วิเคราะห์เรื่องเด็กชายปลาบู่และภัยพิบัติ พ.ศ. 2555 - 2556

คำทำนายเกี่ยวกับภัยพิบัติของโลกที่เป็นวิทยาศาสตร์มากที่สุด

kan kondee

 

คุณThaijinและคุณ bhodhithas ผมเห็นด้วยกับคุณทั้งสองครับ พวกนี้ทำนายมั่วโดยไม่คำนึงถึงความเสียหายของส่วนรวมเลย เวลานี้พ่อ ดช.ปลาบู่ ก็โดนจับไปแล้ว ผมมีเรื่องจะเขียนให้อ่าน ที่เชียงใหม่ ในฤดูกาลเข้าพรรษา วันพระตอนกลางคืน กลุ่มหนุ่มสาวเชียงใหม่จะรวมกลุ่มกันไปฟังเทศน์ตามวัดต่างในเครือสมาชิก มีกิจกรรมมากมาย หนึ่งในนั้นคือการตอบปัญหาธรรมะ มีปัญหาอยู่ข้อหนึ่งที่จำได้แม่น เขาถามว่า จุติแปลว่าอะไร ฟังดูง่ายเนอะ คนตอบมี 10กว่ากลุ่ม ตอบพร้อมกันว่า เกิด ครับ ผิดหมดเลยครับ มันไม่ได้แปลว่าเกิด แต่ตรงกันข้าม มันแปลว่า ตาย ใช้กับโอปะติกะหรือเทวดาทั้งหลาย
การที่พวกเขาอ้างเห็นพระโพธิสัตว์มาจุติอยู่หลายๆพระองค์ นั่นก็แปลได้ว่า พวกเขาเห็นพระโพธิสัตว์มาจุติ(ตาย)อยู่หลายๆพระองค์ ผมเคยเห็นแต่คนตาย แต่ไม่เคยเห็นพระโพธิสัตว์มาจุติ(ตาย)เลยสักครั้ง ถ้าจะเขียนให้ถูกน่าจะเขียนดังนี้ “เคยเห็นพระโพธิสัตว์มาจุติมาเกิดอยู่หลายๆพระองค์”น่าจะถูก อย่างว่าครับ ภาษาไทยเป็นภาษาที่ดิ้นได้ ถ้าเขียนผิด มันก็คนละเรื่องกันเลยนะครับ สุดท้ายนี้ ตกลงแล้ว พวกเขาเขียนผิด หรือว่า เขาไม่รู้จริงกัน เลยมั่วกันไป หรือเป็นเพราะอากาศมันร้อน

 

ก็ลุงแกเชื่อของแกอย่างนั้นด้วยความบริสุทธิ์ใจ แล้วแกก็ไม่ได้บังคับให้ใครเชื่อ นักข่าวก็ดิ้นรนทำข่าวแกเอง คนอ่านข่าวก็แสวงหาข่าวมาเสพเอง พออ่านแล้วก็เชื่อเอง แต่แทนที่จะด่าคนเชื่อกลับจะไปเอาเรื่องแก

คนไทยพร้อมเสมอที่จะเหยียบย่ำผู้อ่อนแอกว่าตน พอเจอคนอื่นที่ใหญ่กว่าก็ก้มหน้ารับไป

 

อยู่ในยุคของพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน คุณเองยังปฏิบัติตามคำสอนของท่านไม่ได้เลย แล้วจะมั่วไปวิ่งหาพระพุทธเจ้าในอนาคตทำไม ถ้าเจอแล้วคุณจะปฏิบัติตามได้หรือ ในเมื่อปัจจุบันคุณยังทำไม่ได้

 

เลิกวิเคราะห์กันได้แล้ว ไม่มีใครรู้จริงหรอกว่าจะเกิดเมื่อไร ... เตรียมตัวกันไว้ตามปกติเหมือนที่เคยสำหรับคนเตรียมพร้อม ก็น่าจะพอ ส่วนคนที่ไม่เชื่อ ไม่สนใจ ไปเตือนไปบอก ไปทำนาย ยังไง เขาก็ไม่สนอยู่ดีแหละ พอเหอะ ... ยิ่งทำนาย ยิ่งวิเคราะห์ ก็ยิ่งมั่วกันไปใหญ่ ดูเหมือนจะมีเด็กเลี้ยงแกะเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว

 

ดูๆ
ปีใหม่แตกแน่!! | ดราม่าเอยจงซับซ้อนยิ่งขึ้น

 

ปีมะโรงคือ2555ไม่ใช่2554และครั้งแรกที่อ่านไม่มีว่าเป็นลูกหลานหรือรัชกาลใดนะยิ่งอ่านยิ่งสับสนใครรู้จริงช่วยสงเคราะห์เจ๊หน่อย

 

จริงเหมือนกันฮิแล้วทำไมy2kไม่เอาเรื่องมันบ้างไทยเสียเงินให้ไอ้นี่เท่าไหร่

 

......................

 

ยังครับหห สงครามยังไม่จบอย่าเพิ่งนับศพทหารเลย
ให้พ้นปี 55 ค่อนเฮกันดีใหมครับ

 

มันไม่เกิดก็ดีแล้ว น่าสลดใจที่บางคนกลับหวังให้มันเกิด

 

อยากให้เอาใบสูติบัตรกับใบมรณบัตรของเด็กชายปลาบู่
มายืนยันว่าเด็กชายปลาบู่มีตัวตนจริง

 

ผมว่าปีใหม่ปี 55 มันคือปลายปีนี้มากกว่าเพราะยาม 2 ยังไม่พ้นเที่ยงคืน แถมสอดคล้องกับคำทำนายจากเกจิอื่นๆที่ทำนายไว้ช่วงปลายปี

 

วิเคราะห์เรื่องเด็กชายปลาบู่

คือไม่เก่งนักนะคะเรื่องนี้ แต่ว่ามีบางอย่างที่ต้องการที่แลกเปลี่ยนความคิดบ้างหลังจากได้อ่าน เว็ปนี้ในบางตอน ซึ่งเราไม่ตั้งอยู่ในความประมาทนั้นดีที่สุดค่ะ และขอขอบพระคุณ คุณลุงและทางเว็ป นะคะที่ช่วยนำมาเผยแพร่และช่วยวิเคราะห์ให้กระจ่างขึ้นค่ะ
คือเรื่องเขื่อนพังกับเรื่องของพระศรีอารย์นั้นยังไม่ขอออกความเห็นในเวลานี้นะคะเพียงแต่บอกได้ว่าเคยได้มีโอกาสได้เห็นงานงานหนึ่งซึ่งมีบุรุษลักษณะผอมบางศรีษะโล้นที่เรียกว่า องค์ท่าน ได้มีการคัดเลือก บุคคลที่มีบารมีตั้งแต่สูงสุดไล่ๆลงมา คือเมื่อกระโดดขึ้นไปแล้วบุคคลไหนมีก้อนหยกตกที่พื้นชิ้นใหญ่สุดไปถึงชิ้นน้อยลงมา ทั้งหมดน่าจะเป็น7 นารีน่ะค่ะ ส่วนจะทำอย่างไร อะไร นั้นไม่สามารถที่จะบอกได้ค่ะ
ส่วนที่จะเปิดเผยได้คือเหตุการณ์ปัจจุบันนี้คือ อย่างที่พระอาจารย์รัตน์ท่านกล่าวไว้ในหน้าที่1ว่ามีแสงสีดำหรืรังสีที่ไม่ดีพุ่งลงมาที่โลกเราน่ะค่ะเป็นสิ่งที่พ้องกับที่ "น้ำหวาน" เคยนิมิตไว้ เมื่อครั้งปลายๆออกพรรษาที่แล้ว(2553)ตอนนั้น น้ำหวานถูกยั่วยวนหลอกล่อ(โดยพลังร้าย)จนจิตที่เคยฝึกมาอย่างดีมากๆ(ฌานสมาบัติ, ถอดจิต)กลายเป็นคนที่จิตตกมากถึงมากที่สุด ยิ่งตกเท่าไหร่ก็ยิ่งโดนดึงให้ยิ่งตกลงไปอีกมีความรู้สึกว่าเหมือนจะตาย จนวันหนึ่งน้ำหวานยอมจำนนแต่โดยดี คิดว่า อ่ะตายก็ตายเหนื่อยมากๆแล้ว ที่จะสู้กับสิ่งที่เราไม่รู้ว่าเป็นอะไร ถึงแม้จะมีคนยื่นมือเข้ามาช่วยก็โดนทำร้ายจากสิ่งที่มองไม่เห็นไปอย่างสะบักสะบอม แต่ก็มีอะไรๆ(พลังที่ดีๆ)ที่ดึงน้ำหวาน บอกในนิมิตไว้ว่ายังตายไม่ได้นะ ทีนี้ไอ้ความที่ น้ำหวาน มุ่งมั่นว่าจะไม่เกิดบนโลกที่สับสนวุ่นวายนี่อีกแล้ว น้ำหวานจึงไปหา มนต์ คือบทสวดมนต์มาสวดซึ่งหวังอย่างยิ่งว่าในเวลาที่น้ำหวานเหลืออยู่บนโลกมนุษย์นั้นจะทำให้ตนเองหลุดจากบ่วงกรรมต่างๆได้ บทแล้วบทเล่า บทไหนๆใครว่าดีก็เอามาสวดก็ดีในช่วงเวลาสวด แม้จะสวดถึงสอง สามชั่วโมงก็ตามน่ะค่ะ พอจบบทสวดก็มีอาการเหมือนจะตายอีก น้ำหวานก็คิดว่าตายแน่แล้ว ทีนี้ถ้าตายแน่ๆทำไมถึงมีนิมิตจากครูบาอาจารย์และพระชื่อดังในอดีตมาช่วยแนะแนว เช่นท่านมานิมิตว่า ให้ปิดช่องโหว่ข้างบนนะ บทสวดต่างๆที่น้ำหวานสวดๆไปทั้งหมดทุกๆบทสวดนั้นมันเป็นเพียงกำแพงรอบๆสูงๆกันภัยได้รอบๆเท่านั้น ก็จึงลองท่องโพธิบาทเน้นๆที่ว่า อากาศรัสมิง พระพุทธคุณนัง....ก็ ครูบาอาจารย์ท่านก็นิมิตอีกว่าข้างบนยังมีช่องโหว่ให้ ภัยที่เป็นแสงสีดำจากฟากฟ้าเข้ามาทำร้ายได้อีก น้ำหวาน นิมิตอย่างนั้นแต่แรกๆก็แปลไม่ออก ก็เลยลอง อธิษฐานว่าหากที่เราเป็นอยู่นี้ไม่ใช่กรรมเก่า ล่ะก็ ก็ขอให้เจอทางสว่างและเจอพระคาถาที่จะช่วยเราได้ เมื่ออธิฐานอย่างนั้นเสร็จก็จึงเจอพระคาถา อาการะวัตตาสูตร และก็สวดมาหนึ่งปีเต็ม จึงได้อีกบทมาเสริมค่ะ คือ บทขอขมากรรม บทกราบ, อาราธนา,ขอขมาพระรัตนตรัย,อารธนาศีล สมาทานศีล รักษาศีลอย่างเคร่งครัด และบทพาหุงและบท อโหสิกรรมต่อทุกๆท่าน ล่าสุดก้อได้คาถาหัวใจพระพุทธเจ้าชนะมาร แต่ที่สุดของทุกๆคาถานั้นคือ พระอาการะวัตตาสูตร เมื่อสวดบทนี้แล้วก็ได้นิมิตรว่ามีกำแพงล้อมรอบตนเองในทุกๆด้าน และเห็นวิมาณตนเองที่จะพังมิพังแหล่ กลายเป็นวิมาณสีเงินที่สร้างรั้วรอบขอบชิดหรือใหญ่แค่ไหนก็ได้ตามแต่จิตจะคิด และที่ปีติมากที่หลังจากสวดไประยะหนึ่งนั้นก็มีวิญญานที่ค้างในที่ต่างๆทะยอยกันมาขอส่วนบุญค่ะ ส่วนที่น้ำหวานเคยติดๆขัดๆหลายอย่าง เช่นขายบ้านไม่ได้มาหลายปีเพราะวิญญานเก่าที่ค้างอยู่ข้างบ้าน(เขามาบอกในนิมิต)ก็เลยลองแผ่เมตตา จากการสวดพระสูตรนี้ไปให้เขาไม่กี่วันมีคนโทรมาขอซื้อบ้านและจัดการทุกอย่างเสร็จสับในไม่กี่วัน น้ำหวานบอกว่า ก่อนหน้านั้นถอดใจแล้วเรื่องขายบ้านเก่าๆนั้นแล้วน่ะเพราะขึ้นชื่อว่า ข้างบ้านมีคนผูกคอตายและข้างบ้านอีกหลายๆหลังก็ช่วยกันกระพือข่าว และบอกกับคนที่จะมาซื้อบ้านให้หน้ากลัวเข้าไว้น่ะ ยากนักที่จะขายได้แต่ น้ำหวาน ก็พะยายามที่จะประกาศขายมาถึงเจ็ดปีเต็ม น้ำหวาน ดีใจมากที่ขายบ้านเก่าๆได้ แต่ที่ดีใจมากกว่านั้นคือว่า มันเป็นบทพิสูจน์ถึงการแก้ไขปัญหาต่างๆในชีวิติเราด้วยการทำบุญใหญ่แบบที่ไม่ต้องใช้เงินซื้อ เมื่อแรกๆที่ น้ำหวาน เริ่มสวดบทนี้ ก็ติดๆขัดๆในตอนแรกๆเพราะจิตที่ขึ้นๆลงๆ เมื่อจิตตกลง แสงสีดำก็จะเข้าไปเกาะในตัวพอจิตดี ไอ้แสงสีดำที่เกาะตัวก็พุ่งออกไป จนเมื่อไม่นานน้ำหวานได้เจอพระครูบาอาจารย์ซึ่ง ท่านได้โน้มนำให้เราระลึกถึงองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกเช้า และรักษาศีลให้บริสุทธิ์ และก็แผ่เมตตาให้ตัวเองและแผ่ให้เทพที่รักษาตัวเราบ้านเราและสิ่งที่จะเป็นปัญหากะเรา หรือพวกเราก็ย่อมทำได้ ปาฏิหารย์เกิดขึ้นได้จริงหากมีศรัทธานะคะ น้ำหวานบอกค่ะ (เช่นจะเกิดที่เขื่อนเราก็สวดบทสูงสุดนี้แล้วช่วยกันแผ่บุญให้กับเทพและวิญญานเก่าที่ค้างที่นั่น)จากหนักก็เป็นเบา จากน้อยก็หายไปเลย จะสามารถเจอทางออกจนได้นะคะ แหละช่วยกันแผ่ให้องค์พระมหากษัตริย์ในอดีตแทบทุกพระองค์ องค์พระนเรศวร ซึ่งท่านทรงห่วงใยเมืองไทยประเทศอย่างจริงจังไม่แพ้องค์พระมหากษัตริย์องค์ปัจจุบันเมื่อแผ่แล้วให้ท่านชี้ทางออกให้ ก็ช่วยได้มากนะคะ
ปิระมิตร เข้าใจว่าเป็นรูปหลังแบ๊งดอลล่าห์น่ะค่ะลองวิเคราะห์ดูนะคะ ปิรมิตเป็นที่เก็บพระศพของกษัตริย์โบราณของอียิปต์นะคะ

 

ถูกต้องแล้วครับ ปัจจุบันขณะ ครับ
อย่าไปกังวลกับอดีตที่ผ่านมาแล้ว หรือในอนาคตที่ยังมาไม่ถึง

 

เมื่อวานรีบพิมพ์ไปนิดนึงค่ะต้องไปทำภาระกิจส่วนตัว แต่ก็สงสารคนที่วิตกกังวลกับเรื่องการทำนายนี้มากๆนะคะ รวมถึงปีที่ผ่านมาด้วย เท่าที่ทราบมานะคะ ว่าเวลาการทำนายในสิ่งที่จะเกิดแบบนี้ๆ คนเกิดเมื่อไหร่ คนจะตายเมื่อไหร่ เหตุการณ์นั้นๆจะจบเมื่อไหร่นั้น จะพูดได้ชัดเจนแม่นยำนั้น ก็จะเป็นจากคำพูดของคนที่ ถอดจิต ออกไปเสมอๆ แต่ถึงท่านทราบแล้วว่าเหตุจะเกิดจะเป็นเมื่อไหร่หากเหตุการณ์นั้นๆจะเกิดขึ้นจริงในเวลาไหนนั้น ถึงพูดออกไปจริงๆ หากคนต้องรับกรรมนั้นๆก็หลีกเลี่ยงไปอย่างไรก็ไม่พ้น และ คนที่ไม่ต้องรับกรรมอย่างนั้นแม้อยู่ในที่เกิดเหตุนั้นๆก็ยังไม่เป็นไรนะคะ เราก็ต้องปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาตินะคะ หากไม่ถึงคราวอะไรๆก็จะสับหลีกให้ท่านเองแต่เราก็ไม่ประมาท คือแทนที่ท่านจะกังวลหรือกลัวในสิ่งที่ยังไม่เกิด สู้เราใช้เวลานั้นมาทำอย่างไรให้เราไปแบบดีๆ จิตยังดีอยู่ คือมีสติ ไม่ประมาท สวดมนต์ ทำสมาธิ ถ้ามันยังไม่เกิดในตอนนี้มันก็เป็นเรื่องดีที่ราสามารถที่จะมีเวลาได้ปฏิบัติจิตได้มากขึ้นนะคะ อย่าไปกังวลกับมันมากเลยค่ะ อย่าไปขวนขวายกันเลยนะคะว่าจะเป็นจะเกิดเมื่อไหร่เปลืองเงินเปลืองเวลาเปล่าๆค่ะ ท่านผู้รู้ที่รู้จริงๆน่ะ หากท่านรู้ท่านก็ไม่สามรถที่จะบอกกับท่านได้ว่าจะเกิดในเวลาที่แน่นอนได้เมื่อไหร่หรอกนะคะ อันนี้คิดว่าเป็นการคาดเดาจากคำพูดของอาจจะเป็นผู้รู้ซึ่งเสียชีวิติไปนานแล้วซึ่งหากไม่ได้มีการบันทึกไว้ในเวลานั้นๆ เพียงแค่พ้นมาสักปีสองปีน่ะมันก็จำได้คลาดเคลื่อนได้แล้วนะคะ ส่วนไอ้ที่เกิดขึ้นมาแล้วเนี่ยะที่เวลามันตรงน่ะเพราะมันเกิดแล้วค่ะ ไงๆเราก็ไม่ประมาทที่จะทำจิต และไงๆเราก็ไม่ไปหวาดหวั่นกับคำเตือนใดๆมากจนเกินไปและเราก็ไม่ประมาทหรือไม่ปรามาส หรือลบหลู่อะไรทำนองนั้น เมื่อมีคนเตือนเราก็ยินดีรับมาพิจรณา และ เพื่อจะได้เป็นสิ่งเตือนใจว่าเราควรเริ่มปฏิบัติกันอย่างจริงๆจัง เสียทีนะคะ อย่างเช่นยกตัวอย่างของพุทธทำนายขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าในบางตอน...ที่ท่านทำนายไว้กับพระพุทธสาวก เกี่ยวกับ นิมิตบางอย่าง ก็เป็นการทำนายโดยที่ยังไม่ได้จดหรือบันทึกเอาไว้ในเวลานั้นหรือขณะนั้นเป็นเพียงพระพุทธสาวกซึ่งท่านก็เป็นผู้รู้อีกเช่นกันท่านอาจเป็นองค์ที่มาถ่ายทอดต่อๆกันมา ในเวลาที่จารึกพระไตรปิฏก และก็ทำสังคยนากันหลายต่อหลายครั้งว่าถูกต้องไหมนั้น บางครั้งบางเหตุการณ์ก็ไม่สามารถที่จะระบุออกไปให้พวกเราได้ทราบแน่นอนชัดเจน ไม่ใช่ท่านไม่รู้นะคะ ท่านรู้แต่ท่านบอกไม่ได้ (เช่นท่านใช้คำว่า กึ่งพุทธกาล)เราคนธรรมดาก็ต้องมาแปลอีกใช่ไหมคะ ท่านทั้งหลายเหล่านั้น ดิฉันคิดว่าท่านก็คงจะทำไปตามกฏ ที่เรียกว่า กฏแห่งกรรมน่ะค่ะ เหมือนที่คนเรามีกฏหมายไว้ทำไม เราก็ต้องปฏิบัติตาม อย่างใดก็อย่างนั้นน่ะค่ะ...

 

ลงดราม่ากันอีกแล้วนะเธอว์

ปีใหม่แตกแน่!! | ดราม่าเอยจงซับซ้อนยิ่งขึ้น

 

เฮ้อ ทีนี้เรื่องเด็กชายปลาบู่ คงจะได้เงียบลงไปบ้าง หมั่นปฏิบัติและสร้างบุญสร้างกุศลกันดีกว่านะครับ หนทางที่แท้จริงและแน่นอนด้วยครับ ​

 

ถ้าเรื่องเด็กชายปลาบู่ทำให้คนตระหนักถึงภัยพิบัติและหาความรู้ก็จะเป็นประโยชน์ แต่ถ้ามีใครทำเพื่อแสวงหารายได้บำรุงตนก็จะไม่ดี ถ้าเป็นไปเพื่อศาสนาและช่วยคนก็จะดีมากๆ

 

ทางที่ดีใครที่วิตกจริตเยอะก็หันมาปฏิบัติธรรมให้เยอะ เพราะคนที่ปลงตกได้ก็พัฒนาจิตให้สูงยิ่งๆขึ้นอีก ทำบุญรักษาศีลภาวนาเพิ่มขึ้นก็ได้บารมีเพิ่ม รังสีบุญจะได้คุ้มครองตัว เราทำได้นิดหน่อยเองก็พยายามทำมากขึ้นทุกวัน อาศัยการพูดธรรมะให้คนฟังบ่อยๆ อะไรที่ตัวเองทำได้ก็สอนเขาได้ แต่ไม่รู้ในใจเขารำคาญเราหรือเปล่า ช่างหัวมัน เราเอาบุญอย่างเดียว