่า ไม่ก็คิดว่าปากเธออยู่บนหน้าผากซะ กับหนังแดง ๆทั้งตัว

    ...ถ้าไม่หายให้เปิดกูเกิ้ล ดูรูปอุจาระ พร้อมกับนึกกลิ่นขี้นมา จนใกล้คลื่นไส้ ... บิ้วภาพเข้า


     
  11. paramount

    paramount สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    79
    ค่าพลัง:
    +5
    พยายามดูมิยาบิ บ่อยๆ แล้วปลงให้ได้ หนามยอกเอาหนามบ่ง แล้ว็พยายามดูนักเรียนให้มากแล้วปลงให้ได หนังโป้คือหนังปลงอสุภะที่ดีเลิศที่สุด
     
  12. paramount

    paramount สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    79
    ค่าพลัง:
    +5
    ดูจนเกิดอารมภ์ว่า เฮ้ยมันทำอะไรนะเนี่ย
    1.น่ารักอ่ะ
    2.เป็นสิ่งน่าขยะแขยง
    และทางที่ดี ผมคิดว่า
    ท่านเป็น โรคฮีสทีรู (ขาดประตูเข้าไม่ได้)
    ต้องมีเมียครับ เอาแบบแรงๆด้วย จึงจะอยู่ โดยเฉพาะผู้หญิงใส่แว่น เวลาท่านเห็นเธอเงียบตอนที่คนอื่นเขากระดี้กระด้า คนนั้นนะครับแรงสุด
     
  13. จอมพล GAY

    จอมพล GAY เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    244
    ค่าพลัง:
    +219
    ทางสายกลางครับ.. ถ้าไม่เดือดร้อนใคร ช่วยให้อารมณ์เราแช่มชื่นก็ทำไปเหอะ ไปข่มมันไว้หงุดหงิดเปล่าๆ
     
  14. AF11

    AF11 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    80
    ค่าพลัง:
    +31
    สักพักมันก็เบื่อไปเองแหละ อย่าไปสนใจมันมาก

    แล้วก็อย่าทำให้ตัวเอง และผู้อื่นเดือดร้อนเป็นพอ
     
  15. วัตรธรรม

    วัตรธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    364
    ค่าพลัง:
    +448
    จากประสบการณ์นะครับ ลองสวดพระคาถามหาจักรพรรดิ ลองดูนะครับ
    ภาวนาไปเรื่อยๆ นึกขึ้นเมื่อไรก็สวด สวดได้ตลอดเวลา
    ไม่มีกาลเวลาและสถานที่ครับได้ทุกเมื่อ
    ลองดูครับเห็นผลแน่นอนครับ...............สาธุ
     
  16. Khuntee

    Khuntee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    75
    ค่าพลัง:
    +878
    ไม่เป็นไรหรอกครับ เป็นเรื่องปกติของคน ค่อยๆฝึกหัดวาง ผมเชื่อว่าคุณทำได้ครับ
    ตอนนี้อย่าไปฝืนสู้มัน ค่อยๆ มั่นดูจิต และยับยั้ง สักพักมันก็จะเบาลง
    ขอให้โชคดีครับ
     
  17. ไมยราพ

    ไมยราพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2009
    โพสต์:
    495
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +201
    ลองเข้าไปศึกษา "วังคีสสังยุตต์" ดูครับ เป็นเรื่องราวของพระวังคีสะ
    สมัยตอนที่เป็นพระบวชใหม่ในสำนักของพระพุทธเจ้า แล้วเกิดวิตกใคร่กำหนัด

    จะเห็นอุบายวิธีของท่านพระวังคีสะ โดยท่านพระวังคีสะ หรือพระเถระรูปอื่น และพระผู้มีพระภาค ได้กล่าวภาษิตคาถา และเรื่องราวอื่นๆ
    เพื่อในการเป็นอุบายวิธีระงับกิเลสวิตกต่างๆ มี 12 พระสูตรด้วยกัน เริ่มตั้งแต่ "นิกขันตสูตร"

    (ลองกดไล่ศึกษา หน้าต่างถัดไปเรื่อยๆ)
    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 มกราคม 2012
  18. กังหันลม

    กังหันลม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    402
    ค่าพลัง:
    +693
    บางทีอาจเกิดจากการที่เรามีร่างกายที่สมบูรณ์มากครับ คือพลังมันมากเลยไม่มีที่ระบายออก จึงระบายด้วยอารมณ์ทางเพศ ผมก็เคยเป็นเช่นกัน แต่ตอนนั้นก็นานกว่าจะแก้ไขได้ ทำอย่างนี้ลองดูครับ
    ๑ ลบสื่อทั้งหมดออก เอาให้สิ้นซากนะครับ
    ๒ อาบน้ำและทำกิจกรรมอื่นๆใหเร็ว
    ๓ นอนน้อยลง และกินน้อยลง
    ๔ ออกกำลังกายให้หนื่อยอ่อนมากๆ ควบคู่กับการภาวนา
    ขายาความนิดหนึ่งครับ คือกำหนดอิริยาบทเวลาที่ออกกำลังกาย หรือเคลื่อนไหว ในมหาสติปัฏฐานสูตรท่านให้กำหนดรู้อาการย่อยๆลองหาดูครับ ทั้งการเหยียดการคู้อวัยวะ การไป การหยุด การพูดการนิ่ง เป็นต้นครับ แต่ก็ใช้ได้ในช่วงแรกๆครับในขั้นต่อไปได้ความอย่างไรค่อยมาปรึกษากันอีกทีครับ
     
  19. som11

    som11 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    94
    ค่าพลัง:
    +784


    เห็นด้วยครับ

    ดูเพื่อปลงน่ะสู้มันไม่ได้หรอกครับ
     
  20. มีรอยยิ้ม

    มีรอยยิ้ม Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2009
    โพสต์:
    55
    ค่าพลัง:
    +27
    เห็นด้วยกับการตอบของหลายๆ ท่านที่กล่าวมาครับ..
    นอกจากแก้ที่ใจแล้ว ที่กายอีก โดยทานอาหารเย็นให้น้อยที่สุด หรือทานอาหารที่ให้พลังงานน้อยที่สุด เท่าที่เคยอ่านมา อาหารมื้อเย็นจะเป็นมื้อที่ให้ความกำหนัดครับ พระ เณร หรือการถืออุโบสถศีล(ศีล 8) จะฉันเพียง 1 หรือ 2 มื้อเท่านั้น คือ เช้ากับเพล อีกทั้งหากคุณ wechza คิดว่า ทุกข์กับเรื่องนี้จริงๆ แล้วนั้น หากมีเวลาอาจลองไปปฏิบัติธรรมถืออุโบสถศีลก็ได้ แต่ต้องเคร่งครัดจริงๆ
    .........สุดท้ายหากคุณ wechza มั่นคงในศีล 5 (อาจเรียกว่าเคร่งครัด) ให้สมาทานศีลใหม่ โดยเปลี่ยนข้อ 3 ..กาเมสุมิจฉาจารา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ.. เปลี่ยนมาสมาทานเป็น ..อะพรัหมะจริยา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ..(คือ งดเว้นจากการประพฤติอันไม่ประเสริฐ คือ งดเว้นจากการเสพเมถุนธรรม) ช่วยตัวเองก็ไม่ได้นะครับ.. เพราะหากคุณกลัวผิดศีล คุณก็จะไม่กล้าทำ.. (เพราะทุกวันนี้ผมก็ถือศีล 5 อะพรัหมะจริยา.. หลังปฏิบัติธรรม พระท่านถามว่าจะลองถือข้อนี้มั้ย ก็เลยตกลง) อาจลองดูก่อนก็ได้นะครับ หากไม่ไหวจริงๆ ก็กลับมาสมาทานเหมือนเดิมก็ได้.. เป็นกำลังใจให้ครับ.. ค่อยเป็นค่อยไป.. แต่ถ้าหักดิบได้ถือว่าเก่งครับ..
     

แชร์หน้านี้

Loading...