เบื่อทางโลกเหลือเกินแล้วครับ อยากบวช

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย มรรคโกวิโท, 4 กุมภาพันธ์ 2012.

  1. เลขโนนสูง

    เลขโนนสูง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กันยายน 2010
    โพสต์:
    360
    ค่าพลัง:
    +825

    อืม...สงบอยู่ภายใน แม้ภายนอกจะวุ้นวายแค่ใหนก็ไม่ช่ายเรื่องใหญ่
    ภายในฟุ้งซ่านกระวนกระวาย ต่อให้ภายนอกเงียบสงบสักปานใดก็ทนอยู่ไม่ได้
    สูงมีต่ำ ดำมีขาว บวชหรือไม่บวช สงบเป็น ก็สุขกายสะบายใจเช่นนั้น
     
  2. paetrix

    paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,480
    ค่าพลัง:
    +1,880
    ........... ธรรมมะมีไว้สำหรับคนทุกสถานะ...เพราะธรรมที่เป็นพุทธ คือ ผู้รู้ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน....ทำไมถึงคิดว่าคุณ จะ รู้ ตื่น เบิกบาน ตอนนี้ ไม่ได้? ต้อง ลอง:cool:
     
  3. มรรคโกวิโท

    มรรคโกวิโท สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    57
    ค่าพลัง:
    +8
    วางอุเบกขาแล้วออกมาพิจารณาใช่ไหมคับ สุดยอดไปเลยครับ อนุโมทนาสาธุครับ
     
  4. มรรคโกวิโท

    มรรคโกวิโท สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    57
    ค่าพลัง:
    +8
    555555 ได้เขาไปแล้วเลยจำเป็นต้องติดบ่วงไปทั้งชีวิตเลยนะครับ แหล่มไปเลย
     
  5. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,055
    ค่าพลัง:
    +3,471
    สังเกตุดีๆนะครับ เวลาเราเรียนธรรมะ ส่วนใหญ่ จะใช้วิธี เอา ภพ หรือ วิภพ
    เป็นตัวเหตุปัจจัยแสวงหาการหลุดจากภพ

    อะไรแบบนี้ เรียนเท่าไหร่ ก็ไม่พ้นครับ มันจะยิ่ง สร้างภพ เพื่ออยู่เพื่อเป็น
    หรือ ปฏิเสธ ภพ เพื่อยู่เพื่อเป็น ซึ่ง เป็นเรื่องของการ ศึกษาธรรมะไม่เข้า
    ใจทั้งคู่

    ถ้าศึกษาธรรมะให้เข้าใจก่อนเนี่ยะ ให้วางหลักไว้แม่นๆว่า เราจะไม่เอา
    ภพ หรือ วิภพ เป็นเครื่องมือโง่ๆในการ พ้นภพ เด็ดขาด

    ย้ำอีกทีนะครับว่า เด็ดขาด

    ย้ำอีกเป็นคำรบสองว่า หัวเด็ดตีนขาด

    ย้ำอีกเป็นครั้งที่สามว่า แขนขาดขาขาด

    พอย้ำเป็นที่ "เข้าใจ" แล้ว ลองทบทวนใหม่ว่า กำลังทำอะไรอยู่

    อย่าถามเชียวนะครับว่า แล้วจะให้ทำอย่างไร เพราะผมก็ตอบว่า
    ทำอย่างเดิมนั่นแหละ แต่ทำความ "เข้าใจ" เรื่อง ภพ และ วิภพ
    ที่คุณเอามาแสวงหาการหลุดพ้นไปด้วย

    แล้วจะได้อะไร ฮะเอ่อ อันนี้ ต้องปฏิบัติให้ได้ตามนั้นก่อน แล้วคำตอบ
    มันลอยอยู่ตรงหน้าๆ แต่ทว่า เห็นยาก สักหน่อย

    ซึ่งก็จะไม่พ้น ค่อยๆทำกันไป ทำเรื่อยๆ ทำเนืองๆ อย่าขี้เกียจ(คือ
    ไปคว้าเรื่อง ภพ กับ วิภพ มาแก้แหอีก)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กุมภาพันธ์ 2012
  6. มรรคโกวิโท

    มรรคโกวิโท สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    57
    ค่าพลัง:
    +8
    ไม่ใช่บวชหรือไม่บวช ไม่ใช่เป็นพระหรือไม่เป็นพระครับ แต่ไม่เห็นประโยชน์ในเพศฆารวาศเลยครับ
     
  7. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,055
    ค่าพลัง:
    +3,471
    มาลองพิจารณากัน

    การมีครอบครัว ก็ถือว่า เป็นภพ
    การปรารภว่าไม่อยากครอบครองครอบครัวแล้ว ก็เป็น วิภพ

    พอเอา วิภพ มาแก้ ก็ต้องมีอย่างอื่นมารองรับ ก็เลย เหมาเอาว่า บวช คือ ภพ
    ที่จะมารองรับ

    ก็จะเห็นได้ว่า การแก้ไขการหลุดพ้น ด้วย ภพ กับ วิภพ มันก็มีแต่ จะพาไปติด ภพ
    หรือไม่ก็ติด วิภพ อีก เช่น บวชแล้วก็สำคัญว่า จิตตนอยู่เหนือกว่าผ้าเหลือง ไม่ติด
    แม้ใน ผ้าเหลือง หมดงานต้องศึกษา แต่ก็ไม่ถอด ผ้าเหลือง

    แล้วจะได้อะไร ในเมื่อทำอะไร ก็ติดเป็น ภพ ไปหมด

    ก็ย้ำนะว่า เราไม่ได้มุ่ง เอา ภพ หรือ วิภพ มาแก้ การหลุดพ้น แต่เรามา
    ศึกษาให้เข้าใจ สิ่งเหล่านี้ต่างหาก เข้าใจอย่างไร เข้าใจในเบื้องต้นว่า

    เป็นเพราะ ไม่สำรวมอินทรีย์ จึงทำให้มี ภพ ที่ชื่อ ครอบครัว

    เพราะ ไม่สำรวมอินทรีย์ จึงทำให้ ปรารภการทิ้งครอบครัว

    เพราะ ไม่สำรวมอินทรีย์ จึงทำให้ ถอดผ้าเก่าใส่ผ้าใหม่ ยังกับเปลี่ยน ภรรยา
    คือ ถอดชุดคราวาส ไปใส่ชุดพระ อ้างอย่างหน้าด้านๆ ว่า ไม่เห็นประโยชน์
    จากชุดฆารวาสเลย เบื่อแบบโง่ๆ คือ เบื่อสิ่งหนึ่งไปคว้าเอาสิ่งหนึ่ง ซึ่งจะ
    ต่างจากเบื่อใน "รูปนาม" ทั้งหมด ไม่เลือก ( อันนี้ถึงจะถูกต้อง ) และรูปนาม
    ต่างหากที่เรียกว่า โลก

    ก็จะเห็นว่า ภพ หรือ วิภพ เหตุมาจาก การไม่สำรวมอินทรีย์ของตน

    คนฉลาดเมื่อเห็นว่า เหตุมาจากตนไม่สำรวมอินทรีย์ จะโทษ หรือ อ้าง
    ในปัจจัยรอบข้างอีกไหม ก็ถ้าไม่เข้าใจ ก็อาจจะโทษเมีย โทษลูก โทษ
    วัด ที่ล้วนปรากฏเป็นสิ่งร้อยรัด

    แต่ถ้าเข้าใจชัดว่า เหตุมาจากตนไม่สำรวมอินทรีย์ อ้าว แล้วจะทำอย่างไร
    ต่อไป ถึงจะพ้นการเอา ภพ/วิภพ มา แสวงหาการ หลุดพ้น

    อินทรีย์มันแปรปรวน ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ที่ต้องกำหนดรู้ แล้วจะได้อะไร สำรวม
    อินทรีย์แล้วได้อะไร ฮะเอ่อ ก็ต้อง จั่วอย่างเดิมว่า ปฏิบัติให้เข้าใจเสียก่อน
    แล้วคำตอบมันจะลอยอยู่ตรงหน้าๆ แต่ทว่า เห็นยาก สักหน่อย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กุมภาพันธ์ 2012
  8. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,927
    ค่าพลัง:
    +9,209
    ควรจะพูดว่า มีลูกกับ ภรรยา ที่เรามีความสุขที่ได้ดูแลเขา เพราะตอนอยากมีเมีย เราไม่ได้บอกว่า ต้องดูแล มีแต่บอกว่าขอให้ผมได้ดูแลคุณ

    และควรจะพูดว่า บริษัท มีบริวารมากมายที่พร้อมจะทำงานให้กับเรา ไม่ควรบอกว่า มีลูกน้องอีรุงตุงนัง

    เราก่อขึ้นมาเองทั้งหมด ความเบื่อมันเกิดจากการที่เราสับสนและเหนื่อย พักสมอง พักกาย พักใจ เดี๋ยวหายเหนื่อยกายเหนื่อยใจ เรื่องใหญ่ๆก็กลายเป็นเล็ก เพราะธรรมชาติของใจนี้กว้างขวาง มีกำลังมาก แต่พอโดน นิวรณื กิเลส ปกคลุม มันก็หมดแรง ไม่มีทางออกให้กับใจ

    อย่าไปมองว่า ความเหนื่อยอยู่ที่ ลูกเมีย บริวาร ความเหนื่อยอยู่ที่ใจเรา เหนื่อยมากเบื่อมาก ก็พักสิ รู้จักพักให้เป็น แล้วเริ่มใหม่
    เอาเป็นว่า บวชทางใจให้ได้ก่อน ทั้งๆที่ยังต้องรับผิดชอบสิ่งต่างๆนี่แหละ บวชได้ที่ใจ


    ถ้าอะไรๆ ไม่ได้ดังใจแล้วทำให้เราเหนื่อย เราก็ต้องอดทน ทำใจเราให้ดี แทนที่เราจะตัด เราจะเปลี่ยนเป็นปรับปรุง แก้ไข แทนการตัดทิ้ง
     
  9. nantiya.j

    nantiya.j เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    860
    ค่าพลัง:
    +8,550
    "คนมีครอบครัวแล้ว ต้องรักษาสัจจะ อย่างยิ่งครับ หัวหน้าครอบครัวทุกคน"

    เยี่ยมเลยค่ะ เยี่ยม
     
  10. มรรคโกวิโท

    มรรคโกวิโท สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    57
    ค่าพลัง:
    +8
    แร้งค์......ครับ แต่ก็ถูกเลยทีเดียวครับขอบคุณครับที่เตือนสติ อนุโมทนาสาธุครับ ขอบคุณมากครับ
     
  11. มรรคโกวิโท

    มรรคโกวิโท สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    57
    ค่าพลัง:
    +8
    งดงามครับ เป็นกำลังใจที่ดีเยี่ยมที่สุด ตรงตัวโดนใจ เกาถูกจุดคันผมเลยครับ ขอบคุณมากครับ อนุโมทนาบุญนะครับ สาธุ สาธุ
     
  12. kengjingjung

    kengjingjung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    1,366
    ค่าพลัง:
    +1,494
    ยอดเยี่ยมเลยครับ :cool::cool::cool:
    บวชแบบกายและใจไม่พร้อมเดี๋ยวมัวหมองเปล่าๆ
     
  13. Norlnorrakuln

    Norlnorrakuln เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    3,816
    ค่าพลัง:
    +15,099
    เบื่อทางโลกเหลือเกินแล้วครับ อยากบวช

    การบวชนี้ดีแน่ !

    แต่บวชเข้ามาแล้ว แย่หรือเจริญ อยู่ที่ตัวคุณเอง !

    บางท่านบวชมาแล้ว ประพฤติตนไม่เหมาะสม ไม่สามารถทำกิจในพระศาสนาให้บริบูรณ์ได้
    การบวชลักษณะนี้ ก็เป็นของไม่มีผลมาก ไม่มีอานิสงฆ์มาก รังแต่จะก่อให้เกิดโทษ ทั้งตนเอง และคนที่อยู่เบื่องหลัง...

    บางท่านบวชมาแล้ว ประพฤติตนเหมาะสม เป็นผู้มีศีล เป็นผู้เจริญสมาธิ เป็นผู้เจริญปัญญา ถึงแม้จะเป็นเพียงชั่วคราว ๗ วัน ๑๕ วัน ก็ได้ชื่อว่าเป็นญาติในพระศาสนา สามารถทำที่พึ่งให้กับตนเอง และผู้อื่นได้ตามวาสนาบารมีของตน...ถึงแม้ภายหลังจะสึกหาลาเพศออกไป ก็เชื่อแน่ว่าจะเป็นพลเมืองที่ดีของประเทศชาติ เป็นพุทธมามกะที่ดีของพระศาสนา เป็นผู้นำครอบครัวที่มีธรรมค้ำจิตใจ...

    ทุกคนมีภาระเป็นของตนเอง แต่จะมีซักกี่คนวางภาระในการแบกขันธ์ของตนเองและผู้อื่น ลงได้อย่างสนิทใจจริงๆ อย่างผู้มีปัญญา ...ถึงแม้จะเป็นเพียงชั่วคราว เขาย่อมทราบดีถึงความต่าง ความเบา ในระหว่างที่ตนแบกภาระอันหนักมาโดยตลอดระยะเวลาอันยาวนาน จะมีซักกี่ครั้งที่เราได้มีโอกาส บวชเข้ามาในบวรพุทธศาสนา...นั้นแค่เพียงซักครั้งเดียวก็แสนยาก มิใช่หรือ?...ด้วยเหตุนี้กระมัง พระราชามหากษัติรย์ในครั้งพุทธกาล เมื่อบรรลุธรรมแล้ว จึงมักเปล่งอุทานออกมาว่า "สุขจริงหนอ สุขจริงหนอ"...นั้นแสดงว่าภาระทั้งหลายบรรดามี มิได้เป็นไปเพื่อความสุขเลย !

    แต่หากท่านใดจะมองเห็นว่าการปฎิบัติธรรมอยู่ในเพศฆราวาส ก็สามารถทำได้ดีเช่นกัน ไม่จำเป็นต้องบวช...อันนี้ก็สุดแล้วแต่จะพิจารณากันไป

    เราเพียงแต่แสดงความคิดเห็นในส่วน ของบรรพชิต ที่พอจะเป็นข้อมูลในการตัดสินใจ
    เพื่อคิดหาอุบายในการนำตนออกจาก สังสารทุกข์ ได้ตามความเหมาะสมแก่วาสนาบารมีตนที่ได้สั่งสม อบรมมา.

    เจริญในรสธรรม
     

แชร์หน้านี้

Loading...