ร่วมใช้ปัญญาธรรมรับ..อัฐิ ผงอังคาร เกศา ((ประกาศผลอย่างเป็นทางการ))หน้า 9

ในห้อง 'แจกฟรี' ตั้งกระทู้โดย jaetechno, 5 กุมภาพันธ์ 2012.

แท็ก:
?
  1. สมควร เป็นธรรมทาน เป็นทาน ชั้นเลิศ

    0 vote(s)
    0.0%
  2. ไม่สมควร ไม่รู้จะแจกทำไมไร้สาระ

    0 vote(s)
    0.0%
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. jaetechno

    jaetechno เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    1,888
    ค่าพลัง:
    +6,182
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=jt61W_v1hsE&feature=related]พุทธจริต (7/7) หลวงพ่อฤาษีลิงดำ - YouTube[/ame]

    เอาธรรมะมาฝากเกี่ยวกับจริต ทั้ง 6 (เทคนิคการฟัง--หาที่เงียบๆ ปิดไฟ นั่งสมาธิใช้สติฟังแล้วใช้ปัญญาคิดตาม ครับ )


    ต้องการ "ซีดี - วีซีดีธรรมะ" http://www.watthasung.com/kitti/TAPE_CD.pdf เทศน์ถวายเรื่องจริต 6 และวิธีใช้กรรมฐานให้ถูกกับจริต ตอน โทสะจริต โดย...หลวงพ่อฤาษีลิงดำ http://watthasung.com วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 กุมภาพันธ์ 2012
  2. Tamsc14

    Tamsc14 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    223
    ค่าพลัง:
    +204
    จิตกร พี่ส่งพัสดุไปให้แล้วนะ EH787938849TH น่าจะถึงพรุ่งนี้มั้ง
     
  3. นิพพิชฌน์2

    นิพพิชฌน์2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2011
    โพสต์:
    415
    ค่าพลัง:
    +318
    อ้างอิง:
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-RIGHT: 1px inset" class=alt2>ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ นิพพิชฌน์2 [​IMG]
    1. ข้าพเจ้าชอบและกระทำเป็นปกติคือ อาปานนุสติฯ และพุทธานุสสติฯ และมรณานุสติฯ คะ
    อาปานสติฯ ก็คือ การกำหนดรู้ ลมหายใจเข้าหายใจออก และที่สำคัญกรรมฐานกองนี้ช่วยให้เรามีสติ ควบคุมอารมณ์ร้ายของเราได้ จะกระทำอยู่ตลอดเวลาที่มีสติ จะไม่ฟิกซ์เวลาว่าต้องเป็นเวลานั้นเวลานี้ แต่จะทำตลอดทุกอิริยาบท ตามหลวงพ่อพระราชพรหมยานสอนไว้ และก็เป็นจริงดังท่านว่า คือ ดีกว่า การกำหนดตามตารางเวลาของเราว่า ต้องทำเฉพาะในช่วงนั้นช่วงนี้ เพราะถ้าเรากำหนดเวลาตายตัวแบบนั้น มันจะเกิดปัญหาเครียดได้ว่า พอใกล้จะถึงเวลา แล้วเรายังไม่ว่างหรือยุ่งอยู่ พอมานั่งทำกรรมฐานมันก็ทำไม่ได้ มันจะเกิดนิวรณ์ สู้เราทำตลอดดีกว่า ได้ผลดีด้วยคะ ^__^
    --พุทธานุสติเป็นการรำลึกนึกถึงพระคุณของพระพุทธเจ้า จะทำควบคู่กับอานาปาฯ เลยคะ จะได้กรรมฐาน 2 กองในเวลาเดียวกันเลยคะ ที่สำคัญยังได้กสิน เพื่อฝึกทิพยจักขุ ได้ดีอีกด้วย คุ้มเกินคุ้มจริงๆคะ อยากให้หลายๆท่านลองนำไปใช้ดู
    --และตัวสุดท้ายที่ใช้เป็นประจำทุกวัน คือ มรณานุสสติฯ จะใช้ทุกครั้งที่เกิดนิวรณ์ เมื่อนึกถึงความตาย กามตัณหา ภวตัณหา วิภวตัณหา มันจะตายหายไปหมด ได้วิปัสนาญาณด้วย และที่สำคัญคือ การทำพุทธานุสสติฯ ก็จะดีขึ้นด้วย
    พูดมาซะยาวเลย สรุป ก็คือ ที่ใช้เป็นประจำทุกวัน มี 3 กองคะ คือ อานาปานุสสติฯ พุทธานุสสติฯ และ มรณานุสสติฯ กองอื่นจะแถมๆเวลาที่จิตเราอยากจะใช้ เมื่อถอยมาอยู่ที่ อุปจารสมาธิแล้ว ก็พิจารณาตามแต่จิตต้องการจะใช้ในกองนั้นๆ เพราะมันไม่แน่นอน บางวันก็อสุภะ บางวันก็ อาเรปฏิกูลสัญญา ฯลฯ

    2. ข้าพเจ้ามีโทสจริตคะ จึงนำกสินสีแดงมาใช้ปฏิบัติ วิธีใช้ก็ง่ายๆคะ ตามที่หลวงพ่อสอนเลยคะ เมื่อมีความโกรธ เกลียด เกิดขึ้น ก็ใช้วิธีนี้เลยคะ คือ เราทรงอานาปาฯ +พุทธาฯ อยู่แล้ว ก็เปลี่ยนนิมิต จากพระพุทธรูป และคำภาวนา พุทโธ เป็น นึกถึงดอกกุหลาบสีแดง และภาวนา ว่า สีแดงๆๆๆๆๆๆๆๆ ไปเรื่อยๆคะ จนดอกกุหลาบกลายเป็นสีขาว แล้วเช็คดูอารมณ์เราว่า เย็นขึ้นหรือยัง พอเย็นขึ้นดีขึ้นแล้ว ก็ใช้ กรรมฐานกอง พรหมวิหาร 4 เลยคะ เท่านี้ เราก็จะกลายเป็นคนไม่โกรธหรือ โวยวายอะไรง่ายๆอีกแล้วคะ
    3. ข้าพเจ้าขอรับพระธาตุ ล.ป. ขาว อนาลโย
    4. ข้าพเจ้านับถือพระราชพรหมยาน(ฤาษีลิงดำ) ฯลฯ เนื่องจากประทับใจและถูกจริตในคำสอนของท่านว่า ทุกคนสามารถถึงนิพพานได้ในชาตินี้ และที่สำคัญ ทุกคนสามารถฝึกกรรมฐานเพื่อพิสูจน์คำสอนของพระพุทธเจ้าได้ ว่า สวรรค์ นรก พรหม นิพพาน มีจริงหรือไม่?? ด้วยมโนมยิทธิ
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    555+รออยู่คนเดียวเลยนะเนี่ย ขาประจำว่าหายไปไหน? ถ้าคนนี้ไม่มาตอบไม่ปิดกระทู้นะเนี่ย 555+อนุโมทนาในธรรมทานครับ<!-- google_ad_section_end -->

    สวัสดีคะ คุณเจต ^__^ไม่ได้หายไปไหนคะ เข้ามาดูอยู่คะ แต่รอว่าเผื่อคุณเจต จะมีเพิ่ม พระธาตุหลวงปู่ปานคะ ^__^
    รอนานมาก จนมั่นใจว่า ไม่มีเพิ่มแน่ๆคะ เพราะถ้าเข้ามาตอบก่อนกลัวเพิ่มพระธาตุหลวงปู่ปานทีหลัง จะขอแก้ไขไม่ได้ เอ.......แต่สงสัยนิดนึงคะ คุณเจตจะไปไหนคะ เห็นพิมพ์บอกว่า จะแจกเป็นรอบสุดท้ายแล้ว หรือว่ามีโครงการออกบวชคะ :cool::cool:
     
  4. ฤกษ์

    ฤกษ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2012
    โพสต์:
    132
    ค่าพลัง:
    +290
    ๑. อนุสสติ พุทธานุสสติกรรมฐาน ระลึกถึงคุณพระพุทธเจ้าเป็นอารมณ์ ในชีวิตประจำวิธีปฏิบัติก็คือเวลาว่าง กำหนดลมหายใจเข้าออก หายใจเข้านึก พุท หายใจออกนึก โธ
    ๒. ผมจริตตรงกับพุทธจริต โดยพิจารณากายอันเป็นทุกข์ ระลึกถึงกายคตานุสติ แล้วต่อด้วย มรณณานุสติ จะทำให้จิตวางทุกข์ปล่อยวาง
    ๓. ตั้งใจขอรับพระธาตุ หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต (พระธาตุเสด็จ) อ่านแล้วมีหลายกระทู้ขอแล้ว ไม่ได้ก็ไม่เป็นไรครับ ถ้ามีบุญวาสนาคงจะได้บูชาแล้วจะกรุณาครับผม
    ๔. ผมนับถือหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค, พระราชพรหมยาน (ฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง ฯลฯ
     
  5. jaetechno

    jaetechno เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    1,888
    ค่าพลัง:
    +6,182
    อนุโมทนาครับ...พี่ตั้มอยากจะพูดมากกว่านี้เดี๋ยวเป็นกระแส 55+:cool:
     
  6. jaetechno

    jaetechno เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    1,888
    ค่าพลัง:
    +6,182
    555+ออกบวชไหมคงรออีก...แต่ก็ไม่แน่นะถ้าปลงมากๆ คงจะบวชไม่สึกออกธุดงค์ไปเรื่อยๆ...แต่ยังเป็นเรื่องในอนาคต...พูดไม่ได้ ที่ไม่แจกเพราะไม่มีอะไรจะแจกที่เหลืออาจรอส่งบรรจุเจดีย์หรือทำเป็นพิพิธภัณฑ์นะครับ ยึดธาตุขันธ์มากก็ไม่ดี..ท่านให้วางไว้เดี๋ยวแบกไว้มากๆจะรับของใหม่ไม่ได้(หมายถึงธรรม) ส่วนพระธาตุอัฐิ ลป ปาน โสนันโท วัดบางนมโค ทำไมพี่คิดว่าผมมีล่ะ?
     
  7. Tamsc14

    Tamsc14 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    223
    ค่าพลัง:
    +204

    ดีแล้ว เดี๋ยวเจอกระแสแรงกว่า จะรับไม่ทันนะ 55555
     
  8. jaetechno

    jaetechno เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    1,888
    ค่าพลัง:
    +6,182
    555+งี้แระ...เดียวรับไม่ทัน...จิตเศร้าหมองอีกปฏิบัติเยอะๆ ท่านจะเสด็จเอง..
     
  9. phoenix_pik

    phoenix_pik Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    25
    ค่าพลัง:
    +44
    1.กรรมฐาน มี 40 กอง ท่านชอบเพราะอะไร? มีวิธีปฏิบัติในชีวิตประจำวันของท่านอย่างไร? ชอบอาณาปานสติ ท่านสอนให้ผมรู้ลมหายใจ อย่าหายใจทิ้งไปวันๆ
    2.ท่านมีจริตใด(เท่าที่รู้ตัว) และนำกรรมฐานกองไหนไปแก้ไข มีวิธีปฏิบัติในชีวิตประจำวันของท่านอย่างไร? เป็นคนใจร้อน ท่านเลยสอนให้ดูลมหายใจ โดยคิดได้เมื่อไหร่ก็ทำเมื่อนั้น อาจลืมไปบ้าง แต่ก็ช่วยได้เยอะ
    3.ครูบาอาจารย์ที่ท่านนับถือและนำหลักธรรมของท่านมาปฏิบัติ

    ผมนับถือพระป่ากรรมฐานสายพระอาจารย์มั่นเป็นพิเศษ และไปฝากตัวเป็นลูกหลวงปู่ประสาร สุมโน วัดป่าหนองไคร้ จ.ยโสธร ท่านสอนว่า "ศีล สมาธิ ปัญญา คือทางดำเนิน"
    4.ชื่อพระธาตุ+เกศาที่ท่านต้องการ 1 ยูสเซอร์ต่อ 1 รายการ

    สังฆาฏิหลวงปู่ลี วัดภูผาแดง นับถือท่านมาก เคยเห็นรูท่านที่ร้านเช่าพระ ไปขอเช่ารูปต่อ แต่เขาไม่ให้ เพราะเขาบอกว่าได้มารูปเดียว
     
  10. jaetechno

    jaetechno เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    1,888
    ค่าพลัง:
    +6,182


    จัดให้ครับ(เห็นว่าศรัทธามาก)..วันนี้ใจดี..เพิ่งย้ายพระพุทธรูป+พระธาตุเข้าตู้ใหม่ถือว่าเป็นฤกษ์ดีแจกถวายบุญแด่เทวดา+พรหมที่รักษาพระพุทธรูปและพระธาตุ ณ บ้านข้าพเจ้าทุกๆองค์...ขอที่อยู่ครับ
     
  11. ครองตน

    ครองตน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กันยายน 2011
    โพสต์:
    210
    ค่าพลัง:
    +186
    มาอนุโมทนาสาธุ ครับ เพิ่งศึกษาธรรมะ ยังไม่รู้อะไรสักอย่าง ครับ
     
  12. นิพพิชฌน์2

    นิพพิชฌน์2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2011
    โพสต์:
    415
    ค่าพลัง:
    +318
    สวัสดีคะ คุณเจต ^__^ไม่ได้หายไปไหนคะ เข้ามาดูอยู่คะ แต่รอว่าเผื่อคุณเจต จะมีเพิ่ม พระธาตุหลวงปู่ปานคะ ^__^
    รอนานมาก จนมั่นใจว่า ไม่มีเพิ่มแน่ๆคะ เพราะถ้าเข้ามาตอบก่อนกลัวเพิ่มพระธาตุหลวงปู่ปานทีหลัง จะขอแก้ไขไม่ได้ เอ.......แต่สงสัยนิดนึงคะ คุณเจตจะไปไหนคะ เห็นพิมพ์บอกว่า
    จะแจกเป็นรอบสุดท้ายแล้ว หรือว่ามีโครงการออกบวชคะ :cool::cool:555+ออกบวชไหมคงรออีก...แต่ก็ไม่แน่นะถ้าปลงมากๆ คงจะบวชไม่สึกออกธุดงค์ไปเรื่อยๆ...แต่ยังเป็นเรื่องในอนาคต...พูดไม่ได้ ที่ไม่แจกเพราะไม่มีอะไรจะแจกที่เหลืออาจรอส่งบรรจุเจดีย์หรือทำเป็นพิพิธภัณฑ์นะครับ ยึดธาตุขันธ์มากก็ไม่ดี..ท่านให้วางไว้เดี๋ยวแบกไว้มากๆจะรับของใหม่ไม่ได้(หมายถึงธรรม) ส่วนพระธาตุอัฐิ ลป ปาน โสนันโท วัดบางนมโค ทำไมพี่คิดว่าผมมีล่ะ?




    อนุโมทนาบุญคุณเจตในทุกๆประการด้วยนะคะ ดีแล้วๆดีมากๆเลยคะ ที่คุณ เจตได้บอกว่า
    "ที่เหลืออาจรอส่งบรรจุเจดีย์หรือทำเป็นพิพิธภัณฑ์นะครับ ยึดธาตุขันธ์มากก็ไม่ดี..ท่านให้วางไว้เดี๋ยวแบกไว้มากๆจะรับของใหม่ไม่ได้(หมายถึงธรรม)"
    นั่นถูกต้องจริงๆคะ เห็นด้วยทุกประการ นึกถึงตอนที่หลวงพ่อพระราชพรหมยานท่านมาบอกว่า (มาบอกตอนทำกรรมฐานนะคะ) จงทำกายหรือว่าธาตุขันธ์ ของเรานี้ให้เป็นพระธาตุ เหมือนพระพุทธเจ้าหรือครูบาอาจารย์ที่เราเคารพ เวลากราบไหว้พระธาตุ จงคิดเสมอว่า ท่านปฏิบัติเช่นไรนะ ธาตุขันธ์ท่านจึงจะกลายเป็นพระธาตุได้ (พูดมากอีกแล้ว ^__^)
    -ส่วนพระธาตุอัฐิ ลป ปาน โสนันโท วัดบางนมโค ทำไมพี่คิดว่าผมมีล่ะ?
    ไม่ทราบเหมือนกันคะ แต่รู้สึกว่าคุณเจต ต้องช่วยได้แน่ ^__^ ไม่มีอะไรหรอกคะ
    --ธาตุขันธ์ ของหลวงปู่ปาน และของหลวงพ่อพระราชพรหมยาน และของพระโพธิสัตว์กวนอิม นี่ ทางสถานธรรมจำเป็นต้องมีมากๆๆคะ แต่ไม่สามารถบอกเหตุผลได้ ^__^
    ตอนนี้ ทางเรามี พระธาตุชานหมากหลวงพ่อพระราชพรหมยาน จากการตอบคำถามครั้งที่แล้ว และพระธาตุพระโพธิสัตว์กวนอิม ได้รับมาจาก อ. ท่านหนึ่ง ท่านได้มโนคะ และบอกมาว่า รู้ว่าทางเราจำเป็นต้องมี ท่านจึงส่งมาให้ รู้สึกว่าท่านจะเป็น ดร.ของมหาลัยคะ ส่วนสุดท้ายที่ยังขาดคือ องค์หลวงปู่ปานคะ (เล่าสู่กันฟังในฐานะกัลยาณมิตร หวังว่าคงจะไม่รำคาญกันก่อนนะคะ) สาธุๆๆกับคุณเจต และ ทีมงานทุกๆท่านด้วยนะคะ ^__^
     
  13. ปีหนู

    ปีหนู สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    65
    ค่าพลัง:
    +6
    ขออนุโมทนาธรรมเกี่ยวกับจริต ทั้ง 6 ด้วยค่ะ (deejai)ได้ความรู้เพิ่มอีกแล้ว555
     
  14. jaetechno

    jaetechno เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    1,888
    ค่าพลัง:
    +6,182
    สาธุ๊ๆๆยินดีๆๆ ขอให้นำไปปฏิบัติด้วยครับจะประเสริฐสุดพระพุทธเจ้าท่านทรงสรรเสริญ ......
     
  15. jaetechno

    jaetechno เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    1,888
    ค่าพลัง:
    +6,182
    [​IMG]

    วันนี้ได้รับแล้วครับ องค์นี้งดงามมากครับ อนุโมทนากับของที่ส่งร่วมแจกด้วยครับ
     
  16. sunisa005

    sunisa005 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    195
    ค่าพลัง:
    +298
    .....สำหรับข้าพเจ้าใช้อานาปานสติ กำหนดลมหายใจเข้า(พุท) ลมหายใจออก(โธ) กำหนดจิตตนเองทุกครั้งที่ทำสมาธิ และใช้พุทธานุสติเป็นกรรมฐานช่วย
    เวลาปฏิบัติ 23.00น.-01.00น.ถ้าสติหายแว่บไป รีบระลึกถึงพระุพุทธรูป/ภาพใบหน้าขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทันที เพื่อเตือนให้รู้ตัวว่าเรากำลังอยู่ในอารมณ์ภาวนา
    ..........เวลาอยู่ในชีวิตประจำวันเจอปัญหา เช่น โกรธเพื่อนร่วมงาน จะระงับอารมณ์เหล่านั้นด้วย จาคานุสสติเป็นกรรมฐาน คือระลึกเวลาที่เราเคยทำบุญร่วมกัน,บริจาคเงินด้วยกัน
    เวลาปฏิบัติ ขณะนั้น3-5 นาที แล้วแผ่เมตตาให้คนที่เราโกรธ
    ข้าพเจ้าจะปฏิบัติเคร่งครัดทุกวันพระเล็ก/วัีนพระใหญ่ ในเวลาดึกสงัดจะทำให้จิตเราสงบมากที่สุด .................หากข้าพเจ้ามีโอกาสได้รับของมงคลมาบูชา ขอท่านผู้จัดดังนี้
    1.พระธาตุหลวงปู่มั่น
    2.หลวงตามหาบัว
    3.ชานหมากหลวงปู่ ศรี มหาวีโร
    4.พระธาตุเจ้าแม่กวนอิม
    ........หรือแล้วแต่ผู้จัด จะกรุณา.........สาธุกับกิจกรรมดีๆ คะ
     
  17. wanassa

    wanassa Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    70
    ค่าพลัง:
    +28
    1. ดิฉันชอบอาปานนุสติ ร่วมกับ พุทธานุสสติ โดยจะเริ่มจากอาปานนุสติเป็นฐาน ให้รู้ลมหายใจเข้าออก มีสติทุกขณะ ใช้การภาวนาช่วย ภาวนาว่า พุทโธ ไปเรื่อยๆ เข้าพุทธ ออกโธ ให้พุทโธเข้าไปตั้งอยู่ในจิต ไม่บังคับให้เป็นไปด้วยความปล่อยวาง เราเอาจิตเข้าไปรับรู้ลมหายใจเข้าออก ภาวนาควบคู่กันไปกับการคิดถึงพระพุทธเจ้าในอารมณ์ เมื่อเราระลึกถึงคุณความดีของพระพุทธองค์ ใจของเราเต็มไปด้วยกุศลผลบุญสามารถจะน้อมนำตนไปสู่สุคติได้ง่าย และดิฉันเชื่อว่า พุทธานุสสติเป็นเหตุให้เข้าถึงพระนิพพานได้ง่ายที่สุด ส่วน อาปานนุสติ มีข้อดีที่ดิฉันชอบคือ หากเราเอาจิตไปจับอาปานนุสติไว้แล้ว จิตก็จะมีสติรู้จากการกำหนดรู้ลมหายใจเข้าหายใจออก ดังนั้นจิตของเรานี้จะมีสมาธิ ก็จะไม่มีโอกาสเกิดอารมณ์ขุ่นหมอง อกุศลกรรมใดๆ ก็ไม่สามารถมาเข้าแทรกเข้ามาในจิตของเราได้โดยง่ายดาย
    สำหรับการนำมาในชีวิตประจำวันนั้น วิธีที่ดิฉันนำมาปฏิบัติก็คือในระหว่างทุกอิริยาบถ ดิฉันสามารถปฎิบัติได้ทุกเวลาที่ต้องการ เพราะเราต้องหายใจอยู่แล้วเป็นธรรมชาติ แต่เราต้องฝึกรู้ลมหายใจ ทำให้มีสติทุกขณะ นับตั้งแต่เริ่มตื่นนอนมา จะอาบน้ำ ล้างหน้า แปรงฟัน กำหนดรู้ เวลาหายใจเข้ารู้อยู่ว่าหายใจเข้า เวลาหายใจออกรู้อยู่ว่าหายใจออก เวลาขับรถไปทำงาน เวลารถติดก็ใช้การภาวนาช่วยด้วย คิดถึงพระพุทธเจ้าในอารมณ์ ภาวนาบทสรรเสริญ พระพุทธคุณ อิติปิโสฯไปเรื่อยๆ ระหว่างทาง ความโกรธ ความหงุดหงิดก็ไม่เกิดเพราะจิตเรามีสติกับการภาวนานึกถึงคุณพระบรมศาสดา ในระหว่างทำงานจะใช้อาปานนุสติอย่างเดียว ช่วยกำหนดรู้ในทุกขณะว่าตอนนี้เราทำอะไรทำงานด้วยความตั้งใจความผิดพลาดย่อมไม่เกิดขึ้น หลังกลับจากทำงาน ก็แทบจะเป็นเวลาก่อนนอนแล้วเพราะดิฉันกลับบ้านดึก ก็จะหาเวลานั่งสมาธิสักครู่หนึ่ง สวดภาวนา ก่อนนอนก็จะกำหนดจิตนึกถึงพระพุทธองค์ ก็จัดเป็นพุทธานุสสติ อย่างหนึ่ง จิตเราก็จะสงบ คิดว่าถ้าเราตายเมื่อไหร่ขอไปนิพพานเมื่อนั้น เมื่อมีเวลาวันหยุดก็จะไปวัดกับกลุ่มเพื่อนธรรม ทำบุญ นั่งสมาธิ เดินจงกรมบ้าง ภาวนา ยุบหนอ พองหนอ เหยียบ ยกย่าง ให้จิตใจสบาย จิตใจเบิกบานผ่องใส ปฎิบัติอย่างนี้เรื่อยมา จนส่งผลให้กายสังขารของดิฉันที่อ่อนล้าจากการทำงาน กลับมีกำลังเรี่ยวแรงดีขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์

    2. ดิฉันมีโทสจริตค่ะ แต่มักไม่ค่อยแสดงออกมา เพราะเราต้องอยู่ในสังคม จึงมักจะเก็บไว้และจะเกิดสะสมความขุ่นเคืองในใจ และจะโกรธไม่พอใจต่อบุคคลที่กระทำต่อเราทำให้เกิดทุกข์ ดิฉันจึงนำกรรมฐานกองอาปานนุสติ ร่วมกับ พรหมวิหาร ๔ คือ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา นำมาปฏิบัติใช้ให้เหมาะกับกาล วิธีคือ ยกตัวอย่าง เช่นเมื่อมีคนมาต่อว่าเรา เราก็มีอาปานนุสติเป็นฐาน รู้ลมหายใจเข้าออก ควบคุมจิตตามสติให้รู้ทัน รู้ว่ามีสิ่งใดมากระทบ เพ่งโทษของมันที่จะทำให้จิตใจเราขุ่นมัว ใช้เมตตาคุมอารมณ์ไว้ ให้มีความรักความปรารถนาดีต่อเขา อโหสิกรรม ไม่จองเวร หรือพยาบาทกัน โดยขอยกถวายพระพุทธเจ้าเป็นอภัยทาน หรือ เมื่อฟังข่าวทางสื่อต่างๆพวกผู้ร้ายฆาตกร ฆ่าฟันกันโหดเหี้ยมทารุณสัตว์ การรังแกผู้อ่อนแอกว่า เด็ก สตรี ทั้งความไม่เป็นธรรมในสังคม เนื่องจากดิฉันเป็นคนรักความเป็นธรรมและมักเกิดโทสจริตที่รับทราบข่าวหรือเหตุการณ์นั้นๆ จึงต้องตั้งสติกำหนดลมหายใจ แล้ววางใจเป็นกลาง กำหนดจิตใจไม่เอนเอียงด้วยชอบหรือ พยายามไม่ยินดียินร้าย ใช้ปัญญาพิจารณา เห็นผลอันเกิดขึ้นโดยสมควรแก่เหตุ และรู้ว่าพึงปฏิบัติต่อไปตามธรรม หรือตามควรแก่เหตุนั้น และรู้จักวางใจเฉย คิดเสียว่า สิ่งนั้น ๆ ดำรงอยู่หรือดำเนินไปตามควร ตามเหตุของมัน เป็นต้น


    3. ดิฉันขอรับพระธาตุ ผงอังคารหลวงปู่ชา สุภัทโท ค่ะ

    4. ดิฉันนับถือ หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ และพระกรรมฐาน สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ทุกๆองค์ค่ะ เหตุที่ดิฉันประทับใจ หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ เพราะธรรมะท่านถูกกับจริต และช่วยเยียวยาใจในสิ่งที่ดิฉันประสบพบอยู่ทุกวันได้ดีเยี่ยม จึงจดจำนำมาปฏิบัติในชีวิตประจำวันจนทุกวันนี้คือ

    “อันสตินี้ สัมปชัญญะนี้ ก็สมมติเป็นโชเฟอร์กำพวงมาลัย มีสติคอยระมัดระวัง กาย วาจา จิต อยู่เสมอๆ คอยระวังเรื่องต่างๆ ระมัดระวังไปเรื่อยๆ แต่ไม่ได้หมายความว่าเราต้องเที่ยวประกาศ ห้ามใครมาติชมเรา ที่ว่าระวังนั้น คือ เมื่อมีเรื่องมากระทบให้รู้ทัน ในทันที เราจะห้ามจิตไม่ให้หวั่นไหวไปไม่ได้ แต่ให้ระวัง ต้องควบคุมจิตด้วยสติให้ถี่ๆ กระชับสติสัมปชัญญะให้มันถี่เข้ามา จะได้ไม่หวั่นไหวกับคำพูดเสียดแสงใจต่างๆ” ปรับใช้ในชิวิต โดยต้องกำหนดรู้ความรู้สึกในใจ รู้ว่าคิดดี คิดชั่ว คอยเตือนตนรู้จักพิจารณาการทำงานด้วยสติมากขึ้น ความผิดพลาดก็ไม่เกิด ระมัดระวังวาจาไม่พูดออกไปด้วยอารมณ์ ระลึกเห็นโทษของมันว่าจะทำใครต้องขุ่นเคือง สำรวมจิตไม่ให้โกรธเมื่อมีคนมาทำให้เราไม่พอใจ ระลึกให้เห็นโทษของมัน เราก็จะระวังไม่ให้มันเกิด ไม่กำหนัดยินดีกับผัสสะที่เข้ามากระทบ เพ่งพิจารณาว่าเป็นความสุขชั่วคราวอันไม่เป็นแก่นสาร พอใจกับสิ่งที่ตนมี ตนเป็น มีสติเตือนตนสำรวมจิตให้ตั้งอยู่ในปัจุบันนี้ ไม่ไปคิดในเรื่องอดีตที่ล่วงมาแล้ว เมื่อเป็นความผิดพลาดก็เก็บมาทุกข์เศร้า หรือเรื่องอนาคตไปคิดล่วงหน้า คาดการณ์ แล้วมาเชื่อเป็นสัญญาอารมณ์ พอไม่ได้ไม่มี ไม่เป็น ก็เกิดเป็นทุกข์ หาประโยชน์จากมันไม่ได้เลย
     
  18. jaetechno

    jaetechno เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    1,888
    ค่าพลัง:
    +6,182
    อนุโมทนาครับในธรรมทาน***ว่ากำลังพิจารณาว่าจะปิดกะทู้ดีไหมเพราะคนเงียบๆ(ปิดก่อนกำหนด)
     
  19. 19ETA

    19ETA สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    18
    ค่าพลัง:
    +12
    ๑.กรรมฐาน ๔๐ กอง ชอบ พรหมวิหาร ๔และจาคาฯ ค่ะ ชอบเพราะเป็นคนที่คิดมากคิดเล็กคิดน้อย ขี้หงุดหงิด เอาแต่ใจ อารมณ์ร้อนมานะ อหังการ์จัดค่ะ วิธีปฏิบัติในชีวิตประจำวัน คือ ปฏิบัติสติปัฏฐาน๔เป็นประจำทุกวัน เว้นช่วงมีรอบเดือน หรือช่วงที่จิตใจตึงไป – กิเลสก่อกวนหนัก – จิตใจฟุ้งซ่าน จะเว้นช่วงเพื่อปรับจิตพักตั้งรับแล้วเริ่มใหม่ค่ะ และเมื่อเจอเหตุการณ์ต่างๆมากระทบ ก็ทำความรู้ตัว และเจริญพรหมวิหาร ๔ ไปด้วย เช่นกำลังจะโกรธก็กำหนดรู้ค่ะ ถ้าไม่อยากตัดก็จะตามดูต่อว่าจะโกรธไปถึงไหน แต่ปกติถ้าไม่อยากดูส่วนใหญ่กำหนดก็ตัดเลยค่ะ เป็นต้น ส่วนจาคาฯ เพราะเป็นคน ไม่ใช่คนงกค่ะ แต่ว่ามีข้อเสียเรื่องใช้เงินเก่ง ใช้เงินไม่พอ เลยหวงกลัวทำบุญแล้วตัวเองจะไม่พอใช้ ก็นำจาคาฯมาใช้ เจอขอทานที่ไหน ตู้ไหน กล่องไหน บริจาคไม่เลือกค่ะ แรกๆก็ตัดใจให้ ต่อมาจิตใจยกระดับเป็นเต็มใจให้ และก็กลายเป็นพอวันหนึ่งๆไม่เจอที่จะให้ ก็กลายเป็นต้องออกจากบ้านไปหาที่ให้เลยทีเดียว ฝึกสะสมเงินเป็นทานบารมีทุกวันห้ามบิดพลิ้วโดยมีกระปุกแยกไว้ต่างหาก เป็นต้นค่ะ<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
    ๒.โทสจริต และวิตกจริต เพราะเป็นคนมีนิสัยอย่างที่บอกไปข้อแรก บวกกับขี้หงุดหงิดเอาแต่ใจ อาจจะเพราะเป็นคนที่ทำอะไรเร็ว ได้หมด เจอใครทำอะไรก็ไม่ทันใจ ไม่พอใจไปเสียหมด หรือเวลาทำอะไรก็คิดมากกว่าคนโน้นคนนี้จะพอใจหรือไม่พอใจ ดีพอไหม ก็นำพรหมวิหาร ๔ และสติปัฏฐาน๔เข้ามาช่วยดูแล ทำความรู้ตัวเวลามีเหตุการณ์เข้ามากระทบค่ะ ขณะที่ได้ยินเสียงที่ไม่พอใจก็กำหนดเสียงว่าสักแต่เป็นเสียง แล้วก็พิจารณาว่าเขาเป็นเพื่อนเราอย่างน้อยที่สุดก็เป็นเพื่อนมนุษย์ร่วมสังสารวัฏกับเรา เข้าใจเขา รักเขา มีเมตตา หากงานการสิ่งไร ที่เขาทำไม่ได้ก็เข้าไปช่วยเหลือดูแล โดยไม่มาคิดเล็กคิดน้อยว่านี่ไม่ใช่หน้าที่ฉันนะ แค่นี้ทำไมทำไม่ได้กันนะ ช่วยเหลือหวังให้เขาพ้นทุกข์พ้นกังวล เป็นต้น เมื่อทำเสร็จแล้วก็ไม่ได้หวังผลตอบแทน เมื่อเขาขอบใจก็รับในน้ำใจ นึกว่าเขาเป็นเพื่อนเป็นเราเอง ไม่นึกเป็นอื่นไม่มีเขามีเรา แต่ถ้าปรี๊ดจริงๆก็กำหนด ถ้าว่างมากก็มีบ้างที่ตามดูตัวโกรธ ไม่ว่างก็ตัดค่ะ แล้วก็แผ่เมตตาเป็นประจำ ถ้าเรื่องไหนเกินกำลังจะเยียวยา ก็วางอุเบกขาค่ะ<o:p></o:p>
    ๓.หลวงพ่อฤาษีลิงดำ หลวงปู่สด หลวงพ่อจรัญฯ ฯลฯ<o:p></o:p>
    ๔.อะไรก็ได้ค่ะ ขอให้ได้ตามกำลังกุศลที่เหมาะสมกับเรา
    <o:p> </o:p>
    ขอโมทนาและอนุโมทนาในกุศลที่ท่านได้ทำด้วยค่ะ ^^
    บุญรักษาและเจริญในธรรมค่ะ<o:p></o:p>
     
  20. Kiattisak01

    Kiattisak01 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    59
    ค่าพลัง:
    +66
    1. ผมชอบอาปานนุสติฯ พุทธานุสสติฯ และ มรณานุสติฯ อาปานนุสติฯก็คือการกำหนดลมหายใจเข้าออก พุทธานุสติฯ เป็นการระลึกคุณพระพุทธเจ้า มรณานุสติฯ คือ นึกถึงความตายเป็นอารมณ์ ผมจะเริ่มจากอาปานนุสติฯ เพราะกรรมฐานเกี่ยวกับลมหายใจ ต้องรู้ลมหายใจก่อน และการกำหนดลมหายใจและสัมพันธ์กับทุกกรรมฐาน กำหนดระลึกถึงพระพทธองค์ พุทโธ กำหนดรู้ทุกลมหายใจ ออกให้รู้ว่าออก เข้าให้รู้ว่าเข้า พยายามไม่นึกคิดสิ่งใด ไม่ใส่ใจกับสิ่งที่มากระทบ จิตเป็นผู้รู้ สติสัมปชัญญะคอยกำกับจิตไว้ มารวมอยู่ในจุดเดียว คือ พุทโธ บางช่วงเมื่อจิตเกิดสมาธิแล้ว ว่างแล้ว ก็น้อมจิตมาพิจารณาสังขารร่างกาย เป็นมรณานุสติฯ มองเห็นสภาพของสังขารร่างกายว่ามีความตายเป็นปกติทุกเวลา ความตายไม่มีใครหนีพ้น เพ่งไปที่ ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง เป็นต้น ไม่ยึดติดในรูป สังขาร ประโยชน์ของมรณานุสติฯ การนึกถึงความตายทำให้เป็นเราไม่ประมาท เพราะรู้ตัวว่าจะต้องตาย จะได้เพียรทำความดีละความชั่ว ไม่ยึดติดกับธาตุขันธ์ที่เป็นที่อาศัยเพียงชั่วคราว
    ในชีวิตประจำวันที่ผมนำไปปฏิบัติก็คือ อาปานนุสติฯ การกำหนดลมหายใจเข้าออก ผมจะทำในทุกเวลา ให้รู้ปัจจุบันขณะว่าเราทำอะไร ระหว่างทำงานก็จะกำหนดลมหายใจเข้าออก ให้เกิดสมาธิ เมื่อเรามีสติ ก็เกิดปัญญา การทำกิจการงาน สามารถแก้ปัญหาในหน้างานได้ดี ขับรถไปที่ต่างๆก็รอบคอบปลอดภัย รู้ทันในสิ่งที่มากระทบอายตนะภายใน เวลาว่างจากงานในช่วงวันก็จะภาวนาระลึก พุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ จิตใจเราก็จะสงบสว่างไสว หลังกลับจากทำงาน ผมก็จะทำสมาธิในห้องพระ สวดภาวนา ทำให้จิตรวมเป็นหนึ่งเดียว ใช้การภาวนาถึงพระพุทธองค์เป็นตัวกำหนดจิต หากวันหยุดจะนั่งฟังธรรมะบ้างแล้วก็ใช้สมาธิพิจารณาตามไปเพื่อพัฒนาระดับภูมิจิต หรือพาครอบครัวไปทำบุญที่วัด และหาที่สงบนั่งสมาธิตามสมควร ระลึกถึงมรณานุสติฯ ว่าความตายเป็นธรรมดา ไม่มีใครหนีพ้น เพื่อจะไม่ประมาทในชีวิต ควรหมั่นทำบุญ รักษาศีล จะได้เตรียมเสบียงบุญไว้เลี้ยงตัวให้พร้อม

    2.ส่วนตัวผมมีโทสจริตครับ จึงนำ พรหมวิหาร ๔ วิธีมาปฏิบัติ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา เช่น เมื่อมีคนมาทำให้โกรธ เช่นมาขับรถปาดหน้าเรา ผมก็จะแผ่เมตตา พยายามคุมอารมณ์ไว้ตลอดวัน ระลึกภาวนาคุณพระพุทธองค์ให้ใจสงบ คิดเห็นเหมือนเขาเป็นญาติเป็นเพื่อน หากคนที่ปาดหน้าเราบังเอิญเป็นเพื่อนเราเป็นพี่น้องเรา เราก็คงไม่โกรธเขา กรุณา ความสงสารปรานี เมื่อเจอพวกมาหลอกขอเงิน พวกเดินชนตังค์ ให้เงินไปแล้วก็ไม่นึกโกรธ เขาคงลำบากมาก ไม่งั้นคงไม่ทำมาหากินแบบนี้ มุทิตา เห็นเพื่อนร่วมงานได้รับคำชม ก้าวหน้าในหน้าที่การงานมากกว่า ก็ไม่โกรธไม่อิจฉา ยินดีในความสำเร็จด้วยใจเราก็ไม่ต้องแบกทุกข์ อุเบกขา การทำใจเป็นกลางวางเฉย เมื่อเราคิดว่างานที่เราทำไปแล้วเต็มกำลังความสามารถแล้ว ไม่ประสบความสำเร็จตามหวัง เราก็ไม่โกรธเสียใจ ตั้งสติมีอารมณ์เป็นกลางวางเฉยมาปฏิบัติ พิจารณาว่าสิ่งทั้งหลายมีเหตุเกิดที่ต่างกัน หรือจากการปฏิบัติที่แตกต่างกันไป ผลที่ออกมาจึงมีความแตกต่างกันไปเป็นธรรมดา

    3.ผมขอรับผงอังคารหลวงปู่เจี๊ยะ จุนโท ครับ

    4.ผมนับถือหลวงพ่อพุธ ฐานิโย คำสอนของท่านที่ทำให้ผมประทับใจและจดจำนำมาใช้ในชีวิต “ สิ่งใดที่เรารู้เท่าทัน สิ่งนั้นไม่สามารถที่จะดึงใจของเราไปทรมานให้เกิดทุกข์ขึ้นได้” โดยวิธีนำไปปฏิบัติ ที่ผมได้นำมาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน คือ ผมพยายามฝึกตนเองให้มีสมาธิมากขึ้น ให้มีสติปัญญารู้เท่าทัน พิจารณาทุกสิ่งทุกอย่างที่มากระทบ ด้วยความตั้งใจ ด้วยความมีสติ ทำสติให้มีกำลังขึ้น ให้สามารถรู้ทันความคิดของเราเอง คิดอะไร คิดด้วยความรู้เท่าทัน ทำให้สิ่งที่เราคิดนั้น ไม่สามารถดึงเอาจิตใจของเราให้ไปเกิดทุกข์ได้ ยกตัวอย่างเหตุการณ์ต่างๆจากประสบการณ์ เช่น เมื่อมีใครมานินทาด่าเรา เรากำหนดรู้ด้วยสติว่า คำด่านั้นเป็นสิ่งเร้า ที่มากระทบใจเราผลคือ ความไม่พอใจ ความโกรธ อยากตอบโต้ แต่สติคอยจ้องดูอยู่ ทำให้เรารู้เท่าทันอารมณ์ที่ผ่านเข้ามา เห็นโทษของมันที่ทำให้เกิดเป็นทุกข์ ทำจิตให้ขุ่นมัว เราก็หยุดมันเสียไม่ให้เกิดขึ้น

    ปล. ยังมีวาสนาได้มาร่วมใช้ปัญญาธรรม มาทันก่อนท่านปิดกระทู้ อานิสงส์ของการนั่งสมาธิตอนดึกที่เงียบสงบโดยแท้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กุมภาพันธ์ 2012
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...