เรื่องเล่าขานอภินิหารหลวงพ่อโตวัดบางพลีใหญ่ใน

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย omio, 15 มกราคม 2012.

  1. omio

    omio เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    1,679
    ค่าพลัง:
    +5,213
    [​IMG]


    อภินิหารความศักดิ์สิทธิ์แห่งองค์หลวงพ่อโต วัดบางพลีใหญ่ใน ถูกเล่าขานไปทั่วเพราะแม้กระทั่งท่านผู้หญิงบุญหลง พหลพลพยุหเสนา ภริยาของ พล.อ.พระยาพหลพลพยุหเสนาก็รอดชีวิตหายจากโรคร้ายได้อย่างอัศจรรย์ด้วยบารมีของหลวงพ่อโต

    เหตุที่เกิดขึ้นกับท่านผู้หญิงบุญหลงถูกบันทึกไว้ในเรื่อง "ตายแล้วพื้น" ของคุณสนิท ธนรักษ์ นักหนังสือพิมพ์อาวุโสซึ่งผู้เขียนขออนุญาตนำเรื่องราวนั้นมาถ่ายทอดเป็นวิทยาทานอีกครั้ง

    เรื่องนี้เกิดขึ้นในขณะที่ท่านผู้หญิงบุญหลงอายุ 68 ปี เวลานั้นท่านเกิดอาการผิดปกติขึ้นบริเวณลำคอตรงใต้ลิ้น ตอนแรกมีอาการบวม มีก้อนเนื้อโตขึ้นและอักเสบอย่างรุนแรงต่อมาเกิดแผลแตก มีน้ำเลือดน้ำหนองไหลทำให้ท่านต้องทุกข์ทนกับความเจ็บปวดทรมานมาก

    เมื่อให้แพทย์ตรวจและนำเชื้อไปวิเคราะห์ แพทย์ยืนยันว่าท่านเป็นโรคมะเร็งแน่นอนและวิธีรักษาที่ดีที่สุดก็คือผ่าตัด หรือฉายแสง แต่ท่านผู้หญิงบุญหลงไม่ยอมรักษาด้วยวิธีที่แพทย์แนะนำ ท่านขอรักษาด้วยวิธีของแพทย์แผนโบราณซึ่งมียาสมุนไพรเป็นยาทากินแล้วกลับมา รักษาตัวต่อที่บ้านแต่แม้จะกินยาสมุนไพรหลายต่อหลายขนานอาการก็ยังไม่ดีขึ้น มีแต่ทรงกับทรุด

    ท่านผู้หญิงบุญหลงได้รับทุกขเวทนาอย่างสาหัส อาหารก็รับประทานแทบไม่ได้กลืนได้แต่อาหารอ่อนๆพวกข้าวต้มและโจ๊ก เวลาพูดก็ยากลำบาก เสียงอ้อแอ้ฟังไม่รู้เรื่องเนื้องอกตรงลำคอก็ยิ่งขยายใหญ่มีน้ำหนองไหล เรื่อยๆ

    แต่ถึงอย่างไรท่านผู้หญิงก็ไม่ยอมไปผ่าตัด ใช้แต่เพียงยาแผนปัจจุบันระงับการแพร่ขยายของเชื้อมะเร็งไม่ให้ลุกลามแค่นั้น

    คืนหนึ่งโรคร้ายได้รุมเร้าท่านผู้หญิงจนเกิดความรวดร้าวแสนสาหัส ทำให้ท่านนอนคิดย้อนหลับไปถึงกุศลกรรมต่างๆที่ได้กระทำร่วมกับท่านเจ้าคุณพหลพลยุหเสนา จิตของท่านอิ่มเอิบไปด้วยปิติ แล้วความรู้สึกของท่านก็ดับวูบไป

    ท่านผู้หญิงมารู้สึกตัวอีกครั้งเหมือนกับมีอยู่สองร่าง ร่างหนึ่งยังนอนหลับสลายอยู่บนเตียง แต่อีกร่างหนึ่งยังมีความรู้สึกตัวและไม่มีความเจ็บป่วยหลงเหลืออยู่ เวลานั้นท่านอยากไปพบท่านเจ้าคุณพหล ฯ ซึ่งถึงแก่อสัญกรรมไปก่อนแล้วจึงได้เดินออกจากบ้านไป

    ท่านผู้หญิงเล่าว่ารู้สึกตัวเบาสบายผิดปกติ เวลาก้าวเดินก็เหมือนลอยไปและเพียงวูบเดียวท่านก็มายืนอยู่สถานที่แห่งหนึ่ง มีคฤหาสน์หลังหนึ่งตั้งอยู่บนเนินสูง ท่านจึงตรงไปที่คฤหาสน์หลังนั้น เมื่อเข้าไปในเขตคฤหาสน์ท่านก็เห็นบุคคลที่รู้จักคุ้นเคยกลุ่มหนึ่งตรงเข้ามาหาท่านด้วยท่าทางยินดี

    หนึ่งในคนกลุ่มนั้นคือ ท่านเจ้าคุณพหลพลพยุหเสนาสามีของท่านเอง ท่านเจ้าคุณยิ้มแย้มแจ่มใสเดินเข้ามาโอบไหล่ท่านผู้หญิงแล้วพูดว่า "มาแล้วหรือ" จากนั้นก็จูงมือขึ้นไปบนคฤหาสน์ซึ่งเป็นเรือนทรงไทยแบบโบราณหลังใหญ่มหึมา และเป็นเรือนแฝดติดต่อกันหลายหลัง มีนอกชานระเบียงเชื่อมติดต่อกันตลอด คนในคฤหาสน์กรูกันมาต้อนรับท่านผู้หญิงด้วยความยินดี ทำให้ท่านแปลกใจอย่างยิ่ง เพราะหลายคนเป็นเพื่อนทหารกับท่านเจ้าคุณ ในจำนวนนั้นมีคุณหลวงแพทย์ดุลยพิสิษฐ์ นายแพทย์ทหารประจำตัวของท่านเจ้าคุณด้วยและทุกคนได้เสียชีวิตไปหมดแล้ว

    ท่านผู้หญิงบุญหลงเล่าว่าสถานที่ตั้งคฤหาสน์ที่พำนักของท่านเจ้าคุณพหล ฯ ไม่ ทราบว่าอยู่ที่ไหนแต่ที่ผิดสังเกตอย่างเห็นได้ชัดก็คือ อาณาบริเวณตลอดสถานที่แห่งนั้น ปราศจากสัตว์เดรัจฉานแม้กระทั่งนก กระรอก กระแตก็มองไม่เห็น
    เมื่อท่านผู้หญิงเข้ามาในคฤหาสน์ ผู้ที่อยู่ในสถานที่นั้นก็พากันปิติยินดี เข้าใจว่าท่านจะมาอยู่ด้วย ท่านจึงรีบบอกให้ทราบว่า

    "ยังมาอยู่ด้วยไม่ได้หรอก ยังเป็นห่วงลูกอยู่ ถ้าทิ้งลูกมาจะลำบากมากทั้งดิฉันเองก็มีโรคประจำตัว จึงต้องกลับไปดูแลลูกและรักษาตัวให้หายดีเสียก่อน"

    ท่านเจ้าคุณพหลฯได้ฟังเช่นนั้นจึงบอกท่านผู้หญิงว่า
    "เมื่อยังห่วงลูกก็จงกลับไปเสียก่อนเถิด ส่วนโรคที่เป็นนั้นยังไม่ถึงที่ตายหรอก ค่อยรักษาก็จะหายเอง จงรักษาสุขภาพให้ดี เมื่อถึงเวลาแล้วค่อยกลับมาอยู่ด้วยกันที่นี่"

    ท่านเจ้าคุณพูดแล้วก็เตือนให้ท่านผู้หญิงรีบกลับ จากนั้นก็นำท่านผู้หญิงส่งที่หน้าคฤหาสน์ เมื่อกล่าวคำอำลาแล้ว ท่านเจ้าคุณและคฤหาสน์หลังใหญ่ก็หายวับไป ท่านผู้หญิงมารู้สึกตัวอีกครั้งก็พบว่ากำลังนอนบนเตียงในบ้านของท่าน ที่ไปปพบเห็นพูดคุยกับสามีและเข้าไปในคฤหาสน์หลังใหญ่แห่งนั้นไม่ทราบว่า เป็นความฝันหรือท่านตายไปชั่วขณะก่อนจะฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาใหม่ แต่คำพูดของท่านเจ้าคุณพหลฯที่ว่า "...โรคที่เป็นอยู่นั้นไม่ถึงตายหรอก ค่อยรักษาก็จะหายเอง" ก็เป็นความจริงในเวลาต่อมา

    เพราะในเวลาไม่นานก็มีคนมาเล่าให้ท่านผู้หญิงฟังว่า ที่วัดบางพลีใหญ่ใน จ.สมุทรปราการมีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่ชื่อหลวงพ่อโต หรือหลวงพ่อเนื้อนิ่ม รักษาโรคร้ายให้หายได้ ท่านผู้หญิงจึงเกิดความศรัทธาเลื่อมใสปรารถนาที่จะไปขอความเมตตาบารมีจากหลวงพ่อ

    เมื่อท่านผู้หญิงเดินทางไปถึงวัดบางพลีใหญ่ใน ท่านได้เข้าไปในพระอุโบสถจุดธูปเทียน ถวายดอกไม้ที่ฐานพระพุทธปฏิมาหลวงพ่อโตและได้กำหนดจิตอธิษฐานว่า ตัวท่านกำลังได้รับทุกขเวทนาอย่างแสนสาหัสจากโรคร้าย ขออำนาจเมตตาบามีมีอันศักดิ์สิทธิ์จากหลวงพ่อโต โปรดช่วยรักษาโรคร้ายให้หายไปด้วยเถิด หากหลวงพ่อเมตตาก็ขอให้แสดงปาฏิหาริย์ให้ปรากฏแก่สายตา โดยขอให้องค์พระปฏิมาจงมีผิวอ่อนนุ่มเป็นอัศจรรย์

    อธิษฐานแล้วก็ก้มกราบด้วยจิตมั่นในศรัทธา จากนั้นท่านผู้หญิงก็เดินไปที่พระพุทธรูปหลวงพ่อโต ยื่นมือไปแตะที่องค์พระ ทันใดนั้นท่านก็ขนลุกซู่ด้วยความปิติ เมื่อผิวโลหะที่กดนิ้วลงไปบุบบุ๋มไปตามแรงกด ดังเป็นผิวเนื้อมนุษย์ และไม่ว่าจะกดที่ใด กี่ครั้ง ผิวขององค์หลวงพ่อโตก็นุ่มนิ่มเป็นอัศจรรย์ทุกครั้ง ทำให้กำลังใจของท่านผู้หญิงกลับคืนมาเต็มเปี่ยม ท่านถอยกลับมานมัสการอีกและเพิ่งรู้ว่าน้ำมนต์ของหลวงพ่อโตก็คือน้ำมัน มะพร้าวที่มีผู้มาจุดสักการะบูชานั่นเอง

    ดังนั้นท่านจึงขออนุญาตเอาน้ำมันมะพร้าวกลับไปที่บ้าน และใช้น้ำมันมะพร้าวทาแผลมะเร็งที่โคนลิ้นและลำคอภายนอก เพียงไม่กี่วันเนื้อใต้ลิ้นก็แตกทะลักออกมานอกลำคอ มีก้อนหนองสีเขียวคล้ำ ข้นเหนียว คล้ายหัวผีหลุดตามออกมาด้วย ท่านผู้หญิงใช้น้ำมันมะพร้าวหรือน้ำมันมนต์หลวงพ่อโตทาต่อไปอีก ก้อนเนื้อมะเร็งก็ค่อย ๆ ยุบลงไปและแผลที่ลำคอก็แห้งไปเรื่อยๆกระทั่งแผลภาย นอกในหายสนิทไม่มีแม้แต่รอยแผลเป็น

    ท่านผู้หญิงหลุดพ้นจากความทุกข์ทรมานได้อย่างเหลือเชื่อ ท่านรับประทานอาหารได้เป็นปกติเช่นเดิม เสียงพูดอ้อแอ้ก็หายไปเป็นแจ่มใสชัดเจน นี่คือความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อโตวัดบางพลีใหญ่ใน ที่แสดงปาฏิหาริย์มหัศจรรย์ให้เป็นที่ประจักษ์แก่ท่านผู้หญิงบุญหลง พหลพลพยุหเสนาจนเกิดศรัทธาเลื่อมใสสูงสุด ตราบสิ้นอายุขัยของท่าน
    _________________

    00485
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 17 มกราคม 2012
  2. omio

    omio เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    1,679
    ค่าพลัง:
    +5,213
    [​IMG]


    ตำนานของ “หลวงพ่อโต”
    แห่งคลองสำโรง แม่น้ำเจ้าพระยา
    วัดบางพลีใหญ่ใน อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ

    หนึ่งในพระห้าพี่น้อง ที่พร้อมใจกันลอยน้ำมาจากทางเหนือนั้น
    มีอยู่องค์เดียวที่มิได้มีพระนามตามชื่อวัด หรือตามชื่อของหมู่บ้านที่ชาวบ้านเป็นผู้พบเห็นครั้งแรก แต่พระนามของท่านนั้น ชาวบ้านขนานนามตามพุทธลักษณะของท่านที่มีองค์ใหญ่โตว่า “หลวงพ่อโต” ประดิษฐานอยู่ ณ วัดบางพลีใหญ่ใน อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ

    ประวัติความเป็นมา

    หลวงพ่อโตได้ล่องลอยเรื่อยมาตามลำแม่น้ำเจ้าพระยา แล้วลอยเข้ามาในลำคลองสำโรง ผู้พบเห็นต่างโจษจันกันไปทั่วถึงปาฏิหาริย์ในครั้งนี้ จึงพากันอาราธนาหลวงพ่อขึ้นที่ปากคลองสำโรง แต่ฉุดดึงเท่าไรก็ไม่สำเร็จ ท่านไม่ยอมขึ้น

    มีผู้มีปัญญาดีคนหนึ่งได้ให้ความเห็นว่า คงเป็นเพราะบุญญาอภินิหารของท่าน แม้จะใช้จำนวนผู้คนสักเท่าไรอาราธนาฉุดท่านขึ้นบนฝั่งคงไม่สำเร็จเป็นแน่ ควรจะเสี่ยงทายต่อแพผูกชะลอกับองค์ท่าน แล้วใช้เรือพายฉุดท่านให้ลอยมาตามลำน้ำสำโรง และอธิษฐานว่า “หากท่านประสงค์จะขึ้นโปรดที่ใด ก็ขอแสดงอภินิหารให้แพที่ลอยมาจงหยุด ณ ที่นั้นเถิด” เมื่อประชาชนทั้งหลายได้เห็นพ้องต้องกันดังนั้นแล้ว ก็พร้อมใจกันทำแพผูกชะลอกับองค์ท่าน แล้วใช้เรือพายช่วยกันจ้ำพายจูงแพลอยเรื่อยมาตามลำคลอง

    ครั้นแพลอยมาถึงบริเวณหน้า
    วัดพลับพลาชัยชนะสงคราม หรือปัจจุบันนี้คือ วัดบางพลีใหญ่ใน แพที่ผูกชะลอองค์ท่านก็เกิดหยุดนิ่ง ฝีพายพยายามจ้ำและพายกันอย่างเต็มที่เต็มกำลัง แพนั้นก็หาได้ขยับเขยื้อนไม่ ชาวบางพลีถึงกับขนลุกซู่เห็นเป็นอัศจรรย์ยิ่งนัก ต่างก้มลงกราบนมัสการด้วยความเคารพสักการะ แล้วพร้อมใจกันอาราธนาตั้งจิตอธิษฐานว่า “ถ้าหลวงพ่อจะโปรดคุ้มครองชาวบางพลีให้ได้รับความร่มเย็นเป็นสุขแล้ว ก็ขออาราธนาอัญเชิญองค์ท่านให้ขึ้นจากน้ำได้โดยง่ายเถิด”
     
  3. omio

    omio เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    1,679
    ค่าพลัง:
    +5,213
    และก็เป็นที่น่าอัศจรรย์เป็นอย่างมาก เพียงใช้คนไม่มากนัก ก็สามารถอาราธนาท่านขึ้นจากน้ำได้โดยง่าย ทำให้ประชาชนต่างแซ่ซ้องในอภินิหารของท่าน และได้อาราธนาท่านขึ้นไปประดิษฐานในพระวิหาร ซึ่งต้องชะลอท่านขึ้นข้ามฝาผนังวิหาร เพราะขณะนั้นหลังคาพระวิหารยังไม่มี และประตูวิหารก็เล็กมาก ต่อจากนั้นท่านจึงได้ประดิษฐานอยู่ในวิหารนั้นเรื่อยมา ครั้นต่อมาได้รื้อวิหารนั้นเพื่อสร้างเป็นพระอุโบสถที่ถาวร จึงต้องชะลออาราธนาองค์ท่านมาพักไว้ยังศาลาชั่วคราว จนกระทั่งได้สร้างพระอุโบสถสำเร็จแล้ว จึงได้อาราธนาท่านไปประดิษฐานไว้ในพระอุโบสถ เพื่อเป็นประธานของวัดบางพลีใหญ่ใน


    [​IMG]


    พุทธลักษณะ

    หลวงพ่อโตเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย (สะดุ้งมาร) หน้าตักกว้าง 3 ศอก 1 คืบ ลืมพระเนตร เป็นพระพุทธรูปสมัยสุโขทัย เนื้อเป็นทองสัมฤทธิ์ทั้งองค์ ความที่องค์ของท่านใหญ่โตมากเพราะหน้าตักกว้างถึง 3 ศอก 1 คืบ ชาวบ้านจึงขนานนามท่านว่า
    “หลวงพ่อโต”

    หลวงพ่อโตแปลงร่าง ?

    เมื่อครั้งที่ท่านยังประดิษฐานอยู่ในพระวิหารเก่า บางวันที่เป็นวันพระขึ้น 15 ค่ำ กลางคืนผู้คนจะได้ยินเสียงพึมพำอยู่ในวิหารคล้ายเสียงสวดมนต์ ครั้นเมื่อเข้าไปดูก็ไม่เห็นมีใครอยู่ในนั้นเลยนอกจากหลวงพ่อโต บางคราวพระภิกษุสามเณรในวัดจะเห็นพระภิกษุชราห่มจีวรสีคร่ำคร่า ถือไม้เท้าเดินออกมายืนสงบนิ่งอยู่หน้าวิหาร ผู้ที่พบเห็นต่างก็เรียกกันมาดู เมื่อทุกคนเห็นพร้อมกันดีแล้ว ภิกษุชรารูปนั้นก็เดินหายเข้าไปในวิหารตรงองค์ของหลวงพ่อ เป็นดังนี้หลายครั้งหลายหน บางครั้งจะมีผู้เห็นเป็นชายชรารูปร่างสง่างาม มีรัศมีเปล่งปลั่ง นุ่งขาวห่มขาวเข้ามาหาหลวงพ่อแล้วก็หายไปตรงพระพักตร์ของท่าน

    แสดงปาฏิหาริย์ !!

    เมื่อสร้างพระอุโบสถเสร็จใหม่ ๆ ก่อนจะอาราธนาหลวงพ่อเข้าไปประดิษฐานภายในพระอุโบสถ ได้วัดองค์ท่านกับช่องประตูพระอุโบสถ ช่องประตูใหญ่กว่าองค์ท่านประมาณ 5 นิ้ว ซึ่งสามารถนำท่านชะลอผ่านประตูเข้าไปได้สบายมาก ครั้นเวลาอาราธนาหลวงพ่อเข้าสู่พระอุโบสถจริงๆ กลับปรากฏว่า องค์หลวงพ่อใหญ่กว่าช่องประตูมาก จะทำอย่างไรก็ไม่สามารถนำท่านผ่านประตูเข้าไปได้

    คณะกรรมการและประชาชนทั้งหลายเห็นเช่นนั้นก็พากันตกใจ ให้ความเห็นว่าต้องทุบช่องประตูออกเสียให้กว้าง เมื่อนำหลวงพ่อเข้าไปแล้วค่อยทำประตูกันใหม่ แต่บางท่านให้ความเห็นว่าหลวงพ่อโตคงจะแสดงอภินิหารให้ทุกคนได้เห็นเป็น อัศจรรย์ก็ได้ ดังนั้นจึงพร้อมใจกันจุดธูปเทียนบูชาอธิษฐานขอให้หลวงพ่อผ่านเข้าประตูพระอุโบสถได้ เพื่อเป็นมิ่งขวัญคุ้มครองชาวบางพลีสืบต่อไป เมื่ออธิษฐานเสร็จแล้ว ก็อาราธนาหลวงพ่อเข้าสู่ประตูพระอุโบสถใหม่ คราวนี้ทุกคนก็ต้องแปลกใจที่องค์หลวงพ่อผ่านเข้าประตูพระอุโบสถได้อย่างง่ายดาย โดยมีช่องว่างระหว่างองค์หลวงพ่อกับประตูพระอุโบสถเสียอีก นับว่าเป็นที่น่าอัศจรรย์ในอภินิหารและความศักดิ์สิทธิ์ขององค์หลวงพ่อโตยิ่งนัก



     
  4. omio

    omio เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    1,679
    ค่าพลัง:
    +5,213
    [​IMG]


    นี่ก็เป็นเรื่องมหัศจรรย์อีกเรื่องหนึ่ง โดยเฉพาะความเปลี่ยนแปลง ขนาดความกว้างของประตูกับขนาดองค์หลวงพ่อโตซึ่งใหญ่กว่าประตูในภายหลังนั้น ประหนึ่งจะเป็นการแสดงให้ได้รับรู้กันว่า องค์พระปฏิมากรหลวงพ่อโตจะสถิตสถาพรอยู่ ณ โบสถ์วัดบางพลีใหญ่ในตลอดไป

    การแสดงปฏิหาริย์ของหลวงพ่อโตวัดบางพลีในเป็นที่ระบือเลื่องลือของมหาชน ปรากฏขึ้นอีกครั้ง เมื่อกลางเดือนเมษายน พ.ศ.2520 ตรงกับวันตรุษสงกรานต์

    นั่นคือผิวโลหะทองสัมฤทธิ์ที่หล่อเป็นองค์พระปฏิมากรนุ่มนิ่มดุจผิวเนื้อมนุษย์ รวมทั้งสีผิวก็มองดูคล้ายผิวเนื้อคน

    สื่อมวลชนได้ลงข่าวนี้เกรียวกราว ทำให้ประชาชนจากทุกสารทิศพากันหลั่งไหลไปกราบนมัสการ และขอสัมผัสพิสูจน์ผิวเนื้อของหลวงพ่อโตวัดบางพลีในอย่างเนืองแน่นไม่ขาดสาย ปรากฏการณ์แปลกประหลาดมหัศจรรย์ครั้งนี้ แม้แต่นักวิชาการทางวิทยาศาสตร์ก็เดินทางไปสัมผัสพิสูจน์ แต่ไม่สามารถหาคำอธิบายได้ว่า เหตุใดผิวขององค์พระพุทธรูปโลหะจึงได้แปรสภาพเป็นนุ่มนิ่มเช่นนั้น

    การแสดงปาฏิหาริย์ของหลวงพ่อโตวัดบางพลีในเป็นไปนับสิบวัน จากนั้นผิวของท่านก็กลับคืนสู่สภาพผิวโลหะเช่นเดิม แต่ประชาชนโดยทั่วไปก็ยังเลื่อมใสศรัทธาไม่เสื่อมคลาย และจากปาฏิหาริย์ครั้งนี้ หลวงพ่อโตวัดบางพลีในก็ถูกเรียกนามกล่าวขานอีกชื่อหนึ่งว่า “หลวงพ่อเนื้อนิ่ม”

    ต่อมาในเดือนมีนาคม พ.ศ.2522 พระพุทธปฏิมากรหลวงพ่อโตวัดบางพลีใน ก็ได้แสดงปาฏิหาริย์ให้ผิวองค์พระนุ่มนิ่มและมีสีผิวคล้ายผิวเนื้อมนุษย์อีก มีประชาชนพากันไปสักการบูชากันอย่างเนืองแน่นยิ่งกว่าครั้งแรก ทำให้วัดบางพลีในได้รับเงินบริจาคจากพุทธบริษัทผู้เลื่อมใสศรัทธาหลวงพ่อโต หรือ “หลวงพ่อเนื้อนิ่ม” นำมาเป็นปัจจัยบูรณะทำนุบำรุงวัดให้เจริญรุ่งเรืองสืบมา

    ไม่เพียงแต่หลวงพ่อโตวัดบางพลีในจะแสดงปาฏิหาริย์เป็นที่อัศจรรย์ดัง กล่าวมาแล้ว ท่านยังแผ่เมตตาบารมีอันศักดิ์สิทธิ์ช่วยบรรเทาทุกข์ภัยให้แก่ผู้คนที่มาสักการบูชา ขอความเมตตาจากท่านนับจำนวนไม่ถ้วน

    บนบานศาลกล่าว

    ผู้คนที่มีเรื่องเดือดเนื้อร้อนใจต่าง ๆ นานา มักจะมากราบไหว้บนบานศาลกล่าวอธิษฐานขอให้หลวงพ่อโตช่วยให้สมปรารถนา เมื่อสำเร็จผลแล้ว มักจะนำใบลานที่สานเป็นปลาตะเพียนเงินปลาตะเพียนทองมาถวายเป็นการแก้บน สาเหตุที่ใช้ปลาตะเพียนนั้น เพราะเชื่อกันว่าเป็นปลาคู่บารมีของหลวงพ่อ มีเรื่องเล่าว่า ในอดีตที่ข้างวิหารมีสระน้ำย่อม ๆ อยู่สระหนึ่ง บางคราวจะมีปลาเงินปลาทอง หรือปลาตะเพียนเงิน ปลาตะเพียนทอง ขนาดใหญ่ 2 ตัว ปรากฏให้เห็นลอยเล่นน้ำอยู่คู่กันในสระ ซึ่งในสระนั้นไม่เคยมีปลาตะเพียนเงินตะเพียนทองมาก่อนเลย !!

    ส่วนเรื่องที่ห้ามบนบานเด็ดขาดก็คือ การขอให้ไม่ถูกเกณฑ์ทหาร เช่นเดียวกับหลวงพ่อโสธร หลวงพ่อบ้านแหลม หลวงพ่อ (ทอง) วัดเขาตะเครา เพราะผู้ที่บนในเรื่องดังกล่าว จะต้องถูกเกณฑ์ทหารทุกราย



    [​IMG]




    งานนมัสการหลวงพ่อโต

    ทางวัดได้จัดให้มีงานสมโภชปีละ 3 ครั้ง คือ

    - งานปิดทองฝ่าพระพุทธบาทและนมัสการหลวงพ่อโต ระหว่างวันขึ้น 15 ค่ำ ถึง วันแรม 2 ค่ำ เดือน 3

    - งานนมัสการและปิดทองหลวงพ่อโต ระหว่างวันขึ้น 15 ค่ำ ถึง วันแรม 2 ค่ำ เดือน 4

    [​IMG]

    - งานประเพณีรับบัวและนมัสการหลวงพ่อโต ระหว่างวันขึ้น 11 ค่ำ ถึง วันขึ้น 14 ค่ำ เดือน 11 มีการจัดขบวนเรือแห่แหนหลวงพ่อโต (จำลอง) ไปตามลำคลองสำโรง เพื่อรับดอกบัวที่ผู้คนถวายเป็นพุทธบูชา

    นอกจากนี้ในวันวิสาขบูชา ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 ของทุกปี จะมีงานทำบุญฉลองที่หลวงพ่อโตแสดงปาฏิหาริย์ให้องค์หลวงพ่อนิ่มเหมือนเนื้อ ของมนุษย์

    หลวงพ่อโตเป็นที่เคารพสักการะของประชาชนทั่วไปและชาวบางพลี รวมทั้งเป็นมิ่งขวัญของวัดบางพลีใหญ่ใน มาจนตราบเท่าทุกวันนี้


    บทความ ตำนาน พลวงพ่อลอยน้ำ 5 พี่น้อง ตอนหลวงพ่อโตวัดบางพลีใหญ่

    http://community.momypedia.com/webboard_topic.aspx?tid=265869
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 มกราคม 2012
  5. omio

    omio เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    1,679
    ค่าพลัง:
    +5,213
    ห้องน้ำ 5 ล้านบาท ที่วัดบางพลีใหญ่ใน

    พระครูวิบูลย์ธรรมานุกิจ เจ้าคณะตำบลบางพลี และเจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่ใน อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ทุ่มเงินกว่า 5,000,000 บาท เพื่อเนรมิตห้องสุขาของวัดบางพลีใหญ่ในให้มีความสะอาด ทันสมัย เพื่อไว้บริการญาติโยม และบุคคลทั่วไป


    วัดบางพลีใหญ่ในได้ทำการก่อสร้างห้องสุขาใต้อาคารเดิมโดยมีลักษณะวิจิตรงดงาม แก่ผู้พบเห็นเป็นอย่างยิ่ง หน้าประตูทางเข้ามีชั้นวางรองเท้าสำหรับผู้ใช้บริการได้เปลี่ยน ห้องสุขาได้กั้นเป็นห้องกระจกติดแอร์ พื้นปูด้วยกระเบื้องลวดลายสวยงาม ภายในห้องแบ่งเป็นห้องสุขา ชาย หญิง จำนวน 12 ห้อง และห้องปัสสาวะชาย 1 ห้อง


    โดยได้นำสุขภัณฑ์อย่างดีมาใช้ ส่วนบริเวณอ่างล้างมือที่ติดอยู่ฝาผนัง 2 ด้าน มีอ่างล้างมือ 4 อ่าง ส่วนก๊อกน้ำล้างมือเปิดปิดด้วยระบบเซ็นเซอร์ด้วยแสง ประดับด้วยกระจกเงาเจียรไนอย่างสวยงาม ส่วนกลางห้องโถงมีการทำเป็นสวนหย่อมด้วยต้นไม้จริงที่นำมาประดับ พร้อมด้วยน้ำตกจำลอง มีพนักงานหญิงทำความสะอาดตลอดเวลา


    สำหรับแรงบันดาลใจในการก่อสร้างโดยเจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่ในกล่าวว่า วัดบางพลีใหญ่ในเป็นวัดที่มีญาติโยมจาก ทั่วประเทศมีความศรัทธาต่อหลวงพ่อโตมาก ได้เดินทางมานมัสการจำนวนมาก รวมทั้งบุคคลชั้นนำของประเทศ ทางคณะกรรมการวัดจึงมีมติเห็นสมควรสร้างห้อง สุขาขึ้นมาเพื่อไว้บริการญาติโยมที่มานมัสการหลวงพ่อโตให้มีความสะดวกสบาย อีกทั้งเป็นหน้าตาของจังหวัดสมุทรปราการ


    [​IMG]

    [​IMG]


     
  6. note_bank

    note_bank เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    380
    ค่าพลัง:
    +968
    ข้อมูลน่าจะคลาดเคลื่อนนะคะ ตรงที่ห้ามบนเรื่องเกนทหาร เพราะท่านเลื่องชื่อมากเรื่อบนจับใบดำใบแดง เพราะจะมีการเกนทหารทีไร จะต้องไปบนขอหลวงพ่อโตและแก้บนด้วยไข่ต้ม โดยมากก็จับได้ใบดำกัน (ข้อมูลส่วนตัวไม่มีอ้างอิง อ้างอิงจากประสบการณ์ที่เกิดที่นั่นและโตมาที่นั่น หากตายก็คงเผาที่วัดนั้น)

    ส่วนเรื่องห้องน้ำ ตอนสร้างเสร็จใหม่ๆ มีคนโจมตีอย่างมากว่าทำสิ้นเปลืองเงินบ้าง ทำไม่สร้างโรงเรียนบ้าง คืออยากจะแก้ข่าวว่า เป็นศรัทธาจากพุทธบริษัท โรงเรียนก็สร้างแล้ว สวยงามมากด้วย สิ่งอื่นๆก็ทำหมดแล้ว การทำห้องน้ำให้ดี สะอาดน่าเข้าก็เป็นความคิดที่ดี ไปวัดทีไรต้องขอเข้าห้องน้ำ(และโมทนากับท่านที่ร่วมสร้าง)

    อยากชักชวนไปกราบหลวงพ่อโต ซึ่งวัดอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพ ลงทางด่วนบางนาแค่ 12 กิโล เส้นทางไปก็ไม่ยาก แต่เสาร์อาทิตย์คนเยอะมากกกกก ไปวันธรรมดาคนน้อยกว่า จะไปกวาดโบสถ์หลวงพ่อโตก็ได้หรือจะไปนั่งสมาธิที่โบสถ์เก่าที่ติดกันก็ได้เงียบสงบดี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 มกราคม 2012
  7. omio

    omio เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    1,679
    ค่าพลัง:
    +5,213

    ข้อมูลเรื่องเกณฑ์ทหารได้อ่านจะหลายกระทู้ค่ะ แต่คนท้องถิ่นอาจจะทราบดีกว่า

    มีเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อโตมาเล่าให้ฟังอีกไหมคะ
     
  8. Santajitto

    Santajitto เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2010
    โพสต์:
    263
    ค่าพลัง:
    +455
    กราบนมัสการ องค์หลวงพ่อโต ครับ
    ลูกจะต้องไปกราบองค์หลวงพ่อโตสักครั้งให้ได้
    อนุโมทนา สาธุ
     
  9. love_song_music

    love_song_music เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 เมษายน 2009
    โพสต์:
    455
    ค่าพลัง:
    +907
    กราบนมัสการหลวงพ่อโต
     
  10. PUKE

    PUKE สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    38
    ค่าพลัง:
    +10
    อนุโมทนาสาธุนะคะ กับความศักดิ์สิทธิ์และความเมตตาของหลวงพ่อโตท่าน จะได้ไปกราบท่านในวันหน้าคะ.
     
  11. pagorn

    pagorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    768
    ค่าพลัง:
    +2,848
    ไปมาแล้วค่ะหลวงพ่อโตงดงามมาก...ส่วนห้องน้ำก็สวยสมคำร่ำลือเข้าไปใช้บริการนี่สะอาดสุดๆๆค่ะ ^^
    โมทนาสาธุค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 16 มกราคม 2012
  12. nawarat_jha

    nawarat_jha เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    111
    ค่าพลัง:
    +251
    กราบ กราบ กราบ หลวงพ่อโต เจ้าค่ะ
    ขอกราบอนุโมทนาบุญนะคะ
     
  13. ไห่เฉากุหลาบไฟ

    ไห่เฉากุหลาบไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    897
    ค่าพลัง:
    +2,177
    กราบนมัสการอย่างสูง....
     
  14. aoffy_s

    aoffy_s เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    994
    ค่าพลัง:
    +3,775
    กราบหลวงพ่อโตครับ

    ผมเป็นคนปากน้ำ สมุทรปราการครับมีโอกาสก็จะไปกราบนมัสการท่านอยู่ เสมอๆ
    ปีใหม่ที่ผ่านมา ได้ไปกราบขอพรท่านมาด้วย ตัวผมกับครอบครัวจะรู้สึกผูกพันกับองค์หลวงพ่อท่านอย่างมาก พอเริ่มๆมาปฏิบัติธรรม สวดมนต์นั่งสมาธิ เวลาไปกราบท่านเพียงเดินเข้าวิหารจะมีอาการขนลุกวูบวาบเย็นใจอย่างบอกไม่ถูก ทุกครั้งที่ไปเลยครับ
    ในวันสงกรานต์ปีไหนจำไม่ได้หลังจากกราบบูชาท่านแล้ว ได้ออกมาซื้อสลากกินแบ่งที่แผงข้างหน้าทางเข้าวิหารองค์หลวงพ่อ งวดนั้นปรากฏว่าได้ลาภเลขสามตัว จากสลากกินแบ่งรัฐบาลครับ
     
  15. rachthaya

    rachthaya สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2010
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +4
    ไปมาแว้ว ห้องน้ามสวย หอม
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  16. องค์ชายสาม

    องค์ชายสาม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    1,681
    ค่าพลัง:
    +11,261
  17. Jdin_buddhism

    Jdin_buddhism เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2005
    โพสต์:
    366
    ค่าพลัง:
    +10,153
    ใครจะไปที่วัดในวันหน้าผมแนะนำซื้อหาทองคำเปลวแท้ตามร้านขายสังฆภัณฑ์ไปด้วยครับ (เคยซื้อทองคำเปลวตราช้าง) เท่าที่เห็นทางวัดมีแต่ทองคำเปลววิทยาศาสตร์ให้บูชา ปิดที่องค์ท่านแล้วก็หลุดปลิวออกไป แนะนำกันครับผมเองก็มีโอกาสไปมาหลายรอบแล้วเหมือนกัน
     
  18. nuttyty

    nuttyty เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    198
    ค่าพลัง:
    +579
    ขอกราบนมัสการหลวงพ่อโต ได้โปรดประทานพรให้ข้าพเจ้าและครอบครัว มีสุขภาพแข็งแรง ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ หน้าที่การงานเจริญรุ่งเรือง โชคลาภวาสนา เมื่อข้าพเจ้า
    มีเงินมากมาย ข้าพเจ้าจะนำเงินที่ได้มาเลี้ยงดูบิดามารดา ทำธุรกิจ และส่วนหนึ่ง
    จะนำไปช่วยเหลือสังคม และบำรุงพระศาสนาให้สืบต่อไป สาธุ สาธุ สาธุ
     
  19. pee-riflle

    pee-riflle สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    45
    ค่าพลัง:
    +24
    กราบ นมัสการหลวงพ่อโต ครับ
     
  20. รักโพธิญาณ

    รักโพธิญาณ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มกราคม 2012
    โพสต์:
    67
    ค่าพลัง:
    +224
    วัดบางพลีใหญ่ในขณะนี้เจ้าอาวาสไม่ใช่พระครูวิบูลย์ธรรมานุกิจนะ ท่านผู้นี้ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ไปแล้วอยู่ที่ราชทินนามว่า "พระโสภณพัฒนากร"หรือ"ท่านเจ้าคุณจรัล" หลวงพ่อโตอันศักดิ์สิทธิ์มากๆเลยขอให้ทุกท่านได้กราบไหว้พระพุทธรูปอันศักสิทธิ์ ห่างจากกรุงเทพบริเวณสี่แยกบางนาถนนบางนา-ตราด เพียงแค่ 13 กิโลเมตรนะครับขอให้ไปให้ได้นะครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...