แนะนำเครื่องรางของขลังแห่งแดนล้านนา

อย่างแรก คือ "อุติ่ง"หรือ"อุเต่งนะ" เครื่องรางด้านเมตตาค้าขาย ของทางไทใหญ่เค้าครับ ตัวนี้แกะจากเขาวัวตายฟ้าผ่า ด้านล่างมีจารสวยๆครับ เจ้าของเดิมเก็บตกทอดมา 2 รุ่นแล้วครับ
อานุภาพตามตำราโบราณจารย์ท่านกล่าวไว้ดังนี้

1.เมื่อพกติดตัวไว้จะไปไหนมาไหนจะเป็นที่รักใคร่เมตตาเอ็นดูแก่คนทั้งหลายที่พบปะพูดคุยกับเรา

2.พรหมเทพเทวดาจะเมตตาคอยตามช่วยเหลือเมื่อเรามีเรื่องทุกข์ร้อนกายใจ ช่วยขจัดอุปสรรคต่างๆในเรื่องหน้าที่การงาน

3.ช่วยคุ้มครองป้องกันภัยอันตรายต่างๆเมื่อเดินทางทั้งใกล้ไกลและมักได้ลาภผลเงินทองกลับมาด้วยเสมอ

4.ถ้าประกอบกิจการร้านค้าให้อาราธนาอุติ่งแช่อธิษฐานทำเป็นน้ำมนต์โชคลาภประพรมสินค้าของที่จะขาย ทำให้ลูกค้ามาอุดหนุนซื้อง่ายขายคล่อง

5.ถ้ามีเรื่องต้องการติดต่อพบปะเรื่องธุรกิจการงานกับผู้หลักผู้ใหญ่ อยากให้เจ้านายรักเมตตาเอ็นดูและขอความช่วยเหลืออำนวยความสะดวกเรา ให้นำอุติ่งลงแช่ในน้ำส้มป่อย7ฝักแล้วอาบน้ำนั้นก่อนเดินทางไป แล้วให้พกอุติ่งติดตัวไปด้วยจักสำเร็จสมความปารถนาทุกประการ

6.ควรขึ้นหิ้งบูชาไว้ในบ้านเรือนแล้วหมั่นสวดบูชาด้วยพระคาถานี้ จะทำให้เจริญงอกงามด้วยทรัพย์สมบัติ มิอดอยากยากจน มีกินมีใช้ไปตลอด เสาะแสวงหาทรัพย์สินเงินทองได้โดยง่าย ลาภสักการะไหลมาเทมามิขาด มีชีวิตความเป็นอยู่สุขสบายเสมอ

วิธีอาราธนา.......ว่าคาถา

“โอมตินนะ ตินนะ หัตติ หัตติ สัตตั๋ง จี๊นัง จิ๊นัง กับสะหย่ากับ โอม สวา หุม หุ” (๙ จบ

 

อย่างที่2 คือ "แมงภู่คำ" หากเปรียบแล้วก็จะมีคุณเหมือนเบี้ยแก้ครับเพราะด้านในตัวอุดปรอทเมื่อเขย่าจะดังกุกๆ ตัวนี้ได้มาจากเมืองเชียงตุง โน่นหละครับแล้วนำมาลงรักใหม่เอง และสั่งอาจารย์ทางโน้นไว้ 3 ปีแล้วครับ กะว่าปีนี้จะไปเอาไม่รู้ว่าได้กี่ตัว หากได้มาอาจจะนำมาบอกบุญกัน เพื่อช่วยสร้างถนนครับ
แมลงภู่ มหาเสน่ห์ เมตตา ค้าขาย แมลงภู่ หรือ ที่คนเหนือล้านนา และ ชาวไทยใหญ่ เรียกกันว่า แมงบู๊ นั้นเป็นเครื่องรางที่มีถิ่นกำเนิดจากพม่า ไทยใหญ่ และ เข้ามาทางล้านนา เป็นเครื่องรางที่ตั้งแต่กษัตริย์พม่า ถึง สามัญชน มีติดตัวแทบทุกคน ปู่ครูสร้าง บันทึกไว้ดังนี้ 1.เด่นทางเมตตามหานิยมคนรักคนหลง
2.อยู่ดีมีโชค ซื้อง่ายขายคล่อง
3.ป้องกันภยันตรายทั้งปวง
4.ดับอวิชาการทำร้ายด้วยคุณไสย ใช้เหมือนเบี้ยแก้
5.กันโจรภัยได้
6.ปกป้องคุ้มครองภัยที่จะถูกกระทำต่อเด็กเล็ก
7.เดินทางใกล้ไกล กันภูตผีและคนร้าย เป็นที่รัก ของมนุษย์และเทวดา

 

ขอบคุณมากครับพี่เพชรฉลูกัน งามมากครับแต่ละชิ้นพึ่งเคยเห็นครั้งแรกเลย ชื่อแปลกดี

 

ชิ้นสุดท้าย คือ "วัวธนู" ครับส่วนมากจะเห็นทำจากครั่งบ้างดินบ้าง แต่ตัวนี้แกะจากเขาควายตายฟ้าผ่าครับ ซึ่งค่อนข้างจะหายากเลยทีเดียว

 

ขอขอบคุณ ข้อมูลดีๆๆๆๆ

 

อีกหนึ่งเครื่องรางด้านเมตตามหาเสน่ห์ของทางล้านนาครับ<!-- google_ad_section_end --> เมตตามหาเสน่ห์โดยตรง....แถมด้วยแก้คัดของใครที่ว่าแน่ๆเจอพ่องั่งแม่เป๋อ ของล้านนาเป็นจอดเหนียวก็เปื่อย(เค้าว่าสืบมากันอย่างนั้นครับ) ที่อยู่เค้าอยู่ในตู้เสื้อผ้าครับเก็บจนลืมไปแล้ว555นึกได้จึงของัดมาถ่ายรูปให้ได้ชมกัน เพื่อเผยแพร่ให้คนทั่วไปได้รู้จักเครื่องรางดีๆของทางล้านนาประเทศครับผม
<FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>

</FIELDSET>

 

อีกหนึ่งเครื่องรางที่มีเฉพาะภาคเหนือเท่านั้น เท่าที่เห็นมาครับ นั่นก็คือวัวธนูสานด้วยไม้ไผ่ พาดทาง ซึ่งเป็นวัวธนูตำราหนึ่งที่คนโบราณมักจะทำไว้รักษาตัวยามต้องอกป่าเข้าดง สานด้วยตอกไม้ไผ่สองเส้น แต่เมื่อตัดกลางตัว จะได้ตอก 9 เส้น และเมื่อตัดตอกแล้วต้องเผาหรือฝังดินทำลายเพราะเชื่อว่าหากใครถูกตอกที่สานวัวะนูแล้วปักหรือบาดแผลจะไม่หาย บางตำราให้สานข้างหลังเมื่อสานเรียบร้อยแล้วปล่อยให้ตก ถ้าวัวยืนถือว่าใช้ได้...อีกตำราของล้านนาที่เริ่มสูญหายหาคนทำได้ไม่มากนักครับ

 

เข้ามาติดตามครับ เรื่องราวดีๆ ที่ควรรู้

 

อีกหนึ่งสุดยอดเรื่องเมตตามหาเสน่ห์แห่งแดนล้านนา ไม่เอ่ยถึงคงไม่ได้เพราะคือหนึ่งในสุดยอดเครื่องรางของล้านนา คือ "อิ่น"ตัวนี้แกะจากไม้มะยมตายพรายชุบรัก ครูบาต๋าวัดอุโบสถบ้านเหล่า สันป่าตองปลุกเสก ตัวนี้เจ้าของเดิมได้มาตั้งแต่สมัยครูบาไม่ดังแล้วหละครับ ได้มาพร้อมคาถาอิ่น(บอกไม่ได้ครับ55)เมตตา มหาเสน่ห์ยอดเยี่ยม และเมตตาค้าขายก็ไม่น้อยหน้าเครื่องรางประเภทอื่นๆครับ

 

อิ่น รักกันจนวันตาย ความลับของอิ่นเปิดเผยที่นี่

นายกฤษณะ แก้วพรหม รวบรวมและเรียบเรียง 19 พย.2550 เวลา 02.09 น.​

ที่มา และ จุดประสงค์

หากพูดถึงเครื่องรางสายล้านนาโดยเฉพาะเรื่องเสน่ห์แล้ว ก็ต้องยกหน้าที่ให้ อิ่น เพราะเป็นที่นิยมเสาะเเสวงหามาครอบครองกันทุกครัวเรือน ด้วยคุณวิเศษของอิ่นนั้นเกินจะบรรยายได้ แต่ที่แน่ ๆ เรื่องเสน่ห์เมตตามหานิยมนั้นเยี่ยมยอด ด้วยลักษณะทางรูปแบบและเอกลักษณ์ของอิ่นจึงเป็นที่สนใจพิเศษโดยเฉพาะชายหาญล้านนาทั้งหลายที่ชอบเสาะแสวงหาอิ่นมาใว้กับตัว อิ่นมีรูปแบบลักษณะเป็นรูปหญิงชายยืน หรือ นั่ง กอดกันโดยหันหน้าชนกัน ยกตัวอย่างคาถาอิ่น (กอดคอแยงอ้อมแอ้ม จูปปากแก้มจ๋านจ๋า ) มีตำนานของอิ่นมากมายหลายแห่งต่างกันไปตามภูมิภาค แต่เดิมนั้นไม่มีไครทราบได้ว่าอิ่นนั้นมีต้นกำเนิดมาจากไหน บางท่านว่ามาจากธิเบตและรับความเชื่อเรื่องศักติว่าหญิงชายเสพสมกันจะทำให้เกิดสิ่งมีชีวิต การมีชายหญิงร่วมกัน เป็นตัวแทนของการเกิด การงอกงาม และ ความสมดุล (หยิน หยาง) และเชื่อสืบต่อกันเข้ามาทางพม่า บางท่านว่าเป็นการสร้างเพื่อระลึกถึงหญิงชายคู่แรกของโลกมนุษย์ ตากะสัง ยายสังกะสี (หากข้อมูลตรงนี้ผิดพลาดประการใดขอผู้รู้แนะนำและชี้แนะด้วย) บางท่านว่าเป็นเทพบนสวรรค์ที่ไม่ยอมห่างกัน ไม่ยอมแยกจากกัน มีตำนานของอิ่นมากมาย คนล้านนาเชื่อว่าการที่ได้มีอิ่นไว้บูชาจะทำให้มีคนเมตตารักไคร่ มีไว้กับบ้านเรือน จะทำให้คนในบ้านหลังนั้นครอบครัวนั้นรักไคร่กันหากมีไว้บูชากับตัวเราก็จะทำให้มีเสน่ห์ อุดมสมบูรณ์ไปด้วยโชคลาภ ข้าวของเงินทองไหลมาเทมา อิ่นจึงเป็นที่นิยมตั้งแต่ในอดีตมาจนถึงปัจจุบัน ตอนนี้อิ่นยังได้รับความนิยมอย่างไม่เสื่อมคลาย แต่ทุกวันนี้ เรื่องราวของอิ่นยังมีผู้รู้อยู่น้อยนักไม่ว่า เรื่องน้ำมันอิ่น การสร้างอิ่น คาถาอิ่น การใช้อิ่น ข้อมูลเรื่องอิ่นนี้เป็นข้อมูลทางงานวิจัยที่ผมทำอยู่จึงถือโอกาสนำผลงานวิจัยนี้มาลงไว้ให้ศีกษาและเข้าใจ ในเรื่องราวของอิ่นมากขึ้น

สิ่งที่นำมาสร้างอิ่น

ไม้ เช่น ไม้มะยม ไม้รัก ไม้คูณ ไม้มะรุม ไม้งิ้วดำ

กาฝากไม้มงคลต่าง ๆ

โลหะ เงิน ทอง นาก สำริด

ดิน เจ็ดป่าช้า เจ็ดท่า เจ็ดกลางใจเมือง

ผงยา มวลสารต่าง ๆ

อัญมณี

ขนาดของอิ่น

อิ่นมีหลายขนาดซึ่งก็อยู่กับความต้องการใช้ประโยชน์ของเจ้าของอิ่น ถ้าจะทำไว้บรรจุตลับนวดก็ทำไว้ขนาดเล็กประมาณข้อนิ้วก้อย ส่วนใหญ่จะนิยมแกะอิ่นให้มีขนาดเล็กนิยมแช่น้ำมัน และแช่นวดไว้ อิ่นขนาดใหญ่นิยมมีไว้บูชาตามบ้าน ร้านค้า เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย

ทำไมอิ่นต้องแช่ในน้ำมัน

อม อิ่นเหย อิ่นจันแดง อิ่นแก้ว อิ่นแสง กรูจักเอาน้ำมันอิ่นทา ลูบหน้า……..คาถาอิ่นทางล้านนาหลายบทจะหนีไม่พ้นคำที่กล่าวถึงน้ำมันเพราะอิ่นนั้นต้องคู่กับน้ำมันมาแต่โบราณ อิ่นกับน้ำมันจึงขาดกันไม่ได้ การใช้อิ่นที่ถูกต้องนั้นคือใช้น้ำมันที่แช่อิ่นมาทาตัวเรา ถึงจะให้เกิดผลดีทางเสน่ห์เมตตามหานิยม แต่หากจะมีพกไว้ติดตัวธรรมดาก็ย่อมได้ แต่หากเป็นอิ่นสายล้านนาจริง ๆ จะใช้แช่น้ำมันเท่านั้น และจะใช้แต่น้ำมันแตะตัวออกบ้านก็เสมือนพกอิ่นไปด้วยเช่นกันเวลาแตะน้ำมันทาก็ต้องท่องคาถาอิ่นไปด้วย

 

อิ่นเงิน อิ่นทอง อิ่นแก้ว อิ่นแสงคืออะไร เป็นอิ่นอย่างเดียวกันหรือไม่​

มีหลายท่านไม่เข้าใจคำนี้ หากได้ท่องคาถาอิ่น จริง ๆ แล้วคำว่า เงิน ทอง แก้ว แสง คือคำที่ใช้ท่องเพื่อยกยออิ่นให้อิ่นมีพลังมากขึ้นเป็นคำเรียกไห้อิ่นมีค่ามากขึ้น เช่น คำล้านนาคำหนึ่งที่กล่าวว่า ยินดีแล้ว แขกแก้วมาเยือน ,มิตรแก้ว สหายคำ นั่นก็คือคำเรียกให้ผู้ที่มาเยือนรู้สึกยินดี รู้สึกถึงความเป็นมิตร ยกย่องแขก และมิตรให้มีค่าดังทองคำ ดังแก้วมณี ซึ่งเป็นนิสัยโอบอ้อมอารี ยกย่องผู้มาเยือน ถือว่าต้องให้ความสำคัญ และต้องดูแลเอาใจใส่ มาต้อนรับขับสู้อย่างดี เรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่าภูมิใจของคนล้านนา ปัจจุบันนี้แม้แต่พนักงานขายที่หลายคนไม่อยากต้อนรับ แต่คนล้านนาหากมีพนักงานขายมาขายของ คนล้านนาส่วนมากในชนบทชอบเอาใจใส่หาน้ำหาท่ามาให้ทานบางหลังเชิญรับประทานอาหารด้วย นี้แสดงถึงความมีน้ำใจของคนล้านนานั่นเอง นิสัยที่คนล้านนาเกี่ยวกับเรื่องการปฏิบัติต่อเครื่องรางของขลังคือหากได้อะไรมาจะไม่ละเลยสิ่งเหล่านั้น จะยกย่องและให้ความสำคัญต่อสิ่งที่ได้มาปีใหม่เมืองก็จะนำน้ำขมิ้นส้มป่อยมาพรม ถ้าที่บ้านมีพิธีสืบชาตาก็จะเอาห่อใส่ผ้าขาวผ้าแดงมาห้อยไว้ที่โขงสืบชาตาด้วยเพื่อเพิ่มความขลังแก่เครื่องรางของขลัง ดังนั้นของขลังล้านนาจึงขลังและเป็นตำนานมากมาย เพราะการให้ความสำคัญและความเชื่อมั่นศรัทธาในสิ่งเหล่านั้นนั่นเอง หากจะสรุปแล้วอิ่นคำ อิ่นแก้ว อิ่นแสงก็คือ อิ่นตัวเดียวกัน เพราะถึงมีอิ่นที่แกะจากไม้ครูอาจารย์ท่านก็ใช้บทอิ่นแก้ว อิ่นแสง อิ่นเงิน อินคำ นั่นแหล่ะเสก โบราณท่านผูกขึ้นมาเพื่อยกยออิ่นให้มีค่านั่นเอง

คุณวิเศษของอิ่น

ใช้ทางเสน่ห์เมตตามหานิยม ได้พันช่อง (สารพัดทางเสน่ห์)

ใช้บูชาเพื่อให้คนในบ้านรักกัน

ใช้ทางโชคลาภ เงินทอง ค้าขาย ฮิมาก๊าขึ้น รอมข้าวของเงินทองดี ชุ่มเย็น
<!--IBF.ATTACHMENT_120167-->

 

http://palungjit.org/threads/%E0%B8%84%E0%B8%B2%E0%B8%96%E0%B8%B2-%E0%B8%AD%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B9%89%E0%B8%A7.154750/

 

แมลงภู่คำสวยมากครับ..อยากมีบ้างจัง

 

วัวธนูสายเหนืออีกหนึ่งสำนักที่เลื่องชื่อมาช้านาน กับวัวธนู(งัวธนู)ตัวจ้อยของครูบานันตา วัดทุ่งม่านใต้ เมืองรถม้า ลำปางครับผม....แบบนี้ไม่ค่อยได้เห็นบ่อยที่มาครบชุดกับลูกสะกดก่าสะท้อน หัวท้ายแบบนี้ครับ ตัววัวธนูปั้นมือมีสอดตะกรุดตรงกลางตัวเพื่อร้อยเชือกแดงครับ ป้องกันและสะท้อนของไม่ดีที่จะมาถูกตัวเราครับ

 

ตัวนี้สวยบาดใจจริงๆๆๆเลยครับพี่เพชรฉลูกัณ ดูแล้วท่าจะดุเอาเรื่องตัวนี้

 

อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ เพชรฉลูกัน
อย่างที่2 คือ "แมงภู่คำ" หากเปรียบแล้วก็จะมีคุณเหมือนเบี้ยแก้ครับเพราะด้านในตัวอุดปรอทเมื่อเขย่าจะดังกุกๆ ตัวนี้ได้มาจากเมืองเชียงตุง โน่นหละครับแล้วนำมาลงรักใหม่เอง และสั่งอาจารย์ทางโน้นไว้ 3 ปีแล้วครับ กะว่าปีนี้จะไปเอาไม่รู้ว่าได้กี่ตัว หากได้มาอาจจะนำมาบอกบุญกัน เพื่อช่วยสร้างถนนครับ
แมลงภู่ มหาเสน่ห์ เมตตา ค้าขาย แมลงภู่ หรือ ที่คนเหนือล้านนา และ ชาวไทยใหญ่ เรียกกันว่า แมงบู๊ นั้นเป็นเครื่องรางที่มีถิ่นกำเนิดจากพม่า ไทยใหญ่ และ เข้ามาทางล้านนา เป็นเครื่องรางที่ตั้งแต่กษัตริย์พม่า ถึง สามัญชน มีติดตัวแทบทุกคน ปู่ครูสร้าง บันทึกไว้ดังนี้ 1.เด่นทางเมตตามหานิยมคนรักคนหลง
2.อยู่ดีมีโชค ซื้อง่ายขายคล่อง
3.ป้องกันภยันตรายทั้งปวง
4.ดับอวิชาการทำร้ายด้วยคุณไสย ใช้เหมือนเบี้ยแก้
5.กันโจรภัยได้
6.ปกป้องคุ้มครองภัยที่จะถูกกระทำต่อเด็กเล็ก
7.เดินทางใกล้ไกล กันภูตผีและคนร้าย เป็นที่รัก ของมนุษย์และเทวดา
</TD></TR></TBODY></TABLE>
สุดยอดวิชาสายโภคทรัพย์และมหาเสน่ห์ ที่แม้แต่พระเจ้าบุเรงนองกะยอดินนรธา ตะละพะเนียเธอเจาะ ยังเชื่อถือเป็นเครื่องรางคู่บารมีประจำพระองค์ จนประกาศชัยชนะเป็นพระเจ้าสิบทิศ ซึ่งวิชานี้เป็นสุดยอดวิชาสายบรมครูสย่าโป๊ะโป๊ะอ่อง ที่ท่านทำไว้ถวายให้พระเจ้าบุเรงนอง...พญาแมงภู่คำนั้น ตามคติสายม่านและสายไตนั้นถือว่า " เป็นแมลงที่ประเสริฐกว่าแมลงมีปีกทั้งปวงในโลกนี้ " เนื่องจากได้รับแสงรัศมีฉัพพรรณรังสีอันเป็นทิพย์ ด้วยพุทธบารมีของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั่นเอง...

http://www.khalong.com/board2/thread-9420.1/page-1
<!-- google_ad_section_end -->

 

พญาเขาคำ อย่างนี้ ใช่ทางเหนือไหมครับ

 

ถึงว่าผมชอบแต่สาวเหนือ ของเค้าดีแบบนี้นี่เอง

 

อุติ่ง จริงๆแล้ว เอาคติมาจาก พระเจ้าอุเทนเลี้ยงช้างครับ คือท่านจะมีมนต์สะกดทั้งคนทั้งสัตว์มีรูปโฉมงดงาม ท่านจะนั่งดีดพินอยู่บนหลังช้างครับ