พระพุทธเจ้าพระองค์ฉัน เจ มั้ยครับ

พระพุทธเจ้าพระองค์ฉัน เจ มั้ยครับ

ถ้าฉันจะทําตามเมื่อวานไปให้อาหารปลา กลับมากินปลาซาบะไปอีกรู้สึกเเย่งัยไม่รุ

 

พระพุทธเจ้าไม่ฉันเจครับ ถ้าจะทำตามพระองค์ให้ปฏิบัติตามแนวทางที่พระองค์สอนเถอะครับ ท่านถือว่าเป็นการบูชาที่สูงที่สุด

 

ขอเพิ่มเติมนะครับ ที่ท่านไม่ฉันเจเพราะว่ามันจะเป็นการยุ่งยากสำหรับผู้ที่ศรัทธาครับแล้วแต่จะถวาย แต่ท่านจะพิจารณาเป็นอหาเรปฏิกูลสัญญา คือไม่ฉันเพื่อความอ้วนพลี ไม่ฉันเพื่อความผ่องใส ไม่ฉันเพราะอร่อย ไม่ฉันเพราะสวยงาม เป็นต้น แต่ฉันเพื่อยังอัตภาพ ง่ายๆครับเพื่อไม่ให้หิวและมีชีวิตสอนธรรมต่อไปครับ

 

--------------สาทู้--------------------

เเต่ผมก็รู้สึกเริ่มเริ่มเบื่อเนื้อสัตว์อยู่ดีเเหละครับจะลองหันมาทานเจ อาทิตย์หละหนึ่งวันดีกว่า

ได้บุญด้วย

 

มีข้อหนึ่งคือ ภิกษุต้องไม่ทำตัวเป็นผู้เลี้ยงยาก ดังนั้นพระพุทธเจ้าไม่ฉันเจ ไม่สร้างความลำบากแก่พุทธบริษัท

 

อนุโมทนาด้วยครับ ....

 

--------ผมไม่ใช่พระ----------

เเระการฉันเจไม่ได้เป็นการเรื่องมากถ้าจะทํา เป็นการไม่เบียดเบียน สัต เป็นการสร้างทานบารมีอย่างนึงอันจะเกิดกุศล

 

ผมก็ทานเจทุกวันในมื้อเช้า แต่หากวันไหนไม่สะดวก
ก็จะงดมื้อเช้าไปเลย หรืออาจหากล้วยน้ำว้าซัก2ลูกทาน
แม้ว่าพระพุทธเจ้าท่านไม่ได้บัญญัติให้ภิกษุต้องฉันเจ
เพราะเป็นการทำตัวให้เป็นผู้ทานง่ายอยู่ง่าย แต่เราก็
สามารถทานเจได้ เพื่อลดการบริโภคเนื้อสัตว์ให้น้อยลง
ดีต่อสุขภาพ ทานไปนานๆ หน้าตาจะแจ่มใสขึ้น ผิวพรรณดี
อะไรที่ไตร่ตรองแล้วว่าดี ทำไปเถอะครับ ขออนุโมทนาด้วยครับ

 

-----------------(||)--------------------

สาทุสาทุจะ

 

กินเจ ก็ดีครับ...เป็นเมตตาบารมีครับ
เมตตาต่อสรรพสัตว์ ที่ต่างก็มีชีวิต รักตัว กลัวตาย
เช่นเดียวกับเรา ครับ

...แต่ไม่ใช่ทานบารมี....ทานบารมีเป็นการสละออก
ไม่ว่าจะสละทรัพย์ภายนอก หรือสละภายในรวมทั้งร่างกาย
และ อภัยทาน ด้วย.....

กินเจดีแล้วครับ ....แต่ควรรักษาศีลด้วย นะครับ อย่างน้อยก็ศีล 5

ถ้ากินเจ...แต่ เผลอฉีดยากันยุง ยุงตายก็บาปแล้วครับ
ด่าทอคนอื่น นินทาว่าร้าย เสียดสี คนอื่น
รวมทั้ง ผิดศีล 5 ทำอกุศลกรรมบท 10....
มันก็ไม่พ้น นรกครับ...

.ยิ่งหาก ถือตนว่ากินเจแล้วดีกว่าคนที่ไม่กินเจ
เป็น มานะ อัตตา ทิฏฐิ อีก

...จึงควรกินเจให้ถูกธรรม นะครับ
เพราะ วัว ควาย โค ฯลฯ สัตว์อีกหลายชนิด
ก็กินเจตลอดชีวิตของเขาครับ...

....โมทนาด้วยครับ ผมก็อยากกินเจไปตลอดชีวิตเช่นกันครับ

 

สะดุดกับประโยคที่ว่านี้เลยครับ อนุโมทนาครับ

 

-------------yeye u cool man !----------------

ขอโทดทีใช้คําผิด ทานบารมี เมตตาบารมี thx

 

ทุกวันนี้ ในเนื้อสัตว์มีแต่สารพิษเป็นสารก่อมะเร็งทั้งนั้น ถ้างดเว้นได้หรือนาน ๆ กินทีก็จะปลอดภัยต่อสุขภาพครับ

 

****ดูก่อนเถิดท่านผู้เจริญ...<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->BRIAN GARTON<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_5590431", true); </SCRIPT> ...อันเราจักขอแสดงเหตุและผลไว้ดังนี้ . อันครั้งในพุทธกาล องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ทรงมิได้ฉันท์เจแต่ประการใด เนื่องด้วยมันจักเป็นการทำให้การครองเพศบรรพชานั้นเป็นผู้เลี้ยงยาก แต่พระองค์ก็ทรงห้ามภิกษุฉันท์เนื้อไว้ ๑๐ อย่าง เพื่อเนื้อทั้ง๑๐อย่างนี้จะเป็นการสร้างภัยให้เข้ามาสู่ภิกษุ. เหตุที่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ทรงฉันท์เนื้อที่เขานำมาถวายเพราะ ๑.ผู้นำมาถวายนั้นเขาตั้งใจด้วยความบริสุทธิ์เขาจึงนำมาถวายโดยถือว่าเป็นอาหาร หากภิกษุไม่รับก็จะทำให้ผู้ที่ตั้งใจนั้นคลายความตั้งใจ อาจทำให้ผู้ที่ใฝ่บุญได้คลายความใฝ่บุญ ...แต่พระองค์ก็จะทรงสั่งสอนผู้นำมาถวายเสมอว่าอย่าเบียดเบียนชีวิตผู้อื่นเพื่อสร้างบุญเข้ามาสู่ตน เพราะเมื่อเกิดบุญก็ย่อมเกิดบาปกรรมตามมาด้วยเช่นกัน บุญได้เกิดจาการถวายอาหาร บาปกรรมก็เกิดจากการฆ่าการสั่งฆ่าการมีจิตใจร่วมฆ่า...ส่วนภิกษุที่จะรับอาหารก็ต้องไม่เกิดจากการสั่งให้เขานำมาถวาย ไม่เกิดจากการมองการพรากชีวิตรอให้เขานำมาถวาย ไม่เกิดจากการบอกว่าจะฆ่าเพื่อนำมาถวาย อย่างนี้หากภิกษุพ้นแล้วย่อมถือว่ารับอาหารได้ และในเวลาฉันท์ก็จะต้องปลงให้เป็นปฎิกูลสัญญาเพียงธาตุหล่อเลี้ยงร่างกาย ภิกษุจึงพ้นจากบาปนั้นๆ แต่กรรมจากการฉันท์เนื้อเข้าไปก็ยังมีอยู่ เช่นโรคอาหารย่อยยาก ถ่ายยาก โรคไขข้อ สิ่งเหล่านี้ก็ถือว่าเป็นกรรมจากการฉันท์ กล่าวแล้วก็คือ แม้ภิกษุจะพ้นจากบาปที่เกิดจากการฆ่าด้วยกายวาจาใจ แต่กรรมจากการฉันท์เนื้อเข้าไปสู่ร่างกายก็ยังคงมีอยู่ให้ร่างการทุกข์ทรมาน .
.....ส่วนเรื่องที่ท่านนั้นจะถือศีลเจ อันเรานั้นก็ขออนุโมทนาบุญ ... แต่เราจักขอแสดงไว้ดังนี้คือ การถือศีลเจนั้นเป็นการไม่เบียดเบียนชีวิตสัตว์เพื่อประโยชน์สุขตนโดยเบียดเบียนชีวิตอันเป็นที่รักของผู้อื่นย่อมถือว่าประเสริฐสุด แต่การถือศีลเจนั้นเป็นเพียงแค่เสี้ยวหนึ่งของการบำเพ็ญเพียงเท่านั้น เพราะหากถือศีลเจแล้ว แต่ยังเป็นผู้ลักทรัพย์ผู้อื่นอยู่ ยังผิดลูกผิดเมียผู้อื่นอยู่ ยังโกหกหลอกลวงให้ผู้อื่นเสียหายอยู่ ยังลุ่มหลงสิ่งมัวเมาอบายมุขทั้ง๖อยู่ ไม่ว่าจะข้อใดข้อหนึ่งก็ยังจะถือว่าตนเองนั้นยังจะเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่มิได้ เพราะยังถือว่าเป็นผู้ที่ด่างพล้อยอยู่ แต่การถือศีลไม่ว่าข้อใดข้อหนึ่งสมบูรณ์ก็ย่อมถือว่าเป็นผู้ที่เบาบาง แต่ผลกรรมนั้นต่างกันไปเพียงเท่านั้น เช่นหากถือศีลเจไม่ฆ่าสัตว์ด้วยกายวาจาและใจ ก็ย่อมเป็นที่รักของสรรพสัตว์ แต่หากยังลักของรักของผู้อื่น ผิดล่วงประเวณี ก็ย่อมยังเป็นผู้ที่เกลียดชังของผู้อื่นอยู่ด้วยเช่นกัน.
.....ด้วยเหตุนี้อันเราขอแสดงไว้ว่า การถือศีลเจนั้นจงอย่าถือเพื่อให้ตัวเรานั้นดูสูงเด่นกว่าผู้อื่น เพราะการถือศีลเจนั้นเพียงแต่ทำให้เรานั้นเบาบางกว่าผู้อื่นเพียงเท่านั้น จงถือเพราะเพื่อหวังให้จิตใจของเราค่อยๆเบาบางและพยายามทำให้เบาบางทั้งหมดในศีล๕ เพราะว่าศีลทั้ง๕ข้อเมื่อยังผิดข้อใดข้อหนึ่งอยู่ก็ยังถือว่าเป็นผู้ที่ด่างพล้อยอยู่ซึ่งจะยังถือว่าตนเองนั้นบริสุทธิ์คงจะเป็นไปไม่ได้...ฉะนั้นอันเราก็ขออนุโมทนากับท่านที่ตั้งใจเพราะทุกสิ่งทุกอย่างนั้นจะหากจะเริ่มย่อมต้องมีก้าวที่1ก่อนเสมอ อันเราขออนุโมทนา.

 

thx good job ----------------

 

โมทนาสาธุครับผม
พระสงฆ์ย่อมไม่ทำตนเป็นผู้เลี้ยงยาก ทำให้เกิดความลำบากแก่พุทธบริษัท
พระองค์ทรงพิจารณาแล้วจึงฉันอาหารซึ่งไม่มีโทษ ครับผม..