พุทธานุภาพ และอานิสงค์บทสวดพระมหาจักรพรรดิ...พิสูจน์ได้ด้วยตนเอง

ในห้อง 'บทสวดมนต์ - คาถา' ตั้งกระทู้โดย ลุงไชย, 31 ธันวาคม 2011.

  1. ลุงไชย

    ลุงไชย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    645
    ค่าพลัง:
    +2,436
    บทสวดพระมหาจักรพรรดิ

    บทสวดพระคาถามหาจักรพรรดินี้ หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ ได้แต่งขึ้นเพื่อเป็นการสวดบูชาพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระโพธิสัตว์เจ้า พระอรหันตาขีณาสพเจ้า พระอริยสงฆ์และพระสงฆ์สาวกทั้งมวล เป็นการสวดบูชาพระธรรมเจ้าทั้ง 5 พระองค์ในภัทรกัปป์ อีกทั้งเป็นการอัญเชิญกำลังแห่งพระพุทธเจ้าจักรพรรดิ กำลังแห่งโพธิญาณของพระโพธิสัตว์เจ้าทุกๆพระองค์ นับตั้งแต่อดีต ปัจจุบัน และอนาคต น้อมนำกำลังของเทพ พรหม พระอริยะเจ้าทั้งหลาย อาราธนารวมเข้าที่กาย ใจ จิต วิญญาณของผู้สวด

    เป็นการอาราธนาบารมีแห่งคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ครูบาอาจารย์ เทพ พรหม สิ่งศักดิ์สิทธิ์เข้าสู่ตัว เพื่อคุ้มครองป้องกันภัย และเสริมโชคลาภให้แก่ผู้สวด เนื่องจากในบทสวดมีการระลึกถึงพระสีวลี ผู้ซึ่งเป็นอสีติมหาสาวกเอตทัคคะในทางผู้มีลาภมากรวมอยู่ด้วย
    การสวดครั้งหนึ่ง มีอานิสงค์แผ่ไปทั่วทั้งจักรวาลตลอดสามแดนโลกธาตุ สามารถแผ่ส่วนบุญปรับภพภูมิแก่สรรพสัตว์ ตลอดจนเทวดาประจำตัว ญาติมิตร ครอบครัว เจ้ากรรมนายเวร และหากนำบทสวดนี้ไปสวดหรือแผ่ไปในนรก ไฟนรกจะดับชั่วขณะ นอกจากนี้ การสวดบทพระคาถามหาจักรพรรดินี้ ยังเป็นการสร้างกำแพงแก้วคุ้มกันตัวแก่ผู้สวดอีกด้วย

    บทสวดพระคาถามหาจักรพรรดินี้มีพลังงานมากมาย เหมาะอย่างยิ่งที่จะใช้สวดก่อนหรือระหว่างการนั่งสมาธิกัมมัฎฐาน เพราะจะก่อให้เกิดกระแสพุทธานุภาพครอบคลุมการปฏิบัติภาวนาของเรา และหากได้สวดอยู่เป็นประจำ จะสามารถอธิษฐานเรื่องราวใดที่มีข้อติดขัด เรื่องร้ายทั้งหลาย ทำให้ผ่านไปได้ด้วยดี นำมาซึ่งความเจริญแก่ผู้สวดทั้งในทางโลกและทางธรรม


    คำอัญเชิญภพภูมิ


    ข้าพเจ้าขอตั้งสัจจะอธิษฐาน ขอกราบอาราธนาเมตตาบารมีกำลัง หลวงปู่ทวดหลวงปู่ดู่เป็นที่สุด ขอหลวงปู่ได้โปรดมีเมตตา อารธนาบารมีรวมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตั้งแต่สมเด็จองค์ปฐมจนถึงองค์ปัจจุบันบรมมหาจักรพรรดิ บารมีรวมพระปัจเจกพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์ พระธรรมและพระอริยสงฆ์เจ้าทั้งหลาย ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน และอนาคต โดยมีบารมีรวมหลวงปู่ทวด หลวงปู่ดู่เป็นที่สุด และหลวงตาม้าเป็นต้น

    ขอบารมีหลวงปู่ได้โปรดเมตตาน้อมนำภพภูมิต่างๆ ทั้งหลายในทั่วทั้ง 3 แดนโลกธาตุอันประกอบไปด้วยเทพ 6 ชั้น พรหม 20 ชั้น เทพพรหมทุกชั้นฟ้ามหาสมุทรโดยทั่วทั้งหมื่นแสนโกฎิจักรวาล เทพพรหมเทวาที่เกี่ยวพันกับหลวงปู่ทวด หลวงปู่ดู่ หลวงตาม้าเทพพรหมเทวาที่เกี่ยวพันเกี่ยวข้องกับข้าพเจ้า ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและอนาคต ท้าวจตุมหาราชทั้ง 4 พระยายมราชพร้อมด้วยบริวารทั้งหมด พระศรีสยามเทวาธิราชทุกๆพระองค์ วีรบุรษและวีรสตรีทั้งหลาย ที่คอยปกป้องรักษาแผ่นดินสยาม ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองทุกๆจังหวัด พระเสื้อเมือง พระทรงเมือง พระกาฬชัยศรี พระราหูวราหก เจ้ากรุงพาลี แม่พระธรณี แม่พระคงคา แม่พระโพสพ พระเพลิง พระพาย พระพิรุณ พระยายมราชพร้อมบริวาร พญาครุฑ พญานาคพร้อมด้วยบริวาร กุมภัณฑ์ คนธรรณ์ พระฤาษีและดาบสทั้งหลาย ชาวเมืองลับแล โอปาติกะทั้งหลาย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่ข้าพเจ้าได้เคยไปอธิษฐานไว้ ขอหลวงปู่ได้โปรดเมตตาน้อมนำท่านทั้งหลายเหล่านี้ มาร่วมสวดบทพระมหาจักรพรรดิพร้อมกัน เพื่อเพิ่มกำลัง ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้ด้วยเถิด


    บทบูชาพระ

    พุทธัง ชีวิตตัง เมปูเชมิ

    ธัมมัง ชีวิตตัง เมปูเชมิ

    สังฆัง ชีวิตตัง เมปูเชมิ


    กราบพระ ๖ครั้ง

    พุทธัง วันทามิ(กราบ)

    ธัมมัง วันทามิ(กราบ)

    สังฆัง วันทามิ(กราบ)

    ครูอุปัชฌาย์อาจาริยคุณัง วันทามิ(กราบ)

    มาตาปิตุคุณังวันทามิ(กราบ)

    พระไตรสิกขาคุณัง วันทามิ(กราบ)

    บทสมาทานศีล๕

    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (๓ ครั้ง)

    พุทธัง สรณัง คัจฉามิ

    ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ

    สังฆัง สรณัง คัจฉามิ

    ทุติยัมปิ พุทธัง สรณังคัจฉามิ

    ทุติยัมปิ ธัมมัง สรณังคัจฉามิ

    ทุติยัมปิ สังฆัง สรณังคัจฉามิ

    ตะติยัมปิ พุทธัง สรณังคัจฉามิ

    ตะติยัมปิ ธัมมัง สรณังคัจฉามิ

    ตะติยัมปิ สังฆัง สรณังคัจฉามิ
    <O:p</O:p

    ปาณาติปาตา เวรมณีสิกขาปะทังสมาธิยามิ

    อทินนาทา เวรมณีสิกขาปะทังสมาธิยามิ

    อพรัมจริยา เวรมณีสิกขาปะทังสมาธิยามิ

    มุสาวาทา เวรมณีสิกขาปะทังสมาธิยามิ

    สุราเมรยะ มัชชปมาทัฎฐานา เวรมณีสิกขาปะทังสมาธิยามิ
    <O:p</O:p

    อิมานิปัญจสิกขา ปทานิ สมาธิยามิ (๓ครั้ง)

    สีเลนะ สุคะติง ยันติ สีเลนะโภคะสัมปทา

    สีเลนะ นิพพุติง ยันติ ตัสมา สีลัง วิโสธะเย

    บทอาราธนาพระ

    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (๓ ครั้ง)

    พุทธัง อาราธนานังกะโรมิ

    ธัมมัง อาราธนานังกะโรมิ

    สังฆัง อาราธนานังกะโรมิ

    คาถาหลวงปู่ทวด

    น้อมระลึกถึงหลวงปู่ทวดแล้วว่าคาถาดังนี้
    นะโม โพธิสัตโต อาคันติมายะ อิติภะคะวา (๓ครั้ง)

    คาถาหลวงปู่ดู่
    <O:p
    น้อมระลึกถึงหลวงปู่ดู่แล้วว่าคาถาดังนี้
    นะโม โพธิสัตโต พรหม ปัญโญ (๓ครั้ง)

    บทขอขมาพระรัตนตรัย

    โยโทโส โมหะจิตเต นะพุทธัสมิง ปาปะกะโตมะยา
    ขะมะถะเม กะตัง โทสัง สัพพะปาปัง วินัสสันตุ
    <O:p</O:p

    โยโทโส โมหะจิตเต นะธัมมัสมิง ปาปะกะโตมะยา
    ขะมะถะเม กะตัง โทสัง สัพพะปาปัง วินัสสันตุ

    โยโทโส โมหะจิตเต นะสังฆัสมิง ปาปะกะโตมะยา
    ขะมะถะเม กะตัง โทสัง สัพพะปาปัง วินัสสันตุ

    บทสวดมหาจักรพรรดิ

    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ (๓ ครั้ง)

    นะโมพุทธายะ พระพุทธไตรรัตนญาณ

    มณีนพรัตน์ สีสะหัสสะสุธรรมา

    พุทโธ ธัมโม สังโฆ ยะธาพุทโมนะ

    พุทธะบูชา ธัมมะบูชา สังฆะบูชา

    อัคคีธานัง วะรังคันธัง สีวลีจะมหาเถรัง

    อะหังวันทามิ ทูระโต อะหังวันทามิ ธาตุโย

    อะหังวันทามิ สัพพะโส

    พุทธะ ธัมมะ สังฆะ ปูเชมิ


    (สวดตามกำลังวัน ของวันที่สวด อาทิตย์ ๖, จันทร์ ๑๕, อังคาร ๘, พุธ ๑๗, พฤหัส ๑๙, ศุกร์ ๒๑, เสาร์ ๑๐)


    คำอธิษฐานแผ่บุญหลังสวดมนต์(20.30 น.)


    หลวงตานำลูกศิษย์สัพเพ น้อมนำบารมีรวมหลวงปู่ดู่ ส่งพลังงานบุญไปช่วยเหลือภพภูมิต่างๆ 3 ครั้ง ดังนี้

    ครั้งที่ 1 การอธิษฐานสัพเพให้สามแดนโลกธาตุ

    ข้าพเจ้าขออาราธนาบารมีรวมแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตั้งแต่สมเด็จองค์ปฐมจนถึงองค์ปัจจุบันบรมมหาจักรพรรดิ บารมีรวมพระปัจเจกพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์ พระธรรม พระอริยะสงฆ์เจ้าทั้งหลาย ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน และอนาคต โดยมีบารมีรวมหลวงปู่ทวด หลวงปู่เป็นที่สุด และหลวงตาม้าเป็นต้น

    ขอหลวงปู่ได้โปรดรวมบารมีทั้งหมดทั้งมวลนี้ น้อมส่งไปยังสามแดนโลกธาตุ มีอบายภูมิเบื้องล่าง มนุษย์ภูมิเบื้องกลาง เทวโลกและพรหมโลกเบื้องสูง ส่งให้ทุกรูปทุกนามที่มีกระแส สามารถรับพลังงานบุญหลวงปู่ได้ ขอเรียนเชิญอนุโมทนารับบุญที่ส่งให้นี้ด้วยเทอญ

    สัพเพพุทธา สัพเพธัมมา สัพเพสังฆา

    พะลัปปัตตา ปัจเจกา นัญจะยังพลัง

    อรหันตานัญ จะ เตเชนะรักขัง พันธามิสัพพะโส

    ( สวด ๕ จบ)

    (ขณะที่สวดบทสัพเพฯ ให้กำหนดเห็นเป็นภาพพลังงานบุญ แผ่ออกจากกายหลวงปู่(หลวงปู่ทวด หรือหลวงปู่ดู่) ส่งผ่านมาที่ตัวเรา แล้วให้เราน้อมจิตแผ่บุญนั้นออกไปยังเป้าหมายที่กำหนด)

    พุทธัง อธิษฐามิ ธัมมัง อธิษฐามิ สังฆัง อธิษฐามิ

    (ให้อธิษฐานจิต แล้วน้อมนำพลังงานแผ่ออกไป ทั้งสามโลกธาตุ ภพภูมิทั้งหมดทั้งมวลบิดามารดา ญาติ เจ้ากรรมนายเวร ฯลฯ และส่งวิญญาณทั้งหลาย)

    <O:p</O:p

    ครั้งที่ 2 การอธิษฐานสัพเพแด่องค์บูรพมหากษัตริย์ไทย ให้แด่ผู้สร้างคุณประโยชน์แก่พระพุทธศาสนา แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ห้ว ให้แก่ประเทศไทย และทั่วโลก

    ข้าพเจ้าขออาราธนาบารมีรวมแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตั้งแต่สมเด็จองค์ปฐม จนถึงองค์ปัจจุบันบรมมหาจักรพรรดิ์ บารมีรวมพระปัจเจกพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์ พระธรรมและพระอริยสงฆ์เจ้าทั้งหลาย ตั้งแต่อดีต จนถึงปัจจุบัน และอนาคต โดยมีบารมีรวมหลวงปู่ทวด หลวงปู่ดู่เป็นที่สุด และหลวงตาม้าเป็นต้น

    ขอหลวงปู่ได้โปรดรวมบารมีทั้งหมดทั้งมวลนี้ น้อมส่งไปยังองค์บูรพกษัตริย์ไทยทุกๆพระองค์ ผู้ที่ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาทุกท่าน ตั้งแต่อดีต ปัจจุบัน และอนาคต ถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้แก่ประเทศชาติ (กำหนดภาพเป็นแผนที่ประเทศไทย) ให้แก่โลก(กำหนดภาพเป็นแผนที่โลกหรือลูกโลก)

    สัพเพพุทธา สัพเพธัมมา สัพเพสังฆา

    พะลัปปัตตา ปัจเจกา นัญจะยังพลัง

    อรหันตานัญ จะ เตเชนะรักขัง พันธามิสัพพะโส
    ( สวด ๕ จบ)

    (ขณะที่สวดบทสัพเพฯ ให้กำหนดเห็นเป็นภาพพลังงานบุญ แผ่ออกจากกายหลวงปู่(หลวงปู่ทวด หรือหลวงปู่ดู่) ส่งผ่านมาที่ตัวเรา แล้วให้เราน้อมจิตแผ่บุญนั้นออกไปยังเป้าหมายที่กำหนด)

    พุทธัง อธิษฐามิ ธัมมัง อธิษฐามิ สังฆัง อธิษฐามิ
    (ให้อธิษฐานจิต แล้วน้อมนำพลังงานแผ่ออกไป )


    ครั้งที่ 3 การอธิษฐานสัพเพ ขอหลวงปู่รวบรวมบารมี 10 ของเรา เพื่อนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวม

    ข้าพเจ้าขออาราธนาบารมีรวมแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตั้งแต่สมเด็จองค์ปฐม จนถึงองค์ปัจจุบันบรมมหาจักรพรรดิ บารมีรวมพระปัจเจกพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์ พระธรรมและพระอริยะสงฆ์เจ้าทั้งหลาย ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน และอนาคต โดยมีบารมีรวมหลวงปู่ทวด หลวงปู่ดู่เป็นที่สุด และหลวงตาม้าเป็นต้น

    ขอหลวงปู่ได้โปรดเมตตารวมบารมีที่ข้าพเจ้าได้เคยสั่งสมอบรมมา จากอดีตชาติจนถึงปัจจุบันชาติ ได้แก่ ทาน ศีล เนกขัมมะ ปัญญา วิริยะ ขันติ สัจจะ อธิษฐาน เมตตา อุเบกขา เพื่อนำกำลังทั้งมวลนี้ มาเป็นประโยชน์ในปัจจุบัน และข้าพเจ้าขอน้อมถวายกำลังบารมี 10 นี้ เป็นพุทธะบูชา มหาเตชะวันโต ธัมมะบูชา มหาปัญโญ สังฆะบูชา มหาโภคะวะโห

    ขอหลวงปู่ได้โปรดเมตตาน้อมนำบารมีทั้งหมดทั้งมวลนี้ แผ่มายังข้าพเจ้าเป็นเท่าทวีคูณ เพื่อที่ข้าพเจ้าจะได้นำมาเป็นกำลังในการช่วยชาติ ศาสนา ราชบัลลังก์ หมู่คณะ สัตว์ และมนุษย์ทั้งมวล


    <O:p</O:p
    สัพเพพุทธา สัพเพธัมมา สัพเพสังฆา

    พะลัปปัตตา ปัจเจกา นัญจะยังพลัง

    อรหันตานัญ จะ เตเชนะรักขัง พันธามิสัพพะโส

    ( สวด ๕ จบ)

    (ขณะที่สวดบทสัพเพฯ ให้กำหนดเห็นเป็นภาพพลังงานบุญ แผ่ออกจากกายหลวงปู่(หลวงปู่ทวด หรือหลวงปู่ดู่) ส่งผ่านมาที่ตัวเรา แล้วให้เราน้อมจิตแผ่บุญนั้นออกไปยังเป้าหมายที่กำหนด)

    พุทธัง อธิษฐามิ ธัมมัง อธิษฐามิ สังฆัง อธิษฐามิ
    (ให้อธิษฐานจิต แล้วน้อมนำพลังงานแผ่ออกไป )



    “การสวดบทพระคาถามหาจักรพรรดิคือการชาร์จพลังงาน การสัพเพฯ คือการแผ่กระจายพลังงานออกไป”

    จากนั้นให้อธิษฐานขอหลวงปู่ท่านอีกครั้ง ขอท่านตรงๆ ง่ายๆ แต่ต้องขอในสิ่งที่เป็นประโยชน์ และอธิษฐานว่า “...ข้าพเจ้าขออาราธนาพระบารมีหลวงปู่ดู่ด้วยกำลังแห่งพระมหาจักรพรรดิขอสิ่งที่ข้าพเจ้าอธิษฐานนี้ สำเร็จเป็นจริงโดยฉับพลันทันใจทุกประการ ด้วยอิมังสัจจะวาจังอธิษฐามิ พุทธังอธิษฐามิ ธัมมังอธิฐามิ สังฆังอธิษฐามิ...”

    ................................................................................................................................................................

    ที่มา ส่วนใหญ่นำมาจากบทสวดมนต์ ของวัดถ้ำเมืองนะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 9 มกราคม 2012
  2. ลุงไชย

    ลุงไชย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    645
    ค่าพลัง:
    +2,436
    คำอธิษฐานในตอนเช้า (สามารถนำไปใช้ในตอนสองทุ่มครึ่งได้เช่นกัน)

    เริ่มต้นด้วยการสวดบทพระคาถามหาจักรพรรดิทันทีที่รู้สึกตัวตื่น จากนั้น ลุกขึ้น ล้างหน้า และตั้งจิตสวดบทพระคาถามหาจักรพรรดิในตอนเช้า 1, 3, 9 จบ หรือจะสวดตามกำลังวันก็ได้ หลังจากสวดเสร็จแล้วให้อธิษฐานแผ่บุญก่อน แล้วสัพเพฯ ไป 5 รอบเวลาสัพเพฯ ให้นึกถึงคนที่เราต้องการแผ่บุญไปให้ครบ หากมีมาก จะสัพเพฯ มากกว่า 5 รอบก็ได้ หรือให้นึกภาพรวมของกลุ่มที่เราต้องการจะแผ่บุญไป อย่างเช่นเรานึกถึงแผนที่ประเทศไทย ก็จะได้ทั้งหมด แม้แต่เทวดาก็จะได้ด้วย จากนั้นให้อธิษฐานรวมบุญดังนี้


    ข้าพเจ้าขอตั้งสัจจะอธิษฐาน สิ่งที่ข้าพเจ้าอธิษฐาน เป็นการอธิษฐานเพื่อชาติ ศาสนา ราชบัลลังก์ หมู่คณะ สัตว์ และมนุษย์ทั้งหมดที่ยังวนเวียนว่ายตายเกิด

    ข้าพเจ้าขออาราธนาบารมีกำลังองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตั้งแต่สมเด็จองค์ปฐม จนถึงองค์ปัจจุบันบรมมหาจักรพรรดิ ขอบารมีรวมพระปัจเจกพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์ พระธรรมและพระอริยะสงฆ์เจ้าทั้งหลาย ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน และอนาคต บารมีรวมหลวงปู่ทวด หลวงปู่ดู่ ตลอดถึงบารมีที่ข้าพเจ้าเคยได้สั่งสมอบรมมา จากอดีตชาติจนถึงปัจจุบันชาติ ได้แก่ ทาน ศีล เนกขัมมะ ปัญญา วิริยะ ขันติ สัจจะ อธิษฐาน เมตตา อุเบกขา

    ขอหลวงปู่ได้โปรดเมตตา น้อมนำบารมีทั้งหมดทั้งมวลนี้ แผ่มายังข้าพเจ้าเพื่อที่ข้าพเจ้าจะได้นำมาใช้ให้เป็นประโยชน์ในปัจจุบัน.....(อธิษฐานเอาตามปรารถนา)

    ข้าพเจ้าขออนุโมทนาบุญกุศลทั้งหมดทั้งมวล แห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตั้งแต่สมเด็จองค์ปฐมถึงองค์ปัจจุบันบรมมหาจักรพรรดิ พระปัจเจกพุทธเจ้าเพระโพธิสัตว์ พระธรรมและพระอริยะสงฆ์เจ้าทั้งหลาย หลวงปู่ทวด หลวงปู่ดู่ พระสยามเทวาธิราช หลวงตาม้า และผู้สวดบทพระคาถามหาจักรพรรดิทั่วทั้งสามแดนโลกธาตุ นับตั้งแต่อดีต ปัจจุบัน และอนาคต

    ข้าพเจ้าขออธิษฐาน ขออาราธนาบารมีกำลังแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสมเด็จองค์ปฐม สถิตเหนือเศียรเกล้าของข้าพเจ้า พระเดชพระคุณหลวงปู่ทวดอยู่เบื้องซ้าย พระเดชพระคุณหลวงปู่ดู่อยู่เบื้องขวา ขอให้กายทิพย์ของข้าพเจ้าสวดพระคาถามหาจักรพรรดิอยู่ตลอดเวลา ทุกลมหายใจเข้าออกของข้าพเจ้า ขอเป็นการสัพเพฯ แผ่กุศลผลบุญไปทั่วทั้งสามแดนโลกธาตุอย่างไม่มีประมาณ แผ่ให้กับเจ้ากรรมนายเวร และผู้ที่เกี่ยวข้องทุกลมหายใจเข้าออก

    ข้าพเจ้าขออาราธนาบารมีหลวงปู่ดู่ สิ่งใดที่บังเกิดกับข้าพเจ้า ไม่ว่าจะเป็นทางตา หู จมูก ปาก ลิ้น กาย และใจ ขอให้ข้าพเจ้ารู้สิ่งนั้นตามความเป็นจริงทุกประการ

    ขอให้ข้าพเจ้าพบแต่ความดีตลอดไป ไม่ว่าข้าพเจ้าจะเกิด ณ ที่แห่งใดในสามแดนโลกธาตุนี้ ขอความขัดข้อง ความไม่มี อย่าได้เกิดกับข้าพเจ้าอีกเลย นับตั้งแต่บัดนี้ ตราบจนข้าพเจ้าเข้าสู่พระนิพพานเทอญ

    ข้าพเจ้าขออธิษฐานต่อองค์พระศรีสยามเทวาธิราช ได้โปรดเมตตาขจัดปัดเป่าปัญหาและอุปสรรคในชีวิตข้าพเจ้าให้หมดสิ้นไป

    ขออธิษฐานต่อองค์พระอุปคุต โปรดเมตตาช่วยให้การงาน การเงินของข้าพเจ้ามีความคล่องตัว ไม่มีอุปสรรคใดๆ

    ขออธิษฐานต่อองค์พระกาล โปรดเมตตาเลื่อนเวลาแห่งความดีงาม ความสำเร็จทั้งในทางโลกทางธรรม เข้ามาสู่ชีวิตของข้าพเจ้าโดยพลัน เพื่อนำมาเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมต่อชาติ พุทธศาสนา และสถาบันพระมหากษัตริย์สืบไป....

    สัพเพฯ 5 รอบ หรือมากกว่า เวลาสัพเพฯ ให้นึกไปถึงธุรกิจการงานต่างๆ รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้อง หากมีมาก ให้นึกถึงภาพรวม

    .......................................................................................

    <O:p</O:p
    วิธีการฝึกจิต

    หลักสำคัญในการฝึกจิตนั้นก็คือ ทำตัวให้สบายทำใจให้สนุก นั่นคือการ ตั้งจิตให้สบาย กำพระหรือกำหนนึกรู้เห็นพระ (จะเป็นพระพุทธนิมิตก็ดี หลวงปู่ทวดก็ดี หลวงปู่ดู่ ก็ดี เรียกอีกอย่างว่าการ ตั้งองค์พระ) วางอารมณ์จิตเบาๆ วางลมหายใจสบายๆ ตามปกติ และภาวนาคลอไปเรื่อยๆทำได้ทุกอิริยาบท ยืน เดิน นั่ง นอน ยามหลับ ยามตื่น รู้ตัว มิรู้ตัว ให้ภาวานา และตั้งองค์พระ (คือการกำหนดภาพพระ) ไว้ตลอด ทำทุกครั้งที่มีสตินึกระลึกรู้ ไม่ต้องบังคับ ไม่ต้องเกร็ง ให้ทำอย่างสบายๆ ยามจะหลับ ให้ ภาวนาไปจนหลับ ยามตึ่น ให้รีบภาวนาจนมีสติดีแล้ว ให้นึกถึงพระ พร้องทั้งอธิฐานดังนี้

    คำอธิษฐาน ฝึกจิตเร่งสมาธิเร่งนิมิต

    ข้าพเจ้า ......(นามของท่าน)...ขอนอบน้อมและน้อมนำบารมีแห่งพระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้าพระอริยบุคคลทุกชั้นภูมิพระโพธิสัตว์และพระบรมมหาจักรพรรดิ ตั่งแต่อดีต ปัจจุบันและอนาคตครูบาอาจารย์ทั้งหลายสืบ ๆกันมาโดยมีบารมีรวมของหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญเป็นที่สุดขอได้โปรดยกจิตของข้าพเจ้าขึ้นสู่ภาวะ พระกรรมฐานทั้ง 40 ทัศ พระปิติทั้ง 5 และวิปัสสนาญาณทั้ง 9 ขอพระกรรมฐานทั้ง 40 ทัศ พระปิติทั้ง 5 และวิปัสสนาญาณทั้ง 9 จงมาบังเกิดปรากฏในกายทวาร ในวจีทวารในมโนทวาร ของข้าพระพุทธเจ้า ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด

    .......ขอได้โปรดยกจิตของข้าพเจ้า ขึ้นสู่ภาวะเมฆจิต สามารถกำหนดจิตรู้ภาวะการณ์ต่างๆทั้งเหตุ ผล อดีต อนาคต และปัจจุบันได้ทุกขณะจิตที่ปรารถนาจะรู้เมื่อรู้แล้วขอให้เห็นภาพนั้นได้ชัดเจนแจ่มใสและพยากรณ์ได้ตามความเป็นจริงทุกๆประการเหตุที่จะพึงบังเกิดแก่ข้าพเจ้าขอให้ข้าพเจ้าได้รู้เหตุนั้นโดยมิต้องกำหนดจิตแม้แต่ประการใด ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด


    จากนั้นให้ภาวนา เบาๆ สบายๆ ยืน เดิน นั่ง นอน ได้ทุก อิริยาบถ เมื่อจะใช้งานหรือจะดูอะไร ก็สวดบท สัพเพฯ อาราธนาเชิญพระเข้าตัว จากนั้นให้นึกถึง หลวงปู่ดู่ ขอบารมีท่านดูเอา

    วิธีการอธิฐานขอบารมีพระช่วยเหลือในกรณีพิเศษในเวลา 20.30 ของทุกวัน
    ให้เตรียมกาย เตรียมใจให้พร้อมก่อนถึงกำหนดเวลา จากนั้นเมื่อถึงเวลา 20.30 น. ให้กำพระผงกรรมฐานแล้วอธิฐานจิต ขอท่านตามความปรารถนา แล้วสวดมนต์ตามแบบของหลวงปู่ อธิฐานซ้ำอีกครั้งหลังจากสวดมนต์เสร็จแล้ว หากทำเช่นนี้ทุกวันก็จะเป็นการเร่งให้ได้ผลเร็วขึ้น


    วิธีการอธิฐานฝากดวง

    ให้ตั้งจิตระลึกถึงหลวงปู่ดู่ แล้วอธิฐานว่า ...ข้าพเจ้าขอยกให้หลวงปู่เป็นพ่อแม่ครูอาจารย์ของข้าพเจ้า ขอให้หลวงปู่ช่วยดูแลข้าพเจ้าทั้งทางโลกและทางธรรม และขอฝากดวงฝากชีวิตนี้ไว้กับหลวงปู่ นับตั้งแต่บัดนี้ไป จนกว่าข้าพเจ้าจะเข้าสู่พระนิพพานเทอญ...


    ตัวอย่างแนวทางการปฏิบัติสำหรับผู้เริ่มต้น<O:p

    ๑. เริ่มต้นด้วยการกล่าวคำบูชาพระ สมาทานศีล (เปลี่ยนศีลข้อกาเมสุมิจฉาจาร เป็น อะพรัหมะจะริยาฯ เพื่อเตรียมจิตก่อนอธิษฐานบวชจิต) จากนั้น ก็กล่าวคำอาราธนากรรมฐาน ว่า “พุทธัง อาราธะนัง กะโรมิ, ธัมมัง อาราธะนัง กะโรมิ, สังฆัง อาราธะนัง กะโรมิ” เป็นต้น

    ๒. เบื้องต้น ยังไม่ต้องรีบร้อนบริกรรมภาวนา หรือนึกนิมิตใดๆ หากแต่ให้ปรับท่านั่งให้เข้าเป็นที่สบาย โดยตั้งกายให้ตรง ผ่อนคลายความตึงเครียดของกล้ามเนื้อทุกส่วน สูดลมหายใจลึกๆ สักสองสามครั้ง พร้อมกับทำจิตใจของเราให้ปลอดโปร่งโล่งว่าง สร้างฉันทะที่จะปฏิบัติกรรมฐาน ระลึกว่าเรากำลังใช้เวลาที่มีคุณค่าแก่ชีวิต คือการพัฒนาจิตใจ ซึ่งเป็นสมบัติล้ำค่ากว่าสมบัติอย่างอื่น ไม่ว่าจะเป็นร่างกาย หรือทรัพย์สมบัติ

    ๓. กล่าวอาราธนาขอให้พระพุทธเจ้า หลวงปู่ทวด หลวงปู่ดู่ ได้โปรดมาเป็นผู้นำและอุปการะจิตในการปฏิบัติธรรมครั้งนี้ จากนั้น ก็น้อมจิตกราบพระว่า พุทธังวันทามิ ธัมมังวันทามิ สังฆังวันทามิ

    ๔. สำรวจอารมณ์ที่ค้างคาอยู่ในใจเรา แล้วชำระมันออกไป ทั้งเรื่องน่าสนุกเพลิดเพลิน หรือเรื่องชวนให้ขุ่นมัวต่าง ๆ ตลอดถึงความง่วงเหงาหาวนอน และความฟุ้งซ่านรำคาญใจต่าง ๆ รวมทั้งปล่อยวางความลังเลสงสัยเสียก่อน

    ๕. เมื่อชำระนิวรณ์ อันเป็นอุปสรรคของการเจริญสมาธิออกไปในระดับหนึ่งแล้ว กระทั่งรู้สึกปลอดโปร่งโล่งว่างตามสมควร จึงค่อยบริกรรมภาวนาในใจว่า “พุทธัง สรณัง คัจฉามิ, ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ, สังฆัง สรณัง คัจฉามิ”

    ๖. มีหลักอยู่ว่าต้องบริกรรมภาวนาด้วยใจที่สบายๆ(ยิ้มน้อยๆ ในดวงใจ) ไม่เคร่งเครียดหรือจ้องบังคับใจจนเกินไป

    ๗. ทำความรู้สึกว่าร่างกายของเราโปร่ง กระทั่งว่าลมที่พัดผ่านร่างกายเรา คล้ายๆ กับว่าจะทะลุผ่านร่างของเราออกไปได้

    ๘. ให้มีจิตยินดีในทุกๆ คำบริกรรมภาวนา ว่าทุกๆ คำบริกรรมภาวนา จะกลั่นจิตของเราให้ใสสว่างขึ้นๆ

    ๙. เอาจิตที่เป็นสมาธิพอประมาณนี้มาพิจารณาร่างกายว่ามันเป็นก้อนทุกข์ ยามจะแก่ จะเจ็บ จะตาย เราก็ไม่อาจบังคับบัญชา หรือห้ามปรามมันได้ ถึงแม้ว่าเราจะดูแลมันดีอย่างไร มันก็จะทรยศเรา มันจะไม่เชื่อฟังเรา ให้พิจารณาให้ละเอียดลงไปซ้ำๆ จนกว่าจิตจะเห็นและยอมรับความจริง เมื่อจิตยอมรับจิตก็จะคลายจากความยึดมั่นถือมั่นว่ากายนี้เป็นเราหรือเป็นของเรา (การปฏิบัติกรรมฐานครั้งต่อไป ก็อาจเปลี่ยนเป็นการพิจารณาอย่างอื่น ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง เป็นต้น หรือพิจารณาโดยรวมว่าร่างกายเราหรือคนอื่นก็สักแต่ว่าเป็นโครงกระดูก แม้ภายนอกจะดูแตกต่าง มีทั้งที่ผิวพรรณงาม หรือทรามอย่างไร แต่เบื้องลึกภายในก็ไม่แตกต่างกันในความเป็นกระดูก ที่ไม่น่าดูน่าชม เสมอกันหมด ให้พิจารณาให้จิตยอมรับความจริง เพื่อให้คลายความหลงยึดในร่างกาย ฯลฯ)

    ๑๐. เมื่อรู้สึกว่าจิตเริ่มขาดกำลังหรือความแจ่มชัด ก็ให้หันกลับมาบริกรรมภาวนาเพื่อสร้างสมาธิขึ้นอีก

    ๑๑. ในบางครั้งที่จิตขาดกำลัง หรือขาดศรัทธา ก็ให้นึกนิมิต (นอกเหนือจากคำบริกรรมภาวนา) เช่น นึกนิมิตหลวงปู่ดู่ อยู่เบื้องหน้าเรา นึกง่ายๆ สบายๆ ให้คำบริกรรมดังก้องกังวานมาจากองค์นิมิตนั้น ทำไปเรื่อยๆ เวลาเผลอสติไปคิดนึกเรื่องอื่น ก็พยายามมีสติระลึกรู้เท่าทัน ดึงจิตกลับมาอยู่ในองค์บริกรรมภาวนาดังเดิม

    ๑๒. เมื่อจิตมีกำลัง หรือรู้สึกถึงปีติและความสว่าง ก็ให้พิจารณาทบทวนในเรื่องกาย หรือเรื่องความตาย หรือเรื่องความพลัดพราก ฯลฯ หรือเรื่องอื่นใด โดยมีหลักว่าต้องอยู่ในกรอบของเรื่องความไม่เที่ยง ความเป็นทุกข์ และความที่ไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตนที่เที่ยงแท้แน่นอน (อนัตตา)

    ๑๓. ก่อนจะเลิก (หากจิตยังไม่รวม หรือไม่โปร่งเบา หรือไม่สว่าง ก็ควรเพียรรวมจิตอีกครั้ง โดยให้เลิกตอนที่จิตดีที่สุด) จากนั้นให้อาราธนาพระเข้าตัวว่า สัพเพพุทธา สัพเพธัมมา สัพเพสังฆา พะลัปปัตตา ปัจเจกานัญ จะยังพะลัง อะระหัน ตานัญ จะเต เชนะรักขัง พันธามิสัพพะโส พุทธัง อธิษฐามิ ธัมมังอธิษฐามิ สังฆัง อธิษฐามิ (นึกอาราธนาคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ มาไว้ที่จิตเรา หรืออาจจะนึกเป็นนิมิตองค์พระมาตั้งไว้ในตัวเรา

    ๑๔. สุดท้าย ให้นึกแผ่เมตตา โดยนึกเป็นแสงสว่างออกจากใจเรา พร้อมๆ กับว่า พุทธัง อนันตัง ธัมมัง จักรวาลัง สังฆัง นิพพานะ ปัจจะโยโหตุ โดยน้อมนึกถึงบุญอันมากมายไม่มีประมาณของพระพุทธเจ้าและพระอริยสงฆ์ทั้งหลาย อีกทั้งบุญกุศลที่เราสั่งสมมาดีแล้ว รวมทั้งบุญจากการภาวนาในครั้งนี้ ไปให้กับเทพผู้ปกปักรักษาเรา ให้กับเจ้ากรรมนายเวร ให้กับบิดามารดา ครูบาอาจารย์ ผีเหย้าผีเรือน พระภูมิเจ้าที่ เทพ พรหม ทั้งหลาย และสรรพสัตว์ทั้งหลายไม่มีประมาณ ท่านทั้งหลายที่ยังทุกข์ ขอจงพ้นทุกข์ ท่านทั้งหลายที่มีความสุขอยู่แล้ว ขอจงมีความสุขยิ่งๆ ขึ้นไป

    หมายเหตุ การอาราธนาพระเข้าตัว (บทสัพเพฯ) ก็เพื่อว่าเมื่อเวลาเลิกนั่งสมาธิไปแล้ว จะได้ระมัดระวังรักษาองค์พระในตัว โดยการสำรวมระวังรักษากาย วาจา ใจ ตลอดวัน ซึ่งการสำรวมระวัง หรือที่เรียกว่าอินทรีย์สังวรนี้ จะช่วยให้การปฏิบัติกรรมฐานครั้งต่อๆ ไป จิตจะเข้าถึงความสงบได้โดยง่าย

    .................................................................................................................................................................................
    ที่มา ส่วนใหญ่นำมาจากบทสวดมนต์ ของวัดถ้ำเมืองนะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 9 มกราคม 2012
  3. ลุงไชย

    ลุงไชย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    645
    ค่าพลัง:
    +2,436
    บทสวดพระมหาจักรพรรดิ

    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=V0Mya-7KuPY&feature=player_embedded"]????????????????????? - YouTube[/ame]

    คลิปภาพ และเสียงหลวงปู่ดู่
    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=C65dwixIUDI&feature=player_embedded"]luangpoodoo1.mpg - YouTube[/ame]

    ประวัติหลวงปู่ดู่
    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=RosX7XLuK4Y"]????????????????? ??????1(5???) - YouTube[/ame]

    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=TEmgBQtrSd4"]????????????????? ??????2(5???) - YouTube[/ame]

    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=AgIrmdeRpEQ&feature=related"]????????????????? ??????3(5???) - YouTube[/ame]

    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=49kp3FC2-xk&feature=related"]????????????????? ??????4(5???) - YouTube[/ame]

    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=Peyz_PdhxJQ&feature=related"]????????????????? ??????5??????? - YouTube[/ame]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 8 มกราคม 2012
  4. ลุงไชย

    ลุงไชย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    645
    ค่าพลัง:
    +2,436
    หลวงตาม้าตอบปัญหาธรรม

    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=Bb7YvTBnCfY&feature=player_embedded"]??????????????? 19 ????????? 2554 - YouTube[/ame]

    ประวัติหลวงตาม้า
    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=u6EHH6mQY2Q&feature=related"]ประวัติหลวงตาม้า 1ชั่วโมง - YouTube[/ame]


    หลวงตาม้าพิมพ์พระ อธิษฐานจิต

    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=wjf6HDmVfmI&feature=related"]หลวงตาม้าพิมพ์พระ - YouTube[/ame]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 8 มกราคม 2012
  5. ลุงไชย

    ลุงไชย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    645
    ค่าพลัง:
    +2,436
    ฝึกใจให้สงบ ทวนอดีตเข้าใจปัจจุบัน

    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=v7SuAD3JasA&NR=1&feature=endscreen]ฝึกจิตให้สงบ ทวนอดีตเข้าใจปัจจุบัน - YouTube[/ame]

    บารมีธรรมสร้างอย่างไร

    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=ndbddPXpAQ0&feature=related]บารมีธรรมสร้างอย่างไร.mp4 - YouTube[/ame]


    ทำไมบางคนสื่อกับวิญญาณได้

    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=G-6YBW_JBF4&feature=related]ทำไมบางคนสื่อกับวิญญาณได้.mp4 - YouTube[/ame]
     
  6. สู่วันใหม่

    สู่วันใหม่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    102
    ค่าพลัง:
    +314
    อนุโมทนาบุญนะครับ

    สามารถสวดได้ทุกวันทุกเวลาเลยหรือไม่ ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 มกราคม 2012
  7. ลุงไชย

    ลุงไชย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    645
    ค่าพลัง:
    +2,436
    เวลาในการสวดบทพระมหาจักรพรรดิ
    <O:p</O:p
    โดยปกติในแต่ละวันนั้น จะมีการสวดพระคาถามหาจักรพรรดิที่วัดถ้ำเมืองนะ วันละ 4 เวลาด้วยกัน คือ ตอนเช้าเวลา 6.00 น.-7.00 น. ตอนบ่ายเวลา 13.00 น.-14.00 น. ตอนเย็นเวลา 18.00 น.-19.00 น. และรอบสุดท้ายเวลา 20.30 น. ซึ่งรอบสุดท้ายนี้จะสวดแบบเต็มและสวดตามกำลังวัน ส่วนช่วงเวลาอื่นนั้นการสวดจะเริ่มจากตั้งนะโม 3 จบแล้วก็สวดพระคาถามหาจักรพรรดิไปเลยจนครบเวลา 1 ชั่วโมง หรือ 108 จบ มีหลายคนถามว่าช่วงเวลา 20.30 น. นั้นถ้าสวดในเวลานั้นไม่ทันจะสวดในเวลาอื่นได้มั้ย ในเรื่องนี้นั้น หลวงตาม้า ท่านได้เคยบอกกับลูกศิษย์ทั้งหลายไว้ว่า บทสวดพระคาถามหาจักรพรรดินั้นสามารถสวดได้ทุกเวลา ถ้าใครสามารถสวดตลอดเวลาได้ยิ่งดี แต่ที่เน้นในช่วงเวลา 20.30 น. นั้นเพราะว่าในช่วงเวลาดังกล่าวนั้นเป็นช่วงเวลาที่ทั้งสามแดนโลกธาตุ คือ สวรรค์, มนุษย์ภูมิ และนรก(อบายภูมิ) และภพภูมิต่างๆ นั้นได้เปิดเชื่อมถึงกันซึ่งทำให้มีผู้สวดคาถามหาจักรพรรดิในช่วงเวลาดังกล่าวเยอะมาก ยิ่งมีผู้สวดพร้อมกันมากเท่าไรก็ยิ่งดีเพราะจะทำให้มีกำลังมาก แต่ถ้าสวดในช่วงเวลาอื่นนั้นก็อาจจะมีเฉพาะตัวเราหรือมีผู้สวดพร้อมกันน้อย กำลังที่ได้นั้นก็จะน้อยตาม เปรียบเหมือนเราทำงานบางอย่างถ้ามีคนช่วยกันทำมากงานก็จะเบาและสำเร็จเร็วเพราะช่วยกันทำ แต่ถ้ามีคนช่วยกันทำน้อยหรือมีเพียงเราคนเดียวนั้น งานก็จะเหนื่อยหน่อยและต้องใช้เวลากว่าจะสำเร็จได้
     
  8. ลุงไชย

    ลุงไชย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    645
    ค่าพลัง:
    +2,436
    การใช้พระผงจักรพรรดิในการภาวนา(ฝึกจิต)

    ให้นำพระผงจักรพรรดิมากำไว้ในมือ ซึ่งจะช่วยให้สามารถรวมจิตเป็นสมาธิได้เร็วขึ้น ให้เริ่มด้วยการสวดระลึกถึงพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ สวดอาราธนาศีล สวดบูชาหลวงปู่ทวด หลวงปู่ดู่ สวดขอขมาพระรัตนตรัย แล้วสวดบทพระคาถามหาจักรพรรดิ เสร็จแล้วให้อธิษฐานว่า “.....ข้าพเจ้า...(นาม)....ขออาราธนาบารมีแห่งพระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า พระอริยบุคคลทุกชั้นภูมิ และพระมหาจักรพรรดิ ตั้งแต่ในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต โดยมีบารมีรวมของพระศรีอริยเมตไตรยเป็นที่สุด ขอได้โปรดยกจิตของข้าพเจ้าขึ้นสู่ภาวะพระกรรมฐานทั้ง 40 ทัศ พระปิติทั้ง 5 และวิปัสนสนาญาณทั้ง 9 จงมาบังเกิดปรากฏในกายทวาร ในวจีทวาร ในมโนทวาร ของข้าพเจ้า ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด ขอได้โปรดยกจิตของข้าพเจ้า ขึ้นสู่ภาวะเมฆจิต ให้สามารถกำหนดจิตรู้ภาวการณ์ต่างๆ ทั้งเหตุผล อดีต ปัจจุบัน และอนาคต ได้ในทุกขณะจิตที่ปรารถนาจะรู้ และเมื่อรู้แล้วขอให้เห็นภาพนั้นได้ชัดเจนแจ่มใส และสามารถพยากรณ์ได้ตามความเป็นจริงทุกๆ ประการ เหตุที่จะพึงบังเกิดแก่ข้าพเจ้า ขอให้ข้าพเจ้าได้รู้เหตุนั้นโดยมิต้องกำหนดจิตแม้แต่ประการใด ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้ด้วยเถิด” แล้วให้สวดบทอัญเชิญพระเข้าตัว(บทสัพเพฯ) แล้วให้เริ่มทำสมาธิได้ตามแบบที่ถนัด เช่น อานาปานสติ จะใช้คำภาวนาว่า “พุทโธ” หรือ “พุทธัง สรณัง คัจฉามิ ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ สังฆัง สรณัง คัจฉามิ” หรือ “ยุบหนอ พองหนอ” หรือจะใช้บทสวดพระคาถามหาจักรพรรดิก็ได้ แต่หลวงตาม้าท่านแนะนำให้ใช้บทพระคาถามหาจักรพรรดิ เพราะว่ามีกำลังมาก แล้วก็ให้กำหนดหรือตั้งนิมิตเป็นพระพุทธรูปทรงเครื่องจักรพรรดิ(พระมหาจักรพรรดิ) หรือหลวงปู่ทวด หรือหลวงปู่ดู่ ก็ได้ แต่บางท่านก็กำหนดเป็นภาพพระผงจักรพรรดิที่กำอยู่ในมือ ให้กำหนดหรือตั้งนิมิตเบาๆ ไม่ต้องเกร็งหรือเพ่งเกินไป พร้อมกับภาวนาไปเรื่อยๆ จิตจะค่อยๆ นิ่งเอง เมื่อถึงจุดหนึ่งจะทำให้สามารถสัมผัสกับโลกทิพย์ได้ และในบางครั้งองค์พระผงจักรพรรดิที่กำอยู่ในมือนั้นจะดิ้นได้..

     
  9. ลุงไชย

    ลุงไชย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    645
    ค่าพลัง:
    +2,436
    การนำเอาพลังงานจักรพรรดิมาใช้

    การนำพลังงานจักรพรรดิ หรือพลังงานของหลวงปู่ดู่ ท่านมาใช้ประโยชน์นั้น หลักการก็คือ ให้นึกถึงภาพหลวงปู่ดู่หรือพระจักรพรรดิก็ได้ ซึ่งท่านเป็นแหล่งต้นทางของพลังงาน แล้วก็นึกโน้มอธิษฐานขอบารมีรวมของท่านมาเป็นพลังงานแผ่ผ่านมาที่ตัวเราแล้วส่งต่อไปยังเป้าหมายหรือปลายทาง อย่างภาพด้านบน เป็นการแผ่ส่วนบุญปรับภพภูมิ ส่วนการจะนำเอาพลังงานมาใช้ในด้านอื่นๆ ก็มีหลักการเดียวกัน คือโน้มนำพลังงานต้นทางจากหลวงปู่ดู่ หรือพระจักรพรรดิผ่านมาที่ตัวเราทุกครั้ง พลังงานจักรพรรดินั้นมีอยู่มากมายโดยมิมีประมาณไม่มีวันหมดแต่อยู่ที่เราต้องรู้จักหลักการของการนำมาใช้ประโยชน์ อย่างการอธิษฐานจิตนำเอาพลังงานจักรพรรดิมาใช้ประโยชน์นั้น หลวงปู่ดู่ และหลวงตาม้า ท่านบอกว่าไม่ควรอธิษฐานในสิ่งที่สวนทางกับหลักพระธรรม หรือคำสอนของหลวงปู่ดู่ เช่น การอธิษฐานขอให้รวยเป็นเศรษฐี หรือถูกหวยรางวัลที่หนึ่งนั้น ท่านบอกว่าไม่ถูกต้องเพราะแสดงว่าเรายังมีความโลภอยู่ในจิตของเรา ท่านแนะให้อธิษฐานว่า “ขอให้ข้าพเจ้าจงมีความสำเร็จและมีความคล่องตัวในทุกๆ เรื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่อง.........ขอให้มีความคล่องตัวมากเป็นพิเศษ” เกี่ยวกับการนำเอาพลังงานจักรพรรดิมาอธิษฐานเพื่อใช้ประโยชน์นั้น ได้มีลูกศิษย์หลวงตาม้า ได้ถามหลวงตากันหลายคน และถามกันบ่อยมากว่า ทำไมสวดจักรพรรดิเป็นประจำ แล้วอธิษฐานแล้วทำไมถึงเห็นผลช้า ซึ่งจริงๆ แล้วการเห็นผลนั้นไม่ช้าหรอกครับ ที่ว่าช้านั้นเพราะเกิดจากการไม่เข้าใจในการอธิษฐานเพื่อขอใช้ประโยชน์ครับ ซึ่งถ้าเราสังเกตุให้ดีๆ แล้วจะเห็นว่า หลวงตาม้าท่านมักจะพูดคำว่า "กำลังจักรพรรดิ" อยู่บ่อยมาก ซึ่งลูกศิษย์หลายคนก็ไม่ทันได้คิด ที่ผ่านมาก็เลยอธิษฐานขอใช้บารมีของหลวงปู่ดู่ ซึ่งนั่นยังไม่ถูกต้องทีเดียวครับ ที่ถูกต้องนั้นคือ เราต้องอธิษฐานขอบารมีของหลวงปู่ดู่ท่านได้เมตตาช่วยนำพลังงานจักรพรรดิ(พลังงานจักรพรรดินะครับไม่ใช่บารมีของหลวงปู่ครับ)ของหลวงปู่ดู่ หรือของสมเด็จองค์ปฐมบรมมหาจักรพรรดิและบรมมหาจักรพรรดิทุกๆ พระองค์ มาเป็นกำลังหรือพลังเพื่อใช้ให้สิ่งที่เราขอ(เช่น เรื่องงาน,เรื่องเงิน,เรื่องเรียน ฯลฯ) นั้นเกิดความสำเร็จหรือเกิดความคล่องตัว โดยสิ่งที่เราอธิษฐานขอนี้ต้องไม่ขัดต่อศีลธรรมครับ ซึ่งสิ่งที่เราอธิษฐานขอโดยใช้กำลังจักรพรรดินี้จะสำเร็จโดยเร็วหรือง่ายดายครับ..

    ที่มา การนำพลังงานจักรพรรดิมาใช้งาน
     
  10. ลุงไชย

    ลุงไชย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    645
    ค่าพลัง:
    +2,436
    การใช้พระคาถา พระมหาจักรพรรดิ

    การอธิษฐานทำน้ำมนต์
    <O:p</O:p
    ให้นำพระผงจักรพรรดิมากำไว้ในมือ แล้วสวดบทพระคาถามหาจักรพรรดิ 1 จบแล้วอธิษฐานว่า “ข้าพเจ้าขออาราธนาอัญเชิญพระบารมีรวม แห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์เจ้า พระอรหันตาขีณาสพเจ้าทั้งหลาย พระธรรม บารมีรวมแห่งพระอริยะสงฆ์ ตั้งแต่อดีต ปัจจุบัน และอนาคต โดยมีบารมีรวมของหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ เป็นที่สุด ขอหลวงปู่ได้โปรดรวมบารมีทั้งหมดทั้งมวล แผ่มายังน้ำบริสุทธิ์นี้ ให้มีพุทธานุภาพ ธรรมานุภาพ สังฆานุภาพ และมหิทธานุภาพ เพื่อใช้ในการมงคลทั้งปวง เพื่อใช้ในการแก้และป้องกันคุณไสย อวิชชาต่างๆ เพื่อใช้ในการปรับธาตุทั้ง 4 และรักษาโรคภัยไข้เจ็บทุกประเภท ขอบารมีรวมของหลวงปู่ ได้โปรดเมตตาให้เป็นไปตามคำอธิษฐานแห่งข้าพเจ้านี้ทุกประการด้วยเถิด” แล้วค่อยๆ จุ่มพระผงจักรพรรดิลงในภาชนะใส่น้ำ สวดบทอัญเชิญพระเข้าตัว(บทสัพเพฯ) น้ำมนต์นี้ใช้ได้ทั้งกิน และอาบ

    การแผ่ส่วนบุญปรับภพภูมิ
    <O:p</O:p
    กำพระผงจักรพรรดิไว้ในมือ แล้วอธิษฐานว่า “ข้าพเจ้าขออาราธนาอัญเชิญบารมีรวมพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ นับตั้งแต่อดีต ปัจจุบัน และอนาคต โดยมีบารมีรวมของหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ เป็นที่สุด ขอได้โปรดส่งวิญญาณ ปรับภพภูมิดวงวิญญาณของ(เอ่ยชื่อ หรือกล่าวโดยรวมคือดวงวิญญาณทั้งหลายที่สถิตอยู่ในบริเวณสถานที่แห่งนี้) ให้ไปสู่สุคติด้วยเถิด” สวดบทอัญเชิญพระเข้าตัว(บทสัพเพฯ)

    การก้าหนดจิตถามพระในเรื่องการปฏิบัติและปัญหาชีวิตที่แก้ไม่ตก
    <O:p</O:p
    ให้ทำใจสบายๆ กำพระผงจักรพรรดิแล้วกำหนดให้เห็นรูปหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ แล้วกราบเรียนถามท่านตรงๆ เช่น “หลวงปู่ลูกจะทำอย่างไรกับปัญหาอุปสรรค(เหตุเรื่องหนึ่งเรื่องใด)ดีครับ?” จากนั้นให้ทำใจสบายๆ ไม่ต้องเคร่งเครียดไม่ต้องเงี่ยหูฟังว่าหลวงปู่จะตอบหรือไม่ บางครั้งหลวงปู่จะแสดงให้เห็นเป็นภาพ บางครั้งก็เป็นจิตรู้ขึ้นมาเองว่าทำอย่างไรจึงจะถูกต้อง
    <O:p</O:p

    การอธิษฐานเพื่อความคล่องตัวในทุกๆ เรื่อง
    <O:p</O:p
    ให้ทรงกำลังใจเป็นทานบารมี จากนั้นให้กำพระผงจักรพรรดิ แล้วตั้งจิตกำหนดตั้งองค์พระ(เป็นพระแก้วแดงหรือพระพุทธนิมิตก็ได้) หรือหลวงปู่ทวด หรือหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญก็ได้ แล้วอธิษฐานว่า “ด้วยอำนาจบารมีแห่งพระมหาจักรพรรดิทุกๆ พระองค์ นับตั้งแต่อดีต ปัจจุบัน และอนาคต โดยมีพระบารมีแห่งสมเด็จองค์ปฐมบรมจักรพรรดิเป็นประธานและมีพระบารมีรวมพระมหาจักรพรรดิของหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ เป็นที่สุด ขอได้โปรดรวมกองบุญของข้าพเจ้า (เอ่ยชื่อ-นามสกุลตัวเอง) เพื่อเบิกมาใช้ให้มีความคล่องตัวในทุกเรื่อง หากมีเรื่องอันใดติดขัดขอให้คล่องดั่งน้ำที่ไหลออกจากคนโท ที่ไหลจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำ เรื่องอันใดคล่องตัวอยู่แล้ว ขอให้คล่องตัวยิ่งขึ้นไป ขึ้นชื่อว่าความอดอยาก ความยาก ความจน ความไม่มี ขอจงอย่าได้บังเกิดมีแก่ข้าพเจ้า นับตั้งแต่นี้ตราบกระทั่งข้าพเจ้าเข้าสู่พระนิพพานด้วยเถิด โดยเฉพาะกาลนี้ ขอให้มีความคล่องตัวในเรื่อง (อธิษฐานขอเอา เช่น การค้าขาย การติดต่อเจรจา การเงิน ฯลฯ) ด้วยเถิด” สวดบทอัญเชิญพระเข้าตัว(บทสัพเพฯ)

    การอธิษฐานให้บุตร คนรัก บริวาร และเจ้านายที่เป็นมิจฉาทิฐิ ให้เป็นคนดีขึ้น จิตใจเยือกเย็น
    <O:p</O:p
    เป็นการใช้กำลังของพระผงจักรพรรดิควบคู่ไปกับพรหมวิหารธรรม และให้กระทำตอนที่บุคคลนั้นหลับอยู่ หากใช้คู่กับการครอบวิมานก็จะได้ผลดียิ่งขึ้น โดยการกำพระผงจักรพรรดิแล้วสวดพระคาถามหาจักรพรรดิจนจิตสงบดี แล้วให้อธิษฐานว่า “ด้วยอำนาจบารมีแห่งพระมหาจักรพรรดิทุกๆ พระองค์ นับตั้งแต่อดีต ปัจจุบัน และอนาคต โดยมีพระบารมีแห่งสมเด็จองค์ปฐมบรมจักรพรรดิเป็นประธาน และมีพระบารมีรวมพระมหาจักรพรรดิของหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ เป็นที่สุด ขอได้โปรดกล่อมเกลาปรับสภาพร่างกายและจิตใจของ....(ชื่อของบุคคลหรือกลุ่มบุคคล)... ให้ดีขึ้น ขอให้มีร่างกายแข็งแรง จิตใจเยือกเย็น เบิกบาน ให้มีหิริโอตตัปปะ มีจิตใจฝักใฝ่แต่ความดี เกลียดกลัวความชั่วทั้งปวง ให้เป็นคนว่านอนสอนง่าย อยู่ในโอวาท...(อื่นๆ ตามแต่จะอธิษฐาน)... หากแม้นเขาดื้อดึงเพียงใด ด้วยอำนาจของจักรแก้วพระจักรพรรดิ จงโปรดสั่งสอนให้หลาบจำรู้สำนึกด้วยเถิด” จากนั้นสวดบทอัญเชิญพระเข้าตัว(บทสัพเพฯ)
    <O:p</O:p
    การอธิษฐานครอบดวงแก้วให้แก่บ้าน เพื่อป้องกันรังสี
    <O:p</O:p
    พระผงจักรพรรดิที่หลวงปู่ดู่ท่านสร้างขึ้น และพระผงจักรพรรดิที่สร้างขึ้นตามสูตรของหลวงปู่ดู่นั้น สามารถนำมาอธิษฐานเพื่อป้องกันอันตรายจากรังสีนิวเคลียร์ได้ทุกองค์ กับผู้ที่บูชาคล้องคอติดตัว และกับบ้านพักที่อาศัย แต่ถ้าต้องการให้คุ้มครองบ้านพักอาศัยด้วยนั้น ต้องอัญเชิญพระผงจักรพรรดิไว้ที่บ้าน 1 องค์ โดยให้อัญเชิญพระผงจักรพรรดิมาอธิษฐานทำน้ำมนต์ ในเวลา 20.30 น. เพราะต้องอาศัยกำลังใหญ่(ช่วงเวลาดังกล่าว หลวงตาม้า จะนำเทพ พรหม ร่วมสวดพระคาถามหาจักรพรรดิ) โดยนำพระผงจักรพรรดิแช่ในภาชนะที่เหมาะสม เช่น ขันน้ำมนต์ และให้แช่ไว้อย่างนั้นตลอด เพื่อจะได้เป็นหัวเชื้อน้ำมนต์สำหรับใช้ในการอื่นๆ ได้ แล้วให้ตั้งจิตน้อมระลึกถึง หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ แล้วกล่าวคำอธิษฐานว่า “ข้าพเจ้าขออาราธนาอัญเชิญพระบารมีรวม แห่งองค์สมเด็จพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์เจ้า พระอรหันตาขีณาสพเจ้าทั้งหลาย พระธรรม บารมีรวมแห่งพระอริยสงฆ์ ตั้งแต่อดีต ปัจจุบัน และอนาคต โดยมีบารมีรวมของหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ เป็นที่สุด ขอหลวงปู่ท่านได้โปรดรวมบารมีทั้งหมดทั้งมวล แผ่มายังน้ำบริสุทธิ์นี้ ให้มีพุทธานุภาพ ธรรมานุภาพ สังฆานุภาพ และมหิทธานุภาพ ในการป้องกัน ขจัดทำลายรังสีและพลังงานอันไม่ดีทั้งปวง ที่เข้ามาในอาณาบริเวณเขตน้ำมนต์แห่งนี้ให้เกิดเป็นปราการแก้ว 7 ชั้น คุ้มครองทั้ง 6 ทิศ คือ เบื้องหน้า เบื้องหลัง เบื้องซ้าย เบื้องขวา เบื้องบน และเบื้องล่าง ให้กระแสเย็นแห่งน้ำมนต์นี้จงเปล่งออกไปเป็นรัศมีเรืองรอง คุ้มครองป้องกันและครอบคลุมบ้านทั้งหลังของข้าพเจ้านี้ ให้ผู้ที่อาศัยอยู่ภายในบ้านนี้จงร่มเย็น ปลอดภัยจากอันตรายทั้งหลายทั้งปวงด้วยเถิด” จากนั้นให้สวดบทอัญเชิญพระเข้าตัว(บทสัพเพฯ) แล้วให้นำน้ำมนต์ไปรดรอบๆ บ้าน แล้วตั้งภาชนะใส่น้ำมนต์ที่มีพระผงจักรพรรดิแช่อยู่ไว้ในที่อันควร หมั่นเติมน้ำอย่าให้แห้ง น้ำมนต์นี้ใช้ได้ทั้งกินและอาบ

    การครอบวิมาน
    <O:p</O:p
    เป็นการส่งกำลังบุญไปยัง มนุษย์ หรือสัตว์ ที่ยังมีชีวิตอยู่ เพื่อให้เขามีจิตใจดีขึ้นและป้องกันภัยที่มองไม่เห็นต่างๆ และถ้าใช้กับคนหรือสัตว์ที่กำลังจะสิ้นลมนั้นในยามที่จิตออกจากร่างนั้น ก็จะเห็นวิมาน และบารมีพระท่านจะเกิดนิมิตเป็นแสงสว่างนำทางผู้นั้นไปสู่สุคติภูมิตามกำลังบุญที่ได้ทำไว้ การครอบวิมานนี้ สามารถครอบให้ได้กับตนเอง และผู้อื่น โดยการครอบให้กับตนเองนั้นก็ด้วยวิธีการสวดพระคาถามหาจักรพรรดิ ส่วนการครอบให้ผู้อื่นนั้นทำได้โดยการอธิษฐานขอบารมีรวมของหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ เป็นที่สุด แล้วให้นิมิตภาพหลวงปู่ดู่ซ้อนไปยังบุคคลผู้นั้น หรือกลุ่มคน โดยในขณะที่กำลังอธิษฐานจิตอยู่นั้น ผู้อธิษฐานต้องมีจิตเมตตากรุณาจึงจะเกิดผลอย่างสูงสุด
    <O:p</O:p
    การใช้พระผงจักรพรรดิในการภาวนา(ฝึกจิต)
    <O:p</O:p
    ให้นำพระผงจักรพรรดิมากำไว้ในมือ ซึ่งจะช่วยให้สามารถรวมจิตเป็นสมาธิได้เร็วขึ้น ให้เริ่มด้วยการสวดระลึกถึงพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ สวดอาราธนาศีล สวดบูชาหลวงปู่ทวด หลวงปู่ดู่ สวดขอขมาพระรัตนตรัย แล้วสวดบทพระคาถามหาจักรพรรดิ เสร็จแล้วให้อธิษฐานว่า “.....ข้าพเจ้า...(นาม)....ขออาราธนาบารมีแห่งพระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า พระอริยบุคคลทุกชั้นภูมิ และพระมหาจักรพรรดิ ตั้งแต่ในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต โดยมีบารมีรวมของพระศรีอริยเมตไตรยเป็นที่สุด ขอได้โปรดยกจิตของข้าพเจ้าขึ้นสู่ภาวะพระกรรมฐานทั้ง 40 ทัศ พระปิติทั้ง 5 และวิปัสนสนาญาณทั้ง 9 จงมาบังเกิดปรากฏในกายทวาร ในวจีทวาร ในมโนทวาร ของข้าพเจ้า ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด ขอได้โปรดยกจิตของข้าพเจ้า ขึ้นสู่ภาวะเมฆจิต ให้สามารถกำหนดจิตรู้ภาวการณ์ต่างๆ ทั้งเหตุผล อดีต ปัจจุบัน และอนาคต ได้ในทุกขณะจิตที่ปรารถนาจะรู้ และเมื่อรู้แล้วขอให้เห็นภาพนั้นได้ชัดเจนแจ่มใส และสามารถพยากรณ์ได้ตามความเป็นจริงทุกๆ ประการ เหตุที่จะพึงบังเกิดแก่ข้าพเจ้า ขอให้ข้าพเจ้าได้รู้เหตุนั้นโดยมิต้องกำหนดจิตแม้แต่ประการใด ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้ด้วยเถิด” แล้วให้สวดบทอัญเชิญพระเข้าตัว(บทสัพเพฯ) แล้วให้เริ่มทำสมาธิได้ตามแบบที่ถนัด เช่น อานาปานสติ จะใช้คำภาวนาว่า “พุทโธ” หรือ “พุทธัง สรณัง คัจฉามิ ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ สังฆัง สรณัง คัจฉามิ” หรือ “ยุบหนอ พองหนอ” หรือจะใช้บทสวดพระคาถามหาจักรพรรดิก็ได้ แต่หลวงตาม้าท่านแนะนำให้ใช้บทพระคาถามหาจักรพรรดิ เพราะว่ามีกำลังมาก แล้วก็ให้กำหนดหรือตั้งนิมิตเป็นพระพุทธรูปทรงเครื่องจักรพรรดิ(พระมหาจักรพรรดิ) หรือหลวงปู่ทวด หรือหลวงปู่ดู่ ก็ได้ แต่บางท่านก็กำหนดเป็นภาพพระผงจักรพรรดิที่กำอยู่ในมือ ให้กำหนดหรือตั้งนิมิตเบาๆ ไม่ต้องเกร็งหรือเพ่งเกินไป พร้อมกับภาวนาไปเรื่อยๆ จิตจะค่อยๆ นิ่งเอง เมื่อถึงจุดหนึ่งจะทำให้สามารถสัมผัสกับโลกทิพย์ได้ และในบางครั้งองค์พระผงจักรพรรดิที่กำอยู่ในมือนั้นจะดิ้นได้

    เกร็ดในการใช้พลังงานจักรพรรดิในการอธิษฐาน
    <O:p</O:p
    หลวงตาม้าท่านแนะนำในการนำพลังงานจักรพรรดิมาอธิษฐานในเรื่องต่างๆ ว่า ถ้าจะอธิษฐานเกี่ยวกับเรื่องในทางโลก เช่น เรื่องธุรกิจการงาน การเงิน โชคลาภนั้น ให้อธิษฐานขอบารมีกำลังจักรพรรดิของพระจักรพรรดิ หรือพระแก้วแดง พรือพระพุทธนิมิตเป็นหลัก แต่ถ้าจะอธิษฐานเกี่ยวกับเรื่องในทางธรรมต่างๆ เรื่องที่ขอให้คนเป็นคนดีนั้น ให้อธิษฐานขอบารมีกำลังจักรพรรดิของหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ เป็นหลัก..

    ที่มา http://www.jukkaput.net/index.php/jd
     
  11. shevvy

    shevvy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 เมษายน 2007
    โพสต์:
    195
    ค่าพลัง:
    +300

    ขอบคุณมากคับเพิ่งรู้วันนี้เอง :cool:
     
  12. Yanky1890

    Yanky1890 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2010
    โพสต์:
    146
    ค่าพลัง:
    +234
    ขออนุโมทนากับคุณ คนฝั่งโขง ที่ได้นำประวัติของหลวงปู่ดู่ท่านมาเผยแพร่
    ขออนุญาตคุณ คนฝั่งโขง ขอแสดงความเห็นด้วยเล็กน้อย

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มกราคม 2012
  13. ลุงไชย

    ลุงไชย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    645
    ค่าพลัง:
    +2,436
    คลิปวีดีโอและเสียงหลวงปู่ดู่

    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=C65dwixIUDI&feature=player_embedded"]luangpoodoo1.mpg - YouTube[/ame]

    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=R11_iSfmj1E&feature=player_embedded"]luangpoodoo2.mpg - YouTube[/ame]

    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=qw78NsQlAMk&feature=player_embedded"]luangpoodoo3.mpg - YouTube[/ame]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 8 มกราคม 2012
  14. สู่วันใหม่

    สู่วันใหม่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    102
    ค่าพลัง:
    +314
    ถามหน่อยครับคือผมไม่ค่อยรู้เรื่องสวดบทนี้

    คือ สวดบทอื่นๆในกระทู้ก่อน เช่น บทบูชาพระ ,กราบพระ ๖ครั้ง, บทสมาทานศีล๕
    ถึงจะมาท่อง คำอัญเชิญภพภูมิ แล้วตามด้วยบทสวดมหาจักรพรรดิ ใช่ไหมครับ
    รบกวนตอบหน่อยนะครับ
     
  15. ลุงไชย

    ลุงไชย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    645
    ค่าพลัง:
    +2,436
    ทำตามลำดับที่โพสต์ไว้ครับ คือ อัญเชิญภพภูมิก่อน แล้วตามด้วยบูชาพระ และต่อไปเรื่อยๆ ตามลำดับ ผมได้จัดเรียงตามลำดับไว้แล้วครับ ...

    ขออนุโมทนาในบุญด้วยนะครับ
     
  16. prosper

    prosper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    201
    ค่าพลัง:
    +382
    อนุโมทนาบุญด้วยค่ะ ขอบคุณที่นำมาเผยแพร่ค่ะ บุญรักษานะคะ
     
  17. สู่วันใหม่

    สู่วันใหม่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    102
    ค่าพลัง:
    +314

    ขอบคุณมากเลย อนุโมทนาสาธุครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 มกราคม 2012
  18. ปรกติ

    ปรกติ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    56
    ค่าพลัง:
    +46
    หวัดดีค่ะ ทุกท่าน

    ดิฉันมีเรื่องจะเล่าเกี่ยวกับสวดมนต์บทพระจักรพรรดิ์ที่เกิดขึ้นจริงกับชีวิตของดิฉัน ปีที่แล้วชีวิตของดิฉันมีแต่เรื่องเลวร้ายที่สุดดิฉันมีแต่ความสูญเสีย คุณพ่อเสีย ขโมยขึันบ้าน ธุรกิจมีปัญหา ครอบครัวมีแต่การทะเลาะเบาะแว้ง หาทางออกไม่ได้ เคยคิดอยากจะตายเสียเลยด้วยซ้ำเนื่องจากใจของเราเศร้าหมองยิ่งนัก หาทางออกไม่ได้ พูดให้ใครฟังก็ไม่ได้ จนวันหนึ่งมาเจอ อ ท่านหนึ่งซึ่งนับถือหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ และ หลวงตาม้า วิริยะธโร มาก แลก็แนะนำให้ปฎิบัติสวดมนต์ ภาวนา ทุกวันตอนสองทุ่มครึ่ง หลังจากที่ดิฉ้นได้รับคำแนะนำ ดิฉันก็ตั้งมั่นที่จะปฎิบัติ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับความศรัทธา และความตั้งใจค่ะ อ๋อดิฉันลืมบอกไปว่าดิฉันกำลังจะโดนยึดบ้านที่อยู่ด้วยซึ่งดิฉันดูแล้วไม่มีทางออกเลย ดิฉันปฎิบัติย่างตั้งมั่นภายใน 3 เดือนก็เริ่มมีข่าวดี เริ่มมีทางออกที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ มีคนเข้ามาช่วยเหลือทั้งที่ไม่ได้สนิทกันมาก จนตอนนี้เรื่องบ้านก็ผ่านพ้นไปได้และปัญหาอีกหลายอย่างก็คลี่คลายได้ อยากจะบอกว่าหลวงปู่ดู่ท่านมีเมตตามากค่ะ ดิฉันอธิฐานสิ่งที่ดิฉันต้องการให้ท่านช่วย ทุกอย่างก็สำเร็จแต่จะช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับความศรัทธา อยากจะบอกเล่าให้กับทุกคนที่ชีวิตมีปัญหา ลองปฎิบัติ ดูนะค่ะ ทุกอย่างมีทางออกค่ะ
     
  19. ลุงไชย

    ลุงไชย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    645
    ค่าพลัง:
    +2,436
    ผู้ที่สวดด้วยความศรัทธา จะทราบด้วยตนเอง อนุโมทนาครับ
     
  20. ลุงไชย

    ลุงไชย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    645
    ค่าพลัง:
    +2,436

แชร์หน้านี้

Loading...