ตื่นนิโรธ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย Darkever, 16 มกราคม 2012.

  1. Darkever

    Darkever เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 เมษายน 2011
    โพสต์:
    450
    ค่าพลัง:
    +333
    นิโรธ สมาบัติ นิโรธสมาบัติ คือ ฌาน 9 ผู้จะเข้านิโรธได้ ต้องสำเร็จ สมาบัติ8 คือสำเร็จฌาน8 แล้วถึงจะเข้านิโรธได้ และคุณสมบัติ อีกประการ ของนิโรธ ผู้จะเข้าได้ ต้องเป็นพระอนาคามีขึ้นไปเท่านั้น ถึงจะเข้านิโรธได้ บุคคลใด ที่ทำบุญกับผู้ออกนิโรธใหม่ๆ จะเป็นมหาเศษฐี ทันที ใน 24 ชั่วโมง ของวันนั้น นับจากที่ได้ทำบุญ และนิโรธ จะเข้าเพื่อโปรค คนๆเดียว เจาะจงเข้านิโรธ เพื่อคนๆเดียว ปัจจุบันนี้ มีผู้ออกตัว ว่า เข้านิโรธได้ หลายราย ซึ่ง ต้องทำความเข้าใจก่อน ว่า นิโรธ คือ ฌาน 9 เมื่อเข้าแล้ว กายจิต แยกกัน จึงเข้าได้นาน แต่ในขณะที่ ฌานต่ำๆ กายจิต ก็แยกกัน เหมือนกัน นั่งได้นานเหมือนกัน เข้าฌาน ก็นั่งได้นาน เข้านิโรธก็เข้าได้นาน จึงเป็นการยากมาก ที่จะแยกว่า คนที่นั่งนานๆนิ่งๆ เป็นการ เข้านิโรธ หรือ เข้าฌานธรรมดากันแน่ ฉะนั้น ขอท่านทั้งหลาย อย่าเพิ่งตื่นไปกับนิโรธให้มากนัก บางครั้ง อาจจะเป็นแค่ การเข้าฌาน ธรรมดา ซึ่งฌานธรรมดา ก็นั่งได้นานอยู่ เป็นเรื่องปกติ ฉะนั้นขอจงอย่าเอาระยะเวลานั่งนานมาวัดว่าคือนิโรธไม่ได้เด็ดขาด เพราะฌาน และ นิโรธ ต่างก็นั่งได้นานได้ทั้งนั้น วิธีวัด ที่ถูกต้อง คือ ทำบุญแล้ว เป็นมหาเศษฐี ทันที ใน 24 ชั่วโมงของวันนั้น หรือไม่ ถ้าไม่ แปลว่า ไม่ใช่นิโรธ นิโรธปลอม หรือเป็นการเข้าฌาน ธรรมดาๆ เพราะพระพุทธเจ้ากล่าวไว้ในพระไตรปิฏกว่า ทำบุญกับคนออกนิโรธ จะเป็นมหาเศษฐีในวันนั้น ถ้าทำแล้วไม่เป็น แปลว่า นิโรธปลอม

    Dark Ever
     
  2. นราสภา

    นราสภา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,962
    ค่าพลัง:
    +356
    ขออนุญาติ สอบถาม


    ถ้าไม่ได้เป็น พระอนาคามี เข้านิโรธ ได้ไหมเจ้าค่ะ

    เเล้วมันมีสภาวะ อนาคามี เเบบชั่วคราวไหม


    ขอบคุณเจ้าค่ะ
     
  3. Darkever

    Darkever เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 เมษายน 2011
    โพสต์:
    450
    ค่าพลัง:
    +333
    ถ้าไม่ได้เป็น ก็เข้าไม่ได้แน่นอน
    แล้วกิเลศ ขาดแล้วขาดเลย
    จะย้อนคืนมาได้ยังไง --*
     
  4. นราสภา

    นราสภา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,962
    ค่าพลัง:
    +356
    ขอบคุณค๊าาาาาาาาาา


    ขอบคุณในคําตอบค๊าาาาาาาาาา:cool::cool::cool:
     
  5. หม้อหุงข้าว..!

    หม้อหุงข้าว..! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,103
    ค่าพลัง:
    +1,072
    นิโรธสมาบัติของใคร คือ ปฏิคาหก

    อย่างในประวัติท่านเมณฑกเศรษฐีในกาลก่อน ปฏิคาหก คือพระปัจเจกพุทธเจ้า
    ท่านปุณณะเศรษฐี ปฏิคาหก คือท่านพระสารีบุตร ระดับพระอัครสาวก
    หรือท่านท้าวสักกะเทวราช ปฏิคาหก คือท่านพระมหากัสสปะ ระดับเอตทัคคะ พระอสีติมหาสาวกโน้นนะ
    ต่อมาท่านเศรษฐีทั้งสามนี่ เป็นเศรษฐีในความเป็นเศรษฐี

    ก็ลองพิจารณาดู พอเมื่อทำไปแล้ว เราจะไปตัดสินว่านั่นไม่ใช่นิโรธ นี่เสร็จเลย

    ก็เลยอยู่กับความจริง คือเป็นผู้ขัดสน ฝืดเคืองตามเคย

    เรียกได้ว่า ประทุษร้ายตนเอง จบกัน สู่ความเป็นอริยทรัพย์
    แม้การสาดเศษอาหารให้สัตว์ที่อาศัย ลงไปในบ่อน้ำคลำ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 มกราคม 2012
  6. saintyom

    saintyom เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    286
    ค่าพลัง:
    +776
    สอนผมหน่อยครับ แค่ฌาณ1ผมยังไม่ได้เลย T^T
     
  7. Norlnorrakuln

    Norlnorrakuln เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    3,814
    ค่าพลัง:
    +15,099
    ขออธิบายตามความเข้าใจ

    นิโรธ แปลว่า ดับ
    ดับอะไร ก็ดับสมาบัติทั้ง ๘ นะสิ รูปฌาน ๔ และอรูปฌาน ๔ ถ้าไม่ดับมันเข้าไม่ถึงนะ

    เขาถึงเรียก นิโรธสมาบัติ ไง ! มี มหาสูญญตา เป็นวิหารธรรม

    ก็ลองไปพิจารณาดู อย่าเพิ่งเชื่อ

    เจริญในรสธรรม
     
  8. นราสภา

    นราสภา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,962
    ค่าพลัง:
    +356
    เมื่อเป็นเช่นนั้น

    เมื่อเป็นเช่นนั้น หากเราดับ ในสมาบัติเเปด ลงได้ชั่วคราว
    ครองเอา มหาสูญญตา เป็นกําลัง ทรงไว้เเต่ความว่าง

    เราจะเรียก ภาวะ ตรงนั้นว่าเป็น การเข้านิโรธ เเบบชั่วคราว จะได้ไหมเจ้าค่ะ
     
  9. Namushakamunibutsu

    Namushakamunibutsu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    1,347
    ค่าพลัง:
    +2,618
    อรรถกถา
    "อสัญญสัตตูปิกากถา"


    บัดนี้ ชื่อว่าเรื่องสมาบัติที่ให้เข้าถึงภพอสัญญสัตว์. ในเรื่องนั้น ภาวนาที่เป็นไปด้วยอำนาจแห่งสัญญาวิราคะ เป็นอสัญญาสมาบัติบ้าง เป็นนิโรธสมาบัติบ้าง ชื่อว่า สัญญาเวทยิตนิโรธสมาบัติ. เพราะฉะนั้น สัญญาเวทยิตนิโรธสมาบัติจึงมี ๒ คือ เป็นโลกิยะ และโลกุตตระ. บรรดา สมาบัติเหล่านั้น สมาบัติที่เป็นเหตุให้เข้าถึงอสัญญสัตว์ของปุถุชนเป็น โลกิยะ ที่เป็นของพระอริยะทั้งหลายเป็นโลกุตตระ แต่สมาบัติที่เป็นของ พระอริยะนั้นย่อมไม่เป็นสมาบัติที่เป็นเหตุให้เข้าถึงความเป็นอสัญญสัตว์ ก็ชนเหล่าใด มีความเห็นผิดดุจลัทธิของนิกายเหตุวาททั้งหลาย ว่า สัญญาเวทยิตนิโรธสมาบัติเป็นสมาบัติที่ให้เข้าถึงความเป็นอสัญญสัตว์ โดยไม่แปลกกัน เพราะไม่ทำวิภาคอย่างนี้ คำถามของสกวาทีหมายถึง ชนเหล่านั้น คำตอบรับรองเป็นของปรวาที. ลำดับนั้น สกวาทีเพื่อท้วง ด้วยอำนาจแห่งกุสลมูล คืออโลภะ เป็นต้น ว่ามีอยู่แก่ผู้เข้าอสัญญสมาบัติ แต่ไม่มีแก่ผู้เข้านิโรธสมาบัติ จึงกล่าวคำว่า อตฺถิ กุสลมูล...มีอยู่หรือ เป็นต้น.

    ในปัญหาว่า แม้ในนิโรธสมาบัตินี้ผู้เข้าก็ไม่มีสัญญา ได้แก่ ความเป็นผู้ไม่มีสัญญาที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงอนุญาตแล้ว เพราะการ เข้าสมาบัติในธรรมวินัยนี้ด้วยอำนาจแห่งสัญญาวิราคะ. คำว่า แม้ใน ภพแห่งอสัญญสัตว์นั้น ก็ตรัสด้วยความเป็นอสัญญสัตว์นั่นแหละ เพราะ ฉะนั้น ปรวาทีผู้ถือเอาปฏิญญานี้แล้วจึงให้ลัทธิตั้งไว้ แต่ก็ตั้งไว้โดย อุบายลวง. อีกอย่างหนึ่ง ได้แก่ความเป็นผู้ไม่มีสัญญาที่พระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงอนุญาตหมายเอานิโรธสมาบัติในพระธรรมวินัยนี้ คำว่า แม้ในภพ อสัญญสัตว์นั้น ได้แก่นิโรธสมาบัติของพระอนาคามีผู้เคลื่อนจากโลกนี้ ทีเดียว แม้เพราะเหตุนั้น ลัทธิที่ปรวาทีปฏิญญาตั้งไว้นี้ย่อมไม่ตั้งอยู่ได้ เลย ดังนี้แล.
    </pre>​
    จบ

     
  10. Norlnorrakuln

    Norlnorrakuln เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    3,814
    ค่าพลัง:
    +15,099
    มันไม่มีดับแบบหลอกๆ นะ เพราะมันขาดเหตุปัจจัยให้ยึดแล้ว จะอาศัยอะไรหละ
    แต่ถ้าจะสมมติเรียก มันก็ไม่ใช่สภาวะที่แท้จริง ของนิโรธแท้
    จะเรียกไปก็หลอกตัวเองเปล่าๆ เราท่าน ก็เหมือนกับปลา เดาสภาวะบนบกนะ

    ผู้เขียนเองก็ยังเดาอยู่ ยังไม่ถึงไหนเหมือนกัน

    แต่ถ้าพอใช้เป็น อนุสสติ ก็ใช้ได้อยู่เหมือนกันนะ ระลึกถึงนิพพานเป็นอารมณ์
    พอให้จิต สงบรำงับชั่วคราว ก็เป็นอุบาย เจริญปัญญาในลำดับต่อไป

    เจริญในรสธรรม
     
  11. นราสภา

    นราสภา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,962
    ค่าพลัง:
    +356
    กราบขอบคุณในความรู้ เจ๊าค่ะ


    กราบอนุโมทนา ในความรู้เจ๊าค่ะ
     
  12. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,923
    ค่าพลัง:
    +9,200
    ต้องแยกให้ออกนะ ระหว่าง นิโรธสมาบัติ กับ ทุกขนิโรธ อันเป็นองค์ในอริยสัจสี่

    นิโรธสมาบัติ คือ ทางของพระอนาคามีถูกแล้ว แต่หากเป็นทุกขนิโรธ นี่คือ ดับสมุทัย

    การเข้าใจแจ้งในนิโรธ ก็ต้องแจ้งในสมุทัย และ ไตรลักษณ์ที่มีในสมุทัยตัวนั้นๆ การดับคือการวาง ปล่อยไปตามไตรลักษณ์ ไม่ไปยึึดไม่ปล่อยให้อวิชชาผลักดันออกมา

    ทีนี้ คนจะแจ้งในนิโรธนี้จะต้องเจริญมรรคให้มากเสียก่อน การทำนิโรธจะแจ้งขึ้นด้วย สติ สมาธิ ปัญญา
    ดับทุกข์ได้ดังใจนึก จิตหลุดพ้นจากพันธนาการ ซึ่งพันธนาการนี้ไม่ใช่ใครทำ ตัวเราทำเราเองทั้งสิ้น เรียกได้ว่าา อวิชชาในตนเองนั้นแหละก่อทุกข์เองทั้งหมด

    ลองพิจารณาดู

    สำหรับนิโรธสมาบัติ เป็นทางของพระอนาคามี ไม่ขอพูดถึง
     
  13. นราสภา

    นราสภา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,962
    ค่าพลัง:
    +356
    เหมือนตาเห็น

    หยั่ง กะ ตาเห็นเลยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

    น่าจะสับสน สอง อันนี้เป็นเเน่เลยเจ้าค่ะ


    ขอบคุณเจ๊าค๊าาาาาาาาาาา

    ว่าเเล้ว ปริยัต ไม่เอาอ่าวก็เป็นเเบบเนี้ยเเหล่ะค่ะ เฮ้ออออออออออ

    เเต่ก็ยังขี้เกียจอยู่ดี เห็นเเสงวับ วับ ล่ะชอบนัก พอเห็นตัวหนังสือ ยึกยือ ยึกยือ เข้าเยอะๆ มันพาล ลมจะจับซะให้ได้เลยเจ๊าค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...