ร่วมแสดงความศรัทธารับ..อัฐิ ผงอังคาร เกศา พ่อแม่ครูบาอาจารย์((ประกาศผลแล้วครับ))หน้า6

ฮาฮา..และแล้วก็จริงดังว่า .. ใดๆในโลกล้วนอนิจจัง ทุกสรรพสิ่งย่อมผุพังแน่แท้ ..

ก่อนหน้านี้ผมได้พรรณา .. ถึงคำสอนของหลวงปู่แหวน กับประโยคที่ทำให้ผมมุ่งมั่นจากการศึกษามาเป็นเน้นปฏิบัติ จนรักษาความสงบได้ยาวนานขึ้น และมีทุกข์น้อยลง ..ที่ว่า ** เกิดมาทั้งทีเอาดีให้ได้ จากไปทั้งทีฝากดีเอาไว้ ** ไว้ตั้งเกือบหน้ากระดาษ A4 แต่พอกดส่งข้อความกลับขัดข้องซะงั้น ครั้นจะเขียนใหม่กลับไร้ความรู้สึกร่วมซะแล้ว เพราะไม่ได้ก๊อปปี้.. นึกแล้วก็ขำครับ " เมื่อคุณหวัง ความผิดหวังย่อมมี " ดีหน่อยนึงที่มันเกิดขึ้นแป็บเดียวแล้วก็จางหายไป .. ขอบคุณพื้นที่ตรงนี้ ที่ทำให้ผมได้พิจารณากำหนดรู้ถึงความไม่เที่ยง เมื่อซักครู่นี้ .. และจะมุ่งมั่นฝึกฝนพัฒนาจิตให้สมกับคำสอนของหลวงปู่แหวนที่ว่า.. ** เกิดมาทั้งทีเอาดีให้ได้ จากไปทั้งทีฝากดีเอาไว้ ** ขอบคุณครับ

 

ขออนุโมทนาบุญแก่ผู้แจกด้วยคนนะคะ สาธุ....สาธุ

 

อนุโมทนาครับ
คำสอนหลวงพ่อชาที่ข้าพเจ้าประทับใจ และวิธีนำไปปฏิบัติ รูปที่ 5
“ผู้ปฏิบัติควรสนใจการกระทำกิจวัตร อาจริยวัตร อุปัชฌายวัตร
อันนี้เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวน้ำใจ ของพวกเราทั้งหลายให้เป็นกลุ่ม เป็นก้อน
มีความสามัคคีพร้อมเพรียงซึ่งกันและกัน...”
“ผู้ปฏิบัติ จะต้องเป็นผู้มักน้อยสันโดษ
กินน้อย นอนน้อย พูดน้อย
และให้เป็นคนที่ง่ายที่สุด
กินง่าย นอนง่าย อะไร ๆ ก็ให้ง่าย ๆ
แบบตาสีตาสาธรรมดา
สิ่งเหล่านี้ทำไปแล้ว มันจะให้กำลังใจ”
และวิธีนำไปปฏิบัติ
1.เวลาทำงานเวลาเกิดปัญหาจะนึก คำสอน ของหลวงพ่อ เราต้องตั้งใจและใช้สติปัญญา แก้ไขให้ผ่านไปให้ได้ และอธิบายเพื่อนร่วมงานอย่าให้ท้อแท้ เพื่อให้เกิดความสามัคคีในกลุ่ม
2. ผมจะแจ้งและให้กำลังทุกคนเสมอ เราเกิดมา ต้องตั้งใจ อย่าเห็น แก่เงินทอง มีน้อยใช้น้อย รู้จักเก็บออมเพื่อวันข้างหน้า จะได้ไม่ขัดสน รู้จักดู รู้จักใช้ รู้จักกิน รู้จักนอน รู้จักพูด อย่าพร่ำเพื่อ จะถูกดูไม่ดี และผมเองใช้ประจำตัวอยู่แล้ว
3.ได้ปฎิบัติธรรมหาความรู้เพิ่มเติม อ่านหนังคติธรรม หลวงพ่อชา และรูปอื่นๆ รวมถึงหาCDหลวงพ่อชา และนั่งสมาธิ ตามเสียงหลวงพ่อชาประกอบ
ศิริเทพ แพรศรี

 

คำสอนหลวงปู่ทูลขิปปัญโญที่ข้าพเจ้าประทับใจและวิธีนำไปปฎิบัติคือเรื่องการปฎิบัติธรรมในพระพุทธศาสนาท่านเป็นผู้ที่เน้นย้ำเสมอว่าการปฎิบัติที่ถูกต้องเรี่มจากการมีสัมมาทิฎฐิซึ่งเกิดจากการฝึกปัญญาให้ใจเห็นจริงตามกฎไตรลักษณ์การฝึกปัญญานั้นให้ฝึกความเห็นชอบเป็นหลักสำคัญให้ฝึกตัวเองให้เป็นนักสังเกตูฝึกคิดอะไรๆให้เป็นเหตุเป็นผลให้เป็นไปตามหลักความเป็นจริงให้ตรึกตรองบ่อยๆจนหมดความสงสัย
ผมขอรับอังคารธาตุหลวงปู่ทูล ขิปปัญโญ
ขออนุโมทนากับท่านผู้แจกด้วยครับ
กัมพล วรสิทธิ์ zompon

 

“คำสอนหลวงพ่อพระราชพรหมยาน(หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ) ที่ข้าพเจ้าประทับใจและวิธีนำไปปฏิบัติ"
บัวเบ่งบานผ่านพ้นสายชลเชี่ยว ธรรมยึดเหนี่ยวคงมั่นมิหวั่นไหว
รับแสงทองส่องแสงธรรมนำจิตใจ อิ่มเอิบในพุทธธรรมสุขสำราญ
ตามรอยพระพุทธองค์จำนงมั่น รู้เท่าทันกิเลสสุมรุมเผาผลาญ
ตามรอยหลวงพ่อพระราชพรหมยาน มีนิพพานเป็นที่หวังข้ามวังวน


​

..............ดอกบัวที่เบ่งบานพ้นจากโคลนตม และการเป็นอาหารของเต่า ปลา มาเบ่งบานชูก้านสลอนอยู่กลางแม่น้ำ ขึ้นรับแสงแห่งพระสุริยัน ณ เมื่อเวลา อรุโณทัย เปรียบเสมือน จิตใจของมนุษย์ที่บริสุทธิ์ปราศจากแล้วซึ่งกิเลสอาสวะทั้งปวง มีแสงธรรมคอยประคับประคองจิตใจ อยู่ตลอดเวลา โดยไม่หวั่นไหวต่อโลกธรรม มีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นสรณะ เจริญรอยตามบาทแห่งพระสัพพัญญูเป็นผู้รู้แจ้ง พ้นจากโลกียะอันเป็นของโสโครกเวียนเกิด เวียนตาย ในวัฏฏะสังสารไม่รู้จบสิ้น มุ่งสู่โลกุตระ ดินแดนอันเป็นที่สงบของจิตใจไม่มีเครื่องกระทบใจให้หวั่นไหว เป็นดินแดนของผู้สิ้นกิเลสทั้งปวง เป็นวิสุทธทิพย์ วิสุทธิเทพ
...............บุคคลที่เกิดมาในร่มบุญแห่งพระวรพุทธศาสนา และได้พบพระอรหันต์ผู้เป็นเนื้อนาบุญของโลกอย่างไม่มีที่สิ้นสุดในปัจจุสมัยนี้ นับเป็นบุญอันมหาศาล หลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ) แห่งวัดท่าซุงผู้เป็นพระอริยะเจ้า ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ที่ประชาชนชาวพุทธให้ความเคารพนับถืออย่างกว้างขวาง เป็นกำลังหลักในการสืบทอดพระพุทธศาสนา มีสีลาจารวัตร ที่งดงาม เพียบพร้อมด้วยคุณธรรม หลักธรรมและวิชชาที่ท่านสั่งสอนให้แก่ชาวพุทธเช่น วิชชามโนมยิทธิ (มีฤทธิ์ทางใจ) รวมทั้งหลักธรรมที่ท่านสอนเป็นธรรมที่เข้าใจง่าย มุ่งตรงต่อพระนิพพานที่เดียว และผู้ปฏิบัติสามารถไปเห็นสภาวะที่เรียกว่า พระนิพพาน ดินแดนที่สงบสุขปราศจากเครื่องกังวลใจและกิเลสทั้งหลาย ทั้งยังให้พิจารณา ขันธ์๕ เป็นอารมณ์พระกรรมฐาน ให้เห็นถึงความเป็นจริงของสรรพชีวิต ว่าเราไม่มีในร่างกาย ร่างกายไม่มีในเรา ความตายเป็นของเที่ยง ชีวิตเป็นของไม่เที่ยง
............หลักธรรมที่หลวงพ่อพระราชพรหมยานสอนมาทั้งหมดนี้ สามารถเข้าใจได้ง่ายและนำไปปฏิบัติได้ เช่น "จงอย่าสนใจกับอารมณ์ของคนอื่น จงอย่าสนใจกับจริยาของบุคคลอื่น ให้พยายามปรับปรุงใจตนเองเป็นสำคัญ และให้ทรงพรหมวิหาร 4 มีอิทธิบาท 4 " "องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าให้วางภาระ คือ การถือตัวถือตนเสีย" "การถือตัวถือตนว่าเราเสมอเขาก็ดี เราดีกว่าเขาก็ดี เราเลวกว่าเขาก็ดี เป็นปัจจัยของความทุกข์""สักกายทิฏฐิ มีความรู้สึกว่าร่างกายนี่มันจะไม่ตาย ร่างกายสะอาด ร่างกายเป็นเราเป็นของเรา เรามีในร่างกาย ร่างกายมีในเราวิจิกิจฉา มีความสงสัยในพระพุทธเจ้า ในพระธรรมคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า สงสัยในความดีของพระอริยสงฆ์ ไม่ตกลงว่าจะยอมรับนับถือหรือไม่สีลัพพตปรามาส ไม่ตั้งใจรักษาศีลอย่างจริงจัง รักษาศีลประเภทศีลหัวเฒ่าคือผลุบเข้าผลุบออก ประเดี๋ยวก็ทรงตัวบ้าง ประเดี๋ยวก็ไม่ทรงตัวบ้าง อารมณ์ที่เจ้าเข้าสู่ความเป็นพระโสดาบัน"
.............ถึงแม้ว่า ข้าพเจ้าจะเกิดไม่ทันได้ชื่นชมบารมีของพระเดชพระคุณหลวงพ่อ แต่ด้วยความศรัทธาเป็นที่ตั้ง และมุ่งหวังพระนิพพานเป็นจุดหมายสูงสุด จึงได้ยึดหลักคำสอนของหลวงพ่อ ในการดำเนิชีวิต ทั้งการเรียน การอ่านหนังสือควบคุมสติมิให้กิเลสมาครอบงำจิตใจ โดยจะเปิดเสียงของพระเดชพระคุณหลวงพ่อฟังเพื่อกล่อมจิตใจให้อยู่ในธรรมตลอดเวลา การละกิเลสได้เด็ดขาดปราศจากรากเหง้านับเป็นสิง่ที่ประเสริฐสุดของบุคคลผู้ได้เกิดมาในโลกนี้ โดยยึดหลักธรรมของพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัตชอบ ดังเช่นหลวงพ่อพระราชพรหมยานนี้ มุ่งตรงต่อทางอมตะมหานครนฤพานดับกิเลสเป็นสมุทเฉจประหาน ดังพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ว่า "นิพพานัง ปรมังสุขัง นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง"

 

ประทับใจคำสอนหลวงปู่เหรียญ

"...ถ้าไม่ละแล้วมันจะพาให้ได้รับทุกข์ ทั้งในปัจจุบัน และเบื้องหน้าต่อไปไม่มีสิ้นสุด ส่วนความอยากประเภทอื่นนั้นค่อยเอาไว้ละทีหลัง ถ้าละตัณหาตอนต้นนั้นไม่ได้ ตัณหาประเภทอื่นๆ ก็ละไม่ได้เช่นเดียวกัน...........การที่คนเราจะพ้นทุกข์ไปไม่ได้ ก็เพราะไม่ปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธเจ้านั้นเอง...."

วิธีปฏิบัติ

"...ด้วยการเจริญสมถะ..และการเจริญวิปัสสนา..เพื่อมุ่งชำระจิตดวงนี้ให้บริสุทธิ์หมดจดจากกิเลสเครื่องเศร้าหมองทั้งหลาย ...."

ขอรับอัฐิหลวงปู่เหรียญ วรลาโภ 1 รายการครับผม

สาธุ สาธุ สาธุ

 

ลูกศิษย์หลวงปู่ฤาษีอาจมีแจกเพิ่ม 555+ เพราะวันนี้ท่านเสด็จเพิ่มครับ

 

ขอรับอังคารหลวงปู่แหวนครับ
“คำสอนหลวงปู่หลวงปู่แหวนที่ข้าพเจ้าประทับใจและวิธีนำไปปฏิบัติ”
คำสอนเรื่อง"การสละออกจากใจ"
"จาโค ปฏินิสสัคโค สละคืนถอนออกจากใจนี้เสีย
คนเรามันรักสุข เกลียดทุกข์นี่ หนักก็หนักอยู่ตรงนี้แหละ ไม่รับความจริง
เราเกิดมา นินทา สรรเสริญก็ดี อย่าไปรับเอามาหมักไว้ใจ ปล่อยผ่านไปเสีย
ความรัก ความชัง ความโลภ ความหลง เกิดขึ้น เพราะกิเลสมันเสวนากันอยู่
กามตัณหา ภวตัณหา วิภวตัณหาทั้งหลาย ก็ไหลมาจากเหตุ ให้ละเสียให้หมด ให้ตั้งอยู่ในศีล ตั้งอยู่ในทาน ตั้งอยู่ในการบำเพ็ญกุศล ละบาปทางกาย ทางวาจา ทางใจ บาปอันใดยังอยู่ละเสียให้หมด กายทุจริต วาจาทุจริต ใจทุจริต นำออกให้หมด แล้วรักษากายสุจริต วาจาสุจริต ใจสุจริตไว้ เมื่อนำทุจริตออกหมดแล้วจะเหลือแต่สุจริตธรรม ตั้งอยู่ในศีล กายก็เป็นศีล วาจาก็เป็นศีล ใจก็เป็นศีล เป็นธรรม เป็นมรรค เป็นผล ตั้งขึ้นในจิตในใจ ละวางทุจริตธรรม สุจริตธรรมตั้งอยู่แล้ว จิตก็เบาสบาย
อดีตที่ล่วงไปแล้ว ยังหอบเอามาหมักไว้ในใจก็เดือดร้อน ต้องเอาศีลนั่นแหละนำออกให้หมด ธรรมปฏิบัติ เรื่องต้องน้อมเข้ามาสู่ใจ ให้รักษาพระไตรสรณคมน์ให้แน่นหนา รักษาพระไตรสรคมน์ให้ตลอดชีวิต รักษากาย วาจา ใจ ให้บริสุทธิ์ อย่าลืมตัว เอาใจนี้แหละเป็นผู้รู้ ให้พิจารณากานี้ย ใจนี้ให้รู้แจ้ง "
วิธีนำไปปฏิบัติ "เมื่อก่อนนี้ ใครจะมาว่าเราหรือนินทา หรือแกล้งเรา เราจะโมโหมากหรือไม่พูดกับเขาเลย เมื่อนำคำสอนของหลวงปู่่ซึ่งเรามาพิจารณาแล้วพบว่า เหมือนดังที่หลวงปู่ท่านสอนไว้ เมื่อเราโมโห โกรธ ไม่ยอมรับความจริง กิเลสมันเกิดบังเราไว้เราก็
เป็นทุกข์เองยิ่งเก็บไว้ก็เป็นทุกข์ ไม่มีความสุข แต่เมื่อเราปล่อยวางมันโดยยึดศีล ซึ่งแปลว่า ปกติ เราก็ไม่ต้องใส่ใจสิ่งเหล่านั้น เกิดขึ้นแล้วเราก็ปล่อยวางมัน ตัวเราก็ไม่ต้องไปยึดกับสิ่งเหล่านั้น ทำให้เราไม่ทุกข์ ไม่คิดมาก แล้วสิ่งดีๆ จะเข้ามาเอง...

 

อุ้ย งานนี้มีลุ้นเดี๋ยวรอพรุ้งนี้ก่อนครับ (deejai)

 

ผมเคารพรักและศรัทธาใน ลป.เหรียญ วรลาโภ ครับ

คำสอนของท่าน “สิ่งทั้งปวงในโลกนี้มิใช่ว่าจะอำนวยแต่ความทุกข์เท่านั้น บางทีก็อำนวยความสุขให้เหมือนกัน ดังนั้นคนจึงติดมัน แต่บรรดานักปราชญ์ผู้มีปัญญาทั้งหลายท่านพิจารณาเห็นว่า มันเป็นความสุขชั่วคราวไม่ยั่งยืน ถ้าพิจารณาโดยสรุปแล้ว ก็เป็นทุกข์นั้นแหละ มากกว่าความสุข อันความสุขที่ว่านี้ มันเป็นเพียงเหยื่อล่อให้ติดอยู่ในทุกข์เท่านั้น ไม่ใช่เป็นสุขยั่งยืนแต่อย่างใด เพราะคนเราเกิดมาแล้วที่สุดก็ต้องตาย ร่างกายนี้เมื่อจิตละไปแล้ว ก็ต้องแตกสลายออกจากกัน ไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย”

การนำคำสอนหลวงปู่ไปปฏิบัติก็คือ
ผมไม่ยินดีทั้งในความทุกข์และความสุขครับ เพราะคิดว่าทั้งทุกข์และสุขทั้งหมดเกิดขึ้นจากผมกรรมทั้งสิ้น และมีความบังเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไปเป็นของธรรมดา ถ้าหาไปติดยึกก็จะทำให้เกิดความยึดมั่นถือมั่นขึ้น ผมจังตั้งมั่นอยู่ในทางอันประเสริฐคือมรรคมีองค์ 8 อยู่เสมอครับผม...

 

คำสอนหลวงปู่เหรียญ ที่ข้าพเจ้าประทับใจและวิธีนำไปปฏิบัติ
"พากันตั้งสติแน่วแน่อยู่ภายใน ควบคุมจิตอย่าให้หลงคิดนึกไปในอารมณ์ที่เคยนึก เคยคิด เคยเกาะ กำหนดลงเอาในปัจจุบันนี้"
การภาวนาในระยะเริ่มแรก เป็นปัญหาสำหรับผู้ปฏิบัติอยู่ไม่น้อย ในเมื่อพยายามจะควบคุมจิตใจไม่ให้วอกแวกอย่างไร แต่จิตก็กวัดแกว่งไปคว้าอดีตอนาคตคิดนู่นนี่ ตามความเคยชินตามธรรมชาติของมัน ดูเหมือนว่าจิตนี้ไม่อยู่ในวิสัยที่จะควบคุมบังคับให้หยุดนิ่งได้เลย จนทำให้ผู้ปฏิบัติท้อถอยในการที่จะทำความเพียรที่ดูเหมือนจะไม่เกิดผลอะไรขึ้นมา คำสอนของพ่อแม่ครูอาจารย์หลวงปู่เหรียญ เรียบง่าย ชัดเจน ตรงไปตรงมา เหมาะที่นักภาวนาจะยึดถือปฏิบัติ แม้ดูเหมือนผลแห่งความเพียรพยายามจะเกิดขึ้นได้ยากเย็น แต่อาศัยศรัทธาและการเชื่อฟังคำสอนของครูบาอาจารย์ อุตส่าห์ฝืนกิเลสความคิดฟุ้งซ่านรำคาญวุ่นวายในใจ อาศัยสติเป็นที่ตั้งกำหนดอยู่ในปัจจุบัน เมื่อพยายามทำไปโดยไม่ลดละ ผลแห่งจิตที่ได้ฝึกฝนอบรม ก็จะค่อยเริ่มปรากฏเป็นความสงบในที่สุด สมดังที่พ่อแม่ครูอาจารย์ได้ชี้ทางไว้

 

คำสอนของหลวงปู่ชา สุภัทโท ที่ข้าพเจ้าประทับใจการปฏิบัติคืออำนาจพระพุทธศาสนาไม่มีอำนาจอะไรเลยแม้ก้อนทองคำก็ไม่มีราคา ถ้าเราไม่มารวมกันว่ามันเป็นโลหะที่ดีมีราคาทองคำมันก็ถูกทิ้งเหมือนก้อนตะกั่วเท่านั้นแหละพระพุทธศาสนาตั้งไว้มีอยู่แต่ถ้าเราไม่ประพฤติปฏิบัติ จะไปมีอำนาจอะไรเล่าอย่างธรรมะเรื่องขันติมีอยู่แต่เราไม่อดทนกันมันจะมีอำนาจอะไรไหม?​

ชนะตนเองถ้าเราเอาชนะตัวเองมันก็จะชนะทั้งตัวเองชนะทั้งคนอื่นชนะทั้งอารมณ์ ชนะทั้งรูป ทั้งเสียง ทั้งกลิ่น
ทั้งรส ทั้งโผฎัฐพพะเป็นอันว่าชนะทั้งหมด
การนำไปปฏิบัติ ใช้กำหนดพิจารณาควบคู่ตอนทำกรรมฐาน

 

5..หลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง‎

คำสอนของหลวงพ่อฤาษีที่ข้าพเจ้าประทับใจ
" ทองคำแท้ย่อมไม่กลัวไฟนะลูก จะถูกหล่อ หรือ หลอม อยู่ในสถานะใด มันก็คือทองคำ เช่นเดียวกับความดี จะบอกเป็นความชั่วก็มิได้ ความชั่วจะบอกเป็นความดีก็มิได้<WBR> ขอให้อดทน บนโลกนี้ลูกจะได้เจอสิ่งที่เป็น<WBR> 2 ด้านเสมอ"
วิธีการนำไปปฏิบัติ
ผมรู้สึกดีทุกๆครั้งที่ได้อ่านคำสอนของหลวงพ่อส่วนนี้ และที่ผ่านมา ผมเองก็ได้ปฏิบัติตามคำสอนของหลวงพ่อเสมอมา และจะมุ่งมั่นตั้งใจในการสร้างบารมีตลอดไป ถึงแม้ในบางครั้งจะมีอุปสรรคบ้าง ถูกติเตียน มองว่าไม่เป็นเรื่อง ไร้สาระบ้าง หรือหาว่าบ้าก็มีเยอะ แต่ผมก็จะยึดถือตามปฏิปทาของหลวงพ่อ นำมาใช้ในการดำเนินชิวิต และการปฏิบัติต่อไปจนกว่าผมจะหมดลมหายใจจากโลกนี้ไปครับ ขอโมทนา

 

1.ผงอังคารหลวงปู่แหวน สุจิณโณ

หลวงปู่เป็นพระกรรมฐานผู้บำเพ็ญภาวนาอยู่ตามป่าดิบพงไพรมากว่า 50 ปี ผ่านความตายจากสัตว์ร้าย ภูตผี อสุรกาย พวกข่าล่ามนุษย์ และความวิปริตของธรรมชาติ ด้วยสติมั่นอยู่ในพระพุทธคุณ อ่านหลักคิด โอวาทธรรมหลวงปู่แหวนแล้วนำไปปฏิบัติได้ ก็มิได้ต่างจากการกราบขอพรกับองค์ท่านโดยตรงเลย คำสอนของหลวงปู่แหวนที่ข้าพเจ้าประทับใจคือเรื่องเผยไฟนำความทุกข์แก่สัตว์โลก อันว่าสรรพสัตว์ทั้งหลาย ทั้งมนุษย์และเทวดา ได้ถูกไฟ 11 กอง เผาอยู่เสมอ เป็นเหตุแห่งความทุกข์นานาประการ 11 กอง คือ

1. ราคะ ความกำหนัดชอบใจ อยากได้กามคุณ 5 มีรูป เป็นต้น
2. ไฟโทสะ คือ ความโกรธ มีความไม่พอใจเป็นลักษณะ
3. ไฟโมหะ ได้แก่ความลุ่มหลงในรูป รส กลิ่น เสียง โผฎฐัพพะ ลังเล ใจฟุ้งซ่าน ไปตามอารมณ์
4. ชาติ คือ ไฟแห่งความเกิดอันเป็นทุกข์
5. ชรา คือ ไฟแห่งความแก่อันเป็นทุกข์
6. มรณะ คือ ไฟแห่งความตายอันเป็นทุกข์
7. โสกะ คือไฟแห่งความเศร้าโศก
8. ปริเทวะ คือ ไฟบ่นเพ้อรำไร รำพัน
9. ทุกขัง คือ ไฟแห่งความทุกข์ลำบากกายใจ
10. โทมนัส คือ ไฟแห่งความเสียใจ
11. อุปายโส คือ ไฟแห่งความคับแค้นใจ

ไฟทั้ง 11 กองนี้แหละเผาลนสรรพสัตว์ทั้งหลายให้ต้องพากันงมงาย เวียนว่ายตายเกิด ต้องการละสิ่งชั่ว ต้องหมั่นเจริญธรรมหรือความดี

• ต้องการละความพยาบาท หรือความคิดปองร้าย ต้องหมั่นเจริญเมตตา หรือไมตรีจิต คิดให้ผู้อื่นมีสุข
• ต้องการละความคิดเบียดเบียนผู้อื่น ต้องหมั่นเจริญกรุณาหรือเอ็นดู คือช่วยเหลือผู้อื่นพ้นทุกข์
• ต้องการละความอิจฉาริษยา ต้องหมั่นเจริญมุทิตาหรือพลอยยินดีเมื่อผู้อื่นได้ดี
• ต้องการละความขัดใจ ต้องหมั่นเจริญอุเบกขาหรือการวางใจเป็นกลาง
• ต้องการละความกำหนัดยินดี ต้องหมั่นเจริญอสุภะหรือเห็นความไม่งามเบื้องหลังความงาม
• ต้องการละความถือตัวถือตน ต้องหมั่นเจริญกฎการเปลี่ยนแปลงให้เข้าใจ

เวลาที่ข้าพเจ้านั่งสมาธิจิตก็สงบดี สามารถที่จะลดความพยาบาท หรือความคิดปองร้าย ความถือตัวถือตน ฯลฯ ในใจลงได้บ้าง แต่เมื่อออกจากสมาธิก็ยังไม่สามารถที่จะลดความพยาบาท หรือความคิดปองร้าย ความถือตัวถือตน ฯลฯ อยู่ ใช้เวลาในการรวมจิตให้เป็นสมาธิช้า แต่เมื่อปฏิบัติตามคำสอนของหลวงปู่แล้ว ความคิดเหล่านั้นก็ค่อย ๆ เบาบางลง สามารถรวมจิตให้เป็นสมาธิได้ง่ายขึ้น ความฟุ้งซ่านน้อยลง รู้สึกสงบและมีความสุขกับชีวิตมากขึ้นทั้งในเวลาที่นั่งสมาธิและออกจากสมาธิ

 

ไหนๆๆมีคน ปากน้ำ-ปราณบุรี-หัวหินไหม อิอิอ รายงานตัวหน่อยเผื่อแจกพระธาตุฯ 555+

 

“คำสอนหลวงปู่เหรียญ วรลาโภที่ข้าพเจ้าประทับใจและวิธีนำไปปฏิบัติ”

พระสุธรรมคณาจารย์ (หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ)เป็นพระอริยสงฆ์แห่งวัดอรัญญบรรพต จังหวัดหนองคายที่ดิฉันเคารพบูชาเป็นอย่างยิ่ง ท่านเป็นพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบและเป็นดุจดังแผนที่แห่งธรรมให้ดิฉันได้ศึกษาเป็นแบบอย่าง และนำทางในการดำเนินชีวิตที่แวดล้อมไปด้วยความวุ่นวาย และสิ่งยั่วยุกิเลสในสังคมเมือง

ดิฉันเป็นคนเมืองโดยกำเนิดคนหนึ่ง ที่ต้องตกอยู่ในสภาวะจำยอม กับการใช้ชีวิตในเมืองหลวงที่ต้องทำงานเกี่ยวข้องกับผู้คนมากมายต่างที่มาทั้งอุปนิสัยและการดำรงชีวิต วันหนึ่งๆมีเหตุการณ์ต่างๆมากระทบใจ เรามากมายทั้งเรื่องที่เราพอใจและไม่พอใจ บางครั้งทำให้ขาดสติในการกำกับชีวิต เมื่อมีอารมณ์อื่นมากระทบเรา เราก็กระแทกกลับไปทันที โลภ โกรธ หลง คิดมาก ความคาดหวัง ย่อมมีอยู่ในชีวิตเสมอๆ เมื่อมีสะสมมากเข้าๆ ความเครียดความทุกข์เศร้าเข้าครอบงำ เมื่อใจป่วยกายก็ป่วย เป็นโรคนอนไม่หลับ โรคกระเพาะอาหาร จนเกิดความเบื่อหน่ายท้อแท้ในชีวิต

โชคดีที่ดิฉันมีเพื่อนธรรมคนหนึ่ง ได้แนะนำให้เข้ามาหาธรรมะ พาไปวัดทำบุญ เดินจงกรม นั่งสมาธิ และหาธรรมะมาให้อ่านหลากหลาย ทั้งคำคม โอวาทธรรมจากพระอริยสงฆ์ท่านต่างๆ แต่หนึ่งในคำสอนที่ดิฉันประทับใจ เพราะถูกกับจริต และช่วยเยียวยาใจในสิ่งที่ดิฉันประสบพบอยู่ทุกวันได้ดีเยี่ยม จึงจดจำนำมาปฏิบัติในชีวิตประจำวันจนทุกวันนี้คือ

“อันสตินี้ สัมปชัญญะนี้ก็สมมติเป็นโชเฟอร์กำพวงมาลัยมีสติคอยระมัดระวัง กาย วาจา จิต อยู่เสมอๆคอยระวังเรื่องต่างๆระมัดระวังไปเรื่อยๆ แต่ไม่ได้หมายความว่าเราต้องเที่ยวประกาศห้ามใครมาติชมเรา ที่ว่าระวังนั้น คือ เมื่อมีเรื่องมากระทบให้รู้ทันในทันทีเราจะห้ามจิตไม่ให้หวั่นไหวไปไม่ได้ แต่ให้ระวังต้องควบคุมจิตด้วยสติให้ถี่ๆกระชับสติสัมปชัญญะให้มันถี่เข้ามาจะได้ไม่หวั่นไหวกับคำพูดเสียดแสงใจต่างๆ”

โอวาทธรรมของหลวงปู่เหรียญ สำหรับดิฉันจึงเปรียบเสมือน คนป่วยได้หมอดี ตีถูกโรค เป็นดั่งเข็มทิศแห่งชีวิต เป็นคำสอนที่คอยเตือน “สติ” ดิฉัน ให้ได้นำมาปรับใช้ในชิวิต โดยต้อง กำหนดรู้ความรู้สึกในใจ รู้ว่าคิดดี คิดชั่ว คอยเตือนตนรู้จักพิจารณาการทำงานด้วยสติมากขึ้น ความผิดพลาดก็ไม่เกิด ระมัดระวังวาจาไม่พูดออกไปด้วยอารมณ์ ระลึกเห็นโทษของมันว่าจะทำใครต้องขุ่นเคือง สำรวมจิตไม่ให้โกรธเมื่อมีคนมาทำให้เราไม่พอใจ ระลึกให้เห็นโทษของมัน เราก็จะระวังไม่ให้มันเกิด เมื่อเห็นเพื่อนเขามี เขาเป็น เขาแต่งตัวอะไรใหม่ๆ มีสติระมัดระวังใจไม่ให้ หลงไม่กำหนัดยินดีกับผัสสะที่เข้ามากระทบ เพ่งพิจารณาว่าเป็นความสุขชั่วคราวอันไม่เป็นแก่นสาร พอใจกับสิ่งที่ตนมี ตนเป็น มีสติเตือนตนสำรวมจิตให้ตั้งอยู่ในปัจุบันนี้ ไม่ไปคิดในเรื่องอดีตที่ล่วงมาแล้ว เมื่อเป็นความผิดพลาดก็เก็บมาทุกข์เศร้า หรือเรื่องอนาคตไปคิดล่วงหน้า คาดการณ์ แล้วมาเชื่อเป็นสัญญาอารมณ์ พอไม่ได้ไม่มี ไม่เป็น ก็เกิดเป็นทุกข์ หาประโยชน์จากมันไม่ได้เลย

เมื่ออดีตนั้นเพราะใจเราไม่สงบดังคลื่นซัดเรือในมหาสมุทร สุดแต่คลื่นจะพัดไปทางไหนก็ตามมันไปบัดนี้เมื่อเรามีสติสัมปชัญญะอยู่กับตัว เราก็จะรู้เท่าทันกับสิ่งที่มากระทบใจเรา เรารู้แล้วว่ามันเป็นเหตุเป็นโทษอย่างไร เราก็ระวังไม่เกิดความทุกข์ เมื่อไม่ทุกข์ใจ กายเราก็ดีขึ้น โรคต่างๆก็ค่อยๆทุเลาหายไปจนเป็นปรกติ ตั่งแต่นั้นดิฉันจึงศึกษาธรรมของพุทธองค์ผ่านทางหลวงปู่ท่านเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยเหตุนี้ความศรัทธาในหลวงปู่ท่านและธรรมะคำสอนของท่าน จึงมากเป็นพิเศษ

ด้วยธรรมะเพียงข้อนี้ ดิฉันกลับมามีความสุขที่จะอยู่ในสังคมมากขึ้น เมื่อเราพบธรรมแล้ว จึงนำผลที่สำเร็จนี้ไปเผื่อแผ่ให้ครอบครัว เพื่อนร่วมงานคนอื่นๆที่มีปัญหาแบบเดียวกัน ให้รับเอาธรรมะเป็นที่พึ่ง ต้องแก้ที่ใจ ไม่ใช่พอนอนไม่หลับ เครียด ก็ไปพึ่งแต่ยา ซึ่งเป็นการแก้ที่ปลายเหตุ แก้เท่าไหร่ก็ไม่หาย ให้หันมาฝึกสำรวมใจ ควบคุมจิตของตนให้ตั่งอยู่ภายใน กำหนดรู้ทุกเมื่อ หมั่นเจริญศีล สมาธิ ปัญญา ที่เป็นทางปฏิบัติให้เราพ้นจากทุกข์ มุ่งปฏิบัติตามคำสอนของหลวงปู่ ปฏิบัติตามพระธรรมที่เป็นตัวแทนของพระพุทธองค์ อันเป็นสัจธรรมแห่งความจริงแท้แน่นอนแห่งชีวิต

“จงมีสติอยู่ทุกเมื่อ ก่อนทำ ก่อนพูด เรื่องใดๆก็ดี”
พระสุธรรมคณาจารย์
(หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ)



​

<input id="gwProxy" type="hidden"><!--Session data--><input onclick="if(typeof(jsCall)=='function'){jsCall();}else{setTimeout('jsCall()',500);}" id="jsProxy" type="hidden">

 

ขอรับหลวงปู่แหวนครับ

คำสอนของหลวงปู่
ภาวนาพุทโธก็ดี ธัมโมก็ดี สังโฆก็ดี ระวังอย่าให้เป็นธรรมเมา ต้องกำหนอลงสู่กายสู่ใจของเรานี้แหละ อย่าไปกำหนดที่อื่น

ข้าพเจ้าปฏิบัติตามทุกวันดังนี้
ข้าพเจ้านั่งสมาธิ โดยกำหนดลมหายใจเข้าว่าพุท หายใจออกว่าโธ เป็นประจำทุกวันวันละประมาณ 30 นาที ถึง 40 นาที ครับ ปฏิบัติแล้วรู้สึกว่าใจสงบนิ่งคิดก่อนทำและมีสติตลอดเวลา
นายเฉลิมชัย โสภาวรรณ์

 

งั้นหากโชคดี ขออังคารธาตุหลวงปู่แหวนได้ป้ะ

ส่วนเกศา พระธาตุ กระซิบกระซาบกันสองคนแระกัน ว่าอยากได้อะไร บางอย่างน้องอยากได้ พี่ไม่มีอย่างเงี้ยะ

 

....วารินชำราบ ได้มั้ยอ่ะ? น้าๆๆๆๆๆสงสารเด็กน้อยตาดำๆหน่อยคร้าบบบ ฮึกๆ ฮืออออ.....

 

อัพเดตรายการครับ ต่อไปนี้จะอัพเดทที่นี้เท่านั้น (7/1/2555 02.00 น.)

นับแต่นี้เป็นต้นไป จะขออัพเดตรายการที่โพสนี้นะครับ ว่าท่านใดขอรับอัฐิ ผงอังคาร เกศา พ่อแม่ครูบาอาจารย์ ท่านใดบ้าง ถ้าข้อมูลผิดพลาดแจ้งได้ทันที

ตัวอย่าง
1. คำสอนหลวงพ่อพุธ ฐานิโย ที่ข้าพเจ้าประทับใจและวิธีนำไปปฏิบัติ
2. เนื้อหา อย่างต่ำ 5-10 บรรทัด กล่าวถึงหลักธรรม, การนำไปปฏิบัติ

รายการลงชื่อ ถ้าผิดเข้าไปแก้ในโพสเก่าเลยครับ มีลำดับโพสให้แล้ว

1. ผงอังคารหลวงปู่แหวน สุจิณโน
12 ท่าน
atfirst #7
auricle #31
G-Gen #42
wikonr #54 (ไม่มีหัวข้อ)
suratept #90
ชาวนาคา #62 (ไม่มีหัวข้อ)
จักรวัฒน์ #67 (ไม่มีหัวข้อ)
เฉลิมพล2516 #69 (ไม่มีหัวข้อ ขนาดเราอ่านยังไม่แน่ใจว่าท่านลงชื่อหรือเปล่า)
little_duct #76
somkiatvunnasoot #78 (ไม่มีหัวข้อ เพิ่งสังเกตุเห็นว่าเขียนไว้นึกว่าเขียนทักทายเฉยๆ)
051224 #86 (ไม่มีหัวข้อ)
sereenon #83 (ไม่มีหัวข้อ)


2. อัฐิหลวงปู่เหรียญ วรลาโภ
6 ท่าน
thitiporn100 #19
ยุ่นปี่ #68
ckj_tong #75 (ไม่มีหัวข้อ)
kkookk #79 (ไม่มีหัวข้อ)
Napadol #80
wanassa #85

3. เกศาหลวงปู่ชา สุภัทโท
6 ท่าน
jpw #34 (ไม่มีหัวข้อ)
keey8 #51
sazukia007 #64
ศิริเทพ #71
ยะรู #81
wangwang #102

4. เถ้าถ่านอังคารหลวงพ่อพุธ ฐานิโย
4 ท่าน
Doksil #6 (ไม่มีหัวข้อ)
mamanalin #66
Kiattisak01 #99 (ยกเลิก #76)
apc #107

5. พระธาตุชานหมากหลวงปู่ฤาษีลิงดำ
10 ท่าน
นิพพิชฌน์2 #6 (ไม่มีหัวข้อ)
จิตพุทธ #8
aipamz #10
อภิณสรณ์ บุญถนอม #24
ภัทรศีล #35
ijara #39 (หัวข้อไม่ชัดเจน)
นพรัตน์99 #73
ลูกเสด็จ #82 (ไม่มีหัวข้อ)
Yanky1890 #97 (ไม่มีหัวข้อ)
ชัชช์ #101


6. อังคารหลวงปู่ทูล ขิปปัญโญ
1 ท่าน
zompon #98 (ไม่มีหัวข้อ#72 ยกเลิก)

7. ผงอังคารธาตุ ครูบาบุญปั๋น ธัมมปัญโญ
1 ท่าน
peerakan #92


8. อัฐิหลวงปู่คำตา ทีปังกโร
1 ท่าน
ichosun #108

9. เกศาหลวงปู่อว้าน เขมโก
1 ท่าน
ช้างป่า#95


*** เราไม่ใช้กรรมการนะครับ แต่ว่าต้องมาอ่านดูก่อนเพื่อให้ท่านได้ประโยชน์สูงสุด ไม่เช่นนั้นถ้าเราเป็นกรรมการจะให้ผ่านไม่กี่คน ดังนั้นสนใจนิดหนึ่งนะครับ พรุ่งนี้เราจะมาอ่านถึงรายละเอียดแล้วบอกว่าของใครควรแก้ไขอย่างไร ที่เจอตอนนี้คือ แค่เริ่มหัวข้อก็ผิดกันแล้ว***

เพื่อประโยชน์สูงสุดเข้ามาอ่านและเช็คด้วยว่าของตนเองนั้นมีข้อผิดพลาดอย่างไร