ดนตรีนั้นสำคัญอย่างนี้

<DD></DD><DD><DD><DD><DD> <DD>ดนตรี เป็นสิ่งที่มนุษย์ทุกคนชอบ เพราะดนตรีมีสีสันความงดงามทำให้ทุกคนเกิดความสุขความเพลินเพลินได้เวลาที่ฟัง ดนตรีสามารถนำมารักษาโรคได้ <DD><DD>เนื่องจาก การวิจัยในและต่างประเทศ ในช่วง 60 ปี ที่ผ่านมาพบว่าดนตรีสามารถรักษาโรคได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งระดับเสียง ,ความดัง และความเร็วของจังหวะที่ได้ยิน จะทำให้บุคคลนั้นมีสภาพร่างกายที่ดีหรือเลวก็ได้ <DD><DD> <DD>เป็นต้นว่า ถ้าได้ฟังเพลงจังหวะที่ช้า ผ่อนคลายสบาย ระดับเสียงปานกลาง นุ่มนวล จะรู้สึกผ่อนคลายสบาย ๆ แต่ถ้าฟังเพลงจังหวะเร็ว ดังมาก หรือความเข้มระดับเสียงที่สูง จะทำให้คนป่วยได้ <DD> <DD><DD>มีรายงานทางอินเตอร์เน็ต เมื่อเดือนสิงหาคม 2548 พบว่าเครื่องเสียงในรถยนต์ที่มีกำลังมาก ดังมาก มีความแรง กระทบกับผู้ฟัง ทำให้ปอดฉีกได้หรือทำให้หัวใจวายตายได้ด้วย <DD> <DD>ฉะนั้น การฟังเสียงดังมาก ๆ จะเกิดคลื่นเสียงอัดผ่านอากาศเข้าไปในตัวเราได้ และทำให้ช่องอากาศในปอดเกิดความดันขึ้นทะลุได้





<DD>


<DD>การร้องเพลงเพื่อสุขภาพ ต้องเก็บกักลมหายใจ ให้ถูกต้อง นิ่งอย่างมีสมาธิ ถ้าร้องเพลงเพื่อสุขภาพเพื่อบำบัดรักษาให้มีภูมิคุ้มกันเพิ่มขึ้น ให้มีพลังมากขึ้นจะต้องมีสมาธิในการร้องเพลง ทำจิตใจให้ผ่องแผ่ว ปลอดโปร่ง โดยการหลับตา นั่งให้สบาย ดึงความคิดความกังวล ความเครียดพัก 1 นาที รับรู้ลมหายใจที่ผ่านเข้าออกทางจมูกตลอดเวลา




<DD>จากการศึกษาวิจัยทั้งในและต่างประเทศ ยืนยันว่า การฝึกสมาธิทำให้เกิดภูมิต้านโรค ทำให้จิตใจ สุขสงบ ผ่อนคลาย มีสติ ความนึกคิดที่เป็นระบบที่ดี นำมารักษาโรคร่วมกับการรักษาทางการแพทย์

การร้องเพลง ควรไม่คิดเรื่องอื่นเลย ร่างกายจะหลั่งสารแผ่วความสุขออกมาทำให้ภูมิต้านทานโรค มีกลไกการตอบสนองต่อเสียงเพลง เสียงร้อง ช่วยให้สุขภาพแข็งแรง
<DD>
<DD><DD>มีรายงานว่า น้ำในตัวเราหรือน้ำดื่มสามารถตอบสนองต่อเสียงเพลงได้ ทำให้น้ำนี้มีพลังขึ้น เนื่องจากว่า น้ำสามารถตอบสนองต่อคลื่นของเสียงที่มีคุณภาพได้ น้ำจะเปลี่ยนประจุเกิดพลัง เมื่อเราใช้ดื่มจะช่วยบรรเทาอาการรักษาโรคได้ <DD> <DD><DD>จากการวิจัยพบว่า น้ำที่ผ่านการสวดมนต์หรือเสียงเพลงเข้าไป เมื่อนำไปตกผลึก ซึ่งผลึกนั้นจะเกิดความสวยงาม ส่วนนี้ในตัวเราจะเป็นน้ำอยู่ 2 ใน 3 ส่วนของร่างกาย <DD> <DD>ถ้าเราร้องเพลงหรือฟังเพลงที่มีคุณภาพ ตั้งสมาธิ สติ ให้ดีในช่วงร้องเพลงหรือฟังเพลง ทำให้น้ำในร่างกายมีพลังขึ้น เรามีกำลังต่อสู้ กำลังใจ ต่อสู้อุปสรรคต่าง ๆ สุขภาพดีขึ้น<DD> <DD>



</DD>
<DD>ถ้าเราฟังเพลงที่มีขนาดของจังหวะเพลง เท่ากับอัตราการเต้นของหัวใจในภาวะปกติไม่ดังเกินไปจะทำให้เกิดความรู้สึกผ่อนคลาย เพลิดเพลิน สุขภาพดี


<DD><DD>ในการเลือกเพลงที่จะร้อง ควรเลือกเพลงที่มีจังหวะงดงาม ไพเราะ ง่ายต่อการร้องใกล้เคียงกับระดับเสียงของเราด้วย การร้องเพลงโชว์บนเวทีกับการร้องเพลงเพื่อสุขภาพจะไม่เหมือนกัน การร้องเพลงบนเวที ต้องซ้อม ทั้งท่วงท่า การร้องไม่ให้ผิดเลย คนฟังจะชื่นชม <DD> <DD><DD>แต่การร้องเพลงเพื่อสุขภาพ จะร้องให้เรามีความสุข พอใจ ร้องในเวลาที่อยากจะร้อง เงียบสงบในเวลาว่าง ตั้งใจเพื่อบำบัดตัวเราเองหรือคนใกล้ตัว คนที่เรารักให้มีความสุข มีสุขภาพที่ดี มีภูมิต้านทานโรคเพิ่มขึ้นมีความคิดที่เป็นระบบ มีสติร้องอย่างตั้งใจ ห่วงใย <DD> <DD>ด้วยความรักที่อยากให้คนนั้นได้ฟัง จะต้องเลิกเพลงที่เราชอบมาก และร้องได้ดี ร้องหลาย ๆ เที่ยว เทคนิคในการร้องเพลงทำให้สุขภาพดีควรจะร้องในที่มีอากาศถ่ายเทได้ดี <DD> <DD><DD>เช่น ใต้ต้นไม้ใหญ่ในเวลาเที่ยงตรง เพราะในช่วงนั้นต้นไม้ปล่อยออกซิเจนออกมามาก ดวงอาทิตย์จะแผ่รังสีแสงออกมาก จะมีกำลังมาก ถ้าเรานั่งแล้ว เท้าวางบนพื้นดิน จะมีไอดินออกมาด้วย อากาศจะบริสุทธิ์ ช่วยในการรักษา<DD> <DD>ขณะที่ร้องเพลง 3 เพลงติดต่อกัน เราจะต้องหายใจมากขึ้น จะสูดอากาศบริสุทธิ์สุขภาพจะดีขึ้น เราจะได้รับพลังจากต้นไม้ แสงอาทิตย์ พื้นดิน และพลังจากเสียงดนตรีจิตที่ขัดเกลาแล้ว จิตที่มีสมาธิร่วมกับการ้องเพลงอย่างมีคุณภาพจะทำให้มีสุขภาพที่ดีขึ้น <DD> <DD> <DD><DD><DD><DD> <DD> <DD>โดยเฉพาะยิ่งในช่วงสุดท้ายของชีวิต ใช้วิธีการรักษาหลายแบบเข้ามาผสมผสาน ใช้ธรรมชาติบำบัด และดนตรีบำบัดจะสำคัญมากในช่วงนี้ ไม่ว่าวิธีใดในการรักษาผู้ป่วย <DD> <DD><DD>ล้วนแต่เป็นวิธีที่มีประโยชน์ทั้งนั้น แต่ต้องใช้วิจารณญาณในการตัดสินและเลือกผสมผสาน เข้าไปให้เข้ากับธรรมะหรือคำสอนของศาสนามาใช้ดูแลผู้ป่วยจะได้ประโยชน์ที่สุด และต้องมีจิตใจที่ดีมีธรรมะก่อน จะนำมาใช้ผสมผสานกับวิธีต่าง ๆ ได้ <DD> <DD><DD>
ประโยชน์ของการร้องเพลง

- ฝึกอวัยวะที่ใช้ในการพูด การหายใจ
<DD>
<DD>- สร้างความสุข ความพอใจ <DD> <DD>- ฝึกการแสดงออก สร้างความมั่นใจ <DD> <DD>- ฝึกสมาธิ การฟัง การใช้ภาษา <DD> <DD><DD>การร้องเพลง ไม่จำเป็นต้องเป็นนักร้องอาชีพ ควรร้องเพลงด้วยความรู้สึกที่แท้จริงว่ามีความสุขใจ แล้วจะรักษาตัวเองได้ <DD> <DD><DD>สำหรับเด็กอายุ 4 – 7 ปี ควรปรบมือให้เข้ากับจังหวะ หรือใช้เครื่องเขย่า ไม่ควรบังคับให้เด็กเล่นเครื่องดนตรียาก เช่น เปียโน จะทำให้เด็กเครียด



<DD>การฟังเพลง ถ้าฟังโดยไม่คิดอะไรวอกแวก ตั้งใจฟังมีสมาธิต้องไม่มีอารมณ์มาแทรกภายใน 2 – 3 นาที ที่เพลงบรรเลงจิตจะนิ่งขึ้น เกิดความสงบ

<DD>
<DD>

<DD>


<DD>ประโยชน์การเคลื่อนไหวร่างกายร่วมกับการฟังเพลง

- บริหารสมองสร้างความสมดุลทั่วร่างกายและจิตใจ
<DD>
<DD>- ฝึกการประสานงานของประสาทมองเห็น การมองเห็น การรับฟังและการเคลื่อนไหว <DD> <DD>- เพิ่มองศาและกำลังของการเคลื่อนไหว

การฟังเพลงที่มีท่วงทำนองที่ไพเราะ นุ่มนวล มีชีวิตชีวา สร้างสรรค์ ให้ความหมายที่ดี นอกจากเพลงที่ชอบฟังเป็นประจำแล้ว หากมีเวลาควรฟังเพลงให้ได้หลากหลายประเภท และไม่ควรฟังเพลงพร้อมกับทำงานที่ต้องใช้ความคิด อาจได้งานที่ไม่มีประสิทธิภาพพอ
<DD>


<DD>

<DD>เด็กที่อยู่ในครรภ์มารดาประมาณ 6 เดือน สามารถตอบสนองเสียงเพลงได้ยินจนกระทั่ง 7 ขวบ เป็นช่วงที่ประสาทหูมีการพัฒนาได้ดีที่สุด ฉะนั้นในช่วงอายุ 4 – 7 ปี ได้ฟังแต่เสียงที่มีคุณภาพ เสียงเพลงที่มีความไพเราะ เสียงพูดคุยต่าง ๆ เสียงธรรมชาติ เสียงที่ดี <DD> <DD><DD>หลีกเลี่ยง เสียงที่มลภาวะเป็นพิษ ทำให้ใยประสาทในสมองเพิ่มขึ้น ทำให้เกิดความฉลาด ความรู้สึกทางด้านจิตสำนึก จิตวิญญาณดีมีคุณภาพ <DD><DD> <DD>ดังนั้น เด็กช่วงอายุ 4 – 7 ปี เป็นช่วงอนุบาล จะมีกิจกรรมที่เป็นดนตรี เป็นส่วนมาก แต่ไม่ใช่ให้เด็กช่วงนี้ ไปเรียนดนตรี หรือบังคับไปโรงเรียนดนตรี ทำการบ้านเกี่ยวกับดนตรีอย่างขะมักเขม้น รวมถึงสอบแข่งเปียโน เพราะเป็นการทำร้ายจิตใจเด็ก จะปิดกั้นความคิดของเด็ก <DD> <DD><DD>การที่จะให้เด็กเรียนดนตรี ควรเลียนแบบพ่อแม่ เช่น พ่อแม่สอนร้องเพลง หรือฟังเพลงกับลูก แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว เพราะสัญชาตญาณของมนุษย์ ชอบฟังเพลงอยู่แล้ว และมนุษย์มีจังหวะในตัว คือการเต้นของหัวใจ ตอบสนองต่อเสียงดนตรี แต่ให้เด็กค่อยเป็นค่อยไป อย่าบังคับ จะทำให้เด็กเกลียดดนตรี<DD> <DD>



จากการวิจัยพบว่า ดนตรีสามารถรักษาความเจ็บป่วยได้ ในเรื่องของการลดความเจ็บปวด การทุกข์ทรมานในโรคมะเร็ง ดนตรีที่มีคุณภาพสามารถช่วยบรรเทา ความเจ็บปวดหลังการผ่าตัดลดความเจ็บปวดในผู้ป่วยมะเร็ง ผู้ป่วยมะเร็งเรื้อรัง ผู้ป่วยใกล้เสียชีวิตทำให้สบายใจขึ้น มีสติ มีความสงบ จากโลกนี้ไปด้วยความสุข
<DD>
<DD><DD>โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การวิจัยของคนไทย ที่ทำมากคือ การใช้ดนตรีในห้องไอซียู ทำให้คนไข้ในไอซียูนอนหลับได้ดีขึ้น นานขึ้น การนอนหลับนาน จะทำให้โรคหายเร็วขึ้น <DD>


<DD>ผลการฟังเพลงจะเกิดการเปลี่ยนแปลง ทั้งร่างกายและจิตใจ ในสมองของเราส่วนที่เป็น ธาลามัส Cerebral Cotex จะรับเสียงดนตรีเข้าไป ส่งผ่านทางด้านร่างกายระบบประสาทอัตโนมัติ ทำให้ระบบประสาทอัตโนมัติเกิดการเปลี่ยนแปลงทั้งดีและไม่ดีขึ้นอยู่คุณภาพเพลงที่ฟัง </DD>



<DD><DD>และยังค้นพบว่า ในห้องพักของอาชญากรที่ฆ่าคนตายหลายสิบศพ มีซีดีเพลงเป็นเฮฟวี่เพลงร็อค เพลงเสียงดัง แรง เร็ว มาก <DD><DD> <DD>ผลทั้งทางด้านร่างกายจิตใจ ทำให้อัตราการหายใจ อัตราการเต้นของหัวใจความดันโลหิตเปลี่ยนแปลงไปตามเสียงที่ได้ยิน </DD>


<DD> <DD><DD>เสียงสูง ดัง เร็ว จะทำให้ตื่นเต้นตกใจ หัวใจเต้นเร็วขึ้น เหนื่อยมากขึ้นได้ เช่น เสียงตวาด เสียงคนทะเลาะกัน เสียงแตรรถบีบเร่งเร้า เสียงมอเตอร์ไซด์เร่งคันเร่ง จะทำให้เกิดความเจ็บป่วยถ้าหากได้ฟังนาน ๆ และทั้งด้านจิตใจมีการเปลี่ยนแปลงทางด้านอารมณ์ สติ ความนึกคิด

ระดับเสียงที่ควรหลีกเลี่ยงคือ ระดับเสียงที่มีความดังเกิน 80 เดซิเบล ทำให้เกิด ความเครียด ความเหนื่อย ทำลายโรคประสาทแก้วหู หูหนวก ปอดฉีกได้
<DD><DD> <DD>เช่น เสียงของโทรศัพท์มือถือที่ไม่ใช่เสียงเพลง เป็นเสียงแหลม ๆ ถ้าฟังวันละหลาย ๆ รอบ อาจเป็นอันตรายได้ ควรฟังเพลงจังหวะให้ใกล้เคียงกับจังหวะการเต้นของหัวใจในภาวะปกติ คือ 70 – 80 ครั้งต่อนาที

<DD>
<DD>
<DD>ประโยชน์ของการฟังเพลง


<DD>1. ทำให้มีความสุข และเพลิดเพลิน <DD> <DD>2. ลดความเจ็บปวด <DD> <DD>3. มีสติความนึกคิดอารมณ์ที่ดี <DD> <DD>4. ทำให้ผ่อนคลาย ลดความกังวล


<DD>ข้อแนะนำการฟังเพลง

- จังหวะ ช้า ๆ ปานกลาง, เร็ว,กระชับ
<DD>
<DD>- ทำนองเพลงไพเราะ อ่อนหวาน,สนุกมีชีวิตชีวา สดชื่น ร่าเริง แจ่มใส <DD> <DD>- เสียงนักร้อง ระดับปานกลางชวนฟัง ทุ้ม นุ่ม ใส กังวาน ชัด <DD> <DD>- เครื่องดนตรี ไวโอลิน กีต้าร์ เปียโน ขิม ที่เล่นด้วยมนุษย์ เสียงจะแน่น<DD>

มีจิตวิญาณของคนเล่น ทำให้เกิดความรู้สึกละเอียดได้จากการถ่ายทอด ประเภทเพลงบรรเลง เพลงร้องที่เนื้อหาไม่ต้องคิดมาก ทำให้มีความสุข
<DD>


ปัจจัยที่ทำให้ฟังเพลงแล้วมีความสุข ต้องขึ้นอยู่กับอายุคนฟัง ถ้าอายุมาก ๆ ต้องฟังเพลงที่เขาชื่นชอบ หรือเป็นเพลงในยุคที่เขาระลึกถึงความหลัง จะมีความสุขได้หรือเป็นเด็กวัยทีน
<DD>
<DD>จะมีเมตบอสิซึมสูง พร้อมจะมีแอคชั่นแรง จะฟังที่มีจังหวะเร็วแต่มีคุณภาพ การฟังเพลงต้องขึ้นอยู่กับ การรับรู้ การรับคลื่นได้ด้วย เช่น คนโรคจิตหรือคนที่ไม่รับรู้ จะไม่มีประโยชน์
<DD>


<DD>ประโยชน์ของการร้องเพลง

- ฝึกอวัยวะที่ใช้ในการพูด การหายใจ
<DD>
<DD>- สร้างความสุข ความพอใจ <DD> <DD>- ฝึกการแสดงออก สร้างความมั่นใจ <DD> <DD>- ฝึกสมาธิ การฟัง การใช้ภาษา

ควรร้องเพลงไม่จำเป็นต้องเป็นนักร้องอาชีพ ควรร้องเพลงด้วยความรู้สึกที่แท้จริงว่ามีความสุขใจ แล้วจะรักษาตัวเองได้
<DD>

<DD>อายุ 4 – 7 ปี ควรปรบมือให้เข้ากับจังหวะ หรือใช้เครื่องเขย่า ไม่ควรบังคับให้เด็กเล่นเครื่องดนตรียาก เช่น เปียโน จะทำให้เด็กเครียด


<HR style="WIDTH: 567px; HEIGHT: 2px" SIZE=2>



<DD>เรียบเรียงโดย งานถ่ายทอดเทคโนโลยี กองการแพทย์ทางเลือก


<DD>

​

เชิญเพลินเพลงสุนทราภรณ์​

​

​

ฟังเพลงได้ที่นี่ ​

http://phrapiyaroj.com/soontra1/​

​

</DD>

 

อนุโมทนา....สาธุ...กับความรู้ท่ีได้รับจร้า....................

 

ขอบคุณมากครับ