ขอถามเรื่องการทำสมาธิครับ แบบนี้ผิดหรือไม่

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ปลาแมว, 18 มกราคม 2012.

  1. ปลาแมว

    ปลาแมว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +797
    คือผมพยายามนั่งเท่าไหร่ก็นั่งไม่ได้ ใจว่อกแว่กเรื่องงานตลอด ทั้งที่อยากจะทำใจให้สงบเพื่อหาทางแก้ปัญหางาน

    เลยใช้วิธีสวดมนต์แทน แต่ที่จำในหัวได้โดยไม่ดูหนังสือ มีแค่บทพื้นฐาน (อิติปิโส) และชินบัญชร เลยใช้วิธีท่องอิติปิโสบทเดียว จากนั้นก็ชินบัญชร ท่องไปเรื่อย ๆ จากนั่งขัตสะมาสก็เหยียดขา พอหลาย ๆ บทเริ่มง่วงก็นอน พอหายง่วงก็กลับมานั่งท่องใหม่ ท่องไปจนกว่าจะไม่ไหวแล้ว เอาให้หลับไปเลย บางทีสวดยังไม่ทันจบบทสุดท้ายแต่ความรู้สึกมันตัดออกไปแล้ว

    สวดเสร็จ ก็อุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวร ให้เทวดาของแม่ เทวดาของตัวเอง และให้แม่

    อยากถามว่า

    1. การสวดแบบเปลี่ยนอิริยาบทไปมานี่ ถือว่าผิดหรือไม่
    2. การสวดแบบนี้ถือเป็นอุบายทำสมาธิแทนการนั่งดูลมหายใจได้หรือไม่ครับ ตอนสวดบางครั้งก็จำได้ว่าบทที่เท่าไหร่ บางครั้งก็จำไม่ได้ แต่จะไม่ได้คิดเรื่องอื่นนอกจากบทสวดครับ
    3. บางครั้งสวดไม่จบบทสุดท้าย ครึ่ง ๆ กลาง ๆ แล้วหลับไป แบบนี้ถือว่าบาปหรือไม่ครับ
    4. การสวดแบบที่ว่ามา พอจะมีส่วนกุศลสำหรับอุทิศให้บุคคลที่กล่าวไปมั้ยครับ

    ขอบคุณครับ
     
  2. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,019
    ไม่เป็นไรครับ ทั้ง 4 ข้อ..จะบทสวดมนต์อะไรก็ได้ดีทั้งนั้นครับ..ก็เป็นอุบายในการเชื่อมโยงจิตทำให้เกิดสมาธิได้เหมือนกันวิธีหนี่ง..ไม่จำเป็นต้องทำตามรูปแบบก็ได้หากทำแล้วถูกกับจริตตัวเอง..เพราะหลักๆก็คล้ายๆกัน.เพื่อฝึกจิตครับ...
     
  3. monrak

    monrak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    172
    ค่าพลัง:
    +234
    อิริยาบทใดๆก็ได้ครับเอาสบายเรา นั่ง นอน ยื่น เดิน ตามชอบ

    การสวดมนต์ก็เป็นการฝึกสมาธิวิธีหนึ่งคือ ฝึกสติ เราควรจำให้ได้ว่าเราสวดไปกี่บท

    เช่น เราตั้งใจสวดเท่าอายุ+1 เป็นต้น ส่วนที่จะบอกว่าแทนการดูลมหายใจหรือไม่นั้น

    ผมก็ไม่ทราบ เเต่เมื่อเราจะทำสมาธิทุกครั้งเราควรที่จะมี สติ เสมอ คือ รู้ตัวเสมอ

    การทำอะไรก็ตามที่เราตั้งใจและเป็นการทำความดีย่อมได้กุศลเสมอ
     
  4. เด็กอนุบาล

    เด็กอนุบาล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    689
    ค่าพลัง:
    +4,156
    การทำสมาธิที่มีอานิสงค์สูงจริงๆ ต้องเป็นสัมมาสมาธิ
    คือเป็นสมาธิที่จิตมีความสงบและสะอาด
    สงบเพราะตั้งมั่นอยู่ในอารม์เดียว ไม่ซัดส่ายไปสู่อารมณ์อื่นๆ
    สงบและสะอาดเพราะอารมณ์เดียวที่ตั้งมั่นอยู่นั้น เป็นอารมณ์ที่ละความชั่ว ละอารมณ์รัก โลภ โกรธ หลงออกจากจิต

    ไม่งั้นคนที่ทำคุณไสย หรือคนที่ตั้งใจแช่งคนอื่น หรือคนที่สักแต่ว่าทำใจให้จดจ่ออยู่กับอารมณ์เดียว ใจเค้าก็สงบตั้งมั่นได้ แต่ใจเค้าจะไม่สะอาดเพราะไม่ได้ทรงอารมณ์ละความชั่วออกจากใจเลย จึงไม่ถือเป็นสัมมาสมาธิ

    สัมมาสมาธิเกิดจากสมาธิที่อยู่บนพื้นฐานของกุศล
    เป็นสมาธิที่ใจตั้งมั่นในกุศลที่เกิดจากการยอมรับในความดีของพระพุทธเจ้า พระธรรม พระอริยสงฆ์

    ตั้งมั่นในกุศลที่เกิดจากการยอมรับความจริงว่าชีวิตนี้ต้องตาย เพื่อละความชั่วจากความหลง
    ตั้งมั่นในกุศลที่เกิดจากความพอใจในการให้ทาน เพื่อละความชั่วจากความโลภ
    ตั้งมั่นในกุศลที่เกิดจากความพอใจในการรักษาศีล เพื่อละความชั่วจากความโกรธ

    ดังนั้นเพื่อให้เกิดสัมมาสมาธิ ก่อนจะภาวนาหรือสวดมนต์
    ให้ทวนทาน ทวนศีล ทวนความตาย ทวนความต้องการสงบใจจากการแส่ไปหาทุกข์จากความรัก โลภ โกรธ หลง ที่เข้ามาทางทวารต่างๆก่อนนะครับ แล้วค่อยภาวนาหรือสวดมนต์เพื่อรักษาอารมณ์กุศลเหล่านี้ไว้ในใจ
     
  5. ฝันนิมิต

    ฝันนิมิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    467
    ค่าพลัง:
    +547
    [​IMG]

    สวัสดีคะ มาขอออกความเห็นนะคะ

    มณีเอง สวดมนต์ก่อนนั้งสมาธิมานานคะ

    ด้วยคำแนะนำของพี่เลี้ยงคะ (พี่ลิโพ)

    การสวดมนต์เป็นการทำสมาธิแบบหนึ่งคะ (อันนี้ได้กับตัวคะ)

    มณีเองสวดมนต์ ขณะเดินไปทำงานทุกเช้าคะ เพราะเราทำด้วยใจอันเป็นกุศล

    เมื่อครั้งมณีนอนไม่หลับ สวดมนต์ แล้วหลับไป พี่เลี้ยงบอกว่า ดีคะ
    ทำให้เรามีใจที่เป็นกุศล เพราะการสวดมนต์คะ

    มณีสวดบทยาวๆคะก่อนทำสมาธิ ได้ผล คะ ลองดูคะ

    อนุโมทนาสาธุคะ
     
  6. แอ๊บแบ้ว

    แอ๊บแบ้ว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,335
    ค่าพลัง:
    +2,544
    0. หลักสมาธิ คือการ ฝึกสติ
    ละนิวรณ์ จิตสงบ โปร่งเบากาย
    พื้นกำลัง จิตให้พิจ กิเลสคลาย
    ปัญญากลาย เห็นคุณโทษ สะอาดศีล
    1. อิริยา บทเปลี่ยน ระลึกรู้
    สติดู ตามอาการ ความเคลื่อนไหว
    นิวรณ์หาย ฟุ้งระงับ จิตเบาใส
    ไม่ผิดไข สมาธิหาก สติมี
    2. การสวดมนต์ อีกวิธี เป็นอุบาย
    ระงับกาย ใจหยุดฟุ้ง มุ่งบทมนต์
    ขณะสวด กายศีลครบ สติคง
    จิตดำรง สี่ปัฏฐาน ชัยภูมิ
    3. สวดไม่จบ เหตุเพราะ อินทรีย์อ่อน
    พละคลอน แก้หมั่นฝึก พูนสติ
    ชนะบ้าง แพ้บ้าง ไม่ตำหนิ
    เพราะทำผิด แก้ถูกด้วย ทิฏฐิตรง
    3.1 บาปไม่บาป อยู่ที่ เจตนา
    ย้อนกลับมา ดูวิถี กระทำตน
    คิดว่าบุญ เพียรแก้บาป แล้วทำลง
    ไม่เสร็จคง ต้องได้บุญ สงสัยใย
    4. การอุทิศ ส่วนกุศล ต้องมีเหตุ
    กุศลเจต ผลเป็นบุญ เป็นทุนให้
    บุญแม้น้อย ผลล้วนสุข แผ่ไกลใกล้
    ถึงหรือไม่ ตามปัจจัย สภาวะเอย.
    *************************
    เป็นความคิดเห็นส่วนบุคคลโปรดใช้วิจารณญาณ _/|\_
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 มกราคม 2012
  7. ปลาแมว

    ปลาแมว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +797
    ขอบคุณคำแนะนำจากทุกท่านมากครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...