ผีมีจริง...ตอนสร้างเมรุเผาศพเสร็จเพราะมีเว็บพลังจิตใช้งบเกือบล้าน(ป่าช้าโบราณ)

พ่อแม่ก็แก่เฒ่า จำจากเจ้าไม่อยู่นาน
จะพบจะพ้องพาน เพียงเสี้ยววานของคืนวัน
ใจจริงไม่อยากจาก เพราะยังอยากเห็นลูกหลาน
แต่ชีพมิทนทาน ย่อมร้าวรานสลายไป
ขอเถิดถ้าสงสาร อย่ากล่าวขานให้ช้ำใจ
คนแก่ชะแรวัย คิดเผลอไผลเป็นแน่นอน
ไม่รักก็ไม่ว่า เพียงเมตตาช่วยอาทร
ให้กินและให้นอน คลายทุกข์ผ่อนพอสุขใจ
เมื่อยามเจ้าโกรธขึง ให้นึกถึงเมื่อเยาว์วัย
ร้องให้ยามป่วยไข้ ได้ใครเล่าเฝ้าปลอบโยน
เฝ้าเลี้ยงจนโตใหญ่ แม้เหนื่อยกายก็ยอมทน
หวังเพียงจะได้ผล เติบโตจนสง่างาม
ขอโทษถ้าทำผิด ขอให้คิดทุกทุกยาม
ใจแท้มีแต่ความ หวังติดตามช่วยอวยชัย
ต้นไม้ที่ใกล้ฝัง มี หรือหวังอยู่ทนได้
วันหนึ่งคงล้มไป ทิ้งฝั่งไว้ให้วังเวง...

 

พลังของความเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ: หลวงปู่โง่น โสรโย

พระอาจารย์ซ่วนพูดว่า "แปลกจริงพระแก่ๆ องค์นี้เพราะจำเดิมแต่ท่านมาพักอยู่
ที่นี่เห็นมีเก้ง กวาง ลิง ค่าง บ่าง ชะนีและนกหลายจำพวก ซึ่งมีไก่ป่า ไก่ฟ้า
พยาลอมาอยู่ออกันเต็มไปหมด มีอะไรดีวะจึงเรียกวิญญาณสัตว์ได้"

หลวงปู่โง่นตอบให้ทราบว่า "ผมมีคาถาสังข์ทองหาปลาเว้ย ผมก็บอกให้แล้วนี่นา"

พระอาจารย์ซ่วนบอกให้ทราบว่า "ผมสร้างภาวนาเรื่อยๆ ไม่เห็นมันได้ผลเลย"

นี่แหละท่านพระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า
"อชัสสา ยะมะลามันตา"
"มนต์ไม่มีการท่องบ่น ไม่มีความมั่นใจ มันก็ไม่ขลัง"
หลวงปู่โง่นตอบท่านว่า
"ความมั่นใจในตัวเองก็มีส่วนถึง 90% นะและทุกอย่างเราต้องสร้างความเชื่อ
มั่นใจในตัวเองเสียก่อน"

นี่พูดเรื่องส่วนตัวส่วนเรื่องเกี่ยวกับผู้อื่นสัตว์อื่นนั้น เราต้องสร้างจินตนาการ
ทางมโนคติให้มีความจริงใจด้วย คือ ความรัก ความจริงใจ ความมั่นใจในเขา
เหล่านั้น ผมเชื่อว่าชีวิตทุกชีวิต ทั้งของคนและสัตว์ทุกชนิดเป็นหนึ่งเดียว อัน
สร้างมโนคติทางพลังจิตให้เข้าถึงชีวิตทุกชีวิตเป็นหนึ่งเดียวนี้เองมันจะเป็นศูนย์
รวม (conjunction) ให้ทุกชีวิตจิตใจมารวมอยู่ในห้วงแห่งดวงใจของเรา คือ
มันจะเป็นพลัง จุดดึงดูดเข้ามารวมอยู่จุดเดียวกัน เข้าถึงกันและอยู่รวมกันได้ ดัง
นั้นอาศรมที่อาศัยอยู่นั้นจึงมีสัตว์หลายชนิดมาอาศัยอยู่มากมาย มีนกยูงเป็น
ร้อยๆ นกตัวน้อยๆ เป็นพันมันมาอาศัยอยู่

 

อนุโมทนา สาธุ

ในบทความธรรมะ และข้อคิดดีๆ ที่ท่านนำมาเผยแพร่ค่ะ

 

อนุโมทนาสาธุ โยมเอื้อยจากเเดนไกล..สหรัฐอเมริกา มีจิตศรัทธา ร่วมบุญซื้อที่ดินถวายวัดป่าบ้านหนองผักเเว่น เป็นจำนวน 1ไร่ กับอีก85 ตารางวา รวมเป็นเงิน มอบถวายวัดทั้งสิน 33,500 บาท
ดังมีรายนามผู้ร่วมบุญสมทบทุนซื้อที่ดินดังนี้1.คุณโยมเอื้อย TIEMSIRY PHONGSA เเละครอบครัว ร่วมบริจาคซื้อที่ดินเพื่อสร้างวัดป่าเป็นเงิน 400 U.S

2.คุณสาง คุณyin phonsa ร่วมบริจาคสมทบซื้อที่ดินเป็นเงิน 100 U.S
3.คุณคำพั้ว Phongsa ร่วมบริจาคซื้อที่ดินเป็นเงิน 100 U.S.
4.คุณนิกร คุณเวียงชัย สินพาลี ร่วมบริจาคซื้อที่ดินถวายวัด 100 U.S.
5.MR. TIM คุณ คำเพชร ร่วมบริจาคซื้อที่ดิน ถวายวัด เป็นเงิน 100 U.S.
6.คุณ ELANOR คูณอุทัย เเละครอบครัว ร่วมบริจาคซื้อที่ดิน 100 U.S.
7.คุณ คำสิงห์ พงสา พร้อมครอบครัว ร่วมบริจาคซื้อที่ดิน 50 U.S.
8.MR. TONY AND MANIVAN ร่วมบริจาค ซื้อที่ดิน 50 U.S.
9.คุณนิกร คุณ KIN PHONGSA ร่วมบริจาคซื้อที่ดินถวายวัด เป็นจำนวนเงิน100 U.S
รวมเป็นเงิน มอบถวายวัดบ้านหนองผักเเว่น ต.โพธิ์ทอง อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด รวมเป็นเงินทั้งสิน 33,500 บาท
ขอขอบใจ ขอให้โยมเอื้อยเเละญาติพี่น้องเเละครอบครอบ PHONGA สุขกาย สุขใจโชคดีมีชัย
ขอให้
คุณพระพุทธเจ้า พระธรรมเจ้า พระสังฆเจ้า จงปกปักฮักษา คุ้มครอง
อยู่ดี มีความสุขใจ ตลอดปี2012 เเละตลอดไปสาธุ
ทางวัดจะสวดมนต์ อธิฐานจิต ให้ได้รับบุญกุศล ที่ท่านทั้งหลายมีจิตศรัทธา ฮ่วมบุญซื้อที่ดินศร้างถวายวัดป่าบ้านหนองผักเเว่น
ขอให้โยมเอื้อย TIEMSIRI PHONGSA
อยู่ดีมีเเฮง ควมเจ็บอย่าให้ได้ ควมไข่อย่าให้มี สุขกาย สะบายใจ ตลอดไปเทอญสาธุๆ​

 

อาตมา ผ่านไปเเถวบางบัวทองเเละบางใหญ่...ไม่อยากเชื่อว่าจะเกิดน้ำท้วมขนาดหนักได้
เคยเห้นเเต่ต่างประเทศในข่าว เเล้วปีต่อๆไปชาวกรุงเทพเเละพื้นที่ใกล้เคียงจะต้องเจอสภาพนี้อีก อย่างเเน่นอนอาจะหนักกว่าเดิมด้วยซ้ำ...ได้เเต่ปลง

 

...อนุโมทนาสาธุในบุญความดีของทุกๆท่านครับ
...ตอนนี้ควบคุมดูแลช่างปรับปรุงต่อเติมบ้านเลยห่างหายไปบ้าง
...ตั้งใจจะเดินทางไปวัดป่าบ้านหนองผักแว่น ตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 19 ก.พ.55
...อยู่คอยช่วยเหลือหลวงปู่ดี และพระอาจารย์จิรวัฒน์ จนหลังวันทอดผ้าป่าซื้อที่ดินเสร็จครับ

 

ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย
เเละบุญกุศลที่บำเพ็ญนี้
จงบันดาลให้ท่านเจริญด้วยอายุ
วรรณะ สุขะ พละ ปฏิภาน ธนสารสมบัติ
เเละประสบสิ่งอันพึงปรารถนา
ทุกทิพาราตรีกาลเทอญ สาธุ<!-- google_ad_section_end -->

 

ภาพนี้ถ่ายไว้ประมาณเมื่อไรหรือเจ้าคะ ช่วงวันสองวันนี้ฝนไม่ได้ตกค่ะ

ขอนอกเรื่องอีกแล้วนะคะ ณิชได้ข่าวมาจากน้องชายที่ไปปฏิบัติธรรมที่วัดแห่งหนึ่งในขอนแก่นที่เป็นที่รู้จัก พึ่งสัปดาห์ที่แล้วนี่เองค่ะ ไม่อยากเปิดเผยชื่อวัดค่ะ และชื่อคนด้วย พอดีว่าเขากลัวจะเป็นลักษณะคล้ายเด็กชายปลาบู่ค่ะ น้องชายอยู่ในเหตุการณ์ด้วย เล่าว่า พระแม่ธรณีท่านได้มาผ่านร่างฆราวาส (ไม่ได้เป็นการเข้าทรง) ฆราวาสเป็นผู้หญิงถือศีลและปฏิบัติธรรมอยู่ในวัดนั้นมานานพอสมควรค่ะ ท่านบอกผ่านว่า ขึ้นแรม เดือน 9 พญานาคจะสะบัดหางหรือพลิกตัว (โยมจำไม่ได้ว่าสะบัดหรือพลิกเขาเล่าให้ฟังแล้วจำไม่ได้ชัด) จะมีน้ำมากๆ เมืองล่าง มีคนตาย น้ำมาเร็วไม่ทันตั้งตัว ท่านบอกคนที่ไปปฏิบัติธรรมที่วัด บอกกล่าวญาติพี่น้องคนรู้จัก ถ้าเชื่อก็เชื่อ เล่าพอสังเขปแค่นี้ค่ะ

 

อนุโทนาบุญกับคุณเอื้อยและคณะด้วยค่ะ สาธุ

 

...คุณณิช เรื่องภัยพิบัติธรรมชาติโอกาสเกิดปี ๕๕ ค่อนข้างชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ
...ไม่ใช่เฉพาะ "ปลาบู่" แต่ครูบาอาจารย์ผู้ทรงอภิญญารวมถึงฆราวาสผู้ปฏิบัติธรรม
...ที่สำคัญศาสนามาพบกับนักวิทยาศาสตร์ระดับโลกที่เขาเชื่อว่า
...ปลายปีตั้งแต่ ๒๑ ธ.ค.๕๕ หรือ 2012 พายุสุริยะในระบบสุริยจักรวาล
...จะมีผลกระทบต่อโลกของเราจนอาจเกิดเหตุภัยพิบัติกันทั่วโลก
...ซึ่งแต่ละประเทศอาจมีความรุนแรงไม่เท่ากัน
...สิ่งสำคัญคือให้เร่งรีบ ทำความดีกันไว้ ขั้นต้นศีล๕ รักษากันให้ได้
...ถ้าสามารถฝึกจิตให้มีสติตลอดเวลา ด้วยการปฏิบัติภาวนาด้วยก็ยิ่งดี
...จริงๆแล้วเป็นรอบของการเปลี่ยนแปลง หรือวัฏจักร ของแต่ละยุคสมัยที่มีมาช้านานแล้ว
...แต่ยุคเราอาจจะโชคดีหรือโชคไม่ดี เพราะเป็นช่วงจังหวะเวลาความอิ่มตัวพอดีๆที่โลกเขาต้องเปลี่ยนแปลง
...เพราะฝีมือการทำลายล้างธรรมชาติสิ่งแวดล้อม ความโลภที่ไม่สิ้นสุดของมนุษย์เราเองนี่แหละ
...จะเห็นได้ว่าวันนี้ คนขาดศีลธรรม ไม่เชื่อกฎแห่งกรรม บุญ บาป
...แต่กลับเชื่ออำนาจเงิน ที่ได้มาไม่ว่าจะถูกต้องหรือไม่ถูกต้องขอให้ได้ให้มี
...เพื่อไปตอบสนอง กิเลส ล้วนๆเลย
...ฉนั้นไม่ใช่เป็นเรื่องแปลกอีกต่อไปครับ ถ้าคำทำนายเหล่านี้จะเริ่มเปิดเผยสู่สาธารณชนอย่างต่อเนื่อง
...ในส่วนที่เราต้องเตรียมใจพร้อมก็คือ ทำความดีไว้ กรรมใครก็หนีไปไหนไม่พ้น
...ถ้าเข้าใจว่าทุกชีวิตที่เกิดมา บางทีก็เป็นเรื่องของกรรม ใครกรรมดีก็อาจจะรอด ส่วนใครทำกรรมไม่ดีไว้
...ก็อาจเป็นกำหนดชะตาชีวิตที่ต้องเป็นไปเช่นนั้นตามกฏแห่งกรรม
...ก็พิจารณาด้วยสติและปัญญา กันไว้ครับในความไม่ประมาทต่อสถานการณ์ในวันข้างหน้า
...ทำปัจจุบันให้ดีที่สุด อะไรจะเกิดก็ต้องเกิดหนีไปไหนไม่พ้นหรอกครับถ้าเชื่อกฎแห่งธรรมชาติ นั่นคือกฎแห่งกรรม
...สำคัญถ้าจะต้องตายแล้วจะไปไหน ตรงนั้นต้องพร้อมที่สุดครับ

 

เรื่องภัยพิบัตินั้นผมติดตามมานานพอสมควรครับ และได้รู้ว่าเรา
สามารถที่จะช่วยลดผลกระทบกับทั้งตัวเองและคนรอบข้างได้ด้วย
ครับเพราะเรื่องภัยพิบัติก็ไม่ได้พ้นเรื่องกฏแห่งกรรมว่าสัตว์โลกย่อม
เป็นไปตามกรรมแต่อย่างใด เรื่องของภัยพิบัติถ้าจะสรุปแล้วมีอยู่
สองส่วน ส่วนแรกนั้นเกิดจากเจ้ากรรมนายเวรของแต่ละคนร่วมมือ
กันทำให้เกิดขึ้นมา อย่างที่ผู้มีญาณท่านได้บอกว่าประตูนรกเปิดผี
และวิญญาณออกมากันมากมาย สิ่งที่จะช่วยได้อย่างมากคือการให้
ทาน ถือศีล ภาวนา ขอขมากรรมและอุทิศส่วนกุศลแก่เจ้ากรรมนาย
เวร ซึ่งหลายๆ คนมองข้ามส่วนนี้ไป อีกส่วนนั้นเป็นวาระที่จะต้องเกิด
ขึ้นอยู่แล้ว ดังนั้นสิ่งที่ต้องทำอย่างเร่งด่วนที่สุดในตอนนี้คือการภาวนา
และอุทิศส่วนกุศลแก่เจ้ากรรมนายเวรอยู่เสมอๆ ชักชวนเพื่อนและคน
ในครอบครัวให้หันมาถือศีล ปฏิบัติธรรม รองลงมาก็เตรียมแผนการ
รับมือในกรณีฉุกเฉิน ทำทุกอย่างให้ดีที่สุดแล้วกรรมจะเป็นผู้จัดสรรเอง

 

เจริญพรคุณโยมณิช คุณโยมnahpee คุณโยมเเดนนี่ เเละผู้ใจบุญท่านอื่นๆที่ติดตามกระทู้ผีมีจริงหรือ...ทุกท่าน รูปที่คุณโยมเห็นคือภาพเก่า เมื่อคราวน้ำท่วมใหญ่ ที่อาตมานำมาลงคืออาตมาไปบ้านโยมเเถวบางบัวทอง เเถวๆบิ๊คคิงบางใหญ่ คนขับเเท็กซี่ชี้ให้ดู รอยน้ำท้วมตามเสาไฟฟ้า อาตมาก็นั้งคิดตามว่า มันท้วมได้อย่างไร...เเล้วคราวต่อไปจะหนักกว่านี้หรือเปล่า...

 

...หลวงพ่อจำเนียร วัดสังฆทาน นนทบุรี เคยบอกลูกศิษย์ของท่านไว้นานแล้วว่า
...อนาคตน้ำจะท่วมบริเวณวัด ระดับเสาไฟฟ้า เท่าที่อ่านมานะครับ เพราะวัดติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา
...จริงเท็จประการใดไม่ทราบแต่ หมู่บ้านแถวดอนเมืองและสนามบินดอนเมืองที่เป็นที่ดอน
... ใครๆก็บอกว่าไม่มีวันที่น้ำจะท่วมถึง ยิ่งระบบระบายน้ำในสนามบินเป็นมาตรฐานสากลที่ทำเกินมาตรฐานอยู่แล้ว ยังจม
...ไม่มีอะไรแน่นอนครับ และไม่มีใครบอกได้แม่นยำ 100% แต่เวลาเกิดขึ้นมา
...หมู่บ้านกลายเป็นหมู่บ้านร้าง เป็นที่ประจักษ์ทางสื่อฯทั่วกัน
...แต่ ณ วันนี้ คนไทยเริ่มลืมแล้วครับ เพลินกับกิเลสเดิมๆ กันต่อไป
...ปีนี้ได้ข่าวว่า จัดหนัก กว่าปีที่แล้วก็ต้องดูกันไปครับ

 

คอยดูอยู่ว่าจะเป็นอย่างไร...สงสารเพื่อนเพิ่งจะซื้อบ้านผ่อนได้สองเดือน น้ำท่วมเลย
บอกเค้าว่าให้ตัดใจขายแล้วไปซื้อที่ใหม่...ก็ไม่ยอม ได้แต่ภาวนา

 

...คนเราบางครั้งก็ฝืนลิขิตชะตาชีวิตที่กำหนดมาแล้วไม่ได้
...กรรมที่ก่อไว้ไม่รู้กี่ภพชาติบางทีถึงจังหวะเหมาะๆ
...เจ้ากรรม นายเวรเขาก็มาขอคืนบ้างเพราะเคยทำไว้กับเขา
...พวกบ้านเรือน ทรัพย์สินเสียหาย ส่วนใหญ่ผิดศีลข้อ 2 ในอดีตชาติมา
...เท่าที่เคยฟังผู้รู้เขาพูดถึงเรื่องแบบนี้ครับ
...ถ้าจะมองว่าเป็นภัยธรรมชาติก็ไม่ผิดเพียงแต่บังเอิญอยู่ในพื้นที่นั้นพอดี
...แต่ถ้าเป็นกรรมล่ะ ก็สามารถคิดได้ ยังไงๆ ก็ต้องมีโอกาสมาอยู่ในพื้นที่นี้จนได้ ต้องตาต้องใจเป็นพิเศษที่อื่นๆก็ไม่สนใจ
...ฉนั้นเรื่องแบบนี้เป็น ปัจจัตตัง ต้องนำไปพิจารณาด้วยเหตุด้วยผลและนำธรรมะมาจับด้วย อาจมีคำตอบครับ

 

<!-- google_ad_section_end -->

 

...มีรูปไปถวายหลวงปู่ด้วยครับ วันที่ 19 ก.พ.นี้ ขนาด 50x70 cm.