รูปหล่อรูปปั้นไม่ใช่พระพุทธรูป

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย อุรุเวลา, 16 กุมภาพันธ์ 2012.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,489
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    เพราะสิ่งนี้มี สิ่งนี้จึงมี
    เพราะความเกิดขึ้นแห่งสิ่งนี้ สิ่งนี้จึงเกิดขึ้น
    เพราะสิ่งนี้ไม่มี สิ่งนี้จึงไม่มี
    เพราะความดับไปแห่งสิ่งนี้ สิ่งนี้จึงดับไป
     
  2. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,489
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    พระไตรปิฎก ฉบับบาลีสยามรัฐ (ภาษาไทย) เล่มที่ ๔ หน้าที่ ๑๗๓/๓๐๔

    เรื่องสมมติโรงอุโบสถ
    [๑๕๗] ก็โดยสมัยนั้นแล ภิกษุทั้งหลายสวดปาติโมกข์ตามบริเวณวิหาร โดยมิได้
    กำหนดที่. พระอาคันตุกะทั้งหลายไม่รู้ว่า วันนี้พระสงฆ์จักทำอุโบสถที่ไหน จึงพากันกราบทูล
    เรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาค. พระผู้มีพระภาครับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุ
    ไม่พึงสวดปาติโมกข์ตามบริเวณวิหาร โดยมิได้กำหนดที่ รูปใดสวด ต้องอาบัติทุกกฏ.
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้สมมติวิหาร เรือนมุงแถบเดียว เรือนชั้น เรือนโล้น
    หรือถ้ำ ที่สงฆ์จำนงให้เป็นโรงอุโบสถแล้วทำอุโบสถ.
    วิธีสมมติโรงอุโบสถ
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็แล พึงสมมติโรงอุโบสถอย่างนี้.
    ภิกษุผู้ฉลาด ผู้สามารถ พึงประกาศให้สงฆ์ทราบด้วยญัตติทุติยกรรมวาจา ว่าดังนี้:-
    กรรมวาจาสมมติโรงอุโบสถ
    ท่านเจ้าข้า ขอสงฆ์จงฟังข้าพเจ้า ถ้าความพร้อมพรั่งของสงฆ์ถึงที่แล้ว สงฆ์พึง
    สมมติวิหารมีชื่อนี้ให้เป็นโรงอุโบสถ. นี้เป็นญัตติ.
    ท่านเจ้าข้า ขอสงฆ์จงฟังข้าพเจ้า สงฆ์สมมติอยู่บัดนี้ ซึ่งวิหารมีชื่อนี้ ให้เป็น
    โรงอุโบสถ. การสมมติวิหารมีชื่อนี้ให้เป็นโรงอุโบสถ ชอบแก่ท่านผู้ใด ท่านผู้นั้นพึงเป็น
    ผู้นิ่ง ไม่ชอบแก่ท่านผู้ใด ท่านผู้นั้นพึงพูด.
    วิหารมีชื่อนี้อันสงฆ์สมมติให้เป็นโรงอุโบสถแล้ว ชอบแก่สงฆ์ เหตุนั้นจึงนิ่ง
    ข้าพเจ้าทรงความนี้ไว้ ด้วยอย่างนี้.


    ----
    ภิกษุสงฆ์สมมติโรงอุโบสถ ใช้เป็นสถานที่สำหรับภิกษุใช้สวดปาติโมกข์ จะเป็นเรือน เป็นวิหาร หรือถ้ำก็ได้
     
  3. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,489
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    พระไตรปิฎก ฉบับบาลีสยามรัฐ (ภาษาไทย) เล่มที่ ๔ หน้าที่ ๑๗๕/๓๐๔

    สมมติโรงอุโบสถเล็กเกินขนาด
    [๑๕๙] ก็โดยสมัยนั้นแล ในอาวาสแห่งหนึ่ง สงฆ์สมมติโรงอุโบสถเล็กเกินขนาด.
    ถึงวันอุโบสถ ภิกษุสงฆ์ลงประชุมกันมาก. ภิกษุทั้งหลายต้องนั่งฟังปาติโมกข์ในพื้นที่ซึ่งมิได้สมมติ
    ภิกษุเหล่านั้นจึงได้หารือกันว่า พระผู้มีพระภาคทรงบัญญัติไว้ว่า พึงสมมติโรงอุโบสถแล้ว
    จึงทำอุโบสถ ดังนี้ ก็พวกเรานั่งฟังปาติโมกข์ในพื้นที่ซึ่งมิได้สมมติ อุโบสถเป็นอันพวกเรา
    ทำแล้ว หรือไม่เป็นอันทำหนอ จึงพากันกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาค. พระผู้มีพระภาค
    รับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุนั่งในพื้นที่ซึ่งสมมติแล้วก็ตาม มิได้สมมติ
    ก็ตาม เพราะได้ฟังปาติโมกข์ ฉะนั้นอุโบสถย่อมเป็นอันเธอได้ทำแล้วเหมือนกัน ดูกรภิกษุ
    ทั้งหลาย เพราะเหตุนั้นแล สงฆ์จงสมมติพื้นที่ด้านหน้าโรงอุโบสถให้ใหญ่เท่าที่จำนง.
     
  4. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,489
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    พระไตรปิฎก ฉบับบาลีสยามรัฐ (ภาษาไทย) เล่มที่ ๔ หน้าที่ ๑๗๕/๓๐๔

    บุพพกรณ์และบุพพกิจในโรงอุโบสถ
    [๑๗๙] ก็โดยสมัยนั้นแล ในอาวาสแห่งหนึ่ง โรงอุโบสถรก. พวกพระอาคันตุกะ
    พากันเพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนาว่า ไฉนภิกษุทั้งหลายจึงไม่กวาดโรงอุโบสถเล่า. ภิกษุทั้งหลาย
    กราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาค. พระผู้มีพระภาคตรัสอนุญาตแก่ภิกษุทั้งหลายว่า ดูกรภิกษุ
    ทั้งหลาย เราอนุญาตให้กวาดโรงอุโบสถ.
    ครั้งนั้น ภิกษุทั้งหลายได้มีความปริวิตกว่า ภิกษุรูปไหนหนอพึงกวาดโรงอุโบสถ แล้ว
    จึงกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาค. พระผู้มีพระภาคตรัสอนุญาตแก่ภิกษุทั้งหลายว่า ดูกร
    ภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้ภิกษุเถระบัญชาภิกษุนวกะ.
    ภิกษุนวกะทั้งหลายอันพระเถระบัญชาแล้วไม่ยอมกวาด. ภิกษุทั้งหลายจึงกราบทูลเรื่องนั้น
    แด่พระผู้มีพระภาค. พระผู้มีพระภาครับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุไม่อาพาธ
    อันพระเถระบัญชาแล้ว จะไม่กวาดไม่ได้ รูปใดไม่กวาด ต้องอาบัติทุกกฏ.
    สมัยต่อมา ในโรงอุโบสถ ไม่มีใครปูอาสนะไว้. ภิกษุทั้งหลายนั่งที่พื้นดิน. ทั้งตัว
    ทั้งจีวร เปื้อนฝุ่น. ภิกษุทั้งหลายจึงกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาค พระผู้มีพระภาคตรัส
    อนุญาตแก่ภิกษุทั้งหลายว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้ปูอาสนะในโรงอุโบสถ.
    ครั้งนั้น ภิกษุทั้งหลายได้มีความปริวิตกว่า ภิกษุรูปไหนหนอ พึงปูอาสนะในโรงอุโบสถ
    แล้วกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาค. พระผู้มีพระภาคตรัสอนุญาตแก่ภิกษุทั้งหลายว่า ดูกร
    ภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้ภิกษุผู้เถระบัญชาภิกษุนวกะ.
    ภิกษุนวกะทั้งหลายอันพระเถระบัญชาแล้วไม่ปูอาสนะ. ภิกษุทั้งหลายจึงกราบทูลเรื่องนั้น
    แด่พระผู้มีพระภาค. พระผู้มีพระภาครับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุไม่อาพาธ
    อันพระเถระบัญชาแล้ว จะไม่ปูอาสนะไม่ได้ รูปใดไม่ปู ต้องอาบัติทุกกฏ.
    สมัยต่อมา ในโรงอุโบสถ ไม่ได้ตามประทีปไว้. เวลาค่ำคืนภิกษุทั้งหลายเหยียบกาย
    กันบ้าง เหยียบจีวรกันบ้าง แล้วกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาค. พระผู้มีพระภาคตรัสอนุญาต
    แก่ภิกษุทั้งหลายว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้ตามประทีปในโรงอุโบสถ.
    ครั้งนั้น ภิกษุทั้งหลายได้มีความปริวิตกว่า ภิกษุรูปไหนหนอพึงตามประทีปในโรงอุโบสถ
    แล้วกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาค. พระผู้มีพระภาคตรัสอนุญาตแก่ภิกษุทั้งหลายว่า ดูกร
    ภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้ภิกษุผู้เถระบัญชาภิกษุนวกะ.
    ภิกษุนวกะทั้งหลาย อันพระเถระบัญชาแล้วไม่ยอมตามประทีป. ภิกษุทั้งหลายจึงกราบทูล
    เรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาค. พระผู้มีพระภาครับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุ
    ไม่อาพาธอันพระเถระบัญชาแล้ว จะไม่ตามประทีปไม่ได้ รูปใดไม่ตามประทีป ต้องอาบัติทุกกฏ.

    ----
    พระพุทธเจ้าอนุญาตให้ภิกษุกวาดโรงอุโบสถ อนุญาตให้ปูอาสนะ อนุญาตให้จุดประทีป(เทียน) แต่ไม่มีพูดถึงรูปหล่อ รูปปั้น ผมคิดเอาเองว่า ถ้าเอารูปหล่อ รูปปั้นมาตั้งไว้ในโบสถ์ก็ไม่น่าจะผิด อ่านหนังสือคุรุวิพากษ์คุรุ คำนำโดย ท่าน ว.วชิรเมธี ท่านเขียนคำนำไว้ว่า "นี่ใครกันมานั่งอยู่ในโบสถ์"
     
  5. GenerationXXX

    GenerationXXX เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    562
    ค่าพลัง:
    +2,161
    สงสัยจะต้องเอาแบบอย่างอิสลามซะล่ะมั้งครับ เขาก็ไม่กราบไหว้รูปปั้น

    ถ้าคนเราเห็นสัจจะธรรมได้ละเอียดจนมองข้ามรูปภายนอกไปได้ทั้งหมดทุกคน พระพุทธรูปก็คงจะไร้ความหมายจริงๆ แต่คนเราเป็นอย่างนั้นไหมครับ ก็หวังว่าจะตาสว่างกันเร็วๆ นะครับ ปรามาสพระกันบ่อยๆ แล้วยังถือทิฐิมานะตัวเองเป็นใหญ่ มีแต่บาปกรรมพอกพูน เรื่องนี้จริงๆ ไม่ต้องไปสืบหาความจริงให้ยุ่งยากหรอกครับ แค่สามัญสำนึกก็บอกได้แล้วว่าสภาพจิตใจเป็นอย่างไรกัน ตั้งแต่เกิดมาก็ไม่เคยได้ยินว่าพระอริยะเจ้าที่ไหนไม่ไหว้พระพุทธรูป มีแต่จะยิ่งให้กราบไหว้บูชา เข้าใจครับว่าอยากจะรักษาพระศาสนา แต่การทำลายความดีของคนอื่น ใช่คนที่เขารักษาพระศาสนาจริงๆ หรือครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กุมภาพันธ์ 2012
  6. เพชรพญาธร

    เพชรพญาธร สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    50
    ค่าพลัง:
    +24
    ผมสงสัยจขกท.คนกราบไหว้พระพุทธรูปผิดเหรอครับ??? คนยึดถือเคารพบูชารูปลักษณ์สิ่งที่แทนพระพุทธองค์ผิดหรือ???คุณยึดถือครูบาอาจาร์ยของคุณก็ว่าไป แต่คุณตั้งกระทู้แนวนี้ปฎิเสธวิถีที่คนเค้านับถือมาแต่บรรพกาลมันไม่สร้างความแตกแยกในศาสนาเหรอ???ความเชื่อความเคารพศรัทธาทุกคนไม่เหมือนกัน...คุณก็รู้ดูได้จากกระทู้ของคุณที่ผ่านมาทะเลาะกันตลอด...ขออภัยหากพูดตรงเกินไป...
     
  7. saturday_rainy

    saturday_rainy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2009
    โพสต์:
    335
    ค่าพลัง:
    +957
    เรื่องนี้ต้องดูที่ตัวบุคคลนะครับ คำสอนที่คุณยกมานั้นท่านตรัสในกรณีให้พระวักลิละรูป นั้นเป็นสักกายฐิฐิที่เป็นวิปัสสนา
    แต่เราต้องไม่ปฎิเสธว่าการนำรูปขึ้นมาพิจารณานั้นให้อยู่ในหมวดของสมถะ เป็นการยกนิมิตขึ้นมาเป็นเครื่องหมายเพื่อนำไปสู่การทำให้ใจหยุดใจนิ่ง
    สิ่งที่คุณสอนนั้นผมเข้าใจ แต่ในหลายสำนักเขาไม่สามารถจะทำความเข้าใจในสิ่งที่คุณพูดได้ เพราะตัวคุณเองนั้นก็ยังไม่มีภูมิธรรมมากพอจะไปสอนใครเขาได้
     
  8. jowpoy

    jowpoy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    326
    ค่าพลัง:
    +758
    พระผู้ทรงญาณท่านไม่ให้ยึดติดในรูปปั้น(พระพุทธรูป) แต่มิได้สอนไม่ให้กราบพระพุทธรูป เราไม่ได้กราบที่วัตถุ แต่เรากราบพระพุทธเจ้า เรื่องนี้จะอธิบายไปก็ไม่มีผล เมื่อใจเป็นอคติแล้วจะให้ชักแม่น้ำทั้งห้า หรือให้ผู้รู้ทั้งหลายมาพูด ก็จะไม่ฟัง ถือซะว่าเป็นเรื่องของกรรมของแต่ละคน
     
  9. ดินหอม

    ดินหอม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    195
    ค่าพลัง:
    +185
    คนไทย คนจีน พ่อแม่ปู่ย่าตายายที่ตนนับถือ ถึงแม้ท่านเหล่านั้นจะเสียชีวิต
    เราก็นำรูปภาพ ป้ายชื่อ ขึ้นที่สูง เมื่อระลึกนึกถึงก็กราบไหว้บูชา
    ส่งจิตผูกพันกตัญญูกตเวที

    เสมือนพวกท่านยังมีชีวิต หรือระลึกถึงครูบาอาจารย์ ที่ตนเลี่ยมใสศัทธา
    เช่นองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็สามารถหารูปภาพเสมือน

    หรือรูปปั้นจากช่างฝีมือเอก นำมากราบไหว้ระลึกถึงธรรม
    ที่มาจากพระพุทธองค์ สิ่งต่างๆเหล่านี้ ได้นอบน้อมจิตใจกราบไหว้ ลดอีโก้ตัวตนลง
    ลดความอหังกาในจิตตน

    ให้รู้สึกเป็นเพียงผู้ต่ำต้อย เล็กน้อยในโลกา ย่อมมีสติน้อบนอม เข้าใจในทางถูกต้อง
    รู้สัมมาคาระวะ ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกหรือเลวร้ายอะไร ดีกว่าหัวแข็งอวดทะนงตน

    อิสลาม ถึงไม่มีรูปปั้นหรือภาพพระเจ้า แต่พวกเขาก็สร้างพระเจ้าขึ้นในใจ
    คุกเข่าคำนับก้มศีรษะ เคารพพระเจ้าในใจตนศีรษะสัมผัสพื้นแผ่นดิน

    คริตสในอดีตก็ต้องคุกเข่า เคารพนอบน้อม แต่หลังๆกลัวเข่าด้านเลยให้นั่งอธิฐาน
    แต่จิตใจก็ยังเคารพพระเจ้า ในอุดมคติของตน

    สรุปว่า ผู้ที่มีเวลากระทำการเคารพสักการะพระเจ้า พระพุทธเจ้า ปู่ย่าตายาย
    พ่อแม่ ครูอาจารย์ จะสร้างภาพในใจ(นามธรรม)ไม่มีภาพหรือรูปปั้น
    หรือมีภาพมีรูปปั้น(รูปธรรม)ย่อมมีจุดหมายเดียวกัน

    จะเป็นนามธรรมหรือรูปธรรม หรือวิธีเคารพแบบไหนๆ
    ไม่ใช่เครื่องชี้ถูกผิด เลวดี ของบุคคล

    จิตใจ การกระทำ วิธีคิดและปฏิบัติต่อผู้อื่น ที่อยู่ร่วมกันในสังคม
    นั้นคือตัวชี้บอก ความดีหรือเลว

    ส่วนผู้ที่หลงใหล เชื่อในไสย์ศาสตร์เวทย์มนต์คาถา ก็เป็นเรื่องส่วนบุคคล
    เพราะมนุษย์เราก็เป็นพวกบ้าห้าร้อยจำพวก หลงใหลอะไรเป็นพักๆ
    เบื่อๆอยากๆ อย่าไปถือสาอะไรกันเลย..หนักสมองเปล่าๆ.
     
  10. สุทัสสี

    สุทัสสี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กันยายน 2010
    โพสต์:
    76
    ค่าพลัง:
    +439
    สำหรับผม พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้าปฏิบัติดีแล้ว /พระอรหันต์ผู้เข้าสู่กระแสพระนิพพาน/ พระสุปฏิปันโน ท่านก็กราบพระพุทธรูป แล้วผมซึ่งยังมากด้วยอวิชชา ตัญหา อุปทาน ยังเป็นผู้เวียนว่ายในวัฏฏะ ผมยังต้องการรูปพระพุทธรูปเป็นสื่อพุทธานุสติ ผมก็คงต้องกราบพระพุทธรูปต่อไป กราบต้นโพธิ์พระพุทธเจ้าด้วย กราบเจดีย์ด้วย อ่อนจังเลยผม จะมีคนว่างมงายมั้ย
     
  11. Sonaz

    Sonaz เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    762
    ค่าพลัง:
    +348
    ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน...

    บุญเท่านั้น จะรักษาเรา...

    กราบ1.พระพุทธเจ้า กราบ2.พระธรรมเจ้า กราบ3.พระสังฆเจ้า

    สาธุๆ
     
  12. ลมหายใจสุดท้าย

    ลมหายใจสุดท้าย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    419
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,137
    อย่าเถียงกันเลยท่านผู้เจริญทั้งหลาย สิ่งที่กล่าวมาข้างต้นนั้น ไม่มีใครผิดไม่มีใครถูกทั้งหมดครับ เพียงแต่ว่าการเข้าถึงธรรมนั้นมีหลายระดับตามสภาวะจิตแต่ละบุคคล บุคคลใดถึงจุดไหนก็มองแค่จุดนั้น ส่วนคนที่มีภูมิธรรมสูงกว่าก็จะมองข้ามไปอีกขั้น อุปมาเช่น มีคอนโดมิเนียมหลังหนึ่งสูง 6 ชั้นมีดาดฟ้า ตั้งใกล้ทางยกระดับ หากเปรียบตัวเราพักอยู่ในนั้น
    ขั้นที่ 1 มองเห็นเตอหม้อเสา
    ชั้นที่ 2 สูงมาหน่อยเห็นเห็นตอหม้อและเสา
    ชั้นที่ 3 เห็นเสากลางต้น ตอหม้อ
    ชั้นที่ 4 เห็นคาน เห็นปลายเสา
    ชั้นที่ 5 เห็นถนนและเห็นข้างรถวิ่ง
    ชั้นที่ 6 เห็นรถวิ่งไปอย่างชัดเจน
    ดาดฟ้า เห็นรถวิ่งและเห็นทางด่วน
    ขึ้นอยู่ว่าเรามองในมุมไหนครับ แต่ที่แน่ ๆ ผมขอน้อมจิตกราบพระพุทธ พระธรรม พระอริยะสงฆ์ ด้วยกาย วาจา ใจ ครับ
     
  13. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,489
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    ท่านเพชรพญาธรอย่าเอาคำพูดของท่านมาใส่คำพูดของผม ผมพูดเมื่อไรว่าคนกราบไหว้พระพุทธรูปผิด ผมแสดงความเห็นไว้โพสต์ # 11 แล้ว ท่านเพชรพญาธรไม่คิดจะอ่านก่อนแสดงความคิดเห็นหรือครับ
     
  14. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,489
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    ผมเข้าใจเจตนาท่านลมหายใจสุดท้าย แต่คำสอนของพระพุทธเจ้าเป็นจริงตลอดกาล พระพุทธเจ้าทรงตรัสสอนว่า

    "พระพุทธรูปเป็นรูปที่น่าเกลียดซึ่งชนพาลชอบเล่า ก็บัณฑิตใดเห็นสัทธรรม บัณฑิตนั้นชื่อว่าเห็นเรา ผู้ไม่เห็นสัทธรรม ถึงจะเห็นเราก็ชื่อว่าไม่เห็น"

    ใครคิดว่าพระพุทธเจ้าสอนผิดก็ไม่ต้องบอกว่าเลื่อมใสและศรัทธาในพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์สาวกของพระพุทธเจ้า
     
  15. COME&Z

    COME&Z เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,144
    ค่าพลัง:
    +234

    อันนี้มันก็จริงของท่านนะ สำหรับเด็กๆเบ่บี๋หน่ะ^-^
     
  16. COME&Z

    COME&Z เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,144
    ค่าพลัง:
    +234
    กราบได้ไม่ได้ห้ามกราบ แต่ไม่อยากให้ยึดติด ยึดติดแล้วก็เป็นการค้า เฮ้อ.... พระพุทธรูปสมัยนี้ราคาถูกซะที่ไหนหล่ะ โน่นนี่นั่น เยอะแยะมากมาย เอาพระมาอยู่ในจิตในใจ ก็จบ
    แต่ก็เข้าใจสำหรับบางคนมันก็ยากเกิน
     
  17. ดาวบุ๋น5

    ดาวบุ๋น5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    605
    ค่าพลัง:
    +375
    สุดยอดวรยุทธ์ ต้องลืมกระบวนท่าที่เคยฝึกให้หมดก่อน ถึงจะเข้าขั้นไร้กระบวนท่าพลิกแผลงตามใจชอบ

    การระลึกถึงพระ ไหว้พระก็คือการที่สอนให้เราต้องมีกระบวนท่าก่อน เมื่อมีแล้วจำ ทำซ้ำๆจนคล่องและหาความรู้ กระบวนท่าอื่นๆมาเพิ่ม จนถึงระดับหนึ่งจะเข้าถึงการไร้กระบวนท่าที่ตายตัวที่เคยฝึก ถึงจะเข้าขั้นสุดยอดวรยุทธ์ หรือการไม่ยึดติดรูปลักษณ์ของรูปองค์นั้นเอง

    ทุกอย่างต้องเป็นขั้นตอนไป อยู่ๆจะให้เข้าขั้นสุดยอดโดยไม่มีการฝึกฝนกระบวนท่าต่างๆ ก่อน ข้ามขั้นตอนฝึกไปจะธาตุไฟเข้าแทรก หรือจิตเพี้ยนไปก็เป็นได้ครับ

    -และการฝึกพื้นฐานก็เป็นสิ่งสำคัญ คนที่จะฝึกวรยุทธ์สุดยอดได้ ถ้าไม่มีพื้นฐานที่แน่น ใฝ่หาธรรมต่างให้มาก มีกระบวนท่าที่หลากหลายมาก่อน ฝึกใจกำลังภายในให้เข้มแข็งแน่นจริงด้วยสมาธิ ปัญญา ภาวนาจะฝึกวิชาสุดยอดวรยุทธ์ เข้าถึงธรรมขั้นสูงได้ยังไง ฉันใดก็ฉันนั้น ...อย่าข้ามขั้นตอน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กุมภาพันธ์ 2012
  18. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,489
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๕ อังคุตตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต หน้าที่ ๒๗๒/๓๗๙

    ปุณณิยสูตร
    [๑๘๘] ครั้งนั้นแล ท่านพระปุณณิยะเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคยังที่ประทับ ถวายบังคม
    แล้วนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้วได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ
    อะไรหนอ เป็นเหตุเป็นปัจจัย ที่บางครั้งพระธรรมเทศนาแจ่มแจ้ง กะพระตถาคต บางครั้งไม่
    แจ่มแจ้ง ฯ
    พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรปุณณิยะ ภิกษุเป็นผู้มีศรัทธา แต่ไม่เข้าไปหาเพียงใด
    ธรรมเทศนาของตถาคตย่อมไม่แจ่มแจ้งเพียงนั้น แต่เมื่อใด ภิกษุเป็นผู้มีศรัทธาและเข้าไปหา
    เมื่อนั้นธรรมเทศนาของตถาคตย่อมแจ่มแจ้งดูกรปุณณิยะ ภิกษุผู้มีศรัทธาและเข้าไปหา แต่ไม่
    เข้าไปนั่งใกล้เพียงใด ธรรมเทศนาของตถาคตย่อมไม่แจ่มแจ้งเพียงนั้น แต่เมื่อใด ภิกษุเป็นผู้มี
    ศรัทธา ...และเข้าไปนั่งใกล้ เมื่อนั้น ธรรมเทศนาของตถาคตย่อมแจ่มแจ้ง ดูกรปุณณิยะภิกษุเป็น
    ผู้มีศรัทธา ... และเข้าไปนั่งใกล้ แต่ไม่สอบถามเพียงใด ธรรมเทศนาของตถาคตย่อมไม่แจ่มแจ้ง
    เพียงนั้น แต่เมื่อใด ภิกษุเป็นผู้มีศรัทธา ... และสอบถาม เมื่อนั้น ธรรมเทศนาของตถาคตย่อม
    แจ่มแจ้ง ดูกรปุณณิยะ ภิกษุเป็นผู้มีศรัทธา ... และสอบถาม แต่ไม่เงี่ยโสตลงสดับธรรมเพียงใด
    ธรรมเทศนาของตถาคตย่อมไม่แจ่มแจ้งเพียงนั้น แต่เมื่อใด ภิกษุเป็นผู้มีศรัทธา ... และเงี่ยโสตลง
    สดับธรรม แต่ฟังธรรมแล้วไม่ทรงจำไว้เพียงใด ธรรมเทศนาของตถาคตย่อมไม่แจ่มแจ้งเพียงนั้น
    แต่เมื่อใด ภิกษุเป็นผู้มีศรัทธา ... และฟังแล้วทรงจำไว้ เมื่อนั้น ธรรมเทศนาของตถาคตย่อม
    แจ่มแจ้ง ดูกรปุณณิยะ ภิกษุเป็นผู้มีศรัทธา ... และฟังแล้วทรงจำไว้ แต่ไม่พิจารณาเนื้อความแห่ง
    ธรรมที่ทรงจำไว้เพียงใด ธรรมเทศนาของตถาคตย่อมไม่แจ่มแจ้งเพียงนั้น แต่เมื่อใด ภิกษุเป็น
    ผู้มีศรัทธา ... และพิจารณาเนื้อความแห่งธรรมที่ทรงจำไว้ เมื่อนั้น ธรรมเทศนาของตถาคตย่อม
    แจ่มแจ้ง ดูกรปุณณิยะ ภิกษุเป็นผู้มีศรัทธา ... และพิจารณาเนื้อความแห่งธรรมที่ทรงจำไว้ แต่
    ไม่รู้อรรถรู้ธรรมแล้วปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรมเพียงใด ธรรมเทศนาของตถาคตย่อมไม่แจ่มแจ้ง
    เพียงนั้น แต่เมื่อใด ภิกษุเป็นผู้มีศรัทธา ... และรู้อรรถรู้ธรรมแล้วปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม
    เมื่อนั้น ธรรมเทศนาของตถาคตย่อมแจ่มแจ้ง ดูกรปุณณิยะ ธรรมเทศนาของตถาคตผู้มีปฏิญาณ
    โดยส่วนเดียว อันประกอบด้วยธรรมเหล่านี้แล ย่อมแจ่มแจ้ง ฯ

    ----
    พระพุทธเจ้าทรงตรัสสอนพระธรรมเทศนา พระพุทธเจ้าไม่มีสอนให้กราบไหว้รูปหล่อ รูปปั้น ก่อนเข้าไปฟังพระธรรมเทศนา ผู้จะฟังธรรมต้องเป็นผู้มีศรัทธา ต้องเข้าไปหา เข้าไปนั่งใก้ล สอบถามธรรม ฟังธรรม จดจำธรรมนั้นไว้ พิจารณาเนื้อความธรรมที่จดจำไว้ ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม ย่อมรู้แจ้งในธรรมนั้น
     
  19. ลมสุริยะ

    ลมสุริยะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    371
    ค่าพลัง:
    +215
    ตัวท่านทำได้ดังที่ว่าโดยบริสุทธิ์ ก็นับว่าประเสริฐยิ่งครับที่เข้าถึงพระรัตนตรัยอย่างลึกซึ้ง

    แต่ที่มาตั้งกระทู้แบบนี้เจตนาแท้จริงเพื่ออะไรครับ??
     
  20. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,489
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    โพสต์ #1 ครับ
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...