ทำแท้ง 3 ครั้ง

ให้ทำบุญให้เด็กโดยซื้อชุดเด็กอ่อน(ขวดนม เสื้อผ้า ผ้าอ้อม ขวดนม นม และอื่นๆที่ใช้กับเด็กอ่อน)แล้วอธิษฐาน ตามที่ข้าพเจ้า.....ได้ทำแท้ง(หรือแนะนำผู้อื่นให้ไปทำแท้ง)โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์หรือทำไปเพราะความโง่เฃลาข้าพเจ้าขอสำนึกผิด ขอโทษ ขอขมากรรมต่อดวงวิญญาณของลูก(ให้ตั้งชื่อเด็กด้วย)โปรดอโหสิกรรมให้ข้าพเจ้าและให้ขาดจากกัน ข้าพเจ้าขอจัดชุดเสื้อผ้าเครื่องใช้เหล่านี้เพื่ออนุโมทนาอุทิศบุญกุศลให้กับดวงวิญญาณของลูก...ให้มารับบุญที่ข้าพเจ้าอุทิศไปให้นี้ด้วยเทอญ.. จากนั้นให้นำไปบริจาคให้เด็กที่เกิดใหม่(ต้องเกิดในวันที่เราไปบริจาค)ในโรงพยาบาล โดยไม่ต้องเลือกว่าเป็นใครแล้วบอกว่าแม่นำเสื้อผ้าเครื่องใช้มาให้หนู จากนั้นให้กรวดนำให้เขาด้วย และถ้ามีโอกาสให้ชื้อเสื้อผ้าบริจาคให้เด็กยากจน(เด็กโตเท่าอายุลูกที่เราทำแท้ง) และเป็นร่วมเจ้าภาพบวชสามเณร และให้สวดขอขมากรรม

 

คิดว่าข้อแนะนำในการแก้ทั้งหลายคุณก็คงรู้หมดแล้ว เพราะจิตคุณหมกมุ่นอยู่กับเรื่องที่จะแก้ความผิดพลาดที่เคยทำมา ก็ในเมื่อทำไปแล้ว ผ่านมาก็นานมากแล้วย้อนไปแก้ตรงนั้นก็ไม่ได้ ตอนนี้ก็เร่งทาน ศีล ภาวนา อย่างที่คุณทำถูกต้องที่สุดแล้ว
ข้อแก้ไขทั้งหลายตามที่มีการแนะนำมา ถ้าทำแล้วสบายใจ คุณก็ทำเถิด เมื่อได้ทำแล้ว ขอให้มาแก้ไขในใจคุณด้วย เหมือนคุณพยายามขังใจคุณเองอยู่ตลอดเวลา ยัดความผิดให้ตัวเองตลอด คุณทำไป 3 ครั้งแต่ทุกครั้งที่คุณนึกถึงก็เปรียบเหมือนคุณได้ทำอีกซ้ำๆเป็นร้อยเป็นพันครั้ง
ต่อจากนี้ไปขอให้คุณเลิกนึกถึง แล้ววันใดที่คุณไม่ได้นึกถึงตรงนี้แล้ว ก็คือเขาอโหสิกรรมให้คุณแล้ว
ตั้งจิต ฝึกสติให้ดี อย่าให้อกุศลกรรมมาทำร้ายเราซ้ำๆไม่ให้เราหลุดจากวงเวียนกรรม อยู่กับปัจจุบันให้มากที่สุด
กรรมที่คุณประสบอยู่ตอนนี้อาจไม่ได้มาจากการทำแท้งทั้งหมดก็ได้นี่คะ คนเราก็ต้องชดใช้กรรมที่ตนได้ทำทุกๆคน แต่ขึ้นอยู่กับว่า เราจะวางจิตแบบไหน กายทุกข์แทบแย่แต่ใจสุขก็มีถมไป ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ

 

อยากสารภาพบาปค่ะ เคยทำแท้งเหมือนกัน

ได้อ่านกระทู้ข้างบนถึงเรื่องทำแท้งค่ะ อยากจะสารภาพบาปเหมือนกันค่ะ ตัวเองก็เป็นคนหนึ่งที่เคยทำแท้งมาเหมือนกัน 3 ครั้ง และเคยพาเพื่อนไปเหมือนกัน ด้วยความที่รู้เท่าไม่ถึงการ คิดว่าถ้าเค้าเกิดมาแล้วเราไม่พร้อมมันจะทำใ้ห้ชีวิตเค้าลำบาก ครั้งแรกเลยคือพาเพื่อนไปก่อน แล้วหลังจากนั้นก็ไม่เคยคิดว่าจะเป็นตัวเองที่จะต้องไปทำ ไปทำถึง 3 ครั้้ง ทุกวันนี้สำนึกผิดแล้วค่ะ รับกรรมอยู่ชีวิตไม่ดีขึ้นเลยสิ่งที่เราคิดไว้ว่าจะลำบากก็ส่งผลมาจริงๆๆ ทุกวันทำมาหากินไม่ขึ้นเลยค่ะ อยากจะขอเตือนทุกๆ คนที่คิดจะทำแท้งค่ะ แค่ความคิดของคุณมันก็ส่งผลเป็นบาปกรรมแล้วค่ะ แล้วกับการที่ฆ่าเด็กอีกที่เค้าไม่รู้เรื่อง ยิ่งบาปหนักยิ่งกว่าใดๆๆอีก ทุกวันนี้มีอีกหลายคนที่ยังคิดผิดๆ อยากขอให้นึกถึงบาปกรรมไว้น่ะค่ะ มันส่งผลเหมือนเป็นโปรแกรมเลยค่ะ อยากจะแก้กรรมเหมือนกัน แต่ได้รู้มา ว่า "กรรมมันแก้ไม่ได้" ยังงัยก็ต้องชดใช้ แต่มันอาจจะทำให้เบาบางลงแค่นั้นเอง

 

วิบากจากกรรมนี้ สามารถหยุดได้ และเริ่มชีวิตใหม่ที่ดีได้ ยังไม่สายเมื่อลมหายใจยังมี อาตมายินดีให้คำปรึกษากับทุกท่านที่ทุกข์ใจ และติดขัดในชีวิตจากเรื่องนี้ เพื่อเป็นธรรมทาน ขอท่านที่มีทุกข์ จงล่วงจากทุกข์เร็วพลันเทอญ

ขอทุกท่านเจริญธรรม....บริบูรณ์เทอญ

ธ.โชติกะภิกขุ

 

ขอเจ้ากรรมนายเวรทั้งปวง จงงดโทษและร่วมสร้างอภัยทานแด่ท่านผู้ตั้งกระทู้นี้ เพื่อประโยชน์ เพื่อความสุข เพื่อความเจริญในธรรมของท่านผู้นี้ด้วยเทอญ

ขอธรรมทั้งปวง เทวดาทั้งปวง ครูบาอาจารย์ทุกท่านจงรักษาท่าน

ธ.โชติกะภิกขุ

 

อาจจะยังเป็นเพราะว่าหมอท่านนั้น ยังคงเสวยบุญเก่าอยู่ค่ะ
แต่เมื่อไหร่ที่บุญเก่าของเค้าหมดแล้ว ที่เหลือ กรรมล้วนๆค่ะ

เอาจัยช่วยเจ้าของกระทู้นะคะ .....

 

ขอเป็นอีกคน ที่ร่วมส่งข้อมูลดีๆค่ะ

กรรมจากการทำแท้ง <?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-comfficeffice" /><o></o>​

วิญญาณ หรือจิต ที่อยู่ในตุ๊กตาทอง ที่สำนักต่างๆได้จัดสร้างขึ้นมานั้น คงมีที่มาต่างๆกันออกไปว่ากันว่า หลวงปู่ หลวงพ่อ ที่ปลุกเสกกุมารทอง ท่านได้ถอดจิต ไปขอดวงวิญญาณเด็กที่ถูกทำแท้ง จากขุมนรกที่พักวิญญาณผู้ที่ตายก่อนกำหนด เพื่อให้เค้าได้มีโอกาสสร้างบุญกุศลกับมนุษย์ จะได้มีบุญบารมีไปเกิดในภพภูมิที่ดี ที่มีความสุขถือว่าเป็นยังเป็นบุญของจิตวิญญาณที่อยู่ในตุ๊กตาทองนั้น <o></o>
แต่ถ้าเป็นเด็กที่ถูกทำแท้งแล้วไม่มีโอกาสร่วมสร้างบุญกุศล แล้วกลายเป็นสัมภเวสี ผีเร่ร่อน เกาะขา เกาะเอว ขี่คอ พ่อและแม่ที่ไม่ยอมให้เค้าเกิด วิญญาณเด็กซึ่งไม่มีบุญกุศล ก็ไม่สามารถสู้ ต่อต้านภูตผีปีศาจได้ หรือวิญญาณอื่นๆ ที่มีพลังมากกว่า ย่อมตกเป็นทาส ถูกเขารังแก ข่มขืน ทรมานสารพัด<o></o>
แน่นอนว่า คนที่เค้าจะแก้แค้น ก็คือพ่อแม่ เขาจะคอยขัดขวางในทุกๆเรื่องที่เป็นความหวังของผู้ที่ทำแท้ง<o></o>
ว่ากันว่า ใครที่ทำแท้ง มักไม่ได้ครองคู่กัน มีอันต้องจากกัน ถึงแม้จะเลิกกันลูกก็จะคอยติดตามทั้งพ่อและแม่<o></o>
ถึงแม้ว่า จะได้แต่งงานกับคนใหม่ แล้วหวังจะมีลูก ก็จะไม่มี ถึงจะไปขอที่ใดก็ตามแต่ เค้าก็จะบอกว่า “หนูไม่ได้เกิด ก็อย่าหวังว่าใครจะได้มาเกิด” <o></o>
ถึงแม้ว่า ใครที่ทำแท้ง จะได้อยู่ด้วยกัน ชีวิตก็จะมีแต่อุปสรรค ทำอะไรไม่ขึ้น ชีวิตพบแต่ความลำบากแสนเข็ญ<o></o>
ถึงแม้ว่า ใครที่ทำแท้ง ได้อยู่ด้วยกัน มีลูกด้วยกัน ลูกนั้นจะดื้อ เลี้ยงยากเย็ญ จะนำเรื่องร้อนใจมาให้ตลอด<o></o>
เค้าจะคอยเบียดเบียนให้เจ็บไข้ได้ป่วย อาจเป็นโรคภัยเดียวกันหรือเป็นสิ่งที่เค้าต้องเจอในโลกวิญญาณ เช่น เค้าถูกเฆี่ยนตี ทุบตี ถูกแทง มีริ้วรอย มีบาดแผลตามตัวเค้าก็จะเอาความเจ็บปวดนั้นมาระบายที่พ่อแม่เนื่องจากที่เค้าไม่สามารถเข้าไปในเขตบ้านได้ เค้าจะรอพ่อหรือแม่ที่หน้าบ้าน เสื้อผ้าไม่มีใส่ อาหารไม่มีกิน บ้านไม่มีอยู่ ตากแดด ตากฝน ทนหนาว ทนความหิวโหย เค้าจะต้องเกาะพ่อแม่ไปจนกว่า พ่อแม่จะตายไปใช้กรรม แต่เค้ากลับต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว ไปจนถึงอายุขัยที่จะได้เกิดเป็นคน เช่น เมื่อมาเกิดเค้าจะต้องมีอายุขัยถึง 70 ปี ถูกทำแท้งตอนที่แม่อายุ 20 ปี แต่แม่มีอายุขัยเพียง 50 ปีจึงจะได้สมการ ดังนี้ 70-(50-20)=40 ปี เค้าจะเกาะแม่อยู่ 30 ปี เหมาะสมหรือไม่ที่แค้น ชิงชังพ่อแม่ที่ไม่ยอมให้เค้าเกิด แถมยังต้องอยู่โดดเดี่ยวอีก 40 ปี ถึงจะไปสู่ภพภูมิใหม่ได้<o></o>
บางคนคิดว่า ทำบุญไปให้แค่พอเสร็จๆ ไม่ได้ตั้งจิตอธิษฐานขออภัยกับลูก บุญนั้นก็เปรียบได้แค่“ข้าวแค่มื้อเดียว” แล้วไม่ได้ทำบุญบ่อยๆ ปกติคนเรากินข้าว 3 มื้อ แล้วเค้าได้กินมื้อเดียว และยังไม่ได้กินทุกวัน ความโมโหหิวก็ต้องเกิด เค้าก็ต้องเอามาลงกับพ่อแม่เช่นเดิม<o></o>
สิ่งที่เค้าต้องการคือ บุญกุศลที่จะทำให้เค้าสามารถไปเกิดใหม่ได้ก่อนอายุขัยของเขา เมื่อเค้าสั่งสมบุญเพียงพอ(จากพ่อแม่อุทิศให้) แต่ควรทำบุญปัจจัย 4 ไปให้เสียก่อน<o></o>
1.เสื้อผ้า รองเท้า เครื่องนุ่งห่ม<o></o>
2.อาหารหวานคาว <o></o>
3.ยารักษาโรคต่างๆ<o></o>
4.บ้านเรือน ที่อยู่อาศัย<o></o>
หากต้องการ ให้อานุภาพแห่งบุญ เป็นเกราะคุ้มกันอันตรายให้เค้า ควรเพิ่มเติมสิ่งเหล่านี้<o></o>
1.ถวายสังฆทาน และหนังสือธรรมะ<o></o>
2.ถวายผ้าไตรจีวร<o></o>
3.ถวายพระพุทธรูป หน้าตัก 5 นิ้วขึ้นไป เป็นปรางประจำวันเกิดของพ่อ หรือแม่ก็ได้

 

คุณฉัตรรดาค่ะ
ดิฉันอยากจะขอรบกวนปรึกษาคุณฉัตรรดาในเรื่องนี้หน่อยนะคะ
คือดิฉันกำลังทำวิทยานิพนธ์เรื่องการทำแท้งอยู่ และสนใจเคสของคุณมาก
หากคุณฉัตรรดาไม่รังเกียจที่จะอนุญาตเป็นผู้ให้ข้อมูลกับดิฉัน รบกวนช่วยติดต่อกลับมาที่ sumo_259@hotmail.com นะคะ

และดิฉันได้เข้ามาอ่านกระทู้นี้แล้วรู้สึกเห็นใจคุณฉัตรรดาเป็นอย่างมาก
ยังไงก็ขอเอาใจช่วยให้คุณสามารถผ่านเรื่องราวนี้ไปได้โดยเร็วนะคะ
ขอบพระคุณมากค่ะ ^^

 

อีกหนึ่งเสียงสนับสนุนค่ะ ลองเข้า youtube แล้วพิมพ์คำว่า แม่ชีทศพร
แก้กรรมทำแท้ง ถ้าเขาไปเกิดได้ ก็จองเวรน้อยลง บวกผลบุญที่ทำไปด้วย
หวังว่าจะช่วยได้นะคะ

 

อยากถามผู้รู้

ขอเป็นกำลังใจให้ผู้ที่เคยเดินทางผิดมาก่อนให้มีกำลังใจในการทำความดีต่อไป เรารู้ตัวตอนนี้ยังไม่สายค่ะ สิ่งที่ผ่านมาเราไม่อาจย้อนเวลากลับไปแก้ไขได้แต่เราทำปัจจุบันให้ดีได้ ดิฉันเองก็เคยทำแท้งมาเหมือนกันเหตุผลก็ไม่ต่างจากคนอื่นๆเท่าใดนักคืออับอายและไม่เข้าใจว่ามันจะเป็นบาปคิดแต่ว่าเป็นแค่ก้อนเลือดถ้าเราขับออกก็จะเหมือนเรามีประจำเดือน มาคิดได้ก็ตอนเห็นพี่สาวคลอดลูกเห็นหน้าหลานแล้วน้ำตาจะไหล คิดว่าถ้าเราเก็บเค้าไว้ก็คงจะออกมาเป็นคนแบบนี้ตอนนั้นมันเศร้ามากมาสำนึกได้ก็สายเสียแล้ว หลังจากนั้นก็พยายามทำสังฆทานให้ลูกทุกเดือน ทำบุญทุกครั้งก็จะพยายามอุทิศให้ลูกตลอด สิ่งที่อยากถามผู้รู้ก็คือดิฉันอยากทราบว่าลูกได้รับผลบุญที่ดิฉันอุทิศให้หรือไม่แล้วลูกไปเกิดหรือยังลูกอยู่สบายดีหรืออยู่ในที่ลำบาก มีใครพอรู้จักพระหรือคนทรงที่สามารถติดต่อวิญญาณได้บ้างหรือไม่คะเอาประมาณที่อยู่ในกรุงเทพนะคะเพราะดิฉันเองก็ไม่สามารถจะไปไกลได้ ต้องดูแลลูกค่ะยังเล็กอยู่ ท้ายนี้ก็ขอให้ทุกคนมีแต่ความสุขอย่าได้หลงเดินทางผิดเหมือนดิฉันเลย ทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่วเป็นเรื่องจริงแน่นอนค่ะดิฉันเจอมาแล้ว

 

หวังดี

เราทุกคนเกิดมาล้วนแต่มีกรรมด้วยกันทั้งนั้นอย่าท้อที่จะทำความดีค่ะ ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามที่เคยทำผิดพลาดมาขอให้มีกำลังใจในการทำความดีต่อไป ขอให้ทำบุญให้เขาบ่อยๆกรวดน้ำให้บ่อยๆไม่ว่าจะทำบุญใหญ่หรือบุญเล็กจะสวดมนต์จะทำความดีอะไรก็แล้วแต่ก็ให้นึกถึงลูกเสมอกรวดน้ำให้ลูกทุกครั้งคุณก็จะดีขึ้นเองถึงจะไม่มากแต่ก็ได้ผล ดิฉันลองทำมาแล้วลองดูนะคะทุกคน

 

ระวังมีพระมาแอบอ้าง ว่าช่วยท่านได้ พระรูปนี้เคยโกงเงินผมมาแล้ว อย่าไปเชื่อเด็ดขาด

 

ดีจังคะ ที่คุณประสิทธิ์ช่วยเตือน
ชาตินี้เรายังไม่เคยทำแท้ง ไม่เคยมีครอบครัว

แต่ชาติที่แล้วมา พระอาจารย์ที่นับถือท่านบอกว่า
เราได้ทำแท้งโดยไม่เจตนา คือไปทางอาหารที่มีฤทธิ์ขับเลือด
ทำให้แท้งออกมา โดยที่เราก็ไม่รู้ว่ามีเด็ก

กรรมแค่นั้น ทำให้ชาตินี้ติดขัดเวลาทำสมาธิ มีปัญหาสุขภาพด้วย
แวะมาเล่าให้ผังนะคะ

แต่ชาตินี้คิดว่าคงผ่านกรรมข้อนี้ไปได้ ไม่ได้ทำแท้ง (เพราะไม่ได้มีสามี)

 

มาเพิ่มเติมให้นะครับ
วิญญาณเด็กพูดง่าย หากเราตกลงกับเขาดีๆเช่น บวชและอุทิศให้เขา สวดมนต์บทพระจักรพรรดิแล้วสัพเพให้เด็กไปเกิดทำอย่างนี้นะครับ หลวงตาท่านบอกมา
เราทำผิดไปแล้ว อย่าพยายามทำผิดซ้ำอีก แต่เมื่อทำไปแล้ว ก็อย่าไปคิดถึงกรรมนั้นให้จิตใจเศร้าหมอง พยายามทำบุญให้เกิดกระแสบุญ แล้วทุกอย่างจะดีขึ้นอย่างแน่นอน

 

มาเพิ่มเติมให้นะครับ
วิญญาณเด็กพูดง่าย หากเราตกลงกับเขาดีๆเช่น บวชและอุทิศให้เขา สวดมนต์บทพระจักรพรรดิแล้วสัพเพให้เด็กไปเกิดทำอย่างนี้นะครับ หลวงตาท่านบอกมา
เราทำผิดไปแล้ว อย่าพยายามทำผิดซ้ำอีก แต่เมื่อทำไปแล้ว ก็อย่าไปคิดถึงกรรมนั้นให้จิตใจเศร้าหมอง พยายามทำบุญให้เกิดกระแสบุญ แล้วทุกอย่างจะดีขึ้นอย่างแน่นอน

 

1. จัดพิมพ์หนังสือธรรมะ ทำไปเลยเรื่อยๆ ไม่ต้องจำกัดว่าเท่าไหร่ แจกเป็นธรรมทานให้คนที่อ่านได้เห็นธรรม กลับตัวกลับใจทำความดี อานิสงฆ์เกินประมาณ
2. ตัดกรรมที่เกิดจากการกิน หันมาทานอาหารเจตลอดชีวิต
3. หมั่นเจริญกุศลภายใน พร้อมกับทำบุญกุศลภายนอกควบคู่กันไป
4. หากเกิดปัญหาชีวิตไม่ว่าครั้งใด ขออย่าได้กล่าวโทษฟ้า กล่าวโทษดิน
5. หากมีโอกาส ก็พูดธรรมะให้คนอื่นได้ฟังบ้าง
6. สำนึกความผิดบาปอย่างจริงใจ ไม่กล่าวโทษฟ้าดิน และสิ่งใดๆ

"ความผิดที่เกิดขึ้นนั้นยากลบล้างได้ แต่ขอให้สำนึกความผิดด้วยใจจริง สักวันหนึ่งคุณก็จะได้พบสิ่งที่ดีในชีวิต"

 

กุศลผลบุญทัั้งหลายจงมีแก่จขกทให้พ้นทุกข์ตลอดจนเจ้ากรรมนายเวรของเธอด้วยจงมีแต่ความสุขกายสุขใจทุกประการ สาธุ

 

เคยได้ยินมาว่าต้องร่วมทำบุญใหญ่ๆเช่น สร้างพระ กฐิน หรือถวายผ้าไตรจีวรค่ะ สวดมนต์ นั่งสมาธิก็ให้แผ่เมตตาค่ะ ตัวเองมีเพื่อนคนหนึ่งก็เคยทำแท้งมาเหมือนกันและโชคดีได้ท่านหนึ่ง ท่านเมตตาช่วยเหลือให้คำแนะนำตอนนี้เลยดีขึ้นตั้งใจทำบุญเท่าที่ทำได้ค่ะ

 

พระพุทธเจ้าตรัสสอนวิธีไม่ต้องไปอบาย ไม่ต้องตกนรก

พระพุทธเจ้าตรัสสอนวิธีไม่ต้องไปอบาย ไม่ต้องตกนรก เพราะการตกอบาย ตกนรกเป็นเพราะผู้ทำบาป ไม่ยอมสำนึก

บาป ไม่ยอมละเลิกการกระทำบาปนั้นจากความคิด ความเห็นของตน คือไม่ยอมรับการประพฤติตามศีล 5 นั่นเอง

จาก สุตตันต มัชฌิชนิกาย สัจจวิภังคสูตร 22/542-546 (ผมอ่านมาจากหนังสือธรรมธาตุ ธรรมชาติของสรรพ

สิ่ง ของคณะสังคมผาสุก เพื่อความผาสุกของสังคม หน้า 229)

พระพุทธองค์ทรงตรัสแนะนำให้ก้าวล่วงออกจากกรรมเสีย โดยการกำหนดอธิษฐานจิต ตั้งใจมั่นว่า

“ กรรมนั้นๆเป็นสิ่งไม่สมควร ต่อไปนี้ตลอดไปนิรันดร
เราจะไม่กระทำกรรมนั้นอีกเป็นอันขาด ”

เมื่อเราตั้งใจแน่วแน่ดังนี้แล้ว ใจของเราจะก้าวออกจากกรรมนั้นได้

ในโลกมนุษย์ เพราะว่าคุณได้สำนึกผิดอย่างเด็ดขาดไปแล้ว วิบากกรรมที่จะส่งผลถึงคุณนั้นจะเบาบางลง ดังเช่นที่องคุลิ

มาล ฆ่าคนมา 999 ศพ ตอนเป็นพระบวชใหม่ ไปบิณฑบาต โดนรับโทษแค่โดนชาวบ้านรุมประชาทัณฑ์นิดหน่อย

ส่วนในปรโลก วิบากกรรมนั้นจะกลายเป็นเศษกรรมไป


ตัวอย่าง ที่เห็นชัดเจนที่สุดของการหนีนรกขององคุลิมาล

องคุลิมาล เลิกฆ่าคนเด็ดขาดแล้ว และมาบวชเป็นพระ ตอนเป็นพระบวชใหม่ พระองคุลิมาลไปบิณฑบาตในเมืองสาวัตถี

โดนประชาชนขว้างปาด้วยก้อนอิฐ ก้อนหิน และท่อนไม้ จนศีรษะแตก เลือดไหล บาตรก็แตก ผ้าสังฆาฏิก็ขาดวิ่น

พอพระองคุลิมาลไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า พระผู้มีพระภาคก็ตรัสว่า:

"กรรมที่จะให้ผลไปหมกไหม้ในนรกเป็นเวลาหลายหมื่นหลายแสนปี เป็นอันท่านได้รับผลในปัจจุบัน" (รับเศษ

กรรมไปแล้วจากการโดนทำร้ายบนโลก จึงไม่ต้องรับกรรมใดๆอีกในปรโลก)

ย้ำ! "กรรมที่จะให้ผลไปหมกไหม้ในนรกเป็นเวลาหลายหมื่นหลายแสนปี เป็นอันท่านได้รับผลในปัจจุบัน" =

องคุลิมาลไม่ต้องตกนรกหมกไหม้เป็นเวลาหลายหมื่นหลายแสนปี เพราะว่าท่านสำนึกบาป(ทำการก้าวล่วงบาปกรรม)

ทำให้ท่านรับผลกรรมเป็นอันแสบเผ็ดเพียงในชาติปัจจุบันเท่านั้น แต่เป็นวิบากกรรมที่เบาบางลงมาก แล้ววิบากกรรม

ก็ไม่ให้ผลอีกต่อไป

ด้วยเหตุนี้..พระองคุลิมาลองคุลิมาลจึงไม่ตกนรกเพราะจึงไม่ตกนรกเพราะการสำนึกบาปตั้งใจเลิกฆ่าคนอีกตลอดไป

ไม่ใช่เพราะว่า องคุลิมาลไม่ตกนรกเพราะการบรรลุอรหันต์แต่อย่างใด เนื่องจาก..ตอนที่พระพุทธเจ้าตรัสว่า "

กรรมที่จะให้ผลไปหมกไหม้ในนรกเป็นเวลาหลายหมื่นหลายแสนปี เป็นอันท่านได้รับผลในปัจจุบัน" ตอนนั้นพระ

องคุลิมาลยังเป็นพระบวชใหม่อยู่ ยังเป็นพระสดซิงๆอยู่เล กลิ่นคาวเลือดที่ฆ่าคนตัดนิ้วมือ 999 ศพ เพิ่งหายไปเท่านั้น

อ้างอิง:๓๖. อังคุลีมาลสูตร สูตรว่าด้วยพระองคุลิมาล

BY...รักเธอจัง

ผมเชื่อพระพุทธเจ้าครับ...

 

ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านค่ะ และเป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้นะค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ