ขอเชิญร่วมทำบุญสร้างโบสถ์วัดพระพุทธบาทถ้ำป่าไผ่ โดยการบูชาวัตถุมงคล

ในห้อง 'พระพุทธรูป - วิหารทาน - สิ่งก่อสร้าง' ตั้งกระทู้โดย Orostosapol, 20 มกราคม 2012.

  1. เกริกไกร

    เกริกไกร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กันยายน 2007
    โพสต์:
    281
    ค่าพลัง:
    +1,446
    ขอร่วมบุญ ด้วย 300 บาท ครับ
     
  2. Orostosapol

    Orostosapol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    178
    ค่าพลัง:
    +588
    ร่วมบุญโดยการขอรับวัตถุมงคลหรือไม่ครับ หรือว่า ร่วมในส่วนต้นบุญ หรือ ร่วมในส่วนแล้วแต่ศรัทธา ครับ จะได้ลงบัญชีได้ถูกต้องครับ
    ขออนุโมทนาบุญด้วยครับ _/|\_
     
  3. Orostosapol

    Orostosapol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    178
    ค่าพลัง:
    +588
    อัพเดทยอดผู้ร่วมทำบุญประจำวันที่ ๒๖/๐๑/๕๕

    รบกวนทุกท่านที่ร่วมทำบุญมา โปรดตรวจสอบรายชื่อของท่านว่ามีหรือไม่ ยอดเงิน และรายละเอียดอื่น ๆ ในตารางด้วยนะครับ ว่าถูกต้องหรือไม่ หากเห็นว่าไม่ถูกต้อง กรุณาแจ้งให้ทราบด้วยนะครับ ขอบคุณมากครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  4. ammpa

    ammpa สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มกราคม 2010
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +6
    บูชาตะกรุดมหาลาภ 1 ดอก ค่ะ จัดส่งทางไปรษณีย์

    โอนเงินแล้วค่ะ
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 borderColor=#ffffff cellPadding=5 width="100%"><TBODY><TR><TD colSpan=2></TD></TR><TR><TD colSpan=2></TD></TR><TR><TD vAlign=top width="34%">สถานะการทำรายการ</TD><TD width="66%">ธนาคารได้ทำรายการของท่านเรียบร้อยแล้ว </TD></TR><TR><TD width="34%">หมายเลขอ้างอิง</TD><TD width="66%">KBKR120126242842</TD></TR><TR><TD colSpan=2>[​IMG]</TD></TR><TR><TD colSpan=2>รายละเอียดการทำรายการ

    </TD></TR><TR><TD width="34%">วิธีโอนเงิน</TD><TD width="66%">ออนไลน์ (ตลอด 24 ชั่วโมง) </TD></TR><TR><TD width="34%">จากบัญชี</TD><TD width="66%">630-2-197xx-x </TD></TR><TR><TD width="34%">ธนาคารเจ้าของบัญชี</TD><TD width="66%">ธนาคาร กรุงเทพ จำกัด (มหาชน)</TD></TR><TR><TR><TD width="34%">เพื่อเข้าบัญชี</TD><TD width="66%">003-7-09507-2 นายภาณุพล ปานสายลม</TD></TR><!-- Adding Account Name UAT defect number 414--><TR><TD width="34%">ชื่อเจ้าของบัญชีในฐานข้อมูล</TD><TD width="66%">PANUPON PANSA</TD></TR><!-- /Adding Account Name --><!-- <tr> <td width="25%">สาขา</td> <td width="75%">เทสโก้โลตัส ศรีนครินทร์ </td> </tr> --><TR><TD width="34%">จำนวนเงิน (บาท)</TD><TD width="66%">240.00</TD></TR><TR><TD width="34%">ค่าธรรมเนียม (บาท)</TD><TD width="66%">25.00</TD></TR><TR><TD width="34%">วันที่โอนเงิน</TD><TD width="66%">26/01/2012 [10:02:27]</TD></TR><TR><TD width="34%">บันทึกช่วยจำ</TD><TD width="66%">บูชาตะกรุดมหาลาภ </TD></TR><TR><TD class=note_align width="35%">แจ้งผู้รับโอน</TD></TR></TBODY></TABLE>

    เกษรา ศรีสุข 13/1 ม.2 ต.บ้านหว้า อ.บางปะอิน จ.อยุธยา 13160
     
  5. - เงาะป่า -

    - เงาะป่า - เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    521
    ค่าพลัง:
    +565
    ขอร่วมทำบุญเป็ยจำนวนเงิน 200 บาทขอรับ ผ้ายันต์ครู จำนวน 1 ผืน ครับ

    โอนให้แล้ว รายละเอียดตาม PM


    อนุโมทนาครับ
    -----------------------------------------------------------------------------------------------
    "จงจำไว้นะ เมื่อยังไม่ถึงเวลา เทพเจ้าองค์ใดจะคิดช่วยเจ้าไม่ได้ ครั้นถึงเวลา ทั่วฟ้าจบดินก็ต้านเจ้าไม่อยู่ จงอย่าไปเร่งเทวดาฟ้าดินเมื่อบุญเราไม่เคยสร้างไว้เลย จะมีใครไหนมาช่วยเจ้า"
    -----------------------------------------------------------------------------------------------
    ร่วมสร้าง " อุโบสถเงิน" วิหารทานที่ในครั้งนึงในชีวิตไม่ควรพลาดครับ
    --> ร่วมสร้าง " อุโบสถเงิน" วิหารทานที่ในครั้งนึงในชีวิตไม่ควรพลาดครับ (update หน้า 5 ,19/10/2554) - PaLungJit.com
    ร่วมสร้าง พระธาตุอินทร์แขวนจำลอง พระธาตุประจำปีจอ ตามคติทางล้านนา
    --> ร่วมสร้าง พระธาตุอินทร์แขวนจำลอง พระธาตุประจำปีจอ ตามคติทางล้านนา - PaLungJit.com
    ช่วยต่อลมหายใจให้กับผู้ติดเชื้อเอดส์
    --> http://palungjit.org/threads/ช่วยต่อลมหายใจให้กับผู้ติดเชื้อเอดส์.185158/
    มาลองทำสังฆทานอย่างง่ายๆ ด้วยตนเองกันครับ
    --> http://palungjit.org/threads/มาลองทำสังฆทานอย่างง่ายๆ-ด้วยตนเองกันครับ.144881/
    นำภาพการบวงสรวงตามแบบหลวงพ่อฤาษีของผมมาฝากครับ
    --> http://palungjit.org/threads/นำภาพการไหว้ครูตามแบบหลวงพ่อฤาษีของผมมาฝากครับ.198913/
     
  6. malaikajorn

    malaikajorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    174
    ค่าพลัง:
    +964
    สวัสดีค่ะ

    ขอร่วมทำบุญ ขอรับพระฯรายการข้างล่างนี้นะคะ
    ค่าส่ง 250 บาท โอนเข้าบัญชีเดียวกันเลยหรือเปล่าคะ

    ขอโมทนาบุญด้วยนะคะ


    พระพุทธรูปขนาดบูชา หน้าตักกว้าง ๔.๕ นิ้ว สูง ๕ นิ้ว (ไม่รวมฐานบัว) ฐานล่างกว้าง ๑๐.๕ นิ้ว ทรงพระนามว่า "สมเด็จพระสมณโคดมพุทธนวมงคล" พระหัตถ์ขวาประทานพร พระหัตถ์ซ้ายหงายอยู่ที่พระชานุ (เข่า) มีองค์ธรรมจักรอยู่บนพระหัตถ์ซ้าย มีพระอรหันตสาวก ผู้เป็นเอตทัคคะ ๘ รูป นั่งคุกเข่าประนมมือ ล้อมรอบพระพุทธเจ้าอยู่ จึงมีความหมายรวมถึง องค์ ๓ แห่งพระรัตนตรัย คือ พระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ ร่วมบูชาองค์ละ ๓,๕๐๐ บาท
    [FONT=&quot]

    [/FONT]
     
  7. deares

    deares เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    330
    ค่าพลัง:
    +288
    โอนเงินร่วมทำบุญ 199 บาท เข้าบัญชี ธ.กรุงเทพ เลขที่ 0037095072 วันนี้ เวลา 14:46 น.

    ขอโมทนาบุญกับทุกท่านด้วนค่า
     
  8. Orostosapol

    Orostosapol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    178
    ค่าพลัง:
    +588
     
  9. Orostosapol

    Orostosapol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    178
    ค่าพลัง:
    +588
    โอนพร้อมกันเลยครับเป็นยอดเดียว เมื่อโอนแล้วแจ้งอีกครั้งในกระทู้นี้นะครับ มหาโมทนาบุญด้วยครับ สาธุ (บัญชี ธนาคาร กรุงเทพนะครับ ) พร้อมแจ้งรายละเอียด ชื่อและสถานที่ ๆ จะให้จัดส่งด้วยนะครับ ^^
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 มกราคม 2012
  10. Mr.tom

    Mr.tom เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2005
    โพสต์:
    269
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,185
    ขอจองวัตถุมงคล ดังนี้ครับ...

    ๓. ตะกรุดท้าวมหาชมพูเนื้อทองเหลือ จำนวน ๑ ดอก
    [FONT=&quot]๔. ตะกรุดมหาลาภ[/FONT]เนื้อทองเหลือ จำนวน ๑ ดอก

    โอนเงินแล้วจะแจ้งให้ทราบอีกทีครับ...
     
  11. Orostosapol

    Orostosapol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    178
    ค่าพลัง:
    +588
    อนุโมทนาบุญด้วยครับ ลงชื่อให้แล้วครับ โปรดตรวจสอบชื่อและรายละเอียดต่าง ๆ ด้วยนะครับทุกท่าน หลังจากโอนเงินมาแล้ว รบกวนแจ้งให้ผมทราบพร้อมรายละเอียดที่จะให้ส่งวัตถุมงคลด้วยนะครับ ขอบคุณครับ:cool:
     
  12. Orostosapol

    Orostosapol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    178
    ค่าพลัง:
    +588
    อัพเดทยอดการร่วมทำบุญล่าสุดของวันที่ ๒๗/๐๑/๕๕ เวลา ๑๑.๐๐ น.
    ขณะนี้ได้ตรวจสอบสมุดธนาคาร พบว่าเมื่อวันที่ ๒๐/๐๑/๕๕ (วันที่เปิดโครงการวันแรก) ได้มียอดเงินโอนเข้าบัญชี ๒๐๐ บาท ยังไม่ทราบว่าเป็นของท่านใดนะครับ ท่านที่เป็นเจ้าของเงินได้โปรดตรวจสอบรายชื่อ หากตกหล่นชื่อหรือรายละเอียดใดของท่าน โปรดแจ้งให้ผมทราบด้วยครับ ขอบคุณครับ

    จากภาพจะเห็นว่ามียอดเงินโอนเข้า ๒๐๐ ในวันที่ ๒๐/๐๑/๕๕ ยังหาเจ้าของไม่พบครับ รายงานตัวด้วยนะครับ อีกภาพ เป็นยอดสุดท้ายที่อัพเดทมา ประมาณ ๑๐.๐๐ น. ของวันนี้ครับ ยอดรวมตอนนี้ เจ็ดพันกว่า เดี๋ยวจะโอนไปจ่ายเงินคงค้างให้โรงงานครับ หากจ่ายก้อนนี้ไป ก็เหลือเงินคงค้างโรงงานอีกประมาณหกพันบาท ไม่น่าจะเป็นปัญหาครับ เพราะคนใจบุญมีมากกว่าเม็ดทรายจากมหาสมุทรทั้งสี่มารวมกันอยู่แล้ว โมทนาเป็นอย่างสูงกับทุกท่านครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  13. gitti

    gitti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    393
    ค่าพลัง:
    +1,035
    [​IMG]

    คู่มือเที่ยวชมถ้ำป่าไผ่ (วัดตุ๊ป้อมหาสิงห์)

    “คู่มือเที่ยวชมถ้ำป่าไผ่” ฉบับนี้ ได้จัดพิมพ์ขึ้นมา เนื่องจากมีญาติโยมจำนวนมากสอบถามถึงประวัติ ความเป็นมาของถ้ำป่าไผ่แห่งนี้ อาตมาก็จะตอบคำถามเหล่านั้นให้ทราบ แต่ในบางครั้งอาตมาไม่ได้อยู่วัด พระสงฆ์ สามเณรตอบคำถามญาติโยมไม่ได้ ความสงสัยจึงเกิดขึ้นแก่ท่านผู้ถาม ดังนั้น เพื่อเป็นการขจัดความสงสัยให้หมดไป จึงได้จัดพิมพ์หนังสือ “คู่มือเที่ยวชมถ้ำป่าไผ่” ฉบับนี้ขึ้นมา

    “ถ้ำป่าไผ่” แห่งนี้จะเกิดขึ้นมาตั้งแต่เมื่อใดนั้น ไม่มีใครทราบเพราะไม่มีการสำรวจตามหลักธรณีวิทยากันอย่างจริงจัง สอบถามคนรุ่นพ่อ รุ่นปู่ ก็ตอบว่า “เห็นถ้ำป่าไผ่มาตั้งแต่เกิดแล้ว” เมื่อปี พ.ศ.๒๕๔๖ ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรธรณีได้พาชาวต่างชาติมาทุบหินที่ผนังหน้าถ้ำ แล้วนำกล้องขยายมาสิ่งดูหินนั้น พร้อมกับบอกว่า “ถ้ำป่าไผ่แห่งนี้มีอายุนับล้าน ๆ ปี และบริเวณนี้เคยเป็นทะเลมาก่อน”

    บนภูเขาเหนือถ้ำนี้เป็นที่ประดิษฐาน “รอยพระพุทธบาท” ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งปัจจุบัน (พ.ศ.๒๕๔๗) กำลังพัฒนาด้วยการสร้างมณฑปครอบรอยพระพุทธบาท

    สวนภายในถ้ำมีหินงอก หินย้อยที่ยังคงความสวยสดงดงามตามธรรมชาติ และมีค้างคาวอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก บนผนังถ้ำมีปล่องระบายอากาศหลายปล่อง จึงทำให้อากาศภายในถ้ำดีมาก นอกจากนี้พุทธบริษัททั้งหลาย ได้มาสร้างพระพุทธรูปปางต่าง ๆ ฤๅษี และเจ้าแม่จามเทวี ประดิษฐานไว้ในถ้ำแห่งนี้ เพื่อเป็นที่เคารพสักการะของสาธุชนทั้งหลาย

    “คู่มือเที่ยวชมถ้ำป่าไผ่” ฉบับนี้ นอกจากจะกล่าวถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ ในถ้ำแล้ว ยังได้กล่าวถึงเรื่องราวของอาตมาที่มีความเกี่ยวข้องกับถ้ำแห่งนี้ จนกระทั่งมาสร้างเป็น “สำนักสงฆ์ถ้ำป่าไผ่” และกำลังพัฒนาให้เป็น “วัดพระพุทธบาทถ้ำป่าไผ่” สืบต่อไป

    ขออนุโมทนาเป็นอย่างสูง แด่ทุก ๆ ท่านที่มีส่วนช่วยให้คู่มือเที่ยวชมถ้ำป่าไผ่ สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี

    ขอเจริญพร
    พระอาจารย์วิสุทฺโธ
    เจ้าอาวาส สำนักสงฆ์ถ้ำป่าไผ่
    ๑ มกราคม ๒๕๔๗

    -------------------------------------------------------------------------

    ๑๗ เมษายน พ.ศ. ๒๕๒๘ อาตมาและพระสุทิน แสงทอง วัดถ้ำระฆัง เกาะสีชัง จังหวัดชลบุรี ได้พากันมาบำเพ็ญภาวนาอยู่ที่ถ้ำป่าไผ่แห่งนี้ เวลาเช้าของวันที่ ๑๘ เมษายน พ.ศ.๒๕๒๘ เวลาประมาณตี ๔ (๐๔.๐๐ น.) ขณะที่นั่งบำเพ็ญภาวนาอยู่ที่ลานตรงหน้าองค์พระประธาน ในถ้ำสว่าง (ท้องพระโรง) ซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางของถ้ำได้ยินเสียงองค์หลวงพ่อ (พระราชพรหมยาน) วัดท่าซุง อำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี ประกาศขึ้นดัง ๆ ว่า “อาจารย์สิงห์ อยู่ที่นี่ ตายที่นี่แหละ ไม่ต้องไปไหนต่อไปอีกแล้ว”

    ต่อมาอีก ๓ วัน คือในเช้าของวันที่ ๒๐ อาตมาฝันว่า องค์หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง ได้มายืนอยู่ที่ปากปล่องถ้ำข้างบน อาตมายืนอยู่ข้าง ๆ องค์ท่าน องค์ท่านได้ชี้มือมาที่พื้นถ้ำเบื้องล่างอาตมาเห็นเศษอาหารที่องค์หลวงพ่อ เหลือไว้ในจานบ้าง (ในเวลาฉันภัตตาหาร) องค์ท่านได้เกลี่ยลงน้ำให้สัตว์น้ำได้กินมาเป็นเวลานานแสนนานนั้น ได้กลับกลายเป็นวัตถุอย่างหนึ่งเป็นกรวยก้นแหลมยาวประมาณ ๓ นิ้ว คล้ายห่อขนมได้ไหลมารวมตัวกันจนเป็นภูเขาลูกย่อม ๆ อยู่ ณ พื้นถ้ำแห่งนี้ อาตมาได้เหาะลงมาทำประทักษิณภูเขานั้น ๓ รอบแล้วก็ได้เอาธงสีเทา ๆ ปักไว้ปัจจุบันนี้ ได้สร้างพระพุทธรูปสมเด็จองค์ปฐมบรมศาสดาประดิษฐาน ปักธงชาติ และธงศาสนาไว้ ภูเขาลูกนี้ส่วนใหญ่จะเป็นหินเขี้ยวหนุมานทั้งนั้นแล้วก็สะดุ้งตื่น เป็นเวลาตี ๓ ครึ่ง (๐๓.๓๐ น.) พอดี

    พ.ศ.๒๕๒๙ อาตมาและคณะประมาณ ๙ รูป ได้พากันมาพักปฏิบัติธรรมที่ถ้ำป่าไผ่แห่งนี้อีกครั้งหนึ่ง อาตมาได้เล่าความฝันให้คณะฟังแล้วบอกว่า “ผมติดภาระสร้างวัดที่บ้านเกิดอยู่ งานยังไม่เสร็จ ในพวกเรานี้ใครจะสมัครอยู่ก็ได้ผมจะสนับสนุนเต็มที่” พระสุทัศน์ สุธมฺโม วัดท่าผาปุ้ม อำเภอแม่ลาน้อย จังหวัดแม่ฮ่องสอน พูดว่า “ผมจะลองอธิษฐานดูในคืนวันนี้”

    วันรุ่งขึ้นท่านได้เล่าความฝันให้ฟังว่า เมื่อคืนเจ้าถ้ำได้เข้ามาหาท่านบอกว่า “ตั้งแต่เดิมมาถ้ำนี้ ทางฝ่ายวิญญาณจะช่วยปกป้องคุ้มครองรักษา และดูแลไว้ด้วยดีตลอดมา ไม่ให้ผู้ใดมารู้มาเห็นมาก มาวุ่นวายมาก มีเข้ามาบ้างก็เป็นส่วนน้อยไม่เป็นอันตรายมาก แต่นับจากนี้ไปคงปกปักรักษาคุ้มครองต่อไปไม่ไหวแล้ว เพราะมีคนมากขึ้น ป่าไม้ถูกทำลายไป สัตว์ร้ายต่าง ๆ ก็หมดไปยากต่อการปกปักรักษา จริง ๆ ทางฝ่ายวิญญาณมีความต้องการให้พระสงฆ์มาครอบครองอยู่เพื่อให้เป็นเขตพระพุทธ พรมงคลสถาน สิ่งศักดิ์สิทธิ์และสิ่งต่าง ๆ ที่มีความสำคัญในถ้ำจะได้อยู่รอดปลอดภัยไม่ถูกทำลาย อยากจะให้พระสงฆ์เข้ามาก่อนที่ภัยมนุษย์จะเคลื่อนเข้ามา”

    พระสุทัศน์บอกว่า อาตมาไม่ใช่คนบ้านนี้ ไม่มีญาติ ไม่มีบริวาร ไม่มีทรัพย์จะพัฒนาขึ้นมาให้เป็นวัดได้อย่างไร งานมันจะเดินไปได้อย่างไร ยังมองไม่เห็นช่องทางเลย เจ้าถ้ำพูดว่า “เรื่องนั้นท่านไม่ต้องห่วง ไม่ต้องกังวลเลย ท่านจงมาดูนี่สิ” แล้วท่านก็พามาที่ลานหน้าพระประธานในถ้ำแล้วโบกมือไป ๑ ครั้ง ปรากฏว่ามีกองเงินกองทองผุดขึ้นมาเต็มไปหมด พระสุทัศน์ เห็นดังนั้นกล่าวว่า “ผมยินดีอยู่ที่นี่ครับ”

    อาตมาและคณะจึงขอความช่วยเหลือจากพระอาจารย์ทรงสิทธิ์ ธมฺมาวุโธ วัดนอก จังหวัดชลบุรี ซึ่งมาธุดงค์อยู่ด้วยกันที่ในถ้ำ ให้หาเงินมาสร้างห้องน้ำ ห้องสุขาก่อน ท่านก็ยินดีช่วย อาตมาได้เดินทางไปจังหวัดชลบุรีกับท่านเพื่อจะนำเงินมาถวายพระสุทัศน์ ได้เงินมาหนึ่งหมื่นสามพันกว่าบาท เมื่อข้าพเจ้ามาถึงถ้ำแล้ว ปรากฏว่ามีแต่ถ้ำว่างเปล่า พระสุทัศน์ได้ออกจากถ้ำไปแล้ว ไม่ทราบว่าไปไหน ถามญาติโยมก็ไม่มีใครทราบ ท่านทรงสิทธิ์ ธมฺมาวุโธ ได้เก็บเงินไว้หลายเดือน เมื่อไม่มีพระอยู่ที่ถ้ำ ท่านก็เลยถวายให้อาตมานำไปพัฒนาวัดบ้านเกิดของอาตมาต่อไป ภายหลังอาตมาพบพระสุทัศน์ ถามท่านว่าทำไมไม่อยู่ในถ้ำตามที่ได้ตกลงกันไว้ ท่านบอกว่าอยู่ไป ๆ เกิดเป็นโรคผิวหนังรักษาไม่หายจึงตัดสินใจทิ้งถ้ำไป

    กาลเวลาผ่านไป จนกระทั่งถึง พ.ศ.๒๕๓๒ องค์หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง จังหวัดอุทัยธานี ได้ส่งจดหมายมาให้อาตมาบอกว่า มาอยู่ที่ถ้ำป่าไผ่แห่งนี้ได้แล้ว เพราะอายุก็มากพอสมควรถึงแก่เวลาแล้ว (อายุ ๕๒ ปี) อาตมาจึงได้ย้ายจากวัดพระธาตุจอมแจ้ง อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน มาแต่เพียงผู้เดียว โดยไม่มีใครไล่ และพระสงฆ์และสามเณรจากวัดหนองป่าพงอยู่กัน ๘ รูป เริ่มมาอยู่กันตั้งแต่ปี ๒๕๓๐ แล้ว หัวหน้าคณะชื่ออาจารย์บุญทัน อตฺถกาโม แต่ได้มอบให้อาจารย์วิชาญเป็นผู้ดูแลแทน

    ในปี พ.ศ.๒๕๓๒ ภายในถ้ำมีพระจากวัดถ้ำผาจม จังหวัดเชียงรายมาอยู่ ๓ รูป แม่ชี ๒ รูป แล้วก็มีพระจากจังหวัดพิษณุโลกอีก ๑ รูปอาศัยอยู่ อาตมาได้เข้ามาพักอยู่ในถ้ำกับพระและแม่ชีเหล่านั้น


    ในกลางพรรษาปี พ.ศ.๒๕๓๒ นั้น ตรงกับวันที่ ๒๒ กันยายน หลวงปู่แสวง ฐิตสาสโน วัดถ้ำเขาตะพาบ จังหวัดอุทัยธานี พร้อมทั้งญาติโยมทั้งหลายมีพ่อหลวงบุญ บุญทอง เป็นต้น จะทำพิธีเปิดถ้ำป่าไผ่ อาตมาจะร่วมพิธีเปิดถ้ำด้วยเหมือนกันแต่ไม่สบายใจ เพราะวันที่เปิดถ้ำเป็นวันเสียเมืองของเหนือที่คนโบราณยึดถือและปฏิบัติต่อ กันมาว่าเกี๋ยงห้าเก้า เสียอาทิตย์กับจันทร์ นี่สิบหก เสียวันอังคารวันเดียว สามเจ็ดสิบเอ็ด เสียเสาร์กับพฤหัสฯ สี่แปดสิบสอง เสียศุกร์กับพุธ (เดือนทางเหนือจะเลยเดือนของภาคกลางไปหน่อย เช่น เดือนเก้าของภาคกลาง ทางเหนือเป็นเดือนสิบเอ็ด) ถ้าวันเสียเมืองทางเหนือโบราณ จะไม่ทำอะไร ถือว่าเป็นวันอาถรรพณ์ของเดือนนั้น ๆ จึงมาคิดว่า หลวงปู่แสวงท่านไม่ได้อยู่ประจำ ทำพิธีก็แล้วไป แต่เราอยู่ประจำเพื่อความเจริญรุ่งเรืองต่อไปในวันข้างหน้า เราจะทำพิธีเปิดเอาฤกษ์เอายามเสียก่อนสักวันหนึ่งคงจะดี

    เวลานั้นญาติโยมที่อุปการะยังมีไม่มาก อาตมาจึงได้จุดธูปเทียนบูชาพระและขอเทพช่วย ขอให้มีผู้ช่วยในการทำพิธีเปิดถ้ำ ก็เป็นที่น่าอัศจรรย์อย่างยิ่ง คุณนายของท่านผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรอำเภอเมือง จังหวัดลำพูน (สภ.อ.เมือง จังหวัดลำพูน) ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่โอภาสี มีความต้องการที่จะทำบุญในถ้ำแห่งใดแห่งหนึ่งเป็นอย่างยิ่ง จึงได้ชักชวนญาติและเพื่อนออกแสวงหาถ้ำที่จะทำบุญ เมื่อคุณนายมาพบถ้ำป่าไผ่ อาตมาก็ปรึกษาเรื่องที่จะทำพิธีเปิดถ้ำให้ท่านฟัง คุณนายมีความยินดีมาก พร้อมที่จะมาช่วยในการเปิดถ้ำ จึงนัดทำพิธีกรรมเปิดถ้ำก่อนหลวงปู่แสวงหนึ่งวัน

    วันที่ ๒๑ กันยายน พ.ศ.๒๕๓๒ พิธีเปิดถ้ำได้เริ่มขึ้น โดยมีอาตมาเป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ฝ่ายฆราวาสมีคุณนายภรรยาท่านผู้กำกับ สภ.อ.เมือง จังหวัดลำพูนเป็นประธาน พร้อมด้วยภรรยาท่านนายตำรวจ สภ.อ.ลี้ และชาวบ้านป่าไผ่บางส่วน มีคุณพ่อวรรณ เมืองใจ เป็นต้น

    เวลาประมาณ ๐๙.๐๐ น. มีการทำบุญตั้งกองทาน (แบบองค์หลวงพ่อโอภาสี) บริเวณหน้าลานองค์พระประธานในถ้ำ ถวายทานแด่พระสงฆ์และให้ทั้งฆราวาสที่มาร่วมงาน ฝ่ายฆราวาสแจกทานคนละ ๒๐ บาท นอกจากนั้นก็มีผลไม้ ขนมของหวาน ฯลฯ ทั้งนี้ทำเพื่อสงเคราะห์ปลดปล่อยวิญญาณทั้งหลายก่อนที่จะเปิดถ้ำ

    หลังจากพระสงฆ์ฉันภัตตาหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว ได้ทำพิธีเปิดถ้ำที่ปากประตูเข้าถ้ำ มีสายสิญจน์ขึงที่ปากถ้ำ ๒ เส้น ข้างในถ้ำมีคุณนายผู้กำกับพร้อมด้วยคณะ และร่างทรงในชุดสีขาวทรงศีล ๘ สมมุติว่าเป็นผู้แทนเจ้าถ้ำ มีผู้ที่จะโปรยข้าวตอก ดอกไม้ ฝนห่าแก้วอยู่สองข้างทางในถ้ำ (โปรยเมื่อขบวนผู้เปิดถ้ำเดินผ่าน) ข้างนอกถ้ำมีอาตมา พร้อมด้วยพระสงฆ์และชาวบ้าน มีพ่อวรรณ เมืองใจเป็นต้น เป็นฝ่ายขอเปิดถ้ำ

    เริ่มพิธีเปิดถ้ำด้วยจุดเทียน ๒ เล่ม ธูป ๙ ดอก บูชาพระรัตนตรัย ไหว้พระแล้วอาตมานำพุทธบริษัททั้งหลายว่านะโมฯ ๓ จบ ต่อด้วยบทอิมาหังภะคะวา อัตตะภาวัง ตุมหากัง ปริจัจชามิฯ ข้าแด่องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าผู้เจริญ ข้าพระพุทธเจ้าขอมอบกายถวายชีวิตแด่องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า อิมาหัง ภันเต อัตตะภาวัง ตุมหากัง ปริจัจชามิ ข้าแด่ครูบาอาจารย์ทั้งหลายมีองค์หลวงปู่ปานและหลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง เป็นต้น ผู้เจริญ ข้าพเจ้าขอมอบกายถวายชีวิตแด่ครูบาอาจารย์ทั้งหลายฯ แล้วกล่าวทักเทวดารักษาถ้ำว่า “คูหา เทวดา สุขิตา โหนตุ” ๓ จบ

    ต่อจากนั้น กล่าวคำโวหารขอเปิดถ้ำว่า “ข้าแด่เทพาอารักษ์ เจ้าพ่อเจ้าแม่แห่งถ้ำป่าไผ่ทั้งหลาย พร้อมด้วยคณะบริวารทุก ๆ พระองค์ ทุกรูปทุกนาม มีองค์เจ้าแม่จามเทวีและบริวารทั้งหลายเป็นต้นบัดนี้ ถึงกาลเวลาอันสมควรแล้วที่จะเปิดถ้ำแห่งนี้เพื่อให้เป็นเขตพุทธศาสนมงคลสถาน เป็นที่บำเพ็ญทาน ศีล ภาวนา เป็นสำเภาแก้ว สำเภาทอง ขนนำเอาท่านสาธุชนคนดีทั้งหลายเข้าสู่สุคติ คือ สวรรค์ พรหมโลก พระนิพพานและบางส่วนให้ได้เข้าร่วมในศาสนาแห่งพระศรีอาริยเมตตรัย ที่จะมาตรัสรู้เป็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าโปรดเวไนยสัตว์ในอนาคตข้าง หน้านั้นด้วยเถิด” แล้วมอบพานดอกไม้ธูปเทียนแด่คุณนายผู้กำกับ คุณนายผู้กำกับรับแล้วตอบแทนเจ้าของถ้ำว่า “ลูกหลานและสาธุชนคนดีทั้งหลาย องค์เจ้าแม่จามเทวีและเทพารักษ์ทั้งหลายพร้อมด้วยคณะบริวารทั้งปวง มีความยินดีอนุญาตให้เปิดถ้ำป่าไผ่แห่งนี้เพื่อเป็นเขตพระพุทธพรมงคลสถาน เป็นสำเภาแก้ว สำเภาทองบรรจุเอาลูกหลานสาธุชนคนดีทั้งหลายเข้าสู่สุคติภูมิคือสวรรค์ พรหมโลกและพระนิพพานไปตลอดตราบเท่าอายุพระพุทธศาสนา ๕,๐๐๐ ปีพระวสานั้นเถิด พุธโธ ละเปิดโลก ธัมโม ละเปิดโลก สังโฆ ละเปิดโลก โลกะวิทูฯ” สาธุ ๆ ๆ เปิดด้วยนะโม พุทธายะ หลังจากนั้นคุณนายผู้กำกับตัดสายสิญจน์ด้านใน ๑ เส้นแล้วไปยืนรออยู่ด้านข้าง

    ฝ่ายที่อยู่ข้างนอกถ้ำ อาตมากล่าวนำให้ว่าตามว่า “วิรูปากไข ๆ ๆ” ๓ จบ แล้วตัดสายสิญจน์ด้านนอกเส้นสุดท้าย พระสงฆ์สวดชยันโตและประพรมน้ำมนต์ ฝ่ายฆราวาสตีระฆัง ฆ้อง กลอง จุดประทัดแล้วอาตมากล่าวนำให้ว่าตาม ๓ จบว่า “อิติสุคะโต อรหัง พุทโธ นะโมพุทธายะ” แล้วพากันสวดนะโมฯ ๓ จบ พุทธัง สรณัง คัจฉามิฯ ตะติยัมปิ สังฆัง สรณัง คัจฉามิฯ พอขึ้นบทอิติปิโสฯ ก็เดินนำขบวนผู้อยู่ข้างนอกเข้าไปในถ้ำ ข้างในถ้ำโปรยฝนห่าแก้ว ข้าวตอก ดอกไม้ แล้วก็เดินตามเข้าแถวไป เมื่อเข้าไปถึงหน้าลานองค์พระประธานแล้ว พระสงฆ์และฆราวาสทั้งหมดได้สวดมนต์ด้วยบท อิติปิโสฯ, พาหุงฯ, คาถาเงินล้าน, บูรพารัสมิง, มงคลแปดทิศ, ชยันโต อุทิศส่วนกุศล และวันทาหลวง วันทาน้อยเป็นอันจบพิธีเปิดถ้ำ

    ในวันที่ ๒๑ กันยายน พ.ศ.๑๕๓๒ (ตอนพระสวดชยันโตที่ปากถ้ำมีฝนโปรยลงมานิดหน่อย) พิธีกรรมเปิดถ้ำในวันนี้เป็นที่ชื่นใจของผู้เข้าร่วมพิธีเป็นอย่างมาก

    วันที่ ๒๒ กันยายน พ.ศ.๒๕๓๒ จัดพิธีกรรมเปิดถ้ำที่เชิงบันไดขึ้นถ้ำ มีการตั้งศาลเพียงตา มีร่างทรงคุณบุญมี จากอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เป็นร่างทรงองค์เจ้าแม่จามเทวีเป็นผู้ทำพิธีกรรมเปิดถ้ำ ฝ่ายสงฆ์มีหลวงปู่แสวง ฐิตสาสโน วัดถ้ำเขาตะพาบ จังหวัดอุทัยธานีเป็นประธาน ฝ่ายรับทานมีท่านพระครูวิลาสคณาทร เจ้าคณะอำเภอลี้เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ สวญ.สภ.อ.ลี้ พร้อมด้วยพ่อหลวงบุญ บุญทองเป็นประธานฝ่ายฆราวาสและประชาชนชาวอำเภอลี้เป็นจำนวนมาก มีการทำบุญทอดผ้าป่าด้วย แต่งานมีอุปสรรคไม่สะดวกเท่าที่ควร คือ มีฝนตกหนัก

    วันที่ ๒๓ กันยายน พ.ศ.๒๕๓๒ มีร่างทรงพระพิฆเณศร์ อยู่หมู่บ้านเศรษฐกิจ ซอย ๑๐ (เลยตลาดบางแคไปทางนครปฐมนิดหน่อย) มาทำพิธีเปิดถ้ำ ทำพิธีเสาเอกในถ้ำใหญ่ เวลา ๒๔.๐๐ น. แต่เมื่อเวลา ๒๒.๐๐ น. (สี่ทุ่ม) ขณะที่พระสวัสดิ์ ปญฺญาปทีโป คุมเครื่องปั่นไฟอยู่ที่ปากถ้ำ ได้ยินเสียงช้างร้องขึ้นดัง ๆ ๓ ครั้ง ท่านได้วิ่งเข้าไปในถ้ำ บอกว่า “ผีช้างหลอก”

    วันที่ ๒๔ กันยายน พ.ศ.๒๕๓๒ หลังจากงานเปิดถ้ำผ่านไปแล้ว มีค้างคาวฝูงหนึ่งบินร่อนลงมาแบบร่าเริง (เป็นค้างคาวตัวไม่ใหญ่) แต่ที่แปลกคือมาบินเล่นที่หน้าองค์พระประธานในถ้ำและที่ปากทางเข้าถ้ำตลอด ทั้งวัน

    สถานที่ต่าง ๆ ในสำนักสงฆ์ถ้ำป่าไผ่
    ๑. วิหารพระราชพรหมยานเถรเจ้าและพระประธานในวิหาร
    ๒. พระอุโบสถ (อยู่ระหว่างการดำเนินการก่อสร้าง) พร้อมด้วยสมเด็จองค์ปฐมฯ
    ๓. ช้างปู้ก่ำงาเขียว
    ๔. พระอุปคุตและแม่นางธรณี

    ในวันที่ ๑๖ เมษายนของทุก ๆ ปี จะมีการทำพลีกรรมแบบโบราณ ณ ที่สำนักสงฆ์ถ้ำป่าไผ่ ดังต่อไปนี้
    ๑. ศาลที่อยู่ในเขตป่าช้าด้านทิศตะวันออก
    ๒. ศาลที่อยู่ในเขตพระพุทธศาสนาที่หน้าถ้ำ
    ๓. ศาลที่อยู่ด้านข้างรอยพระพุทธบาทบนถ้ำ

    เครื่องพลีกรรมมีเทียน ๒ เล่ม ธูป ๕ ดอก บูชาพระรัตนตรัยก่อน ขึ้นนะโมฯ ๓ จบก่อน แล้วก็มีข้าวปลาอาหารคาวหวานตามสมควร แผ่เมตตาด้วยการภาวนาพระคาถาว่า เมตตาคุณณัง อรหัง เมตตา แล้วก็ทำพลีกรรม คือ
    • ขอน้อมถวายอามิสบูชาและการปฏิบัติบูชาต่อเทวดา
    • ขอขมาเทวดา
    • ขออาราธนาช่วยในกิจที่สมควร และขอพรฯ

    ภายในถ้ำมีที่ทำพลีกรรมดังต่อไปนี้
    • ศาลเจ้าถ้ำ
    • องค์ท่านปู่ฤาษี
    • องค์เจ้าแม่จามเทวี
    • องค์ท่านปู่นเรศวรมหาราช
    • องค์เจ้าพ่อหลักเมือง
    • ช้างปู้ก่ำงาเขียว ช้างองค์เจ้าแม่จามเทวี

    เครื่องบูชาที่ต้องจัดเตรียม
    ๑. ศาลเจ้าถ้ำ ประกอบด้วย ข้าวปลาอาหารคาวหวาน, น้ำ, ผ้าสีผูกเสาถ้ำ
    ๒. องค์ท่านปู่ฤๅษี ประกอบด้วย ไก่ต้มที่ผ่าบิ้ง (ผ่าเป็นชิ้น ๆ) ๒ ตัว, ข้าวและอาหาร, ขนม, มะพร้าว ๑ ทะลาย, ผลไม้, น้ำมะพร้าว, กล้วย ๑ เครือ
    ๓. องค์เจ้าแม่จามเทวี ประกอบด้วย ดอกกุหลาบ, น้ำ, อาหารพื้นเมือง มีแกงแค น้ำพริก ผักนึ่ง ฯลฯ, ขนม, ผลไม้, ผ้าสไบ (อาหารอย่างอื่นองค์เจ้าแม่จามเทวีไม่ทรงโปรด แต่บริวารของท่านชอบ)
    ๔. องค์ท่านปู่นเรศวร ประกอบด้วย น้ำ, ข้าวปลาอาหาร, บุหรี่ซิการ์, เหล้าดำ
    ๕. เครื่องพลีกรรมเจ้าพ่อหลักเมือง ประกอบด้วย เทียนเงิน เทียนดำ อย่างละ ๔ เล่ม, ช่อขาว ช่อแดง อย่างละ ๘ ผืน, ฉัตรขาว ฉัตรแดง อย่างละ ๒ คัน, มะพร้าว ๔ ทะลาย, กล้วย ๔ หวี, อ้อย ๔ ลำ, เหล้าขาว ๑ ขวด, ปลาปิ้ง ๔ ตัว, เนื้อสุก ๔ ชิ้น, เนื้อดิบ ๔ ชิ้น, แกงส้ม ๔ ถ้วย, แกงหวาน ๔ ถ้วย, หมากหนึ่งพัน, ผ้าขาว ๑ ลำ, อาสนะที่นั่ง (เก้าอี้) ๑๒ ที่
    ๖. ช้างปู้ก่ำงาเขียว ประกอบด้วย เทียนเงิน เทียนดำ อย่างละ ๒ เล่ม, ฉัตรแดง ๑ คัน, ช่อแดง ๑ ผืน, มะพร้าว ๑ ทะลาย, กล้วย ๑ หวี, อ้อย ๑ ลำ, หญ้า ๑ หาบ, พลู ๑ แหลบ, ดอกไม้ ๗ กระทง, ข้าวตอก ๗ กระทง

    พิธีกรรมที่ทำในถ้ำ
    เมื่อพระสงฆ์ ญาติโยมพร้อมแล้ว
    ๑. ประธานจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย
    ๒. เปิดเทปสมาทานพระกรรมฐาน อธิษฐานจิตไหว้พระตามเทป
    ๓. สมาทานศีล
    ๔. พระสงฆ์สวดกรณียเมตสูตร ๙ จบ ญาติโยมตั้งใจฟังและภาวนาไปด้วย
    ๕. ถวายสังฆทาน ๕ ชุดแด่พระสงฆ์
    ๖. กล่าวคำถวายเครื่องพลีกรรมต่าง ๆ นำเครื่องพลีกรรมไปบูชาตามที่ต่าง ๆ
    ๗. น้อมถวายเครื่องบูชา
    ๘. ขอขมา
    ๙. ขอพร
    ๑๐. กล่าวอุทิศส่วนกุศล อามิสบูชาและการปฏิบัติ บูชาไปถึงผู้มีพระคุณทั้งหลายมีครูบาอาจารย์ทั้งหลาย ญาติผู้ใหญ่ทั้งหลาย ผู้ที่เคยอุปการะมาแล้วตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย เทพ พรหม พญายมราชและคณะทั้งหลาย ญาติทั้งหลาย ฯลฯ ตามอารมณ์ที่นึกได้ อุทิศไปให้หมด
    ๑๑. พระสงฆ์ให้พร แล้วพระสงฆ์ทั้งหลาย มอบคืนเครื่องบูชาพลีกรรมทั้งหลายให้แก่ญาติโยมทั้งหลาย เพื่อทำพลีกรรมตามจุดต่าง ๆ ต่อไป

    ถ้าญาติโยมทั้งหลายไม่มีความสามารถที่จะทำได้ ก็ให้พระทำหน้าที่แทนไปก่อน จนกว่าจะพบคนที่สามารถทำได้ ก็ปล่อยให้ทำกันเอง

    ขอท่านสาธุชนคนดีทั้งหลาย ท่านพุทธบริษัททั้งหลาย จงช่วยกันทำนุบำรุงรักษาเขตพระพุทธพรมงคลสถานอันประเสริฐแห่งนี้ไว้ให้เป็น ที่บำเพ็ญทาน ศีล ภาวนา ไปตลอดกาลอายุพระพุทธศาสนานั้นด้วยเถิด

    ขออนุโมทนาสาธุในคุณงามความดีของทุก ๆ ท่าน ด้วยความจริงใจ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ

    ขอเจริญพร

    พระอาจารย์มหาสิงห์ วิสุทฺโธ
    เจ้าอาวาสสำนักสงฆ์ ถ้ำป่าไผ่

    -----------------------------------------------------------------


    ต่อจากนี้ไป หลวงพ่อจะได้นำพาท่านทั้งหลาย เข้าไปเที่ยวชมภายในถ้ำป่าไผ่ ถ้ำป่าไผ่แห่งนี้มีหลายถ้ำ แต่ละถ้ำก็มีหลายคูหา ถ้าจะชมกันอย่างทั่วถึงต้องใช้เวลากันเป็นวัน ๆ เลยทีเดียว เฉพาะที่ได้พัฒนาไปแล้วสามารถเข้าไปเที่ยวชมได้ในปัจจุบันก็มากพอสมควร ถ้าจะเที่ยวชมกันอาณาบริเวณนี้ ต้องใช้เวลาประมาณ ๓๐ นาทีถึง ๑ ชั่วโมง

    ท่านทั้งหลาย ตอนนี้เรามาเริ่มต้นกันบริเวณบันไดขึ้นถ้ำ ด้านขวาเป็นบันไดเป็นอาคารรับแขก มีป้ายขนาดใหญ่อยู่ที่หน้าอาคารว่า “ศูนย์รวมศิษย์พระราชพรหมยาน (องค์หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ วัดท่าซุง)” ผู้เฒ่าผู้แก่ขึ้นไปเที่ยวบนถ้ำไม่ไหวก็ขอเชิญเข้าไปคอยลูกหลานอยู่ที่ศาลา แห่งนี้

    ทางด้านทิศตะวันออกของศาลานี้ มีพระพุทธรูปสมเด็จองค์ปฐมปางประทานพร อยู่ในพระวิหารหลังน้อยนี้ ๑ องค์ ได้เคยกราบเรียนถามหลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุงว่า จะสร้างพระพุทธรูปขององค์พระพุทธเจ้าพระองค์ใดจึงจะมีลาภเป็นพิเศษ องค์หลวงพ่อตอบว่า “สมเด็จองค์ปฐม ๑, สมเด็จองค์พระปทุมุตตระ ๑, สมเด็จองค์พระพุทธกัสสปะ ๑”

    กราบเรียนถามต่อไปว่า แล้วก็จะทำอย่างไรให้คนทั้งหลายรู้ว่าพระพุทธรูปองค์นี้เป็นองค์พระพุทธเจ้า พระองค์นั้น พระองค์นี้ องค์หลวงพ่อก็ตอบว่า “ก็จะยากอะไรก็เขียนพระนามของท่านติดไว้ข้างหน้าสิ” ได้ตั้งใจอธิษฐานในวันก่อสร้างไว้ว่าขอให้เป็นสมเด็จองค์ปฐมบรมศาสดาปาง ประทานพร แต่ยังไม่ได้เขียนพระนามใส่ไว้อยากจะปรับปรุงที่ประทับและพระองค์ท่านให้สวย ๆ สมพระเกียรติยิ่งกว่านี้ กำลังพยายามอยู่ สำหรับองค์พระพุทธกัสสปสัมมาสัมพุทธเจ้า ยังไม่ได้กำหนดว่าเป็นพระพุทธรูปองค์ไหน

    ด้านซ้ายมือทิศใต้มีวิหารหลังน้อยชื่อว่า “วิหารรัตนกุล” เป็นที่พักคอยญาติเหมือนกัน และมีตู้เซียมซีให้เสี่ยงทายด้วยที่วิหารนี้เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปหลวง พ่อฝนแสนห่า (อธิษฐานขอฝนได้) ตั้งใจอธิษฐานตอนที่สร้างขอให้เป็นองค์พระปทุมุตตระสัมมาสัมพุทธเจ้า

    ตรงข้ามกับวิหารรัตนกุลออกไปประมาณ ๒๐ เมตร จะเป็นห้องน้ำ จำนวน ๒๖ ห้อง บนรอยพระพุทธบาทและในถ้ำไม่มีห้องน้ำนะ ถ้าธุระทางร่างกายมีอยู่ก็แวะเข้าห้องน้ำกันให้สบาย

    ทางด้านตรงข้ามกับอาคารศูนย์รวมศิษย์ฯ จะเป็นร้านค้าสวัสดิการของสำนักสงฆ์ถ้ำป่าไผ่ มีบริการน้ำชา กาแฟ น้ำหวาน ขนม และวัตถุมงคล เป็นต้น จำหน่ายแก่ผู้มาเยือน ต้นคิดต้นทุนมาจากคุณสุทัศน์ – คุณราตรี ยะปัญญา บ้านแม่เทย ทั้งทุนทั้งกำไรถวายวัดหมด ขออนุโมทนาเป็นอย่างสูง

    เมื่อทุกท่านเสร็จธุระส่วนตัวแล้ว ก็ขอเชิญรีบรวมกลุ่มกันมาโดยเร็ว เพื่อจะได้เดินขึ้นถ้ำต่อไป พร้อมหรือยัง ถ้าพร้อมแล้วก็ออกเดิน

    พอผ่านพ้นวิหารรัตนกุลขึ้นไปอีกนิด ขวามือเป็นวิหารพระสิวลี พร้อมด้วยพระสิวลีปางลีลา (เดินเตสสันถี) ซึ่งเดิมประดิษฐานอยู่ที่หอสวดมนต์ แต่องค์หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุงแนะนำว่าคนเข้าไปบูชาน้อยให้เอาไปไว้ข้างนอกที่คนทั้งหลายเข้าออก ได้ง่าย จึงได้สร้างวิหารองค์พระสิวลีขึ้น ส่วนพระคาถาบูชาพระสิวลีที่ยาวหน่อยแต่ได้ผลดีมีดังต่อไปนี้

    อุกาสะ อุกาสะ ข้าพเจ้าขออาราธนาคุณพระสิมพลีเถรเจ้า จงมาบังเกิดในจักขุทวาร ในโสตะทวาร ในฆานะทวาร ในชิวหาทวารในกายทวาร ในมโนทวาร ของข้าพเจ้า ณ บัดนี้

    อะหังลาโภ จะ ลาภานัง ลาภะสักกาโร จะ ปูชิโต ขอเดชะบารมีที่ข้าพเจ้าได้สร้างมาในอดีตชาติ แสนชาติ สังขยาชาติ ชาติใด ๆ ก็ดี จนถึงชาตินี้ สีวะลี ปุญเญนะ ขอให้เหมือนบุญพระสิมพลีเถรเจ้า

    สัพเพเทวา สัพเพ มนุสสา ปิยา มะมะ รักขันตุ สัพพะทาฯ อิติปิโส พุทโธไชโย เมตตา นะชาลีติ สีวะลี จะ มหาเถโร ลาภะลาโภ ภวันตุเมฯ

    อิติปิโส ธัมโมไชโย เมตตา นะชาลีติ สีวะลี จะ มหาเถโร ลาภะลาโภ ภวันตุเมฯ
    อิติปิโส สังโฆไชโย เมตตา นะชาลีติ สีวะลี จะ มหาเถโร ลาภะลาโภ ภวันตุเมฯ

    ท่านทั้งหลาย ใครอยากได้ลาภได้ยศ ได้เครื่องสักการะของฝาก อยากมีความสุขทุก ๆ อย่าง เข้าไปกราบองค์ท่านหน่อยนะ แล้วขอให้หมั่นเอาพระคาถานี้ไปภาวนา เห็นมีตู้บริจาคอยู่ ๓ ตู้

    ตู้ที่ ๑ เพื่อซื้อโลงศพแจก
    ตู้ที่ ๒ เพื่อสมทบทุนสร้างวิหารองค์ท่านปู่สีวลีที่ยังไม่แล้วเสร็จ
    ตู้ที่ ๓ ช่วยค่าอาหารกลางวันของนักเรียนโรงเรียนบ้านป่าไผ่
    อยู่ด้วย

    เมื่อกราบขอพรองค์หลวงปู่พระสีวลีเสร็จแล้ว เราก็พากันขึ้นบันไดกันต่อไป บันไดคงเหลือแค่ ๑๔๐ กว่าขั้นเท่านั้น มองเห็นปากถ้ำอยู่ไม่ไกล ขึ้นตามมาเลยนะ การขึ้นที่สูงให้ภาวนาว่า “พุทโธ” จะได้ไม่เหนื่อยมาก คาถาขององค์หลวงปู่ครูบาวงศ์ (วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม) ใช้ภาวนาเวลาเดินทางให้ถึงเร็วว่า “ยาวะเทวะ ๆ ๆ” เอ้า เกือบถึงหัวบันไดแล้ว

    ตรงหน้าของเราคือถ้ำป่าไผ่ ขวามือมีวิหารหลังน้อยกับองค์พระพุทธรูป ๑ องค์ ทางด้านซ้ายมือเป็นบันไดขึ้นไปนมัสการรอยพระพุทธบาท (รอยเท้าของพระพุทธเจ้า)

    ที่ปากถ้ำแห่งนี้พระกรรมฐานท่านเล่าว่า มียักษ์ผู้หญิงอาศัยอยู่ หลวงพ่อจะสร้างวิหารเพื่อนำองค์พระพุทธรูปมาไว้เขาไม่ยอม เขาไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหน เขาอยู่มาตั้งนานแล้ว หลวงพ่อจ่าสุรินทร์ จังหวัดแม่ฮ่องสอน ท่านมาคุยให้บอกว่า “ยอมเขาเถอะบุญใหญ่จะเกิดที่ปากถ้ำไปนานเท่านาน เพราะใครขึ้นมาแล้วเห็นองค์พระพุทธรูปก็อดไหว้ไม่ได้ เมื่อไหว้พระฯ ทางสำนัก พระยายมราช ก็จะจดลงบัญชีสีทองให้ทันที บุญใหญ่นะ อนุโมทนาเถอะนะ” ยักษ์ก็ยอม เอ้าพวกเราทั้งหลายเข้าไปเปิดบัญชีสีทองกันได้แล้ว

    เมื่อไหว้พระที่ปากถ้ำเรียบร้อยแล้ว เชิญพวกเราขึ้นไปกราบนมัสการรอยพระพุทธบาทกันก่อนนะ บันไดคอนกรีตเสริมเหล็กอย่างดีจำนวน ๘๒ ขั้น ข้างบันไดมีราวให้เกาะด้วย เดินขึ้นมาเลยโค้งนิดเดียวก็ถึงถ้ำ มากันทุกวันก็ดีนะร่างกายจะได้แข็งแรง กินอาหารก็จะอร่อย ย่อยง่าย เอ้าถึงแล้ว เมื่อสุดขั้นบันได รอยพระพุทธบาทก็อยู่ตรงหน้าเราพอดี

    รอยพระพุทธบาทที่ตั้งอยู่เหนือดอยโตน “บนถ้ำป่าไผ่” แห่งนี้มีมาแต่โบราณ แต่ไม่มีผู้ใดพบเห็นเพราะรกชัฎไปด้วยต้นไม้ เครือเขาและเถาวัลย์ องค์หลวงปู่ครูบาอภิชัยขาวปี แห่งวัดพระพุทธบาทผาหนาม เคยได้พยากรณ์ไว้ว่า รอยพระพุทธบาทที่พุทธบริษัทได้บูชากันอยู่ทุกวันนี้ ที่อยู่ข้างล่างนั่นยังไม่ใช่ของแท้ ของแท้อยู่บนเขาที่หลังถ้ำดอยโตน (ถ้ำป่าไผ่) ในอนาคตพวกท่านก็จะได้เห็นกัน

    ต่อมาปี พ.ศ.๒๕๒๓ พ่อน้อยจุ่ม ขัดสาร อยู่บ้านป่าไผ่ ตำบลป่าไผ่ อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน ได้ฝันว่ามีเมฆก้อนกลม ๆ โต ๆ ๒ ก้อนลอยมาทางทิศตะวันตก ๑ ก้อน ลอยมาทางทิศตะวันออก ๑ ก้อน ได้มาบรรจบรวมกันเป็นก้อนเดียวที่หลังดอยโตนแห่งนี้ แล้วลอยต่ำลงมากลายเป็นต้นโพธิ์ และเปล่งรัศมีแสงสี ๖ สี พวยพุ่งออกมามีลักษณะสวยงามมาก มองไปทางทิศตะวันตกใต้ต้นโพธิ์ เห็นพระสงฆ์รูปหนึ่งก็สะดุ้งตกใจตื่น ในวันนั้นพ่อน้อยจุ่ม ขัดสาร ได้ขึ้นไปเก็บเห็ดที่หลังถ้ำดอยโตน (ถ้ำป่าไผ่) แห่งนี้ จึงได้พบรอยพระพุทธบาทของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จึงได้เกิดความปีติศรัทธากราบไหว้บูชา หลังจากนั้นก็พยายามขึ้นมาทำความสะอาด ปัดกวาดตกแต่งรอบ ๆ บริเวณรอยพระพุทธบาทอยู่บ่อย ๆ เสมอ

    ในปี พ.ศ.๒๕๓๕ พระอาจารย์สิงห์ วิสุทฺโธ ได้มาจำพรรษาอยู่ประจำที่ถ้ำป่าไผ่เมื่อทราบเรื่องแล้ว จึงได้พาคณะพุทธบริษัทไปกราบอาราธนาหลวงปู่พระครูบาชัยยะวงศ์ษาพัฒนา แห่งวัดพระพุทธบาทห้วยต้ม อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน มาตรวจดูด้วยญาณ องค์หลวงปู่ตรวจแล้วบอกว่าเป็นรอยพระพุทธบาทจริง แต่เป็นรอยพระพุทธบาทข้างซ้ายโดยองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้ผินพระพักตร์ไปด้านทิศใต้ แล้วก็ก้าวพระบาทข้างซ้ายเหยียบประทับรอยพระบาทแล้วจึงหันพระองค์กลับดำเนิน ไป

    ปัจจุบัน (พ.ศ.๒๕๔๗) ทางวัดกำลังพัฒนาโดยการปูหินอ่อนที่พื้นที่บริเวณโดยรอบรอยพระพุทธบาทและ สร้างมณฑปด้านบน ค่อย ๆ เข้าไปนะ งานยังไม่เรียบร้อย การบูชากราบไหว้รอยพระพุทธบาทมีอานิสงส์ทำให้เดินทางปลอดภัย มีความคล่องตัว มีโชคลาภในการเดินทางไปมา ถ้าอธิษฐานโดยระลึกถึงองค์พระพุทธเจ้าไว้ด้วยก็จะไม่หลงออกจากสัมมาทิฐิ ถ้าจะให้มีอานิสงส์ตลอดก็ต้องไหว้ทุกวันตลอดไป คำไหว้ถ้าอยากได้บุญมากก็ให้ไหว้รอยพระพุทธบาท ทั้ง ๔ องค์เลย คำไหว้ มีดังนี้


    อะหังวันทามิ สัพพะทา อะหัง วันทามิ สิระสาฯ

    เมื่อก่อนโน้นหลวงพ่อเป็นพระยากจนมาก จะไปวัดท่าซุง จังหวัดอุทัยธานี แต่ละครั้งไม่มีค่ารถ บางครั้งมีแต่ก็ไม่พอ ไปพบพระองค์หนึ่งเล่าให้ฟังว่า ท่านแนะนำให้ไหว้รอยพระพุทธบาททุก ๆ วัน แล้วจะเดินทางสะดวก องค์นี้ท่านจะขึ้นเครื่องบินเขายังแย่งกันเอาขึ้นเลย ลำนั้นก็นิมนต์ ลำนี้ก็นิมนต์ว่างั้น ลองไหว้ดูรู้สึกดีขึ้นกว่าเดิม มีคนถวายค่ารถบ้าง ชวนขึ้นรถบ้าง ยิ่งไปกว่านั้น คุณแม่ชีระเบียบ มาลี สำนักแม่ชีวัดโพธิ์ทอง จังหวัดราชบุรี ยังนำรถตู้ชรามาถวายไว้ให้ใช้คันหนึ่ง พอไปไหนมาไหนได้บ้าง อยากจะเอาไปไกลแต่คนใกล้เคียงเขาไม่ยอมให้ไป กลัวจะไปไม่ถึง หรือไปถึงแล้วกลับไม่ได้

    เมื่อทุกคนกราบรอยพระพุทธบาทและอธิษฐานแล้ว ถ้าไม่รีบร้อนก็ทำประทักษิณอีก ๓ รอบ ถ้าเวลาไม่พอก็ไปกันได้แล้ว เอาลุกขึ้น หน้าเดิน เดินกลับทางเดิมนะ ลงบันไดมาจนถึงหน้าถ้ำนะ
    (อ่านต่อพรุ่งนี้นะคะ ^^)
     
  14. gitti

    gitti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    393
    ค่าพลัง:
    +1,035
    (ต่อจากเมื่อวานค่ะ)

    ซ้ายมือเป็นทางเข้าถ้ำ ข้างหน้าเราจะเป็นวิหารพระพุทธรูป ขวามือเรา ทางลงบันไดไปยังอาคารศูนย์รวมศิษย์ฯ จะเข้าไปชมในถ้ำกันใช่ไหม เอ้าซ้ายหัน แล้วก็ทักเทวดารักษาถ้ำกันหน่อยนะ “คูหา เทวดา สุขิตา โหนตุ” เข้าไปจะปลอดภัย เข้าป่าให้ว่า “อรัญญ เทวตา สุขิตา โหนตุ” เข้าบ้านให้ว่า “คามา เทวตา สุขิตา โหนตุ” เข้าบ้านจะปลอดภัย หมาไม่กัด โบราณเขาว่ากันอย่างนั้น

    ขั้นบันไดลงถ้ำมันจะสูงไปสักหน่อย ค่อย ๆ ลงมานะ ระวังหัวชนข้างบนด้วย ช่วงประตูนี้ต่ำไปหน่อย จะต่อเติมก็กลัวถ้ำพัง ลองสังเกตข้าง ๆ บันไดสิ ช่องเข้าถ้ำนี้ถูกปิดด้วยดินและก้อนหินใหญ่ทั้งนั้นเลย จะกี่สมัยมาแล้วก็ไม่ทราบนะ แล้วมองผนังทางข้างซ้ายมือโน้น มีหินย้อยเป็นรูปคล้ายมือคน ถ้ำนี้ถ้าใครมาแล้วอยากจะมาอีกเพราะความสวยงาม น่าชื่นชมยินดีเป็นอย่างยิ่ง และเพราะมีมือกวักให้มาใหม่นะ

    เลยเข้าไปหน่อยจะมีหินงอกขนาดใหญ่คล้ายจอมปลวกย่อม ๆ ตั้งอยู่กลาง ๆ ถ้ำข้าง ๆ บันไดเลย หินนี้มองดูจะคล้าย ๆ พระโบราณเข้าสมาธิ (เข้าฌาน) ท่านจะเอาผ้าคลุมไว้ทั้งองค์เลย ชาวไทยใหญ่เรียกว่า พระป่องเตอู ในอดีตเมื่อมีกำลังพัฒนาโดยการปรับพื้นถ้ำ หลวงพ่อเคยคิดจะเอาไปไว้ที่ชิดผนังถ้ำ แต่เด็กวัดฝันว่าเขาไม่ให้ย้ายไปที่อื่นให้อยู่ที่เดิม ก็เลยอยู่ ณ ที่เดิม ผู้เฒ่าผู้แก่เล่าให้ฟังว่าองค์หลวงปู่เจ้าครูบาศรีวิชัย เวลาฉันอาหารจะนำอาหารมาใส่บาตรพอสมควรตามอัตภาพแล้วเอาผ้ามาคลุมหมดทั้ง องค์ ฉันไม่พูดไม่จาอยู่ในผ้านั้น เมื่อฉันภัตตาหารเสร็จแล้วจึงเอาผ้าคลุมออก แล้วก็จะใช้น้ำประมาณ ๑-๒ แก้วล้างบาตร และดื่มน้ำล้างบาตรนั้นด้วย องค์ท่านคงจะตั้งอารมณ์อยู่พระกรรมฐานตลอดเวลาแห่งการขบฉัน พระภิกษุ สามเณรทั้งหลายควรศึกษา ควรเจริญกรรมฐานกันบ้างนะ เพราะความทุกข์ทั้งปวงมันเกิดจากอายตนะภายใน ภายนอกนี้เอง สังโยชน์สิบก็เกิดที่นี่ เอ้าจะพาญาติโยมมาเที่ยวถ้ำหรือมาฟังเทศน์ฟังธรรมกันแน่ หือ! โอย ๆ ไม่ไหวหลวงตานี่ เอ้าเดินหน้าต่อดีกว่า

    มองไปข้างหน้าสิโยมเห็นอะไรบ้าง สูงสุดของพวกเราชาวพุทธก็คือ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มีพระพุทธรูปหลายองค์ใช่ไหม โน้นที่ปากปล่องถ้ำข้างบน ๑ องค์ ประทับยืนประทานพรด้วย ข้างล่างหน้าตัก ๔ ศอกคืบตั้ง ๓ องค์ พระพุทธลักษณะสวยงามทั้งนั้น ที่ถ้ำผาผึ้ง อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ เขาเขียนไว้ว่า “ยกมือไหว้พระเมื่อตายังเห็น จิตจะร่มเย็นเหมือนได้เฝ้าองค์พระศาสดา” ดู สิองค์ทางซ้ายมือของพวกเรายกมือขึ้นประทานพรด้วย คูหานี้มีชื่อว่า “ถ้ำพระนเรศวรมหาราช” เพราะเมื่อจะบรรจุหัวใจพระพุทธรูป ญาติโยมพากันฝันเห็นทหารมากันเยอะเลย ญาติโยมก็ไม่รู้จักองค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช แต่คูหาถัดไปมีหินลอยรูปพระมาลาเบี่ยงอยู่ จึงเข้าใจว่าแม่ทัพนายกองของทหารเหล่านี้คงจะเป็น เหล่าทหารกล้า ขององค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชกระมัง?

    เมื่อพวกเรากราบพระไหว้พระ รับพรจากพระพุทธรูปแล้วก็พากันออกจากลานหน้าองค์พระเถิดนะ แล้วก็พากันเดินเข้าไปอีกนะ เอ้าไปเลยแต่ไม่ใช่ไปลับนะ ประเดี๋ยวต้องกลับออกมานะ

    มาได้หน่อยเดียวจะมีบันไดเอียงต่ำลงไป ข้างบนมีปล่องทะลุขึ้นไปเป็นรูอากาศ ทำให้มีลมพัดผ่านตลอดเวลา อากาศในถ้ำจึงดีมาก ๆ จากปล่องอากาศแล้ว เพดานของถ้ำจะต่ำ ยืนตัวตรงเข้าไปไม่ได้ ทุกท่านที่จะเข้าถ้ำต้องก้มหัวลงมานิดหน่อยเป็นการลดทิฎฐิของผู้มียศใหญ่ เงินใหญ่ วาสนาใหญ่ทั้งหลาย ทุกท่านที่จะเข้าถ้ำต้องเคารพหมด เคารพใคร? เคารพถ้ำ! ถ้ำมีอะไรดี? มีพระพุทธรูป มีรูปพระสุปฏิปันโน มีพระบรมสารีริกธาตุบรรจุอยู่ในองค์พระพุทธรูปทุก ๆ พระองค์ เป็นต้น แล้วได้อะไร ก็ได้บุญน่ะสิ อนึ่งโบราณท่านว่า “อดไม่เป็นเย็นไม่ได้ ไม่มีความอ่อนน้อมเลย จะไม่พบกับความเจริญและความเป็นใหญ่” เราทุกคนระวังหัวชนผนังถ้ำ ต้องค้อมหัวลงหน่อย ๆ เอ้าเข้ามาเลย

    พอพ้นช่องคารวะถ้ำเข้ามาแล้ว ซ้ายมือผนังถ้ำเบื้องบนจะมีพระพุทธรูปสีน้ำผึ้ง ๑ องค์ หน้าตัก ๕ นิ้ว เป็นพระแก้วสมัยปัจจุบัน ซึ่งองค์หลวงปู่เจ้าครูบาชัยยะวงศา วัดพระพุทธบาทห้วยต้มท่านให้มาเมื่อปี พ.ศ.๒๕๓๐ คนที่มีบุญเป็นสันดานจะเป็นคนมืออ่อน ท่านบอกให้เอามาไว้ตรงจุดนี้ คนเข้ามาตาชนพระ พระชนตาจะได้ไหว้ เอ้าพวกเรามือไม่แข็งแขนไม่แข็งยกมือไหว้ก่อนหน่อยนะ

    ไหว้พระแล้วมองไปข้างหน้าสิระดับล่างเป็นลาน ระดับบนขึ้นไปเป็นชะง่อนถ้ำมีบันไดถาวรขึ้นไป มีพระพุทธรูป ๒ องค์หน้าตัก ๔ ศอกคืบ ขวามือเรามีลานมีทางซอยเข้าไป เห็นอะไรแปลก ๆ ไหม? เห็นนะ หินลอยก้อนนี้เป็นหินอัศจรรย์นะ! มีลักษณะคล้ายกับหมวกที่เราเอาสวมหัวกันข้างหนึ่ง มีใบขาดแต่ไม่ตกนะ คงอยู่ในระดับเดิม ก้อนหินใหญ่ลอยอยู่กับที่น้ำหนักหลายตัน แต่สิ่งที่ค้ำไว้เป็นแผ่นหินเล็กนิดเดียว แล้วใครนำมาค้ำไว้รถยกก็ไม่มี ทุกคนมาเห็นแล้วก็คิดว่าเป็นพระมาลาเบี่ยง (หมวก) ขององค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชที่ธรรมชาติอันศักดิ์สิทธิ์ได้สร้างสรรค์ไว้ ให้พวกเราได้กราบไหว้บูชา ได้รำลึกถึงคุณงามความดีของบรรพชนผู้เสียสละทุกอย่างเพื่อให้เรามีที่อยู่ ที่นอน ถ้าหลวงพ่อมีทุนทรัพย์จะหล่อรูปองค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชไว้ข้างพระมาลานี้ พร้อมกับศิลาจารึกการประกาศอิสรภาพของชาติไทยของพระองค์ ถ้าผู้ใดมีเงินก็มาสร้างกันก่อนก็ได้นะ เพราะเงินของหลวงพ่อมันอยู่ในกระเป๋าของคุณโยมทั้งหลาย มาบ้างไม่มาบ้าง ในอดีตมันมาน้อยยังไม่พอสร้าง พอทุลักทุเลคุ้มค่าน้ำค่าไฟ ค่ารถ ค่าอาหาร ค่าบริวาร คน หมา แมว ไก่ ปลา ค่าโทรศัพท์ ฯลฯ รอดตัวไปเป็นเดือน ๆ แบบใจหายใจคว่ำนั้นแหละนะ คุณโยมนะ

    เลยพระมาลาเบี่ยงเข้าไปอีกคูหามีพระพุทธรูปยืน ๑ องค์ ประทับนั่ง ๑ องค์ องค์ใหญ่หน้าตัก ๔ ศอกคืบเหมือนกัน บางท่านก็ถามว่าทำไมสร้างพระพุทธรูปไว้มาก ก็ตอบว่า เพราะองค์พระพุทธรูปช่วยพวกเราทั้งหลาย ดังนี้ คือ

    ๑. เมื่อมีพระพุทธรูปทุกคนที่มาก็รู้สึกชื่นใจ รู้จักสำรวมยิ่งขึ้น สถานที่ก็เป็นมงคลยิ่งขึ้น ในพระพุทธรูปก็มีพระบรมสารีริกธาตุเหมือนเช่นพระเจดีย์ทั่วไป คนที่จะมาเสพสุรายาเมา มาเสพสังวาสกันก็จะรู้สึกละอาย ไม่ทำในด้านอกุศลอย่างนั้น สมัยก่อนโน้น ไฟเขาติดไว้ให้ดี ๆ คนพวกนี้ก็ดับ ดับเพื่อประกอบกิจกรรมบางอย่างที่เขาชอบ เดี๋ยวนี้บางคนไม่มีความละอาย กอดจูบกันตั้งแต่บันไดขึ้นถ้ำไปเลยทั้งหัวดำหัวหงอกนะท่านนะ บารมีขององค์พระพุทธรูป ก็ช่วยลดลงไปได้มาก แต่ถ้าเผลอก็อาจจะมีอยู่บ้างเหมือนกัน

    ๒. การที่พวกเราจะพัฒนาให้ปลอดภัยจากงู ตะขาบ แมงป่องช้าง เป็นต้น จะชวนใครทำใครก็ไม่อยากทำ พอชวนสร้างพระ ใคร ๆ ก็อยากสร้าง ค่าใช้จ่ายในการสร้างพระองค์ละ ๕๐,๐๐๐ บาท (ห้าหมื่นบาท) พระเณรทำกันเอง เงินเหลือก็เอามาพัฒนาพื้นถ้ำที่ต่ำก็ถม ที่สูงก็ถาก ที่องค์ประดิษฐานอยู่ก็กั้นเขตไว้ให้เป็นสัดเป็นส่วน ถ้าพวกเรามาจุ๊ยสวมรองเท้าเข้าไปเหยียบที่ประทับขององค์พระก็จะตกนรกจ๋อม (ด้วยบารมีขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง เราจึงได้พื้นถ้ำที่ปลอดภัย ไฟฟ้า น้ำดื่ม น้ำใช้ ห้องน้ำ ได้มาจากบารมีขององค์พระพุทธเจ้าทั้งนั้น ที่ชาวพุทธทั้งหลายช่วยกันทำ) กลับหรือยัง?

    กลับออกจากองค์พระออกมาทางเดิม ซ้ายมือทางที่พวกเราเข้ามา ข้างหน้าผนังถ้ำ ขวาหัน ขวาหันแล้วเดินต่อ เดินมาได้หน่อยขวามือเป็นบัวสวรรค์ เราอย่าเพิ่งขึ้นนะ มองย้อนกลับมาข้างหลัง ต้นทางที่เราเดินเข้ามาขวามือที่ผนังถ้ำจะเห็นหินงอกใหญ่เบ้อเริ่มเทิ่มเลย นะ หินข้างผนังถ้ำนี้ จะมีลักษณะเหมือนสิงโตหัวใหญ่มีเจ้าตัวเล็กอยู่ข้างหน้าอีกตัว เลยเรียกสิงโตตัวนี้ว่าสิงโตแม่ลูกอ่อน บริเวณลานข้างหน้านี้ก็เลยเรียกว่าถ้ำสิงโต

    เมื่อดูสิงโตภูเขาแล้ว ก็หันมาหาบันไดขึ้นถ้ำบัวสวรรค์กันนะ มาพร้อมกันตรงบันไดหรือยัง เอ้าพร้อมแล้วพวกเราก็เดินขึ้นบันไดกันเลยนะ บันไดคอนกรีตอย่างดีไม่มีผุกร่อนหรอกนะ หายห่วง (ด้วยบารมีขององค์สมเด็จพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง เราจึงได้พื้นที่ที่ปลอดภัย ไฟฟ้า น้ำดื่ม น้ำใช้ ห้องน้ำ ได้มาจากบารมีขององค์พระพุทธเจ้าทั้งนั้น ชาวพุทธทั้งหลายมาร่วมกันสร้างถวายแด่พระรัตนตรัย ทุก ๆ ท่านกรุณาช่วยถนอม ช่วยรักษา ทุกทั่วหน้าด้วยเทอญ) ตามขึ้นมา ๆ ๆ

    เมื่อถึงหัวบันได ขึ้นไป ๓-๔ ขั้น เบื้องหน้าของพวกเราก็มีพระพุทธรูปหน้าตัก ๔ ศอกคืบประดิษฐานอยู่เหมือนกัน พระพุทธลักษณะสวยงามมากถึงจะดูเก่าก็ดูเข้มขลังไปด้วยพุทธบารมี มีลานหน้าองค์พระปูด้วยกระเบื้องที่พอจะนั่งได้ประมาณ ๑๐ กว่าคน เข้ามาสิ ๆ ๆ มากราบพระกันก่อนนะ

    ข้างขวามือต่ำกว่าฐานมีแท่นเปล่าอยู่แท่นหนึ่ง คิดว่าถ้ามีรูปองค์ท่านปู่พระอินทร์ ท่านย่า ไว้ให้ลูก ๆ ทั้งหลายได้กราบกันก็คงจะดี

    เมื่อชมที่นี้แล้วก็ถอยหลังลงมาอยู่ที่หน้าบันไดกันนะ ขวามือทางลง ซ้ายมือทางขึ้นไปสู่ลานอีกลานหนึ่งมีรั้วกั้นอยู่โดยรอบ ที่ขวามือเวลาเราเดินขึ้นไปก็มีพระพุทธรูปอีกองค์หนึ่งหน้าตัก ๔ ศอกคืบเหมือนกัน องค์นี้ก็สวยมาก พระพักตร์เข้มกว่าองค์เมื่อผ่านมา ก็อดกราบไม่ได้ใช่ไหม? “ใช่” กราบกันเถอะนะ เมื่อกราบแล้วก็กลับหลังกันเถอะ

    เออ ตอนนี้เราอยู่ทาง องค์พระซ้ายมือทางลง ขวามือของพวกเราก็มีซอกถ้ำเข้าไปอีก มีลานที่ปูกระเบื้องโมเสกแล้วอยู่นิดหน่อย ตรงฝาถ้ำข้างหน้ามีอุโมงค์ลึกเข้าไปที่ผนังพอที่จะนั่งได้นอนได้ บริเวณนี้เคยเป็นที่บำเพ็ญภาวนาของพระโยคาวจรในกาลก่อน มีพระ โยคาวจรท่านหนึ่งเล่าว่า เมื่อภาวนาจนจิตออกจากร่างแล้ว ร่างลอยขึ้นไปอยู่เบื้องบนโดยมีที่อาศัยนี้ลอยตามไปด้วย เทวดาองค์อื่นบางท่านไปพร้อมกับวิมาน แต่ท่านไปพร้อมกับถ้ำ ถ้าไปถึงไหนองค์อื่นก็คงจะต้องหลบกันอุตลุด เพราะว่าถ้ำอาจไปชนวิมานสวย ๆ ของท่านเข้า ถ้าใครอยากจะมานั่งมานอนตรงนี้ดูก็มาเน้อ ถ้านั่งในคูหาหันหน้าออกข้างซ้ายก็จะมีรั้วกั้นไว้ กันเด็ก กันผู้ใหญ่ไม่ให้ร่วงลงไป กันคนซุ่มซ่าม พลัดตกลงไปนะ ก็ขอให้ทุก ๆ ท่านเที่ยวชมแบบระมัดระวังกันหน่อยเพราะว่า ถ้ำก็คือถ้ำ ตะปุ่มตะป่ำ คว่ำ ๆ เอียง ๆ สูง ๆ ต่ำ ๆ ไม่เหมือนโบสถ์, วิหาร, ศาลาการเปรียญหรอกนะ บางแห่งก็สูงจนคอแหงนตั้งบ่า บางแห่งก็ต่ำ บางแห่งก็เว้าเข้าไป บางแห่งก็นูนออกมา ตามสภาวะของธรรมชาติสร้างสรรค์นั้นแหละ

    เมื่อเราเที่ยวถ้ำบัวสวรรค์ทั่วแล้ว ต่อไปก็ขอเชิญทุกคนมารวมกันที่หน้าบันไดก่อนนะ มาหมดหรือยัง หมดแล้ว ไม่ขาดไม่หายก็เดินลงบันไดไปนะ

    บันไดมีกี่ขั้นนี่ก็ไม่ทราบเหมือนกันนะ หลวงพ่อไม่ได้นับไว้ จะมาถามว่าบันไดขึ้นถ้ำมีกี่ขั้น รอยพระพุทธบาทมีกี่ขั้น ขั้นถ้ำบัวสวรรค์มีกี่ขั้น ขั้นถ้ำกรรมฐานมีกี่ขั้น หลวพ่อเคยนับเหมือนกันแต่ลืมไปหมดแล้ว (ลูกศิษย์แอบนับตอนพิมพ์ต้นฉบับ บันไดขึ้นถ้ำมี ๑๔๓ ขั้น ส่วนบันไดขึ้นรอยพระพุทธบาทมี ๘๒ ขั้น)

    เมื่อลงมาสุดบันไดแล้วขวาหัน เดินไปข้างหน้าสิ ประมาณ ๕-๖ วา ก็ตะลึงเลยใช่ไหมล่ะ โอ้โฮ! ถ้ำอะไรสวยจังเลย ที่ “ท้องพระโรง” นี้สวยงามมาก มีภูเขาลูกน้อยอยู่ข้างหน้า บนภูเขามีรูปสมเด็จองค์ปฐมบรมศาสดาสิขีทศพล ๑ ตั้งเด่นเป็นสง่าประดิษฐานอยู่มีซุ้มเรือนแก้วเพชรประสมทองงามอร่าม องค์พระปิดทองทั้งองค์ แท่นแก้วทองผสมเพชรแวววามอร่าม ด้านขวามีธงชาติ ด้านซ้ายมีธงศาสนาปักไว้งามสง่ายิ่งนัก ใต้ฐานแท่นพระมีน้ำตกไหลลงมา สวย สวยมากใช่ไหม “ใช่” ใคร ๆ ก็ว่าอย่างนั้น

    ระดับต่ำลงมา มีรูปปั้นองค์เจ้าแม่จามเทวีประทับยืนสง่างามคอยรับสักการะ และให้พรแก่ลูกหลานทั้งหลายที่มาจากทิศทั้งปวง

    ด้านซ้ายมือของพวกเรา ขวามือขององค์ท่านแม่เข้าไป ก็มีพระพุทธรูปอีกแล้วองค์ใหญ่ ๆ ๒ องค์ องค์ซ้ายมือของพวกเราประทานพรด้วยสิ เราจะไหว้อะไรก่อนดีหนอนี่ ตรงเข้าไปไหว้สมเด็จองค์ปฐมก่อนแล้วกันนะ

    ข้างหน้าอ่างรองรับน้ำตกเป็นที่รองรับเครื่องสักการะบูชา จุดธูปเทียนน้อมสักการะบูชากันแล้วก็ไปขอพรพระพุทธรูปปางประทานพรกันก่อนนะ ถึงหรือยัง ถึงแล้วก็กราบอธิษฐานขอพระกันเถอะนะ ผู้ที่ยังไม่เคยอธิษฐานมาก่อน ก็ให้อธิษฐานเอายอดความปรารถนาของคนทั้งหลายซึ่งมีความปรารถนาดังนี้ คือ

    ๑. ขอให้ปลอดภัยจากอันตรายทั้งปวง
    ๒. ขอให้มีความสุขกายสุขใจ
    ๓. ขอให้คล่องตัวในความเป็นอยู่ไปตลอดตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพานเถิด

    อธิษฐานตามนี้ ก็จะครอบคลุมพรทุกอย่างไว้ในนั้นหมดแล้วใช่ไหม? ถ้าจะถามหลวงพ่อว่าทำไมสร้างปางประทานพรไว้มาก ลงรถพบองค์แรกข้างศูนย์รวมศิษย์ฯ ก็ปางประทานพร เข้าถ้ำคูหาแรกก็ประทานพร มาท้องพระโรงก็มีปางประทานพรอีก

    ท่านผู้ติดตามเที่ยวชมถ้ำทั้งหลาย ในอดีตที่ผ่านมายังไม่ถึง พ.ศ.๒๕๓๐ จะเป็นปีไหนจำไม่ได้ หลวงพ่อได้มาพักอยู่ที่ถ้ำนี้องค์เดียว ขณะที่นั่งเจริญกรรมฐานอยู่ที่หน้าลานองค์พระประธานในถ้ำ ไม่ได้ใช้คำภาวนาบทใด แต่รู้ลมหายใจเข้าออกอย่างเดียวจนหลับไป ฝันเห็นองค์พระพุทธเจ้ามาประทับยืนลอยอยู่ข้างหน้า สูงจากพื้นประมาณ ๓ เมตร ทรงจีวรสีเหลืองสดใส พระวรกายสีขาวนวลสวย พระองค์ทรงยกพระหัตถ์ขวาขึ้นประทานพร มีความตื่นเต้นมาก ภาพขององค์พระก็เลยหายไป ลืมตาดูก็มีแต่ความว่างเปล่า เหลือแต่องค์พระรูปธรรมดาตามเดิมเท่านั้น ก็เลยสร้างองค์พระประทานพรไว้ในถ้ำ

    นอกถ้ำแห่งนี้หลวงพ่อคิดว่าเป็นเขตอุดมมงคลยิ่ง เป็นเขตพระพุทธพรมงคลสถานท่านทั้งหลายที่มาถึงแล้ว ขอจงสำเร็จตามความประสงค์ตามคำอธิษฐานของทุก ๆ ท่านเทอญ

    เมื่อทุก ๆ ท่านขอพรจากองค์พระพุทธรูปแล้ว ก็ขอเชิญออกมาที่อนุสาวรีย์องค์เจ้าแม่จามเทวี ขอศีลขอพรจากองค์ท่านกันเถิด คุณแม่จันตา มะหลีแก้วเคยมาขอเลข ท่านสงเคราะห์ถึง ๓ งวด อีกครอบครัวหนึ่งลูกสาวหนีตามผู้ชาย เขามาบนขอไม่ถึง ๑๐ วัน ลูกสาวก็กลับคืนมา

    องค์ท่านแม่คงจะสงสารลูกหลานทั้งหลายที่เกิดมาเป็นคน บางคนบางท่านก็มีแต่ปัญหาสะสางไม่ได้จนนอนไม่หลับ ทุกข์ทั้งกลางวันกลางคืนก็มาที่ถ้ำแห่งนี้

    มีอยู่รายหนึ่งเอาเงินมาถวาย ๕๐๐ บาท บอกว่าเป็นครูได้มาที่ถ้ำนี้ และอธิษฐานขอความช่วยเหลือจากทางถ้ำ เพราะมีทุกข์มากนอนไม่ค่อยจะหลับ กินไม่ค่อยจะได้เงิน ทองไม่พอใช้ แถมมีหนี้อีกมาก ขอให้ช่วยได้เงินมาพอล้างหนี้ด้วยเถิด ขอให้ได้เงินแบบง่าย ๆ ไม่มีปัญหาติดตามมา จะเป็นเงินเก็บตกก็เอาว่างั้น! พอกลับไปบ้านแล้วก็นอนฝันว่าพบขอนไม้อยู่ตรงหน้า มีเลขสีขาวอยู่ที่ขอนไม้นั้น ๓ ตัว ก็เลยลองเอาไปซื้อเลขใต้ดิน ก็ได้เงินมาล้างหนี้หมดและเอามาถวายทางวัดอีก ๕๐๐ บาท ตอนนี้หนี้สร้างบ้านหมดไปแล้ว แต่อยากได้ที่ดินอีกจะมาขอต่อไป ก็มาอีก ๒-๓ ครั้งแล้วก็หายไป คงจะได้ครั้งเดียว

    เขาจะขอกับท่านผู้ใดบ้างก็ไม่รู้ แต่แม่จันตา มะหลีแก้ว ขอเจาะจงองค์เจ้าแม่เลย องค์เจ้าแม่ก็ให้ ๓ งวดติด ๆ กัน โยมก็เลยเอามาถวายทางวัด ๙๙ บาท บอกว่าหลวงพ่อลูกหลานหลาย พอเขารู้ว่าถูกหวยใต้ดินนะเขาก็มาขอ ขอแทบทุกคนก็แบ่ง ๆ กันไป ก็เลยเอามาถวายวัด ๙๙ บาท จะมาดูรูปองค์เจ้าแม่บ่อย ๆ ก็ไม่สะดวก รถส่วนตัวก็ไม่มี จะขอเอาหินในถ้ำไปบูชาแทนองค์เจ้าแม่และขอที่บ้านนะ หลวงพ่อก็บอกว่า “หลวงพ่อก็บอกไม่ได้นะ ว่าองค์ท่านแม่จะตกลงด้วยหรือเปล่า สุดแท้แต่คุณโยมก็แล้วกัน” จากนั้นมาก็เงียบไปไม่ได้ข่าวอีก

    นะโยมนะบางครั้งอดไม่ได้ก็ขอองค์เจ้าแม่บ้าง “ถ้าใครได้รับข่าวบุญทางถ้ำป่าไผ่แล้ว ขอให้โชคเขาบ้าง ขอให้เขาถูกหวยกันบ้างเถิด” บางคนมีโชคถูกหวย เขาเอาผ้าป่าไปทอด แต่ไม่ใช่ที่วัดถ้ำป่าไผ่แต่เป็นวัดที่บ้านเขาโน้น ส่วนมากที่มีโชคจากทางถ้ำ จะนำไปถวาย ๕๐๐ บาท วันหลังอาจจะได้เปลี่ยนชื่อใหม่ว่า

    ข้างหลังของอนุสาวรีย์ขององค์ท่านแม่ไปด้านซ้ายมือ จะมีเสาใหญ่ค้ำไว้ ณ จุดนี้ คุณพ่อจื่น ดวงแสง บ้านสันปูเลย อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ มาทัศนาจรเห็นเป็นตัวเลขอยู่ที่ข้างเสา เรียกคนอื่นมาดู แต่คนอื่นมาดูแล้วไม่เห็น ไปซื้อหวยใต้ดินถูกแบบไม่ต้องเติม ไม่ต้องกลับ มาถวาย ๕๐๐ บาท บอกว่าหลวงพ่อผมเป็นคนไม่ชอบเล่นหวยเท่าไรเลยไม่เล่นมาก ก็แนะนำว่าดีแล้วคุณโยม หลวงพ่อวัดท่าซุง ถ้าใครไปขอโชคขอลาภ ท่านจะแนะนำให้เอาคาถาเงินล้านไปสวดไปภาวนา ก็ขอให้คุณโยมเอาคาถาไปเจริญเป็นกรรมฐานเถิดนะ คุณโยมก็มาร่วมทำบุญด้วยหลายครั้ง คราวหลังมาเห็นเลขที่เสาถ้ำอีกก็ถูกอีก ก็เอามาถวายอีก ๕๐๐ บาท

    หลังจากนั้นไม่นาน คุณโยมพ่อจื่น ดวงแสงก็ล่วงลับดับไป คุณแม่ผาย ดวงแสงและลูกหลาน ก็หายไปไม่มาเยี่ยมอีก ถ้าจะหวังเงินหวยมาสร้างวัดคงไม่สำเร็จ เพราะสิ่งที่ศักดิ์สิทธิ์และผู้ที่ศักดิ์สิทธิ์สงเคราะห์ได้เป็นบางคนเท่า นั้น แต่ละรายที่มีโชคได้ไป ต่างก็มีภาระหน้าที่จำเป็นรออยู่ทั้งนั้น

    มีอยู่รายหนึ่งคุณบุญธรรม วังวน รายนี้พอถูกแล้วเอามาถวายเป็นหมื่น คนที่จะมีโชคตอนมาถวายที่วัดหน้าตาก็ผ่องใสสุกปลั่งดั่งทองคำ เมื่อกลับบ้านไป โยมผู้หญิงไปปูผ้าปูที่นอนกลางคืน เอามือปัดผ้าก็เป็นประกายวูบ ๆ วาบ ๆ ก็เลยตัดสินใจซื้อเยอะหน่อย ก็เลยได้เยอะหน่อย แต่ถูกครั้งเดียวมาอีกก็ไม่ได้อย่างเดิมอีก ก็เลยหายไป นาน ๆ จะมาสักที ถ้ามาก็ไม่ลืมเรื่องหวยอยากจะได้หวยเหมือนเดิม

    เอ้าท่านผู้ติดตามเข้าชมถ้ำทั้งหลาย เราออกจากอนุสาวรีย์เจ้าแม่กันก่อนนะ ไปชมเสาถ้ำกัน เสาใหญ่ตรงหน้าเรานี่แหละหันหน้าเข้าถ้ำ อยู่ทางขวามือของอ่างน้ำ หน้าสมเด็จองค์ปฐมฯ เสาใหญ่สูงเราเชื่อว่าเป็นที่สิงสถิตของวิญญาณเจ้าถ้ำ มีผ้าแพรสีต่าง ๆ ผูกอยู่ตามแต่จะมีผู้เอามาถวาย มากบ้างน้อยบ้าง ใครจะบน จะบ่นอะไรก็ตามสบายนะ

    ทีนี้เราหันหลังชนเสาถ้ำ ให้มือข้างขวาเราอยู่ทางอ่างน้ำ มองขึ้นระดับบนเยื้องไปทางขวานิด ๆ จะมีหินงอกก้อนหนึ่งมีลักษณะคล้ายหลวงปู่พระสังกัจจายน์ เมื่ออดีตที่ผ่านมายังไม่ได้มาอยู่ประจำ หลวงพ่ออยู่ที่คูหาขวามือของพวกเรา ซึ่งปัจจุบันมีรูปหล่อเหมือน ๓ ครูบาพระสุปฏิปันโนของอำเภอลี้มาประดิษฐานอยู่ (ที่พวกเราจะเข้าไปชมอันดับต่อไป) หลวงพ่อมาอยู่ ณ ที่นั้น กลางคืนฝันว่ามีพระธุดงค์ในชุดสีกรักได้เข้ามาหา ๒ องค์ มายืนอยู่ใกล้ ๆ เสาถ้ำ ท่านชี้มือให้ดูหินงอกก้อนนั้นแล้วบอกว่า “อาจารย์สิงห์ องค์หลวงปู่สังกัจจายน์อยู่ที่นี่นะ ต้องการอะไรก็จุดธูปเทียนอธิษฐานขอเถิด จะได้ทุก ๆ อย่างตามปรารถนา” พอท่านพูดจบ หินก้อนนั้นก็ขยับดิ้น ๆ ขึ้นมา จะกลับกลายเป็นร่างพระสงฆ์ แต่ยังไม่ทันจะเต็มองค์ หลวงพ่อก็เลยตื่นเสียก่อน เลยอดไม่ได้เห็นองค์หลวงปู่เต็มองค์เลย หลวงพ่อก็อธิษฐานขอเหมือนกัน ขอให้โชคดีพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏสงสาร ขอได้เข้าสู่พระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้ด้วยเถิด

    วันต่อมามีคนชราเข้ามาเที่ยวหา จึงบอกความฝันให้ฟัง ให้ธูปให้เทียนไปจุดอธิษฐานเอาตามอัธยาศัย พอเขาเสร็จพิธีแล้วเรียกมาถามว่าคุณตา ๆ อธิษฐานขออะไรบ้าง คุณตาบอกว่า ผมขอถูกหวยรางวัลที่ ๑ หัวเราะถามว่า คุณตาแก่ขนาดนี้แล้วยังต้องการรางวัลที่ ๑ อยู่หรือ ตอบ “ต้อง การมาก ยิ่งแก่ยิ่งมีความจำเป็น เราไม่มีกำลังจะไปหาเงินได้ อาศัยพวกลูก ๆ หลาน ๆ มันก็ชักหน้าไม่ถึงหลังกันทั้งนั้น อาศัยอาหารเขากินไปเป็นวัน ๆ เท่านั้น” เอ้อ หลวงพ่อก็นึกว่าคุณตาจะอธิษฐานขอให้ร่างกายแข็งแรง โรคน้อย ถ้าตายก็ขอให้ได้ไปสวรรค์นะ ขณะ ที่เล่านี้ คุณตาทั้งสองได้ตายไปแล้ว แต่ไม่มีคุณตาคนไหนถูกรางวัลที่ ๑ ตามอธิษฐานไว้ ถ้าท่านผู้ใดอธิษฐานแล้วไม่สมประสงค์ก็อย่ามาถอนหงอกหลวงพ่อเลยนะ กลัวเจ็บนะ!

    พวกเราทั้งหลายต่อไปนี้ขวาหัน ข้างขวามือเราอ่างรับน้ำตกบนภูเขาแก้ว สมเด็จองค์ปฐมบรมศาสดา มองตรงไปข้างหน้ามีกำแพง เป็นกำแพงโปร่งมองเห็นอนุสาวรีย์หุ่นทองเหลืองรูปเหมือนครูบาเจ้าขาวปี ครูบาเจ้าศรีวิชัยและครูบาเจ้าชัยยะวงศาประดิษฐานตั้งอยู่ ซึ่งครูบาเจ้าชัยยะวงศาได้เข้ามาแนะนำเองว่า รูป ๓ ครูบาแห่งอำเภอลี้ให้สร้างไว้ตรงนี้นะ

    เมื่อเดินเข้าประตูกำแพงเข้ามาแล้ว ขวามือเราจะมีพระพุทธรูปใหญ่เล็กอยู่หลายองค์ องค์พระพุทธรูปที่อยู่ตรงกลางองค์ไม่ใหญ่ตั้งอยู่บนสุด เป็นพระพุทธรูปทันใจ มีมาก่อนหลวงพ่อจะมาอยู่

    องค์พระพุทธรูปทันใจนั้น เป็นองค์พระพุทธรูปที่จะต้องสร้างให้เสร็จภายในวันเดียว มีคำไหว้โดยเฉพาะ ว่ากันมาว่าไหว้บูชาอธิษฐานขออะไรจะได้โดยฉับพลัน จึงมีพุทธบริษัทภาคเหนือชอบสร้างกันไว้ ณ วัดต่าง ๆ เช่น วัดเจดีย์หลวง วัดดอยสุเทพฯ เป็นต้น องค์ใหญ่ซ้ายมือของพวกเรา เป็นองค์พระพุทธรูปธรรมดา

    ทางขวามือของเรา เป็นองค์พระปัจเจกพระพุทธเจ้า ซึ่งเป็นเจ้าของพระคาถาพระปัจเจกพระพุทธเจ้า และพระคาถาเงินล้านที่องค์หลวงปู่ปาน องค์หลวงพ่อวัดท่าซุงและพวกเราใช้กันอยู่ เอ้าเข้าไปกราบพระกันก่อนนะ

    รูปครูบาอาจารย์ที่อยู่หน้าองค์พระพุทธรูป ก็มีรูปหล่อทองเหลืองขององค์หลวงปู่สังกัจจายน์ องค์หลวงปู่ทวด องค์สมเด็จโต องค์หลวงปู่เขียน องค์หลวงปู่ปาน องค์หลวงพ่อพระราชพรหมยาน ใครได้นำเอาดอกไม้ธูปเทียนมาบ้างละ เอามาจุดกันสิ จุดแล้วก็ตั้งใจกราบพระไหว้พระกันก่อนนะ เสร็จแล้วเราก็ว่า นะโมฯ ๓ จบ แล้วว่าคำไหว้องค์หลวงพ่อทันใจตามหลวงพ่อนะ หลวงพ่อจะว่านำให้
    ตะมะหัง ขิปปะจิตตะพุทธัง อะภิปูชะยามิ(คำว่า “มิ” ถ้าหลายคนว่าให้เปลี่ยนเป็น “มะ”)

    ตะมะหัง ขิปปะจิตตะพุทธัง เม สิระสา อะภิปูชะยามิ ขิปปะจิตตังพุทธานุภาเวนะ สะทา โสตถิ ภะวะตุ เม
    (หลายคนเปลี่ยน “เม” เป็น “โน”, “ภวตุ” เปลี่ยนเป็น “ภวันตุ”)

    ด้วยอานิสงส์ที่ได้มาน้อมนมัสการสักการะองค์พระพุทธรูปเจ้าทันใจนี้ นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ขอให้ข้าพเจ้าปลอดภัยจากอันตรายทั้งปวงในกาลทุกเมื่อ ขอให้ข้าพเจ้ามีลาภมาก มียศใหญ่โดยฉับพลันทันใจด้วยเถิด สาธุ สาธุ ๆ ๆ

    ถ้าต้องการไหว้องค์หลวงปู่สังกัจจายน์ต่อ ก็พากันมาอยู่ตรงหน้าองค์ท่านนี้นะ
    มากราบ ๓ ครั้ง ว่านะโมฯ ๓ จบ
    กะจะยะนะจะเถระสะปัญญา ตะถาภวันตุเมฯ
    ขอให้ข้าพเจ้ามีปัญญาเหมือนองค์หลวงปู่สังกัจจายน์นั้นด้วยเถิด

    ข้าพเจ้าขอฝากดวงจิตไว้กับองค์หลวงปู่ ขอให้มีลาภมากเหมือนองค์หลวงปู่สังกัจจายน์นั้นด้วยเถิดฯ

    เมื่อพวกเราไหว้พระขอพรพระมามากแห่งแล้ว หลวงพ่อก็รู้สึกเหนื่อยมากนะ จะพาเดินต่อก็ชักจะล้า ๆ แล้ว ก็ขอนั่งตรงนี้แนะนำต่อก็แล้วกันนะ ใครอยากจะเที่ยวต่อก็เชิญนะ

    พวกเราหันหน้าเข้าหาพระประธาน ซ้ายมือของพวกเราอยู่ระดับสูงขึ้นไป จะมีห้องเจริญพระกรรมฐานกว้าง จุคนได้ประมาณ ๓๐-๔๐ คน มีพระพุทธรูปปางนาคปรกเป็นประธาน ปูด้วยกระเบื้องโมเสก ด้านหน้ามีมุ้งลวดกันแมลงด้วย มีประตูปิดเปิดได้ เหมาะแก่การบำเพ็ญภาวนามีชื่อว่า ถ้ำเจ้าคุณ คณะศิษย์องค์หลวงปู่ปานคลองด่านสร้างถวายองค์หลวงพ่อ มีบันไดคอนกรีตเสริมเหล็กแข็งแรงถาวร ด้านซ้ายมือระดับพื้นถ้ำ เดินเข้าไปทางซอกข้างองค์พระประธานมี ๒ คูหา คูหาซ้ายมือเป็นคูหาเทพารักษ์ ถ้าผู้ใดเป็นคนไม่ค่อยดีเข้าไปนอนจะถูกไล่

    คูหาขวามือเป็นคูหาบ่อน้ำมนต์ เมื่อสมัยก่อนมีน้ำแต่ปัจจุบันน้ำแห้งหาย สงสารคนเคยใช้ ก็ให้เขาตักน้ำมาใส่ไว้ให้ แต่มีนักวิทยาศาสตร์สมัยใหม่พวกนักทัศนาจร ศึกษานิเทศน์อะไรนี้แหละ เขาอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้ เขามานินทาให้ได้ยินว่าเป็นการหลอกลวง มีหน้าม้าคอยอ้างสรรพคุณเพื่อให้คนหลง เป็นการหาเงินทั้ง ๆ ที่เราก็ยังไม่เคยขายเลย ตั้งแต่นั้นมา หลวงพ่อไม่เคยเอาน้ำใส่ไว้เลยเรื่องบ่อน้ำมนต์ก็เลยค่อย ๆ เงียบไป

    แต่มีบางท่านมาอธิษฐานเอาน้ำตกจากเพดานถ้ำไปใช้ได้ผลเป็นที่น่าพอใจบ้างก็มี เช่น คุณวิรัตน์ คุ้มวัน เจ้าของรถทัวร์ได้พากันมาเที่ยวชมถ้ำ มีตุ่มขึ้นอยู่ที่บริเวณใบหน้ามานานแล้วรักษาไม่หาย ได้อธิษฐานเอาน้ำในถ้ำล้างหน้า ถ้าหายจะเอาผ้าป่ามาฝาก พอหายก็นำผ้าป่ามาทอดให้ เลยขอเจิมรถให้ เจิมแล้วรายรับดีขึ้น ซื้อรถอีกคันก็เอามาขอเจิมอีก ก็เลยได้รู้จักกันเพราะน้ำในถ้ำ

    ทีนี้ถ้าเราออกจากจุดนี้ไป ออกประตูกำแพงแล้วเลี้ยวขวา ข้างขวาจะมีชะง่อนโพรงถ้ำขึ้นไป ทางหลังองค์พระประธาน จะมีรูปนก รูปแม่นางธรณี รูปปลาอ้าปาก เป็นต้น ตามแต่จะจินตนาการเอาจากลักษณะของผนังถ้ำ พื้นถ้ำหินงอกหินย้อยต่าง ๆ

    กลับลงมาทางเดิมแล้วเลี้ยวซ้ายนิดหน่อย เดินเข้าไปจะมีผนังกั้น แต่มีโพรงทะลุเข้าออกได้ ทะลุโพรงออกไปตรงหน้า จะมีพระพุทธรูปปางไสยาสน์ ๑ องค์ ซ้ายมือมีทางลาดต่ำลงไปนิดหน่อย ซ้ายจะมีกำแพง ภายในกำแพงมีพระพุทธรูปหน้าตัก ๔ ศอกคืบ ๒ องค์ ขวามือมีเสาหลักเมืองตั้งอยู่หนึ่งชุด เดินเข้าไปจะมีรูปหล่อท่านปู่ฤๅษี ๒ องค์

    ที่มาที่ไปมีอยู่ว่า มีคุณแม่ชีเกษร วรชน และแม่ชีพัชรี นิลทองคำ เป็นต้น จากวัดมหาธาตุราชบุรี มาทอดผ้าป่า กฐิน กลางคืนฝันว่า มีพระฤๅษีมาหาบอกว่า ที่ท่านอาจารย์สิงห์คิดจะสร้างอนุสาวรีย์องค์เจ้าแม่จามเทวีไว้ ณ ในถ้ำนั้น ความจริงก็สร้างได้ แต่ยังไม่สมควร สมควรสร้างพระฤๅษีก่อน เพราะพระฤๅษีได้มาอยู่ ณ ที่ถ้ำนี้มาก่อนที่พระนางเจ้าจามเทวีจะมา รุ่งเช้าเขาเล่าความฝันให้ฟังแล้วก็บอกว่า ฝันนั้นเป็นฝันที่แปลกมากเหมือนไม่ใช่ฝัน คือ เห็นชัดเจนและจำได้ติดหูติดตา คุณแม่ชีเลยอธิษฐานกันเองว่า ถ้าฝันนั้นเป็นความจริงกลับไปนี้ขอให้ถูกหวยก็แล้วกันนะ จะหล่อรูปพระฤๅษีมาให้

    เมื่อกลับไปก็ถูกหวยกันนิดหน่อยพอจะสร้างได้ ก็เลยมาอีก จึงพากันไปขอแบบจากองค์หลวงปู่ครูบาชัยวงศาพัฒนา วัดพระพุทธบาทห้วยต้มกัน องค์หลวงปู่ก็นั่งแสดงท่าให้ ก็ไปบอกช่างให้หล่อตามแบบท่าที่ท่านนั่งนั้น ก็แพงกว่ารูปหล่อพระฤๅษีองค์อื่น ๆ เพราะช่างต้องปั้นแบบใหม่ ส่วนอีกองค์หนึ่งเขาสร้างถวายแถมมา องค์นี้ไม่แพงราคา ๕๐,๐๐๐ บาทเท่านั้น ก็เลยได้รูปองค์ปู่ฤๅษีทั้งสองมาประดิษฐานไว้ ณ ท้องถ้ำแห่งนี้ ตามที่ท่านทั้งหลายได้มารู้มาเห็นนี้

    หลังจากนมัสการขอพรท่านปู่ฤๅษีแล้ว ก็ขอให้ท่านทั้งหลายเดินกลับมาถึงพระนอน ขวามือทางกลับ ตรงไปข้างหน้า ลาดต่ำลงไป ณ ที่ลานแห่งนี้ จะมีพระพุทธรูปปางนาคปรก หน้าตัก ๔ ศอกคืบอยู่ ๑ องค์ ภายในจะบรรจุเส้นพระเจ้า (พระเกศา) ขององค์ “ในหลวง” อยู่เส้นหนึ่ง ได้มาโดยผู้รับใช้เก็บได้จากที่บรรทมของพระองค์ แล้วได้มอบให้เพื่อน เพื่อนได้มาบวชอยู่ที่วัดท่าซุง และนำมาถวายหลวงพ่อ ถือว่าเป็นของล้ำค่าที่สุด กลัวจะหายจึงสร้างพระนาคปรกเป็นที่เก็บไว้ นอกจากนั้นพระพุทธรูปทุก ๆ องค์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ทั้งหมด ถ้ำนี้จึงถือว่าเป็นถ้ำที่ศักดิ์สิทธิ์มากอีกถ้ำหนึ่งของชาวพุทธเราทั้งหลาย

    ขวามือของพวกเรา ที่อยู่หน้าองค์พระนาคปรก ลาดต่ำลงไปอีกนิด ก็จะมีประตูเข้าไปสู่คูหาอีกคูหาหนึ่ง คูหานี้จะมีพระพุทธรูปยืนอยู่ ๓ พระองค์ ซ้ายมือของพวกเรา ขวามือขององค์พระนาคปรก จะมีทางสูงขึ้นไปหน่อย จะมีคูหาอีกคูหาหนึ่งจะมี พระพุทธรูปหน้าตัก ๔ ศอกอยู่อีกสองพระองค์

    ตรงทางขึ้น จะมีทางแยกซ้ายอยู่หนึ่งเส้น เป็นทางเข้าคูหาต่างระดับที่ต่ำลงไป ในคูหานั้นจะไม่มีพระพุทธรูป แต่จะมีหินงอกอยู่ในคูหานั้น มีรูปร่างคล้ายบาตรคว่ำแต่ข้างบนมีรู พอที่จะเอานิ้วมือแหย่เข้าไปได้ ณ จุดนั้น เป็นที่ให้ทานของบุคคลทั้งหลาย เป็นทานสาธารณะไม่ได้เจาะจงถวายสงฆ์ ใครไปล้วงได้ ก็เชิญเอาไปได้เลย คูหานี้เรียกว่า “ถ้ำออมสิน” ปรับปรุงนิดหน่อยพอเข้าออกได้สะดวก แต่ยังไม่ได้สร้างบันได ใครต้องการสร้างบันไดให้เป็นทานก็มาแสดงความจำนงกับหลวงพ่อได้นะ
     
  15. deelek

    deelek เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    6,696
    ค่าพลัง:
    +16,254
    [​IMG]
    โมทนาสาธุ ๆ
    กับทุกท่านที่ได้ร่วมกัน
    ทำบุญสร้างพระอุโบสถและ
    สร้างบุญกุศลทุกอย่างไว้
    ที่วัดแห่งนี้ด้วยครับ
    นิพพานังปัจจโย โหตุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 มกราคม 2012
  16. gitti

    gitti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    393
    ค่าพลัง:
    +1,035
    (ต่อจากเมื่อวานจ้า)
    นอกจากนี้ก็ยังมีอีก ๓ คูหา ที่ยังไม่ได้เปิดไม่ได้พัฒนา เพราะกลัวว่าจะเป็นอันตรายต่อผู้มาท่องเที่ยว เนื่องจากดูแลไม่ทั่วถึง เป็นมุมลี้ลับไม่สะดวกต่อการให้ความปลอดภัย เมื่อได้ทราบตามคำชี้แจงแล้ว ทุกท่านก็ไปเที่ยวชมกันเองเถอะนะ หลวงตาจะอยู่ตรงนี้คอย ทุกท่านค่อย ๆ เดินกันนะ บันไดก็ไม่มี ราวก็ไม่มี ผู้ที่รู้ตัวว่าร่างกายไม่ค่อยจะไหว ก็อยู่คุยกับหลวงพ่อหลวงตาที่นี่ คอยลูกคอยหลานก็แล้วกัน แต่ถ้าจะไปรู้ไปเห็น ก็ขอเด็กประคองหรือใช้ไม้เท้าไปด้วยก็ดีนะ

    ถ้ำป่าไผ่แห่งนี้ เป็นถ้ำที่มีอากาศถ่ายเทตลอดเวลา จึงมีความเย็นสบายตลอดปี เดือน วัน ไม่อึดอัดเพราะมีปล่องอยู่ข้างบนหลายปล่อง ลมพัดผ่านภายในได้ ขอทุกท่านที่มาเที่ยวชมได้โปรดให้ความสงเคราะห์ไม่มาทำลายอากาศในถ้ำให้เป็น พิษเป็นภัยไปตลอดโดยการไม่สูบบุหรี่ในถ้ำ ไม่นำอาหารทุกชนิดเข้ามากินในถ้ำ ไม่นำสุรา ยาฝาน ยาบ้า สิ่งเสพติดอื่น ๆ มาแอบกินแอบเสพกันในถ้ำ และไม่มากอดจูบลูบคลำเสพสังวาสกันในถ้ำ

    นอกจากนั้น ก็ขอให้รักษากิริยามารยาท อย่าส่งเสียงดัง อย่าพูดแขวะคนอื่น ให้เกรงใจซึ่งกันและกัน ช่วยตักเตือนคนต่างชาติต่างศาสนา ให้เคารพสถานที่อันเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของพวกเรา จะเข้าสู่สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ก็ต้องถอดรองเท้า ไม่ขึ้นแท่นพระ ไม่ขึ้นองค์พระ อย่ายอมให้พวกเขาเข้ามาย่ำยีดวงใจของเรานะ เขาเตะเรายังไม่เจ็บเท่าเขามาลบหลู่ชาติศาสนา องค์พระมหากษัตริย์ของพวกเรา

    พวกลูกหลานทั้งหลายก็จงอย่ากระดี๊กระด๊าอยากเป็นฝรั่ง มีแฟนฝรั่งได้ แต่อย่าให้เขามาทำลายวัฒนธรรมประเพณีของเรา ถ้าเราไม่มีความกตัญญูต่อสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์แล้ว ต่อไปเราจะไม่มีแผ่นดินอยู่ และกรุณาอย่าทิ้งขยะ ห่อขนม เศษกระดาษ เป็นต้น ในถ้ำทุกแห่ง ออกซิเจนมีน้อย คนเป็นโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ ปอด เป็นหวัด ไอ เป็นโรคหัวใจไม่สมควรเข้าถ้ำ ก็ขอเมตตาจิตต่อทุก ๆ คนปฏิบัติตามนี้ด้วยนะ ติติงกันไว้ก่อนดีนะ

    ณ ที่ถ้ำแห่งนี้ คุณณรงค์ อารีวงษ์ อยู่ที่ท่ารถ บ.ข.ส. มหาชัย จังหวัดสมุทรสาคร ได้มาบนให้ได้ขายที่ดิน เมื่อขายได้แล้วก็นำเงินมาถวายให้ทางวัดหนึ่งล้านบาท แล้วก็ได้ช่วยเหลือทางวัดมาตลอด ขออนุโมทนาเป็นอย่างสูง ซึ่งเงินส่วนนี้ได้ใช้เป็นทุนเริ่มต้นในการสร้างพระอุโบสถ

    สุดท้ายนี้หลวงพ่อ หลวงตาองค์นี้ ขอตั้งจิตอธิษฐานอาราธนาคุณพระ คุณเทพ คุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่อยู่ที่นี่ก็ดีและที่อื่นก็ดี จงดลบันดาลประทานพรให้ท่านทั้งหลาย จงปลอดภัยจากอันตรายทั้งปวง ประสบแต่ความสุขสวัสดิ์พิพัฒนมงคล สมบูรณ์พูลผลไปตลอด ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพานทุกถ้วนหน้าเทอญ

    ขอเจริญพร
    พระอาจารย์มหาสิงห์ วิสุทฺโธ
    เจ้าอาวาสสำนักสงฆ์ถ้ำป่าไผ่
    มกราคม ๒๕๔๗

    -----------------------------------------------------------------------------------

    คำสอน...พระมหาสิงห์ วิสุทฺโธ

    ก็ไม่มีคุณค่าเท่าคำสอนของพระบรมศาสดาฯ
    พระมหาสิงห์ วิสุทฺโธ

    หินงอกงา เงื้อมง้ำ งะงามงอน
    งามเฉิดฉาย ดุจสวรรค์ ประทานมา
    เป็นแพรพราง โพรงพริก พิศพริ้งพราย
    ผู้ประพันธ์

    ------------------------------------------------------------------------ (จบ) ------------------------------------------------------------------
    ที่มา เว็บวัดท่าขนุน พลังจิต เว็บ พระพุทธศาสนา ธรรมะ พระไตรปิฎก ลึกลับ อภิญญา วิทยาศาสตร์ทางจิต Buddhism Buddhist โพสต์โดย น้อง ตัวเล็ก (น้องฝู)
     
  17. malaikajorn

    malaikajorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    174
    ค่าพลัง:
    +964
    ได้โอนเงินทำบุญจำนวน 3,750 บาทแล้วค่ะ เมื่อวานนี้

    ดังหลักฐานที่แปะไว้นะคะ

    ขอโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยค่ะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  18. Orostosapol

    Orostosapol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    178
    ค่าพลัง:
    +588
    ขออนุโมทนาอย่างยิ่ง กับทุก ๆ ท่านอีกครั้งครับ
    ขณะนี้ผมก็กลับมาจากงานที่วัดท่าซุงแล้ว ก็จะเริ่มทำงานต่อไปนะครับ เดี๋ยววันนี้เย็น ๆ หรือพรุ่งนี้เช้า จะมาอัพเดทตารางล่าสุดและยอดเงินในการโอนเข้าบัญชีธนาคาร กรุงเทพ ให้ทุกท่านได้รับทราบนะครับ
    จึงขอเชิญร่วมทำบุญและร่วมอนุโมทนาบุญกันต่อเนื่องต่อไปได้แล้วครับ _/|\_
     
  19. peerakul

    peerakul เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    9,428
    ค่าพลัง:
    +33,493
    ร่วมบุญสร้างโบสถ์วัดพระพุทธบาทถ้ำป่าไผ่ จำนวน 200 บาท (ไม่ขอรับวัตถุมงคล)

    โอนแล้ววันที่ 30 ม.ค. 55 เวลา 17.10 น.

    อนุโมทนา สาธุ
     
  20. Orostosapol

    Orostosapol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    178
    ค่าพลัง:
    +588
    อนุโมทนาด้วยครับ วันนี้ไปอัพเดทสมุดบัญชีตอน ๑๖.๐๐ น. ไว้พรุ่งนี้จะไปอัพเดทอีกครั้งครับ ^^
     

แชร์หน้านี้

Loading...