1. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,489
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    [​IMG]

    วันหนึ่งมีชายคนหนึ่งมากราบนมัสการหลวงพ่อชา ตอนจะลากลับเขาคลานเข้าไปหมอบอยู่แทบเท้าท่าน และขอให้ท่านรดน้ำมนต์ให้ สักครู่หนึ่งหลวงพ่อจึงพูดออกมาว่า

    "วันนี้ไม่ได้ต้มน้ำร้อน"

    แล้วท่านสอนอีกว่า

    "คนมาขอน้ำมนต์ เราคิดว่า ทีนี้ต้องเอาน้ำร้อนเดือด ๆ รดให้ คนกิเลสหนาทั้งนั้น ให้มันหนังพองไปเลย ต้องสอนกันเจ็บ ๆ บ้าง เราบอกให้ภาวนาก็ไม่เอา ชอบเอาแต่น้ำมนต์ ขอรดน้ำมนต์ เพื่อจะได้ช่วยขจัดปัดเป่าผ่อนคลายอย่างนั้นอย่างนี้ ที่ให้ไปนั้น เราให้ไปตามประสีประสาอย่างนั้นเอง ทีนี้มาใหม่จะเอาน้ำร้อนรดให้ คนมันยังเป็นเด็กก็เป็นอย่างนี้กันทั้งนั้น น้ำมนต์จะช่วยอะไรใครได้ ถ้าได้ดังใจก็หัวเราะ ถ้าไม่ได้ดังใจก็ร้องไห้ มันเป็นแต่อย่างนั้นกันทุกคน ดังนั้นคนส่วนมากในโลกนี้จึงมีแต่คนโง่ ผู้มีปัญญาเขามักจะมาหาทางพ้นทุกข์ แสวงหาทางปฏิบัติให้เกิดปัญญาจริง ๆ รู้ธรรมะมีธรรมะอยู่ในใจ เขาก็เป็นคนสงบ สอนตัวเองได้ทุกเวลา มันก็สบายเท่านั้น ไม่ต้องหัวเราะ ไม่ต้องร้องไห้"
     
  2. โฮดี้โจนส์

    โฮดี้โจนส์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กันยายน 2011
    โพสต์:
    1,157
    ค่าพลัง:
    +1,488
    ปัจจุบันงานเขียนของท่านแปลไปแล้วหลายภาษามากนะครับหลวงพ่อชานี่ แม้ท่านจะไม่กว้างขวางเท่าท่านพุทธทาสก้ตาม แต่เป็นพระแท้ท่านหนึ่งเลยล่ะ หายากนะครับบ้านเราพระแท้นี่
     
  3. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,489
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    เรื่องเล่าเช้าวันพระ : น้ำมนต์ของหลวงพ่อเทียน

    [​IMG]

    หลวงพ่อเทียน จิตตสุโภ
    ๒๕ พฤษภาคม ๒๕๕๔
    พระไพศาล วิสาโล

    ในช่วง ๗ ปีสุดท้ายของหลวงพ่อเทียน จิตตสุโภ (ซึ่งมีอายุครบหนึ่งศตวรรษในปีนี้) ท่านต้องเข้าโรงพยาบาลอยู่หลายครั้งเนื่องจากมีมะเร็งในลำไส้ เป็นโอกาสให้นายแพทย์วัฒนา สุพรหมจักร ได้รู้จักท่านอย่างใกล้ชิด ในขณะที่หมอวัฒนารักษากายของหลวงพ่อด้วยการให้ยา หลวงพ่อก็ได้รักษาใจของหมอวัฒนาด้วยการให้ธรรม

    หมอวัฒนาเล่าว่าตอนที่รู้จักหลวงพ่อเทียนใหม่ ๆ กำลังสนใจพระเครื่องมาก วันหนึ่งได้เอาพระนางพญาพิษณุโลกมาให้ท่านดู พร้อมกับอวดว่าพระเครื่ององค์นี้เก่าแก่มากสร้างมาตั้ง 700 ปีแล้ว

    “พระองค์นี้ทำจากอะไร” ท่านถาม

    หมอวัฒนาอธิบายว่า “ทำจากเนื้อดินเผา แกร่งสีเนื้อมะขามเปียกมีแร่ต่าง ๆ ปรากฏอยู่เต็ม”

    ได้ยินเช่นนั้น ท่านก็พูดเรียบ ๆ ว่า “ดินนั้นเกิดมาพร้อมกันตั้งแต่สร้างโลก พระองค์นี้ไม่ได้เก่าแก่ไปกว่าดินที่เราเหยียบก่อนเข้ามาในบ้านนี้หรอก”

    เพียงประโยคนี้ประโยคเดียว หมอวัฒนาก็ “ตาสว่าง” ตัดสินใจถอดพระเครื่องออกจากคออย่างไม่ลังเล

    เคยมีคนถามท่านว่าแขวนพระดีหรือไม่ ท่านตอบว่า “ดี แต่มีสิ่งที่ดีกว่าแขวนพระจะเอาไหม”

    อีกคราวหนึ่งมีคนถามท่านด้วยความสงสัยว่า เครื่องรางของขลังของเขามีอานุภาพตามที่เล่าลือหรือไม่ ท่านไม่ตอบ แต่ถามกับว่า

    “คนทำตายหรือยัง”

    เมื่อได้คำตอบว่าคนที่ทำได้ตายแล้วเพราะเป็นของมรดกตกทอดกันมา ท่านจึงตอบว่า

    “คนที่ทำยังตายเลย แล้วเราจะหวังสิ่งนี้ ช่วยไม่ให้เราตายได้อย่างไร”

    แม้หลวงพ่อเทียนเป็นหลวงตาที่พูดน้อย น้ำเสียงเบา แต่ถ้าพูดถึงการสอนธรรมแล้ว ท่านมั่นคง พูดตรง ไม่อ้อมค้อม และไม่ยอมประนีประนอมเลยโดยเฉพาะเมื่อต้องเกี่ยวข้องกับพิธีกรรมที่คนเชื่อ ว่าศักดิ์สิทธิ์ ท่านเห็นว่านั้นกลับทำให้คนมีความหลงงมงายมากขึ้น และเป็นอุปสรรคต่อการเข้าถึงธรรม

    ท่านเคยได้รับนิมนต์ไปสวดใน งานบุญแห่งหนึ่ง เจ้าภาพอยากให้ท่านพรมน้ำมนต์ให้ ท่านจึงขอให้เจ้าภาพเตรียมกาละมังขนาดใหญ่ใส่น้ำให้เต็มเพื่อทำน้ำมนต์แทน ที่จะทำจากน้ำในในบาตร เมื่อทำเสร็จแล้ว แทนที่จะประพรมน้ำมนต์ ท่านกลับเอาน้ำมนต์ในกาละมังสาดไปทั่วบ้านแล้วบอกว่า

    “ช่วยกันเก็บช่วยกันถู อันนี้แหละเป็นมงคล การที่เราใช้น้ำมนต์ประพรมตัวเรา อาจจะแพ้ลูกไม้ใบหญ้าที่ใส่ไว้ในน้ำมนต์ มีอาการผื่นคันขึ้นมา ต้องเปลืองเงินทองซื้อหยูกยารักษาอีก แล้วมันจะเป็นมงคลได้อย่างไร”
     
  4. โฮดี้โจนส์

    โฮดี้โจนส์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กันยายน 2011
    โพสต์:
    1,157
    ค่าพลัง:
    +1,488
    ส่วนหลวงพ่อเทียนนี้ไม่ดังมาก เพราะท่านไม่ค่อยชอบออกสื่อ แต่ถ้าถามว่าท่านเป็นใครก็ตอบว่าพระอรหันต์อย่างไม่ต้องสงสัย
     
  5. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,489
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    พระไตรปิฎก ฉบับบาลีสยามรัฐ (ภาษาไทย) เล่มที่ ๙ หน้าที่ ๑๐/๓๘๓

    [๒๕] ๗. พระสมณโคดม เว้นขาดจากการเลี้ยงชีพโดยทางผิดด้วยติรัจฉานวิชา เช่น
    อย่างที่สมณพราหมณ์ผู้เจริญบางจำพวกฉันโภชนะที่เขาให้ด้วยศรัทธาแล้ว ยังเลี้ยงชีพโดยทางผิด
    ด้วยติรัจฉานวิชาเห็นปานนี้ คือ ทำพิธีบนบาน ทำพิธีแก้บน ร่ายมนต์ขับผี สอนมนต์ป้องกัน
    บ้านเรือน ทำกะเทยให้กลับเป็นชาย ทำชายให้กลายเป็นกะเทย ทำพิธีปลูกเรือน ทำพิธี
    บวงสรวงพื้นที่ พ่นน้ำมนต์ รดน้ำมนต์ ทำพิธีบูชาไฟ ปรุงยาสำรอก ปรุงยาถ่าย ปรุงยาถ่ายโทษ
    เบื้องบน ปรุงยาถ่ายโทษเบื้องล่าง ปรุงยาแก้ปวดศีรษะ หุงน้ำมันหยอดหู ปรุงยาตา ปรุงยานัดถุ์
    ปรุงยาทากัด ปรุงยาทาสมาน ป้ายยาตา ทำการผ่าตัดรักษาเด็ก ใส่ยา ชะแผล
     
  6. undeath13

    undeath13 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    1,481
    ค่าพลัง:
    +1,831
    ผมว่าแล้วแต่คนมากกว่าครับ ถ้าคนที่สอนได้แบบนี้ เขาก็จะสอนแบบนี้ ไม่ให้ยึดมั่น

    แต่ถ้าอีกพวกที่ยึดมั่นสุดลิ่ม เขาก็จะสอนให้ยึดมั่นๆ จับมั่นๆแรงๆ ไปเลย พอเหนื่อย ก็จะคลายเอง จังหวะนั้นแหละ! จึงสอนให้คลายเต็มที่ สุดท้ายก็หลุดพ้น :)

    คนที่สอนให้ยึดมั่นก็มีหลวงปู่ดู่พระอรหันต์อีกท่านครับ เมื่ออะไรถึงที่สุดมันก็จะคลายเอง
     
  7. COME&Z

    COME&Z เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,144
    ค่าพลัง:
    +234
    กราบ กราบ กราบ
    อนุโมทนาสาธุ ดีแล้ว ชอบแล้ว
    นิพพานังปัจจโยโหตุ_/|\_
     
  8. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,489
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    หลวงปู่ช่วยด้วย…แต่กลับไปไหว้แอร์โฮสเตส

    วันที่ 6 พค. 2520 (บันทึกการเดินทางจาริกไปต่างประเทศครั้งแรก)

    บินต่อถึงเมืองการาจี ประเทศปากีสถาน บินผ่านอิตาลีถึงกรุงลอนดอน….

    …..ในขณะที่บินอยู่ เครื่องบินได้เกิดอุบัติเหตุ ยางระเบิด1เส้นบนอากาศ….เครื่องบินมีอาการเอียงวูบๆ …. พนักงานบินจึงได้ประกาศให้ผู้โดยสารเตรียมตัวรัดเข็มขัด มีฟันปลอมก็ต้องถอดออก แม้กระทั่งแว่นตาหรือรองเท้าหรือเครื่องบริขารทุกอย่าง ต้องเตรียมพร้อมหมด คนผู้โดยสารทุกคนเมื่อเก็บบริขารทุกอย่างหมดแล้ว ต่างคนต่างก็เงียบ คงคิดว่าเป็นวาระสุดท้ายของพวกเราทุกคนเสียแล้ว….ทางหอบังคับการบิน ได้เตรียมเฮลิคอปเตอร์ รถดับเพลิงพร้อมสรรพ…..

    หลวงปู่ชาท่านได้เล่าไว้ว่า

    “….เป็นครั้งแรกที่เราได้เดินทางมาเมืองนอกเพื่อสร้างประโยชน์แก่พระศาสนา จะเป็นผู้มีบุญอย่างนี้เทียวหรือ?….เมื่อระลึกได้เช่นนี้แล้ว ตั้งสัตย์อธิฐาน มอบชีวิตให้พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ….แล้วก็กำหนดจิตรวมลงในสถานที่ควรอันหนึ่ง….แล้วก็ได้รับความสงบเยือกเย็น ดูคล้ายกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น…..พักในที่ตรงนั้น จนกระทั่งเครื่องบินได้ลดระดับลงมาถึงแผ่นดินด้วยความปลอดภัย…..”

    ฝ่ายผู้โดยสารก็ปรบมือกันด้วยความดีใจ คงคิดว่าเราปลอดภัยแล้ว…..

    สิ่งที่แปลกก็คือ ขณะเมื่อเครื่องบินเกิดอุบัติเหตุ ต่างคนก็ร้องเรียกว่า“หลวงพ่อช่วยปกป้องคุ้มครองพวกเราทุกคนด้วย”แต่เมื่อพ้นอันตรายแล้ว เดินลงจากเครื่องบินเห็นประนมมือไหว้พระเพียงคนเดียวเท่านั้น นอกนั้นไหว้แอร์โฮสเตสทั้งหมด!!!”

    (เรื่องนี้ หารายละเอียดอ่านได้ในหนังสืออุปลมณี น.504 และหนังสือร่มเงาวัดหนองป่าพง น.24)
     
  9. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,489
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    สะพายบาตรเข้าวัง

    หลวงปู่ชามีความรักและเคารพต่อข้อวัตรปฏิบัติของท่านมาก จนกระทั่งเคยบอกศิษย์ว่า “...ถ้าจะให้ผมละเมิดพระวินัย ผมยอมตายก่อน ไม่เสียดายชีวิตเท่าเสียดายพระวินัย...”

    ครั้งหนึ่งหลวงปู่ชาได้รับนิมนต์ไปฉันจังหันในพระบรมมหาราชวัง ขณะลงจากรถ ได้พบกับเจ้าคุณรูปหนึ่งพอดี ท่านเจ้าคุณรูปนั้นมองเห็นว่าหลวงปู่สะพายบาตรอยู่ ก็ถามอย่างเยาะหยันว่า...

    “คุณชา ไม่อายในหลวงหรือ สะพายบาตรเข้าวัง”

    หลวงปู่ตอบว่า“....ท่านเจ้าคุณไม่ละอายพระพุทธองค์หรือครับ ไม่สะพายบาตรเข้าวัง...”

    (จากอุปลมณี น.113)
     
  10. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,489
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    ปฏิจจสมุปบาทแบบคนตกต้นไม้

    หลวงปู่ชาจะเปรียบเทียบธรรมที่ลึกซึ้งด้วยการเปรียบเทียบอย่างง่ายๆ เช่นในเรื่องของปฏิจจสมุปบาท แต่ในขณะเดียวกันท่านก็ไม่เคยปฏิเสธเรื่องบาป-บุญ หรือเรื่องบางอย่างที่พิสูจน์ได้ยาก.....เพียงแต่ท่านบอกว่ามันไม่ใช่เรื่อง ลึกซึ้งอะไร ไม่ควรสนใจมากเพราะไม่ใช่แนวการดับทุกข์โดยตรง...ผมคัดลอกการอธิบายเรื่องปฏิจจสมุปบาทมาให้อ่านเผื่อว่ามีคนจะอยากอ่าน

    (จากบทเทศนา กุญแจภาวนา http://developer.thai.net/ajahn.chah/thai/text/html/The_Key_to_Liberatio n.html)
    ....มันจะเกิดยินร้ายก็เป็นสังขาร มันอยากจะไปโน่นไปนี่ก็เป็นสังขาร ถ้าไม่รู้เท่าสังขารก็วิ่งตามมันไป เป็นไปตามมัน เมื่อจิตเคลื่อนเมื่อใดก็เป็นสมมติสังขารเมื่อนั้น ท่านจึงให้พิจารณาสังขารคือจิตมันเคลื่อนไหวนั่นเอง

    เมื่อมันเคลื่อนออกไปก็เป็นอนิจจังทุกขังอนัตตา ท่านให้พิจารณาอันนี้ ท่านจึงให้รับทราบสิ่งเหล่านี้ไว้ ให้พิจารณาสังขารเหล่านี้ ปฏิจจสมุปบาทธรรมก็เหมือนกัน....

    อวิชชาเป็นปัจจัยให้เกิดสังขาร

    สังขารเป็นปัจจัยให้เกิดวิญ-ญาณ

    วิญญาณเป็นปัจจัยให้เกิดนามรูปฯลฯ

    เราเคยเล่าเรียนมาศึกษามาก็เป็นจริงคือท่านแยกเป็นส่วนๆ ไปเพื่อให้นักศึกษารู้ แต่เมื่อมันเกิดมาจริง ๆ แล้วท่านมหานับไม่ทันหรอก

    อุปมาเหมือนเราตกจากยอดไม้ก็ตุ๊บถึงดินโน่น ไม่รู้ว่ามันผ่านกิ่งไหนบ้าง จิตเมื่อถูกอารมณ์ปุ๊บขึ้นมาถ้าชอบใจก็ถึงดีโน่น อันที่ติดต่อกันเราไม่รู้มันไปตามที่ปริยัติรู้นั่นเองแต่มันก็ไปนอกปริยัติ ด้วย มันไม่บอกว่าตรงนี้เป็นอวิชชา ตรงนี้เป็นสังขาร ตรงนี้เป็นวิญญาณ ตรงนี้เป็นนามรูป มันไม่ได้ให้ท่านมหาอ่านอย่างนั้นหรอก เหมือนกับการตกจากต้นไม้ ท่านพูดถึงขณะจิตอย่างเต็มที่ของมันจริงๆ อาตมาจึงมีหลักเทียบว่า อาตมาจึงมีหลักเทียบว่า เหมือนกับการตกจากต้นไม้ เมื่อมันพลาดจากต้นไม้ไปปุ๊บ มิได้คณนาว่ามันกี่นิ้วกี่ฟุต เห็นแต่มัน ตูม ถึงดินเจ็บแล้ว

    ทางนี้ก็เหมือนกัน เมื่อมันเป็นขึ้นมา เห็นแต่ทุกข์ โสกะปริเทวะทุกข์โน่นเลย มันเกิดมาจากไหน มันไม่ได้อ่านหรอก มันไม่มีปริยัติที่ท่านเอาสิ่งละเอียดนี่ขึ้นมาพูด แต่ก็ผ่านไปทางเส้นเดียวกันแต่นักปริยัติเอาไม่ทัน
     
  11. ปุณบพิธ

    ปุณบพิธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2012
    โพสต์:
    1,117
    ค่าพลัง:
    +2,136
    ชอบมากเลยครับ อันนี้
     

แชร์หน้านี้

Loading...