ทางรอดให้เลือกเมื่อ ภัยพิบัติ มา

หากท่านมีทางเลือก 2 ทางในยามภัยพิบัติ ท่านจะทำอย่างไร


1. ท่านต้องตายไปกับคนบาป และ สัตว์เดรัชฉาน ต่างๆ ก่อนตายจะทำอย่างไร
(รอดคนเดียวคือฝึกมาดีอาจไปนิพพาน)


2. ท่านจะรอดอยู่ต่อไป แล้วท่านจะทำอย่างไรต่อเมื่อรอดตาย
(รอดเยอะฝึกมาดี แต่..จะใช้ความรู้ที่มีทำอะไรต่อ)

 

ถ้าเป็นหนึ่งในผู้รอดชีวิต เริ่มต้นใหม่ โดยการพึ่งพาตัวเอง ทำอย่างไรไม่ต้องใช้เงินแต่ต้องอยู่รอดได้ โดยอาศัย ธรรมชาติเป็นต้นทุน อันนี้เป็นจุดเริ่มต้น เริ่มจากศูนย์ครับ เป็นการบ้านครับ

และไม่มีคำตอบที่ถูกต้องครับ เพราะต่างคนต่างความคิดที่แตกต่างกันไปครับ

สำหรับผมมีคำตอบในใจอยู่แล้วครับ

 

เกษตรทฤษฏีใหม่

อยู่แบบพอเพียง

เดินสายกลาง

มุ่งปฏิบัติเพื่อความหลุดพ้น

 

ข้อ 2 ค่ะ

พ่อหลวงของชาวไทย ได้เตรียมการปูทางไว้ให้ชาวไทยไว้เรียบร้อยแล้วใน

"ทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียง"
ทุกอย่างมีคำตอบอยู่ในทฤษฎีนี้เรียบร้อยแล้วค่ะ คนที่รู้จักพอเพียงส่วนมากก็จะเป็นผู้มีจิตใจดี
รักธรรมชาติ เข้าใจธรรมชาติ และสามารถปรับตัวเข้ากับธรรมชาติได้ ปราศจากกิเลสค่ะ

 

เอาทั้ง 2 ทางได้มั๊ย แบบ ทาทา" อยากเก็บเอาเธอไว้ ทั้งสอง..คน"

 

ขอให้อย่าเป็นเหมือนเฮติเลยนะค่ะ

http://www.oknation.net/blog/naichumpol/2010/01/30/entry-1

 

เห็นภาพเลยค่ะ รักพ่อหลวงของเราที่สุดในโลก

 

ล้วนแต่มีเหตุผลที่ดีกันนะครับ

 

จุ๊..จุ๊..อย่าเอ็ดไปนะ เรื่องภัยพิบัติใหญ่ที่เขาว่าอาจจะเกิดขึ้นในอนาคตอันไกล้นี้ บอกตามตรง ทุกวันนี้ผมก็แค่เออ ออห่อหมกไปกับเขาเล่นๆแค่นั้นแหละ ในใจลึกๆผมไม่เชื่อหรอกว่ามันจะเกิดขึ้นจริงๆ แต่ภัยย่อยๆเกิดเป็นแห่งๆก็เชื่ออยู่ แต่อย่างประเทศไทยจะเหลือประชากรเพียง 20-30 เปอร์เซ็นต์ หรือทั่วโลกเหลือ 10 เปอร์เซ็นต์ อะไรทำนองนี้มันยากที่จะเชื่อจริงๆนะ

 

จริงๆถ้ามันเป็นอย่างที่นายว่ามันก็ดี เพราะชีวิตผมค่อนข้างจะดีอยู่

แต่ในเมื่อพิจารณาถึงความไม่เที่ยงมันก็จริงแท้แน่นอน

แต่ก็ไม่ได้หนักใจ พร้อมที่จะนับ1ใหม่เสมอ ทุกสิื่งมันไม่เที่ยง อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ^^

 

ข้อไหนก็ได้ครับแล้วแต่กรรมจัดสรร ทำปัจจุบันให้ดี อดีตคือสิ่งที่ผ่านมาแล้ว อนาคตก็คดไปคดมาไม่แน่นอน

 

ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป

 

ภัยธรรมชาติที่ผ่านมาก็งั้งๆ แต่ภัยที่น่ากลัวที่สุดคือภัยมนุษย์ด้วยกันเองนี่เหล่ะ โดยเฉพาะประเภทที่ชอบกุเรื่องต่างๆนาๆเป็นตุเป็นตะด้วยความคึกคะนอง เอาความสะใจ หรือหวังผลประโยชน์เรี่ยไรต้มตุ๋นหลอกลวงอยู่เบื้องหลัง....ทางรอดสำหรับสิ่งเหล่านี้ก็คือจงรับข้อมูลข่าวสารอย่างมีสติ วิเคราะห์ด้วยเหตุและผลอย่างระมัดระวัง รอบคอบและรอบด้าน เช็คบทพิสูจน์ อย่าหลงเชื่ออะไรง่ายๆ มิเช่นนั้นอาจจะตกเป็นเยื่อแล้วมานึกเสียดายได้ ภายหลัง ยุดนี้ข่าวสารอะไรก็ไว ใครสร้างเรื่องโกหกไวได้ดีและเนียนพอ ไม่น้อยนะที่จะมีคนหลงเชื่อและตกหลุมพลางโดยไม่รู้ตัว....น่ากลัวมาก

 

ถูกต้องครับ ภัยจากมนุษย์นั้นมากมายหลายเล่ห์เหลี่ยมมากกว่าธรรมชาติหลายเท่า ขอให้เรามีใจเป็นวิทยาศาสตร์เข้าไว้ แต่ก็ไม่ดูแคลนคำทำนายต่างๆ เพียงแต่ว่าก่อนที่จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเรามีการเตรียมการหรือตั้งข้อสมมุติเพื่อเป็นแนวทางในการปฎิบัติเมื่อเหตุเกิดตามคำทำนาย ก็จะทำให้เราไม่พลาดหรือพลาดน้อยที่สุด(ถ้าไม่ซวยเกินไป) ไม่ใช่เพื่อตัวเองคนเดียว แต่เพื่อคนที่เรารักด้วย...ผมเชื่อว่า ปัจจัย สิ่งแวดล้อม โอกาส พื้นฐาน ของแต่ละท่านไม่เหมือนกัน ความคิดความเห็นก็แตกต่างกันไป ถ้าคิดในแง่บวก คำโกหกหรือคำลวงถ้าเกิดขึ้นจริงมากน้อยในโอกาสใด เมื่อเราซ้อมหรือเตรียมการตามคำบอกเล่ามาก่อนก็จะทำให้เรา"รอด" ก็เป็นผลดีกับตัวเราเองและหมู่คณะ สุดท้าย "สติ" ทำให้เกิดการพิจารณาวิเคราะห์แนวทางในการปฎิบัติ ไม่งั้นเราจะเป็น"เหยื่อ"
จากใจครับ อ่านไม่รู้เรื่องก็ขออภัยด้วย